Share

คำสั่ง

last update Last Updated: 2025-12-02 02:00:06

          หลังจากอยู่เมืองหลวงครึ่งค่อนเดือนเขาถึงนึกขึ้นได้ว่ามีจดหมายหลายฉบับรอตนตอบกลับรวมทั้งจดหมายของเหม่ยเหริน

          “คุณชาย จดหมายจากแม่นางเสี่ยวขอรับ”

          “นางส่งจดหมายมาหาข้าอีกแล้วหรือ”

          “ขอรับ”

          “เห็นทีข้าคงทำให้นางเป็นห่วง นางถึงส่งจดหมายมาหลายฉบับเช่นนี้” ปากพร่ำบอก ขณะที่มือสองข้างแกะเปิดจดหมายอ่าน ไม่นานหลังจากอ่านและตอบจดหมายจนครบทุกฉบับ เขาสั่งบ่าวคนสนิทให้คนนำจดหมายไปส่งให้นางยังเมืองลั่วหยาง

          “คุณชาย แม่นางสกุลฟางมาขอพบเจ้าค่ะ” เสียงสาวใช้หน้าห้องรายงาน

          “เชิญนางเข้ามา”

          “พี่หวังหย่ง ข้าทำขนมมาให้ชิมเจ้าค่ะ”

          “ขนมกุ้ยฮวาที่เจ้าทำรสชาติอร่อยมาก”

          “ข้าดีใจที่ท่านชอบ”

          “ว่าแต่เจ้าเถิดคงไม่ได้มาหาข้าถึงที่นี่เพียงเพราะเรื่องแค่นี้ใช่หรือไม่”

          “ข้าได้ยินมาว่าท่านจะกลับเมืองลั่วหยางในอีกสามวันข้างหน้า ข้าไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนเลยอยากขอติดตามท่านไปเที่ยวชมเมืองลั่วหยางด้วยได้ไหมเจ้าคะ”

          “เจ้าเป็นสตรี ส่วนข้าเป็นบุรุษ ข้าว่าไม่ค่อยเหมาะสมนัก หากเจ้าจะไปกับข้าเพียงลำพัง”

          “ช่างเสียดายยิ่งนัก” อวี่ซินทำหน้าเศร้า ก่อนส่งยิ้มจาง ๆ อย่างเข้าใจคำพูดเมื่อครู่ของชายหนุ่ม

          “เจ้าไม่ได้โกรธข้าใช่รึไม่”

          “ข้าจะโกรธท่านทำไมล่ะเจ้าคะ ข้าย่อมเข้าใจดี เช่นนั้นข้าไม่รบกวนท่านแล้ว” ว่าพลางหันหลังเอี้ยวตัวเดินออกจากห้อง ทว่าก่อนจะได้ทำเช่นนั้นหญิงสาวสะดุดล้มเสียก่อน หวังหย่งที่เห็นเหตุการณ์คว้าร่างบางเอาไว้ทันท่วงทีจนทำให้ใบหน้าของทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากเสียจนริมฝีปากแนบชิดกันอย่างไม่ตั้งใจ

          “เพล้ง!” เสียงถาดน้ำชาตกลงพื้นเสียงดัง พร้อมกับการปรากฏตัวของฮูหยินหวังที่ตั้งใจมาหาว่าที่ลูกสะใภ้โดยเฉพาะ

          “หวังหย่ง”

          “ขะ...ขอรับ ท่านแม่” หลังจากตั้งสติได้ทั้งคู่ก็แยกออกจากกันทันที

          “เจ้ากล้าทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ได้อย่างไร หากข่าวแพร่ไปทั่วเมืองหลวงแม่นางฟางจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด”

          “มันเป็นอุบัติเหตุขอรับ ข้าไม่ได้ตั้งใจ”

          “ไม่ได้ตั้งใจงั้นรึ แต่ที่ข้าเห็นไม่ได้เป็นเช่นนี้นี่”

          “ฮูหยิน เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ เจ้าค่ะ ท่านอย่าได้โทษท่านพี่หวังหย่งเลยเจ้าค่ะ”

          “เฮ้อ แม้เป็นอุบัติเหตุแต่ตระกูลหวังของเราต้องรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น”

          “เอ่อ แต่ว่า”

          “เชิญแม่นางฟางกลับจวนไปก่อนเถิด ข้ามีเรื่องต้องคุยกับลูกชายคนนี้เสียหน่อย”

          “เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” คล้อยหลังฟางอวี่ซิน ฮูหยินหวังได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าบุตรชายของตนต้องหมั้นกับแม่นางฟางให้เร็วที่สุด

          “เตรียมตัวเข้าพิธีหมั้นกับนางเสีย”

          “ท่านแม่ยอมให้ข้าแต่งกับเหม่ยเหรินแล้วหรือขอรับ” เขาถามย้ำด้วยน้ำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด

          “เจ้าพูดเพ้อเจ้ออันใด เมื่อครู่เจ้าเพิ่งทำเรื่องบัดสีกับสตรีอีกคนแต่ใจเจ้าอยากแต่งกับสตรีอีกผู้หนึ่งงั้นรึ!”

          “ท่านแม่ แม่นางฟางบอกแล้วมิใช่หรือว่ามันเป็นแค่อุบัติเหตุ ข้าไม่ได้ตั้งใจเสียหน่อย”

          “เกิดมาเป็นชาย ทำอะไรลงไปเจ้าต้องรับผิดชอบ”

          “ตะ...แต่ว่า”

          “เจ้าคิดเอาเองเถิด หากพ่อเจ้ารู้เรื่องนี้จะเกิดอันใดขึ้น นอกจากเจ้าจะไม่ได้กลับเมืองลั่วหยางแล้ว เจ้ายังต้องแต่งงานแทนหมั้นหมายแน่”

          หวังหย่งใช้เวลาทั้งคืนในการทบทวนเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกะทันหันอย่างปลงไม่ตก เท่าที่ได้พูดคุยกับแม่นางฟางเขาก็รู้สึกว่านางมิได้เป็นคนเลวร้ายอะไร ทั้งยังมีความอ่อนโยนน่า  ทนุถนอมและยังเข้ากับเขาได้ดี แต่อีกใจหนึ่งยังคงนึกถึงเหม่ย     เหรินคนรักที่รอเขากลับไป เขาไม่ควรหวั่นไหวกับสตรีอื่นนอกจากนาง เขาควรทำเช่นไรดี...

           งานหมั้นระหว่างสองตระกูลเกิดขึ้นรวดเร็วเสียยิ่งกว่าพายุ สาเหตุเพราะอุบัติเหตุครานั้นทำให้เขาต้องหมั้นหมายกันเพื่อไม่ให้หญิงสาวเสื่อมเสีย

           “ยินดีกับใต้เท้าหวังและฮูหยิน ในที่สุดลูกชายคนเล็กของท่านก็เป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ข้านึกว่าใต้เท้าจะให้เขาอยู่ที่ลั่วหยางตลอดไปเสียอีก”

          “แม้จะเร็วไปหน่อย แต่ข้าไม่คิดให้หวังหย่งอยู่เมืองลั่วหยางตลอดไปดังที่ท่านว่า อีกไม่นานเขาต้องเข้ารับตำแหน่งขุนนางแล้วจะให้อยู่ที่นั่นคงเดินทางลำบาก”

          “ท่านมีบุตรชายสองคน ได้ดีทั้งสองคน ช่างน่าอิจฉาเสียจริง”

          “ข้าต้องอิจฉาท่านมากกว่า ข้าได้ยินว่าลูกสาวของท่านได้รับเลือกให้เป็นสนมขององค์ฮ่องเต้ อนาคตของตระกูลเหลียนต้องรุ่งโรจน์แน่” ใต้เท้าหวังคุยกับใต้เท้าเหลียนอย่างออกรส

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มิลืมเลือนรัก   ตอนจบ

    “หากไม่ได้เป็นดังที่ข้าคิด แล้วเหตุใดเจ้าถึงได้เอามือมาลูบปากข้ากัน” เขายกยิ้มไปพลางถามไปพลาง จนคนใต้ร่างเริ่มรู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย “ข้าแค่อยากรู้ว่าริมฝีปากของบุรุษจะอ่อนนุ่มหรือหยาบกร้านถึงได้เผลอไผลทำเรื่องเช่นนั้นไป” “งั้นหรือ” เขาแสร้งเห็นด้วย จากนั้นค่อย ๆ โน้มใบหน้าลงมาเรื่อย ๆ จนลมหายใจเป่ารดหน้านางเข้า “ท่านจะทำอะไรหรือเจ้าคะ” ว่าพลางดันหน้าอกชายหนุ่มให้ออกห่าง แต่ทว่ากายแกร่งไม่ได้ขยับเขยื้อนแม้แต่นิดเดียว “เจ้าอยากรู้นักไม่ใช่หรือว่าริมฝีปากข้าจะอ่อนนุ่มหรือไม่ แทนที่จะใช้มือ มิสู้ใช้ปากไม่ดีกว่าหรือ” เอ่ยจบก็ทาบทับริมฝีปากลงไปแผ่วเบา ก่อนขบเม้มเข้าที่ริมฝีปากล่างของนางเพื่อหยอกล้อ “อื้อ” ซ่งอันเว่ยพร่ำจูบนางจนพอใจถึงได้ปล่อยริมฝีปากของนางให้เป็นอิสระ ขณะที่มืออีกข้างปลดเปลื้องอาภรณ์จนร่างของหญิงสาวเปลือยเปล่าไร้ซึ่งสิ่งใด ไม่นานนักร่างกายของเขาก็เปลือยเปล่าไม่ต่างจากนาง... อี้ชางสือมองภาพเบื้องหน้าทั้งรอยยิ้ม ยามเห็นภาพคู่สามีภรรยารักใคร่กลมเกลียว “ท่านพี่ ท่านฝึกซ้อมมาหลายชั่วยามแ

  • มิลืมเลือนรัก   ออกเรือน

    ทางด้านของฮูหยินผู้เฒ่าที่อาการป่วยทรุดลงเรื่อย ๆ จนไม่อาจลุกจากเตียงได้แต่นอนเป็นผักเท่านั้น “อาการของท่านแม่ เป็นเช่นไรบ้าง” เขาถามสาวใช้ข้างกายมารดา “อาการของฮูหยินผู้เฒ่าแย่ลงเรื่อย ๆ เลยเจ้าค่ะ” “ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า” “ตามไปก็ไม่มีประโยชน์หรอกเจ้าค่ะ ท่านหมอเพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง ทั้งยังบอกว่าอาการของฮูหยินผู้เฒ่าไร้หนทางรักษาแล้ว” อนุเมิ่งบอกสามี “จะ...เจ้า นางคนเนรคุณ” เสียงแหบแห้งหมดเรี่ยวแรงพูดขึ้น “พักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ ข้าจะดูแลท่านเอง” นอกจากนางจะไม่โกรธแล้ว นางยังส่งยิ้มให้หญิงชราด้วยซ้ำไป ฝั่งของฟู่ซิวแวะมาเยี่ยมมารดาสามีบ้างบางครั้ง เพราะอนุเมิ่งขอเป็นคนดูแลเอง “ฮูหยิน ตั้งแต่อนุเมิ่งไปดูแลฮูหยินผู้เฒ่าอาการของนางก็แย่ลงเรื่อย ๆ เลยนะเจ้าคะ หรือว่านางจะ...” “เจ้าอย่าได้เสียงดังไป เพราะถ้าหากนางไม่ได้ทำเช่นนั้นจริงคนที่เดือดร้อนคงกลายเป็นพวกเราแทน” นางบอกเสียงเบา ทั้งที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าเมิ่งไป่ซูวางยาพิษฮูหยินผู้เฒ่า แต่นางไม่คิดเปิดโปงเรื่องนี้ เพราะเห็นสมควรว่าสตรีว

  • มิลืมเลือนรัก   เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง

    ชายหนุ่มถอดรองเท้าของนางออกหนึ่งข้าง ซึ่งเป็นข้างที่นางได้รับบาดเจ็บ แล้วฉีกชายเสื้อของตัวเองมาพันข้อเท้านางไว้ ก่อนอุ้มหญิงสาวไว้ในอ้อมกอดด้วยความหวงแหน จากนั้นเดินกลับกระโจมไป แม่ทัพซ่งวางร่างของนางลงบนเก้าอี้ด้วยความทนุถนอม ก่อนออกไปสั่งให้คนสนิทเรียกท่านหมอมาดูอาการ ทว่าไม่ทันจะได้ทำเช่นนั้นเขาถูกมือของหญิงสาวชุดรั้งแขนไว้เสียก่อน “จะไปไหนหรือเจ้าคะ” “ข้าจะให้คนไปตามท่านหมอมารักษาเจ้า” “ข้าไม่ต้องการหมอ” “ถ้าไม่ต้องการหมอ แล้วเจ้าต้องการอะไร” “ข้าต้องการท่าน” นางบอกทั้งใบหน้าแดงซ่านอย่างปิดไม่มิด “…” “ทำไมไม่ตอบข้าล่ะเจ้าคะ” “ปล่อยก่อน” “ท่านอยากรู้ใช่รึไม่ว่าคนที่ข้ารักคือใคร เช่นนั้นข้าจะบอก” “ไม่ต้อง ข้าไม่อยากรู้” เขาปฏิเสธทันควัน เพราะยังไม่พร้อมรับฟัง “ซ่งอันเว่ย ท่านฟังข้าพูดให้ดี ๆ ข้าจะพูดแค่ครั้งเดียว” “ข้าไม่....” “คนที่ข้ารักคือท่าน ไม่ใช่ใครอื่น” นางแทรกขึ้น พร้อมกับลุกขึ้นสวมกอดจากด้านหลัง “ที่เจ้าพูด...จริงหรือ ไม่ใช่เ

  • มิลืมเลือนรัก   เรียกความสนใจ

    “น้องพี่ ใครเป็นคนทำให้เจ้าอารมณ์เสียหรือถึงได้ทำสีหน้าบึ้งตึงเช่นนี้” “เปล่าเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้เป็นอะไร” “เจ้าปิดบังพี่ไม่ได้หรอก เมื่อครู่ข้าเห็นรถม้าของตระกูลซ่งมาส่งเจ้า ดูทีว่าต้นเหตุคงเป็นซ่งอันเว่ย พี่จะไปจัดการเขาให้เอง” “พี่ชางสือ ท่านจะทำอะไรเขางั้นหรือ” “ข้าจะเตะเขาสักสิบครั้ง ต่อยสักหมัดสองหมัด ให้คนผู้นั้นรู้เสียบ้างว่าอย่าริอาจมารังแกน้องสาวของข้า” “ท่านพี่ จะทำเช่นนั้นไม่ได้นะเจ้าคะ อีกไม่นานข้ากับท่านแม่ทัพต้องแต่งงานแล้ว หากใบหน้าเขาบอบช้ำ ข้าคงทนเห็นไม่ได้” “เจ้านี่ช่างเป็นห่วงเขาเสียเหลือเกิน ไหนเจ้าบอกพี่ว่าไม่ได้คิดอันใดกับเขาเล่า” “ขะ...ข้าแค่เป็นห่วงเท่านั้น อีกอย่างท่านแม่ทัพไม่ได้รักข้าเช่นกัน” “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าเขาไม่ได้รักเจ้า” “อะ...เอ่อ” “ข้าจะบอกความจริงให้เจ้าฟัง เจ้าคิดว่าคนเย็นชาอย่างซ่งอันเว่ยจะเสียเวลาไปรับสตรีที่ไม่รู้จักกลับเมืองหลวงด้วยตัวเองงั้นหรือ ทั้งยังคอยคุ้มกันจนถึงจวนอีก” “เรื่องนั้นท่านแม่ทัพบอกข้าว่า เป็นเพราะท่านไหว้ว

  • มิลืมเลือนรัก   ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง

    “สรุปว่าท่านจะให้ข้าอยู่เรือนรับรองหรือ” “ใครบอกเจ้ากัน เรือนใหญ่ออกจะกว้างขวาง อีกอย่างพวกเราเป็นสามีภรรยากันอยู่เรือนหลังเดียวกันก็สะดวกสบายดี หรือเจ้าไม่อยากอยู่ร่วมชายคาเดียวกับข้างั้นหรือ” “มีผู้ใดบ้างที่ทำเช่นนี้ ปกติแม้เป็นคู่สามีภรรยากัน แต่ยังต้องแยกเรือนกันอยู่เลยนะเจ้าคะ” นางถาม เพราะตามปกติแล้วสามีจะอยู่เรือนใหญ่เพียงคนเดียว “ข้าไม่สนใจเรื่องพวกนั้นสักนิด” “แต่ถ้าท่านมีอนุคงไม่สะดวก หากอยู่เรือนหลังเดียวกัน” “ข้าไม่เคยคิดอยากมีอนุ ข้าจะมีเจ้าเป็นฮูหยินเพียงผู้เดียวเท่านั้น” เขาบอกเสียงจริงจัง จนนางเริ่มรู้สึกหวั่นไหว ตั้งแต่รู้จักกันมาเขาเป็นคนชัดเจนตลอดมา ไม่เคยมีสักครั้งที่ทำให้นางต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง “เช่นนั้นห้องนอนของข้า” “ที่เรือนนี้ไม่มีห้องนอนของเจ้า มีแต่ห้องนอนของเรา” ท้ายประโยคเขาเอื้อนเอ่ยเบา ๆ ราวกับสายลมอ่อน ๆ พัดผ่านยอดหญ้า ไหนจะท่าทีเก้เก้อดูก็รู้ว่าคนพูดรู้สึกเช่นไร “วันนี้เจ้าพอมีเวลาว่างให้ข้าทั้งวันรึไม่” “ถามทำไมหรือเจ้าคะ” “เย็นนี้ในเมืองจัดง

  • มิลืมเลือนรัก   เห็นกันหมดทุกคน

    หลังจากส่งบุตรสาวอีกคนแต่งออกไปถึงเมืองเป่ยโจว ก็ถึงคราวของอี้เหม่ยเหรินหมั้นหมายกับแม่ทัพหนุ่ม ผู้ซึ่งเป็นที่หมายปองของสตรีทั้งเมืองหลวง นอกจากเขาจะรูปโฉมงดงามราวเทพเซียนแล้ว ยังมากด้วยความสามารถและอนาคตไกล จนพวกขุนนางในราชสำนักต่างยกลูกสาวของตัวเองใส่พานมาถวายอยู่ไม่ขาด ทว่าเขากลับไม่สนใจสักนิด ด้วยเหตุผลเพียงข้อเดียวคือนาง หญิงสาวธรรมดาที่เขาเคยพบเจอเมื่อสี่ปีก่อน นางเป็นบุตรสาวพ่อค้าชื่อดังของเมืองลั่วหยาง เวลาเห็นนางยิ้มทีไรทำให้หัวใจหยาบกระด้างของชายหนุ่มอ่อนระทวยลงราวกับถูกไฟลน ยามนึกถึงคราแรกที่พานพบพลันทำให้ใจสั่นไหวรัวเร็ว “คุณหนู รอบ่าวด้วยเจ้าค่ะ” “เล่อจิน เจ้ารีบตามข้ามาเร็วเข้า” หญิงสาววัยแรกแย้มกึ่งเดินกึ่งวิ่ง ก่อนหันมาบอกสาวใช้คนสนิท “โอ๊ย” สุดท้ายนางสะดุดล้มเข้าจนได้ “แงง” เสียงเด็กชายร้องไห้เสียงดัง เพราะหมั่นโถวที่ตนถืออยู่ตกพื้น “เด็กน้อย ข้าไม่ได้ตั้งใจ” ว่าพลางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาด้วยความรู้สึกผิดเต็มอก “หมั่นโถวลูกนี้ ข้าลำบากลำบนกว่าจะทำงานหาเงินซื้อได้” เด็กน้อยเอ่ยทั้งน้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status