Home / โรแมนติก / มัทรีลุ้นรัก / 6.เที่ยวคนเดียวก็ผิด

Share

6.เที่ยวคนเดียวก็ผิด

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-08-17 14:08:35

เนื้อตัวแข็งแกร่งที่ได้สัมผัสมายังติดอยู่ในความรู้สึก แม้อยากสลัดให้หลุดออกไปแต่มันก็ไม่จางหาย

มัทรีใจสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ความเจ็บในใจที่เห็นฐิติกรฉีกแฟ้มต่อหน้ายังมี มือบางกำแน่น ริมฝีปากล่างถูกกัดสะกดอารมณ์ ทำไมเขาต้องทำร้ายจิตใจเธอ มัทรีรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยพอใจที่น้องสาวเขาส่งเธอมาแต่ไม่คิดว่าจะมากจนถึงกับใจร้ายกับเธอแบบนี้

แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ เธอจะไม่ยอมทำตัวอ่อนแอเด็ดขาด

หญิงสาวบอกกับตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ ไม่มีใครดูแลจิตใจและเป็นกำลังใจให้เราได้เท่าตัวเราเอง

ที่สำคัญเธอจะไม่ทุ่มเทให้กับนายจ้าง ไม่เอาความรู้สึกนึกคิดไปเกี่ยวข้องกับงาน ระลึกไว้เสมอว่านายจ้างก็เป็นแค่คนอื่น ไม่ใช่พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ต้องผูกพันใดๆ งานไม่สำเร็จก็คือไม่สำเร็จ ในเมื่อเธอทำเต็มที่แล้ว อดหลับอดนอนพยายามทำแฟ้มงานอย่างดีที่สุด ฐิติกรยังไม่สนใจ ฉะนั้นเธอก็ไม่คิดเซ้าซี้อีก ต่อจากนี้หากชายหนุ่มไม่สั่งมัทรีก็จะไม่เอ่ยเรื่องเที่ยวกับเขาอีก

“ฉันเหนื่อยกับการเป็นลูกจ้างมาพอแล้ว งานส่งไปแล้วไม่ชอบก็เรื่องของเขา ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”

มื้อเย็นนั้นมัทรีออกมาทานอาหารร่วมโต๊ะกับฐิติกรและทุกคนด้วย

สีหน้าท่าทางปกติราวไม่ได้เกิดเรื่องหมางใจระหว่างตนเองกับนายจ้าง จากนั้นวันต่อๆ มาปฏิกิริยาของหญิงสาวก็ยังเหมือนเดิม ทว่าที่เปลี่ยนไปคือเธอหาเวลาออกไปเที่ยวที่ใกล้ๆ ด้วยตัวเอง ขี่จักรยานบ้าง ไปเดินเล่นรอบๆ ในหมู่บ้านที่อยู่ไม่ห่างจากบ้านของฐิติกร ไม่อยู่บ้านหรือเข้าไปวุ่นวายกับชายหนุ่มให้ขัดหูขัดตาสาวสวยต่างชาติ

สามวันกับการได้ออกไปข้างนอกช่วยให้มัทรีผ่อนคลายและอารมณ์ดีขึ้นมาก ธรรมชาติกับวิถีชาวบ้านเรียบง่ายทำให้หญิงสาวคิดถึงบ้านไม่น้อยเลย เธอดื้อไม่ยอมกลับบ้าน ก็เป็นธรรมดาที่ต้องดิ้นรนต่อสู้ด้วยตัวเอง ไม่มีที่ไหนอบอุ่นเท่าอ้อมอกของพ่อแม่หรอก แต่มันเป็นทางที่เธอเลือกแล้ว

“คุณมัทเจ้า นายสั่งเอาไว้ว่าถ้าคุณมัทกลับมาให้ไปพบนายเจ้า”

บัวตองเดินมาหาเธอตอนที่หญิงสาวขี่จักรยานของบัวตองมาจอดเอาไว้ที่เดิม

“แล้วตอนนี้นายของบัวตองอยู่ที่ไหนเหรอจ๊ะ”

“อยู่ที่สระน้ำเจ้า”

“เหรอ”

มัทรีนิ่งคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ย

“งั้นเอาไว้ก่อนดีกว่า”

“แต่นายให้คุณมัทไปพบทันทีที่กลับมานะเจ้า”

อีกฝ่ายสีหน้าไม่ค่อยดีนัก มัทรีมองอย่างสงสัยก่อนจะถาม

“มีอะไรหรือเปล่าบัวตอง”

“นายดู...อารมณ์ไม่ดีน่ะเจ้า”

คนฟังขมวดคิ้ว รู้สึกไม่ชอบมาพากลในทันใด

ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้วเพราะใกล้ค่ำ อากาศก็เริ่มเย็นขึ้นจนมัทรีไม่คิดว่าฐิติกรจะยังอยู่ที่สระน้ำแต่ก็ลองเดินไปดูก่อน

ร่างสูงใหญ่ว่ายกลับไปกลับมาในสระราวไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย มัทรียืนมองผ่านกระจกด้านในครู่หนึ่งอย่างทำใจก่อนจะก้าวออกประตูไปเพื่อเผชิญหน้ากับนายจ้างที่หญิงสาวไม่อยากพูดคุยกับอีกฝ่ายนัก ตั้งแต่วันที่เขาฉีกแฟ้มต่อหน้าเธอ

“เธอมาทำไม”

เสียงหนึ่งทำให้มัทรีต้องหันมองแล้วก็เห็นสาวหุ่นนางแบบนั่งอยู่ที่เก้าอี้ริมสระและกำลังมองเธอตาขวาง อีกฝ่ายอยู่ในชุดทูพีชแต่มีเสื้อคลุมสวมทับ น่าจะขึ้นมาจากน้ำพักหนึ่งแล้วแต่ยังนั่งเฝ้าชายหนุ่มอยู่

“คุณทิมบอกว่าต้องการพบฉัน”

“ทิมเนี่ยนะอยากพบเธอ ฉันไม่เห็นรู้เลย”

“แหม มันก็อาจจะมีเรื่องที่เขาคงไม่อยากให้คุณรู้บ้าง”

มัทรีแกล้งพูดยั่วอีกฝ่ายไปพร้อมยิ้มมุมปากอย่างตั้งใจให้ดูมีเลศนัย และก็ดูเหมือนจะได้ผลเพราะซินดี้ลุกพรวดขึ้นเดินมาหาเธออย่างรวดเร็ว ทว่ามัทรีเองก็เชิดหน้าไม่เกรงกลัว

“ซินดี้”

เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นหลังจากเสียงว่ายน้ำหยุดไปแล้ว ก่อนสาวต่างชาติจะมาถึงตัวเธอ สองสาวหันไปทางชายหนุ่ม เห็นร่างสูงใหญ่เกาะขอบสระอยู่ไม่ห่างนัก

“คุณกลับห้องไปก่อน ผมมีเรื่องจะคุยกับเธอ”

ซินดี้มองชายหนุ่มอย่างคาดไม่ถึงก่อนจะเหลือบมองเธออย่างไม่พอใจแล้วสะบัดหน้าเดินกลับไปหยิบมือถือกับผ้าขนหนูของตนแล้วเดินมาเบียดไหล่มัทรีเข้าประตูบ้านไป

มัทรีไม่ได้มองตามหญิงสาว เธอมองชายหนุ่มที่กำลังเสยผมที่ตกลงมาปรกหน้าของตนแล้วนิ่งไป เข้าใจแล้วว่าทำไมผู้ชายชอบทำท่านี้ มันชวนให้คนเห็นลืมหายใจนี่เอง แม้เวลานี้ดวงตาคู่คมจะมองเธออย่างดุดันก็เถอะ

“คุณมีอะไรจะคุยกับฉันคะ”

หญิงสาวถามออกไปโดยพยายามไม่สนใจอาการใจกระตุกของตน

ฐิติกรยังไม่ตอบ เขายันขอบสระพาร่างสูงใหญ่ของตัวเองขึ้นมาด้านบน ทำเอาคนที่อยู่ๆ ก็เห็นร่างกำยำด้วยมัดกล้ามพร้อมซิกซ์แพ็กกระแทกตาที่มีเพียงกางเกงว่ายน้ำขาสั้นตัวเดียวอย่างกะทันหันถึงกับถอยหลังก้าวหนึ่ง

“คุณกำลังทำอะไร”

เขาถามกลับเมื่อขึ้นมายืนบนขอบสระแล้ว หยดน้ำพร่างพรูลงจากร่างใหญ่กำยำดึงดูดสายตาแปลกๆ แต่มัทรีพยายามมองเพียงใบหน้าหล่อคมสัน อีกอย่างเธอกำลังงงกับคำถามของเขา

“ทำไมมาถามฉันล่ะ คุณต่างหาก มีอะไรถึงเรียกฉันมา”

“ดูเหมือนคุณจะไม่รู้สถานะของตัวเองเลยนะ”

ชายหนุ่มเอ่ยพร้อมกับก้าวมาทางเธอ มัทรีจึงถอยอีกหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวขณะถามซ้ำอีก

“ตกลงคุณจะคุยเรื่องอะไรกันแน่”

ฐิติกรยังก้าวมาหาเธอด้วยสีหน้าท่าทางดุดัน ดวงตาคู่คมที่ปราศจากแว่นดูเข้ม น่าเกรงขามขึ้นกว่าเดิม แต่ด้วยไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอกลัวมัทรีจึงเลือกที่จะเดินวนไปทางขอบสระอีกด้านเหมือนชวนเขาคุย แทนที่จะถอยกลับไปยังประตู

“น้องสาวผมจ้างคุณมาเป็นล่ามให้ผม แล้ววันๆ ที่คุณเอาแต่ออกไปข้างนอก มันหมายความว่ายังไง คุณลืมไปแล้วเหรอว่าคุณมาเป็นลูกจ้างผม ไม่ได้มาเที่ยว”

ร่างบางชะงักอยู่กับที่ ที่แท้เขาก็ไม่พอใจเธอเรื่องนี้นี่เอง

“ฉันก็แค่ออกไปเดินเล่น ขี่จักรยานเล่นข้างนอกบ้าง ในเมื่อคุณไม่ออกไปไหน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องคอยตามเป็นล่ามให้คุณ จะให้นั่งๆ นอนๆ อยู่แต่ในบ้านทั้งที่มาอยู่ในที่ที่ธรรมชาติสวยขนาดนี้ก็น่าเสียดายแย่”

“งั้นคุณก็ไม่คิดว่าตัวเองผิดสินะ”

“แล้วฉันผิดอะไรล่ะคะ เป็นคุณเองที่ไม่อยากไปเที่ยว”

ชายหนุ่มขยับตามเธอมา เหมือนเขาจะไม่พอใจอย่างมากกับสิ่งที่เธอพูดออกไป

“ผมสั่งให้คุณเสนอโปรแกรมเที่ยว แต่คุณไม่ทำ”

“ฉันทำแล้ว และคุณก็ฉีกทิ้งไปแล้ว”

มัทรีเถียงกลับอย่างไม่ยอมแพ้ โดยต่อประโยคท้ายเพียงในใจ

‘ฉีกทิ้งโดยไม่ปรายตาอ่านสักประโยคด้วยซ้ำ’

“คุณโทษผมงั้นเหรอ ผมสั่งให้คุณอ่านให้ฟังคุณก็ไม่อ่าน ไม่ได้มีความกระตือรือร้นที่จะทำหน้าที่ของตัวเองเลยสักนิด พอผมปฏิเสธคุณก็ไม่ใส่ใจงาน กลับออกไปข้างนอกทุกวัน ตกลงน้องผมจ้างคุณมาทำอะไร บอกผมมาดีกว่า”

คนถูกถามขมวดคิ้ว ขณะเดียวกันก็เริ่มถอยหลังเรื่อยๆ เมื่อร่างสูงใหญ่เข้ามาใกล้เธอมากขึ้นด้วยท่าทางคุกคาม

“ก็ฉันบอกไปแล้วว่าคุณไม่ออกไปไหน ฉันจะทำหน้าที่ตัวเองได้ยังไง”

มัทรีกะพริบตากลบเกลื่อนไม่ให้สายตาของตนเองดูล่อกแล่ก ทั้งยังพยายามมองหน้าอีกฝ่าย เพราะเขาสงสัยเธอนี่เองถึงมีทีท่าไม่ไว้ใจและมองเธอด้วยสายตาราวจับผิดเสมอ

“ผมไม่เชื่อว่าคุณจะมาเป็นแค่ล่าม แยมส่งคุณมาทำอะไร”

โดยไม่ทันตั้งตัวมือหนายื่นมาจับข้อมือเธอดึงพร้อมกับถามซ้ำเสียงเข้ม

“คุณคิดมากเกินไปแล้ว”

เธอพยายามดึงมือตัวเองกลับ ทว่าชายหนุ่มกลับกระตุกจนร่างบางเซเข้าไปใกล้เขา ตาคมขุ่นบ่งบอกชัดว่าไม่เชื่อที่เธอพูด มัทรีรู้สึกใจหาย

ใจคว่ำอย่างบอกไม่ถูก สถานการณ์ตอนนี้อิหลักอิเหลื่อเหลือเกิน พออยู่ใกล้อีกฝ่ายจนเกินไปใจเธอก็เต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เสียอย่างนั้น

“ปล่อยฉันก่อนเถอะค่ะ”

“คุณโกหก คิดว่าผมดูไม่ออกอย่างนั้นเหรอ”

“โอ๊ยคุณ บอกว่าไม่ใช่ไง เชื่อกันบ้างสิ”

หญิงสาวพยายามยื้อมือตัวเอง และกลัวที่จะเข้าใกล้ชายหนุ่มจนเกินเหตุ ไม่อยากหัวใจวายเพราะเรือนกายแน่นไปด้วยมัดกล้ามที่มีแค่กางเกงว่ายน้ำตัวเดียว

‘ทำไมต้องดึงเข้าไปใกล้ด้วย’

แม้จะนึกเคืองชายหนุ่มแต่มัทรีก็อดโทษตัวเองไม่ได้ที่ดันเดินมาตามคำบอกของบัวตอง น่าจะรอถามเขาหลังมื้อเย็นดีกว่า

“ยอมสารภาพมาซะดีๆ ไม่อย่างนั้นผมจะส่งคุณกลับ”

“คนที่จ้างฉันคือน้องสาวคุณ ไม่ใช่คุณ”

“แต่ผมมีสิทธิ์เลิกจ้างคุณ”

ฐิติกรสวนกลับ ก่อนจะขู่บังคับอีกครั้ง

“บอกมาว่าแยมให้คุณทำอะไร”

ร่างบางถูกดึงซ้ำอีก หญิงสาวส่ายหน้าปฏิเสธ คำว่า ‘เลิกจ้าง’ ทิ่มแทงความรู้สึกอย่างรุนแรง มือบางข้างที่ไม่ถูกจับวางกุมบนแผ่นอกแน่นเต็มมือตั้งใจจะผลักอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจที่ถูกข่มขู่ ทว่าต้องรีบดันออกด้วยความตกใจกับก้อนเนื้อแข็งแรง แต่เพราะความหนากำยำของร่างสูงใหญ่ทำให้ผู้ที่เสียหลักคือหญิงสาวเอง

เท้าเล็กถอยอย่างไม่เป็นกระบวนโดยไม่ทันคิดว่าด้านหลังตนเองเป็นสระว่ายน้ำ เพียงสองก้าวก็ไม่เหลือพื้นที่ให้เธอได้เหยียบยืนอีกแล้ว

“เหวอ...”

มัทรีอุทานอย่างตกใจ ขณะเดียวกันชายหนุ่มเองก็ยังจับข้อมือเธออยู่ทำให้คนที่กำลังหงายหลังพยายามไขว่คว้าเขาเอาไว้

ฐิติกรไม่ทันตั้งตัว ร่างสูงใหญ่ถลาตามคนที่กระชากเขาเพราะไม่คาดว่าหญิงสาวจะลากตนตามมาด้วย และเพราะน้ำหนักตัวที่เยอะกว่าร่างของเขาจึงโถมเข้าไปหาคนตัวเล็กอย่างรวดเร็ว แขนเรียวสองข้างโอบรอบไหล่กว้างพร้อมกับร่างสองร่างร่วงลงไปในน้ำ

ระหว่างนั้นร่างใหญ่ที่ถูกแรงโน้มถ่วงฉุดชนเข้ากับร่างเล็กกว่า ทว่านอกจากร่างกายเขาจะกระแทกใส่ร่างหญิงสาวแล้ว ปากได้รูปยังปะทะเข้ากับปากอิ่มโดยไม่ได้ตั้งใจอีกด้วย

ดวงตาคู่สวยปิดลงเมื่อร่างลงสู่น้ำแต่รับรู้ได้ถึงสัมผัสจากร่างกายอุ่น รวมถึงปากแกร่งที่แนบชิดชั่วครู่ก่อนจะผละออกเมื่ออยู่ใต้น้ำ หญิงสาวพยายามตะเกียกตะกายเพื่อจะโผขึ้นมาเหนือน้ำ กระทั่งมือบางคว้าไหล่หนาเอาไว้ได้จึงสามารถเกาะรั้งให้ตนเองผวาขึ้นมาได้

“เฮือก...”

มัทรีสูดหายใจเข้าอย่างแรง เท้าที่แตะไม่ถึงพื้นทำให้หญิงสาวใช้

อีกฝ่ายเป็นหลักยึดแม้ว่ายน้ำได้ ทว่าเพราะตกใจจึงรีบหาที่เกาะเอาตัวรอด

คนที่ถูกหญิงสาวกดลงไปด้านล่างยืดตัวขึ้นพ้นน้ำแล้วก็ถูกเกี่ยวคอถ่วงเอาไว้ในทันที ชายหนุ่มไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากพยายามจับเอวบางออกห่างเพราะเขาต้องว่ายน้ำ

“นี่คุณ...ปล่อยผม...”

ฐิติกรพูดอย่างยากลำบากเพราะถูกลากคอรั้งเอาไว้จากคนที่เตี้ยกว่าเขามาก

“ว่ายน้ำไม่เป็นหรือไง”

มัทรีมัวแต่อึ้งตกใจกับเรือนกายแกร่งที่ตนเบียดชิดหลังจากเพิ่งรู้ตัวว่าเธอกับเขาแนบสนิทจนทุกสัดส่วน แทบจะลืมว่าตนว่ายน้ำได้ด้วยซ้ำ

“ฉะ...ฉัน...”

“ทำอะไรกัน”

เสียงของซินดี้ดังแทรกขึ้นก่อนที่มัทรีจะเอ่ยอะไร

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มัทรีลุ้นรัก   6.เที่ยวคนเดียวก็ผิด

    เนื้อตัวแข็งแกร่งที่ได้สัมผัสมายังติดอยู่ในความรู้สึก แม้อยากสลัดให้หลุดออกไปแต่มันก็ไม่จางหายมัทรีใจสูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ความเจ็บในใจที่เห็นฐิติกรฉีกแฟ้มต่อหน้ายังมี มือบางกำแน่น ริมฝีปากล่างถูกกัดสะกดอารมณ์ ทำไมเขาต้องทำร้ายจิตใจเธอ มัทรีรู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายไม่ค่อยพอใจที่น้องสาวเขาส่งเธอมาแต่ไม่คิดว่าจะมากจนถึงกับใจร้ายกับเธอแบบนี้แต่ไม่ว่าอย่างไรก็แล้วแต่ เธอจะไม่ยอมทำตัวอ่อนแอเด็ดขาดหญิงสาวบอกกับตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ ไม่มีใครดูแลจิตใจและเป็นกำลังใจให้เราได้เท่าตัวเราเองที่สำคัญเธอจะไม่ทุ่มเทให้กับนายจ้าง ไม่เอาความรู้สึกนึกคิดไปเกี่ยวข้องกับงาน ระลึกไว้เสมอว่านายจ้างก็เป็นแค่คนอื่น ไม่ใช่พ่อแม่ญาติพี่น้องที่ต้องผูกพันใดๆ งานไม่สำเร็จก็คือไม่สำเร็จ ในเมื่อเธอทำเต็มที่แล้ว อดหลับอดนอนพยายามทำแฟ้มงานอย่างดีที่สุด ฐิติกรยังไม่สนใจ ฉะนั้นเธอก็ไม่คิดเซ้าซี้อีก ต่อจากนี้หากชายหนุ่มไม่สั่งมัทรีก็จะไม่เอ่ยเรื่องเที่ยวกับเขาอีก“ฉันเหนื่อยกับการเป็นลูกจ้างมาพอแล้ว งานส่งไปแล้วไม่ชอบก็เรื่องของเขา ไม่อยากไปก็ไม่ต้องไป”มื้อเย็นนั้นมัทรีออกมาทานอาหารร่วมโต๊ะกับฐิติกรและทุกคนด้วยสีหน้า

  • มัทรีลุ้นรัก   5.รางวัลในความพยายาม (2)

    มือบางยกขึ้นเคาะประตูห้องที่น้ำอิงบอกเอาไว้เบาๆ ภายในห้องเงียบไม่ตอบอะไร เธอจึงเคาะซ้ำพร้อมเอ่ย“คุณทิมคะ ฉันมัทรีนะคะ ฉันจะขอคุยเรื่องทริปเที่ยวน่ะค่ะ”ยังไม่มีเสียงตอบ มัทรีมั่นใจว่าอีกฝ่ายต้องได้ยิน ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเข้ามางีบหลับในห้องสมุดอย่างแน่นอน“ฉันไม่รบกวนคุณนานหรอกค่ะ นะคะ”เธอพยายามทำเสียงให้หวานอย่างที่เคยได้ยินรติยาพูดกับพี่ชายของตน ทว่าข้างในยังเงียบ หญิงสาวกัดปากถอนหายใจ กำลังจะขยับเท้าถอยไปจากตรงนี้เสียงทุ้มก็ดังขึ้นเบาๆ“เชิญ”ร่างบางแทบกระโดดดีใจหากก็ยั้งตัวเองได้ทัน หญิงสาวยิ้มกับตนเองจนพอใจแล้วรีบหุบยิ้มวางสีหน้าให้นิ่งเข้าไว้ก่อนจะเปิดประตูเพื่อก้าวเข้าไปในห้องมัทรีแง้มประตูไว้เล็กน้อย ไม่ได้ปิดลงเพื่อแสดงเจตนาว่าเธอเข้ามาไม่นานแล้วจะออกไป ไม่ต้องการรบกวนเวลาของอีกฝ่ายจริงๆ หญิงสาวกวาดสายตามองไปรอบห้องที่เต็มไปด้วยชั้นหนังสือ แล้วก็พบกับร่างสูงใหญ่นั่งเอนหลังพิงโซฟา พาดขายาวของเขาบนโต๊ะเตี้ยด้านหน้า สายตาจ้องหนังสือในมือของเขาโดยไม่ได้ใส่ใจที่จะหันมามองเธอแม้แต่น้อย‘เอาเถอะ ไม่แปลกใจนักหรอก’หญิงสาวคิดกับตัวเอง รู้ดีว่าฐิติกรไม่ถูกชะตาเธอนัก แม้จะไม่เข้าใจว่า

  • มัทรีลุ้นรัก   5.รางวัลในความพยายาม (1)

    มัทรีเพ่งมองหน้าจอที่แตกร้าวของตนอย่างยากลำบากเพื่อจดสถานที่เที่ยวเอาไว้ในสมุดเล็กๆ ตั้งใจจะคุยกับฐิติกรหลังมื้ออาหารเย็น เธอไม่สนใจแล้วว่าผู้หญิงของเขาจะมองเธอแบบไหน หากอีกฝ่ายเข้าใจว่าเธอเป็นคู่แข่งก็ดี ในเมื่อเปิดศึกมาแล้วคนอย่างมัทรีไม่ยอมให้ใครมาแกล้งฟรีแน่นอนทว่าก็อดถอนหายใจด้วยความเสียดายมือถือเป็นระยะไม่ได้ อยากร้องไห้กับชะตากรรมช่วงนี้สุดๆ แต่ก็บอกตัวเองว่าหากเธอทำงานพิเศษสำเร็จก็มีเงินซ่อมมันแล้ว‘แยมอยากให้พี่ทิมเห็นว่าผู้หญิงคนนั้นไม่จริงใจ’เธอนึกถึงคำพูดของรติยาขึ้นมา‘เขาพยายามจะจับพี่ทิมให้ได้หลังจากได้มาเป็นพยาบาลส่วนตัวของพี่ทิมเมื่อสองเดือนก่อน ตอนไปเยี่ยมแยมเห็นกับตาว่าเขาเข้าไปเสนอตัวให้พี่ทิมถึงในห้องนอน ไม่เกรงใจหรือสนใจเลยว่าแยมก็อยู่บ้านนั้นด้วย ที่สำคัญเพื่อนแยมเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน เขาบอกว่าเธอมีคนที่คบหาอยู่แล้ว’ตอนฟังนั้นมัทรีเต็มไปด้วยความลำบากใจ หากก็พยายามวางสีหน้าให้นิ่งเข้าไว้‘ปกติพี่ทิมไม่เคยให้ผู้หญิงไปไหนมาไหนด้วย แต่ครั้งนี้มีผู้หญิงคนนั้นมาด้วย แยมกลัวว่าเขาจะกลายเป็นคนสำคัญของพี่ทิม เพราะตอนนี้เธอก็ออกจากงานโรงพยาบาลมาดูแลพี่ทิมเต็ม

  • มัทรีลุ้นรัก   4.สร้างความร้าวฉานคืองานของฉัน

    ร่างบางทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงเมื่อสาวเหนือชื่อบัวตองขอตัวไปช่วยป้าเอื้องแม่บ้านใหญ่เตรียมอาหาร หญิงสาวพูดคุยกับอีกฝ่ายนิดหน่อยจึงรู้ชื่อและอายุที่น้อยกว่าเธอหลายปีมัทรีถอนหายใจอย่างหนักใจ เธอคงต้องทำการบ้าน เสิร์ชข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว ลิสต์ออกมาแล้วไล่ดูไล่อ่านคอมเมนต์ว่าคนชอบไปที่ไหน ถูกใจที่ไหนกันบ้างหรือไม่มาคิดอีกทีก็ใส่ที่ที่เธออยากไปแล้วหาคอมเมนต์ดีๆ ใส่ขายของไปดีกว่า หญิงสาวคิดกับตัวเองเสียงข้อความในแอปฟรีดังขึ้นทำให้มัทรีหยิบขึ้นมาเปิดอ่าน‘ว่าไง ชะนีเผือกนั่นเป็นอะไรกับคุณทิม’เป็นข้อความของพิสินี‘แกไม่คิดจะถามหน่อยเหรอ ว่าเพื่อนถึงหรือยัง เดินทางเป็นยังไงเหนื่อยไหม ไรงี้’มัทรีพิมพ์กลับไปยาวเหยียด ไม่ได้โกรธเพื่อนแต่อดกัดไม่ได้ เธอกำลังอยู่ในภาวะจำยอมกับหน้าที่ล่ามบวกไกด์จำเป็น แถมยังมีงานพิเศษที่ถูกฝากฝังมาและยังตัดสินใจไม่ได้ว่าควรทำอย่างไรอีกด้วย‘แหม แกนั่งเครื่องไป ไม่ลำบากลำบนสักหน่อย’ข้อความของเพื่อนทำให้มัทรีถึงกับถอนหายใจ‘ตกลงยังไง บอกมาเร็ว’พิสินียังถามในสิ่งที่ตนสนใจ‘เมียมั้ง’มัทรีพิมพ์ตอบไปอย่างเซ็งๆ ทั้งอยากแกล้งเพื่อนด้วย‘อ้าย! ชะนีน้อย หยาบคายมาก’‘

  • มัทรีลุ้นรัก   3.โรเบิร์ต แพตติสันของพิสินี (2)

    ‘เช็กระดับความสัมพันธ์ชะนีเผือกด้วย’ก่อนขึ้นเครื่องมัทรีได้รับข้อความจากพิสินี หญิงสาวอ่านแล้วก็อดหลุดขำออกมาไม่ได้ รหัสของอีกฝ่ายเป็นภาษาที่ผู้หญิงน้อยคนจะใช้ อาจเป็นเพราะเพื่อนร่วมงานรอบข้างเต็มไปด้วยเก้งกวาง เพื่อนของเธอจึงติดคำมาหลายคำ พิสินียังเคยมาแอบกระซิบกับเธออีกว่าสงสัยคุณพรรษหัวหน้าเลขาของตัวเอง เพราะอีกฝ่ายค่อนข้างดุและเจ้าระเบียบ ใส่เสื้อผ้าเป๊ะโทนเดียวกันทุกกระเบียดนิ้ว แถมยังโสด เพื่อนสนิทของพิสินีที่เป็นเกย์อยู่ฝ่ายขายก็ถูกใจหุ่นแน่นกล้ามเป็นมัดของคุณพรรษ คอยมาวนเวียนเฝ้ามองบ่อยๆมัทรีมองเหนือน่านฟ้าจังหวัดเชียงรายขณะที่เครื่องกำลังจะลงจอดสนามบินแม่ฟ้าหลวงอย่างรู้สึกสดชื่น นานแล้วที่เธอไม่ได้เห็นสีเขียวแบบนี้ อย่างน้อยภายใต้ความรู้สึกกดดันกับหน้าที่พิเศษที่ได้รับมอบหมายเธอก็ยังมีธรรมชาติช่วยบำบัดบ้าง แม้ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งใจจะทำ ยังก้ำกึ่งอยู่ก็ตาม“ขอโทษค่ะ ไม่ทราบว่าจะไปที่ไหนคะ ดิฉันจะไปจัดการเรื่องรถเช่าให้น่ะค่ะ”เธอค่อยๆ ขยับเข้าไปถามกับพี่ชายของรติยาด้วยภาษาอังกฤษหลังจากทุกคนได้กระเป๋าของตนกันเรียบร้อยแล้ว“ไม่เป็นไร เรามีรถแล้ว ตอนนี้น่าจะมารออยู่ข้างนอกแล้ว ใ

  • มัทรีลุ้นรัก   3.โรเบิร์ต แพตติสันของพิสินี (1)

    “ทำไมแกทำหน้าเหมือนหมาป่วยแบบนี้ ได้ไปเที่ยวแถมยังได้เงินด้วย เป็นฉันหน่อยไม่ได้”พิสินีขับรถไปค่อนแคะเธอไปด้วย“ถ้าเป็นแกจะทำไม”มัทรีถามด้วยสีหน้าซังกะตาย ไม่ได้กระตือรือร้นอยากรู้เลยสักนิด“แกเป็นอะไรกันแน่มัท มีปัญหาอะไรหรือเปล่า หรือมีอะไรทำให้แกไม่อยากทำงานนี้”เมื่อเห็นเพื่อนมีสีหน้าไม่ดีเอาเสียเลยพิสินีก็อดถามอย่างจริงจังไม่ได้“ไม่มีอะไร แค่นอนไม่ค่อยหลับ ทั้งที่อุตส่าห์รีบนอน”หญิงสาวปัดไป เธอรับงานไปแล้วและก็ไม่มีสิทธิ์พูด ไม่มีสิทธิ์บอกกับใครแม้แต่พิสินี‘ถ้าทำสำเร็จแยมจะเพิ่มโบนัสพิเศษจากค่าจ้างเป็นสามเท่าค่ะ’เป็นข้อเสนอที่สาวสวยเอ่ยขึ้นหลังบอกเงื่อนไขกับเธอแล้ว และแม้ผลจะไม่สำเร็จ เธอก็จะยังได้เงินค่าจ้างในฐานะล่ามอยู่ นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีผลเสียหายเลยสำหรับมัทรี แต่เต็มไปด้วยความลำบากใจกระนั้นยอดค่าจ้างคูณสามเท่าที่ลอยอยู่ในหัวก็น่าสนใจและเชิญชวนสุดๆมัทรีกำลังลังเลระหว่างไม่ทำอะไรเลยกับการพยายามทำ สำเร็จก็ได้เงินหรือไม่สำเร็จก็ไม่เป็นไร กระทั่งตอนนี้ก็ยังตัดสินใจไม่ได้เช้าวันนี้พิสินีมารับเธอไปพบกับคนที่เธอต้องเป็นล่ามให้ หลังจากอีกฝ่ายเดินทางมาถึงในคืนที่ผ่านมา และเธ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status