Share

บทที่ 5

ลั่วเหยียนมีรายงานการทำงาน ในที่สุดกู้อิ๋นก็ได้หนีออกมาจากออฟฟิศได้

เผยเซียวมองทะลุกระจก เห็นกู้อิ๋นที่อยู่ต่อหน้าตัวเองเอาแต่ตกปากรับคำลูกเดียว แต่อยู่ข้างนอกกลับดูมีชีวิตชีวา มุมปากก็เผลอยกขึ้นโดยไม่ทันรู้ตัว

ลั่วเหยียนมองไปตามสายตาของเผยเซียว ก็เห็นกู้อิ๋นกำลังหาของบางสิ่งอย่างลุกลี้ลุกลน

ในใจก็แอบครุ่นคิด ผู้ช่วยกู้คนนี้ประมาทเลินเล่อ...เหมือนอย่างแต่ก่อนเลยจริง ๆ

เขาหันหลังกลับมาส่งจดหมายซองหนึ่งให้เผยเซียว “คุณผู้ชายครับ เช็กเรียบร้อยแล้วครับ คืนนั้นคนที่คุณผู้หญิงส่งไปเป็นคนวางยาครับ”

เมื่อสิ้นเสียง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่น ‘ตื๊ด’

ลั่วเหยียนก้มหน้า ก็เห็นโทรศัพท์เคสลายแพนด้าน่ารัก เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ของเผยเซียวแน่นอน!

จากนั้นก็เข้าใจขึ้นมาในทันทีว่ากู้อิ๋นที่อยู่ข้างนอกกำลังหาอะไรอยู่

กู้อิ๋นจะส่งข้อความไปบอกเหยียนฉู่ว่าทางเธอเรียบร้อยแล้ว สุดท้ายพบว่าโทรศัพท์ของตัวเองตกอยู่ในห้องทำงานของเผยเซียว

ทำได้เพียงกัดฟันและกลับไปหาโทรศัพท์ของตัวเอง

เพิ่งเดินมาถึงประตูห้องทำงาน ก็ได้ยินน้ำเสียงอันเย็นชาของเผยเซียวพูดว่า “ผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”

มือของกู้อิ๋นที่กำลังจะเคาะประตู หยุดกึก!

พวกเขายังคงตามหาผู้หญิงในคืนนั้น!?

น้ำเสียงของลั่วเหยียนแว่วมา “เกรงว่าครั้งนี้คุณหญิงจะให้คุณแต่งงานกับคนของเธออย่างแน่นอน เพราะงั้นผู้หญิงคนนั้นก็น่าจะถูกเธอซ่อนตัวเอาไว้นะครับ!”

“คนของเธอ หึ!”

น้ำเสียงของเผยเซียวยิ่งเพิ่มความน่ากลัว

วินาทีถัดมา ได้ยินเพียงน้ำเสียงที่เย็นชาของเขา “หาให้เจอภายในหนึ่งเดือน ถ้ามีเรื่องอะไรขึ้นมาก็จัดการให้สิ้นซาก”

“ครับ!”

น้ำเสียงของลั่วเหยียนเย็นชาเป็นอย่างมาก

กู้อิ๋นฟังจนสีหน้าเปลี่ยนไปราวกับสีผัก ไม่มีใครรู้ความหมายของคำว่า ‘จัดการให้สิ้นซาก’ ห้าคำนี้ได้ดีเท่าเธออีกแล้ว

จากในบทสนทนาอันแสนน่ากลัวของพวกเขา เธอก็ยิ่งมั่นใจ หลังตัวเองถูกหาจนเจอ จุดจบคงจะน่าเวทนาเกินกว่าจะทนดูได้

ลั่วเหยียนเปิดประตูออกมา ก็เห็นกู้อิ๋น “ผู้ช่วยกู้?”

“หัวหน้าลั่วสวัสดีค่ะ”

กู้อิ๋นรีบเก็บอารมณ์ แล้วทักทายอย่างนอบน้อม

ทว่าวินาทีนี้ในใจของเธอกระวนกระวายราวกับม้าห้อตะบึงไปแล้ว

ลั่วเหยียนเห็นสีหน้าของเธอ ก็ถามขึ้นว่า “ป่วยเหรอ? ทำไมสีหน้าถึงดูแย่ขนาดนี้ล่ะ?”

“ฉันเป็นหวัดนิดหน่อยน่ะค่ะ” กู้อิ๋นแถอย่างเป็นกังวล

ลั่วเหยียนพยักหน้า หลังจากกำชับให้เธอไปโรงพยาบาลก็เดินออกไปเลย

ประตูห้องทำงานของท่านประธานเปิดอยู่ กู้อิ๋นมองปราดเดียวก็เห็นโทรศัพท์เครื่องนั้นวางอยู่บนโต๊ะ

สองเท้าก้าวเข้าไปข้างในพร้อมทั้งสั่นหงึก ๆ “ขอโทษนะคะประธานเผย ฉันลืมโทรศัพท์ไว้น่ะค่ะ”

พูดจบก็ยื่นมือไปหยิบโทรศัพท์

เผยเซียวชิงคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาอย่างไว ในขณะที่กู้อิ๋นไม่เข้าใจเหตุผล เขาก็กดหน้าจอให้สว่างแล้วโยนไปตรงหน้าเธอ

ได้ยินเพียงเขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ผู้ช่วยกู้ คุณมีอะไรจะบอกผมไหม?”

เดิมสีหน้าของกู้อิ๋นก็ปั้นยากอยู่แล้ว ตอนนี้ได้ยินคำถามอันเย็นชาของเผยเซียว ยิ่งทำให้หัวใจแทบจะเต้นจนทะลุออกมาอยู่แล้ว

โดยเฉพาะเมื่อเห็นข้อความที่เหยียนฉู่ส่งมาสว่างวาบอยู่บนหน้าจอ [ทำไมเธอยังไม่เสร็จอีก ถูกประธานเผยกด...]

ข้อความหลังจากคำว่า ‘กด’ เนื่องจากความเต็มบรรทัดของหน้าจอจึงละข้อความไปเลย

ทว่าแค่คำว่า ‘กด’ หนึ่งคำ ก็สามารถทำให้หัวของกู้อิ๋นระเบิดออกเสียงดัง ‘ตู้ม’

มองไปที่เผยเซียวด้วยสายตาที่เกรงกลัว เผยเซียวเองก็มองเธอ “คุณทำอะไร? ผมถึงต้องกดคุณ?”

น้ำเสียงของเขาเย็นเฉียบและคมกริบสุด ๆ

ในวินาทีนี้ลมหายใจของกู้อิ๋นเองก็ยิ่งติดขัดด้วยความกลัว “ไม่...ไม่มีอะไรค่ะประธานเผย!”

ริมฝีปากสั่นระรัว เธอแทบจะไม่ได้ยินเสียงของตัวเอง

เมื่อนึกถึงคำพูดของเขากับลั่วเหยียนเมื่อครู่ สมองของเธอก็ยิ่งเลอะเลือนขึ้นเรื่อย ๆ จนใกล้จะช็อตแล้ว

เผยเซียวมองเธออย่างเคร่งขรึม ชัดเจนว่าอยากได้คำอธิบายที่สมเหตุสมผลมาข้อหนึ่ง

กู้อิ๋นข่มร่างกายที่อ่อนปวกเปียกเอาไว้ หลับตาแล้วก้มหน้า “ประธานเผยคะ ฉันสำนึกผิดแล้วค่ะ!”

“เอ๊ะ? คุณทำงานอย่างขยันขันแข็งและเข้มงวดมาโดยตลอด มีอะไรผิดพลาดตรงไหนเหรอ?”

ชายหนุ่มที่พูดราวกับกลัวดอกพิกุลจะร่วงมาโดยตลอด หาได้ยากที่จะชมพนักงานอย่างนี้ ทว่าตอนนี้สำหรับกู้อิ๋นคำชมเชยนี้ ราวกับยันต์ปลิดชีพของเธอ

ในขณะที่เธอไม่รู้ว่าควรจะอธิบายออกไปยังไงดีนี้เอง

ข้อความของเหยียนฉู่ก็ส่งมาอีกครั้ง [เธอพูดมาสิ? ประธานเผยจับได้แล้วใช่ไหม...]

ตัวอักษรหลังคำว่า ‘จับได้’ ถูกละไว้อีกแล้ว!

ตอนแรกคือคำว่ากด จากนั้นก็จับได้! แต่ละครั้งนี่ ง่ายที่จะถูกเปิดเผยข้อมูลจำนวนมหาศาลมากๆ!

สีหน้าของกู้อิ๋นซีดเผือดจนไม่รู้จะซีดยังไงแล้ว เธอหายใจถี่ขึ้น

พยายามเงยหน้า สบกับแววตาที่ราวกับมองอย่างทะลุปรุโปร่งของชายหนุ่ม แล้วก็เอ่ยขึ้นอย่างอึดอัด “ฉันทำงานพาร์ทไทม์ในวันหยุดค่ะ!”

“อะไรนะ?”

เผยเซียวเลิกคิ้ว นัยน์ตาเต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ

เล็บของกู้อิ๋นแทบจะจิกเข้าไปในฝ่ามือ และบังคับให้ตัวเองสงบสติลง

“ประธานเผยคะ ที่ฉันทำคืองานพาร์ทไทม์ที่ไม่เกี่ยวกับบริษัท ฉันรับรองได้ค่ะว่าจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผลประโยชน์ของบริษัท”

เธอคือผู้ช่วยประธานแห่งเผยซื่อกรุ๊ป แต่ในขณะเดียวกันเธอเองก็เป็นจิตรกรสลักนูนคนหนึ่ง

โดยตามหลักแล้วบริษัทไม่อนุญาตให้พนักงานพัฒนาด้านอื่นไปพร้อม ๆ กัน

ทว่าตอนนี้กู้อิ๋นกลับมองว่า ถ้าเทียบระหว่างงานพาร์ทไทม์กับเรื่องในคืนนั้นแล้ว มันช่างเล็กน้อยจนไม่มีค่าพอให้เอ่ยถึงได้เลย

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status