/ รักโบราณ / มู่ตาน บุปผาท้าชะตา / บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 2

공유

บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 2

last update 최신 업데이트: 2025-05-09 15:48:58

“กลิ่นดินหรือ” ชายชราถามอย่างแปลกใจยิ่งที่ได้นางพูดอย่างนั้น

“เจ้าค่ะ ข้าได้กลิ่นของมัน” มู่ตานตอบเสียงอ่อยแต่ไม่กล้าว่าเพราะเหตุใดนางถึงได้กลิ่น

“ถ้าเจ้าอยากไป เช่นนั้นก็ลองไปกันดู” อวิ๋นเซียงไห่เลือกที่จะเชื่อเด็กน้อยเพราะก็ไม่อยากจะขัดใจนาง เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกหน่อย พวกเขาก็เจอกับลำธารเล็ก ๆ สายหนึ่ง ชายชรากับเด็กน้อยยิ้มออกมาอย่างดีใจ มู่ตานวิ่งไปที่น้ำก่อนจะใช้สองมือน้อย ๆ ของนางรองน้ำใสขึ้นดื่ม

“น้ำใสมากเลยเจ้าค่ะท่านปู่” มู่ตานหันมาบอกผู้เป็นปู่เสียงใสพร้อมยิ้มกว้างส่งมาให้ อวิ๋นเซียงไห่เองก็รีบเข้าไปดื่มน้ำเช่นกันเพราะคอแห้งมากจนมันแสบร้อนไปหมด

“ต้นไม้ในนี้มีแต่ต้นใหญ่ ๆ นะเจ้าคะ” มู่ตานมองไปอีกฝั่งของธารน้ำ ทางฝั่งนั้นมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเรียงรายเต็มไปหมดดูแล้วน่าจะอุดมสมบรูณ์ว่าฝั่งนี้มากเลยทีเดียว

“ท่านปู่ ตรงนั้นมีโพรงด้วยเจ้าค่ะ” นิ้วน้อย ๆ ชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง โพรงต้นกลางขนาดใหญ่สามารถให้คนเข้าไปหลบได้ด้วยซ้ำ ทั้งสองจึงตัดสินใจข้ามลำธารไปตรงโพรงต้นไม้นั้น

เมื่อมาถึงก็พบว่ามันเป็นโพรงขนาดใหญ่มากจริง ๆ สามารถให้พวกเขาเข้าไปนั่งได้สบาย ๆ อีกทั้งโดยรอบยังมีรากไม้ใหญ่ช่วยกำบังอีกด้วย อวิ๋นเซียงไห่ยิ้มออกมาได้ในที่สุดเพราะคืนนี้ไม่ต้องนอนตากน้ำค้างกับลมเย็น ๆ แล้วแม้มันจะช่วยไม่ได้มากนักแต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

“คืนนี้เรานอนที่นี่กัน เจ้าจะได้ไม่ต้องตากน้ำค้าง” อวิ๋นเซียงไห่บอกกับหลานสาวตัวน้อยอย่างดีใจ

“เจ้าค่ะ” มู่ตานยิ้มกว้างจนตาหยี ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปหักเอากิ่งไม้ใบไม้มารองเป็นที่นอนสำหรับทั้งสองคนในโพรงต้นไม้ใหญ่ อวิ๋นเซียงไห่ได้แต่หวังว่าจะไม่มีอันตรายอะไรเกิดขึ้น เพราะป่าลึกเช่นนี้ก็ไว้ใจอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง

“ท่านปู่เจ้าคะ ตรงนี้มีผลไม้เยอะเลย” เสียงเล็กตะโกนมาจากอีกด้านหนึ่งของโพรงไม้ อวิ๋นเซียงไห่จึงรีบเดินไปหานางทันที

แอปเปิลสีแดงสดลูกใหญ่หลายสิบลูกน่ากินทั้งนั้น เขาไม่รอช้ารีบเก็บมันทันทีเพราะนี้จะช่วยให้พวกเขาไม่หิวไปอีกหลายวันเลย

“ท่านปู่เจ้าคะ อันนี้ลูกอะไรเจ้าคะ” มือเล็กยื่นผลไม้สีเหลืองอมส้มให้ท่านปู่ของนางดู

“ลูกพลับหรือ เจ้าได้มาจากตรงไหน” ชายชรารีบถามทันที มือเล็กชี้ไปทางที่นางพึ่งเดินออกมา เมื่อมองไปแล้วจะเห็นลูกพลับสีส้มสวยอยู่เต็มไปหมด มีหลายสิบต้นเลยทีเดียว ทั้งสองคนจึงช่วยกันเก็บลูกที่สามารถกินได้มาไว้ก่อน ส่วนลูกที่ยังไม่สุกก็ปล่อยเอาไว้ให้มันสุกเสียก่อนและค่อยมาเก็บทีหลัง

“อร่อยหรือไม่” เสียงแหบแห้งของชายชราเอ่ยถามมู่ตานด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นปากน้อย ๆ นั้นกัดกินผลไม้ไม่หยุดอย่างเอร็ดอร่อย

“อร่อยเจ้าค่ะ ท่านปู่กินเยอะ ๆ นะเจ้าคะ” นางยื่นลูกพลับให้ชายชราพร้อมกับยิ้มหวาน พอกินเสร็จก็เดินไปล้างมือพร้อมกับกินน้ำที่ลำธาร อวิ๋นเซียงไห่คิดในใจ หากมีไฟให้ความอบอุ่นด้วยคงจะดีไม่น้อย จะได้ไล่สัตว์ได้ด้วย

“ท่านปู่คิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ” เมื่อเห็นสีหน้าครุ่นคิดทั้งยังขมวดคิ้วโดยที่ชายชรานั้นไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าแสดงออกมามู่ตานจึงเอ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ปู่กำลังคิดว่าหากมีไฟเจ้าคงอุ่นกว่านี้” เขายิ้มบางให้ก่อนจะตอบคำถามนาง

“ไฟหรือเจ้าคะ” มู่ตานนึกอยู่ครู่หนึ่งก่อนเดินเข้าในป่าตรงที่นางไปเก็บผลไม้ เมื่อเดินออกมาในมือเล็กมียางไม้อยู่สี่ห้าก้อนยื่นให้ชายชรา

“จริงสิ ยางไม้พวกนี้ติดไฟได้” อวิ๋นเซียงไห่เองก็ลืมไปเลย เขาหาไม้กับใบไม้แห้งมาร่วมกันก่อนจะเริ่มทำการก่อไฟโดยใช้หินที่ได้มาจากบริเวณลำธาร มากะเทาะกันจนเกิดเป็นประกายไฟขึ้น ในที่สุดคืนนี้พวกเขาก็มีไฟให้ความอบอุ่นแล้ว

เวลาผ่านไปนับเดือนที่พวกเขาอยู่กันตรงนี้ มีบางครั้งที่ออกไปในเมืองกัน เด็กน้อยชวนท่านปู่นำลูกพลับที่เก็บได้ไปขายให้แม่ค้าด้วยถึงจะขายได้เงินมาเพียงนิด แต่ก็ทำให้พวกนางได้แผ่นแป้งมาไว้กินไปหลายวันเพราะอย่างไรมันก็ทำให้อิ่มได้นานกว่าผลไม้

อวิ๋นเซียงไห่สอนหนังสือให้กับมู่ตานไปด้วย ทั้งโคลงกลอนและหมากเขาก็สอนนาง ถามว่าสอนได้อย่างไร ด้วยความสามารถของนางที่เขาได้รู้ เพียงเขียนลงพื้นดินและออกเสียงให้นางฟังก็สามารถเรียนรู้ได้แล้ว 

ตารางหมากเขาหาแผ่นหินใหญ่มาก่อนจะวาดมันลงไปแล้วค่อย ๆ สอนนาง มีเพียงการวาดภาพเท่านั้นที่ไม่สามารถสอนได้แต่นี่ก็นับว่าดีมากแล้ว

มู่ตานเก็บผักป่าที่พอรู้จักกับผลไม้เข้าไปขายให้แม่ค้าอยู่บ่อยครั้ง เป้าหมายของนางคือเก็บเงินเพื่อเช่าบ้านให้ท่านปู่ได้นอนสบายขึ้น จนในที่สุดนางก็ทำได้หลังจากอดทนมาหลายเดือน 

นางอยากให้ท่านปู่ได้นอนในบ้านก่อนที่ฝนจะมา เพราะที่นี่ไม่สามารถกันฝนกับความหนาวเย็นของหิมะได้ จากขอทานในวันนั้น นางเก็บเงินจากการขายผักป่ากับผลไม้และรับจ้างทำงานเล็กน้อย ๆ เท่าที่นางจะทำได้ ถึงแม้เสื้อผ้าจะดูเก่าและขาดแต่เนื้อตัวกลับสะอาดน่ามองเพราะนางอาบน้ำทุกวัน พวกพ่อค้าแม่ค้าจึงให้นางทำงานเล็กน้อยแลกกับค่าแรง

“ท่านปู่เจ้าคะ เราเช่าบ้านหลังเล็ก ๆ กันอยู่ดีไหมเจ้าคะ หากฝนมาเยือนพวกเราจะได้ไม่เปียก”

มู่ตานในวัยสิบเอ็ดปีถามท่านปู่ของนางเสียงใส ใช่แล้วตอนนี้นางสิบเอ็ดปีแล้วเมื่อเดือนที่ผ่านมา

“เอาสิ เงินปู่ก็มีนะ” หลังจากอยู่กับมู่ตานมาอวิ๋นเซียงไห่ก็คิดหาทางทำอย่างอื่นที่ไม่ใช่ขอทาน เขารับสอนหนังสือให้กับบุตรหลานของพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดในราคาถูกจึงมีคนให้บุตรหลานมาด้วยหลายคน เขาคิดเป็นรายคนต่อหนึ่งวัน หากวันไหนไม่มาเรียนก็ไม่เสีย

“ข้าไปดูมาแล้วเจ้าค่ะ บ้านหลังเล็ก ๆ ตรงท้ายตลาดเจ้าของให้เช่าเดือนละหนึ่งตำลึงเงิน ที่ข้าตอนนี้มีอยู่สองตำลึงเงินกับสองร้อยแปดสิบอีแปะ”

มู่ตานยิ้มออกมาอย่างภูมิใจในตนเองที่ขยันและอดทนจนได้เงินเก็บมาถึงเพียงนี้

“นี่ของปู่” อวิ๋นเซียงไห่ยื่นเงินของตนเองให้เด็กน้อย มู่ตานรับมาก่อนจะนับดูอย่างมีความสุข

“ของท่านปู่มีเยอะกว่าข้าอีกเจ้าค่ะ ตั้งห้าตำลึงเงินกับห้าร้อยอีแปะ” รอยยิ้มสดใสของนางทำให้อวิ๋นเซียงไห่มีความสุขยิ่งนัก

“เช่นนั้นก็ไปเช่าบ้านกันเถอะ”

“เจ้าค่ะ” มู่ตานยิ้มกว้างก่อนจะช่วยชายชราเก็บข้าวของของพวกเขาที่มีอยู่น้อยนิด เมื่อมาถึงเจ้าของบ้านใจดีมีที่นอนกับผ้าห่มให้ มู่ตานจ่ายค่าเช่าเอาไว้สามเดือนพร้อมกับรับสัญญาเช่ามาอย่างอุ่นใจ

บ้านหลังน้อยมีห้องนอนหนึ่งห้อง ห้องครัว และโถงเล็กกลางบ้านเท่านั้นแต่นี่ก็ดีมากแล้ว มู่ตานซื้อชุดใหม่ให้ตนเองกับท่านปู่คนละสามชุดหมดเงินไปถึงหนึ่งตำลึงเงิน ไหนจะข้าวและเครื่องปรุงอีกทำให้เหลือเงินไม่มากแล้ว

“พรุ่งนี้ข้าจะเข้าป่าไปเก็บผักนะเจ้าคะ” มู่ตานเอ่ยบอก ใบหน้าเล็กบูดบึ้งเล็กน้อยเพราะเงินที่ลดลงทำให้อวิ๋นเซียงไห่อดยิ้มเอ็นดูไม่ได้

“ปู่จะไปกับเจ้าด้วย”

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าจะไปตรงที่เราเคยอยู่ ไม่ไปไกลกว่านั้น ท่านปู่ไปสอนหนังสือเถอะเจ้าค่ะ” มู่ตานบอกด้วยรอยยิ้มเต็มหน้า ท่านปู่สอนหนังสือวันหนึ่งได้เงินตั้งห้าสิบอีแปะอีกทั้งยังไม่ต้องเดินเหนื่อยอีกด้วย นางอยากให้ท่านปู่มีความสุขเช่นนี้ในทุกวัน

แต่ว่าความสุขใดจะยั่งยืนตลอดไปเล่า อวิ๋นเซียงไห่จากนางไปหลังวันเกิดครบสิบหกปีของนาง 

ภัยหนาวมาเยือนอย่างรุนแรงโหดร้าย หิมะตกหนักอย่างไม่ทันให้ใครได้เตรียมตัว อาหารราคาสูง เกิดจลาจลและการปล้นชิงขึ้นมากมาย

“มู่ตานรีบไป หนีไป” เสียงแหบแห้งของชายชราบอกให้หลานสาวรีบหนีไป ภายในบ้านหลังน้อยมีชายฉกรรจ์สองคนถือดาบเข้ามาข่มขู่ให้ชายชราและหญิงสาวส่งเงินและเสบียงที่มีมาให้พวกมัน แต่ขึ้นชื่อว่าโจรอย่างไรก็ไม่เคยหยุดอยู่เพียงเท่านั้นพวกมันอยากได้ตัวมู่ตานไปด้วยเพราะใบหน้างดงามนั้นถูกตาต้องใจพวกมันยิ่งนัก เมื่อไม่ยินยอมก็มีแต่ต้องใช้กำลังเพื่อให้ได้มา

“ท่านปู่ ข้าไม่ไป ข้าไม่ไป” หญิงสาวส่ายหน้าไม่ไปจากผู้เป็นปู่ หากนางไปไม่ต้องเดาเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น

“เจ้ารีบ ปู่ขอร้อง” อวิ๋นเซียงไห่เอ่ยวิงวอนหลานสาวให้นางรีบหนีไป

“ไม่มีใครหนีไปไหนได้ทั้งนั้น” เสียงเหี้ยมของชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น สายตาที่มองมานั้นช่างเย็นชาไร้ปรานีเสียเหลือเกิน อวิ๋นเซียงไห่รีบเอาตัวเข้าไปบังหลานสาวเอาไว้ทันที มู่ตานเองก็ก้มหน้างุดพยายามซ่อนใบหน้าที่งดงามของตนเองเอาไว้แต่มีหรือจะรอดพ้นสายตาของพวกมัน

“เงยหน้าขึ้น” มือหยาบกร้านดึงผมด้านหลังของมู่ตานขึ้นนางเงยหน้า แรงดึงทำเอาหญิงสาวถึงกับชาหนึบไปทั้งหัว ใบหน้าสวยหวานเหยเกด้วยความเจ็บจนน้ำตาเอ่อคลอ

“งดงามยิ่ง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าช่างโชคดีอะไรอย่างนี้” มือหยาบกร้านลูบเบา ๆ ไปตามกรอบหน้าของหญิงสาวอย่างหื่นกระหาย ท่าทางของมันทำเอามู่ตานทั้งขยาดและหวาดกลัว

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 3

    “ปล่อยนาง!! ปล่อยหลานข้า!!” มือเหี่ยวย่นพยายามดึงมือของชายผู้นั้นออกแต่ก็ไม่เป็นผล ซ้ำยังสร้างความรำคาญและไม่พอใจให้กับมันอีกด้วย“ไอ้แก่นี่!! อยากตายมากใช่ไหม!! ข้าจะจัดการให้!!!” มันพูดเสียงเหี้ยมก่อนจะปล่อยหญิงสาวแล้วเดินเข้าไปหาชายชราแทน มู่ตานที่เห็นท่าไม่ดีก็รีบเข้าไปขว้างเอาไว้“อย่าทำอะไรท่านปู่ ข้าขอร้อง พวกท่านอยากได้อะไรก็เอาไปแต่อย่าทำร้ายคนเลยนะเจ้าคะ”มู่ตานพยายามขอร้องพวกมันเอาไว้ แขนเรียวกอดผู้เป็นปู่เอาไว้แน่นไม่ให้ใครเข้ามาทำร้ายได้“มีเงินอยู่แค่นี้จะไปพออะไร!! ข้าวสารก็มีอยู่น้อยนิดของมีค่าอื่นก็ไม่มี!!!”ชายอีกคนที่รื้อค้นบ้านเดินมาเข้ามาหาเพื่อนของมัน น้ำเสียงที่เอ่ยออกมาไม่สบอารมณ์ยิ่งนัก“งั้นก็เอานังเด็กนี้ไปขาย หน้าตางดงามเช่นนี้ของให้หอคณิกาคงได้ราคาดีไม่น้อย” สายตาที่มองไปยังมู่ตานช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก“พวกแกได้เงินกับของไปแล้วก็ปล่อยพวกเราไปสิ อย่าทำอะไรพวกเราเลย ข้าขอร้องละ”อวิ๋นเซียงไห่ขอร้องทั้งยังก้มหัวโขกพื้นให้พวกมันด้วยเขาหวังเพียงความเมตตาเล็กน้อยจากพวกมันเท่านั้น“ใครจะเอาคนแก่ ๆ ไร้ประโยชน์ไปด้วย คนที่ข้าต้องการคือนางต่างหาก”รอยยิ้มอันน่ารังเก

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 2

    “กลิ่นดินหรือ” ชายชราถามอย่างแปลกใจยิ่งที่ได้นางพูดอย่างนั้น“เจ้าค่ะ ข้าได้กลิ่นของมัน” มู่ตานตอบเสียงอ่อยแต่ไม่กล้าว่าเพราะเหตุใดนางถึงได้กลิ่น“ถ้าเจ้าอยากไป เช่นนั้นก็ลองไปกันดู” อวิ๋นเซียงไห่เลือกที่จะเชื่อเด็กน้อยเพราะก็ไม่อยากจะขัดใจนาง เมื่อเดินลึกเข้าไปอีกหน่อย พวกเขาก็เจอกับลำธารเล็ก ๆ สายหนึ่ง ชายชรากับเด็กน้อยยิ้มออกมาอย่างดีใจ มู่ตานวิ่งไปที่น้ำก่อนจะใช้สองมือน้อย ๆ ของนางรองน้ำใสขึ้นดื่ม“น้ำใสมากเลยเจ้าค่ะท่านปู่” มู่ตานหันมาบอกผู้เป็นปู่เสียงใสพร้อมยิ้มกว้างส่งมาให้ อวิ๋นเซียงไห่เองก็รีบเข้าไปดื่มน้ำเช่นกันเพราะคอแห้งมากจนมันแสบร้อนไปหมด“ต้นไม้ในนี้มีแต่ต้นใหญ่ ๆ นะเจ้าคะ” มู่ตานมองไปอีกฝั่งของธารน้ำ ทางฝั่งนั้นมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นเรียงรายเต็มไปหมดดูแล้วน่าจะอุดมสมบรูณ์ว่าฝั่งนี้มากเลยทีเดียว“ท่านปู่ ตรงนั้นมีโพรงด้วยเจ้าค่ะ” นิ้วน้อย ๆ ชี้ไปที่ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง โพรงต้นกลางขนาดใหญ่สามารถให้คนเข้าไปหลบได้ด้วยซ้ำ ทั้งสองจึงตัดสินใจข้ามลำธารไปตรงโพรงต้นไม้นั้นเมื่อมาถึงก็พบว่ามันเป็นโพรงขนาดใหญ่มากจริง ๆ สามารถให้พวกเขาเข้าไปนั่งได้สบาย ๆ อีกทั้งโดยรอบยังมีรากไม้ใหญ่ช่วยก

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   บุปผาท้าชะตา ตอนที่ 1

    ร่างเล็กนั่งอยู่ข้างชายชราริมถนนในตลาดที่มีผู้คนมากมาย พวกเขาถูกไล่ให้มานั่งอยู่ท้ายตลาดแห่งนี้จากขอทานอีกกลุ่มที่ยึดพื้นที่ตรงกลางตลาดเอาไว้“ทำไมเราไม่ขายของละเจ้าคะ ท่านปู่” เสียงเล็กเอ่ยถามอย่างสงสัย นางนั่งมองพ่อค้าแม่ค้าที่ตะโกนขายของอยู่นานเลยเกิดสงสัยว่าทำไมพวกนางไม่ขายของบ้าง“ไม่ได้หรอกนะ” ชายชราเอ่ยขึ้นเสียงแหบแห้ง“ทำไมหรือเจ้าคะ” นางไม่เข้าใจในสิ่งที่ชายชราต้องการจะสื่อว่าเหตุใดถึงขายไม่ได้“พวกเราเป็นขอทาน หากขายของจะเอาเงินที่ไหนไปซื้อของมาขายเล่า อีกอย่างหากเรามีเงินขึ้นมา พวกขอทานกลุ่มอื่นที่เห็นก็จะมาแย่งชิงจากเจ้าไปอย่างโหดเหี้ยม”ขึ้นชื่อว่าขอทานไม่มีทางที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นได้นั้นคือสิ่งที่เขาเคยประสบมาแล้ว“เราแจ้งทางการไม่ได้หรือ” มู่ตานถามอย่างสงสัย“พวกเขาไม่สนใจเราหรอกนะมู่ตาน” ดวงตากลมโตมองชายชราอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ แล้วนั่งเงียบ ๆ อยู่ข้างเขาเช่นนั้นจนมืดค่ำ แต่ทั้งสองคนก็ไม่มีใครให้เงินมาเลย แม้แต่อาหารก็ไม่มี มู่ตานลูบท้องน้อย ๆ ของตนเองที่ร้องประท้วงมาตั้งแต่เช้าด้วยความหิว“เดี๋ยวปู่ลองหาผลไม้ป่าให้นะ” อวิ๋นเซียงไห่บอกเด็กน้อยอย่างสงสาร เข

  • มู่ตาน บุปผาท้าชะตา   อารัมภบท

    เด็กหญิงตัวน้อยถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ที่วัดล้างเพียงลำพัง นางคือ ฟางมู่ตาน คุณหนูใหญ่ตระกูลฟาง บุตรสาวคนโตของเสนาบดีกรมการคลัง นางถูกนำมาทิ้งไว้ที่นี่ หลังจากผู้เป็นมารดาเสียชีวิตลงท่านพ่อของนางกล่าวว่า นางเป็นตัวนำความโชคร้ายมาสู่ตระกูล ไม่สมควรที่จะอยู่ให้ใครต้องตายอีก จึงให้คนนำนางมาทิ้งที่วัดล้างนอกเมืองโดยไร้คนดูแล ทั้งที่นางพึ่งจะสิบขวบเท่านั้น เด็กหญิงที่แสนน่ารักนี้ ใครจะรู้เล่าว่านางซ่อนความสามารถอันใดเอาไว้มากมาย“นังหนู เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่คนเดียว” ชายแก่คนหนึ่งถามนางขึ้นพร้อมกับเดินเข้าไปหา มู่ตานที่เห็นคนแปลกน่าท่าทางน่ากลัวก็ถอยหนีทันที“อย่าเข้ามานะ! ฮึก!! ฮึก!! ฮืออ!!!” เด็กหญิงร้องไห้ออกมาด้วยความกลัวและตกใจ นางถูกสาวใช้คนหนึ่งของแม่รองพามาที่นี่ โดยบังคับให้นางขึ้นรถม้ามา ไม่มีข้าวของติดกายมาเลยสักอย่างเดียว สิ่งเดียวที่นางมีคือหวีสับแกะสลักรูปดอกโบตั๋นที่ผู้เป็นแม่ทิ้งเอาไว้ให้ดูต่างหน้า“ไม่ต้องร้อง ข้าไม่ทำอะไรเจ้าหรอก” น้ำเสียงแหบแห้งพร้อมกับมือเหี่ยวย่นเอื้อมไปใกล้เด็กน้อย เพื่อจะดูว่านางเป็นอันใดหรือไม่“จริงหรือเจ้าคะ ฮึก!” น้ำเสียงเล็ก ๆ เอ่ยถามอย่างหวาดระแวง ด

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status