แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: เย่ว์เหมี่ยว
มู่จิ่วซีมองโม่จุนอย่างดูถูกและถอนหายใจปลงอารมณ์อย่างมาก : "เดิมทีข้าไม่กลัวหรอก แต่ใจคนมันน่ากลัวยิ่งกว่า ข้าแต่ก่อนช่างไร้เดียงสาเลยจริงๆ"

"ไม่มีความรู้ความสามารถ เอาแต่เที่ยวเล่นไร้ความก้าวหน้า!" โม่จุนพอกล่าวจบก็หันหลังเดินไปทันที "อานเย่ เจ้าอยู่นี่แหละ"

อานเย่เผยสีหน้าอันขมขื่นออกมา แต่ก็ทำได้เพียงกล่าวรับคำไป

"มู่จิ่วซี เจ้าอย่าคิดว่าท่านผู้สำเร็จราชการแทนช่วยเจ้าแล้วเจ้าจะไม่เป็นอะไร จะหยิ่งผยองก็ให้มันน้อย ๆ หน่อย!" ไป๋เฟิ่งหว่านพอเห็นโม่จุนเดินไปไกลแล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดถึงนาง

"ใครบอกว่าข้าไม่เป็นไร?" มู่จิ่วซีเผยรอยยิ้มอันชั่วร้ายออกมาและเดินเข้าไปใกล้ไป๋เฟิ่งหว่าน

ไป๋เฟิ่งหว่านถูกนางทำให้ตกใจจนสะดุ้งพร้อมกับรีบพูดขึ้นมา : "เจ้าจะทำอะไร? วันนี้ถือว่าพวกเจ้าดวงดีก็แล้วกัน พวกเรา กลับ!"

"คิดจะหนี?" มู่จิ่วซีจู่ๆ ก็หัวเราะเยาะเย้ย "ไป๋เฟิ่งหว่าน เจ้าเข้าใจอะไรข้าผิดไปหรือเปล่า พวกเจ้าอยากให้ข้าตายแล้วคิดจะหนีเนี่ยนะ?"

ขณะพูด นางก็คว้าข้อมือของไป๋เฟิ่งหว่านเอาไว้

ไป๋เฟิ่งหว่านกรีดร้องขึ้นมา ทันใดนั้นนางพยายามดิ้นรนและกรีดร้องเสียงดัง : "มู่จิ่วซี เจ้าจะทำอะไร ปล่อยข้า"

สาวใช้สองคนก็รีบเข้ามาช่วย

มู่จิ่วซีก็ยกขาทีบสาวใช้สองคนนั้นจนกระเด็นออกไป จากนั้นนางเพียงออกแรงก็สามารถกระชากไป๋เฟิ่งหว่านเข้ามาหาได้ทั้งตัว

วินาทีถัดมา นางก็ทีบไป๋เฟิ่งหว่านที่ยังยืนได้ไม่มั่นคงดีตกทะเลสาบไป

เสียง "ซ่า" ดังขึ้น น้ำกระจายออกไปโดยรอบ ทุกคนล้วนตกใจจนหน้าซีดเผือด

"ช่วย ช่วยด้วย ช่วยด้วย!" ไป๋เฟิ่งหว่านตะเกียกตะกายอยู่ในน้ำ นางสำลักน้ำและร้องเรียกให้คนช่วยไม่หยุด

เหล่าองครักษ์มองไปที่มู่จิ่วซี พวกเขาแต่ละคนมีสีหน้าแปลกประหลาด แต่ถึงกระนั้นก็ยังโดดลงน้ำไปเพื่อช่วยนาง

ส่วนมู่จิ่วซีก็กวาดสายตามองไปยังมู่เจินจู

"มู่จิ่วซี เจ้าอย่าเข้ามานะ ถ้าเจ้าบังอาจรังแกข้า ข้าจะไปบอกท่านพ่อ" มู่เจินจูตกใจจนอยากจะรีบหนี

"คิดจะหนี?" มู่จิ่วซีรีบกระโจนไปข้างหน้าจนมู่เจินจูล้มไปกองกับพื้นทั้งตัว ส่วนคนอื่นก็ตกใจจนแยกย้ายหนีกันไปหมด

มู่เจินจูถูกกระโจนล้มใส่จนเจ็บไปทั้งตัวพร้อมกับโกรธโมโหร้องไห้ออกมา

แต่มู่จิ่วซีกลับลุกยืนขึ้นมาแล้ว นางคว้าขามู่เจินจูข้างหนึ่งลากไปทางทะเลสาบ

"โอ๊ย! มู่จิ่วซี เจ้าปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ อย่า อย่า ช่วยด้วย!" มู่เจินจูรู้ว่ามู่จิ่วซีต้องการจะทำอะไร นางจึงตะโกนร้องลั่นอย่างตื่นตระหนก

"ท่านพี่ ท่านพี่ใหญ่ ข้าผิดไปแล้ว เจ้าอย่าเอาข้าโยนลงทะเลสาบเลย ข้าว่ายน้ำไม่เป็น" มู่เจินจูตกใจจนแหกปากร้องไห้เสียงดัง

มู่จิ่วซีไม่มีทางเห็นใจ ถึงอย่างเจ้าของร่างเดิมก็ถูกทำให้จมน้ำตาย ให้พวกนางได้สำลักน้ำสักหน่อยก็เป็นเพียงแค่อาหารเรียกน้ำย่อยเท่านั้น

"ซ่า" เสียงน้ำกระจายขึ้นอีกครั้ง มู่เจินจูก็ถูกมู่จิ่วซีเหวี่ยงลงทะเลสาบไป เหล่าหญิงสาวโดยรอบถึงกับตะลึงในสายตาจนตกใจรีบวิ่งออกไปไกล

"มู่จิ่วซีบ้าไปแล้ว !"

"ให้ตายเถอะ นางกล้าทำได้อย่างไร?"

"นางมีอะไรที่ไม่กล้าบ้าง มู่จิ่วซีมีนิสัยอารมร์อย่างไร พวกเจ้าอย่าได้ลืม"

"นางต้องบ้าไปแล้ว รีบหนีรีบหนี อีกสักพักนางคว้าใครได้ก็ซวยคนนั้นไปแล้วกัน"

ขณะที่เหล่าหญิงสาวกำลังหนีอย่างกุลีกุจอ

เหล่าองครักษ์ก็ช่วยไป๋เฟิ่งหว่านและมู่เจินจูขึ้นมาแล้ว หญิงสาวทั้งสองทั้งร้องไห้และโวยวายเสียงดัง ส่วนมู่จิ่วซีก็เหมือนจะยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้

มู่จิ่วซีกลับพูดขึ้นมา : "พวกเจ้าคิดว่าแค่นี้จะจบแล้วงั้นรึ? ใครเป็นคนทำร้ายข้า ใครเป็นคนฆ่าหมอหลวงเวินก็ยังสืบสวนไม่เจอ แต่ถ้าสืบสวนแล้วพบว่าเป็นพวกเจ้าทำล่ะก็ หึหึ..."

"มู่จิ่วซี เจ้าอย่ามาพูดจาซี้ซั้ว ต่อให้ข้าเกลียดเจ้าจนอยากให้ตาย ก็ไม่ถึงขนาดทีต้องฆ่าคนเพื่อใส่ร้ายเจ้า!" ไป๋เฟิ่งหว่านร้องไห้ไปพร้อมกับกล่าวอย่างโมโห จากนั้นนางก็หันไปมองมู่เจินจู

"ไม่ใช่ข้า ถึงแม้ที่ข้าจะเกลียดเจ้าที่ทำให้ชื่อเสียงของตระกูลมู่ต้องป่นปี้ เสื่อมเสียจนข้าแต่งงานไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยจะเอาชีวิตเจ้า เจ้า เจ้าอย่างน้อยก็เป็นพี่สาวของข้า" มู่เจินจูพอพูดจบก็หลั่งน้ำตาออกมา

มู่จิ่วซีหัวเราะเยาะเย้ยอย่างดูถูก : "ด้วยสติปัญญาของพวกเจ้าทั้งสองคงไม่ใช่คนที่บงการจริงๆ พวกเจ้าก็คงเป็นแค่คนโง่ที่ถูกคนอื่นหลอกใช้เอาประโยชน์"

หญิงสาวทั้งสองคนถลึงตาจ้อบมองมู่จิ่วซีอย่างโกรธเคือง

"จ้องอะไร ข้ากับลู่เอ๋อร์มาจุดโคมไฟที่นี่ พวกเจ้ามาอยู่ที่นี่กันได้อย่างไร? อีกอย่างไม่นานนักก็มีคนโผล่มาตั้งมากมาย ใครใช้ให้พวกเจ้ามาที่นี่?"

หญิงสาวทั้งสาวตกตะลึง มู่เจินจูรีบพูดขึ้นมา : "ข้าถูกนางพามา" ขณะที่นางพูดก็หันมองไปทางไป๋เฟิ่งหว่าน

ไป๋เฟิ่งหว่านสีหน้าเปลี่ยนทันทีและรีบพูดขึ้นมา : "สนมเอกสามบอกว่าวันนี้จะมีการจุดโคมไฟที่นี่ ข้าก็เลยอยากเรียกทุกคนให้มาดู ใครจะรู้ว่าเจ้าจะมาอยู่ที่นี่"

"สนมเอกสาม?" ในหัวของมู่จิ่วซีก็ปรากฎภาพหญงสาววัยเยาว์ที่สง่างามและสูงศักดิ์

"อานเย่ ท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาที่นี่ได้อย่างไร?" มู่จิ่วซีหันไปมองอานเย่

อานเย่รีบตอบกลับมา : "เป็นพระพันปีหลวงทรงมีรับสั่งให้ท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาพบคุณหนูใหญ่ขอรับ อันที่จริงงานจุดโคมไฟในเรือนรับรองของราชวงศ์ครั้งนี้ก็เป็นพระพันปีหลวงที่ทรงจัดการ พระพันปีหลวงทรงหวังท่านผู้สำเร็จราชการแทนและคุณหนูใหญ่จะมีความสัมพันธ์ที่แน้นแฟ้นขึ้นขอรับ"

พอมู่จิ่วซีนึกถึงเรื่องงานแต่งพระราชทานในครั้งนี้ ซึ่งท่านผู้สำเร็จราชการแทนไม่เต็มใจอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นชื่อเสียงของมู่จิ่วซีก็แย่มากอยู่แล้ว

แต่พระพันปีหลวงทรงรักโปรดปรานมู่จิ่วซี อีกทั้งยังทรงให้เกียรติท่านผู้สำเร็จราชการแทน จึงเลยคิดจับพวกเขาแต่งงานกัน

"ลู่เอ๋อร์ ตอนที่ข้าตกไปในทะเลสาบ เจ้าอยู่ที่ไหน?" มู่จิ่วซีจู่ๆ ก็หันไปมองลู่เอ๋อร์สาวใช้ของตนเอง

ลู่เอ๋อร์ปาดน้ำตาของนางและกล่าว : "คุณหนู ไม่ใช่ว่าท่านให้บ่าวไปหยิบโคมดอกบัวมาหรอกหรือเจ้าคะ? พอบ่าวกลับมาก็เห็นคุณหนูลอยอยู่ในน้ำแล้ว..."

"ลู่เอ๋อร์ไม่ได้โกหก ตรงพงหญ้ายังมีโคมดอกบัวอยู่สองอันด้วยขอรับ" อานเย่ชี้ไปยังโคมดอกบัวกระดาษที่ถูกเหยียบจนพัง

มู่จิ่วซีพยักหน้าและเอ่ยกล่าว : "ดังนั้นลู่เอ๋อร์จึงไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย เรื่องนี้ขุนนางผู้บัญชาการศาลต้าหลี่จะต้องสืบให้กระจ่าง พวกเจ้าถ้าไม่อยากถูกคนอื่่นใช้ให้เป็นแพะรับบาป พวกเจ้าก็พูดสิ่งที่รู้ออกมาให้หมด ไม่อย่างงั้นข้าคงเกรงว่าคนที่จะตายเป็นรายต่อไปก็คือพวกเจ้า"

พอมู่จิ่วซีพูดจบก็พาลู่เอ๋อร์เดินจากไป แววตาของอานเย่มืดหม่นพร้อมกับรีบเดินตามไป

ไป๋เฟิ่งหว่านและมู่เจินจูมองหน้ากันครู่หนึ่ง พวกนางต่างมองเห็นความกลัวในสายตาของกันและกัน

มู่จิ่วซีเมื่อกลับมาถึงยังประตูข้างห้องโถงใหญ่ของเรือนรับรอง นางก็หันไปกล่าวกับอานเย่ : "อานเย่ เจ้ากลับไปบอกท่านผู้สำเร็จราชการแทนที ว่าถ้าหากเขาช่วยข้าจับคนร้ายตัวจริงเรื่องนี้ได้ ข้าจะยอมถอนหมั้น ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่อาจทูลต่อพระพันปีหลวงได้"

อานเย่ก็กล่าวอย่างตกใจ : "คุณหนูใหญ่ไม่อยากเป็นสนมเอกของท่านผู้สำเร็จราชการแทนหรือขอรับ?"

"ข้าถวิลหาท่านอ๋องหกผู้หล่อเหลามากกว่า" มู่จิ่วซียักไหล่พร้อมกับกล่าว "ท่านผู้สำเร็จราชการแทนชอบพูดจากเหน็บแนมแปลกๆ บรรยากาศรอบตัวก็เย็นชา เขามีตรงไหนดีบ้าง?"

ใบหน้าของอานเย่หมองหม่นพร้อมกับสีหน้าที่ยากจะทนดูได้ เขารีบหันหลังกลับและเดินจากไป

กลางดึกอันเงียบสงบ มู่จิ่วซีนอนแผ่บนเตียงและจัดการความคิดของเจ้าของร่างเดิมอยู่ จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงนกกาเหว่าดังมาจากนอกหน้าต่าง

มู่จิ่วซีลุกขึ้นมาบนเตียงและไปจุดไปที่ตะเกียงน้ำมันพร้อมกับเปิดหน้าต่าง

เมื่อหน้าต่างเปิดออก ชายคนหนึ่งก็กระโดดเข้ามา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 507

    ฮั้วอวิ๋นเทียนหันมองจื่ออวิ๋นเฟยด้วยแววตาปวดร้าว เขากล่าวอย่างเสียใจ : "ทำไมเป็นแบบนี้? เป็นฝีมืออาจื่อใช่ไหม?"จื่ออวิ๋นเฟยพาเขามานั่งข้างนอกและถอนใจสารภาพ : "อาจื่อสวมหน้ากากหนังมนุษย์ปลอมตัวเป็นหญิงอุ้มท้อง มู่จิ่วซีเจตนาดีช่วยหญิงอุ้มท้องจนถูกอาจื่อทำร้ายในระยะประชิด แผลที่เอวบาดเจ็บสาหัส แต่โชคดีที่นางทานยาเทพสถิตย์ทันที"แม้จื่ออวิ๋นเฟยจะเสียยายาเทพสถิตย์ไปสองเม็ดจนเขาอยากจะสบถ แต่พอรู้ว่ามู่จิ่วซีไม่เป็นอะไร เขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มที่จะเสีย หากมู่จิ่วซีเป็นอะไรไป เขาคงจะเสียใจมากกว่าไม่ง่ายที่ในชีวิตนี้เขาจะมีเพื่อนสนิทไว้พูดคุย ได้เป็นศิษย์น้องของเขาร่วมกันค้นคว้าวิจัย เขาไม่อยากเสียนางไปจริงๆมีแค่นางสามารถปรุงยาเทพสถิตย์ฮั้วอวิ๋นเทียนตัวสั่นยิ้มเจื่อน : "ตอนนั้นเพื่อจะปกป้องอาจื่อ ข้าเลยขอยาเทพสถิตย์และหน้ากากหนังมนุษย์ให้นาง แต่กลับถูกเอามาใช้เล่นงานจิ่วซี จิ่วซีพูดถูกแล้ว ข้ามันไม่ทันสังเกต"ชิงเฟิงตายไปแล้ว มู่จิ่วซีคงทำใจไม่ได้ในทันที วิธีเดียวที่จะคลายปมแค้นในใจนางคือต้องจับอาจื่อ เจ้ารู้ไส้อาจื่อเป็นอย่างดี เจ้าพอจะช่วยนางได้ไหม?" จื่ออวิ๋นเฟยถามฮั้วอวิ๋นเทียนกล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 506

    จื่ออวิ๋นเฟยใช้เวลากว่า 1 ชั่วยามซับเหงื่อมู่จิ่วซี เขาถอนหายใจมองใบหน้าซีดเซียวของนางผู้หญิงคนนี้ทำเวรทำกรรมอะไรมา แผลตรงอกไม่ทันหาย ตรงเอวก็มาเป็นต่อ แค่มองก็รู้ว่าถูกแทงระยะประชิดมู่จิ่วซีได้สติในเช้าวันรุ่งขึ้น นางตะโกนเสียงดัง : "ชิงเฟิง ! ชิงเฟิง?"ลู่เอ๋อร์กล่าวร้องห่มร้องไห้ : "คุณหนู ท่านอย่าเพิ่งขยับตัว ชิงเฟิงจากไปแล้วเจ้าค่ะ"มู่จิ่วซีกำผ้าห่มแน่น ในหัวยังคงเห็นภาพที่เกิดขึ้นเมื่อวานทั้งหมดชิงเฟิงตายเพราะช่วยนาง คนลงมือสังหารไม่ใช่อาจื่อ แต่เป็นมือธนูที่เชี่ยวชาญอีกคนต้องโทษนางที่มองแผนการปลอมเป็นหญิงตั้งครรภ์ไม่ออก ตอนนั้นเหตุการณ์โกลาหล ผู้คนวิ่งเตลิดร้องขอความช่วยเหลือนางช่วยหญิงตั้งภรรค์คนนั้นไว้เพราะอยากให้ต้องตายทั้งกลม ไม่คาดคิดว่าอาจื่อจะใช้ประโยชน์จากความใจอ่อนย้อนมาทำร้ายนางเองผู้หญิงคนนี้ฉลาด โหดร้ายชั่วช้า"ฉินหลานจื่อ! ข้าขอสาบาน ข้าจะทำทุกอย่างเพื่อหาเจ้าให้เจอ ข้าจะเลาะเนื้อเฉือนกระดูกเจ้าเพื่อแก้แค้นให้ชิงเฟิง!" มู่จิ่วซี"คุณหนูใหญ่ ท่านใจเย็นก่อน! เดี๋ยวแผลฉีก!" จื่ออวิ๋นเฟยเดินเข้ามาเห็นคราบเลือดบนเตียงขณะมู่จิ่วซีหุนหันเคียดแค้นโม่จุนเด

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 505

    มู่จิ่วซีหันไปมอง เห็นธนูเพลิงดอกหนึ่งพุ่งไปยังหญิงสาวด้านหลังคนนั้นอีกทั้งนางเป็นหญิงท้องตั้งครรภ์มู่จิ่วซีไม่มีเวลาให้คิดมาก นางพุ่งตัวเข้าไปหาจากบนม้า กริชเล็งเควี้ยงออกไปยังธนูดอกนั้น ส่วนนางก็กระโจนคว้าหญิงตั้งครรภ์เอาไว้"คุณหนูใหญ่!" ชิงเฟิงตะโกนลั่นตามเข้ามาร่างกายของมู่จิ่วซีกระโจนไปหาหญิงตั้งครรภ์ ขณะมือของนางกำลังจะคว้าหญิงตั้งครรภ์คนนั้น นางกลับขนลุกชันขึ้นมาทั้งตัว นางจึงเอี้ยวตัวไปด้านข้าง"ฉวก!" กริชเล่มหนึ่งปักลงตรงเอวด้านซ้ายของนางมีดบินในมือของมู่จิ่วซีเล็งปาดไปที่คอของผู้หญิงตรงหน้าอย่างแรงนางเห็นใบหน้าของหญิงสาวคนนั้นชัดเจน เป็นสาวชาวบ้านธรรมดาๆ ทว่าตรงจมูกระหว่างตามีไฝสีดำเม็ดเล็กอาจื่อ! คาดไม่ถึงว่านางจะปลอมเป็นคนท้องเพียงเพื่อจะสังหารมู่จิ่วซี"มู่จิ่วซี เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า!" เสียงของอาจื่อแฝงไปด้วยความเย็นเยือกสุดขั้วพร้อมกับเบี่ยงศีรษะไปด้านหลัง หลบเลี่ยงคอ ทว่ามีดบินก็ยังกรีดเข้าที่หน้า บาดหน้ากากหนังมนุษย์จนเป็นรอย เลือดสดไหลซึมออกมาดวงตาของมู่จิ่วซีทั้งสองข้างคือความโกรธแค้น มีดบินปรากฎขึ้นในมืออีกครั้ง อาจื่อกลิ้งหลบไปด้านหลังสองตลบแล

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 504

    "แน่นอนอยู่แล้ว เซวียนหยวนเชาเมื่อก่อนคิดอยากจะช่วยหวางชิว หวางชิวไม่ใช่คนในราชวงศ์ แล้วเขาเป็นใครกันแน่? เขาถึงได้ไม่ไหว้หน้าเซวียนหยวนห้าว?" มู่จิ่วซียิ้มกล่าวโจวเหยาส่ายหัวและกล่าว : "หวางชิวแทรกซึมเข้าในแคว้นเกาอวิ๋น 20 กว่าปีแล้ว คงมีน้อยคนมากที่จะรู้ตัวตนแท้จริงของเขาในแคว้นเป่ยจิ้น"มู่จิ่วซีพยักหน้าพูด : "ดูเหมือนเซวียนหยวนห้าวใกล้จะมาแล้ว ในเมื่อหวางชิวสำคัญขนาดนั้น คราวนี้แคว้นเป่ยจิ้นคงต้องได้สังเวยเลือดครั้งใหญ่""คุณหนูใหญ่ เราจะต้องปล่อยหวางชิวไปในตอนสุดท้ายใช่ไหม?" โจวเหยาร้อนรนกล่าว "ถ้าต้องปล่อยเขาไป แบบนั้นเป็นการปล่อยเสือกลับภูเขาชัดๆ""เจ้าคิดว่าข้าใจดีขนาดนั้น?" ดวงตาทั้งสองข้างของมู่จิ่วซีมองโจวเหยาโจวเหยาตกตะลึง จากนั้นก็หัวเราะเสียงดังกล่าวออกมา : "งั้นข้าก็สบายใจได้แล้ว เขารู้ความลับของแคว้นเกาอวิ๋นมากเกินไป ถ้าต้องปล่อยเขากลับแคว้นเป่ยจิ้น ถือว่าไม่เป็นประโยชน์ต่อพวกเรา""วางใจเถอะ ต่อให้ปล่อยเขาออกกรมพระราชวังนครบาลไป ก็คงกลับไม่ถึงแคว้นเป่ยจิ้น เรื่องนี้ข้ากับโม่จุนได้ปรึกษากันแล้ว อนุญาตให้เซวียนหยวนเชามกุฎราชกุมารพิการคนนี้กลับไปได้เท่านั้น" มุมปาก

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 503

    มู่จิ่วซีกล่าวอย่างยิ้มมีเสน่ห์ : "ถึงอย่างไรเจ้าก็ห้ามทำไม่ดีกับข้า ไม่งั้นหลังจากนี้ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้า อ่อใช่ เจ้าเคยคิดถึงกิจการในห้าแคว้นอื่นของท่านอ๋องสี่ไหม? ร่วมมือกับท่านพี่ฮั้วไหม?"มู่จิ่วซีเคยพูดถึงแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนให้โม่จุนฟัง"ฮั้วอวิ๋นเทียนคนนี้มันเจ้าเล่ห์ ต่อให้ข้าไม่ร่วมมือ เข้าก็ยังได้ทราบข้อมูลข่าวกรองก่อนใคร ลงมือก่อนใคร ข้าเองได้แต่เป็นฝ่ายถูกกระทำ ในเมื่อเขาเสนอมาว่าจะให้แบ่งให้เจ้าครึ่งหนึ่ง ข้าก็ตกลง เจ้าสมควรได้รับไว้"มู่จิ่วซีทันใดนั้นก็คลายกังวลและยิ้มกล่าว : "แล้วทางพระพันปีหลวงล่ะ?""อีกห้าแคว้นยังมีตำหนัก ไม่ได้ประกอบธุรกิจ ยังมีโฉนดอยู่ บางส่วนมอบคืนให้ราชวงศ์ ส่วนกิจการอื่นที่เกี่ยวข้องกับพระพันปีหลวงก็คงจะรู้ว่าไม่อาจเอากลับมาได้ ทั้ง 5 แคว้นแย่งไปจนเกลี้ยงแล้ว"โม่จุนกล่าวต่อ "ต่อให้ทหารมังกรดำของข้าอยู่ใน 5 แคว้น ก็ไม่อาจเอากลับมาได้ แบบนั้นจะเป็นหารเปิดเผยตัวตนพวกเขา ดังนั้นแผนการของฮั้วอวิ๋นเทียนจึงถูกใจข้าพอดี ข้าเดิมทีก็อยากจะร่วมมือกับเขา ในเมื่อเขามาหาเองถึงที่ งั้นทางเราก็จะไว้หน้าเขา""เจ้าเองก็จิ้งจอกเฒ่า" มู่จิ่วซีมองเขาซึ่งวา

  • มเหสีร้อยเล่ห์ของท่านผู้สำเร็จราชการแทน   บทที่ 502

    "ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด ดูเหมือนว่าเราจะเดาผิด" มู่จิ่วซีกล่าว "แผลจะได้ไม่ต้องปริ"มู่จิ่วซีกุมอก"หากเป็นที่ลับตา ยังมีอีกที่หนึ่ง" โม่จุนหันมองมู่จิ่วซี"จวนท่านอ๋องสาม?" มู่จิ่วซีเลิกคิ้ว"ใช่ เขาหนีออกไปได้แล้ว ใครจะคิดว่าเขาจะกลับมา?" โม่จุนรีบกลับเลี้ยวม้าออกไปนอกวังด้านหลังตามขบวนมายาวเป็นหางว่าว เย่ฮาน ชิงเฟิงและทหารมังกรดำตามมาติดๆจนเมื่อมาถึงจวนอ๋องสาม เดิมทีควรจะเงียบสงัด ทว่ากลับได้ยินเสียงร้องไห้จากด้านในหลังจากโม่จุนอุ้มมู่จิ่วซีลงจากม้าก็กระโดดข้ามกำแพงเรือนเข้าไป ไม่ได้เข้ามาทางประตูใหญ่พอถึงพื้นก็ได้กลิ่นคาวเลือดคลุ้ง ทั้งสองสีหน้าเปลี่ยนไปมาก"ท่านผู้สำเร็จราชการแทน ช่วยด้วย!" บ่าวรับใช้รีบตะโกนเรียกเมื่อเห็นโม่จุนและมู่จิ่วซีโม่จุนเห็นบ่าวรับใช้นอนจมกองเลือดเลยรีบเข้าไปถาม : "ที่นี่เกิดอะไรขึ้น?""พระชายา พระชายาถูกลักพาตัวไปแล้วเจ้าค่ะ องค์หญิงสือบาดเจ็บ..." บ่าวรับใช้ชี้นิ้วไปด้านในโม่จุนรีบเรียกคนด้านหลังให้มาช่วยปฐมพยาบาล ส่วนเขาเองกับมู่จิ่วซีรีบเข้าไปด้านใน ตามทางมีองครักษ์มากมายถูกฆ่า ทั้งสองสีหน้าแย่มากกว่าเก่าหลังจากท่าน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status