Home / รักโบราณ / มู่ตาน บุปผาท้าชะตา / บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 3

Share

บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 3

last update Last Updated: 2025-05-09 15:49:21

“ปล่อยนาง!! ปล่อยหลานข้า!!” มือเหี่ยวย่นพยายามดึงมือของชายผู้นั้นออกแต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำยังสร้างความรำคาญและไม่พอใจให้กับมันอีกด้วย

“ไอ้แก่นี่!! อยากตายมากใช่ไหม!! ข้าจะจัดการให้!!!” มันพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะปล่อยหญิงสาวแล้วเดินเข้าไปหาชายชราแทน มู่ตานที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้าไปขว้างเอาไว้

“อย่าทำอะไรท่านปู่ ข้าขอร้อง พวกท่านอยากได้อะไรก็เอาไปแต่อย่าทำร้ายคนเลยนะเจ้าคะ”

มู่ตานพยายามขอร้องพวกมันเอาไว้ แขนเรียวกอดผู้เป็นปู่เอาไว้แน่นไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายได้

“มีเงินอยู่แค่นี้จะไปพออะไร!! ข้าวสารก็มีอยู่น้อยนิดของมีค่าอื่นก็ไม่มี!!!”

ชายอีกคนที่รื้อค้นบ้านเดินมาเข้ามาหาเพื่อนของมัน น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก

“งั้นก็เอานังเด็กนี้ไปขาย หน้าตางดงามเช่นนี้ของให้หอคณิกาคงได้ราคาดีไม่น้อย” สายตาที่มองไปยังมู่ตานช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก

“พวกแกได้เงินกับของไปแล้วก็ปล่อยพวกเราไปสิ อย่าทำอะไรพวกเราเลย ข้าขอร้องละ”

อวิ๋นเซียงไห่ขอร้องทั้งยังก้มหัวโขกพื้นให้พวกมันด้วยเขาหวังเพียงความเมตตาเล็กน้อยจากพวกมันเท่านั้น

“ใครจะเอาคนแก่ ๆ ไร้ประโยชน์ไปด้วย คนที่ข้าต้องการคือนางต่างหาก”

รอยยิ้มอันน่ารังเกียจผุดขึ้นบนใบหน้าของพวกมันทั้งสองคนจนมู่ตานรู้สึกได้ถึงความไม่ปลอดภัยที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตนเอง

“มานี่!!” มือหยาบกร้านคว้าจับข้อมือขาวของมู่ตานเต็มแรงจนรู้สึกเจ็บก่อนจะกระชากตัวนางออกมาจากผู้เป็นปู่

“ไปกันได้แล้ว!!!” ชายคนหนึ่งเก็บข้าวของที่ปล้นมาได้เดินนำออกไปในขณะที่อีกคนฉุดกระชากร่างบางของมู่ตานออกไปท่ามกลางหิมะขาวโพลน

“ท่านปู่! ฮือ! ท่านปู่!!” มือน้อย ๆ พยายามเอื้อมไปหาผู้เป็นปู่ที่พยายามลากขาของตนเองเดินตามออกมาหานาง

“ตานเอ๋อร์!! อย่าเอานางไป!!! ตานเอ๋อร์!!!” ชายชราพยายามลากตนเองไปหาหลานสาวของเขา

“โอ๊ย!!!” มู่ตานกัดเข้าที่ข้อมือของชายคนนั้นเต็มแรงจนมันปล่อยข้อมือนาง หญิงสาวรีบวิ่งกลับไปหาผู้เป็นปู่แต่ก็ถูกคนที่นางกัดวิ่งตามมากระชากเอาไว้

เพี๊ยะ!!

แรงตบทำเอาร่างเล็กล้มลงกับพื้นหิมะ มุมปากอวบอิ่มมีเลือดไหลซึมออกมาบ่งบอกถึงแรงที่ใช้นั้นมากเพียงใด ใบหน้าขาวนวลขึ้นเป็นรอยมืออย่างชัดเจนจนนางต้องกัดฟันข่มความเจ็บเอาไว้

“ตานเอ๋อร์!!!” อวิ๋นเซียงไห่ผวาเข้าไปหาหลานสาวด้วยความตกใจที่นางถูกทำร้าย

“ใจเย็น เดี๋ยวเสียของหมด ราคาก็ตกกันพอดี” เพื่อนอีกคนรีบห้ามปรามทันที ยิ่งนางบอบซ้ำมากเท่าไรราคาที่ขายได้ก็จะตกลงไปด้วยเขาต้องการขายนางให้ได้ราคาที่ดีที่สุด

“เกะกะจริงไอ้แก่นี่!!” มันเดินเข้ามาดึงชายชราออกอย่างแรงจนเขาล้มลงไปในหิมะ

“ท่านปู่!!” มู่ตานพยายามจะเข้าไปดูผู้เป็นปู่ด้วยความเป็นห่วง แต่กลับถูกรั้งเอาไว้แล้วลากให้เดินตามพวกมันไป แต่นางก็ไม่ยินยอมพยายามดิ้นจนสุดแรง ทั้งทุบ ทั้งกัดแต่ก็ไม่เป็นผล

ฉึบ!!!

มีดเล่มยาวปักเข้ากลางหลังชายที่ดึงมู่ตานจนทะลุไปด้านหน้า มันหันกลับมามองชายชราด้วยสายตาอาฆาต ก่อนจะล้มลงไปแน่นิ่งกับพื้น ในขณะที่หญิงสาวยังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อวิ๋นเซียงไห่ก็ดึงหลานสาวให้ลุกขึ้นพยายามดันให้หนีไป เพราะตนเองคงวิ่งไปด้วยไม่ไหวแล้ว

“รีบไปเร็ว!!!” ผู้เป็นปู่ดันให้หลานสาวรีบวิ่งไป แต่มู่ตานคว้าแขนผอมแห้งนั้นเอาไว้แน่นพยุงให้ไปด้วยกัน

ฉึบ!!!

“อึก!” อวิ๋นเซียงไห่ชะงักนิ่งไป ชายชรารู้สึกชาหนึบไปทั้งแผ่นหลังก่อนจะล้มลงไปต่อหน้ามู่ตาน

“ท่านปู่!!” ร่างเล็กผวากอดร่างผู้เป็นปู่เอาไว้อย่างหวาดกลัว มือของนางเปือนไปด้วยเลือดสีแดง เสียงที่ร้องเรียกผู้เป็นปู่ฟังดูเจ็บปวดแทบขาดใจ

“ท่านปู่อย่าเป็นอะไรนะเจ้าคะ! ท่านปู่!! อยู่กับตานเอ๋อร์ก่อน ฮึก!! ฮืออ ท่านปู่!!!”

ร่างบางกอดชายชราเอาไว้แน่น น้ำตาไหลอาบแก้มนวลอย่างน่าสงสาร

“ลุกขึ้น!! เสียเวลาข้ามานานแล้ว!!” ชายที่ฟันร่างอวิ๋นเซียงไห่ฉุดกระชากมู่ตานให้ลุกขึ้นตามมาอย่างไร้ปรานีมันไม่สนใจร่างของเพื่อนที่นอนตายอยู่ด้วยซ้ำ

“ปล่อยนะ!! ท่านปู่!!! ฮืออ ฮืออ ท่านปู่!! ปล่อยข้า!!!”

มู่ตานพยายามดิ้นให้หลุดจากการเกาะกุมของชายคนนั้นเพื่อกลับไปหาปู่ของนาง

“โว๊ย!! ได้ถ้าอยากตายตามมันนักข้าก็จะสนองให้!!!” มันเอ่ยขึ้นเสียงเหี้ยม ก่อนจะยกดาบขึ้นสูงหวังฆ่าหญิงสาวให้ตายในดาบเดี๋ยว เพื่อตัดความรำคาญ มู่ตานหลับตาลงไม่ขัดขื้นอะไรทั้งนั้น เพราะนางไม่เหลือใครแล้ว จึงตัดสินใจจะไปกับผู้เป็นปู่ของนางด้วย

“อย่า อย่าทำนาง มู่ตาน” เสียงแหบแห้งของชายชราดังขึ้นอย่างแผ่วเบาเรียกสติหญิงสาวขึ้นมา ร่างเล็กไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนพุ่งตัวเข้าใส่ชายคนนั้นเต็มแรงจนชายคนนั้นเสียหลักก่อนจะวิ่งไปหยิบดาบของชายที่ตายขึ้นมาหันกลับไปแทงชายคนนั้นจนทะลุ

“แก กะ กล้าทำ…ร้าย…ข้า” ชายคนนั้นไม่คิดว่าหญิงสาวตัวบอบบางและขี้กลัวจะกล้าทำร้ายมันเช่นนี้ นิ้วหนาชี้หน้าหญิงสาวอย่างอาฆาตก่อนจะล้มลงไปตรงหน้านาง มู่ตานยืนมือสั่น ตัวสั่นไปหมดด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนกกับสิ่งที่ทำลงไป

“มู่ตาน ตานเอ๋อร์” เสียงแผ่วเบาเอ่ยเรียกนางอย่างอ่อนแรง มู่ตานรีบไปดูผู้เป็นปู่ทันที

“ท่านปู่ จะ…เจ็บมากหรือไม่เจ้าคะ” หญิงสาวนั่งลงข้างชายชรามือเรียวสั่นเล็กน้อยขณะที่จับมือเหี่ยวย่นเอาไว้อย่างแผ่วเบา

“มะ…ไม่เจ็บ ปู่ไม่เจ็บเลย เจ้าเล่าเจ็บหรือไม่” มือเหี่ยวไร้เรี่ยวแรงพยายามเอื้อมเช็ดน้ำตาให้หลานสาวตัวน้อยของเขา

“ข้า ข้าจะพาท่านปู่ไปหาหมอนะเจ้าคะ” มู่ตานเอ่ยอย่างร้อนรน มือเรียวพยายามช้อนตัวชายชราขึ้นแต่กลับถูกรั้งเอาไว้

“ไม่ต้อง ไม่ต้องแล้ว ฮึก!! อ่า” อวิ๋นเซียงไห่หอบหายใจแผ่ว เขารู้ว่าไม่ไหวแล้ว นั้นยิ่งทำให้มู่ตานร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดและทรมานยิ่ง นางต้องเผชิญหน้ากับความสูญเสียอีกครั้งอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

“ท่านปู่ ฮึก อยู่กับข้าก่อนนะเจ้าคะ ท่านยังไม่เห็นข้าได้ปักปิ่นเลย ท่านสัญญาแล้วว่าจะปักปิ่นให้ข้า มองข้าเติบโตเป็นผู้ใหญ่ ฮือออ! ฮือออ!”

“ปู่ ขอ…โทษ ขอโทษเจ้า มีชีวิตอยู่ต่อให้ดี อยู่ต่อไปนะ ตานเอ๋อร์ของ…ปู่” สิ้นเสียงนั้นร่างผอมแห้งกระตุกหนึ่งครั้งก่อนจะแน่นิ่งไป 

“ฮือออ!! ฮือออ ท่านปู่!!! ฮึกก ฮือออ!! อย่างทิ้งข้า ท่านปู่ ฮึก ฮือออ!!”

เสียงร้องไห้แทบขาดใจช่างสียดแทงหัวใจคนที่ได้ยินเหลือเกิน ไม่ใช่ว่าชาวบ้านแถวนั้นไม่รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้น แต่ไม่มีใครอยากเข้าไปยุ่งต่างหาก ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ทุกคนล้วนต้องปกป้องตนเองล้วนเอาตัวรอด ถึงอยากช่วยก็ต้องมองคนที่อยู่ข้างหลังด้วยเช่นกัน พวกเขาได้แต่ข่มตาหลับปิดหูตนเองไม่ให้ได้ยินเสียงร้องไห้นั้น ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ผ่านไปโดยที่พวกเขาทำเป็นมองไม่เห็นอะไรทั้งนั้น

เสียงร้องไห้แทบขาดใจท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บ ยิ่งทำให้ใจคนเย็นชาและตายด้านมากขึ้น เมื่อร้องจนไม่เหลือน้ำตาให้ไหลแล้ว มู่ตานมองรอบกายด้วยแววตาว่างเปล่า นางลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลพยายามลากร่างอันเย็นเฉียบของชายชรากลับเข้าไปในบ้านหลังน้อยของพวกเขา

นางวางร่างไร้ลมหายใจของอวิ๋นเซียงไห่ลงบนเตียงจัดการห่มผ้าให้อย่างเบามือ นั่งลงข้างร่างเย็นเฉียบของผู้เป็นปู่ นางใช้มือน้อย ๆ ที่บัดนี้แดงไปหมดจากการถูกหิมะกัด เช็ดหิมะที่ติดอยู่ตามใบหน้าและผมออกให้ปู่ของนาง น้ำตาที่คิดว่าไม่เหลือให้ไหลแล้วกลับรินรดลงบนกายเย็นของผู้เป็นปู่หยดแล้วหยดเล่า

“ท่านปู่หลับแล้ว หลับให้สบายนะเจ้าคะ ไม่ต้องห่วงข้า ข้าจะมีชีวิตที่ดีให้ได้ ไม่ให้ท่านต้องเป็นห่วง”

“…..”

“ตานเอ๋อร์ลาท่านปู่ตรงนี้นะเจ้าคะ ท่านนอนหลับให้สบาย ตานเอ๋อร์ไปก่อนนะเจ้าคะ”

หญิงสาวลุกจากขึ้นเดินออกไปจากบ้านของนางช้า ๆ ก้มลงหยิบดาบขึ้นมาก่อนจะแทงลงบนร่างของชายฉกรรจ์ทั้งสองคนครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยใบหน้าเย็นชา เสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่เปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดมากมายผมเผ้ายุ่งเหยิงไม่เป็นทรง หน้าตาก็เปื้อนไปด้วยเลือดอย่างน่าหวาดกลัว เมื่อแทงจนพอใจแล้วนางก็ทิ้งดาบลงข้างพวกเขาก่อนจะเดินจากไปอย่างเหม่อลอย ราวกับร่างไร้วิญญาณ

ท่ามกลางหิมะขาวโพลนร่างเล็กของหญิงสาวผู้หนึ่งเดินด้วยเท้าเปล่าอย่างเหม่อลอย ดวงตาไร้แววนั้นมองทุกอย่างรอบกายอย่างเย็นชา

“หยุดด!!!” รถม้าคันหนึ่งที่วิ่งมากลางหิมะหยุดลงตรงหน้าหญิงสาวพอดี

“อยากตายหรืออย่างไรถึงได้มาเดินกลางถนนท่ามกลางหิมะเช่นนี้!!!”

คนขับรถม้าตะโกนขึ้นอย่างหัวเสีย แต่กลับได้รับเพียงสายตาเรียบนิ่งของหญิงสาวไปเท่านั้น เมื่อเพ่งมองดีดีแล้วเขาถึงกับผงะเพราะเนื้อตัวที่เต็มไปด้วยเลือดของคนตรงหน้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   ตอนพิเศษ (End)

    อายุครรภ์ของมู่ตานตอนนี้ห้าเดือนแล้ว ท้องของนางใหญ่มากเวลาลุกนั่งหรือเดินต้องมีคนคอยประคองอยู่ตลอด ท่านหมอแจ้งว่าในท้องของนางอาจมีถึงสามชีวิตที่อยู่ในนั้น สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เหวินฟงหนานดีใจเลยสักเมื่อรู้เช่นนั้นแล้ว“ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านหมอก็บอกแล้วหากดูแลตัวเองให้ดีข้ากับจะต้องปลอดภัยแน่นอนท่านอย่ากังวลนักเลย”มู่ตานพยายามเอ่ยปลอบผู้เป็นสามีที่ตอนนี้เอาแต่ตามติดนางไม่ห่างเลย“อืม ข้าเชื่อว่าเจ้ากับลูกจะต้องปลอดภัยแน่” แม้ปากจะบอกเช่นนั้นแต่สีหน้าของชายหนุ่มกลับไม่ได้ดีขึ้นเลยสักนิดเดียว มือหนาลูบท้องของฮูหยินตนเองเบา ๆ ราวกับต้องการจะสื่อสารกับเจ้าตัวเล็กในท้องจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสามเดือนแล้ว ตลอดสามเดือนที่ผ่านมามู่ตานไม่ได้มีอาการใดที่น่าเป็นห่วงเลยสักนิดจนกระทั่งวันนี้ นางรู้สึกเจ็บหน่วงตั้งแต่เช้าจึงรีบให้คนไปตามท่านหมอมาดูอาการ เมื่อตรวจดูแล้วกลับพบว่านางกำลังจะคลอดแล้วซึ่งนั้นก็ไม่แปลกอะไรสำหรับท้องแฝดที่จะคลอดก่อนกำหนดด้วยระยะอายุครรภ์กว่าแปดเดือนถือว่าผ่านพ้นช่วงเวลาที่อันตรายมาได้แล้ว แต่ถึงอย่างนั้นการคลอดบุตรแต่ละครั้งก็ถือว่าอันตรายมากอยู่ดีเหวินกงอวิ๋นเชิญ

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 34

    “ตำแหน่งของนางงั้นหรือ ข้าให้ท่านพูดอีกครั้ง ตำแหน่งของใครนะ” ดวงตาแข็งกร้าวของฟางมู่ตานจ้องมองคนมองอย่างน่ากลัว“ขะ…ของเจ้า” จางหวั่นเมี่ยวม่คิดเลยว่าหญิงสาวคนหนึ่งจะมีแรงกดดันมากถึงเพียงนี้“เจ้าค่ะ ของข้า” ฟางมู่ตานกวาดสายตามองพวกเขาทั้งสามคนอย่างช้า ๆ ก่อนจะเอ่ยในสิ่งที่อยากระบายมานาน“เรื่องนี้พวกท่านโทษข้าไม่ได้นะเจ้าคะ นิสัยของคนเราส่วนใหญ่มักขึ้นอยู่กับคนที่เลี้ยงดูมา มารดาเป็นเช่นไร บุตรก็ไม่ต่างกัน พวกท่านตามใจนาง อยากได้อะไรก็เพียงชี้นิ้วสั่ง อยากทุบตีใครก็มีบิดาช่วยปิดเรื่องให้ การที่ข้าถูกนำไปทิ้งนั้นถือเป็นโชคดีของข้ามากทีเดียวนะเจ้าคะ ท่านว่าหรือไม่”มู่ตานมองสบตากับผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ให้กำเนิด แต่กลับเป็นฟางหมิงชิงเสียเองที่ต้องหลบตานาง“หากวันนั้นท่านไม่ติดนิสัยชอบสั่งให้คนอื่นทำงานให้ ข้าก็คงไม่รอด เรื่องนี้คงต้องขอบคุณท่านแล้ว ต่อจากนี้ไป ข้าไม่ใช่คนตระกูลฟางอีกแล้ว ข้าแต่งเข้าตระกูลเหวินแล้ว จะเป็นหรือตาย ก็เป็นคนตระกูลนี้ อย่าคิดจะด่าข้าว่าอกตัญญูเพราะฟางมู่ตานตายไปตั้งแต่ที่ท่านให้คนเอานางไปฆ่าทิ้งแล้ว”มู่ตานชี้หน้าฟางหมิงชิงทันทีที่เขากำลังจะเอ่ยปาก วัน

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 33

    อาภรณ์สีแดงสดถูกปลดออกทีละชิ้นอย่างเบามือจนเผยให้เห็นร่างบางขาวเนียนผ่องของหญิงสาว เหวินฟงหนานถึงกลับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเมื่อสัดส่วนที่สมบรูณ์แบบปรากฏอยู่ตรงหน้าฟางมู่ตานหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย ยิ่งเห็นสายตาของเหวินฟงหนานที่มองมา นางยิ่งทำอะไรไม่ถูก จึงตัดสินใจก้าวลงอ่างน้ำไปเพื่อให้มันช่วยอำพรางร่างกายของนาง แต่นั้นกลับเป็นความคิดที่ผิดยิ่ง เหวินฟงหนานยกยิ้มมุมปากก่อนจะสลัดเสื้อผ้าออกจากตัวอย่างรวดเร็วระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นจากน้ำหนักของคนที่พึ่งลงอ่างน้ำมาทำเอาฟางมู่ตานนั่งนิ่งไม่กล้าขยับ ก่อนจะต้องสะดุ้งเมื่อถูกฝ่ามือร้อนแตะเข้าเบา ๆ ที่ไหล่เนียนมือหนาวักน้ำขึ้นพร้อมกับลูบไล้เบา ๆ ตั้งแต่ไหล่ขาวลงไปที่ต้นแขนเล็ก ริมฝีปากร้อนกดจูบลงที่ไหล่นวลอย่างแผ่วเบาทำเอาหญิงสาวถึงกับตัวแข็งทื่อเมื่อถูกสัมผัส เขาปัดผมยาวของหญิงสาวออกแล้วกดจูบลงอีกครั้งที่หลังคอระหงจนมู่ตานเผลอปล่อยเสียงที่น่าอายออกมาเหวินฟงหนานก็ยกยิ้มอย่างพอใจทันที“ไม่ต้องกลัว ข้าจะถนอมเจ้าอย่างถึงที่สุดเด็กดี” เสียงกระซิบข้างหูแผ่วเบาทั้งมือที่ลูบไล้ไปตามร่างกายยิ่งทำให้ฟางมู่ตานสะท้านร่างกายไร้เรี่ยวแรงจะต่อต้าน นา

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 32

    ชายหนุ่มลงจากหลังม้าเดินตรงเข้าไปหาหญิงสาวในทันทีด้วยใบหน้าอิ่มความสุขจนทุกคนสัมผัสได้ เขามองหญิงสาวไม่วางตาก่อนจะรับมือนางมาจากชิงหมิงแล้วส่งขึ้นรถม้าด้วยตนเองอย่างใส่ใจเมื่อทุกอย่างพร้อมแล้วขบวนรับตัวเจ้าสาวก็ออกเดินทางจากจวนแห่งนี้เคลื่อนไปยังจวนตระกูลเหวินที่ไม่อยู่ไกลกันนัก ขบวนเจ้าสาวยาวเหยียดสุดสายตาทั้งสินเดิมของมารดาทที่ได้กลับมาแม้ไปทั้งหมดก็ตาม สินเดิมพระราชทาน และเดิมที่ฝ่ายเจ้าบ่าวเติมเข้ามาให้ ทำเอาคนที่เห็นถึงกับอิจฉาตาร้อนโดยเฉพาะคนที่แอบหนีมาอย่างฟางถิงอิงมองทุกอย่างตรงหน้าอย่างคับแค้นใจยิ่งพิธีมากมายที่ต้องทำแม้จะเหน็ดเหนื่อยแต่ก็ดูเหมือนทั้งคู่จะยังยิ้มได้ด้วยใบหน้าอิ่มเอม ฟางหมิงชิงนั่งอยู่ที่เก้าอี้ที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้ให้ด้วยใบหน้าเรียบเฉยแต่ก็ไม่มีใครใส่ใจนักเพราะก็ทราบกันดีอยู่แล้วว่าเพราะเหตุใด เมื่อถึงเวลายกน้ำชาเขายังนั่งนิ่งไม่ยอมรับน้ำชาจากบ่าวสาวจนเหวินฟงหนานเงยหน้าขึ้นมามองด้วยรอยยิ้มว่าเขาเป็นอันใด แต่สายตาที่ฟางหมิงชิงได้สบนั้นกลับเยือกเย็นจนสามารถแช่แข็งเขาได้เลยมืออันสั่นเทายื่นออกไปรับน้ำชาจากบ่าวสาวช้า ๆ มันสั่นจนน้ำชาหกออกจากถ้วยเล็กน้อยแต่ก็ต้

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 31

    ฟางถิงอิงยืนนิ่งไม่กล้าขยับไปไหนมือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่นมันมีทั้งความรู้สึกอับอาย ทั้งโมโห ที่แค้นเคืองตีกันวุ่นไปหมดในหัวของนาง ดวงตากลมโตเริ่มแดงก่ำขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนจะมีน้ำใสไหลอาบลงมาอย่างไม่อาจห้าม“อิงเอ๋อร์!! เกิดอะไรขึ้น!!” จางหวั่นเมี่ยวที่เห็นว่าบุตรสาวออกจากจวนมานานแล้วยังไม่กลับเสียที่จึงออกมาตาม เห็นผู้คนมุงอยู่ตรงนี้หลายคนจึงเดินเข้ามาดูด้วยอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนจะเห็นบุตรสาวยืนอยู่กลางวงล้อมของผู้คนในสภาพน้ำตานองหน้า ทั้งยังตื่นตระหนกมากด้วย“พวกเจ้าทำอะไรนาง!! ฟางมู่ตานเจ้าทำอะไรลูกข้า!!” จางหวั่นเมี่ยวตวาดลั่นพร้อมกับรั้งบุตรสาวมาไว้ด้านหลังอย่างปกป้อง“แม่รองถามผิดหรือไม่ ท่านไม่ลองถามบุตรสาวสุดที่รักของท่านดูก่อนเล่า ว่ามาหาเรื่องข้าด้วยเหตุใด มาพูดจาให้ร้ายข้า ฮึก ทำให้ข้านึกถึงเรื่องราวที่เลวร้าย ทั้งที่ข้าต้องการลืมมันไป ฮึก ข้าต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำ ฮึก ฮือ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นก็มาจากท่านไม่ใช่หรือ ที่เอาข้าไปทิ้งไว้เช่นนั้น ฮืออ!!”นอกจากจะเรียกจางหวั่นเมี่ยวว่าแม่รองแล้ว มู่ตานยังทำในสิ่งที่พวกเขาต้องตกตะลึงตาค้างยิ่งกว่า จะมีอะไรเรียกความเห็นใจจากทุ

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 30

    เมื่อกลับมาถึงจวนสิ่งที่ฟางมู่ตานเห็นเป็นอย่างแรกเลยนั้นคือความวุ่นวายของบ่าวไพร่ที่กำลังขนย้ายต้นกล้วยไม้ขึ้นรถม้า“จะย้ายมันไปที่ไหนกันหรือ” มู่ตานเอ่ยถามบ่าวรับใช้คนหนึ่งที่กำลังเดินผ่านนางไป“คุณชายให้คนย้ายไปที่จวนใหญ่ที่เมืองหลวงขอรับ” เมื่อได้คำตอบแล้วมู่ตานก็ถามหาคนสั่งการต่อก่อนจะเดินไปหาชายหนุ่มตามที่บ่าวรับใช้บอกมาร่างสูงสง่าของเหวินฟงหนานกำลังนั่งอ่านสมุดบัญชีของเดือนนี้อย่างตั้งใจ แต่พอรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวในห้องเขาก็เงยหน้าขึ้นมาดูทันที“ข้าได้ยินว่าท่านสั่งให้บ่าวรับใช้ขนต้นกล้วยไม้ไปที่เมืองหลวง จะทำอะไรหรือเจ้าคะ” หญิงสาวเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้ว่างตัวหนึ่งในห้อง“เจ้าลืมงานแต่งของเราหรือ” เหวินฟงหนานเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับมองหญิงสาวไปด้วย“ไม่ลืมเจ้าค่ะ ท่านจะให้มันในงานหรือเจ้าคะ”“ใช่ กล้วยไม้นั้นถือว่าหาได้ยากยิ่งน้อยคนนักที่จะสามารถเลี้ยงมันได้เช่นนี้ อีกอย่างเจ้าก็ชอบมันมากไม่ใช่หรือ ข้าจึงให้คนใช้มันร่วมกับดอกโบตั๋นประดับในงาน”“ท่านช่างใส่ใจยิ่งนัก” ฟางมู่ตานเอ่ยยิ้ม ๆ แต่หากฟังให้ดีมันแฝงด้วยน้ำเสียงประชดประชันอยู่เล็กน้อยไม่จริงจังนักนางรู้ดีว่าเจตนาของชายหนุ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status