Home / รักโบราณ / มารเร้นกายดับแสงดารา / ตอนที่ 46 รักและคิดถึง

Share

ตอนที่ 46 รักและคิดถึง

last update Last Updated: 2025-04-08 07:00:07

กาลเวลาผันผ่านจากหนึ่งเดือนเป็นหนึ่งปี เหมันตฤดูเวียนมาบรรจบกันอีกครั้ง กงจื่อเย่ยังคงเป็นดังเช่นวันวาน นัยน์ตาสีม่วงแดงของจอมมารเหม่อมองสรรพสิ่งรอบตัวถวิลหาคนที่จากไปอย่างไร้ร่องรอย

แม้พยายามลบเลือนนางออกไปจากใจแต่สุดท้ายกลับทำไม่ได้อย่างที่คิดจึงได้รู้ซึ้งความทรมานที่ฝังลึกถึงแก่นวิญญาณ โหยหาอยากพบเจอนางอีกครั้งทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการกลับมาพบกันในครานี้นางมีหน้าที่ต้องสังหารมารปีศาจอย่างเขา

ขณะปล่อยความทรงจำโลดแล่นราวกับยินดีติดอยู่ในอดีตของช่วงเวลาที่เขาไม่เคยรู้เลยว่าคือความสุขหนึ่งเดียว

“เสด็จพี่ เทศกาลชมจันทร์ค่ำคืนนี้ เราสองคนออกไปนอกวังได้หรือไม่เพคะ” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ

กงจื่อเย่หันไปมองทางด้านหลังแต่กลับไม่พบเจอใครเพราะที่แห่งนั้นมีเพียงซากปรักหักพังของตำหนักจันทราที่เขาเคยพำนักอาศัยยามสวมรอยดำรงชีวิตเป็นหลินซีเวยเท่านั้น

รอยยิ้มเศร้าปรากฏบนใบหน้าของจอมมาร เสียงพึมพำเอ่ยขึ้นมา “เป็นเพราะข้า ทุกอย่างถึงได้พังทลาย”

ช่วงแรก ๆ หลังจากเกิดเหตุการณ์มารปีศาจบ้าคลั่ง บางครั้งขบวนพเนจรคนอดอยากมักแอบแทรกตัวเข้ามายังเมืองร้างแห่งนี้บ้างเพื่อหาเสบียงหรือของมีค่าที่คนตายทิ้งเอาไว้

หากแต่เสียงร้องไห้โหยหวนกลับดังก้อง หมาป่าหอนเกรียวทั้งคืนจนทำเอาขนลุกขวัญผวาจึงเกิดเสียงลือไปทั่วเมืองใกล้เคียงในแคว้นนั้นว่าเมืองไท่หยางที่เคยรุ่งโรจน์กลายเป็นเพียงเมืองร้างผีสิงที่ไม่มีใครกล้าเฉียดผ่านเข้ามาเพราะกลัวว่าข้างในจะมีวิญญาณของชาวเมืองที่ถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมวนเวียนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดหลอกหลอน

ใครเล่าจะรู้ว่าต้นเหตุของเสียงร่ำไห้จะมาจากคนที่ลงมือทำลายทุกอย่างด้วยตนเอง

บางครา กงจื่อเย่เองนึกสงสัยว่าเหตุใดตัวเขาจึงมีความรู้สึกกับนางมากเพียงนี้

“เจ้าทำอันใดกับข้ากันแน่ ในแก่นวิญญาณของข้าคงไม่ได้มีเพียงเมล็ดพันธุ์ที่เจ้าฝังเอาไว้กระมัง”

คำตอบที่อยากรู้กลับไม่มีผู้ใดตอบได้

“ข้าไม่เคยรักเจ้า ทุกสิ่งที่ข้ารู้สึกในเวลานี้เป็นแค่สิ่งที่เจ้าเล่นเล่ห์ทำให้ข้าหลงกล เฮอะ... เจ้าคงไม่รู้ว่าแผนการของเจ้ามันไม่ได้ผล เจ้าเผลอทำให้เมล็ดพันธุ์ปริแตกก่อนเวลาอันควร อีกทั้งยังไม่รู้ว่าหากเป็นเช่นนั้นแล้วข้าจะรู้ตัวจนทำลายมันได้อย่างง่ายดาย”

แม้จะไม่รู้คำตอบของเรื่องอื่นใด แต่กลับมั่นใจว่าความรู้สึก รักและคิดถึง ในเวลานี้เป็นเพียงสิ่งเหลวไหลทั้งเพ

“เฮอะ... ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าทุกสิ่งที่เจ้าทำ ทุกอย่างที่เจ้าเสียสละมันไร้ค่าสิ้นดี”

เจ้าตัวแสยะยิ้มเย็นชาพลางร่ายพลังมารเพื่อดึงเอาสิ่งที่อยู่ในกายออกมาทำลายอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก

“เสด็จพี่ ถุงหอมกลิ่นนี้ พระองค์โปรดหรือไม่เพคะ”

“ซีเวย พระองค์จะให้หม่อมฉันเรียกพระนามไปตรง ๆ ได้อย่างไร”

“ซีเวย ข้ารักเจ้า”

ความทรงจำที่แสนอบอุ่นเหล่านั้นกำลังถูกลบเลือนหายไป หัวใจที่เคยว่างเปล่ามาเป็นร้อยปีเต้นรัวด้วยความเจ็บปวดจนน้ำตาไหลพราก

จอมมารฉุนเฉียวขึ้นมาทันใด “ทำไมข้าถึงทำไม่ได้ จะไปสนใจใยดีคนเช่นนั้นทำไมกัน เจ้าคิดสังหารข้า เจ้าไม่ได้รักข้า เทพอย่างเจ้าก็โป้ปดอย่างนั้นหรือ เช่นนั้น การที่เจ้าทำให้ข้าทุกข์ทรมานคงเป็นอีกหนึ่งวิธีการของเจ้าใช่หรือไม่”

กงจื่อเย่ยังคงดันทุรังทำต่อไป เพียงแต่ว่ายิ่งฝืนทำเช่นนั้นเพื่อทำลายและลบเลือน เขายิ่งทุรนทุรายไม่มีสิ้นสุด กระแสพลังที่ร่ายออกมาเริ่มเบาบางลง เสียงพึมพำไม่ได้ศัพท์เอ่ยซ้ำไปมา

“เยว่ชิง เจ้าอยู่ที่ใด เคยบอกไม่ใช่หรือว่าอยากฆ่าข้าถึงเพียงนั้น แล้วเจ้าหายไปอยู่ที่ใด”

เวลานั้น กงจื่อเย่หยิบถุงหอมที่นางให้ไว้ออกมาดูพลันตัดสินใจได้แล้วว่า “ความทรงจำของเจ้าอยู่ที่ข้า เพราะเหตุนั้นเจ้าจึงไม่รีบกลับมาหาข้าใช่หรือไม่”

แม้จะนั่งอยู่ในศาลาหน้าตำหนักเพียงลำพังแต่หูกลับได้ยินเสียงหนึ่งอยู่ตลอดเวลา

“เสด็จพี่ หม่อมฉันรักพระองค์ยิ่งนัก”

ในชั่วพริบตา คำหวานซึ้งแปรเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ใบหน้าผิดหวังเสียใจของนางในวันสุดท้ายก่อนแตกสลายยังคงฝังใจจอมมาร

“เพราะเหตุใดจึงทำเช่นนี้...”

“แม้แต่ลูกของเรา เจ้าก็ละเว้นไม่ได้หรือ”

“พบเจอกันคราหน้า คงได้จบสิ้นวาสนากับเจ้าเสียที”

เขาส่ายหน้าไล่ความทรงจำนั้นออกไปราวกับไม่อยากจดจำว่านางต้องการตัดเขาอย่างไร้เยื่อใย ความคิดในใจสับสนอยู่บ่อยครั้ง

“หากรักข้าถึงเพียงนั้น เหตุใดจึงคิดจะลาจากกันชั่วนิรันดร์”

กงจื่อเย่เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟากฟ้า “ข้ารอเจ้าอยู่นาน ไม่เคยคิดไปที่ไหน แต่ข้าคงไม่อาจทนอยู่เฉย ๆ อย่างนี้ได้ ในเมื่อเจ้าไม่กลับมาหาข้าเสียที ข้าคงต้องขึ้นไปตามหาเจ้าด้วยตัวเองกระมัง เยว่ชิง”

หลังจากคิดได้อย่างนั้นแล้ว จอมมารจึงหายลับไปยังภพสวรรค์แอบพรางตัวอย่างแนบเนียนเพื่อเข้าไปเสาะหานาง ผู้คนบนนั้นกำลังง่วนกับการฟื้นฟูและวุ่นวายเตรียมพร้อมรับมือจึงไม่ได้สังเกตเลยว่าเวลานี้มีจอมมารหนึ่งตนกำลังทำตัวประหนึ่งเทพเซียนปะปนอยู่กับพวกเขา

สองหูสดับฟังเสียงเซียนน้อยจากหลายตำหนักพูดคุยกันอยู่เงียบ ๆ สองขาก้าวเดินไปตรงโน้นทีตรงนี้ทีอย่างไร้จุดหมายอยู่ครึ่งค่อนวัน

“ทำไมจึงไม่มีผู้ใดพูดถึงเจ้าเลยเล่า” น้ำเสียงหงุดหงิดพึมพำอยู่คนเดียวคิดอยากใช้พลังบังคับใครสักคนมาไต่ถามให้สิ้นเรื่อง แต่หากทำเช่นนั้นแล้วเทพเซียนคงแตกตื่นแห่มาจับตัวเขาก่อนจะได้เจอนาง

กรุ้งกริ้ง กรุ้งกริ้ง

เสียงกระดิ่งแก้วกระทบกันดังมาจากทางหนึ่งข้างหน้า เซียนน้อยสองนางถือโคมไฟกำลังเดินมาทางเขา

“ข้ารู้มาว่าเทพหลายองค์มิอาจกลับสวรรค์เพราะแก่นวิญญาณแตกสลาย” เซียนน้อยกล่าวกับคนข้างกาย “หน้าที่ของเทพสวรรค์อย่างไรก็ไม่อาจหลีกเลี่ยง หากจอมมารรบชนะขึ้นมา สามภพคงจะปั่นป่วนมากกว่านี้”

“เป็นดังเจ้าว่า แต่เหตุใดเทพดาราจึงหายไปอย่างนั้นหรือ” นางนึกสงสัย นามของผู้ที่จากไปแล้วจะปรากฏอยู่บนศิลาบรรพชน คนที่ยังอยู่กลับสู่ภพสวรรค์ตามเดิม แต่นางไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย”

“เฮ้อ หากแม้แต่เทพวายุยังไม่รู้ ก็ไม่มีผู้ใดรู้แล้วว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ที่ใด” เซียนน้อยส่ายหน้า “แปลกยิ่งนัก หรือว่าด่านเคราะห์ยังไม่จบลงหรือ”

“มิใช่หรอก เขาเคยลงไปตามหานางที่แดนมนุษย์แล้ว แต่กลับไม่เจอร่องรอย เวลานี้จึงได้แต่กักตัวอยู่ที่ตำหนักเพื่อใช้พลังตามหานาง”

กงจื่อเย่ขมวดคิ้วครุ่นคิดอย่างหนัก เขาเห็นนางสลายไปด้วยตาตนเอง ไม่มีทางที่ด่านเคราะห์ของนางจะยังคงอยู่ และในเมื่อนางไม่ได้อยู่ในภพสวรรค์ เช่นนั้นแล้วนางอยู่ที่ใดกันแน่

“ไหนบอกว่าจะมาฆ่าข้าอย่างไรเล่า เหตุใดจึงปล่อยให้ข้ารอนานถึงเพียงนี้” เขาพึมพำแล้วเดินไปยังตำหนักที่นางเคยประทับยามมีชีวิตอยู่ “แม้แต่ที่แห่งนี้ก็ยังไร้เงาของเจ้า”

จู่ ๆ กลับคิดได้ว่าบางทีใครบางคนอาจจะช่วยเขาตามหานางได้จึงรีบหายตัวกลับมายังภพมารทันที

การปรากฏตัวของเขาทำให้ลูกน้องทั้งสามตกอกตกใจไม่น้อย รีบกุลีกุจอเข้ามาทำความเคารพด้วยสีหน้าหวาดหวั่นเพราะไม่รู้ว่ายามนี้อารมณ์ของเขาเป็นอย่างไร

“นายท่าน มีเรื่องอันใดหรือขอรับ” เฉินซือหยางรีบถามทันทีที่เห็นหน้าเขา

“อีนั่ว เป็นอย่างไรบ้าง” เขากลับเอ่ยถามหลิวอิงอิงผู้รับหน้าที่ร่ายพลังมาร พลันสายตาเหลือบเห็นสิ่งหนึ่งที่อยู่ในแก่นวิญญาณของร่างลูกชายหนึ่งเดียว

รอยยิ้มมุมปากแสดงถึงความเจ้าเล่ห์เพราะรู้ว่ามันคือสิ่งเดียวกันกับที่อยู่ในแก่นวิญญาณของเขา

รากต้นไม้แห่งชีวิตกำลังหยั่งลึกในใจของบุตรจอมมารกลายเป็นสิ่งยืนยันที่ทำให้กงจื่อเย่ไม่อาจปฏิเสธและหลอกตัวเองได้อีกต่อไป

“มารปีศาจอย่างข้าน่ะหรือหลงรักเจ้า เยว่ชิง” จอมมารพึมพำ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 47 โกรธ

    นับตั้งแต่นั้นมากงจื่อเย่จึงไม่ออกไปที่ไหนอีกติดอยู่ในภพมารเพื่อกระทำบางอย่างด้วยความตั้งใจจนไม่รู้ตัวว่าเวลาล่วงเลยไปมากเท่าใดแล้วเมื่อผู้ปกครองละเว้นหน้าที่ ความวุ่นวายในภพมารจึงเริ่มบังเกิดทีละส่วน หากแต่ลูกน้องทั้งสามยังคงใช้อำนาจของเขาคอยจัดการได้อยู่แม้จะแลกมาด้วยความเหนื่อยเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวก็ตามครั้งนี้เช่นเดียวกัน ไอมารปีศาจชั่วร้ายก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง เดิมทีกงจื่อเย่จะคอยดูดซับพลังพวกนั้นมาเป็นอาหารของตนเองแต่เวลานี้สิ่งที่เขาให้ความสนใจอยู่เหนือสิ่งอื่นใด พวกปีศาจและสัตว์อสูรจึงได้ทีฉกฉวยมันมาเป็นของตัวเองจึงทำให้มีพละกำลังที่เพิ่มมากขึ้นแต่บางขณะ ไอมารปีศาจที่แข็งแกร่งย่อมปกป้องตัวเองให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของพวกเดียวกันและเป็นฝ่ายกัดกินมารปีศาจพวกนั้นแทนที่จนสามารถหล่อหลอมรูปลักษณ์สร้างตัวตนขึ้นมาได้&n

    Last Updated : 2025-04-10
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 48 ตามหาทุกหนแห่ง

    นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมากงจื่อเย่ออกเดินทางตามหาร่องรอยของอู๋เยว่ชิงทุกหนแห่ง ยามคิดถึงหรือเหนื่อยล้าหัวใจมักจะหยิบถุงหอมและปิ่นปักผมที่เคยมอบให้นางมาดูเขาเริ่มฟื้นฟูตำหนักจันทราให้เป็นเหมือนเดิมแล้วใช้เป็นสถานที่พักผ่อนยามค่ำคืน กลิ่นอายเก่า ๆ หวนกลับมาทุกครั้งจนเขานึกอยากย้อนวันเวลากลับไป“เจ้าอยู่ที่ใดหรือเยว่ชิง” จอมมารกวาดสายตามองไปรอบตำหนักที่เวลานี้เริ่มมีต้นไม้ดอกไม้ผลิบานตามฤดู “ดอกไม้งดงามปานนี้แล้ว เจ้าไม่อยากเห็นหรือ”คำถามของเขาไม่มีเสียงตอบกลับมา ความว่างเปล่าเกาะกุมหัวใจจนทรมานในเมื่อตามหาทุกหนทุกแห่งแล้วยังไม่พบเจอ คงจะเหลือเพียงสถานที่สุดท้าย หากเสี้ยววิญญาณของนางยังคงอยู่ บางทีนางอาจจะยังอยู่ที่แห่งนั้น

    Last Updated : 2025-04-12
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

    Last Updated : 2025-04-14
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

    Last Updated : 2025-04-16
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

    Last Updated : 2025-04-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

    Last Updated : 2025-04-20
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

    Last Updated : 2025-04-22
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

    Last Updated : 2025-04-24

Latest chapter

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status