Home / รักโบราณ / ยอดชายาจอมจักรพรรดิ / ข้าชื่อว่าหยางซินเยว่

Share

ข้าชื่อว่าหยางซินเยว่

Author: zuey
last update Last Updated: 2025-09-13 20:27:02

ซินเยว่สั่งอาหารเพิ่มอีกหลายชุดที่เหมือนกับของนาง เมื่ออาหารถูกวางขึ้นโต๊ะเรียบร้อยแล้ว ซินเยว่เทเหล้าลงในจอกของตนเองแล้วยกขึ้น

"ข้าขอดื่มให้พวกท่านทั้งหลายมื้อนี้ข้าเลี้ยงเอง"

ซินเยว่ยกจอกสุราขึ้นเทลงคอรวดเดียว เหล้าที่นี่แรงชะมัดเลยครั้งแรกที่ซินเยว่ได้ลองดื่มเหล้าของแคว้นจิ่งช่าง แตกต่างจากเหล้าที่นางขายยิ่งนัก หลังจากดื่มเหล้าเข้าไปนางก็ลงมือทานอาหารทันที ตอนนี้ซินเยว่หิวเป็นอย่างมากไม่สนใจมารยาทบนโต๊ะแล้ว นางลงมือทานอาหารอย่างรวดเร็วไม่สนใจถึงสายตาของบุรุษหนุ่มทั้งสองที่มองนางอย่างตกตะลึง ซินเยว่เป็นสตรีที่งดงามมากที่สุดที่พวกเขาเคยพบเจอ แต่นางช่างทำตัวเรียบง่ายไร้จริตมารยา พวกเขามองนางทานอาหารอย่างเพลิดเพลิน

ปากเล็กๆ ของนางขยับไม่หยุดบางครั้งก็ผลัดกันคีบอาหารให้นาง ซินเยว่หาได้มีความรู้สึกเขินอายต่อบุรุษทั้งสอง เขาคีบอาหารให้นางนางก็คีบเข้าปากไม่ได้เงยหน้ามองใครก้มหน้าก้มตากินอย่างเดียว ยี่เมี่ยวจินมองซินเยว่อย่างไม่วางตานางยอมรับว่าซินเยว่ช่างมีใบหน้าที่งดงามหาที่เปรียบมิได้

นางงดงามมากกว่าตนเองอยู่หลายส่วน แต่นางแปลกใจเป็นอย่างยิ่งสตรีนางนี้งดงามแต่ลักษณะไม่คล้ายคุณหนูตระกูลใหญ่หรือคนในราชวงศ์ที่ถูกพร่ำสอนเกี่ยวกับมารยาทท่วงท่าบนโต๊ะอาหาร นางช่างทำตัวเรียบง่ายวิธีการทานอาหารของนางช่างน่าสนใจยิ่งนัก

ทุกคนที่นั่งร่วมโต๊ะรับประทานอาหารกับซินเยว่ต่างคนต่างความคิด แต่ทุกคนมีความคิดเป็นจุดเดียวกันคือเกี่ยวกับตัวตนของซินเยว่ซึ่งเจ้าตัวหาได้สนใจ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาทานอาหารตรงหน้าอย่างเอร็ดอร่อย อาหารแคว้นจิ่งช่างถูกปากนางยิ่งนัก

หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อยแล้ว เสี่ยวเป่าและซินเยว่กวาดอาหารของนางเกลี้ยงโต๊ะไม่เหลือแม้แต่น้อย สร้างความประหลาดใจแก่ผู้ที่นั่งร่วมโต๊ะยิ่งนัก นางตัวเล็กถึงเพียงนี้เหตุใดจึงได้กินจุยิ่งนัก ทุกคนมีความคิดเห็นเหมือนกันแต่ไม่ได้แสดงท่าทีออกมา หลี่เสวียนขยับตัวเล็กน้อยเมื่อเห็นซินเยว่ยกชาขึ้นดื่มล้างปาก

"แม่นางเจ้าพอจะให้เกียรติบอกชื่อของเจ้าให้ข้าทราบได้หรือไม่"

ซินเยว่ชั่งใจเล็กน้อยจากนั้นจึงพยักหน้า

"ข้ามีชื่อว่าหยางซินเยว่เป็นคนแคว้นฉิง เดิมทีข้าเดินทางมากับสหายแต่เกิดเรื่องนิดหน่อยจึงทำให้เราคลาดกัน ข้าพึ่งเดินทางมาถึงที่แคว้นจิ่งเมื่อเช้ายังไม่มีเวลาตามหาพวกเขา"

ซินเยว่บอกเรื่องของนางเพียงบางส่วนเท่านั้น นางยังไม่รู้ตื้นลึกหนาบางจึงไม่เเน่ใจว่าพวกเขาสามารถไว้ใจได้เเค่ไหน

"ข้าคือหลี่เสวียนมาจากสำนักบำเพ็ญเซียนเป็นผู้เข้าร่วมการชุมนุมประลองยุทธในครั้งนี้ด้วย"

"ข้าคือถังซีไห่จากสำนักแพทย์โอสถ ส่วนนี่ศิษย์น้องของข้ายี่เมี่ยวจิน เราทั้งสองก็เดินทางมาร่วมงานชุมนุมประลองยุทธ ครั้งนี้เช่นกัน"

ซินเยว่พยักหน้าขึ้นลง

"ยินดีที่ได้พบกับพวกท่านทั้งหลาย พอดีข้ามีธุระต้องไปทำเช่นนั้นข้าต้องขอตัวก่อน ขอลาพวกท่านทั้งสามเสี่ยวเอ้อ...."

ซินเยว่ยื่นตั๋วเงินจำนวนหนึ่งร้อยตำลึงให้เสี่ยวเอ้อก่อนจะหมุนตัวเดินออกไป แต่ถูกถังซีไห่เรียกเอาไว้เสียก่อน

"เดี๋ยวก่อนคุณหนูหยาง หากเจ้ากำลังหาโรงเตี๊ยมว่างข้าว่าเจ้าเสียเวลาเปล่า เอาอย่างนี้ดีหรือไม่ข้าจะแบ่งห้องว่างให้เจ้าหนึ่งห้อง"

ถังซีไห่เสนอแบ่งห้องให้ซินเยว่อย่างใจกว้าง

"ต้องขอขอบคุณคุณชายถัง เอาไว้ถ้าข้าหาห้องพักไม่ได้ข้าจะไปขอแบ่งห้องจากท่านแล้วกัน"

ซินเยว่เอ่ยจบก็คว้าเสี่ยวเป่าเข้ามาในอ้อมแขนเดินออกจากเหลาอาหารทันที

"นางช่างเป็นสตรีที่เหมือนกับพายุไปมารวดเร็วไร้ร่องรอยถูกใจข้ายิ่งนัก"

ถังซีไห่โบกพัดในมือไปมาอย่างอารมณ์ดีเมื่อนึกถึงใบหน้าอันงดงามของซินเยว่ยามที่นางเกรี้ยวกราด

"คุณชายถังท่านช่างมีความมั่นใจยิ่งนัก ข้าดูจากลักษณะแล้วนางยังมิได้รู้สึกพึงใจในตัวท่านสักนิดเดียว ข้าว่าท่านล้มเลิกความตั้งใจที่จะเกี้ยวพานางเสียเถิด ท่าทางของคุณชายเจ้าสำราญเช่นท่านข้าว่านางคงมิชอบ"

หลี่เสวียนเอ่ยขัดบุรุษอีกคนที่เขาคิดว่าจะต้องเป็นคู่แข่งของเขาในอนาคตอย่างแน่นอน ซินเยว่ที่เดินออกมาจากเหลาอาหารหาได้รู้เรื่องที่บุรุษหนุ่มสองคนตกลงกันเอาเองเกี่ยวกับเรื่องของนาง นางยังคงเดินหน้าตามหาโรงเตี๊ยมที่มีห้องว่างต่อไป นางยังไม่อยากบากหน้ากลับไปขอแบ่งห้องกับเจ้าบุรุษที่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านผู้นั้น

เดินหาห้องพักทั้งวันซินเยว่ก็ล้มเหลว เพราะโรงเตี๊ยมทั่วทั้งเมืองถูกจับจองโดยพรรคหรือสำนักต่างๆ ที่มาจากต่างแคว้น จนเต็มเรียบร้อยแล้วแม้กระทั่งโรงเตี๊ยมที่อยู่รอบๆ เมืองก็เต็มด้วยเช่นกัน

"งานชุมนุมประลองยุทธนี่มันยิ่งใหญ่ขนาดไหนกันนะถึงได้มีคนจากทั่วทั้งสารทิศมารวมตัวกันมากมายขนาดนี้ แล้วเราจะไปตามหาฮุ่ยหลิงได้ที่ไหนกัน"

ยังมิทันจะขาดคำพลันมีรถม้าคันใหญ่วิ่งสวนทางมาด้วยความเร็ว ซินเยว่กระโดดหลบเข้าข้างทางอย่างหวุดหวิดมองรถม้าที่วิ่งผ่านไป นางยกมือขึ้นปัดชุดตัวเองที่เต็มไปด้วยฝุ่นฟุ้ง

"จะรีบไปไหนกันนะไม่เห็นคนหรืออย่างไร "

ซินเยว่สบถอย่างหัวเสีย รถม้าวิ่งผ่านไปเพียงไม่ไกลก็หยุดลง ประตูรถม้าถูกเปิดออกอย่างรวดเร็วร่างเล็กก้าวลงมาจากรถม้าวิ่งตรงมาที่ซินเยว่

"คุณหนูท่านมาถึงแคว้นจิ่งตั้งแต่เมื่อใดเจ้าคะเหตุใดถึงไม่ไปหาข้า ข้ารอท่านตั้งนานคิดว่าท่านเป็นอันใดไปแล้ว"

ฮุ่ยหลิงมองสำรวจร่างกายของซินเยว่อย่างถี่ถ้วนเมื่อเห็นว่านางไม่มีร่องรอยได้รับบาดเจ็บก็รู้สึกเบาใจ

"ข้าเที่ยวเล่นแล้วก็ฝึกฝนวิชาอยู่ในป่ามืดสายหมอก พึ่งจะออกมาเมื่อสองวันก่อน มาถึงที่นี่เมื่อเช้าแล้วเจ้าเล่าเป็นอย่างไรสบายดีหรือไม่สร้างความลำบากใจแก่องค์หญิงจิ่งเม่ยหรือไม่"

"ข้าสบายดีเจ้าค่ะองค์หญิงดูแลข้าอย่างดี"

ซินเยว่พยักหน้าให้นางจากนั้นจึงหันไปมองอีกคนที่ยื่นอยู่ห่างออกไปเล็กน้อยใช้สายตาเป็นเชิงถาม

"แล้วนี่พวกเจ้าจะไปที่ใดกันถึงได้ขับรถม้ารวดเร็วเช่นนี้"

"เรากำลังจะไปที่ลานประลองเจ้าค่ะ องค์รัชทายาทและองค์ชายจิ่งเฟิงกำลังจะประลองกำลังกันที่ลานประลอง เพื่อหาผู้ที่จะเข้าแข่งขันการชุมนุมประลองยุทธในครั้งนี้"

"น่าสนใจข้าไปด้วยได้หรือไม่"

ซินเยว่หันไปถามผู้ที่ยืนอยู่ข้างรถม้าหรือองค์หญิงจิ่งเม่ยนั้นเอง

"รีบไปเถิดเดี๋ยวจะไม่ทันดูพี่ชายข้าประลองยุทธกันถ้าหากพวกเขาทั้งสองรู้ว่าเจ้ามาถึงที่แคว้นจิ่งแล้วละก็ ข้าว่าพวกเขาคงทิ้งการประลองแล้วมุ่งตรงมาที่นี่เป็นแน่"

จิ่งเม่ยเอ่ยกลั้วหัวเราะ ทั้งสามขึ้นไปบนรถม้าถามไถ่กัน อยู่ครู่หนึ่งรถม้าก็หยุดลง จิ่งเม่ยลงจากรถม้าเป็นคนแรกตามลงมาด้วยสตรีที่ทุกคนในตำหนักองค์หญิงทราบกันดีว่าเป็นสหายใหม่ที่ติดตามมาจากแคว้นฉิง และคนสุดท้ายซินเยว่ก้าวลงมาจากรถม้าด้วยท่วงท่าสบายไม่รู้สึกกดดันจากสายตาของผู้คนรอบทิศในลานประลองที่มองมาที่นางเป็นจุดเดียว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ขุมกำลังแห่งชิวหลิง

    "เช่นนั้นหมายความว่าที่น้ำตกนั่นข้าไม่ได้ฝันไปเจ้าไปที่นั่นใช่หรือไม่ บอกข้ามานะถ้าขืนกล้าโกหกกริชของข้าจะไม่ได้ปักที่อกของเจ้าจะเป็นที่หัวของเจ้าแทน"ซินเยว่แยกเขี้ยวขู่ฟ่อเป็นลูกแมวแต่ไป๋เยี่ยนหลงหาได้กลัวการขู่ขวัญของลูกแมวน้อยตัวนี้ไม่ เขายังคงใช้สายตามองนางอย่างรักใคร่บุรุษผมสีเงินกระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ ทำให้ใบหน้าของซินเยว่ที่กำลังมองเขาอยู่นั้นแดงซ่านอย่างช่วยไม่ได้ ชิ เจ้ากล้าเอาใบหน้าอันหล่อเหลานั่นมาล่อลวงข้าเช่นนั้นหรือข้าไม่หลงกลเจ้าหรอกไป๋เยี่ยนหลงพยักหน้าเป็นเชิงบอกนางว่านางไม่ได้ฝันไป สายตาที่ยังมองปากเล็กๆ ที่อวบแสนอิ่มของนางเคี้ยวขนมหมุบหมับอย่างเพลิดเพลิน มือข้างหนึ่งหยิบขนมเข้าปากมืออีกข้างก็ถือถ้วยชาที่ไป๋เยี่ยนหลงคอยบริการรินให้นางอยู่ตลอด ผู้ติดตามและเหล่าองครักษ์ของไป๋เยี่ยนหลงมองการกระทำของทั้งสองด้วยสายตาแปลกประหลาดนายท่านเหตุใดต้องคอยนั่งรินน้ำชาให้สตรีนางนี้ ถึงนางจะงดงามมากเพียงใดแต่ก็ใช่ว่าไม่เคยมีสตรีที่งดงามเข้าหานายท่านเลย แล้วนางเป็นผู้ใดพวกเขาไม่มีใครรู้ที่มาที่ไปของนาง หรือว่านางจะเป็นองค์หญิงของแคว้นจิ่งพวกเขาได้เเต่คิดกันไปต่างๆ นานาเยี่ยจื่อมองกา

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ข้าจะตีเจ้าให้ตาย

    ไป๋เยี่ยนหลงเอ่ยเรียบๆ ไม่ใส่ใจท่าทางฟาดงวงฟาดงาของซินเยว่ เขายกมือเรียวยาวขึ้นทัดผมของนางไว้ที่ใบหูเล็กอย่างเบามือท่าทางทะนุถนอม สร้างความริษยาแก่ลี่ผิงและสตรีที่มาร่วมงานชุมนุมโดยรอบ"แต่เจ้ากอดนาง""นั่นไม่ใช่กอดนางสะดุดล้มข้าเพียงรับนางไว้เท่านั้น สำหรับข้านั่นไม่เรียกว่ากอดหญิงเดียวที่ข้าจะกอดในโลกใบนี้มีเพียงเจ้าคนเดียวเท่านั้น เจ้าตัวโง่งม"ซินเยว่ที่ตอนเเรกกระเง้ากระงอดพอได้ฟังคำพูดอันน่าอายของไป๋เยี่ยนหลง ใบหน้าของนางตอนนี้แดงก่ำจนแทบจะคั้นเลือดออกมาได้แล้ว ใบหูเล็กๆ น่ารักของนางเมื่อยามที่นางเขินอายมันช่างน่ามองยิ่งนัก ไป๋เยี่ยนหลงหัวใจถึงกับกระตุกเมื่อมองใบหน้างามของนาง'เพียงแค่มองใบหน้าเขินอายของนางข้าถึงกับ.........นางช่างเป็นมนุษย์ที่น่ารักน่าใคร่ยิ่งนัก'ไป๋เยี่ยนหลงทนมองใบหน้างามของซินเยว่ที่กำลังเขินอายอย่างน่ารักไม่ไหวจึงก้มลงหอมแก้มเจ้าตัวโง่งมของเขาเสียฟอดใหญ่อย่างไม่สนใจสายตาผู้ใด เขาคือเจ้าผู้ครองแผ่นดินไป๋หลงหาต้องสนใจสายตามดปลวกไม่ ไป๋เยี่ยนหลงคิดอย่างเข้าข้างตัวเอง" เจ้านี่มัน... ช่างหน้าไม่อายยิ่งนัก"ซินเยว่ยกมือขึ้นกุมแก้มของตนเอาไว้ถลึงตาใส่คนหน้าไม่อายท

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ข้าคือลี่ผิง

    ซินเยว่ที่ยังคงตกตะลึงอยู่นางจำได้กลิ่นอายของเขาเสียงของเขาบุรุษผู้นั้นที่นางคะนึงหาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ซินเยว่ไม่ได้ขืนตัวออกจากอ้อมแขนของเขา นางเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาเลื่อนลอยผู้คนรอบด้านเองต่างก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน ที่เห็นเจ้าผู้ครองแผ่นดินไป๋หลงเดินเข้าไปสวมกอดสตรีที่มีใบหน้างดงามปานเซียนสาวผู้นั้นแต่ก็มิมีผู้ใดกล้าปริปากเพราะพวกเขายังคงรักชีวิตตนเอง เมื่อซินเยว่ได้สติกลับคืนมานางดันตัวเองออกจากอ้อมกอดของเขาแล้วตะโกนอย่างสุดเสียงอย่างลืมตัว"ไป๋เยี่ยนหลงเจ้าคนหน้าตายเจ้าหลอกลวงข้าเจ้าหักหลังข้า ข้าจะฆ่าเจ้า"ซินเยว่คว้ากริชออกมาจากมิติกำลังจะแทงไปที่ไป๋เยี่ยน หลง แต่ก่อนที่กริชนั้นจะแทงเข้าที่หน้าอกของเขาพลังปราณสีม่วงจากด้านหลังของเขากระแทกเข้าที่หน้าอกของซินเยว่ที่ไม่ทันระวังตัวอย่างจัง นางกระเด็นออกไปหลายจั้งแล้วกระอักเลือดออกมา เสี่ยวเป่าที่นอนหมอบอยู่บนโต๊ะกระโดดออกมากลายร่างเป็นสัตว์อสูรสีดำคำรามเสียงดังกึกก้องทะลุฟ้าจนผู้เข้าร่วมงานชุมนุมประลองยุทธต้องยกมือขึ้นปิดหูซินเยว่ใช้เเขนยันกายตัวเองลุกขึ้นมองผู้ที่ยืนอยู่ด้านหลังไป๋เยี่ยนหลงอย่างโหดเหี้ยม สตรีนางนั้นที่เขาเห็นไป๋เย

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ข้าคิดถึงเจ้านัก

    นางส่ายหัวให้ตัวเองที่ดันลืมตัวว่าได้หลุดพูดภาษาโลกเก่าของตัวเองออกมา ซินเยว่คล้องแขนจิ่งเม่ยและฮุ่ยหลิงเดินเข้าร้านนั้นออกร้านนี้อย่างสนุกสนาน โดยมีสายตาของผู้คนรอบข้างมองพวกนางอย่างนึกเอ็นดูสตรีที่มีใบหน้างดงามทั้งสามโดยเฉพาะนางผู้นั้นที่เดินนำหน้าช่างงดงามยิ่งนักหาได้ยากยิ่งในแผ่นดินนี้ พวกเขามองพวกนางอย่างเพลิดเพลินโดยที่เจ้าตัวทั้งสามไม่ได้สนใจกับสายตาของพวกเขาที่มองมาเมื่อมีผู้ที่ชื่นชมย่อมมีผู้ที่อิจฉา สตรีที่เดินชมงานที่อยู่โดยรอบทั้งจากต่างแคว้นและจากจวนขุนนางต่างมองตามทั้งสามคนด้วยสายตาริษยา ถึงแม้พวกเขาจะยอมรับว่าพวกนางงดงามแต่ก็ยากจะยอมรับเรื่องที่ถูกบุรุษข้างกายหมางเมินเอาแต่หันมองสตรีอื่นที่ไม่ใช่พวกตนเมื่อไม่มีสิ่งใดให้น่าสนใจแล้วจิ่งเม่ยจึงชวนซินเยว่กับฮุ่ยหลิงเข้าไปดูการประลองในรอบคัดเลือก เมื่อเดินเข้าไปถึงทางเข้าลานประลองซินเยว่ตาโตร้องออกมาอย่างตื่นตะลึง"โอ้โหคนมากมายถึงเพียงนี้เราจะเข้าไปได้อย่างไรงานยิ่งใหญ่กว่าที่ข้าจินตนาการไว้เสียอีกนะเนี่ย"จิ่งเม่ยส่ายหัวให้กับอาการตกตะลึงจนเกินเหตุของซินเยว่ ความจริงในจินตนาการของนางคิดว่าการจัดงานประลองยุทธอาจจะเหมือนง

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ของขวัญ

    "เจ้าไม่คิดจะเเนะนำคุณหนูท่านนี้แก่พี่สามของเจ้าให้รู้จักบ้างหรือ"จิ่งเม่ยรู้จุดประสงค์ขององค์ชายสามผู้นี้ในทันที"นางคือสหายของข้าจากแคว้นฉิงนามหยางซินเยว่"จิ่งเม่ยเเนะนำซินเยว่แบบขอไปที ดูอย่างไรองค์ชายผู้นี้ก็ไม่ได้บังเอิญผ่านมาอย่างแน่นอน"ข้าคือองค์ชายสามนามว่าจิงซานเยี่ยยินดีที่ได้รู้จักคุณหนูหยาง"จิ่งซานเยี่ยรีบแนะนำตัวเองแก่สาวงามที่เขาพึงใจตั้งแต่เเรกเห็น และด้วยอำนาจขององค์ชายสามเช่นเขาที่ไม่น้อยหน้าไปกว่าองค์รัชทายาทอย่างจิ่งเหลยนางไม่มีทางปฏิเสธเขาแน่ จิ่งซานเยี่ยคิดไปเองคนเดียวองค์ชายจิ่งซานเยี่ยยังคงยืนอยู่เพื่อรอที่จะสร้างความสัมพันธ์อันดีกับหญิงงามที่เขาพึงใจ แต่ซินเยว่ที่มองลักษณะท่าทางของจิ่งเม่ยออกว่านางมิใคร่จะชอบใจบุรุษผู้นี้ดังนั้นซินเยว่จึงไม่แม้แต่จะปรายตามองเชื้อพระวงศ์หนุ่มคนนั้น นางรู้สึกรังเกียจสายตาที่เขามองมาที่นางอย่างเปิดเผยว่าต้องการอะไร สร้างความอึดอัดใจให้แก่ซินเยว่ยิ่งนัก ก่อนที่จะได้คุยกันไปมากกว่านี้ จิ่งเหลยและจิ่งเฟิงก็เดินเข้ามาช่วยนางอย่างรู้เวลา"ข้ารู้สึกแปลกใจยิ่งนักที่เห็นน้องสามอยู่ที่นี่ เจ้ามาทำอันใดหรือ"จิ่งเหลยถามออกไปเสียงเรียบป

  • ยอดชายาจอมจักรพรรดิ   ชุมนุมประลองยุทธ

    ทุกสายตาเบิกกว้างปากอ้าตกตะลึงคล้ายมองสิ่งที่เป็นอัศจรรย์ที่สุดบนดินแดนนี้ ซินเยว่หาได้สนใจสายตาพวกนั้นนางเดินตามจิ่งเม่ยเข้าไปที่ประทับที่จัดเอาไว้ให้เชื้อพระวงศ์ สองบุรุษที่กำลังประลองกันบนลานประลองมองมาที่จิ่งเม่ยฮุ่ยหลิงและคนสุดท้ายที่เดินตามมา ใบหน้าของพวกเขาทั้งสองยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจ"ซินเยว่เจ้ามาถึงแล้วหรือ"จิ่งเฟิงรีบเข้ามาทักทายสตรีที่เขารอมาหลายวันหญิงสาวพยักหน้า"ข้านึกว่าเจ้าถูกเจ้าตัวโตเขมือบไปแล้ว "จิ่งเฟิงยังคงเอ่ยหยอกเย้าซินเยว่อย่างนึกสนุก"ก็เกือบไปแต่คนอย่างข้าหนังเหนียวไม่ตายง่ายๆ หรอกและข้ามีของมาฝากพวกเจ้าทั้งสองคน"ซินเยว่ยื่นแขนไปด้านหน้าเจ้าอสรพิษดำที่พันอยู่เลื้อยออกมาจากแขนของนาง ขยายตัวใหญ่โตเท่าตอนที่พวกเขาพบมันในครั้งแรก เจ้าอสรพิษดำกระพือปีกบินขึ้นไปบนฟ้ามันบินวนไปรอบๆ ส่งเสียงคำรามดังก้องสะท้านไปทุกทิศ บุรุษหนุ่มทั้งสองเมื่อเห็นเจ้าอสรพิษดำที่มีปีกและขาก็ตกใจเป็นอย่างมาก ดูท่าทางมันจะร้ายกว่าตอนที่พบในป่าพวกเขาชักกระบี่ออกมาเตรียมประจัญบานอีกรอบ ซินเยว่หัวเราะออกมาอย่างรื่นเริงที่เห็นใบหน้าซีดเผือดของเชื้อพระวงศ์หนุ่มทั้งสอง"เป็นอย่างไรพอใจกับของฝาก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status