แชร์

ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

ผู้เขียน: MACARONI/1Millionmilesaway
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-14 07:00:05

วันหนึ่งในฤดูฝน

เสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง

ทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำ

แม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลง

โดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิด

สายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

เสียงพึมพำกังวลแต่คิดว่ายังพอรับมือได้บ้าง “ท่านแม่ อย่าสงสัยเรื่องพวกนั้นเลย อยู่กับข้า ท่านแม่ไม่มีความสุขหรือ”

อู๋เยว่ชิงส่ายหน้าเอ่ยออกมาโดยไม่รู้ตัว “อีนั่ว วันครบรอบอายุเจ็ดขวบของเจ้า อยากกินอะไรหรือ ข้าจะเตรียมเอาไว้ให้”

“ข้าอยากกินซุปซี่โครงตุ๋นน้ำแกงขอรับ” เด็กชายรีบบอกทันทีขณะวิ่งฝ่าสายฝนกลับมาหานาง “ท่านแม่ เล่นน้ำฝนกับข้าได้หรือไม่”

ผู้เป็นมารดาส่ายหน้าคลี่ยิ้มบางเอ็นดูความซุกซนเป็นเด็กของเขาแต่สุดท้ายก็ยอมตากฝนวิ่งเล่นกันสองคนด้วยความสนุกสนาน

เวลานี้ชีวิตของทั้งคู่ดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่มีผู้ใดเข้ามาฉกฉวยความสุขนั้นได้

เมื่อถึงวันครบรอบวันเกิดของเขา อู๋เยว่ชิงตื่นตั้งแต่ตะวันยังไม่ขึ้น เตรียมของทำอาหารอย่างที่เขาชอบแล้วจัดการทำงานบ้านเหมือนอย่างเคยก่อนจะนั่งรับลมอยู่นอกชานบ้านรอเด็กน้อยตื่นจากหลับฝัน

“ท่านแม่ขอรับ” น้ำเสียงสดใสเอ่ยเรียกนางจากในห้อง “ทำไมถึงได้ตื่นตั้งแต่เช้าขนาดนี้เล่า”

นางกางแขนออกแล้วบอกเขาว่า “วันนี้วันเกิดเจ้าไม่ใช่หรือ มาให้ข้ากอดหน่อยได้หรือไม่”

เด็กน้อยขยี้ตาพยายามเรียกสติของตนเองเพราะยังไม่ตื่นดีก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าวันนี้สำคัญอย่างไร จมูกน้อย ๆ สูดกลิ่นหอมที่โชยมาจากข้างบ้านพลันยิ้มกว้างถามนางว่า “ท่านแม่ ข้ากินได้เลยหรือไม่”

เขาไม่พูดเปล่า เสียงท้องร้องโครกครากยังดังอย่างรู้งาน อีนั่วชื่นชอบฝีมือทำอาหารของนางมากนัก ถึงอย่างไรก็ดีกว่ากินอย่างอื่นเป็นไหน ๆ

แม้ตัวจะเป็นครึ่งมารปีศาจกับมนุษย์ แต่เขากลับไม่อยากยอมรับตัวเองเพราะมันคือสิ่งที่ทำให้ครอบครัวของตนต้องแตกแยกเหมือนอย่างทุกวันนี้

อู๋เยว่ชิงนั่งมองดูลูกชายทานอาหารเช้าอยู่เงียบ ๆ แล้วถามเขาว่า “เมื่อวานฝนตกไปแล้ว วันนี้อากาศคงจะดีตลอดทั้งวัน เจ้าอยากไปเที่ยวในหมู่บ้านหรือไม่”

“ข้าไม่อยากไปขอรับ” เขาส่ายหน้าแล้วหยิบซี่โครงขึ้นมาแทะด้วยความเอร็ดอร่อย “ท่านแม่อยากไปหรือ”

เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดมากนักถ้าไม่จำเป็นเพราะยิ่งรู้จักผู้คนก็จะยิ่งผูกพันกันไปเปล่า ๆ

มนุษย์อายุขัยสั้นปานนั้น อีนั่วไม่ชอบการสูญเสียเลยแม้แต่น้อย เมื่อก่อนเขารู้จักแทบทุกคนในหมู่บ้านแห่งนั้นแต่พอตัวเองอายุยืนกว่าใครก็ทำได้แค่เพียงมองคนเหล่านั้นค่อย ๆ จากไปตามกาลเวลา

“ไม่หรอก ข้าถามเพราะคิดว่าเจ้าอาจจะอยากกินลูกกวาด ขนมหวาน และเที่ยวเล่นกับเด็กคนอื่นในวัยเดียวกัน” อู๋เยว่ชิงแค่เป็นห่วงที่ลูกชายอยู่ติดบ้านเกรงว่าโตขึ้นมาแล้วจะไม่มีสหาย

“ข้ามีท่านแม่แล้ว ไม่ต้องการผู้ใดขอรับ” อีนั่วยังคงยืนยันคำเดิมและอู๋เยว่ชิงก็ไม่ได้ตอบอะไรนอกจากยิ้มให้เขา

หลังจากทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งคู่เดินเล่นไปเรื่อย ๆ แวะดูดอกไม้ตรงโน้นทีตรงนี้ทีกว่าจะถึงลำธารที่มีน้ำไหลมาจากภูเขา สีน้ำยังคงขุ่นมัวเป็นดินแดงเพราะฝนตกหนักเมื่อวันก่อนแต่อีนั่วกลับเลิกคิ้วมองสิ่งที่ไหลมากับน้ำเชี่ยว

ก้อนหินหลากสีกลิ้งอยู่ข้างล่างนั้นตามแรงกระแสน้ำ เขาพุ่งตัวลงไปทันทีเพราะอยากเก็บมันขึ้นมา

“อีนั่ว น้ำเชี่ยวขนาดนั้น อย่าลงไปนะ” อู๋เยว่ชิงร้องห้ามเอาไว้แต่ไม่ทันการ นางรู้ว่าลูกชายของตนซุกซนมากแค่ไหน ทั้งยังดื้อดึงบอกเท่าไหร่ก็ไม่เคยฟังกันสักที

“ข้าไม่เป็นอะไรหรอกขอรับ” เสียงเจื้อยแจ้วตอบกลับมาเช่นนี้ทุกครั้งจนนางได้แต่ยืนมองดูเพราะรู้ว่าเขาแข็งแกร่งเกินกว่าเด็กทั่วไป

แม้รู้ว่ากระแสน้ำเท่านี้ไม่อาจทำอันใดแต่ยังสงสัยว่าเขากระโจนลงไปทำไมทั้ง ๆ ที่น้ำในตอนนี้ขุ่นมัวจนมองไม่เห็นอะไร

ราวกับรู้ว่ามารดาคิดสิ่งใดอยู่ อีนั่วจึงยกแขนขวาขึ้น ในมือมีก้อนหินสีฟ้า ม่วง แดง ประกายของมันแวววาวแม้ว่าจะมีโคลนเปรอะเปื้อนบางส่วน

“ตาดีถึงเพียงนี้เลยหรือ” อู๋เยว่ชิงเผลอพูดตามที่คิดเรียกเสียงหัวเราะจากเขาได้เป็นอย่างดี

ครั้นเล่นสนุกจนพอใจแล้ว อีนั่วขึ้นฝั่งด้วยสีหน้าภาคภูมิใจทำทีปกปิดไม่ให้มารดารู้ว่าเขามีแผนอะไรก่อนจะใช้เวลาว่างขัดถูแกะสลักก้อนหินเหล่านั้นเป็นก้อนกลมเหมือนลูกปัด ค่อย ๆ ร้อยทีละเม็ดแล้วผูกปมเอาไว้สองเส้น

กว่าจะทำได้สวยงามดั่งใจคิด อีนั่วใช้เวลาเกือบสิบวัน แอบทำเครื่องประดับอยู่เงียบ ๆ จนดึกดื่น คอยหลบไม่ให้มารดาเห็น หากนางถามมักบ่ายเบี่ยงเปลี่ยนเรื่องเพราะอยากให้นางดีใจตอนที่ได้เห็นของสิ่งนี้

เขายื่นสร้อยข้อมือให้นางด้วยสีหน้าคาดหวัง รอดูท่าทีของอู๋เยว่ชิงไม่วางตา แม้จะเกลียดที่มีพลังมารแต่กลับจำใจฝังพลังนั้นเอาไว้ในสร้อยข้อมือเพื่อใช้ปกป้องนางจากสิ่งเลวร้ายทั้งปวง

นอกจากนั้นแล้วยังใช้เป็นเครื่องมือกักเก็บความทรงจำทั้งหมดในหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้นางจะไม่มีทางลืมว่าเขาเป็นลูกชายเพียงคนเดียวของนางอย่างเด็ดขาด

“สวยยิ่งนัก” หญิงสาวเอ่ยปากชมสิ่งล้ำค่าที่ได้มาเป็นของขวัญ “ลูกแม่คงจะมีฝีมือด้านนี้มาตั้งแต่เกิดสินะ ขอบใจเจ้ามาก ข้าจะเก็บไว้เป็นอย่างดีเลย”

“ท่านแม่ สัญญากับข้าได้หรือไม่ว่าจะไม่ลืมข้าอีก” เด็กน้อยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าครั้งนี้จะไม่มีอะไรมาพรากมารดาไปจากเขาได้อีก ไม่เว้นแม้แต่บิดาของเขา

“ข้าจะลืมเจ้าได้อย่างไร” นางเม้มปากไม่รู้ว่าทำไมลูกชายถึงพูดเรื่องนี้ “มาให้ข้ากอดเจ้าหน่อยเถิด”

อีนั่วไม่รู้เลยว่าเวลาที่พวกเขาต้องแยกจากกันจะมาถึงในวันหนึ่ง เทพดาราที่ยังคงทำหน้าที่ไม่สมบูรณ์ถูกกระแสพลังเทพบรรพกาลเรียกสติให้กลับมา

พลังเทพที่ถูกซ่อนไว้ค่อย ๆ เผยออกมาทีละนิดรวมถึงความทรงจำตอนเป็นสวีลู่ชิง

นางเก็บงำสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ไม่ให้อีนั่วรู้เพราะกำลังสับสนว่าตัวเองเป็นผู้ใดกันแน่ ยิ่งสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายมีพลังมารปีศาจเหลือล้น นางจึงเริ่มระวังตัวมากกว่าเดิมความรู้สึกค่อย ๆ แปลกไปจนในที่สุดจึงแยกแยะได้ว่าอู๋เยว่ชิงคงจะเป็นด่านเคราะห์ในชาติที่นางต้องเผชิญ

เทพดาราคงจะใช้ชีวิตร่วมกับมารปีศาจสักตนแล้วให้กำเนิดอีนั่ว เมื่อพลังตื่นขึ้น นางจึงรู้สึกหนักใจยิ่งนักว่าจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ในตอนนี้

ทว่า ไม่ทันจะได้คำตอบ จู่ ๆ พลังเทพบรรพกาลดึงนางกลับสวรรค์โดยไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่แม้จะให้นางได้ร่ำลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้ายหรืออธิบายความจริงกับเขา

ไม่เพียงเท่านั้น ในเวลาที่ความทรงจำเทพดารากลับมาสมบูรณ์ เรื่องราวที่อยู่กับอีนั่วค่อย ๆ เลือนหายไปโดยปริยายเหลือเพียงความรู้สึกที่อยู่ลึก ๆ ในใจว่านางกำลังหลงลืมใครบางคน

อีนั่วงัวเงียตื่นขึ้นมาไม่เห็นใคร กระวนกระวายทำตัวไม่ถูก แม้นั่งรอนางตั้งแต่เช้าจนมืดค่ำ ผ่านไปสองสามวันไม่เห็นนางกลับมา ในใจห่อเหี่ยวยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

ใบหน้าเหม่อมองท้องฟ้าไม่อยากให้สิ่งที่รู้สึกในเวลานี้เป็นเรื่องจริง พึมพำอยู่คนเดียว “ท่านแม่ทิ้งข้าไปอีกแล้วหรือ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-16
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-18
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-20
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-22
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-24
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-26
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-28
  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-04-30

บทล่าสุด

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 57 นางรักเจ้า แต่รักข้ามากกว่า

    เช้าวันหนึ่งในหมู่บ้านดอกท้อนกน้อยสีดำไซ้ขนอยู่ข้าง ๆ สวีลู่ชิงที่นั่งหลับตาฟื้นฟูแก่นวิญญาณของตนเองอยู่เงียบ ๆ ส่วนอีนั่ววิ่งเล่นอยู่กับสมุนจอมมารโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยบรรยากาศภายในหมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสดชื่นสนุกสนานจนบางทีพวกเขาลืมไปเลยว่าสาเหตุที่ทำให้ทุกคนมาอยู่ร่วมกันในที่แห่งนี้คืออะไรสวีต้าเฟิงเดินเข้ามาทักทายน้องสาวยามเช้าเหมือนอย่างเคย รอยยิ้มบางประดับบนใบหน้านึกเอ็นดูนางราวกับเป็นเด็กน้อย แต่เวลานี้น้องสาวตัวเล็กในวันวานกลับมีบุตรชายจอมซนเหมือนนางไม่มีผิดเขาจึงรับหน้าที่ดูแลทั้งคู่ด้วยความเต็มใจ ถึงอย่างนั้นแล้วดวงตาสีฟ้ากลับจ้องมองนกน้อยตรงหน้าจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ (มองหน้าข้า มีเรื่องอันใด)“...” เทพวายุ

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 56 ยกโทษให้พ่อเถอะ

    สองอาทิตย์ต่อมาสมุนจอมมารทั้งสามล้อมวงก้มมองเจ้าถ่านด้วยความสงสัยว่านกน้อยตัวนี้เป็นมารปีศาจเผ่าพันธุ์ใดกันแน่“ผ่านมานานถึงเพียงนี้ เหตุใดบาดแผลจึงยังไม่หายหรือว่าถูกพลังร้ายกาจของผู้ใดมา” เฉินซือหยางขมวดคิ้วเป็นปมนึกสงสัยเพราะจับตามองอยู่นานแล้ว“พลังเทพอาจจะรักษาไม่ได้เพราะเป็นนกที่มาจากภพมารแต่ถึงอย่างไรพลังของนายน้อยก็ไม่ได้ผลอีก ข้าว่าเจ้าถ่านนี่มีอะไรแปลก ๆ” หลิวอิงอิงวิเคราะห์ตามความรูสึกของตัวเอง มือข้างหนึ่งเอื้อมมาจับปีกที่เป็นแผลจิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ จิ๊บ“เฮอะ ดูสิ ข้าว่ามันบ่นเจ้าใหญ่เลย” โจวเหวินหลงพูดบ้าง คนที่มีสติดีที่สุดอย่างเขาจึงนึกเรื่องบางอย่างออกพลันจ้องมองดวงตาของนกน้อยอีกครั้งหนึ่ง&l

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 55 จอมมารยังคงเจ้าเล่ห์

    บ้านหลังเล็กของมารน้อยเมื่อทั้งสองฝ่ายตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอย่างไรต่อไปจึงร่างสัญญาสงบศึกชั่วคราวเพราะต้องการดูลาดเลาสถานการณ์ที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นจริงบ้านหลังเล็กที่เคยอยู่กันเพียงสองคน เวลานี้มีหลังอื่นผุดขึ้นมาอยู่ใกล้ ๆ กันอีกสามสี่หลังจนแทบจะกลายเป็นหมู่บ้านที่มีทั้งมารและเทพอยู่ร่วมกันอย่างสันติต้นท้อรายรอบกำลังผลิดอกสีชมพูบานสะพรั่งเหมือนภาพวาด อีนั่วจึงตั้งชื่อหมู่บ้านของเขาว่าหมู่บ้านดอกท้อ ในใจคิดอยากอยู่ที่แห่งนี้อย่างสงบตลอดไปพลังของอีนั่วถูกกลบซ่อนเอาไว้ไม่ให้มารปีศาจตนอื่นรู้ รอบเขตบ้านจึงมีม่านศักดิ์สิทธิ์ของเทพวายุห้อมล้อมอยู่ด้วย“เจ้าจะทำเช่นนั้นไม่ได้ พวกข้าอึดอัด” หลิวอิง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 54 คนละครึ่งทาง

    สวีลู่ชิงและพี่ชายรอข่าวคราวจากเสี่ยวไป๋อยู่นอกเขตแดนมารนางเดินวนไปวนมาด้วยความกังวลกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีนั่วจนแทบอยากจะฝ่าเข้าไปในภพมารเพื่อตามหาเขาด้วยตัวเอง“นั่งลงก่อนเถิด เจ้าเดินไปเดินมาจนข้าตาลายแล้ว” สวีต้าเฟิงส่ายหน้าพลางบ่นพึมพำ“ข้าเป็นห่วงเขา” นางเอ่ยตามตรง ใจหนึ่งรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เจอกับมารน้อยครั้งแรกแต่อีกใจกลับสัมผัสความรู้สึกคุ้นเคยได้อย่างบอกไม่ถูกช่วงเวลาเพียงเสี้ยวหนึ่ง เสี่ยวไป๋ส่งสัญญาณบางอย่างกลับมาหาผู้เป็นเจ้านายบอกให้รู้ว่ากำลังมาถึง รอยยิ้มบางจึงผุดขึ้นมาด้วยความยินดีพลันเงาดำตะคุ่มปรากฏด้านหลังเขตแดนภพมาร“สวีลู่ชิง ถอยออกมา” เทพวายุดึงร่างน้องสาวให้ออกห่างเพราะกลัวจะมีอันตราย “เจ้าอย่าเพิ่งวู่วาม จงอย่าล

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 53 ฝากดูแลลูก

    หลังจากกงจื่อเย่สูญสิ้นไปทัพมารที่กำลังบุกสวรรค์ครานี้จึงแตกพ่ายเพราะไร้ผู้นำถูกกองทัพสวรรค์ขับไล่กลับภพมารในเวลาไม่นานเหล่าเทพเซียนต่างพากันโห่ร้องยินดีเพราะภัยคุกคามถูกกำจัดแล้ว หากแต่เทพอาวุโสและเทพชั้นสูงบางคนยังคงไม่อาจวางใจได้มากนักแต่ถึงอย่างนั้นแล้วก็พอจะโล่งใจได้บ้างว่าหลายพันปีต่อจากนี้สามภพคงจะสงบสุขราบรื่น และหากถึงเวลาที่จอมมารฟื้นคืนกลับมา ตอนนั้นพวกเขาคงหาวิธีรับมือได้บ้างแล้วตำหนักเทพดารามีแขกเข้าเยี่ยมไม่ขาดสายเพราะได้ยินเรื่องราวปากต่อปากจึงมาถามไถ่ด้วยตนเอง สวีลู่ชิงจึงบอกพวกเขาแต่เพียงว่า “มารผู้นั้นคงกลับใจกระมัง แต่ข้าไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะอันใด”นางกล่าวเช่นนั้นเพราะไม่รู้จริง ๆ แม้กงจื่อเย่จะจากไปแล้วแต่ความทรงจำที่ขาดหายไปก็ยังไม่กลับคืนมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 52 สัญญาได้หรือไม่

    เทพเซียนที่ยืนอยู่รายรอบมองหน้ากันด้วยความงุนงงครั้นจะพุ่งตัวเข้าไปดึงจอมมารออกมาจากที่นั่นก็ทำไม่ได้เพราะรังแต่จะเสี่ยงชีวิตของตัวเองไปด้วยคราวแรกก็คิดว่าเขาเข้ามาขัดขวางไม่ให้นางทำภารกิจสำเร็จ แต่ไป ๆ มา ๆ กลับได้เห็นว่าจอมมารกำลังใช้ร่างกายตัวเองเป็นเกราะกำบังและรับอสนีบาตแต่เพียงผู้เดียว“สวีต้าเฟิง นี่มันเรื่องอันใดกัน” หนึ่งในเทพอาวุโสถามเขาเพราะเพิ่งมาถึง“ข้าก็ไม่รู้ขอรับ” เขาไม่อาจตอบคำถามนั้นได้เพราะไม่คิดว่าเรื่องราวตรงหน้าจะกลับตาลปัตรได้ขนาดนั้น“แต่ถ้าปล่อยเอาไว้แล้วจะจัดการจอมมารได้อย่างไร เจ้าก็รู้ไม่ใช่หรือว่าเทพดาราจะต้องเป็นผู้รับทัณฑ์สวรรค์ ไม่ได้การแล้ว ข้าต้องรีบเข้าไปห้าม”เทพอาวุโสส่ายหน้าหนักใจ ช่วงท

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 51 อย่าผลักไสข้า

    เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นคนเป็นพี่ชายอย่างสวีต้าเฟิงแทบทำอาวุธหลุดมือ ในใจนึกโกรธเกรี้ยวที่จอมมารเจ้าเล่ห์พูดอะไรไม่เข้าเรื่อง“เจ้าอย่ามาพูดซี้ซั้ว” เทพวายุกำอาวุธประจำกายไว้แน่น “กล้าพูดใส่ร้ายให้น้องสาวข้ามีมลทิน เห็นทีคงไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่หรือไม่”กงจื่อเย่ไม่ยอมน้อยหน้าเพราะทุกสิ่งที่พูดออกไปเป็นความจริงจึงยืนยันว่า “ข้าคือสามีที่ถูกต้องตามประเพณีในด่านเคราะห์ชาติที่สองของนาง” ใจจริงเขาอยากจะพูดต่อด้วยซ้ำไปว่ามีพยานรักหนึ่งคนที่มีดวงตาสีฟ้างดงามเหมือนกับนางแต่เพื่อความปลอดภัยของมารน้อย เขาจึงต้องเก็บเรื่องนี้เอาไว้ต่อไป“เฮอะ” เทพปฐพีแสยะยิ้ม “ก็แค่ด่านเคราะห์ เจ้าจะมายึดถือเช่นนั้นได้อย่างไร” เขาถามออกไปแต่ในใจเริ่มคิดแล้วว่าถ้าเขาได้ตัวภรรยากลับไปแล้วเรื่องราวสงครามของจอมมา

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 50 บุกสวรรค์ตามหาภรรยา

    สายใยระหว่างแม่ลูกที่ถักทอในแก่นวิญญาณมารน้อยทำให้เขารู้ว่าเวลานี้นางหายไปอยู่ในที่แสนไกล ถึงอย่างนั้นก็ยังคงหวังลึก ๆ และนั่งรอมารดาอยู่ที่เดิมทว่า ผ่านไปวันแล้ววันเล่า ในใจของอีนั่วเศร้าหมองและคิดถึงนางยิ่งนักจึงตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่เกรงกลัวว่าจะมีอันตรายใด ๆ เกิดขึ้นกับตัวเองพลันใช้พลังมารหายตัวเข้าสู่แดนสวรรค์ในพริบตาอีนั่วรีบพุ่งไปที่ตำหนักเทพดาราในทันที ไม่ข้องแวะที่ใดเพราะห่วงว่าจะมีใครสังเกตเห็นตัวตนมารปีศาจ คอยแอบอยู่ในมุมมืด พรางตัวราวกับเป็นอากาศ แล้วกวาดสายตามองหามารดา“ท่านแม่...” เขาเผลอเรียกออกไปแบบนั้นอย่างเคยแต่หยุดชะงักไปเพราะรู้สึกได้ว่าหญิงสาวตรงหน้ามีอะไรแปลกไปจากเดิม นางกำลังหัวเราะและยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าเลือดเนื้อเชื้อไขตัวน้อย ๆ รอนางเพียงลำพัง

  • มารเร้นกายดับแสงดารา   ตอนที่ 49 มารน้อยหวนกลับ

    วันหนึ่งในฤดูฝนเสียงฟ้าร้องคำรามก้องไปทั่วบริเวณเป็นเวลาเกือบสองชั่วยาม พื้นดินรอบบ้านเปียกแฉะกลายเป็นโคลนและมีแอ่งน้ำเล็ก ๆ เกิดขึ้นหลายแห่งทุ่งดอกไม้สีเหลืองพัดไหวตามสายฝนลมพัดในเวลานั้นราวกับเริงระบำแม้อู๋เยว่ชิงจะถูกพลังของอีนั่วปกปิดเรื่องบางอย่างเอาไว้ แต่นางที่เป็นถึงเทพดาราย่อมเฉลียวใจได้ในบางครั้งว่าทุกสิ่งมันแปลกเกินไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นในทุกวัน ไม่มีมนุษย์ผู้ใดหรอกจะอายุยืนร้อยปีแต่เนื้อหนังร่างกายและใบหน้ายังคงเหมือนวันวานไม่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะอีนั่ว ร้อยปีผ่านมาแล้วเขายังคงเหมือนเด็กอายุเจ็ดขวบไม่มีผิดสายตาที่ล่องลอยราวกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวทำให้บุตรชายสังเกตได้ในพริบตา เขาเอียงคอเล็กน้อยก่อนที่พลังมารจาง ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนผ่านไปหาอู๋เยว่ชิง

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status