Masukหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น
“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ
“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน
“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิม
ในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที
“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆ
เจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น
“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร้อยดาวตีแขนเบา ๆ
มาคินนั่งลงข้างร้อยดาว สองคนช่วยกันป้อนขนมให้เจ้ามะยมกับก้อนทอง ร้อยดาวเอนหัวซบไหล่แฟนหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
“ขอบคุณนะ ทั้งพ่อแม่ ทั้งมะยม ก้อนทองด้วย” เธอพึมพำเบา ๆ เสียงอบอุ่นจนแม่ ๆ ที่นั่งอยู่ข้างหลังได้ยินยังแอบยิ้มตาม
เสียงพูดคุยเบา ๆ ปนหัวเราะ มือที่ลูบหัวหมา มือที่กุมกันแน่นของครอบครัว ทุกคนเหมือนเก็บ พลังใจ ก้อนใหญ่ไว้ตรงนี้ ก่อนจะออกไปเจอไฟเวทีจริงที่รออยู่ข้างนอก
“ไปลุยกันเถอะบ้านเราจะเดินไปด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ” มาคินพูดสั้น ๆ แต่พอให้ทุกคนยิ้มทั้งน้ำตา
มื้อฉลองที่บ้านสวนครอบครัวเดียวกัน
เสียงจักจั่นยามค่ำคืนประสานกับไฟประดับหลอดเล็ก ๆ รอบซุ้มไม้ไผ่ บ้านสวนของมาคินสว่างไสวด้วยเสียงหัวเราะ
โต๊ะไม้ตัวยาวกลางสนามถูกวางจานกับข้าวพื้นบ้านเรียงราย ต้มยำไก่บ้าน ลาบปลา ข้าวเหนียวร้อน ๆ
แม่ร้อยดาวเดินหิ้วปิ่นโตมาเติมข้าว ส่วนพ่อกับแม่มาคินกำลังจัดจานย่างหมูให้เด็ก ๆ
---
มาคินยืนปิ้งหมูเสียบไม้ข้างเตาถ่าน ร้อยดาวเดินมาช่วยพัดไฟให้ถ่านแดง เจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองนอนหงายพุงอยู่ข้างใต้โต๊ะ บางทีก็วิ่งไล่กันรอบขาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์ที่นั่งเฝ้าหม้อสุกี้
“ร้อนมั้ยคะ” ร้อยดาวยื่นผ้าเย็นเช็ดเหงื่อให้มาคิน มาคินยิ้มกว้างก่อนจะเช็ดให้เธอกลับ
“เธอร้อนกว่าฉันอีก ยืนพัดไฟอยู่นั่น”
แม่ร้อยดาวเพิ่งหิ้วกระติ๊บข้าวเข้ามาเติมข้าวเหนียว ส่วนแม่มาคินกำลังล้างผัก พ่อมาคินย่างหมูอยู่ข้างเตาถ่าน มาตินน้องชายมาคินเดินไปเดินมา เอาผ้าเช็ดหน้ามาโยนใส่หัวพี่ชายตัวเองเล่น
“เธอร้อนมั้ยคะ ยืนปิ้งหมูตั้งนาน”
“ฉันไม่เท่าไหร่ แต่ดูเธอเหงื่อเต็มหน้าเลย พักเถอะ” มาคินบอกแฟนสาว ร้อยดาวยิ้มบาง พัดไฟให้ถ่านแดงต่อ
“ฉันไม่เหนื่อยหรอก แค่เห็นทุกคนหัวเราะ ฉันก็หายเหนื่อยแล้ว” มาคินส่ายหัวเบา ๆ ยื่นไม้หมูปิ้งให้เธอกัด
“งั้นกินหน่อย เดี๋ยวล้มไปจะไม่คุ้มซ้อมคอนเสิร์ตนะ”
"โอ๊ะ ๆ ป้อนมาไม่ดูเลยมันร้อน " หมูปิ้งโดนริมฝีปากเธอจึงบ่นเบา ๆ รับมาถือกินเองไม่พ้นก้อนทองตะกุยขาเธอ รวมถึงมะยมที่มานั่งน้ำลายหยดได้กลิ่นหมูปิ้ง เมื่อได้กินสองหมาวิ่งไปทางก๊อปเปอร์
ก๊อปเปอร์ยกแก้วน้ำอัดลมขึ้นชนกับอ๊อฟ หมาน้อยสองตัว เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยม วิ่งวนใต้โต๊ะจนต้องเอาข้าวเหนียวให้กินแทน
“พวกเอฟซีฝากขนมมาเพียบเลยนะ น้องจะได้อ้วนไม่ต้องลำบากแล้ว” อ๊อฟเอาขนมมาวางพูดกับก๊อปเปอร์
“ขนมกองนี้ฉันจัดการให้เองก็ได้ ไม่ต้องห่วงดาว” ก๊อปเปอร์แกล้งสองหมาไปด้วยมองขำๆ
“ก๊อปเปอร์ ถ้ากินหมด พรุ่งนี้ดาวขึ้นเวทีต้องยกพี่คินแทนแล้วมั้ง”
“ดีใจนะที่น้องร้อยมีคนอยู่ข้าง ๆ เยอะขนาดนี้” แม่ร้อยดาวยื่นจานตักลาบให้แม่มาคิน ทั้งคู่หันมามองลูก ๆ
“เราเองก็ดีใจเหมือนกันค่ะ ดาวน่ารักแบบนี้ ครอบครัวเราก็รักเหมือนลูกอีกคน” แม่มาคินยิ้มไปด้วย มาตินเดินมาวางมือบนหัวมะยมแบบแหย่ ๆ จนมะยมเห่าใส่
“งั้นขอเรียกพี่สะใภ้ได้เลยมั้ยครับ” ร้อยดาวได้ยินเขินจัด มาคินยื่นมือตีแขนน้องชาย
“อย่าล้อพี่เขาสิ เดี๋ยวเอาหมูย่างตีปากเลย” พ่อมาคินยกแก้วน้ำขึ้น พูดเสียงหนักแน่นกลางโต๊ะ
“ครอบครัวเรายินดีมากนะร้อยดาว ไม่ว่าจะเหนื่อยยังไง พ่อแม่ก็จะเป็นกำลังใจให้เสมอ”
“แล้วพี่น้องทั้งโต๊ะนี่ก็เหมือนกัน เราเหนื่อยด้วยกัน สู้ด้วยกัน ดีใจที่เห็นพวกหนูโตมาขนาดนี้” ทุกคนยกแก้วขึ้น ชนกันเบา ๆ
เสียงหมาน้อยเห่าเหมือนปรบมือ
ร้อยดาวมองมาคิน ดวงตาสั่นนิดหน่อยเพราะซึ้งใจ เธอยื่นมือไปจับมือเขาใต้โต๊ะ
“ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีเธอ ฉันคงไม่กล้ามาถึงตรงนี้” มาคินกำมือเธอแน่น ตอบกลับเบา ๆ
“เธอไม่ได้มาคนเดียวซะหน่อย เธอมีฉัน มีครอบครัว มีทุกคน… เราจะอยู่ข้างเธอเสมอ”
เจ้ามะยมโดดขึ้นมาวางเท้าบนตักร้อยดาว เธอกอดมันไว้แล้วหัวเราะ มาตินกับอ๊อฟโยนกระดูกให้เจ้าก้อนทองแทะอีกมุม เสียงลมพัดเบา ๆ ผ่านสวนไฟดวงเล็กสว่างไหวเหมือนคำสัญญาที่ไม่มีวันดับ
“ต่อให้คอนเสิร์ตใหญ่จะเหนื่อยแค่ไหน ต่อให้ใครจะพยายามพังดาวอีกกี่ครั้ง”
“แต่คืนนี้ เธอรู้แล้วว่าเธอจะไม่มีวันอยู่คนเดียว”
ลมกลางดึกพัดเอากลิ่นดอกไม้ลอยคลอไปทั่วรั้วไม้ไผ่ด้านหลังบ้านสวน เสียงจักจั่นแว่วเบา สลับกับเสียงกรวดใต้เท้าที่ดังกรอบแกรบตามจังหวะก้าวของคนสองคน ร้อยดาวกำชายเสื้อกันหนาวของตัวเองแน่น ขยับให้ใกล้ไหล่กว้างของมาคินที่เดินอยู่ข้างกัน
หลังมื้ออาหารใหญ่จบลง ทั้งครอบครัวก็บอกพร้อมใจกันว่าจะค้างที่นี่ บ้านพักเล็ก ๆ ข้างเรือนใหญ่ถูกเปิดไฟสว่างให้พ่อแม่ได้พักสบาย อ๊อฟกับก๊อปเปอร์ก็แบ่งห้องนอนกัน พร้อมกับหมาน้อยสองตัวที่วิ่งเล่นจนเหนื่อยแล้วหลับปุ๋ย
“อากาศเย็นกว่าที่คิดนะ” ร้อยดาวเอ่ยขึ้นมา เสียงเธอเบาแทบไม่พ้นริมฝีปาก แต่มาคินก็หันมามองทันที เขาเห็นแก้มเธอเริ่มขึ้นสีชมพูเพราะลมหนาว
“อยากกลับเข้าไปห่มผ้าไหม เดี๋ยวฉันเดินไปส่ง”ร้อยดาวส่ายหัวทันที เธอยิ้มบาง ดวงตากระทบไฟสวนแล้ววาวเหมือนหยดน้ำ
“ไม่เอา ฉันอยากเดินเล่นอีกหน่อย อยู่กับเธอแบบนี้ฉันชอบ”
คำว่า “ชอบ” หลุดออกมาแบบไม่ต้องกลัวใครได้ยิน เพราะในสวนมีเพียงพวกเขาสองคน
กิ่งปีบเหนือศีรษะปล่อยดอกสีขาวร่วงลงบนไหล่เธอหนึ่งดอก มาคินยื่นมือมาสะบัดออกให้อย่างเบามือ ก่อนจะยิ้มให้เธอเหมือนกำลังแกล้ง
“อยู่กับฉันแล้วชอบเหรอ" ร้อยดาวขมวดคิ้วนิด ๆ เธอเบือนหน้าหนีแต่โดนเขาคว้าแขนไว้ก่อน นิ้วโป้งของเขาลูบหลังมือเธอเบา ๆ เหมือนกำลังทบทวนความอุ่นที่พวกเขามีกันมาตลอดปีนี้
“ก็ถ้าไม่ชอบ จะเดินวนรอบสวนเป็นสิบรอบเหรอ” มาคินหัวเราะเสียงต่ำ แล้วกระชับมือเธอไว้ในกระเป๋าเสื้อโค้ทตัวเอง
ลมหายใจเขาเป่าผมเธอปลิวเบา ๆ ในขณะที่สองก้าวเท้าช้าลงเรื่อย ๆ จนเสียงจั๊กจั่นข้างทางฟังดูชัดกว่าเดิม
ลานสวนด้านในสุดมีชิงช้าไม้ผูกไว้กับต้นมะม่วงใหญ่
มาคินพาเธอไปนั่งลงบนเบาะเก่า ๆ ที่คลอด้วยกลิ่นฝนและกลิ่นดิน เขายืนอยู่ตรงหน้าก้มตัวลงผูกเชือกรองเท้าให้เธออย่างเงียบ ๆ ร้อยดาวมองปลายผมเขาที่ปรกลงมาใกล้ต้นขาเธอ ใจเธอเต้นแรงจนรู้สึกเหมือนเสียงหัวใจตัวเองดังลั่นในสวน
“เธอไม่ต้องทำให้ฉันขนาดนี้ก็ได้” เสียงเธอเหมือนจะดุ แต่ความอ่อนโยนในดวงตาทำให้มันฟังดูน่าขำมากกว่า มาคินเงยหน้าขึ้น ดึงเชือกให้แน่นแล้วใช้หลังมือแตะปลายรองเท้าเธอเบา ๆ
“ฉันไม่ได้ทำเพราะต้องทำ ฉันอยากทำ เพราะเธอคือร้อยดาวของฉัน”
สายลมเย็นหอบเอากลิ่นดอกไม้ลอยมากับคำหวาน
ร้อยดาวก้มหน้าซ่อนรอยยิ้ม ลมหายใจอุ่นกระทบมือที่เขายังคงกุมเอาไว้แน่นเธอขยับตัวบนชิงช้า รั้งแขนเขาให้นั่งลงข้าง ๆ
สองคนนั่งไหล่ชนกัน ใบไม้แห้งร่วงลงบนตัก
“มาคินถ้าสักวันนึงเราดังมาก ๆ จนมีคนรอบข้างเยอะแยะ เธอจะเบื่อฉันไหม” เขาหันมามองทันที ดวงตาที่เคยเป็นประกายเย้าแหย่เปลี่ยนเป็นสีเข้มจริงจัง มืออุ่นลูบผมเธอที่ปลิวมาแตะหน้าผาก
“ฉันอาจเบื่อ”
“แต่ฉันจะไม่มีวันไปไหน”
เขากระซิบใกล้จนเสียงของเขาสั่นบนปลายหูเธอ
ร้อยดาวหัวเราะทั้งที่น้ำตารื้นน้อย ๆ เพราะความสุขที่อัดแน่นอยู่ในอก
เธอเอนหัวซบไหล่เขา มองไฟสวนที่สว่างเป็นจุด ๆ เหมือนดาวเต็มท้องฟ้า เสียงจักจั่น เสียงลม เสียงหัวใจของทั้งคู่คลอไปพร้อมกัน
“ฉันโชคดีเนอะ ที่ได้เจอเธอ” มาคินกดจูบลงบนหน้าผากเธอแผ่วเบา มือใหญ่ลูบไหล่เธอให้แนบแน่นขึ้น
“ฉันต่างหากที่โชคดี เพราะร้อยดาวคนเดียวคือของฉัน”
ชิงช้าไม้ไหวเบา ๆ ตามแรงลมกลางดึก ทั้งคู่ไม่ต้องพูดคำว่ารักตรง ๆ อีก เพราะทุกอย่างมันชัดเจนกว่าคำไหนในโลก
ในสวนเงียบ ๆ แห่งนี้ สองคนที่เหนื่อยจากเวที เหนื่อยจากแสงแฟลช ได้กอดกันไว้อย่างคนธรรมดา และรู้ว่าวันพรุ่งนี้ พวกเขาจะจับมือกันไว้แบบนี้จนกว่าจะหมดลมหายใจ
ร้อยดาวยังลูบหัวเจ้ามะยมกับเจ้าก้อนทองที่กระโดดไปกระโดดมาบนเบาะหลังอยู่ไม่หยุด มาคินยื่นมือมาเปิดประตูรถฝั่งเธอ ลมหนาวตีเข้ามาทันทีจนเธอต้องห่อตัว ดึงผ้าพันคอคลุมแน่น“หนาว” เสียงเธอสั่น ๆ พอให้มาคินขำในลำคอมือหนายื่นมาโอบไหล่เธอไว้ ก่อนจะหยิบกระเป๋าเล็ก ๆ ของเธอสะพายเองแล้วพาก้าวลงจากรถทันทีที่เท้าเหยียบพื้นดินบนลานจอดบ้านพัก เสียงกรวดกรอบ ๆ ใต้รองเท้าฟังดูสงบกว่าทุกวัน เจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมกระโดดลงมาก่อน วิ่งดมดิน ดมต้นหญ้า หมอกบาง ๆ ลอยผ่านขนหมาจนเปียกเป็นหย่อม ๆบ้านพักไม้สองชั้นทรงเรียบ แต่มีระเบียงกว้างทอดออกไปด้านหลัง มองเห็นเนินเขาลูกแล้วลูกเล่า ปลายไม้ระเบียงมีละอองน้ำเกาะพราวเป็นหยด ยามแสงแดดอ่อน ๆ ของเช้าเริ่มส่องลอดกลุ่มหมอก ก็ดูเหมือนเกล็ดเพชรระยิบระยับ“สวยจนเหมือนฝันเลยนะ” ร้อยดาวพึมพำออกมาเบา ๆ เธอเกาะแขนเขาแน่น มาคินหันมามอง ยิ้มบางอย่างใจดี“ไม่ใช่ฝันหรอก วันนี้ของจริงแล้ว” เขาดันประตูบ้านพักออกไปเบา ๆ กลิ่นไม้สนหอมอ่อน ๆ ลอยออกมาต้อนรับภายในบ้านมีเตาผิงเล็ก ๆ มุมหนึ่ง แต่สองคนไม่สนใจอะไรในบ้านเลย เพราะข้างนอกนั่นกำลังเรียกพวกเขาออกไปหามาคินวางกระเป๋า แล้วจับมือ
ไฟห้องนั่งเล่นเปิดสลัว ๆ มีเพียงเสียงหมาน้อยสองตัวที่วิ่งไล่กันอยู่บนพื้นไม้ เสียงกรงเล็บเล็กกระทบพื้นดังกิ๊ก ๆ สลับกับเสียงเห่าเถียงของเจ้าก้อนทองกับเจ้ามะยมมาคินนั่งพิงโซฟา ยื่นขาถอดรองเท้าออกวางบนพรม ร้อยดาวเพิ่งเดินออกจากครัวพร้อมถ้วยโกโก้อุ่นในมือสองใบ กลิ่นนมสดกับผงโกโก้แท้ลอยคลุ้งไปทั่วบ้าน เธอวางแก้วใบหนึ่งลงตรงหน้ามาคิน แล้วทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ มืออุ่นของเธอเลื่อนมาลูบหัวเจ้าก้อนทองที่กระโดดขึ้นมาตักคืนนี้ไม่มีแสงสปอร์ตไลท์ ไม่มีเสียงแฟนคลับกรี๊ด ไม่มีไฟเวทีพร่างตา มีเพียงลมหายใจของสองคน ที่กำลังจะออกเดินทางไปหาหมอกขาวบนดอยในวันรุ่งเช้า เสียงหรีดหริ่งเรไรข้างบ้านดังลอดหน้าต่าง ครู่หนึ่งร้อยดาวหันมามองคนข้างกาย“นี่ คิดดีแล้วใช่มั้ย จะพาฉันกับหมาสองตัวไปหนาวบนดอยด้วยเนี่ย" มาคินอมยิ้ม หันมาจับแก้มเธอเบา ๆ ปลายนิ้วเย็นนิดหน่อเพราะเพิ่งแตะแก้วโกโก้“คิดดีแล้วครับคุณแฟน เพราะไม่มีเธอ ฉันก็หนาวแย่สิ”ร้อยดาวตีแขนเขาเบา ๆ แต่ก็ยอมเอนหัวซบไหล่เหมือนเด็กขี้อ แสงไฟสีอุ่นในห้องนั่งเล่นตกกระทบเสี้ยวหน้าเธอ ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนเด็กที่กำลังเฝ้ารออะไรสักอย่างด้วยใจเต้นแรงเจ้ามะยมกร
AFTER PARTY ก้าวต่อไปหลังไฟสปอร์ตไลท์ดับค่ำคืนนั้นหลังเวทีใหญ่ปิดฉาก เสียงปรบมือยังแว่วอยู่ในหัว ร้อยดาวกับมาคินเพิ่งเปลี่ยนชุดเป็นชุดสบาย ๆ เดินออกจากห้องแต่งตัวด้วยใบหน้ายังแดงระเรื่อจากไฟบนเวทีในห้องพักหลังคอนเสิร์ต ทีมงานทุกคนรออยู่แล้ว โปเต้เดินถือขนมกล่องใหญ่กับเครื่องดื่มในมือ สงครามยืนพิงกำแพงรอ ส่วนอ๊อฟกับก็อปเปอร์นั่งกอดหมอนบนโซฟายาว สภาพทุกคนดูอ่อนล้าแต่ตากลับเปล่งประกายเหมือนเพิ่งได้รับพลังใหม่บนโต๊ะกลางมีเค้กเล็ก ๆ ปักเทียน “1 Year Anniversary” ที่โปเต้สั่งให้ บรรยากาศไม่มีเสียงกรี๊ด ไม่มีใครถือแท่งไฟ มีแต่เสียงหัวเราะเบา ๆ ของคนที่เป็นเหมือนครอบครัวจริง ๆ โปเต้วางกล่องขนมลงโต๊ะ“เอ้า นี่ของขวัญวันครบรอบหนึ่งปีของเด็กคู่นี้… พี่สั่งมากับมือ ไม่ได้ให้เอฟซีนะ พี่ให้เอง” โปเ้เองพอใจในน้อง ๆ สังกัดตนเองทุกคน“ขอบคุณพี่โปเต้มากครับ พี่นี่แหละคนดันเรามาตลอด”“เฮีย ถ้าไม่มีเฮีย หนูคงไม่มีวันนี้จริง ๆ ค่ะ” ร้อยดาวขอบคุณสงคราม“ถ้าเธอสองคนไม่อดทน ก็คงไม่มีวันนี้เหมือนกัน จำเอาไว้ ทุกเทคที่ซ้อมกันยันเช้า ไม่เสียเปล่าเลย” สงครามพยักหน้านิ่งก็อปเปอร์ลุกมาดึงทั้งคู่มานั่งรวมวงบนพื
เสียงกรี๊ดต้อนรับดังลั่นจนเกือบกลบเสียงพิธีกรบนเวทีในฮอลล์คอนเสิร์ตใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟเวทีสีทองนวล พร็อพดอกไม้หลากสีและแบนเนอร์คู่จิ้น ร้อยดาว × มาคินทุกเก้าอี้ถูกจับจองแน่นขนัด แท่งไฟนับพันกวาดแสงไปมาเป็นคลื่นเหมือนท้องทะเลเรืองแสงเสียงเพลงอินโทรเปิดตัวเริ่มขึ้นพร้อมแสงไฟไล่ไปตามแนวเวที เมื่อเงาสองคนก้าวออกมาจากด้านหลัง ม่านไฟพุ่งขึ้นต้อนรับ เสียงกรี๊ดก็ดังสนั่นราวกับฮอลล์จะสั่นสะเทือนร้อยดาวยืนข้างมาคิน มือเล็กกำไมค์ไว้แน่นเพราะหัวใจเต้นแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา แววตาของเธอวาววับ มองแฟนเพลงกว่าพันชีวิตที่โบกแท่งไฟรออยู่"สวัสดีครับ โอ้โห ผมคิดว่าจะไม่มีคนมาดูพวกเราสองคนเสียอีกครับ" เสียงมาคินทักทายเรียกเสียงกรี๊ดดังสนั่นลั่นฮอลล์“ขอบคุณนะคะ ขอบคุณที่วันนี้ทุกคนมาชาร์จพลังให้พวกเราจริง ๆ ”เสียงเธอสั่นหน่อย ๆ ก่อนจะหัวเราะเบาเมื่อมาคินโอบไหล่ให้กำลังใจข้าง ไฟสปอร์ตไลท์สาดลงบนสองคนที่ยืนเคียงกันเหมือนคู่พระนางในนิทานช่วงกลางคอนเสิร์ต หลังจากเพลงซึ้งจบไปสามสี่เพลงพิธีกรเซอร์ไพรส์ด้วยการเชิญ “แขกรับเชิญพิเศษ” ของสองคนขึ้นมาบนเวทีเสียงกรี๊ดรอบใหม่ดังขึ้นทันที เมื่อเห็นพ่อกับแม่
กำลังใจจากครอบครัวหลังจากนั่งพักได้ไม่นาน เสียงประตูข้างเวทีก็เปิดออกอย่างเบา ๆ แม่ของร้อยดาวเดินนำเข้ามาก่อน ตามด้วยพ่อแม่ของมาคิน ทุกคนยิ้มให้กันด้วยความเก้อเขินปนอบอุ่น“แม่” ร้อยดาวร้องเรียกเสียงเบา ลุกไปกอดแม่ตัวเองแน่น แม่ลูบหัวลูกสาวเบา ๆ เห็นใบหน้าเหนื่อยล้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งใจ“ลูกทำได้ดีแล้วนะ แม่อยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวแล้วนะ” มาคินเดินไปยกมือไหว้พ่อแม่ตัวเอง ก่อนจะหันมายกมือไหว้แม่ร้อยดาวด้วย ร้อยดาวยกมือไหว้พ่อแม่มาคินเช่นกัน“ขอบคุณนะคะ ที่มาดูพวกเราด้วยตัวเอง” ร้อยดาวก้มศีรษะบอกแม่มาคินด้วย รอยยิ้มบนหน้าทุกคนเหมือนเชื่อมกันไว้แน่นกว่าเดิมในอ้อมแขนพ่อของมาคินมี เจ้ามะยม หมาตัวน้อยหูตั้ง ๆ ใส่ผ้าพันคอสีเหลือง ส่วนเจ้าก้อนทองนั่งอยู่บนตักแม่ร้อยดาว ขนฟูจมอยู่ในตะกร้าใส่ของกิน พร้อมเสียงเห่าเมื่อเจอหน้าร้อยดาวทันที“ดูสิ ๆ พาเด็ก ๆ มาด้วย เผื่อจะให้กำลังใจพวกแก” แม่มาคินพูดขำ ๆ แล้วอุ้มเจ้ามะยมเดินวนไปรอบ ๆเจ้าก้อนทองกระโดดออกจากตะกร้า พุงเล็ก ๆ ชะโงกดมถุงขนมบนโต๊ะ ทำเอาอ๊อฟกับก๊อปเปอร์หัวเราะแล้วแหย่มันเล่น“โอ๊ย ก้อนทองนี่กินเก่งเหมือนแม่มันเลย" ก๊อปเปอร์แซวแล้วโดนร
วันแถลงข่าวเปิดตัว 1st Anniversary คู่วงจิ้น Kin&Daoจัดที่โถงใหญ่ของค่าย ศิลปินรุ่นพี่รุ่นน้องยืนออรอให้กำลังใจอยู่รอบนอกมาคินใส่สูทสีเบจ เนี้ยบแต่ดูอบอุ่น ร้อยดาวอยู่ในเดรสยาวลูกไม้สีขาวอมชมพู รวบผมหลวม ๆ ให้ดูน่ารักแต่สง่าสองคนเดินจับมือออกมาหน้าแบ็กดรอปพร้อมกัน ท่ามกลางแฟลชกล้องจากนักข่าวและเสียงกรี๊ดของเอฟซีที่ตามมาตั้งแต่เช้าหลังตอบคำถามเรื่องอัลบั้มใหม่ โปรเจกต์เพลง และเซอร์ไพรส์เวทีใหญ่ ร้อยดาวหันมามองกลุ่มแม่ ๆ เอฟซีที่ยืนรวมกันตรงแถวหน้า เธอจับไมค์แน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงชัดเจน สั่นนิด ๆ เพราะตื้นตัน“ขอบคุณนะคะ ที่รักกันมาตลอดปีที่ผ่านมา ขอบคุณที่อยู่ข้างเราตั้งแต่ตอนที่เรายังไม่มีอะไรเลย จนถึงวันที่มีเวทีเป็นของตัวเองแบบนี้” เธอยกมือไหว้แฟนคลับทุกบ้าน เสียงกล้องยังดังไม่หยุด แต่ทุกคนจะได้ยินถ้อยคำที่ออกจากใจเธอชัดเจน“หนูขออ้อนแม่ ๆ ทุกบ้านเลยนะคะ วันจริงอย่าลืมพากันมาดูพวกเราด้วยนะ มาเจอกันหน้างานอีกครั้ง จะมีที่ว่างตรงนี้ให้แม่ ๆ เสมอค่ะ” เสียงกรี๊ดแทบแตกฮอลล์ มาคินหันมามองแฟนสาวแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ ก่อนหัวเราะออกมา“ถ้าใครไม่ได้มานะ ดาวจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย”หลังจบช่วงตอบ







