Masukหลังจากที่ทุกคนร้องเพลงบนเวทีครบแล้ว พิธีกรของงานขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง
"เอาละครับผลคะแนน ผมคิดว่ากรรมการทั้งห้าคนมีคะแนนรวมของแต่ละคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว" สตาฟเดินเอาคะแนนมาให้ ซึ่งผลคะแนนกำลังจะขึ้นบนจอใหญ่ของงาน
"เอาละครับ ผลคะแนนอยู่ในมือผมเรียบร้อยแล้ว ขอเชิญน้อง ๆ ขึ้นมายืนด้านหน้าข้าง ๆ ผมเลยครับ " เสียงพิธีกรเรียกน้อง ๆ มายืนให้คนเห็นข้างหน้า
นักร้องเข้าประกวดทั้งหมดพากันตื่นเต้น รวมถึงมาคินด้วย เขาได้เพื่อนใหม่จากเวทีนี้ คือ อดุลย์ หรือ ดุล เขาเองร้องเพลงเพราะโทนเสียงต่างจากมาคิน
"ผมจะเริ่มประกาศ รางวัลจากลำดับที่สาม ก่อนนะครับ เขามีคะแนนรวมกันแล้ว 428 คะแนน น้องเจมส์ ครับ" พิธีกรเรียกชื่อคนได้รางวัล เขาเดินออกมารับรางวัล
"ขอเชิญ ประธานจัดงานขึ้นมอบรางวัลให้น้องๆ ด้วยครับ" มีแผ่นป้าย รวมถึงเงินรางวัล ที่มอบให้
"เอาละครับรางวัลที่สอง ได้แก่" เสียงดนตรีที่ทุ้มอยู่ ทำเอานักร้องหันมองกันไปมา
"รางวัลนักร้องชาย Sing Contest Awards อันดับรองชนะเลิศได้แก่ น้ำพุ ปารมี ครับ มีคะแนน 442 คะแนน" น้ำพุเดินยกมือไหว้ออกมาเกินความคาดหมายตนเอง
"ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ" เสียงของคุณของน้ำพุ ดังระรัวไม่ขาดสาย ด้วยความดีใจ เดินมารับรางวัลจากเจ้าของค่าย G.Media
"เอาละครับ เหลืออีกสามท่านกับรางวัล Sing Contest Awards สาขานักร้องชายยอดเยี่ยม นอกจากจะได้รับถ้วยรางวัล เงินสด ยังมีโอกาสเข้าร่วมทำงานกับทางค่าย G.Media อีกด้วย " เสียงพิธีกรเอ่ยถึงรางวัลครั้งนี้
" ไม่ว่าใครจะได้ ยินดีด้วยนะครับ " ทั้งสามคนที่ยืนใกล้ ๆ กันมาคินเลย จับมือของทั้งสองคนไว้แนบแน่น
"รางวัล Sing Contest Awards ปี 2024 ได้แก่ อาร์ต พิสิฐ คะแนนรวม 498 คะแนน " อาร์ตเองสะบัดมือหลุดออกจากมาคิน ด้วยรอยยิ้มที่ดูชนะ ทำเอาเพื่อนอีกคนไม่ค่อยชอบในท่าทางของอาร์ต มาคินที่ยิ้มออกมาแต่แววตาดูผิดหวัง เสียงกองเชียร์ที่เชียร์อาร์ตที่ร้องกรี๊ดกร้าดเสียงดัง
"ผมขอบคุณคณะกรรมการทุก ๆ ท่านนะครับ ขอบคุณครอบครัวพ่อแม่ที่ผลักดันผมมาในวงการ " อาร์ตที่กำลังกล่าวขอบคุณ แต่เสียงพิธีกรแทรกขึ้นมา
"เดี๋ยว ๆ ครับ รางวัลชนะเลิศปีนี้ มีด้วยกันสองคนครับ" เสียงพิธีกรที่ประกาศเรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง
"มีพลิกเว้ย ..." เอินนี่ หันมาทางเจเจ ที่ต่างก็ดีใจกระโดดตีมือกันไปมา
" ผู้ชนะอีกหนึ่งคน ได้แก่ ......" เสียงพิธีกรเอ่ยอีก พร้อมเสียงดนตรี มาคินกับนิคที่ยืนจับมือกันจนเห็นกล้ามแขนจนเส้นเลือดขึ้น
" น้องคิน มาคิน เป็นเลิศ คะแนนรวม 498 คะแนนเท่ากันกับ น้องอาร์ต" เมื่อสิ้นเสียงพิธีกร มาคินเองที่คิดว่าตนเองหูฝาด เลยยืนที่เดิม ร้อยดาวเงยหน้าขึ้นไปมอง มาคินอีกครั้ง จนเธอลืมตัวเผลอยิ้มออกมา
ป้ายรางวัลที่ถูกถือพร้อมกันทั้งสองคน คนละข้างอาร์ตที่ตอนแรก แสดงท่าทางดีใจ พอมีการแบ่งรางวัล แววตาความรังเกียจก็มีมาแทนที่แต่ก็ต้องทนเก็บอาการของตนเองเอาไว้ภายในใจ และหันมายิ้มต่อหน้ากล้อง มาคินเองที่ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก
"เชิญน้องคินกล่าวอะไรสักเล็กน้อย" พิธีกรพูดขึ้นมาอีกครั้ง คินเลยขอไมค์อีกตัวจากพิธีกร เพื่อกล่าวขอบคุณ
" ผมดีใจมาก ๆ ครับพี่ ขอบคุณมาก ๆ ขอบคุณกรรมการทุก ๆ คน " เสียงมาคินเอ่ยคำขอบคุณอย่างจริงใจ มาคินเอ่ยปากขอบคุณเงยหน้ามองผู้คน และมองไปยังผู้ชมที่นั่งเชียร์ จนสายตามองผ่านร้อยดาวไป ด้านข้างเห็นเพื่อน ๆ ทั้งสองคนยืนโบกไม้โบกมือมาทางตนเอง มาคินเองก็โบกมือให้เพื่อน
คณะกรรมการทุกคนขึ้นมาบนเวทีรวมไปถึงพี่โปเต้ พี่อู๋ โปรดิวเซอร์ชื่อดังทั้งสองคน ร่วมถ่ายภาพกับน้อง ๆ นักร้อง พี่โปเต้เดินมาชื่นชมกับมาคิน
"น้ำเสียงของน้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พี่ชอบนะ " เสียงพี่โปเต้กล่าวชื่นชมน้อง เอามือมาตบลงบนบ่าน้องเบาๆ
"ขอบคุณครับพี่ ผมชื่นชอบผลงานของพี่มาก ๆ เลยครับ เคยคิดว่าอยากมีโปรดิวเซอร์เก่ง ๆ แบบพี่โปเต้ครับ"มาคินพูดออกมาจากข้างในจริง ๆ
"เว่อร์ไป เรามีโอกาสคงได้มาทำเพลงร่วมกัน" โปเต้บอกน้องอีกครั้งก่อนที่การถ่ายภาพจะดำเนินไป
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม มาคินก็เดินออกมาด้านหน้ามาเจอกับเพื่อนทั้งสองคนของตนเอง ด้วยความดีใจของเพื่อนทั้งสามคนที่กอดคอกันไปไหนมาไหนด้วยกัน จนวันนี้เพื่อนรักในกลุ่มประสบความสำเร็จ แต่อุปสรรคของเพื่อนรักยังคงอยู่
"แกชนะรางวัลในวันนี้ นักข่าวเต็มงานเลยมีหวังคนที่บ้านแกต้องรู้แน่ไอ้คิน" เจเจค่อนข้างกังวล บ้านมาคินค่อนข้างระเบียบ
"เออน่ะ วันนี้เพื่อนเราก็ชนะ อีกอย่างได้เป็นนักร้องเต็มตัว คงไม่มีอะไรหรอก" เอินนี่ที่ยังไม่ค่อยเจอพ่อของมาคินเหมือนเจเจสักเท่าไหร่
"อย่าเพิ่งพูดเป็นลางกันสิวะ เพิ่งจะได้ถ้วยรางวัลมาเสียด้วย " มาคินพูดกับเพื่อนทั้งสองคน แต่ยังกลัว ๆ คนที่บ้านเช่นกัน
มาคินและเพื่อน ๆ ที่พากันเดินออกมาจากกองประกวด พอดีกับที่ ร้อยดาวเดินเข้ามาเพื่อจะไปหาพี่โปเต้ เธอเองไม่ทันได้มองใครเลยด้วยซ้ำ เธอเองก็รีบร้อนจะไปหาพี่โปเต้ เลยเดินชนเข้ามามาคินอย่างแรง
"โอ๊ย ๆ ขอโทษนะคะฉันไม่ได้ดู"
"โอ๊ย เธอเดินยังไงหะเนี่ยะ ทำไมไม่มองอะไรเลย" มาคินโวยวายแต่ก็คว้ามือเธอเอาไว้
"ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ขอตัวก่อนนะคะ ฉันรีบจริง ๆ " ร้อยดาวกล่าวขอโทษพร้อมยกมือไหว้ขอโทษเขาอีกครีชั้ง กระเป๋าที่ร่วงพื้นเธอหยิบขึ้นมา แล้วรีบเดินออกไป มาคินมองตามเธอไปอีกครั้ง และจดจำท่าทางหน้าตาของเธอ มาคินเองก้าวเดินแต่เหมือนรู้สึกว่ามีสิ่งของเกะกะตอนเดิน เขาจึงหยุดเดินและสนใจสิ่งที่อยู่บนพื้นขึ้นมาจึงก้มลงไปเก็บสมุดเล่มหนึ่งขึ้นมา แล้วเขาพยายามมองหาร้อยดาว แต่ก็ไม่เห็นใครแล้ว เขาจึงเก็บเอาไว้ที่ตนเองก่อน
"ไปเหอะคิน กลับบ้านกัน " เจเจเรียกเพื่อนอีกครั้ง
ตอนที่เดินออกมา โปเต้ที่กำลังจะเดินออกมาที่รถที่มีคนขับรออยู่ เขาเห็นเด็กสามคนกำลังจะกลับ โปเต้เลยชวนน้อง ๆ ทั้งสามคนกลับด้วยกัน
"อ้าวจะกลับแล้วหรอ ไปทางไหนหละ" พี่โปเต้ถามน้องๆ มือแตะลงบนบ่ามาคิน มาคินและเพื่อน ๆ หันมายกมือไหว้แก
"ครับพี่ พวกผมกำลังจะกลับ บ้านผมอยู่แถวรามคำแหงครับ" มาคินบอกพี่โปเต้ เพราะตนเองเอารถมาแต่จอดเอาไว้ฝั่งนู้น ต้องข้ามไปเอา
"พวกเรากำลังจะข้ามไปเอารถนะคะ ตอนมาทางนี้ที่จอดเต็มค่ะ" เอินนี่ใช้เสียงสองบอกพี่โปเต้ จนเจเจหมั่นไส้จะยกเท้าถีบเพื่อนสาว
"เฮ้ย อย่านะมึง" เสียงชายของเอินนี่ที่ร้องห้ามเพื่อนพร้อมชี้นิ้วมาทางเจเจ จนพี่โปเต้หันมามองยิ้ม ๆ หยิบยื่นนามบัตรของตนเอง ให้มาคิน
"พรุ่งนี้เข้ามาหาพี่ที่ค่ายเพลง หรือถ้านายพร้อมวันไหนก็โทรมาหาพี่ พี่อยากปั้นเราให้เป็นนักร้องคุณภาพอีกสักคนในวงการ" พี่โปเต้ยื่นนามบัตรให้มาคิน ซึ่งเขาเองนึกว่าตัวเองหูฝาด เอินนี่ยื่นมารับนามบัตรจากพี่โปเต้เอง เพราะเพื่อนน่าจะลอยไปในอากาศเรียบร้อย
ร้อยดาวเองที่ตะโกนเรียกชื่อพี่โปเต้ มาแต่ไกล นี่เป็นเสียงเสียงนึงที่ทำให้มาคินสตั้นไปสามวิเช่นกันเธอรีบวิ่งมา จนมาถึงจับข้อมือของพี่โปเต้เอาไว้ พร้อมกับเสียงหอบหายใจที่ต้องรีบวิ่งมา
"โอ๊ย หนูหาพี่ทั่วงานพี่ลืมนัดหนูหรอว่าหนูต้องส่งงานเพลงให้พี่ " ร้อยดาวพอหายใจได้ก็ขึ้นเสียงใส่พี่โปเต้ แบบสนิทสนมกัน
"เด็กคนนี้ทำฉันขายหน้าอีกแล้ว มาเหวี่ยงอะไรพี่อีกหะ ก็บอกแล้วถ้าไม่เจอมาหาฉันพรุ่งนี้ ยัยน้องคนนี้เขกกะโหลกสักที" โปเต้เอามือมาเขกหัวร้อยดาว
"พี่โปเต้บอกว่าจะรับงานเพลงของหนูไง" ร้อยดาวที่ยังดึงมือพี่แกหยิก หยิก แบบนั้น มาคินและเพื่อนแอบมองเธอไปกับท่าทางเอาแต่ใจเด็กสาวคนนี้ที่พี่โปเต้ยังต้องยอม
"เอามาสิ ไหนหละ เอามาเร็ว ๆ ฉันต้องไปอัดเพลง ให้ น้อง สนุ๊กเกอร์ อีก" พี่โปเต้ยื่นมือมาขอสมุดเขียนเพลงของเธอ เพราะเขาต้องเอากลับไป
ร้อยดาวจึงรีบปล่อยมือของพี่โปเต้ทันที กระเป๋าสะพายของเธอที่ถูกเปิดออก เธอรีบควานหาสมุดเพลงของเธอ แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่มี
"ไวไวสิร้อยดาวพี่รีบนะ" โปเต้บอกน้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดเพราะเธอจะทำให้เขาช้า มาคินเห็นเธอลนลานหาสมุดเล่มที่ตนเองเก็บเอาไว้
"หายไปไหนนะ หนูเอาไว้ในนี้ มันหายไปไหน" ร้อยดาวลุกลี้ลุกลน นึกขึ้นได้
"ถ้างั้นพรุ่งนี้หนูจะเอาไปให้นะคะ" ร้อยดาวหันมาบอกเขาด้วยท่าทางรีบร้อน วิ่งกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง มาคินกำลังจะยื่นสมุดเล่มนั้นคืนเธอแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอวิ่งเข้าไปภายในงานอีกครั้ง
"ซุ่มซ่ามตลอดเลยยายเด็กคนนี้ พี่ไปก่อนนะ ยังไงพร้อมตอนไหนโทรหาพี่ก่อน แล้วเรานัดกันที่ห้องทำเพลง อย่าปล่อยโอกาสดี ๆ ให้มันหลุดมือไปนะ น้องชาย" โปเต้บ่นร้อยดาว ยังไม่ลืมเรื่องของมาคิน เขามองว่านายคนนี้ถ้าพยายามอีกนิดอนาคตไกลแน่นอน
ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ
ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร
AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื
เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ







