Share

บทที่ 11

มู่จิ่วซีเข้ามาในห้องที่ท่านแม่พักอยู่ ก็ได้กลิ่นยาเข้มข้นวูบหนึ่งออกมา

"แค่กๆๆ" เสียงไอด้านในฟังแล้วทำเอาคนรู้สึกแย่เลยทีเดียว

"ฮูหยิน คุณหนูใหญ่กลับมาแล้ว" ป้าอิงหญิงชราร้องเรียกขึ้น

มู่จิ่วซีพุ่งเข้าไปในห้อง ก็เห็นว่าท่านแม่กำลังลุกขึ้นนั่งด้วยการประคองตัวของป้าหวังหญิงชราอีกคนหนึ่ง

"ท่านแม่" มู่จิ่วซีมาถึงเตียงพอเห็นสีหน้าของท่านแม่ ใจก็เต้นตุบ

ในใบหน้าขาวน้ำเงินนี้ มีอาการป่วยอยู่ไม่เบาเลย เพียงแต่ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมยังไม่หนักหนาขนาดนี้

"ซีเอ๋อร์ เจ้ากลับมาแล้ว" ฮูหยินใหญ่หน้าตาดูมีบุคลิก คิ้วตาก็ดูใจกว้าง เห็นได้ว่าตอนยังสาวเป็นคนสวยมากๆ คนหนึ่ง

"ท่านแม่ ข้ากลับมาแล้ว อาการป่วยของท่านทำไมจึงแย่หนักลงไวขนาดนี้?" มู่จิ่วซีจับมือของนางขึ้นมาจับชีพจรทันที

ชาติที่แล้วเพื่อที่นางจะแอบเข้าไปในองค์กรที่จำหน่ายยาแผนจีน จึงต้องไปร่ำเรียนแพทย์แผนจีนมาเป็นพิเศษ ต่อมาเข้าไปทำภารกิจในภูเขาต่อ สภาพแวดล้อมเลวร้าย โดนศัตรูทำร้ายจนบาดเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วน ต้องขอบคุณพวกหญ้าสมุนไพรที่คอยช่วยชีวิต

"ซีเอ๋อร์ แม่ก็ป่วยเหมือนเดิม แค่กๆๆ..." ฮูหยินใหญ่พูดแล้วก็ไอขึ้นมา ที่ตามมาคือเลือดที่กระอักออกมาจากการไอ สีเลือดดำคล้ำ จนทำให้ป้าทั้งสองคนข้างๆ ตกใจร้องขึ้นมา

มู่จิ่วซีหลังจากจับชีพจรสีหน้าก็เปลี่ยนไป กลิ่นอายทั้งตัวเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมา

"ลู่เอ๋อร์ รีบไปเอาชุดเข็มเงินมา เร็ว!"

ลู่เอ๋อร์ตกใจจนรีบขานรับทันที หมุนตัววิ่งออกไป

"หมออู๋น่าจะใกล้มาแล้ว" ป้าหวังเอ่ยขึ้น

มู่จิ่วซีกวาดตามองไปทางป้าทั้งสอง ป้าทั้งสองคนนี้ล้วนเป็นสาวใช้ที่ติดตามมาตอนออกเรือนเมื่อครั้งนั้น รับใช้ท่านแม่มากว่ายี่สิบปีแล้ว

"ท่านพี่ ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม" ลู่เวยหย่ารีบวิ่งเข้ามา ด้านหลังมีมู่เจินจูตามมาติดๆ

"น้องสาว เจ้ามีน้ำใจเหลือเกิน ข้าเองก็อาการเดิมๆ" ฮูหยินใหญ่เอ่ยตอบอย่างอบอุ่น

"ท่านพี่ ท่านต้องระวังหน่อย ตอนนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิแล้ว อากาศเองก็เย็น ห้ามไปสัมผัสลมเย็นเด็ดขาดเชียว พอเห็นว่าท่านพี่ไออย่างหนัก ข้าก็ให้คนใช้ไปตุ๋นน้ำสาลี่ชวนเป้ยไว้แล้ว ท่านพี่ต้องดื่มให้มากหน่อย"

ลู่เวยหย่าใบหน้าเป็นกังวล จนทำให้มู่จิ่วซีย้อนคิดไปถึงความทรงจำเจ้าของร่างเดิม

ในความทรงจำฮูหยินรองคนนี้เป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนสง่างามจิตใจดี เข้ากันได้ดีกับท่านแม่ และรักนางมากเหมือนกับหลานสาว

พอพูดขึ้นมา ฮูหยินรองหลังจากที่ท่านแม่ของมู่จิ่วซีคลอดมู่จิ่วซีออกมา ร่างกายก็อ่อนแอลง ไม่อาจให้กำเนิดทายาทได้อีก ทางจวนมู่เองก็ไม่มีคุณชาย เป็นท่านแม่ที่บีบให้ท่านพ่อแต่งงานกับนาง

ลู่เวยหย่าเองก็ใจสู้ พอคลอดทีก็คลอดออกมาเป็นลูกแฝด มู่เจินจูกับแฝดน้องมู่หยางชุน

แม้จะพูดกันว่าสนมมีลูกเพื่อสร้างความมั่นคงให้ตนเอง แต่แม่ทัพใหญ่มู่กับฮูหยินใหญ่ก็มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน ไม่มีทางหลงสนมจนทอดทิ้งภรรยา แต่ฮูหยินใหญ่เองก็รู้สึกผิดต่อจวนมู่ จึงมาอยู่ในตำแหน่งที่เท่าเทียมกันกับฮูหยินรอง

ทั้งสองคนสนิทกันเหมือนพี่น้อง

"ท่านป้า ท่านทำไมจึงแย่ลงเรื่อยๆ ขนาดนี้?" มู่เจินจูเผยสีหน้ากังวล ถึงอย่างไรฮูหยินใหญ่ก็ดีกับมู่เจินจูมาก ไม่ได้ด้อยกว่าที่มีให้กับมู่จิ่วซีเลย

"เจินจู พี่สาวรังแกเจ้าอีกแล้วหรือ?" ฮูหยินใหญ่มองเห็นสภาพที่เพิ่งจะร้องไห้มาของมู่เจินจูจึงเลิกคิ้วถามขึ้น

ฮูหยินรองรีบถามขึ้น "ท่านพี่ ท่านอย่ากังวลเรื่องเหล่านี้เลย เจินจูเองก็ก่อเรื่องเอาไว้ ถูกจิ่วซีสั่งสอนบ้างมันก็สมควรแล้ว นางยังไม่พูดขอโทษจิ่วซีเลย" พูดเสร็จก็รีบกวาดตาไปทางมู่เจินจูผาดหนึ่ง

"ซีเอ๋อร์ เจินจูยังเล็ก เจ้าเป็นพี่สาว ต้องคอยดูแลนางนะ ครอบครัวมีสุขคือเรื่องดี" ฮูหยินใหญ่สั่งสอนมู่จิ่วซีทันที

มู่จิ่วซีพยักหน้าตอบ "ท่านแม่ ข้ารู้แล้ว ข้ากับน้องสาวแค่หยอกล้อกัน ท่านแม่ ท่านรีบนอนลงพักผ่อนเถิด ป้าสะใภ้รอง ในห้องคนมีมากเกินไปแล้ว ท่านโปรดออกไปก่อนเถิด"

ฮูหยินรองหลังจากพูดไปอีกไม่กี่คำก็เดินออกไป รอจนลู่เอ๋อร์นำเข็มเงินเข้ามา มู่จิ่วซีจึงให้คนทั้งหมดออกไปก่อน เหลือไว้แค่นางสองแม่ลูก

"ซีเอ๋อร์ เจ้าเป็นวิชาแพทย์ตั้งแต่เมื่อไรกัน?" ฮูหยินใหญ่นอนลงมองลูกสาวตนเอง ในดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนแอและปวดใจ

"ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งพูดอะไร ข้าช่วยท่านรักษาอาการป่วยก่อน" มู่จิ่วซีในใจตกตะลึง เพราะท่านแม่ไม่ได้ป่วย แต่ว่าโดนพิษมา

ยิ่งไปกว่านั้นพิษยังอยู่ลึกมากแล้ว พอผ่านไปนานวันเข้า จึงทำให้ร่างกายบกพร่องขึ้นเรื่อยๆ

นางแทงเข็มเงินลงไปบนตัวท่านแม่กว่ายี่สิบเล่ม สกัดพิษที่จะแล่นเข้าสู่หัวใจเอาไว้ แต่การจะขับไล่ความเป็นพิษ ยังจำเป็นต้องใช้วัตถุดิบยาแก้พิษ

พิษชนิดนี้ไม่มีสี เข็มเงินแทงลงไปก็ไม่เปลี่ยนเป็นสีดำ แต่ในเลือดกลับมีกลิ่นไม้กฤษณาจางๆ ที่แทบจะจับไม่ได้ออกมา

มู่จิ่วซีจิตใจสั่นสะเทือน หันหน้ามองไปทางหน้าต่าง

และเห็นว่าบนกรอบหน้าต่างมีดอกบัวกลิ่นกฤษณาจุดเอาไว้ ควันลอยไหวๆ เพียงแต่กลิ่นหอมจางๆ ถูกกลิ่นยากลบไปจนสิ้น

"ท่านแม่ ท่านจุดกลิ่นไม้กฤษณาอยู่ทุกวันเลยใช่หรือไม่" มู่จิ่วซีเอ่ยถามขึ้น

ฮูหยินใหญ่ตะลึงงัน ยิ้มตอบมาว่า "ใช่แล้ว กลิ่นไม้กฤษณาทำให้จิตใจสงบ จุดมากว่าสิบปีแล้ว"

"ตอนแรกสุด ท่านเป็นคนจุดเองเลยหรือ?"

"ไม่ใช่หรอก ข้าจำได้ว่าตอนนั้นนอนไม่ค่อยหลับ ป้าหวังบอกว่าจุดกลิ่นไม้กฤษณาทำให้หลับสบาย หลังจากนั้นทุกคืนก็จุดขึ้นมา"

"ป้าหวัง?" มู่จิ่วซีดวงตาเปล่งประกายหม่น

"ทำไมหรือ? เจ้าทำไมจึงถามเรื่องนี้?" ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

"ท่านแม่ ท่านไม่ได้ป่วย แต่ท่านติดพิษเรื้อรังประเภทหนึ่ง พอพิษสะสมมาอย่างมากถึงสิบปี ก็ถึงเวลาระเบิดออกมาแล้ว" มู่จิ่วซีกดเสียงต่ำ

"อะไรนะ?" ฮูหยินใหญ่สั่นไปทั้งตัว หน้าเปลี่ยนสี "เป็นไปได้อย่างไร?"

"จุ๊" มู่จิ่วซีรีบทำท่าจุ๊ปาก "ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งส่งเสียง คนที่วางยาพิษมาสิบกว่าปี น่าจะเป็นคนข้างกายท่าน"

พูดพลางค่อยๆ ลุกขึ้นยืน เดินไปที่ประตูอย่างไม่มีซุ่มเสียง จู่ๆ ก็เปิดประตูออก

"คุณหนูใหญ่" ป้าหวังที่อยู่ด้านนอกเกือบจะคะมำเข้ามา นางเห็นมู่จิ่วซีเปิดประตูออกมา ก็ตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี

มู่จิ่วซีสาวตาจ้องไปทางป้าหวัง แต่ไม่พูดอะไร

ป้าหวังกลับเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรน "คุณหนูใหญ่ ท่านออกมาทำไมไม่ให้ซุ่มให้เสียง หมออู๋ใกล้มาถึงแล้ว ท่านไม่ต้องร้อนใจไป"

มู่จิ่วซีเอ่ยขึ้นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า "ป้าหวัง ท่านไปหยิบไม้กลิ่นกฤษณาร้อยปีท่อนหนึ่งที่ห้องยามาหน่อย"

"ไม้กลิ่นกฤษณา?" ป้าหวังงงงัน

"กลิ่นไม้กฤษณาในห้องท่านแม่ไม่มีผลสรรพคุณอีกแล้ว ไม้กลิ่นกฤษณาร้อยปีทำให้จิตใจสงบได้มากกว่า ห้องยาน่าจะมีอยู่"

"โอ้โอ้ ข้าน้อยจะรีบไปจัดการทันที" ป้าหวังหน้าผากมีเหงื่อผุด ไม่กล้ามองมู่จิ่วซี รีบรับคำสั่งออกไปทันที

"ลู่เอ๋อร์" มู่จิ่วซีรีบเรียกลู่เอ๋อร์เข้ามา กำชับที่ข้างหูนางไม่กี่คำ

ลู่เอ๋อร์งงงันไปพักหนึ่ง จากนั้นจึงรีบสาวเท้าวิ่งออกไป

"ซีเอ๋อร์" ฮูหยินใหญ่ร้องเรียกขึ้นในห้อง

มู่จิ่วซีรีบวิ่งกลับไป ฮูหยินใหญ่เอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อ "ซีเอ๋อรฺ์ เจ้า เจ้าคิดว่าป้าหวังเป็นคนวางยาข้าหรือ?"

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status