เด็กหนุ่มมาช่วยพิมดาวที่ร้านทุกวัน เธอสงสารจึงซื้อข้าวหรืออาหารเล็กน้อยเป็นการตอบแทน
"ไม่ต้องมาช่วยพี่ก็ได้ พี่พอจะทำเองได้อีกอย่างพี่แสงก็อยู่เป็นบางวัน"
เอกหน้าระห้อยเมื่อพิมดาวตัดบทไม่ให้มาช่วยเพราะร้านเธอก็ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก
"หรือนายมีปัญหาอะไรที่เล่าให้ฟังไม่หมด ไหนลองบอกมาสิเผื่อพี่ช่วยได้"
เอกก้มหน้าเงียบ เขานั่งเหมือนหมดอาลัยตายอยาก เขาจึงเล่าให้พิมดาวฟังอย่างเสียไม่ได้
"ผมอยากทำงานครับ ไม่ได้เรียนหนังสือที่บ้านของผมมียายกับน้องเล็กๆอยู่นะ ต้องใช้เงินซื้อข้าวกินมีแต่พี่นี่แหละที่ใจดีกับเอก"
พิมดาวถอนหายใจยาวเธอยอมรับว่าเครียดอยู่เหมือนกัน โลกนี้ช่างโหดร้ายและไม่ยุติธรรมเหลือเกิน เด็กอย่างเอกไม่ได้เรียนหนังสือเพราะความจน บทคนจะรวยก็รวยล้นฟ้า หาความพอดีไม่ได้เลย เธอนั่งคิดว่าจะช่วยเด็กชายที่อยู่เบื้องหน้าได้อย่างไร
"เอางี้ เสริฟอาหารได้ไหมนอนดึกอะไรแบบนี้ หน้าเธอโกงอายุได้อยู่ ฉันจะฝากงานร้านอาหารร้านใหญ่ให้นะ รู้จักกับเจ้าของร้านแต่ไม่รู้เขาจะช่วยเหลือหรือเปล่านะเดี๋ยวจะลองถามให้ พรุ่งนี้มาฟังคำตอบนะเอก"
เอกมีสีหน้าดีใจอย่างเห็นได้ชัดถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ทำก็ช่าง แต่ความหวังของเขาก็มีขึ้นมาบ้างแม้ริบหรี่ก็ตาม
"งั้นเอกช่วยพี่ดาวเสร็จจะกลับบ้านเอาข้าวเอาน้ำไปให้ยายก่อนนะครับ พี่ดาวมีอะไรจะใช้เอกอีกไหมครับเอกยินดี"
พิมดาวใจดีกับคนที่ด้อยกว่าเสมอเธอถือว่าได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ถึงแม้ว่าฐานะของเธอก็ยังต้องดิ้นรนแต่ก็ยังไม่เท่าคนอื่น เธอจึงเกลียดพวกคนรวยที่ชอบเอาเปรียบคนจนมาก รวยแล้วยังเห็นแก่ตัวอีกพิมดาวเจอเมื่อไรเป็นต้องแก้เผ็ดหรือสั่งสอนถ้ามีโอกาสทุกทีไป จนส่องแสงเพื่อนสนิทของเธอเองต้องคอยเตือน
"เฮ้ย...ดาวแกเป็นผู้หญิงนะ ไม่ใช่ผู้ชายแล้วแกจะคอยช่วยเหลือคนทั้งโลกแบบนี้ไม่ได้ แกก็ต้องมีภาระหน้าที่คอยเลี้ยงดูพ่อแม่และตัวแกเองอีก"
พิมดาวเข้าใจที่เพื่อนคอยเตือนเสมอแต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะคอยเสือกเรื่องของชาวบ้านที่ผ่านเข้ามาให้เธอเห็นและรับรู้ไม่ได้ แม้แต่เจ้าของตลาดแห่งนี้ พิมดาวก็ทราบข่าวว่าเจ้าของก็เหนียวกัดไม่เข้าเช่นกัน
"ยังๆ ยังไม่เคยเจอเจ้าของตลาดนี้ ได้ข่าวว่าเอาเรื่องอยู่ ไม่เคยเดินตลาดเองให้ลูกน้องจัดการตลอดผลัดแค่วันสองวันจะตาย ไม่เห็นใจคนทำมาหากินบ้างเดี๋ยวเถอะเจออีดาวเข้าไปแล้วจะหนาวมึง"
พิมดาวฟังส่องแสงพูดแล้วพึมพำอยู่คนเดียว ส่วนเอกกลับบ้านเอาข้าวเอาน้ำไปให้ยายกับน้อง เขาจะกลับมาช่วยใหม่พรุ่งนี้ ซึ่งพิมดาวก็ยินดีเธอเริ่มเอ็นดูเอกเหมือนน้องชายเพราะเป็นลูกสาวคนเดียวไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก ต่อสู้คนเดียวมาตลอดเช่นกันจะมีก็แต่ส่องแสงคอยเป็นกำลังใจยามทุกข์ไม่สบายใจเป็นเพื่อนที่ดีมาตลอด
"เดี๋ยวเลิกร้านแล้ววันนี้จะไปหาเจ๊ลีสักหน่อย ไปถามงานให้เอกมันนะแสง สงสารมันอยากได้งานทำ แกว่าไง"
"แล้วแต่แก ไปไหนไปกันแสงตามดาวไปได้ทุกที่แหละว่างนะช่วงนี้ ได้ๆ"
"มันก้ต้องแบบนี้สิเพื่อน อีดาวชอบเสือกเรื่องของชาวบ้านจะถูกทุบหัววันไหนก็ไม่รู้ เฮ้ย...หยุดเสือกไม่ได้จริงๆเลย"
เธอก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมเป็นเช่นนี้ ในขณะที่นั่งขายของอยู่มือขวาเจ้าของตลาดก็เดินมาเก็บค่าเช่า
"เก็บค่าเช่าที่แม่ค้า วันนี้มาเร็วหน่อยรีบจะไปตลาดอื่นอีก "
"อ้าว...ยังขายไม่ได้เลยมาเก็บเงินแล้ว รอก่อนได้ไหม ยังไม่ได้รับเงินเลยนี่เห็นไหม"
พิมดาวยกระเป๋าให้ดูว่าเธอยังไม่ได้รับเงินหรือขายของได้เพราะของเพิ่งเรียงและวางเสร็จ แต่ไอ้ซันกับยนต์หาได้สนใจไม่ มันทั้งสองเก็บมาได้ทุกร้านแล้วจะยกเว้นร้านพิมดาวก็กระไรอยู่
"ไม่ได้ต้องจ่าย ไม่งั้นไม่ต้องขาย"
"อ้าวพี่ชาย นิดหน่อยเองมาเก็บพรุ่งนี้ได้ไหม ฉันขอขายของก่อน ของก็วางแล้วจะไม่ให้ขายก็ใจร้ายไปหน่อยแล้ว"
พิมดาวนิสัยเสียอย่างหนึ่งพูดดีๆกับเธอเธอจ่ายแต่ถ้าพูดไม่ดีหรือบังคับเธอจะแกล้งไม่ยอมจ่ายซะงั้นให้มันทั้งสองหัวเสียเล่น
ไอ้ยนต์กับไอ้ซันกันหน้าปรึกษากัน จริงๆแล้วเจ้านายของมันให้จ่ายช้าได้แต่มันสองคนดันต้องการใช้เงิน มันทั้งคู่มองหน้าแม่ค้าที่เอาเรื่องอยู่เช่นนั้นก็แอบกลัวเหมือนกันว่าเรื่องจะถึงเจ้านายของมันขึ้นมา ไม่งั้นเงินที่มันเก็บเกินมาจะไม่ได้แม้แต่บาทเดียว
"งั้นพรุ่งนี้นะจะมาใหม่ ทุกร้านจ่ายกันหมดยกเว้นของน้องสาวนี่แหละ เห็นว่าสวยนะพรุ่งนี้มาใหม่นะอย่าลืมเตรียมไว้ให้ด้วย"
พิมดาวมองตามหลังสองสมุนเจ้าของตลาดออกไปในใจก็บ่นอย่างเสียไม่ได้
"เคี่ยว เห็นแก่ตัวชะมัดอยากเห็นหน้าจริงๆเจ้าของตลาดนี่ หน้าตาคงเค็มน่าดูยิ่งกว่าเกลืออีก อ้าว...แสงหายไปไหนมาแก ปล่อยให้ฉันต้องเถียงกับคนเก็บเงินเจ้าของตลาดจนเกือบชกหน้ามันเสียแล้ว"
"ก็ไปช่วยแกคุยเรื่องเด็กเอกนั่นที่ต้องการหางานทำไม่ใช่รึ เขารับด้วยวะฉันบอกว่าเป็นเด็กพิมดาวมันเขารับทันทีเลย บอกพิมดาวมันไว้ใจได้"
พิมดาวจากอารมณ์เสียจากไอ้ซันไอ้ยนต์ก็ยิ้มออกมาได้ เมื่อเด็กเอกจะได้มีงานทำเสียที
"จริงดิ แกพูดแค่นี้จริงๆ เจ้เขารับเลยเหรอ"
"อืม...แต่เจ๊บอกเอกอายุยังน้อยต้องให้อยู่ช่วยล้างจานในครัวก่อน เดี๋ยวทำข้างนอกวุ่นวายนะเขาบอกมาอย่างนั้น ฉันก็ว่าจริงวะ"
ทั้งสองเห็นดีเห็นงามให้เอกไปทำงานร้านเจ๊ภาก่อนดีกว่าไม่มีงานทำเป็นเด็กฉกชิงวิ่งราวอยู่แถวนี้ เผลอๆเจ๊ใจดีรักใคร่เอกส่งเสียให้เรียนหนังสือ เพราะร้านเจ๊ที่พิมดาวรู้จักเป็นร้านใหญ่พอสมควรมีลูกค้าเยอะ รับนักท่องเที่ยวและคณะทัวร์แต่ละครั้งโต๊ะก็เต็มแล้ว
"ฉันว่านะแก เจ๊ภาแกเป็นคนใจดีนะเปิดโอกาสให้คนตกงานไม่มีงานทำได้ทำมาหากิน ฉันว่าคนแบบนี้สิดีชอบเนอะแก"
พิมดาวและส่องแสงหันไปเรียกลูกค้าเข้าร้านกันอีกครั้ง ทั้งคู่แทบไม่ได้หยุดมือเมื่อเวลามืดผู้คนเริ่มออกมาจับจ่ายเดินเล่นกันมากขึ้น พิมดาวแอบดีใจที่เอกจะได้
งานทำเสียที ไม่ต้องเป็นเด็กข้างถนนเตร็ดเตร่ไม่มีงานทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ
จิ้บ...จิ้บ...จิ้บเสียงนกที่ออกหากินตอนเช้า พิมดาวลืมตาตื่นขึ้นมา แม้ภาพตรงหน้ามันจะยังไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ในสมองของเธอก็มีคำพูดชองกันต์ผุดขึ้นมาในหัว"เขาจะมาเอาคำตอบวันนี้นี่นา แย่แล้วดาวเอ๋ย ทำไงดี ไหนจะนายศิชลอีก แล้วกันต์ละ"ขณะกำลังคิดไรเพลินๆเสียงของแม่ที่ดังอยู่ข้างล่างก็แทรกเข้ามาในความคิด"ดาวเอ้ย...ตื่นหรือยังลูก เป็นเพื่อนแม่ไปตลาดหน่อย เช้าๆแบบนี้ของกำลังเยอะ""ค่ะแม่...ดาวกำลังลงไปคะ เดี๋ยวค่อยคิดก็แล้วกัน"พิมดาวรีบลุกจากเตียงเพื่อเข้าห้องน้ำ ล้างหน้าแปรงฟันเพื่อเป็นเพื่อนมารดาไปตลาด มันทำให้เธอลืมเรื่องของกันต์และศิชลไปชั่วขณะบ้านศิชล..."ดาวดูเปลี่ยนไปจริงๆ ฉันขอโทษนะที่ละเลยไม่ใส่ใจดูแลเธอ หรือฉันต้องเสียเธอไปจริงๆแล้วใช่ไหม"คิดพลางก็อัดบุหรี่ที่ครีบอยู่ในมือเข้าเต็มปอด "ชลลูก...ทำไมหันมาสูบบุหรี่อีกละ พ่อจำได้ว่าลูกเลิกมันไปนานแล้ว"บิดาของเขาติงขึ้นมา เมื่อเห็นบุตรชายกลับมาสูบมันอีกสิชลตกใจเล็กน้อยกับเสียงบิดาที่เดินมาข้างหลังเขา ในขณะที่กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่"ครับ...พอดีผมมีเรื่องให้ต้องคิด หลายปีมานี่บ้านเรามีแต่เรื่องร้ายๆเกิดขึ้น พ่อว่าไหม ถ้ามันจะมีอีกสั
บ้านของกันต์...ภายในบ้านที่รายรอบด้วยความเขียวชะอุ่มน่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง ยิ่งตอนนี้หน้าฝน สายฝนที่โปรยปรายลงมาเมื่อต้นไม้ที่กันต์ปลูกเหล่านั้นได้รับน้ำที่ชุ่มฉ่ำจากฟากฟ้า ก็พากันออกดอกออกผลกันจนเจ้าของยิ้มหน้าบานไม่หยุด"อ้าวกันต์มานั่งยิ้มทำไมคนเดียวหน้าบ้าน"มารดาของกันต์ที่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรของกันต์ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวเอ่ยถามขึ้นมา เมื่อเดินตามหาลูกชายในบ้านไม่พบ"ครับแม่ มองดูผลงานตัวเองนะ แม่ครับกันต์สมควรต้องไปหางานทำเลี้ยงแม่แล้วใช่ไหม เกาะแม่กินมาเกือบปีแล้วตั้งแต่กลับมา" กันต์ชักไม่แน่ใจในคำถามเหมือนกัน ใจหนึ่งก็ห่วงมารดาเป็นที่สุด"กันต์ กันต์ต้องถามตัวเองแล้วลูกว่าต้องการอะไรแบบไหน ต้องการอะไรแม่ไม่บังคับ แม้แต่เรื่องการมีครอบครัวของกันต์ก็ตาม"มารดาของเขาพยายามเข้าเรื่องเมื่อต้องการลูกสะใภ้อย่างพิมดาว บ้านข้างเคียงมาอยู่เป็นเพื่อนลูกชาย"แม่รู้ว่าผมชอบพิมดาวใช่ไหม"เขาเอ่ยถามซ้ำมารดาให้แน่ใจพลางมองไปข้างหน้าที่มีดอกกุหลาบออกดอกชูสะพรั่งเต็มไปหมด"รู้สิ ไม่งั้นจะเป็นแม่ของลูกได้ยังไงกัน ไอ้เด็กโง่"มารดาของเขาลูบหัวบุตรชายเบาๆไปมา"ลูกพร้อมให้แม่ไปขอวันไหนก็บอก แม่พร้อมเสม
ภายในใจของศิชลกำลังสบสันและว้าวุ่นใจเป็นที่สุด ขณะที่เขากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่นั้น หน้าอกของนวลมาแนบชิดกับใบหน้าเขาอย่างไม่รู้ตัว"ถอยไปนวล"เสียงของเขาแผ่วลงต่างจากทุกครั้ง จนนวลรู้สึกถึงชัยชนะที่มีอยู่ในใจ ไม่เสียแรงที่เธอเฝ้าตามตื้อเขามานาน ไม่คิดว่าผู้ชายใจแข็งอย่างศิชลจะเสียท่าเธอง่ายๆ"นายคะ...อย่าปฏิเสธนวลเลย ให้นวลช่วยให้นายหายเครียด"นวลจ้องตาศิชลด้วยมารยาร้อยเล่มเกวียนที่มีอยู่ในตัว เธอหวังว่าครั้งนี้จะทำมันสำเร็จ เธอเอาตัวเข้าไปแนบชิดนายใหญ่รองจากคุณอัศวินอีกครั้งและหยั่งเชิงไปในตัวผิดคาด...เขาไม่ผลักใสเธอเหมือนทุกครั้งแต่กลับคว้านวลเข้ามากอดและดันตัวให้นั่งลงบนตัก ศิชลก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเพราะอะไรทำให้เขากลับมายุ่งเกี่ยวกับนวลอีกครั้ง อาจเป็นเพราะพิมดาวที่มีท่าทางเมินเฉยเช่นนั้นหรือบวกกับความน้อยใจที่เธอมีชายหนุ่มอีกคนอยู่ข้างกายก็เป็นได้บทรักที่เร่าร้อนจากผู้ชายที่ใจง่ายอย่างศิชลก็เริ่มขึ้น นวลหัวเราะเสียงดังอยู่ในใจพลางคิด"ผู้ชายก็เหมือนกันหมดแหละ มักง่ายใจง่ายไม่มีจิตใจมั่นคง ยั่วแค่นี้ก็เสียท่าแล้ว"นวลคิดในใจเมื่อแผนของเธอสำเร็จ และชนะอยู่ในทีนวลเอื้อมมือไปแกะกระ
บ้านพิมดาว..."อ้าว...ยัยดาวเป็นอะไรเขี่ยข้าวในจานไปมาไม่ยอมกินให้หมดสักที ไอ้ลูกคนนี้นี่"มารดาของพิมดาวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นพิมดาวได้แต่เหม่อลอยคล้ายมีเรื่องให้ต้องคิด"อ้อ...แม่คะ ดาวกำลังคิดว่าถ้าขายของดีขนาดนี้เราไปเช่าตึกเลยดีไหม"พิมดาวกลบเกลื่อนเอาเรื่องขายของมาอ้าง เพื่อไม่ให้มารดาของเธอรู้ความในใจที่มี หากแต่เรื่องที่คิดกลับไม่ใช่เรื่องค้าขายหรือร้านค้าแต่เป็นเรื่องของศิชลแทน"ดาวอิ่มแล้วคะแม่ ขอตัวไปพักนะคะ ขายดีจนแทบไม่ได้หายใจเลยคะ"พิมดาวยิ้มหากแต่ใบหน้ากลับเจื่อนตรงกันข้ามกับความยินดีนั้น"อืม...น่ารวยจังลูกสาวของฉันจะไปไหนก็ไปเถอะ เดี๋ยวแม่กับพ่อก็จะอิ่มเหมือนกัน""คะแม่"พิมดาวลุกจากโต๊ะอาหารทันทีหลังขออนุญาตมารดาของเธออย่างไม่รอช้า"แปลกๆลูกคนนี้ ปกติเป็นลิงเป็นค่าง วันนี้นิ่งเงียบเฉยเลย แม่ไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไรพ่อ"มารดาของเธอสังเกตุ"ช่างเถอะแม่ มีอะไรเดี๋ยวลูกก็บอกเราเองแหละ รีบกินจะได้ไปพักผ่อนบ้าง"บิดาของพิมดาวตัดบทเพราะรู้นิสัยลูกสาวดีว่าเป็นเช่นไร ถ้าพิมดาวไม่บอกถามให้ตายนางก็ไม่มีวันปริปากเด็ดขาด"เราจะทำอย่างไรดีกับผู้ชายคนนี้นะ ทำไมยิ่งหนีก็ยิ่งเจอ"พิมดาวมีสีหน้าค่
ระว่างนั้นด้วยความคิดถึง ศิชลลืมไปว่าอยู่ในตลาดเขาเผลอคว้าพิมดาวเข้าไปกอดอย่างลืมตัว"ว้าย...นายทำอะไรนะ นี่มันกลางสาธารณะชนเลยนะ นายจะบ้าแล้วเหรอ"กันต์ที่เฝ้ามองเหตุการณ์ตั้งแต่แรกเมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทนไม่ไหว เจ้าของตลาดก็เถอะไม่สนใจแล้วเขากระชากคอเสื้อของศิชลให้ถอยห่างจากพิมดาวทันที"นายจะทำอะไร เห็นเป็นเจ้าของตลาดนึกอยากทำอะไรก็ได้งั้นหรือ"กันต์เอ่ยขึ้นอย่างเหลืออด ถึงแม้เขาจะแอบชอบพิมดาวอยู่ลึกๆในใจ ไม่ค่อยเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ตาม อย่างไรเสียเขาก็ต้องการปกป้องพิมดาวให้พ้นจากศิชลอยู่ดี"นาย...นาย ไม่เป็นไรแล้ว ฉันไม่เป็นไร เขาคงจำคนผิดนะถึงทำอะไรแบบนั้นลงไป ฉันไม่ถือคนบ้าหรอก"พิมดาวไม่อยากให้เรื่องราวลุกลามใหญ่โตจึงเอ่ยขึ้นอย่างเสียไม่ได้ส่วนศิชลเมื่อตั้งสติได้ก็เห็นว่ามีคนมองอยู่เต็มตลาดเขาจึงยอมอ่อนลงแล้วมองหน้ากันต์และพิมดาวสลับกันด้วยความหึงหวง"คุณ...ไอ้คนนี้เป็นใคร"ศิชลสาวเท้าเข้าไปใกล้พิมดาวแล้วเอ่ยถามเป็นเชิงกระซิบกระซาบไม่ให้อีกฝ่ายคือกันต์ได้ยิน"แฟนใหม่ฉันเองคะเรารักกัน ฉันกับเขากำลังจะแต่งงานกันเร็วๆนี้"พิมดาวตัดบทแต่หารู้ไม่ว่าเหมือนกระพือไฟในตัวของศิชลให้ล
ภายในบ้านของศิชล พ่อลูกนั่งสนธนากันชั่วครู่ก่อนแยกย้ายกันไปพักผ่อนหลังจากเดินทางมาเหน็ดเหนื่อยและต้องการพักผ่อนโดยเฉพาะศิชล"ชล...พ่อมีเรื่องจะบอกแก เมื่อวันก่อนตำรวจมาแจ้งข่าวเรื่องคนร้ายที่ลอบยิงน้องชายแกว่าจับมันได้แล้วทั้งสองคน ต่อไปนี้น้องของแกคงได้ไปเกิดเสียที หลังจับคนร้ายได้น้องแกคงหมดห่วงแล้วแหละ"บิดาของเขาเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นศิชลกำลังลุกขึ้นยืนเพื่อเดินเข้าห้อง คุณอัศวินนั่งมองหน้าบุตรชายคนโตที่กำลังน้ำตาคลอเพราะคิดถึงคนบนฟ้า และดีใจที่บิดาของเขาแจ้งข่าวดีที่สุดในรอบปีก็ว่าได้ไม่คิดว่ามันจะเป็นจริงได้ในวันนี้"จริงหรือครับคุณพ่อ พวกมันจะได้ชดใช้กรรมกันเสียทีในคุก ส่วนน้องก็คงหมดห่วงไปเกิดใหม่ไม่ต้องห่วงอะไรอีก"คุณอัศวินลุกจากเก้าอี้ที่อยู่หัวโต๊ะเดินอ้อมมาหาบุตรชายคนโตด้วยความเป็นห่วงแล้วตบไหล่เบาๆ"ส่วนแกละชล ชีวิตเป็นยังไงบ้างหมดเรื่องน้องไปอีกเรื่องแล้ว"ศิชลไม่รู้จะเริ่มเรื่องไหนก่อนในรอบหนึ่งปีมานี่ ช่างมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับเขาหลายเรื่องเหลือเกินจนจับต้นชนปลายไม่ถูก แต่ก็ต้องมาสะดุดกับเรื่องของพิมดาวภรรยาของเขาที่หนีมาอยู่กรุงเทพเพราะเข้าใจผิดในตัวเขาเองกับนวล"พ่