Share

ตอนที่ 45 บาดแผล

last update Last Updated: 2025-05-23 20:48:00

หลังจากอู๋เยว่ชิงผนึกเมล็ดพันธุ์ทั้งสามดวงได้แล้ว ร่างมนุษย์ของนางจึงแตกสลาย เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ววิญญาณเทพดาราควรกลับแดนสวรรค์เพราะนางได้ผ่านด่านเคราะห์อันแสนสาหัสไปเรียบร้อย

หากแต่เวลานี้ยังไม่มีผู้ใดรู้เลยว่าวิญญาณของเทพดาราหายไปอยู่ที่ใดราวกับนางไม่มีตัวตน

สิ่งที่นางหลงเหลือไว้มีเพียงความทรงจำและความเจ็บปวดที่ฝังลึกในเมล็ดพันธุ์ที่ปริแตกในแก่นวิญญาณของจอมมาร คนที่กำลังทรมานกับสิ่งที่ตนเองกระทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา

กงจื่อเย่เพิ่งสัมผัสได้ว่านางทุกข์ทน ผิดหวังและเศร้าโศกมากเพียงใด เขาไม่เข้าใจเลยว่าเหตุใดจึงไม่อาจกำจัดความรู้สึกทั้งหลายทั้งปวงออกไปได้

“นายท่าน เหตุใดจึงไม่ทำลายมันทิ้งไป พลังของนายท่านยังไม่สมบูรณ์ดีหรือขอรับ” โจวเหวินหลงเอ่ยปากถามด้วยความสงสัยเพราะเมล็ดพันธุ์เหล่านั้นไม่ได้มีกำลังมากมายที่จะต้านทานพลังของจอมมารได้เลย

“...” กงจื่อเย่ไม่ตอบอันใด แม้รากต้นไม้แห่งชีวิตที่หยั่งลึกในแก่นวิญญาณจะทำให้เขาเจ็บปวดเจียนตายทุกเมื่อ หากแต่มีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่รู้ว่าของเล็กน้อยพรรค์นี้ไม่อาจกำจัดได้โดยง่าย

ความคิดในใจวนเวียนตลอดเวลา กงจื่อเย่ไม่รู้เลยว่าหากทำลายมันไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

น่าขันยิ่งนัก สิ่งที่เขาห่วงไม่ใช่ตัวของเขาเอง แต่เป็นนางผู้นั้น คนที่เขาเคยนึกอยากจองล้างจองผลาญทุกชาติภพ

เวลานี้เขากลับนึกคะนึงหานางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ทั้งยังพยายามเสาะหาเสี้ยววิญญาณของนางที่แตกเป็นเสี่ยงต่อหน้าต่อตาเขาในตอนนั้น

เพียงแค่เอ่ยถึงน้ำตาก็เอ่อคลอ หากใครต่อใครเห็นคงนึกเวทนาสมเพช จอมมารผู้ยิ่งใหญ่กำลังหลั่งน้ำตา ร้องไห้ราวกับมีความรู้สึกเหมือนคนอื่น ๆ

กงจื่อเย่ลุกเดินออกไปจากบัลลังก์แดนมารหายลับไปยังที่แห่งหนึ่ง เขามักจะขลุกตัวอยู่ในนั้นทั้งวันทั้งคืน ในใจนึกถึงแต่เพียงผู้เดียวราวกับต้องคำสาปไม่อาจหลุดพ้น

โจวเหวินหลงเห็นเจ้านายเป็นอย่างนั้นแล้วจึงถอนหายใจกับสหายอย่างเฉินซือหยาง

“ข้าไม่เข้าใจสักนิด นายท่านสังหารเทพดาราผู้นั้นได้แล้ว รู้แผนการที่พวกเทพสวรรค์คิดกำจัดก็แล้ว เพียงแค่ทำลายเมล็ดพันธุ์นั่นมันยากตรงไหนหรือ” เฉินซือหยางบ่นกระปอดกระแปดเพราะหลายปีที่ผ่านมาพวกเขาได้รับคำสั่งให้ค้นหาความลับที่ทวยเทพซ่อนไว้

แต่เมื่อทุกอย่างกระจ่างแล้วว่าเป็นเรื่องอันใด เจ้านายของเขากลับนิ่งเฉยปล่อยสิ่งที่สามารถทำให้ตนเองแตกสลายไม่เหลือกระทั่งเสี้ยววิญญาณเอาไว้ใกล้ตัวไม่คิดทำลายให้สิ้นซากเสียอย่างนั้น

เขามองหน้าหลิวอิงอิง ปีศาจสาวอีกตนที่อยู่ข้าง ๆ พลางมองใครอีกคนที่ถูกพลังมารปีศาจผนึกเอาไว้ตรงหน้า

“เด็กน้อยผู้นี้ นายท่านเก็บร่างของเขาไว้ทำไมหรือ” เขาเอ่ยถามหลิวอิงอิง

นางกำลังร่ายกระแสพลังไปที่ร่างไร้ลมหายใจตรงนั้นตามคำสั่งของจอมมารจึงกล่าวเสียงดุว่า “อย่ารบกวนข้า หากทำพลาดตรงไหนไป คอเจ้าจะหลุดจากบ่า”

“เข้าใจแล้ว ข้าไม่กวนเจ้าหรอก” เขาส่ายหน้าแล้วนั่งนิ่ง ๆ อย่างที่บอก แต่จู่ ๆ กลับพูดขึ้นมาเพราะนึกสงสัย “หรือว่านายท่านจะรู้สึกกับเด็กน้อยผู้นี้เหมือนลูกอย่างนั้นหรือ เช่นนั้นทำไมถึงได้ฆ่าอย่างไม่แยแสเล่า”

โจวเหวินหลงจนปัญญาไม่รู้จะตอบอย่างไร จิตใจคนยากแท้หยั่งถึง แต่จิตใจของจอมมารลึกล้ำยิ่งกว่านั้นหลายสิบเท่า เหตุผลที่เขาเก็บร่างของคนที่เคยเป็นลูกเอาไว้ การไม่ทำลายสิ่งที่ฝังในแก่นวิญญาณของตน ทั้งยังอาลัยอาวรณ์ศัตรูที่สามารถสังหารตนเองได้ราวกับสามีผู้สูญเสียภรรยาอย่างไรอย่างนั้น

“มิใช่ว่านายท่านมีความรู้สึกจริง ๆ หรือ” โจวเหวินหลงเอ่ยกับสหายทั้งสอง

“จอมมารปีศาจจะมีความรู้สึกได้อย่างไร เจ้าพูดเป็นเล่นไปได้” เฉินซือหยางเลิกคิ้วไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเดาเรื่อยเปื่อย “นายท่านมิได้ถือกำเนิดอย่างพวกเราเป็นไปไม่ได้หรอก”

“ทำไมถึงจะเป็นไปไม่ได้ เจ้าไม่เห็นหรือว่าตอนนี้สิ่งที่ทำให้นายท่านมีความรู้สึกมันฝังอยู่ข้างในแล้ว แต่นายท่านก็ยังไม่ยอมทำลายมัน” โจวเหวินหลงครุ่นคิดอย่างหนักมานาน “ข้าว่านายท่านคิดถึงนางและที่ให้หลิวอิงอิงส่งกระแสพลังให้เจ้าเด็กน้อยนี่ก็เพราะไม่อยากให้ร่างนี้สลายไปด้วยอย่างไรเล่า”

“พวกเจ้าสองคนเลิกส่งเสียงสักทีได้หรือไม่” หลิวอิงอิงเอ็ดทั้งคู่เพราะกำลังใช้สมาธิทำงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความจริงจัง

เฉินซือหยางกระพริบตาปริบ ๆ มองร่างที่โดนผนึกเอาไว้ ตรงกลางหน้าอกของเขาราวกับมีอะไรบางอย่างส่องแสงออกมาเลือนราง “พวกเจ้าเห็นหรือไม่”

“...” ทั้งสามคนมองหน้ากันพลันนึกถึงอะไรบางอย่าง “เห็นทีคงต้องรายงานให้นายท่านรู้แล้วกระมัง”

ภพสวรรค์

จอมมารอ่อนกำลังลงเพราะแผนการที่ฝ่ายเทพสวรรค์วางแผนเอาไว้จึงถอนทัพออกมาทำให้พวกเขาได้มีเวลาหายใจหายคอบ้าง ทุกคนมัวแต่ยุ่งกับการวางแผนรับมือการบุกโจมตีครั้งหน้าเพราะไม่อาจรู้ได้ว่ากงจื่อเย่จะโผล่มาปะทะในตอนไหน

ขณะที่อีกฝ่ายต่างเร่งซ่อมแซมซากปรักหักพังที่เกิดจากการสู้รบอันยาวนาน เทพเซียนหลายคนจึงอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ดูท่าแล้วงานฟื้นฟูภพสวรรค์คงจะหนักหนาเอาการ

เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงกักตนรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองอยู่ในตำหนักเพียงลำพัง ทั้งยังสดับฟังเสียงตระหนักสติรู้ตลอดเวลาให้พร้อมเผชิญหน้าในทันที

เทพวายุเองก็บาดเจ็บไม่น้อยแต่ยังคงตรวจตราบรรดาเซียนตัวน้อยและเทพที่เพิ่งกลับจากภพมนุษย์อยู่อีกทางหนึ่ง เพียงแต่ว่ามองไปที่ใดกลับไม่เห็นแม้แต่เงาของผู้เป็นน้องสาว

“สวีต้าเฟิง เจ้าบาดเจ็บหนักเพียงนี้เหตุใดจึงไม่กักตนอยู่ในตำหนักเล่า” ฟ่านหนิงเหอ เทพวารีผู้เป็นลูกสาวเทียนจวินเข้ามาประคองร่างของเขา สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวลและเป็นห่วงเป็นใยคนตรงหน้าเหมือนเช่นเคย

“ข้าสัมผัสถึงนางได้ แม้จะน้อยนิดราวกับจะขาดหายไปได้ทุกเมื่อ แต่ข้าไม่เห็นนางกลับมา” สวีต้าเฟิงตอบนางด้วยความกระวนกระวาย

เทพวารีตระหนักได้ว่าจอมมารเพียงแค่ถอยทัพกลับไปด้วยตัวเอง มิได้ถูกสังหารอย่างที่วางแผนเอาไว้ และหากเทพวายุสัมผัสเสี้ยววิญญาณของผู้ฝังเมล็ดพันธุ์ได้เบาบาง แสดงว่าหน้าที่นั้นยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี

“นางต้องกลับมาอย่างแน่นอนเพราะนางคือผู้มีดวงชะตากำราบมาร สวีลู่ชิงมิเคยละทิ้งหน้าที่ของตนเอง เจ้าอย่าได้กังวลจนเกินไปเลย บางทีนางอาจหลบซ่อนตัวอยู่ใดสักแห่งเพราะจอมมารเจ้าเล่ห์ผู้นั้นก็ได้”

คนเป็นพี่ชายรู้ดีว่าหน้าที่ของน้องสาวคือต้องสละกระทั่งแก่นวิญญาณเพื่อสังหารจอมมารตนนี้ แต่อย่างน้อย เขาอยากเห็นนางเป็นครั้งสุดท้าย

“หากเจ้ายังดื้อดึงไม่รักษาตนเอง คงจะเป็นตัวเจ้าที่สลายก่อนได้เจอนาง ต้องการให้เป็นอย่างนั้นหรือ” เทพวารีกล่าวไปตามตรง “เมื่อใดที่พลังและร่างกายเจ้ากลับมาอยู่ในสภาพเดิมแล้ว เราสองคนค่อยตามหานางดีหรือไม่”

“อืม” เทพวายุพยักหน้ายอมเชื่อฟังแต่โดยดีเพราะรู้ตัวเองว่าเขาในเวลานี้ไม่อาจต่อกรกับผู้ใดได้เลยและถ้าสวีลู่ชิงตกอยู่ในอันตราย ตัวเขาคงจะช่วยอันใดไม่ได้จึงต้องรีบฟื้นฟูพลังให้กลับมาโดยเร็วที่สุด

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 78 แขกคนแรก

    ก่อนที่จะทำสิ่งอื่นใดกงจื่อเย่บอกข่าวดีกับนางว่าครอบครัวของนางปลอดภัยแล้วและเวลานี้หลบซ่อนอยู่ที่ใด“เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่หรือไม่ จื่อเย่” สวีลู่ชิงรีบถามด้วยความดีใจ ไม่คิดว่ากงจื่อเย่จะพูดเช่นนี้เพื่อปลอบใจนาง“ข้าไม่โป้ปดหรอกขอรับ” เขายืนยันว่าสิ่งที่พูดเป็นความจริง เพราะนำคำพูดของคุณชายสวีมาบอกนางด้วย“ท่านพ่อ ท่านแม่ไม่เป็นอันใดมากใช่หรือไม่ ตอนนั้น ข้าเห็นพวกเขา...” นางหยุดชะงักเพราะนึกถึงช่วงที่เห็นสภาพคนที่รักถูกวางยาพิษ“คุณหนู ใจเย็น ๆ ก่อนนะขอรับ” ทาสหนุ่มปลอบโยนพลางเล่าให้ฟังว่าเขาช่วยทั้งสามคนมาได้อย่างไร ไม่รวมถึงเสี่ยวมู่ บ่าวคนสนิทของนางที่ตอนนี้คอยดูแลเจ้านายทั้งสามเพียงลำพัง “คุณชายสวีฝา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 77 ไม่ต้องกลัว

    ร่างของคนสกุลสวีถูกทหารนำใส่รถเข็นไม้ลากเลื่อนมาทิ้งไว้ในป่าลึกเพื่อให้สัตว์ที่อาศัยอยู่มากินถือเป็นการทำประโยชน์อย่างหนึ่งครั้งสุดท้ายในชีวิตทหารนายหนึ่งเหงื่อผุดเต็มใบหน้ารู้สึกว่ามีลางสังหรณ์แปลก ๆ จึงรีบบอกให้เพื่อนที่มาด้วยกันรีบขนศพพวกเขาลงไปกองไว้ที่พื้น“จะเร่งข้าทำไมนักเล่า” เขาบ่นหงุดหงิดที่ถูกรบเร้าให้รีบทำรีบเสร็จ“ไอ้นี่ เจ้าไม่รู้หรืออย่างไรว่าป่าลึกข้างหน้าชอบมีพวกปีศาจมาเพ่นพ่าน” ทหารคนเดิมพูดพร่ำเพ้อถึงข่าวลือที่ได้ยินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ส่วนคนที่เหลือต่างพยักหน้าเห็นด้วย หากไม่จำเป็นจะไม่มาเหยียบพื้นที่ตรงนี้เด็ดขาด“กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง ข้าบอกแล้วว่าอย่าไปฟังเรื่องเล่าจากปากคนขี้เมานัก” เขาส่ายหน้าแล้วหันรถเข็นกลับไปที่ทางออกพลันได้ยินเสียงส

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 76 หญิงคณิกา

    คุณหนูสกุลสวีตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงร้องของพวกเขาภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ตะลึงงันจนทำอะไรไม่ถูก หันไปดูบิดาทางซ้าย กวาดตามองไล่เลี่ยมาทางขวา มารดาและพี่ชายกลับอยู่ในอาการไม่ต่างกัน“ท่านพ่อ ท่านแม่” นางตะโกนเสียงดังเรียกสติพวกเขา พยายามประคองใครคนหนึ่งขึ้นมา ร้องเรียกทหารนอกคุกที่ยืนเฝ้าเวรยามด้วยความกลัวสุดขีดทุกคนที่มาถึงต่างมองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนักโทษชั้นสูง หากแต่ประเมินแล้วว่าอาการที่แสดงออกมาเหมือนโดนพิษอะไรสักอย่างจึงทำท่าครุ่นคิดขึ้นมาทันใด“ข้าขอร้อง ตามหมอมารักษาครอบครัวข้าได้หรือไม่” นางอ้อนวอนคนตรงหน้า น้ำตาเอ่อคลอเบ้า“แต่ว่า...” หนึ่งในนั้นลังเลเพราะไม่รู้ว่าคนสกุลสวีถูกใบสั่งจากผู

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 75 สอบเค้น

    หลังจากถูกจับตัวไปครบเจ็ดวันทางการยังคงไม่ได้ข้อมูลใดเพิ่มเติมจากคนสกุลสวี พวกเขายืนยันอย่างเดิมเหมือนทุกครั้งว่าตนเองบริสุทธิ์ใจ ไม่เคยคิดร่วมมือกับผู้ใดก่อกบฏอย่างที่ถูกกล่าวหา แต่คำพูดของพวกเขาเป็นเพียงลมปากไร้หลักฐานใด ๆ จึงไม่มีใครเชื่อ อีกทั้งคนเหล่านั้นยังทำหูทวนลมเพราะเป็นพวกเดียวกันกับขุนนางชั่วคืนนั้น“ท่านพ่อ ท่านพี่” สวีลู่ชิงกระซิบเรียกคนทั้งสองที่นิ่งงันสลบไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ใบหน้าและลำตัวมีแต่รอยเขียวช้ำเต็มไปหมด เลือดสีแดงแห้งติดเสื้อผ้าเป็นทางคุณชายสวีลืมตามองผู้เป็นน้องสาว นึกโกรธตัวเองไม่น้อยที่เป็นต้นเหตุทำให้ครอบครัวต้องมาผจญความลำบากเช่นนี้ เขาไม่นึกมาก่อนเลยว่าจะตกหลุมพรางง่ายดายเพียงนั้น“พวกเขาทำอันใดเจ้าหรือไม่

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 74 ถูกใส่ร้าย

    จากนั้นไม่นานใต้เท้าสวี ฮูหยินและสวีลู่ชิงถูกนำตัวออกมาจากจวน นางหันมองบ้านที่เคยอยู่ เวลานี้ผู้คนในนั้น บ่าวรับใช้ เสี่ยวมู่กำลังดิ้นรนบอกว่าตนเองไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้นระหว่างถูกควบคุมตัวไปสอบสวน พวกเขาต้องเดินผ่านตลาดและหมู่บ้าน แม้จะเป็นสถานที่คุ้นเคยแต่ครั้งนี้ความรู้สึกนั้นกลับไม่เหมือนเดิมเพราะแววตาที่ชาวบ้านมองมากำลังกล่าวโทษว่าพวกเขาเป็นคนทรยศต่อบ้านเมืองสวีลู่ชิงเดินรั้งท้ายขบวนจึงตกเป็นเป้าโจมตีได้ง่ายเมื่อชาวบ้านคนหนึ่งขว้างสิ่งของเพื่อจะลงโทษนางให้สมกับความผิดที่ได้ทำทว่า ใครบางคนกลับพุ่งตัวเข้ามาโอบกอดนางไว้ไม่ยอมให้ของเหล่านั้นเฉียดร่างกายแม้เพียงเสี้ยว“คุณหนู” น้ำเสียงห่วงใยทำให้สวีรู้ชิงรู้สึกตัวว่าไม่ได้อยู่ในความฝัน &ldquo

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 73 เอ่ยคำรัก

    ปิ่นหยกลายดอกโบตั๋นจึงปรากฏบนเรือนผมของคุณหนูสกุลสวีนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเจ้าของดวงตาสีม่วงแดงมองคนตรงหน้าไม่วาง ยิ้มกว้างปลื้มใจที่นางรับของขวัญจากเขาไปราวกับรับความรักที่เขามีให้ไปด้วยสวีลู่ชิงรู้สึกได้ว่าคนผู้นั้นจริงใจกับนางมากแค่ไหน แม้จะให้สถานะเป็นเพียงสหายแต่ก็ยอมปักปิ่นให้เขาได้ชื่นใจเวลานี้นางไม่เคยได้ออกไปเยี่ยมเขาที่นอกหมู่บ้านอีกเลย เพราะกงจื่อเย่มักแอบมาหานางในยามซวีทุก ๆ สองหรือสามวันเพื่อนำดอกซือเมิ่งสีฟ้าที่นางโปรดปรานมาให้“ทำงานทั้งวันไม่เหนื่อยหรืออย่างไรจึงมาหาข้าถึงจวน” สวีลู่ชิงเอ่ยถามคนข้างกาย รู้ว่าอีกฝ่ายตั้งใจทำงานมากแค่ไหนและพยายามมาหานางถึงที่นี่ทั้ง ๆ ที่เดินทางมายากลำบากนัก“ไม่เหนื่อยเลยขอรับ” เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status