‘ประเทศไทย’
เสียงเครื่องยนต์เรือยอร์ชค่อยๆ ดับลงจนเงียบสนิทเหลือเพียงเสียงคลื่นกระทบฝั่งหาดทรายขาว ณ เกาะรุ่งอรุโณทัย อดัม และ เจอาร์ ลงจากเรือเดินลงทะเลเพื่อไปยังบ้านพักที่พ่อเขาได้สร้างไว้เพื่อการพักผ่อน และนี้เป็นการมาเยือนเกาะแห่งนี้เป็นครั้งที่สามของอดัม แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปเพราะเกาะแห่งนี้ได้เป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แล้ว แม่ได้ยกให้เขาเป็นของขวัญจบการศึกษาระดับปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของสหรัฐอเมริกาด้วยวัยเพียงยี่สิบสี่ปี เกาะนี้แม่ของเขาเป็นผู้ตั้งชื่อตามนามปากกาของแม่ที่เป็นนักเขียน
อดัม เบนเน็ต ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน แม่เขาเป็นคนไทย และแม่ได้เกาะนี้เป็นของขวัญจากพ่อ แต่ท่านทั้งสองก็ไม่ค่อยมีเวลากลับมาเมืองไทยพวกท่านจะอยู่ที่อเมริกาที่เมืองซอลท เลค ซิตี้ รัฐยูทาห์เป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้จะเป็นลูกครึ่ง แต่ด้วยพ่อของเขาเป็นลูกครึ่งผิวสีอเมริกันจึงทำให้ อดัม ดูจะเป็นคนเอเชียที่มีรูปร่างสูงใหญ่แบบคนอเมริกัน ส่วนสูงมากกว่าหกฟุต แต่นัยน์ตาสีเขียวแบบคุณย่าที่เป็นอเมริกันแท้ และสีผิวน้ำผึ้งแบบแม่ ทุกอย่างที่องค์ประกอบมาเป็นเขาทำให้อดัมจัดเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์ และเขายังเป็นนายแบบมีสายเลือดศิลปินที่มาจากทั้งคุณย่าที่เป็นนักดนตรี พ่อที่เป็นทั้งนักร้องและนักดนตรีส่วนแม่เป็นนักเขียน ประกอบกับอดัมมีบุคลิกที่มั่นใจในตัวเองสูงเพียบพร้อมไปทุกอย่าง ฐานะ ความรู้ รูปร่างหน้าตา แต่จะมีใครสักกี่คนที่รู้ว่าเขาคือทายาทเพียงคนเดียวของอีธาน เบนเน็ต มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่แห่งฟิลา-เดลเฟีย ซึ่งเป็นปู่ของเขานั่นเอง
การเดินทางมาเมืองไทยครั้งนี้ของอดัมก็เพื่อมาตามความต้องการของพี่ชายที่ต้องมาทำภารกิจของหัวใจ และอีกวัตถุประสงค์ของตัวเขาคือมาสำรวจ ‘เกาะรุ่งอรุโณทัย’ อีกครั้ง และวันมะรืนนี้เขาต้องเดินทางไปประเทศอังกฤษเพื่อไปจัดการธุรกิจแทนพี่ชายคือ อลัน ซาวันเดอร์ พี่ชายแท้ๆแต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้เขาทั้งสองต้องใช้คนละนามสกุล
อดัมและผู้ติดตามคนสนิทที่เปรียบเสมือนพี่ชายต่างสายเลือดอีกหนึ่งคนคือเจอาร์ซึ่งมีอายุแก่กว่าอดัมหนึ่งปีแต่ฝีมือทั้งบุ๊นและบู้ไม่ได้แตกต่างไปจากอดัมเลย ทั้งสองคนมักจะเดินทางไปในทุกๆที่กันเพียงลำพัง โดยเป็นที่แปลกใจของคนที่พอรู้ภูมิหลังว่ามาเฟียใหญ่อย่างอดัมกลับไม่มีผู้ติดตามคอยคุ้มกันมากมาย ทั้งๆที่มีคนมากมายหมายจะปลิดชีวิตมาเฟียอย่างเขา แต่ถ้าใครก็ตามที่รู้จักอดัมเป็นอย่างดีก็จะไม่อยากจะเป็นผู้รับหน้าที่ในการลอบสังหารมาเฟียผู้นี้ เพราะอดัมถูกฝึกศิลปะการต่อสู้หลายรูปแบบตั้งแต่อายุเพียงสิบสองขวบ แต่เขามีการฝึกพื้นฐานมาตั้งแต่เยาว์วัยตามวัยและความสามารถของร่างกาย และนี้เป็นเหตุผลที่ทำให้อดัมมีรูปร่างที่ดีมากจนเขาก็นึกสนุก โดยตัวเองมีฉากหน้าเป็นนายแบบที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง
อดัมมองไปรอบๆเกาะที่ยังคงสวยงามมากเหมือนเดิม ถึงแม้พวกเขาไม่ค่อยได้มาแต่ทุกอย่างได้รับการดูแลอย่างดีจากเพื่อนของแม่และท่านทั้งสองยังเป็นพ่อและแม่ทูนหัวของพี่ชายเขาด้วย พวกท่านก็เปรียบเสมือนพ่อกับแม่เขาเช่นกัน และเกาะแห่งนี้พ่อทูนหัวของพี่ชายก็แนะนำให้พ่อของเขาซื้อไว้ และพ่อทูนหัวของพี่ชายก็ซื้ออีกเกาะที่อยู่ไม่ห่างไกลจากที่นี่มากโดยตั้งชื่อเกาะว่า ‘เกาะมุก’ ตามชื่อลูกสาวเพียงคนเดียวของพวกท่านทั้งสอง เกาะนี้เคยเป็นของตระกูลศิริสินธร แต่เมื่อประมาณเกือบสามสิบปีก่อนครอบครัวนี้ประสบปัญหาของธุรกิจจึงต้องขายเกาะทั้งสองที่เป็นสมบัติสืบทอดกันมาหลายรุ่นด้วยราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก เพราะเขาทราบเพียงว่าตอนนั้นตระกูลนี้ต้องการเงินด่วนเพื่อประคองธุรกิจของตระกูลไว้
“พี่เจอาร์....” อดัมเรียกบอดิการ์ดคนสำคัญทันที เพราะตอนนี้สายตาของเขาสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่างในทะเลที่มีการขยับเคลื่อนห่างไกลจากสายตาเขาไปเรื่อยๆ
“นาย!!!...นั้นคนกำลังจะจมน้ำครับ” เจอาร์พูดออกมาอย่างมั่นใจ อดัมเมื่อได้ยินแบบนั้นวิ่งลงสู่ทะเลอีกครั้ง และแวกว่ายเข้าหาร่างที่ตอนนี้กำลังจะหายสู่ห้วงลึกของก้นทะเล ซึ่งเจอาร์วิ่งและว่ายตามไปติดๆ
“บ้าจริง!” อดัม คิดในใจนี้มันเกาะส่วนตัว แล้วใครกล้าบังอาจมาทำสิ่งชั่วร้ายสร้างมนทิลให้กับเกาะของเขา อดัมด่ำดิ่งสู้พื้นทรายใต้ท้องทะเลจุดเดียวกับร่างนั้นลงสู่ผิวใต้น้ำท้องทะเลนั้น และเขาก็สมประสงค์คว้าแขนเรียวเล็กของร่างบางนั้นได้และดึงขึ้นสู่ผิวน้ำเพื่อให้ปอดทั้งของเขาและเจ้าของร่างบางนี้มีอากาศเข้าไป
เจอาร์เข้าไปช่วยอดัมรับร่างบางและพาขึ้นสู่หาดทรายอีกครั้ง อดัมมองร่างบางนั้นไม่ไหวติง ไร้ซึ่งการตอบสนองทั้งสองคนเร่งฝีเท้าทันที เจอาร์วางร่างของสาวน้อยบนพื้นทรายนั้นทันที อดัมเข้าไปนั่งคุกเข่าข้างๆ ร่างบางนั้นและเริ่มต้นการทำซีพีอาร์เพื่อดึงวิญญาณกลับสู่ร่างบางนั้นทันที
อื้ม...อ๊ากกก..โอ็ก โอ็ก เสียงไอพร้อมน้ำทะเลที่ไหลออกมาจากปากบางแดงก่ำนั้น อดัมจ้องมองร่างบางนั้นถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะซีดเซียวผมดำยาวประบ่าจะเปียกลีบไปกับศีรษะมนนั้น แต่เธอช่างมีใบหน้าที่เกลี้ยงเกลาและงดงามน่ารักยิ่งนัก ถึงแม้เธอจะค่อนข้างตัวเล็กผอมบางแบบสาวเอเชียแต่ทุกอย่างของเธอก็สมส่วนลงตัวนัก
“อ๊ะ!” อดัมหัวใจกระตุกวาบทันทีเพียงแค่เธอปรือตาลืมขึ้นมาสบตากับเขา และดวงตากลมโตนั้นก็ค่อยๆ ปิดสนิทลงอีกครั้ง อดัมช้อนร่างบางนั้นและมุ่งหน้าไปยังบ้านพักทันที เพราะเขาต้องทำให้ร่างกายนี้อบอุ่นโดยเร็ว เจอาร์เพียงแค่ตามไปเงียบๆ
“เดี๋ยวฉันต้องออกไปทำงาน...เธอพักผ่อนอยู่ที่นี่แล้วกัน...อยู่ได้มั้ยคนเดียว” อดัมลุกขึ้นหลังจากที่จัดการกับอาหารเช้าเสร็จ เขาก็หันมาพูดกับน้ำฟ้า “…ที่ไหนที่ไม่มีนาย...ให้รำคาญหูรำคาญตา...ฉันก็อยู่ได้อย่างมีความสุข...เชอะ!” น้ำฟ้าพูดพร้อมกับลุกขึ้นหยิบจานเปล่าแก้วเปล่าเดินไปโซนครัวเพื่อล้างเก็บ “นี่เธอ!...ฝากไว้ก่อนเถอะ” อดัมหันมามองพร้อมเม้มปากแน่นอย่างระงับอารมณ์ไม่พอใจความอวดดีของหญิงสาวตรงหน้า น้ำฟ้าไม่สนใจและเกรงกลัวต่อคำอาฆาตนั้น เมื่ออดัมหันหลังเดินกลับไปห้องนอน น้ำฟ้าก็แลบลิ้นใส่แผ่นหลังที่องอาจนั้น เจอาร์ได้แต่ยิ้มและกลับเข้าห้องตัวเองไป เพื่อเตรียมตัวเพราะเขาต้องไปกับเจ้านายเขาด้วย อดัมกลับออกมาอีกครั้งด้วยเครื่องแต่งกายอีกแบบ น้ำฟ้าหันไปมอง
“อยู่นี้เอง” น้ำฟ้าพูดเบาๆ พร้อมรอยยิ้มและลากกระเป๋าเข้ามาในห้องนอน และไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ กันกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง และกวาดสายตามองหาห้องน้ำและเดินพร้อมกระเป๋าไปยังทิศทางนั้น อดัมเพียงลืมตาเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวปิดประตูห้องน้ำ และหลับตาลงเข้าสู่นิทราอีกครั้งเหมือนเป็นเรื่องปกติ โดยที่อดัมไม่ได้ฉุกคิดสักนิดว่าเวลาเพียงไม่กี่วันเรื่องระหว่างเขากับน้ำฟ้าหรือนาวามันไม่ใช่สิ่งปกติที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาอยู่ตอนนี้ น้ำฟ้าเมื่อเข้ามาในห้องน้ำ เธอก็เปิดกระเป๋าสะพายใบเล็กโดยทันที และเมื่อสิ่งที่เธอซุกไว้ยังคงอยู่ น้ำฟ้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและหยิบสิ่งที่ได้จากเฮเลนพร้อมกระดาษโน้ต “จงใช้มันเมื่อยามจำเป็น...เพราะยาสองตัวนี้มีทั้งคุณและโทษ...จะเป็นคุณก็ต่อเมื่อใช้อย่างเหมาะสม...” น้ำฟ้าอ่านรายละเอียดนั้น “ยาขวด
เจอาร์และคนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้แต่เงียบกับสงครามย่อมๆ ที่เบาะหลัง แต่สำหรับเจอาร์แล้วนี้ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่เขาเห็นผู้หญิงของ เจ้านายที่กล้าพอที่จะสร้างความขุ่นเคืองไม่พอใจให้กับผู้เป็นนาย “ไหนเธอบอกอีกครั้งสิว่า...ชื่ออะไร” อดัมจ้องเข้าไปในตากลมที่ตอนนี้ใบหน้าเหเกเพราะความเจ็บปวดที่ข้อมือ “น้ำฟ้า...อุ๊บ!” น้ำฟ้าย้ำชื่อตัวเองอีกครั้ง และเมื่อสิ้นเสียงนั้นปากงามก็โดนปิดโดยปากหยักของคนที่นั่งข้างๆ น้ำฟ้าขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อลิ้นร้ายถูกส่งเข้ามา พร้อมมือหนาอีกข้างก็ทำงานอัตโนมัติโดยบีบปลายคางเธอเพื่อให้เธอเปิดทางของลิ้นร้ายเข้าไปในโพรงปากดูดดื่มความหอมหวานปานน้ำผึ้งจากปากบางสีชมพูระเรื่ออย่างธรรมชาติ และเมื่อเวลาผ่านไป มือน้อยๆที่เป็นอิสระพยายามจะผลักอกหนาให้พ้นทางก็เริ่มอ่อนแรงลงเมื่อมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย &ld
ส่วนเจอาร์เมื่อออกมาจากห้องครัวก็เดินมานั่งที่โต๊ะในห้องอาหารด้านขวาของอดัมพร้อมกับยื่นซองเอกสารที่ถือมาด้วยส่งให้กับอดัม อดัมรับไว้และเปิดออกดูในขณะที่รอเฮเลนจัดอาหารมาให้ “น้ำฟ้า ศิริสินธร” อดัมเอ่ยเพียงแค่นั้น และไล่อ่านข้อมูลที่มือขวาจัดการมาให้ และเมื่อเขาดูจนถึงใบสุดท้ายก็เก็บเข้าซองไว้ตามเดิมพร้อมรอยยิ้มปรากฎที่มุมปาก เจอาร์ขมวดคิ้วไม่ได้แปลกใจกับรอยยิ้ม แต่กำลังเตรียมรับฟังสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาต่างหาก “เอาไปทำลาย” อดัมส่งคืนซองนั้นให้กับเจอาร์พร้อมกับคำสั่งใหม่ “…?…” อดัมยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองหน้ามือขวาคนสนิท ที่แสดงออกถึงคำถาม “…ทำเอกสารใหม่...ต่อไปเธอคือ นาวา เบนเน็ต และที่เหลือก็จัดการตามความเหมาะสม”&
“เฮเลนคะ...หนูขออยู่คนเดียวได้มั้ยคะ...ขอบคุณนะคะ” น้ำฟ้าหันไปพูดกับเฮเลนพร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเธอ และทรุดตัวลงนอนอีกครั้ง เพราะน้ำฟ้ารู้สึกว่าเรี่ยวแรงก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ “คะ...ถ้าคุณต้องการอะไรก็บอกดิฉันได้นะคะ” เฮเลนพูดก่อนที่จะออกจากห้องไป ปล่อยหญิงสาวไว้ตามที่เธอต้องการ น้ำฟ้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้งและคิดว่าเธอไม่ควรจะมาเสียน้ำตาให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอและผู้ชายคนนี้ ความอ่อนแอมันไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความทุกข์ที่เธอต้องเผชิญทั้งจากผู้ที่ได้ชื่อว่า ‘พ่อ’ และ ‘ไอ้ผู้ชายแปลกหน้า...นามว่าอดัม’ อดัมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเพราะถึงตอนนี้ผู้หญิงในอ้อมแขนเขาแม้เธอจะลืมตาแต่เธอก็ไม่ขยับหรือขัดขืนต่อต้านเขา เธอทำเพียงอย่างเดียวคือนอนนิ่งๆ และกะพริบตาตามธรรมชาติเท่านั้น “เธออายุเท่าไหร่?” น้ำฟ้าเหลือกตาขึ้นมามองอดัม และขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าเขาจะอยากรู้ไปทำไม “ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” น้ำฟ้ากลับพูดอีกอย่าง อดัมเลิกคิ้วและยิ้มที่มุมปาก และยอมปล่อยแขนปล่อยมือที่พันธนาการเธอไว้ น้ำฟ้าค่อยๆขยับตัวออกจากอ้อมกอดนั้นจากช้าๆก็
“เออ!!!...ฉันอยากฆ่านายด้วยมือของฉันเลยละ...” น้ำฟ้าสวนกลับอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “คงหายเหนื่ยแล้วสิ...ถึงได้ปากกล้าขนาดนี้” “ปล่อยฉันนะ...ไอ้คนบ้า...ฮืออออ” น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างคับแค้นใจ เมื่อน้ำฟ้ารู้ตัวว่าต้องพ่ายแพ้ในพละกำลังกับชายข้างกาย “…….” อดัมจู่ๆเสียงก็หาย เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวข้างกาย “…เลว...คุณมันเลว...” “…นี่เธอ!...ระวังปากไว้ด้วย...” อดัมเตือนหญิงสาวตรงหน้าอย่างใจเย็น เพราะคนอย่างเขาไม่ใจเย็นพอที่จะให้ผู้หญิงที่เขาเก็บได้ มานั่งด่าเขาป่าวๆได้ “…….” คราวนี้เป็นน้ำฟ้าที่เป็นฝ่ายเงียบ เธอปิดเปลือกตาลงไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายตรงหน้า และคิดไปถึงตอนเที่ยงเมื่อวานนี้ที่เธอรู้สึกตัวและเห็นสถานที่ไม่คุ้นตาและตอนนั้นเธอตกใจมาก “คุณเป็น...ใคร?...แล้วที่นี่คือที่ไหน?” น้ำฟ้าร้องถามทันทีที่สายตากวาดไปจนทั่วและมาสบตากับหญิงสาวชาวต่างชาติ “ตื่นแล้วเหรอคะ?...รู้สึกอย่างไรบ้างคะ...ฉันเฮเลนคะเป็นคนดูแลบ้านหลังนี้คะ” เฮเลนพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ใจดีพร้อมรอยยิ้มที่คนที่ได้มอง เห็นแล้วสบายใจ