Share

บทที่ : 4

last update Last Updated: 2024-11-25 21:12:16

04

หูหลี่หันมาจ้องมองใบหน้าของเสี่ยวลู่ที่ยามนี้กำลังตั้งอกตั้งใจอ่านตำราอยู่ของกายตน นี้ถือเป็นครั้งแรกที่ตนกับนางได้นั่งอยู่ในห้องทำงานของตนเช่นนี้ นับว่าเป็นโชคดีสำหรับตนจริง ๆ 

" ฟูเหรินเจ้าอยากกลับไปพักผ่อนก่อนหรือไม่ "

" สวามีนี้ท่านมิอยากให้ข้าอยู่กับท่านต่อรึ เหตุใดท่านจึงถามข้าเช่นนี้ " ลู่ปิงปิงแสร้งทำใบหน้าเศร้าสร้อยพลางใช้มือเรียวปิดตำราสมุนไพร

" มิใช่เช่นนั้นข้าเพียงเป็นห่วงเจ้าเห็นว่าเจ้าพึ่งจะอาการดีขึ้นจึงมิอยากให้เจ้าต้องมานั่งหลังคดหลังแข็งเช่นนี้ "

" สวามีข้าบอกท่านแล้วว่าท่านมิต้องเป็นห่วงข้า เหตุใดท่านจึงมิฟังข้าเลย ข้ารู้กำลังของตัวข้าดีนะเจ้าค่ะ "

" มิเช่นไรเจ้าก็เริ่มดื้อรั้นเอาแต่ใจต่อข้าแล้ว "

" สวามีท่านจะมากล่าวหาข้าเช่นนี้มิได้นะเจ้าค่ะ ข้าเพียงแค่เอ่ยออกมาตามความเป็นจริงเท่านั้น มิเชื่อท่านก็ลองหันไปถามท่านโมลู่หานดูสิเจ้าคะ ว่าสิ่งที่ข้าพูดมามันจริงหรือไม่ "

" เอ่อ พอดีข้าพึ่งนึกได้ว่าข้าจะต้องออกไปหารือกับท่านจื่อหนาน ข้าขอตัวก่อนนะ เจ้าทั้งสองพูดคุยกันต่อเลย ข้ามิกวนเจ้าทั้งสองแล้ว " เอ่ยจบโมลู่หานก็รีบเดินออกมาจากห้องทำงานทันที เหตุใดเสี่ยวลู่จึงต้องหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตนด้วย นางมิรู้หรือไรว่ายามที่หูหลี่พิโรธมันน่ากลัวเพียงใด เพียงแค่คิดขนกายของตนก็ลุกซู่ขึ้นมาเสียแล้ว

" โมลู่หานออกไปแล้ว ข้าก็มิมีใครให้ถามแล้วใช่หรือไม่ " หูหลี่ตวัดตาจ้องมองเสี่ยวลู่พลางกระตุกยิ้มมุมปาก เหตุใดคนเช่นตนจะมิรู้ทันนาง 

" เหตุใดท่านจึงเจ้าเล่ห์ถึงเพียงนี้ " 

" เจ้าคงมิลืมใช่หรือไม่ว่าสวามีของเจ้าเป็นถึงจิ้งจอกหางขาว "

" แน่นอนว่าข้ามิมีวันลืมได้หรอกว่าสวามีของข้าเป็นถึงจิ้งจอกหางขาวจอมเจ้าเล่ห์เช่นนี้ "

" หึ สมกับเป็นฟูเหรินของข้าเสียจริง " 

" จริงสิวันนี้ข้าได้ยินเหล่าชาวบ้านพูดคุยกันถึงเรื่องรอยเท้าปีศาจที่คืบคลานเข้ามาใกล้หมู่บ้านของเรา จากนี้ท่านจะเอาอย่างไรดี " ลู่ปิงปิงแสดงสีหน้าจริงจังออกมาอย่างเด่นชัด เธอเป็นหญิงสาวที่เกิดในยุค 2,000 กว่าปีข้างหน้า ซึ่งแน่นอนว่าเธอจะต้องรู้ตำรับตำราสมุนไพรมากมายไม่ต่างอะไรกับเสี่ยวลู่แม้แต่น้อยหรือไม่เธอก็อาจจะรู้มากกว่านางก็ได้

แต่ที่เธอรู้มากกว่านั้นคือเหล่าปีศาจที่เริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้หมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้ ในภพชาติที่เธอได้เกิดมาเธอเคยได้อ่านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่มีชื่อเหมือนกับหมู่บ้านแห่งนี้ ณ ที่ตั้งของหมู่บ้านยังอยู่ในป่าค่อนข้างลึกเหมือนกันอีก ในบันทึกได้กล่าวเอาไว้ว่าหมู่บ้านแห่งนี้ตามเดิมเป็นหมู่บ้านนามว่าฉินอี้ มีประมุขนามว่าซือ หลี่ฉิง มีรองประมุขนามว่า สื่อ หลานโจว ซึ่งทั้งสองปกครองหมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้ด้วยความยุติธรรมเสมอมา

หมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้เป็นหมู่บ้านที่รวมเหล่าสัตว์ที่บำเพ็ญตบะมายาวนาน จนสามารถกลายร่างเป็นคนได้เอาไว้มากมาย เพื่อปกปักรักษาต้นรักใหญ่ตามบัญชาของเทพสวรรค์ พร้อมกับได้รับพรจากเทพสวรรค์มา 1 ข้อ ซึ่งพรนั้นไม่ได้จดบันทึกลงไปในประวัติศาสตร์ จนกลายเป็นข้อสงสัยให้คนรุ่นหลัง

หลังจากหมู่บ้านฉิงอี้ก่อตั้งได้ 15 ปีกว่า ก็ต้องล่มสลายลงไปในชั่วข้ามคืนด้วยน้ำมือของเหล่ามนุษย์ผู้มากไปด้วยความโลภ ต้นรักใหญ่ถูกเหล่ามนุษย์โค่นล้มและนำไปขายให้กับเหล่าปีศาจในราคาที่สูง หลังจากที่ต้นรักใหญ่ถูกทำลายลงก็ไม่มีใครได้พบเจอกับต้นรักใหญ่อีกเลย จนผู้คนเอ่ยลือตาม ๆ กันว่าต้นรักใหญ่ได้หายสาบสูญไปแล้ว 

กระทั่งผ่านมาได้ 10 ปีกว่า รองประมุขสื่อ หลานโจวก็ได้สั่งกับบุตรชายของ ซือ หลี่ฉิงนามว่า ซือ หูหลี่และบุตรชายของตนนามว่า สื่อ โมลู่หานว่าหลังจากที่ตนได้สิ้นชีวิตลงแล้วให้ทั้งสองก่อตั้งหมู่บ้านใหม่ขึ้นมาห่างจากหมู่บ้านเก่าไปประมาณ 2 ลี้ หรือประมาณ 1,000 เมตร แล้วออกตามหาเหล่าชาวบ้านที่เหลือรอดให้กลับมาปกปักรักษาต้นรักใหญ่ดังเดิม 

เมื่อทั้งสองได้รวบรวมเหล่าชาวบ้านมาได้เกือบครบแล้ว จึงเริ่มช่วยกันก่อตั้งสร้างหมู่บ้านใหม่ขึ้นมานามว่าหมู่บ้านฉิงอี้ ตามคำสั่งของรองประมุขสื่อ หลานโจว หลังจากก่อตั้งหมู่บ้านเสร็จหูหลี่กับโมลู่หานก็ได้ให้เหล่าชาวบ้านเลือกผู้นำและรองผู้นำแห่งหมู่บ้านฉิงอี้ขึ้นมา นั่นจึงทำให้เหล่าชาวบ้านต่างพากันเลือกหูหลี่ให้เป็นผู้นำกับโมลู่หานให้เป็นรองผู้นำของหมู่บ้านฉิงอี้ 

ผ่านไปได้ 2 เดือน หูหลี่กับโมลู่หานจึงตัดสินใจเข้าป่าลึกไปตามที่รองประมุขสื่อ หลานโจวได้บอกเอาไว้ พวกเขาใช้เวลาเดินทางประมาณ 100 เค่อหรือ 1 วัน กระทั่งพบเข้ากับต้นรักใหญ่สูงเกือบ 10 เมตร พวกเขาทั้งสองจึงได้รู้เจตนารมณ์ของรองประมุขสื่อ หลานโจวทันที ว่าทำไมจึงให้พวกเขาก่อตั้งหมู่บ้านฉิงอี้ห่างจากหมู่บ้านฉินอี้ประมาณ 2 ลี้หรือ 1,000 เมตร เพื่อไม่ให้หมู่บ้านที่พวกเขาก่อตั้งขึ้นมาใหม่ใกล้กับต้นรักใหญ่มากเกินไป 

เนื่องจากหมู่บ้านเก่าถูกก่อตั้งใกล้กับต้นรักใหญ่มากไปจึงทำให้เหล่ามนุษย์เข่นฆ่าเหล่าสัตว์บริสุทธิ์ไปมากมายและยังทำให้เหล่ามนุษย์ผู้มีความโลภมากค้นพบกับต้นรักใหญ่ได้ง่ายอีก ไม่ใช่แค่เหล่ามนุษย์เพียงเท่านั้นแต่ยังมีเหล่าปีศาจที่ต้องการจะครอบครองต้นรักใหญ่ไปเป็นของเผ่าตนเหมือนกัน

ในช่วงเวลา 15 ปี เหล่าปีศาจไม่มีพลังมากที่จะสามารถรุกรานเข้ามาในเขตพื้นที่ของเหล่าสัตว์ที่บำเพ็ญตบะมายาวนานได้ จึงหลอกใช้เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาเหล่านั้นให้ทำการแทน แต่เหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาเหล่านั้นกลับฟังไม่ได้ความและได้ทำลายต้นรักใหญ่ไป แล้วนำไปขายให้กับเหล่าปีศาจในราคาที่สูง ซึ่งมันทำให้ราชินีปีศาจโกรธอย่างมาก แต่ก็ไม่อาจทำร้ายพวกเหล่ามนุษย์ได้ในตอนนี้ เพราะในภายภาคหน้าพวกตนอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากพวกมนุษย์ผู้โง่เขลาเหล่านี้อีกก็ได้จึงได้แต่รับของมาในราคาที่สูง

ในวันที่หูหลี่กำลังเดินตรวจตรานอกอาณาเขตหมู่บ้านเพียงคนเดียว บุรุษหนุ่มก็ได้ช่วยชีวิตของชายชราคนหนึ่งเอาไว้จากสัตว์ร้ายและได้แต่งงานกับหลานสาวคนโตนามว่า หลิน เสี่ยวลู่ นางเป็นสตรีที่ค่อนข้างจะอาภัพ มีบิดามารดาก็เหมือนกับไม่มี ครอบครัวมีฐานะแต่ทว่านางกลับไม่แตกต่างอะไรจากสาวรับใช้ภายในจวนนัก ถ้าไม่มีท่านปู่นางก็คงจะไม่ได้มีชีวิตที่เหมือนดั่งลูกขุนนางเช่นนี้

แต่ส่วนสำคัญมันคือส่วนที่กำลังจะมาถึงในอีกไม่ช้านี้และเธอก็กำลังจะกล่าวถึงมัน ตามประวัติศาสตร์ได้บันทึกเอาไว้ว่าหลังจากที่บุรุษหนุ่มทั้งสองได้พบเจอกับรอยเท้าที่มีไอชั่วร้ายของปีศาจมากมาย อยู่ใกล้บริเวณหมู่บ้านของตน อีกไม่กี่วันเหล่าปีศาจเหล่านั้นก็จะบุกเข้ามายังหมู่บ้านฉิงอี้แห่งนี้ คราชีวิตของเหล่าชาวบ้านไปไม่น้อย แต่ทว่าปีศาจเหล่านั้นกลับไม่ได้ต้นรักใหญ่ติดมือไปให้แก่ราชินีของพวกเขาและมันจะเป็นแบบนี้อยู่อีกหลายครั้ง คราชีวิตของเหล่าชาวบ้านไม่จบไม่สิ้น จนบุรุษหนุ่มทั้งสองได้อพยพเหล่าชาวบ้านไปยังหุบเขาพันลี้ ซึ่งหุบเขานี้เหล่าปีศาจไม่สามารถที่จะเข้าไปได้ นอกจากเหล่ามนุษย์

" ฟูเหรินเจ้าคิดอันใดหรือ " หูหลี่เอ่ยถามภรรยาด้วยสีหน้าที่สงสัย นางมีเรื่องอันใดให้ต้องคิดมากถึงได้คิ้วขมวดเช่นนี้ หรือนางจะกังวลเรื่องที่เหล่าปีศาจเริ่มคืบคลานเข้ามาใกล้หมู่บ้านและเกิดหวาดกลัวขึ้นมา

" ข้าเพียงคิดอะไรเพลินไปหน่อยเจ้าค่ะ " ลู่ปิงปิงหันมายิ้มอ่อน เพื่อให้หูหลี่สบายใจ

" ถึงเช่นนั้นข้าก็รู้ว่าเจ้าคงเป็นกังวลและหวาดกลัวกับสิ่งที่เจ้าได้ยินมา แต่เจ้ามิต้องกลัวข้าจะอยู่ใกล้เจ้าตลอด ข้าจักมิให้ผู้ใดมาทำร้ายเจ้าได้เด็ดขาด " 

" ข้ามิได้กลัวและข้าก็มิได้กังวลเรื่องอันใดอีกด้วย ท่านต่างหากที่คิดมากไป "

" เช่นนั้นหรือ "

" เป็นเช่นนั้นแหละเจ้าค่ะ "

" พระอาทิตย์ตกแล้วเรากลับเรือนกันเถอะ "

" เจ้าค่ะสวามี " 

" เหตุใดเจ้าจึงมิเรียกข้าว่าเหล่ากงบ้าง "

" อืม แล้วท่านมิชอบที่ข้าเรียกท่านว่าสวามีหรือ " 

" เหตุใดข้าจึงมิชอบด้วยเล่า แต่ว่าข้าอยากให้เจ้าเรียกข้าเช่นนี้บ้างมิได้หรือ ข้าว่ามันดูสนิทสนมมากกว่าคำที่เจ้าเรียกข้าในตอนนี้เสียอีก ข้ามิอยากให้เจ้าเรียกข้าเป็นทางการเกินไปข้ามิใช่คนมียศสูงเช่นนั้น "

" ถ้าเช่นนั้นท่านก็ต้องเรียกข้าว่าเหล่าผ๋อสิเจ้าคะ "

" ข้าจะเรียกเจ้าเช่นนั้นได้เช่นไรในเมื่อเจ้าเป็นถึงบุตรสาวคนโตของรองเสนาบดีกรมกลาโหม "

" เหตุใดจะมิได้ในเมื่อท่านเองก็เป็นถึงผู้นำของหมู่บ้านฉิงอี้เช่นกัน " ลู่ปิงปิงยังคงเอ่ยเถียงหูหลี่เป็นเอ็น เธอไม่ยอมหรอกในเมื่อเขาอยากให้เธอเรียกเขาว่าเหล่ากง เธอเองก็อยากให้เขาเรียกเธอว่าเหล่าผ๋อเหมือนกัน...

เชิงอรรถ^

1^ เหล่ากง (老公) สามี

2 ^เหล่าผ๋อ (老婆) ภรรยา

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 19 ( จบบริบูรณ์ )

    19จ้าวจื่อเหนียงนั่งอยู่บนโขดหินจ้องมองการต่อสู้ของลูกสมุนอยู่เงียบ ๆ เมื่อเห็นว่าภรรยากำลังจะทำลายค่ายกลที่ปกป้องต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์จึงกระโดดลงจากโขดหินมุ่งตรงไปหาภรรยาทันที หยี่หมิงใช้พลังของนางที่มีทั้งหมดไปยังค่ายกลหวังทำลาย นางใช้เวลาอยู่สักพักแผงค่ายกลก็เริ่มร้าวและแตกกระจายเป็นเสี่ยง ๆ ก่อนที่ร่างของนางจะลงไปนั่งฟุบกับพื้นดินด้วยความเหนื่อยล้าหลังจากที่ใช้พลังไปมาก จ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์มิรอช้ารีบเข้ามายืนอยู่ข้างต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่ผนึกค่ายกลถูกทำลาย ทั้งสองหวังนำเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนำไปปลดผนึกหวังคืนชีพให้กับจอมราชาปีศาจอย่างซีจ้าวเหว่ยและนำส่วนที่เหลือของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ไปทำเป็นโอสถขายให้กับปีศาจในเผ่าชิงหรางที่ปราบร่างโคลนมายาที่หูหลี่สร้างขึ้นได้ทั้งหมดแล้วก็ลอยตัวมายืนอยู่ข้างกายของหลิวถาเอ๋อร์ โดยมีปีศาจลูกสมุนที่บำเพ็ญตบะถึงขั้นกลางสิบกว่าตนยืนอยู่ข้างหลังจ้าวจื่อเหนียงและหลิวถาเอ๋อร์รวมพลังกันเพื่อดึงเอาแก่นกลางต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ โดยมิสนใจหยี่หมิงที่เป็นภรรยาแถมยังสูญเส

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 18

    18หมู่บ้านใหม่ฉิงอี้ลู่ปิงปิงยืนอยู่บนเรือนไม้ไผ่สองมือจับราวกั้นของเรือนเอาไว้ ใบหน้ากลมสวยแหงนขึ้นมองพระจันทร์เต็มดวงสีเลือด หวนคิดถึงสามีที่อยู่ต่อสู้กลับเผ่าปีศาจ ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม หวังว่าการย้อนมาในอดีตของเธอจะทำให้เผ่าสัตว์อสูรแคล้วคลาดจากภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้ เพราะเธอไม่อยากสูญเสียใครไปอย่างในภพชาติของเธออีกแล้ว หูหลี่กลับมาอย่างปลอดภัยตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเธอด้วย ขอร้องล่ะ" คุณหนูดึกมากแล้วเข้าไปพักผ่อนเถอะนะเจ้าค่ะ หากคุณหนูมิสบายขึ้นมาแล้วท่านหูหลี่กลับมาพบเข้า ซูซู่อาจจะโดนท่านหูหลี่ทำโทษเอาได้นะเจ้าคะ " ซูซู่พยายามหาคำกล่าวให้สมเหตุสมผล เพื่อให้คุณหนูของนางได้พักผ่อนบ้าง ตั้งแต่มาที่นี่คุณหนูของนางก็เอาแต่เป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ณ หมู่บ้านฉิงอี้แต่เดิม นางมั่นใจว่าท่านเขยจะต้องชนะศึกในครั้งนี้เป็นแน่ มิใช่เพียงแค่นางเท่านั้น แต่ทว่าสัตว์อสูรที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน" ข้าอยากอยู่ตรงนี้อีกสักประเดี๋ยว ซูซู่เจ้าคิดว่าท่านพี่จะชนะศึกในครั้งนี้ได้หรือไม่ " ลู่ปิงปิงเอ่ยถามสาวรับใช้ในขณะที่ใบหน

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 17

    17หน้าประตูหมู่บ้านฉิงอี้พระจันทร์สีเลือดปรากฏขึ้นพร้อมกับกองกำลังปีศาจที่มาเยือนอยู่หน้าประตูของหมู่บ้านฉิงอี้ โดยมีจ้าวจื่อเหนียง (ปีศาจงูแดงผู้พี่) จ้าวซินเหว่ย (ปีศาจงูดำผู้น้อง) หลิวถาเอ๋อร์ (ปีศาจหงส์เพลิง-น้องสาวของจอมราชาปีศาจ) และหยี่หมิง (องค์หญิงเผ่ามนุษย์) นำทัพในครั้งนี้ ค่ายกลที่ถูกร่ายปกคลุมหมู่บ้านฉิงอี้ทำให้กองกำลังของเผ่าปีศาจไม่สามารถเข้าโจมตีหมู่บ้านได้ในทันที " หมู่บ้านแห่งนี้ถูกร่ายค่ายกลป้องกันเอาไว้ขอรับท่านจ้าว " ซิงซือหังปีศาจสามตากล่าวรายงานต่อนายท่านของตน หากต้องการทำลายค่ายกลป้องกันนี้จะต้องใช้พลังอยู่มิน้อย" เรื่องค่ายกลปล่อยให้ข้ากับซินเหว่ยเป็นผู้ทำลายเอง หากค่ายกลถูกทำลายแล้ว ท่านจ้าวและปีศาจทุกตนเข้าโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้ได้เลย " หลิวถาเอ๋อร์กล่าวจบก็ลอยตัวขึ้นไปอยู่กลางอากาศคู่กับคู่หมั้นของนาง ก่อนที่ทั้งสองจะร่ายพลังใส่ค่ายกลของหมู่บ้านฉิงอี้ มินานค่ายกลป้องกันก็ถูกทำลายลง" ปีศาจทุกตนบุกเข้าโจมตีได้ ทำลายเผ่าสัตว์อสูรทิ้งให้หมดอย่าให้เหลือแม้แต่ตนเดียว! " จ้าวจื่อเหนียงสั่งการเสียงดัง" เย้! ฆ่า! ฆ่า!

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 16

    16ป่าลึกฐานลับของเผ่าปีศาจมุมปากหนาแสยะยิ้มออกมายามเห็นข้อความลับด้านในของแผ่นกระดาษ ในที่สุด...ในที่สุดก็หาเจอเสียที ฮ่า ฮ่า ฮ่า " หลงซูเจ้าจงไปบอกปีศาจทุกตนและมนุษย์ที่ติดตามให้เตรียมตัวให้พร้อมถึงเวลาที่เรารอคอยกันแล้ว "" ขอรับนายท่าน ปีศาจทุกตนและพวกมนุษย์ทั้งหลายจงฟัง พวกเจ้าจงเตรียมตัวกันให้พร้อมในอีกมิช้ากองกำลังเผ่าปีศาจจะมาถึงฐานลับของพวกเรา ต่อจากนี้ถึงเวลาที่เผ่าปีศาจจะบุกเข้าโจมตีพวกเผ่าสัตว์อสูรเสียทีและแย่งชิงต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มาเป็นของเผ่าปีศาจของพวกเราซะ เพื่อช่วยให้ท่านจอมราชาปีศาจของพวกเราฟื้นคืนชีพได้สำเร็จ " " เฮ้! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า! " ปีศาจติดตามพากันส่งเสียงดังสนั่นป่าทึบ นานเท่าใดแล้วที่พวกมันมิได้ออกไล่ล่าเช่นนี้ จึงทำให้พวกมันฮึกเหิมกันใหญ่" ท่านพ่อ " เซียวหลี่หันมาเอ่ยเรียกบิดาของตน หากเป็นเช่นนี้เผ่าสัตว์อสูรคงได้จบสิ้นจริง ๆ แน่" ทำตามแผนของพวกมันไปก่อนแล้วจากนั้นค่อยคิดหาวิธีกันใหม่ " ผู้อาวุโสเว่ยหันมาตอบบุตรชายเสียงแผ่ว จากสถานการณ์ตรงหน้าพวกตนจะต้องคิดหาวิธีการตั้งรับกับสถานการณ์นี้กันใหม่เสียแล

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 15

    15 ชิงหรางที่ตามหาต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกดูแลจากเผ่าสัตว์อสูรตามบัญชาเทพสวรรค์ นางใช้เวลาสามวันสามคืนในที่สุดนางก็พบที่ซ่อนของต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ ห่างออกไปจากหมู่บ้านฉิงอี้ 1 ลี้ ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ถูกซ่อนเอาไว้ในถ้ำลึก บริเวณปากถ้ำถูกร่ายค่ายกลบังตาเอาไว้หากเป็นมนุษย์ธรรมดาหรือเป็นปีศาจที่บำเพ็ญตบะน้อยนิดก็มิอาจเห็นทางเข้าของถ้ำนี้ได้ รอบต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์มีแสงสีทองอร่ามเปล่งออกมาอยู่ตลอด ผลิผลสีแดงออกมามากมาย บริเวณโคนก้านของผลจะมีปีก 5 ปีก เป็นรูปขอบขนาน เชื่อมอยู่ระหว่างโคนปีกและผลยาวประมาณ 1.5 เซนติเมตร ภายในถ้ำแห่งนี้จะมีคริสตัลสีแดงงอกออกมากระจัดกระจายตลอดทางเดิน ซึ่งคริสตัลเหล่านี้มีแสงเปล่งออกมาทำให้ถ้ำมิมืดและน่ากลัวแถมยังมีสมุนไพรหายากบางชนิดเกิดภายในถ้ำแห่งนี้ด้วย บริเวณปากถ้ำจะมิมีผู้คุ้มกันจะมีก็แต่เพียงบริเวณต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น สัตว์อสูรที่คุ้มกันมีทั้งหมดหกตน ยืนล้อมต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ทำให้ตัวนางมิสามารถเข้าไปใกล้ต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ได้ในตอนนี้ ทำได้เพียงถอยหลังออกมาจากที่แห่งนี้ก่อน ยังไงซะต้นรักใหญ่ศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องตกเป็นของเผ่าป

  • มิติรักแห่งสวามีจิ้งจอก   บทที่ : 14

    14เรือนแม่ทัพเหยาชูร่างสูงกำยำของผู้เป็นเจ้าเรือนกำลังนั่งจิบชาอยู่ที่ศาลาไม่ไกลจากห้องของตัวเองและห้องของสตรีที่พามารักษามากนัก สายตาคมเฉี่ยวทำการกวาดมองไปทั่วบริเวณของเรือน หวังหาผู้ร้ายที่แอบรุกรานเข้ามาในยามวิกาล แต่แท้จริงแล้วกลับกำลังมองหาสตรีที่เจ้าตัวได้นำออกมาจากป่า เพื่อพามารักษาอาการบาดเจ็บเมื่อไม่นานมานี้ต่างหาก ซึ่งนางมีนามว่าชิงหราง นางอ้างว่าตัวของนางเป็นชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาที่ออกมาเก็บสมุนไพรไปขายเพื่อประทังชีวิตก่อนยามโหย่วสตรีนางนี้ได้มาขอตนออกไปซื้อของกับสาวรับใช้ที่อยู่ในเรือนมานาน กระทั่งบัดนี้เข้ายามซวีแล้วทั้งสองยังมิกลับมากันเลย หรือไม่ทั้งสองก็อาจจะเกิดเหตุมิคาดฝันขึ้นกลางทาง มิได้ตนจะต้องออกไปตามหาทั้งสอง คืนปล่อยไว้แบบนี้มิดีแน่ เหยาชูวางแก้วชาลงบนโต๊ะแล้วลุกขึ้นจากเกาอี้กำลังจะเดินออกจากศาลา แต่ทว่าเจ้าตัวยังไม่ได้ก้าวเท้าออกจากศาลาเลยแม้แต่ก้าวเดียว ชิงหรางกับสาวรับใช้ก็เดินเข้ามาภายในเรือนเสียก่อน ชิงหรางเข้ามาภายในเรือนของแม่ทัพได้ก็สั่งให้สาวรับใช้นำของที่ซื้อมาไปเก็บภายในห้องนาง ก่อนจะก้าวเดินเข้ามาหาท่านแ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status