อดัมเดินเข้ามาในตัวบ้าน เขามุ่งหน้าไปยังห้องส่วนตัวเพราะบ้านพักแห่งนี้มีห้องนอนห้าห้อง สี่ห้องเป็นของคนในครอบครัวและอีกหนึ่งสำหรับแขก อดัมเดินเข้าห้องนอนและเลยไปยังห้องน้ำเพราะเขาต้องล้างตัวเขาและร่างบางนี้ อดัมเปิดน้ำอุ่นลงอ่างและทั้งเขาและเธอก็ลงไปในนั้นด้วยกันโดยที่ร่างบางแทบจะไม่มีเรี่ยวแรงขยับแขนขาเลย คงอาจเพราะร่างกายเธอหยุดหายใจนานเกือบสี่นาทีเธอจึงอ่อนเพลียมาก อดัมค่อยๆปลดเปลื้องอาภรณ์ของร่างบางนี้อย่างนุ่มนวลเพราะเขาไม่อยากจะสร้างรอยแดงบนร่างบางมากไปกว่านี้ และการกระทำของเขาเป็นไปอย่างนุ่มนวลแบบมืออาชีพในการปลดเปลื้องอาภรณ์เพศตรงข้ามให้เป็นอิสระจากปราการป้องกันในการเป็นอุปสรรคสำหรับกิจกรรมสวาทของร่างกาย แต่ครั้งนี้แตกต่างออกไปและคงเป็นครั้งแรกที่ภารกิจครั้งนี้ของเขาไร้ซึ่งการตอบสนองจากร่างในอ้อมกอดนี้
“บ้าจริง!” อดัมร้องพึมพำกับตัวเอง เพราะบางอย่างภายใต้กางเกงเขามันกำลังสร้างปัญหาบางอย่าง และนี้ก็เป็นครั้งแรกอีกอย่างที่เขามีความต้องการผู้หญิงในอ้อมกอดนี้โดยที่เธอไม่ได้ทำอะไรเลย เพียงแค่เธอเปลือยเปล่าไร้ซึ่งสติไม่ต่างไปกับศพในอ้อมกอดเขา ซึ่งเขาเองผ่านผู้หญิงมามากมายบางคนนอนเปลือยเชิญชวนเขา แต่เขาก็สามารถหันหลังให้โดยที่ไม่เสียเวลาหันหลังกลับไปมอง ยามที่เขาไม่ต้องการ
อดัมรีบปลดเปลื้องอาภรณ์ของเขาออกจากร่างกายเช่นกัน และช้อนตัวเธอขึ้นจากอ่างซึ่งทั้งเขาและเธอก็เปลือยเปล่าทั้งคู่ แตกต่างกันที่คนหนึ่งมีสติรับรู้ถึงความรู้สึกที่ก่อเกิดขึ้นภายในร่างกายทุกอย่าง กับอีกคนไร้ซึ่งสติไม่รับรู้อะไรเลย อดัมค่อยๆบรรจงวางร่างบางลงบนเตียงนอนขนาดใหญ่นั้นอย่างอ่อนโยนแบบไม่รู้ตัวเลยว่าคนอย่าง อดัม เบนเน็ต จะอ่อนโยนกับผู้หญิงที่ไม่ใช่แม่ได้
อดัมนำผ้าขนหนูมาพันเอวตัวเองไว้และอีกผืนเช็ดผมและร่างบางนั้นอย่างรวดเร็วและดึงผ้าห่มคลุมร่างบางนั้นให้ความอบอุ่นโดยทันที และตัวเขาก็ไปแต่งตัวใหม่และเดินออกจากห้องไป เจอกับเจอาร์ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่แล้วเช่นกัน
“เธอเป็นอย่างไรบ้างครับ?” เจอาร์ถามออกไป
“ยังไม่รู้สึกตัว...แต่คาดว่าน่าจะมีไข้”
“เธอเป็นใครกัน...ทำไมถึงมาทำอะไรแบบนี้ที่นี่ได้” คำถามไร้ซึ่งคำตอบจากคนฟัง อดัมเพียงแค่หันไปมองประตูที่พึ่งออกมา เหมือนจะมองทะลุประตูนั้นเข้าไปเห็นร่างบางที่ไม่ได้สติอยู่บนเตียงของเขา
“พี่เจอาร์...จัดการเรื่องตั๋วเพิ่มอีกใบให้กับเธอคนนั้น...เธอจะต้องไปอังกฤษกับเรา” เจอาร์หันมามองอดัมกับคำสั่งนี้อย่างไม่เข้าใจ
“เราไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร...ทำเอกสารปลอม...ถ้านายหญิงนีน่าทราบ...” เจอาร์ให้เหตุผลอีกอย่าง เพราะใครจะคิดนายเขาคนนี้มีคนใต้บังคับบัญชานับพันที่ต้องก้มหัวให้ และไหนจะพี่ชายของผู้เป็นนายที่ไม่แพ้กัน และสุดท้ายผู้เป็นนายใหญ่ที่เป็นพ่อของคนทั้งสองที่ควบคุมคนอีกมากมาย แต่ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามคนจะยอมอ่อนและลงให้กับผู้หญิงตัวเล็กที่มีตำแหน่งเป็นแม่และภรรยา นามว่าคุณหนูนาหรือนีน่า เพราะนายหญิงคนนี้จะไม่ยอมให้ลูกชายที่รักทั้งสองคนและสามีเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมายทั้งสิ้นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่
“อย่าให้แม่ผมทราบสิครับ...และระหว่างนี้เราจะให้คนสืบว่าเธอเป็นใครด้วย” เจอาร์รับทราบและพยักหน้าและกล่าวขอตัวเพื่อไปจัดการตามสั่ง
“พรุ่งนี้ผมจะนำเรือมารับครับ” อดัม พยักหน้า
“เอ่อ...ว่าแต่นายจะเรียกเธอว่าอะไรดีครับ”
“นาวา เบนเน็ต ภรรยาของผม เพราะจะทำให้เธอไม่น่าสงสัยนัก” อดัมเสียเวลาคิดไม่นานแจ้งข้อมูลให้คนสนิทพร้อมเหตุผล เจอาร์พยักหน้าเห็นด้วย เพราะคงไม่มีใครกล้าที่จะสร้างความรำคาญและยุ่งยากใจให้กับคนตระกูลเบนเน็ตนักและกล่าวขอตัวอีกครั้ง แต่ก็ไม่ลืมย้ำว่ากับนายของตนอีกเรื่อง “ผมขอภาพถ่ายเธอด้วยครับ” อดัมพยักหน้าและเรื่องนี้คงต้องรอให้เธอฟื้นก่อน และดูแล้วน่าจะบ่ายๆ วันนี้
เมื่อเจอาร์ออกไป อดัมก็เดินแยกไปอีกส่วนของบ้านคือครัว เขาสำรวจของสดก็มีอยู่อย่างละนิดละหน่อยน่าจะเป็นแม่ทูนหัวของพี่ชายคงให้คนมาจัดการเตรียมไว้ให้เมื่อท่านรู้ว่าเขาจะมา และที่ท่านเตรียมของสดไว้เพราะคนภายในจะรู้ว่าเขาทำอาหารเป็น อดัมกับพ่อของเขาจะเหมือนกันในเรื่องนี้คือถ้ามีเวลาอยู่ในพื้นที่ส่วนตัว เขาและพ่อจะเข้าครัวทำอาหารกัน
อดัมหยิบหมูสับและเนื้อสัตว์อีกสองสามอย่างนั้น เมื่อเขาคิดจะทำโจ๊กให้กับหญิงสาวที่นอนบนเตียงนอนเขา และเธอก็เป็นคนแรกที่ได้รับโอกาสทั้งเตียงนอนในพื้นที่ส่วนตัวและอาหารจากฝีมือเขายกเว้นแม่ของเขา อดัมเป็นอีกหนึ่งคนที่ชื่นชอบอาหารไทยเป็นอย่างมาก เพราะสำหรับเขาเป็นอาหารหลักของเขาเลยก็ว่าได้ ซึ่งไม่ต่างไปจากพี่ชายและพ่อของเขาซึ่งยึดอาหารไทยเป็นอาหารหลักของพวกเขามาโดยตลอด
เมื่อเช้าเขาออกมาแต่เช้าทานเพียงแค่กาแฟและขนมปังรองท้องมานิดหน่อยและก็ออกเดินทางมาที่นี่เลยทันทีถึงตอนนี้เกือบจะเที่ยงแล้ว และด้วยที่เขาต้องออกแรงไปเมื่อครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมาทำให้เขาค่อนข้างหิว แต่อดัมค่อนข้างพิถีพิถันเรื่องการกิน แต่ใช่ว่าจะแค่การกิน สำหรับเขาแล้วเขาให้ความสำคัญกับทุกเรื่องในการดำรงอยู่ของชีวิต เขาได้รับการสั่งสอนถึงคุณค่าของชีวิต และด้วยเหตุผลนี้บอกได้เลยว่าเขามีความรู้สึกติดลบกับการกระทำของหญิงสาวบนเตียงนอนเขายิ่งนัก ความทุกข์อะไรนักหนาถึงทำให้เธอตัดสินใจทำเรื่องนี้ได้ เขาจะต้องรู้เรื่องนี้ให้จงได้...
“อ๊ะ!...” อดัมตกใจอีกครั้งกับตัวเอง ว่าทำไมเขาถึงอยากรู้เรื่องราวของเธอนัก
“เดี๋ยวฉันต้องออกไปทำงาน...เธอพักผ่อนอยู่ที่นี่แล้วกัน...อยู่ได้มั้ยคนเดียว” อดัมลุกขึ้นหลังจากที่จัดการกับอาหารเช้าเสร็จ เขาก็หันมาพูดกับน้ำฟ้า “…ที่ไหนที่ไม่มีนาย...ให้รำคาญหูรำคาญตา...ฉันก็อยู่ได้อย่างมีความสุข...เชอะ!” น้ำฟ้าพูดพร้อมกับลุกขึ้นหยิบจานเปล่าแก้วเปล่าเดินไปโซนครัวเพื่อล้างเก็บ “นี่เธอ!...ฝากไว้ก่อนเถอะ” อดัมหันมามองพร้อมเม้มปากแน่นอย่างระงับอารมณ์ไม่พอใจความอวดดีของหญิงสาวตรงหน้า น้ำฟ้าไม่สนใจและเกรงกลัวต่อคำอาฆาตนั้น เมื่ออดัมหันหลังเดินกลับไปห้องนอน น้ำฟ้าก็แลบลิ้นใส่แผ่นหลังที่องอาจนั้น เจอาร์ได้แต่ยิ้มและกลับเข้าห้องตัวเองไป เพื่อเตรียมตัวเพราะเขาต้องไปกับเจ้านายเขาด้วย อดัมกลับออกมาอีกครั้งด้วยเครื่องแต่งกายอีกแบบ น้ำฟ้าหันไปมอง
“อยู่นี้เอง” น้ำฟ้าพูดเบาๆ พร้อมรอยยิ้มและลากกระเป๋าเข้ามาในห้องนอน และไม่ลืมที่จะหยิบกระเป๋าสะพายใบเล็กที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ กันกลับเข้ามาในห้องนอนอีกครั้ง และกวาดสายตามองหาห้องน้ำและเดินพร้อมกระเป๋าไปยังทิศทางนั้น อดัมเพียงลืมตาเล็กน้อยเมื่อหญิงสาวปิดประตูห้องน้ำ และหลับตาลงเข้าสู่นิทราอีกครั้งเหมือนเป็นเรื่องปกติ โดยที่อดัมไม่ได้ฉุกคิดสักนิดว่าเวลาเพียงไม่กี่วันเรื่องระหว่างเขากับน้ำฟ้าหรือนาวามันไม่ใช่สิ่งปกติที่เกิดขึ้นกับชีวิตเขาอยู่ตอนนี้ น้ำฟ้าเมื่อเข้ามาในห้องน้ำ เธอก็เปิดกระเป๋าสะพายใบเล็กโดยทันที และเมื่อสิ่งที่เธอซุกไว้ยังคงอยู่ น้ำฟ้าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกและหยิบสิ่งที่ได้จากเฮเลนพร้อมกระดาษโน้ต “จงใช้มันเมื่อยามจำเป็น...เพราะยาสองตัวนี้มีทั้งคุณและโทษ...จะเป็นคุณก็ต่อเมื่อใช้อย่างเหมาะสม...” น้ำฟ้าอ่านรายละเอียดนั้น “ยาขวด
เจอาร์และคนขับรถที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้แต่เงียบกับสงครามย่อมๆ ที่เบาะหลัง แต่สำหรับเจอาร์แล้วนี้ก็เป็นครั้งแรกเช่นกันที่เขาเห็นผู้หญิงของ เจ้านายที่กล้าพอที่จะสร้างความขุ่นเคืองไม่พอใจให้กับผู้เป็นนาย “ไหนเธอบอกอีกครั้งสิว่า...ชื่ออะไร” อดัมจ้องเข้าไปในตากลมที่ตอนนี้ใบหน้าเหเกเพราะความเจ็บปวดที่ข้อมือ “น้ำฟ้า...อุ๊บ!” น้ำฟ้าย้ำชื่อตัวเองอีกครั้ง และเมื่อสิ้นเสียงนั้นปากงามก็โดนปิดโดยปากหยักของคนที่นั่งข้างๆ น้ำฟ้าขัดขืนแต่ก็ไม่เป็นผลเมื่อลิ้นร้ายถูกส่งเข้ามา พร้อมมือหนาอีกข้างก็ทำงานอัตโนมัติโดยบีบปลายคางเธอเพื่อให้เธอเปิดทางของลิ้นร้ายเข้าไปในโพรงปากดูดดื่มความหอมหวานปานน้ำผึ้งจากปากบางสีชมพูระเรื่ออย่างธรรมชาติ และเมื่อเวลาผ่านไป มือน้อยๆที่เป็นอิสระพยายามจะผลักอกหนาให้พ้นทางก็เริ่มอ่อนแรงลงเมื่อมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย &ld
ส่วนเจอาร์เมื่อออกมาจากห้องครัวก็เดินมานั่งที่โต๊ะในห้องอาหารด้านขวาของอดัมพร้อมกับยื่นซองเอกสารที่ถือมาด้วยส่งให้กับอดัม อดัมรับไว้และเปิดออกดูในขณะที่รอเฮเลนจัดอาหารมาให้ “น้ำฟ้า ศิริสินธร” อดัมเอ่ยเพียงแค่นั้น และไล่อ่านข้อมูลที่มือขวาจัดการมาให้ และเมื่อเขาดูจนถึงใบสุดท้ายก็เก็บเข้าซองไว้ตามเดิมพร้อมรอยยิ้มปรากฎที่มุมปาก เจอาร์ขมวดคิ้วไม่ได้แปลกใจกับรอยยิ้ม แต่กำลังเตรียมรับฟังสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาต่างหาก “เอาไปทำลาย” อดัมส่งคืนซองนั้นให้กับเจอาร์พร้อมกับคำสั่งใหม่ “…?…” อดัมยิ้มเล็กน้อยเมื่อมองหน้ามือขวาคนสนิท ที่แสดงออกถึงคำถาม “…ทำเอกสารใหม่...ต่อไปเธอคือ นาวา เบนเน็ต และที่เหลือก็จัดการตามความเหมาะสม”&
“เฮเลนคะ...หนูขออยู่คนเดียวได้มั้ยคะ...ขอบคุณนะคะ” น้ำฟ้าหันไปพูดกับเฮเลนพร้อมรอยยิ้มทั้งน้ำตาให้กับเธอ และทรุดตัวลงนอนอีกครั้ง เพราะน้ำฟ้ารู้สึกว่าเรี่ยวแรงก่อนหน้านี้หายไปไหนหมดก็ไม่รู้ “คะ...ถ้าคุณต้องการอะไรก็บอกดิฉันได้นะคะ” เฮเลนพูดก่อนที่จะออกจากห้องไป ปล่อยหญิงสาวไว้ตามที่เธอต้องการ น้ำฟ้าค่อยๆ ลืมตาขึ้นอีกครั้งและคิดว่าเธอไม่ควรจะมาเสียน้ำตาให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเธอและผู้ชายคนนี้ ความอ่อนแอมันไม่ช่วยให้เธอหลุดพ้นจากความทุกข์ที่เธอต้องเผชิญทั้งจากผู้ที่ได้ชื่อว่า ‘พ่อ’ และ ‘ไอ้ผู้ชายแปลกหน้า...นามว่าอดัม’ อดัมขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจเพราะถึงตอนนี้ผู้หญิงในอ้อมแขนเขาแม้เธอจะลืมตาแต่เธอก็ไม่ขยับหรือขัดขืนต่อต้านเขา เธอทำเพียงอย่างเดียวคือนอนนิ่งๆ และกะพริบตาตามธรรมชาติเท่านั้น “เธออายุเท่าไหร่?” น้ำฟ้าเหลือกตาขึ้นมามองอดัม และขมวดคิ้วอย่างสงสัยว่าเขาจะอยากรู้ไปทำไม “ฉันอยากเข้าห้องน้ำ” น้ำฟ้ากลับพูดอีกอย่าง อดัมเลิกคิ้วและยิ้มที่มุมปาก และยอมปล่อยแขนปล่อยมือที่พันธนาการเธอไว้ น้ำฟ้าค่อยๆขยับตัวออกจากอ้อมกอดนั้นจากช้าๆก็
“เออ!!!...ฉันอยากฆ่านายด้วยมือของฉันเลยละ...” น้ำฟ้าสวนกลับอย่างไม่เกรงกลัวอะไร “คงหายเหนื่ยแล้วสิ...ถึงได้ปากกล้าขนาดนี้” “ปล่อยฉันนะ...ไอ้คนบ้า...ฮืออออ” น้ำตาเริ่มไหลออกมาอย่างคับแค้นใจ เมื่อน้ำฟ้ารู้ตัวว่าต้องพ่ายแพ้ในพละกำลังกับชายข้างกาย “…….” อดัมจู่ๆเสียงก็หาย เมื่อเห็นน้ำตาของหญิงสาวข้างกาย “…เลว...คุณมันเลว...” “…นี่เธอ!...ระวังปากไว้ด้วย...” อดัมเตือนหญิงสาวตรงหน้าอย่างใจเย็น เพราะคนอย่างเขาไม่ใจเย็นพอที่จะให้ผู้หญิงที่เขาเก็บได้ มานั่งด่าเขาป่าวๆได้ “…….” คราวนี้เป็นน้ำฟ้าที่เป็นฝ่ายเงียบ เธอปิดเปลือกตาลงไม่อยากเห็นหน้าผู้ชายตรงหน้า และคิดไปถึงตอนเที่ยงเมื่อวานนี้ที่เธอรู้สึกตัวและเห็นสถานที่ไม่คุ้นตาและตอนนั้นเธอตกใจมาก “คุณเป็น...ใคร?...แล้วที่นี่คือที่ไหน?” น้ำฟ้าร้องถามทันทีที่สายตากวาดไปจนทั่วและมาสบตากับหญิงสาวชาวต่างชาติ “ตื่นแล้วเหรอคะ?...รู้สึกอย่างไรบ้างคะ...ฉันเฮเลนคะเป็นคนดูแลบ้านหลังนี้คะ” เฮเลนพูดตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ใจดีพร้อมรอยยิ้มที่คนที่ได้มอง เห็นแล้วสบายใจ