เห็นเขามองหน้านางอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรสักที
"เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการหรือไม่
เขาถามซินเยว่เบาๆ นางส่ายหน้าไปมาทำสีหน้าเบื่อหน่าย
"ท่านลากข้ามาจากบ้านเพื่อที่จะมาดูอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้เนี่ยนะ ช่างเสียเวลาของข้าซะจริงท่านจะรับผิดชอบอย่างไร"
ซินเยว่ทำหน้างอง้ำ พานางมาทั้งที่นางไม่เต็มใจแถมยังต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด
"ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่เจ้าต้องการ"
หลังจากที่ไป๋เยี่ยนหลงพูดจบด้านล่างก็บังเกิดเสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น
"เกิดอะไรขึ้นหรือ"
ซินเยว่หันไปให้ความสนใจด้านล่าง ผู้ดูแลหอประมูลจันทราที่ก่อนหน้านี้เข้ามาทำความเคารพไป๋เยี่ยนหลงยืนอยู่กลางลานเวทีประมูลด้านข้างมีสาวงามชุดสีแดง ยืนถือถาดสีทองตรงกลางมีกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่
"สิ่งนี้คือของประมูลชิ้นสุดท้ายของวันนี้ บางท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าของที่อยู่ในกล่องนี้คือสิ่งใด"
ผู้ดูแลกล่าวเสียงดังชัดเจน เขารับกล่องกำมะหยี่จากสาวงามมาวางไว้บนเเท่นศิลาสีดำกลางลานประมูล
"สิ่งนี้ก็คือโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยมีในครอบครองมาก่อน ผู้ที่กินโอสถนี้เข้าไปสามารถเลื่อนระดับพลังได้ถึงสามขั้นย่อยหนึ่งขั้นใหญ่ เทียบเท่ากับผู้ฝึกพลังปราณโดยการบำเพ็ญตบะถึงสิบปี"
สิ้นคำของผู้ดูแลเสียงผู้คนด้านล่างฮือฮาต่างคนต่างหมายตา ของด้านในกล่อง หมายมั่นว่าจะต้องนำมาเป็นของตนให้ได้อย่างแน่นอน ผู้ดูแลเปิดฝากล่องกำมะหยี่ที่ทำขึ้นเป็นพิเศษเพื่อกักเก็บกลิ่นอายของเม็ดยาที่อยู่ด้านใน ต่อให้เดินถือกล่องนี้ในตลาดก็ไม่มีผู้ใดสามารถรู้ได้ว่ามีโอสถล้ำค่าอยู่ด้านใน
กลิ่นหอมเย็นโชยไปทั่วทั้งห้องโถงงานประมูลแทบจะทำให้ผู้คนคลุ้มคลั่งแต่ที่นี่คือหอประมูลจันทรา ไม่มีผู้ใดกล้าก่อเรื่องถึงแม้จะมั่นใจในพลังของตนมากเพียงใดก็ตาม
"ทุกท่านโปรดใจเย็นก่อน เรามาเริ่มการประมูลโอสถล้ำค่านี่กันเลยดีกว่าข้าน้อยอยากทราบแล้วว่าผู้ใดจะได้เป็นผู้ครอบครองโอสถเม็ดนี้"
ราคาประมูลเริ่มต้นที่หนึ่งหมื่นตำลึงทอง
ซินเยว่ตาเหลือกทันที 'นี่ นี่ มันอะไรกัน'
เจ้าเถ้าแก่สวีนั่นรู้อยู่แล้วสินะว่ายาของนางราคาแพงมหาศาลตอนที่จ่ายเงินให้นางทำหน้าเหมือนตนขาดทุนย่อยยับ หน็อยเจ้าเฒ่าเจ้าเล่ห์ ซินเยว่ได้เเต่ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอยู่คนเดียวในใจ
"สองหมื่นตำลึงทอง"
เสียงเรียบเย็นของคนด้านข้างของนางดังขึ้น
"ท่านจะทำอะไร"
นางถามเขาด้วยความไม่เข้าใจ
"เจ้าต้องการ"
ไป๋เยี่ยนหลงพูดขึ้นเบาๆ นางมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจแต่ความรู้สึกชนิดหนึ่งกลับตีตื้นขึ้นมา 'ทำไมเขาต้องทำให้นางขนาดนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้คนของเขาไล่ตีนางแทบตาย' ซินเยว่มองไป๋เยี่ยนหลงด้วยความฉงนใจ
"เจ้าอ่อนแอเกินไป"
เขาพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นนางยังคงจ้องเขาอยู่เช่นนั้น
"ข้าไม่ต้องการ"
ซินเยว่อารมณ์ขึ้นทันทีนางรีบปฏิเสธก่อนที่เขาจะซื้อยาของนางด้วยราคาแพงกว่าที่นางขายไป
"ข้ารวย "
เขาตอบกลับอย่างเฉยเมยแต่ไม่ยอมแพ้ ซินเยว่ได้เเต่มองค้อนเขาด้วยความหมั่นไส้ นางผินหน้าไปมองด้านล่างที่กำลังเกิดสงครามขนาดย่อมเมื่อผู้คนกำลังแข่งกันขานราคา สามหมื่น, สี่หมื่น, ห้าหมื่น......
ราคายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนที่มีความสุขคงจะเป็นเถ้าแก่สวีและหอประมูลแห่งนี้ ซินเยว่ถอนหายใจออกมาอย่างจนใจเมื่อไป๋เยี่ยนหลงทำท่าจะเอ่ยราคาประมูล
"นั่นของข้าเอง"
ทุกคนในห้องหันมามองซินเยว่เป็นตาเดียว เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่นางต้องการจะสื่อ
"ข้าบอกว่ายานั่นเป็นของข้าเอง"
ซินเยว่เอ่ยย้ำขึ้นมาอีกครั้ง เยี่ยจื่อตกใจจนตัวแข็งไปทันทีเขาไม่มีทางเชื่อว่าสิ่งที่นางพูดจะเป็นความจริง สตรีที่ไร้ความสามารถนางนี้น่ะหรือจะสามารถปรุงโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วนได้ ฆ่าให้ตายเขาก็ไม่มีทางเชื่อ เท่าที่เขาได้ข้อมูลมาโอสถนั่นเป็นของเถ้าแก่สวีร้านขายยาของเมืองเยว่กว่าง แต่เอ๊ะนางก็ขายสมุนไพรให้ร้านเถ้าแก่สวีนี่นา เยี่ยจื่อจ้องหน้าซินเยว่อยู่อย่างนั้นเพื่อค้นหาความจริง
ไป๋เยี่ยนหลงปล่อยพลังปราณออกมาด้วยความไม่พอใจทำให้เยี่ยจื่อรู้สึกตัวว่าตนเองได้ทำเรื่องที่ล่วงเกินนายท่านแล้วเขารีบคุกเข่าลงทันที เสิ่นเยว่ไม่เข้าใจระหว่างเจ้านายกับองครักษ์สองคนนี้ เพราะทั้งสองคนเหมือนคนใบ้ที่ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เวลาสื่อสารก็ใช้เพียงสายตาแต่สามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าใจได้
ไป๋เยี่ยนหลงเก็บพลังกลับคืนมา เยี่ยจื่อถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ฮุ่ยหลิงมองท่าทางของเยี่ยจื่ออย่างไม่เข้าใจว่าเขาเป็นอะไรอยู่ๆ ถึงได้คุกเข่าลง
ซินเยว่เบ้ปากอย่างไม่พอใจนางคว้าขวดยาที่อยู่ในมิติเทเม็ดยาลงตรงหน้าพวกเขา ฮุ่ยหลิงทำท่าจะเป็นลมใบหน้าของนางซีดเผือด ไป๋เยี่ยนหลงคว้าตัวนางมานั่งบนตักของเขา
"อธิบายมา"
ซินเยว่ดิ้นขลุกขลักภายในอ้อมแขนแกร่ง
"ปล่อยข้าลงเดี๋ยวนี้นะ ข้าก็กำลังจะอธิบายอยู่นี่อย่างไรเล่า"
ซินเยว่หน้าเเดงลามไปถึงใบหูด้วยความเขินอาย ในห้องนี้มีเพียงพวกเขาสองคนเสียที่ไหนกัน ชาติก่อนของนางถึงจะเป็นคนสมัยใหม่แต่ซินเยว่ก็ไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นแบบนี้ ใบหน้าของนางยังมียางอายอยู่นะ
ซินเยว่และไป๋เยี่ยนหลงต่างอยู่ในโลกส่วนตัว แต่คนที่ช็อกจนแข็งค้างคือเยี่ยจื่อและฮุ่ยหลิง พวกเขามีความคิดที่ตรงกันคือทั้งสองมีความสัมพันธ์เช่นนี้ตั้งแต่เมื่อใด ในขณะที่ด้านล่างมีการเเข่งขันการเสนอราคาอย่างดุเดือด ห้องพิเศษชั้นสามเหมือนจะถูกตัดออกจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง
การประมูลจบลงโดยโอสถเพิ่มพลังปราณเม็ดเเรก ถูกประมูลได้โดยสำนักแพทย์โอสถในราคาหนึ่งแสนห้าหมื่นตำลึงทอง และโอสถเม็ดที่สองราคาสองแสนตำลึงทอง ถูกประมูลได้โดยองค์ชายสามฉิงอิงหลาง
ชื่อฟังดูคุ้นๆ แต่ซินเยว่ไม่ได้ให้ความสนใจ เมื่ออธิบายที่มาที่ไปของโอสถเพิ่มพลังปราณโดยบอกว่านางได้ตำราหลอมโอสถมาโดยบังเอิญและเพียงแค่ทดลองหลอมมันขึ้นมาเท่านั้น จากนั้นซินเยว่ก็มอบยาของนางให้เยี่ยจื่อ กับฮุ่ยหลิงคนละเม็ดแต่ไป๋เยี่ยนหลงไม่รับ
ชิ!!นางก็ไม่ได้อยากให้เจ้าคนฉวยโอกาสหน้าตายนี่หรอก ให้สองคนนั้นแล้วจะไม่ให้เขานางก็จะดูเป็นคนใจดำน่ะสิ
ทั้งสี่คนเดินออกจากห้องพิเศษมาขึ้นรถม้าที่จอดอยู่ด้านหน้า หอประมูลจันทรา ซินเยว่ก็ได้เจอคนที่ไม่อยากเจอจนได้นางอุตส่าประวิงเวลาไม่รีบออกมาจากหอประมูลจันทรา แต่ดูเหมือนสวรรค์จะไม่เห็นใจนางสักนิด เขาอาจจะจำนางไม่ได้ก็ได้เพราะตอนนี้นางได้เปลี่ยนไปแล้ว เเต่หยางจิ่งเทียนตะโกนรั้งซินเยว่เอาไว้ก่อนที่นางจะขึ้นรถม้า
เห็นเขามองหน้านางอยู่นานแต่ไม่ยอมพูดอะไรสักที"เจ้ามีสิ่งใดที่ต้องการหรือไม่เขาถามซินเยว่เบาๆ นางส่ายหน้าไปมาทำสีหน้าเบื่อหน่าย"ท่านลากข้ามาจากบ้านเพื่อที่จะมาดูอะไรที่น่าเบื่อแบบนี้เนี่ยนะ ช่างเสียเวลาของข้าซะจริงท่านจะรับผิดชอบอย่างไร"ซินเยว่ทำหน้างอง้ำ พานางมาทั้งที่นางไม่เต็มใจแถมยังต้องมาเจอกับคนที่ไม่อยากเจอที่สุด"ข้าคิดว่ามีบางสิ่งที่เจ้าต้องการ"หลังจากที่ไป๋เยี่ยนหลงพูดจบด้านล่างก็บังเกิดเสียงฮือฮาของผู้คนดังขึ้น"เกิดอะไรขึ้นหรือ"ซินเยว่หันไปให้ความสนใจด้านล่าง ผู้ดูแลหอประมูลจันทราที่ก่อนหน้านี้เข้ามาทำความเคารพไป๋เยี่ยนหลงยืนอยู่กลางลานเวทีประมูลด้านข้างมีสาวงามชุดสีแดง ยืนถือถาดสีทองตรงกลางมีกล่องกำมะหยี่สีดำวางอยู่"สิ่งนี้คือของประมูลชิ้นสุดท้ายของวันนี้ บางท่านคงจะทราบดีอยู่แล้วว่าของที่อยู่ในกล่องนี้คือสิ่งใด"ผู้ดูแลกล่าวเสียงดังชัดเจน เขารับกล่องกำมะหยี่จากสาวงามมาวางไว้บนเเท่นศิลาสีดำกลางลานประมูล"สิ่งนี้ก็คือโอสถเพิ่มพลังปราณความบริสุทธิ์เต็มสิบส่วน ซึ่งยังไม่มีผู้ใดเคยมีในครอบครองมาก่อน ผู้ที่กินโอสถนี้เข้าไปสามารถเลื่อนระดับพลังได้ถึงสามขั้นย่อยหนึ่งขั้นให
ตอนนี้ซินเยว่เขินจนต้องมุดหน้าหลบที่ซอกคอของไป๋เยี่ยนหลงนางตัวสั่นน้อยๆ ด้วยความตกใจระคนขัดเขิน ถึงแม้นางจะเคยเกิดมาแล้วสองรอบแต่นี่เป็นจูบแรกของนางเลยนะ จูบแรกของนาง ใบหน้าเล็กแดงก่ำทำปากบ่นขมุบขมิบคนเดียวหลังจากที่ซินเยว่ได้สติคืนมานางไม่กล้าดื้อที่จะลงจากตักของไป๋เยี่ยนหลงอีกนางกลัวว่าจะถูกเขาทำโทษอีกครั้ง ซินเยว่ได้แต่บ่นในใจเจ้าคนหน้าหนาทำโทษอะไรกันเอาเปรียบนางชัดๆ คอยดูเถอะนางจะวางยาถ่ายในอาหารของเขาซินเยว่ได้เเต่บ่นในใจคนเดียวไม่กล้าเอ่ยออกมาแม้เพียงครึ่งคำกลัวเขาจะเอาคืนมากกว่าเดิม รถม้าออกจากเรือนของซินเยว่วิ่งตามถนนผ่านหมู่บ้านต้งเถียนไปอย่างช้าๆ หม่าชิวหนิงมองตามจนลับสายตาจากนั้นจึงหันมาพูดกับหญิงวัยกลางคนอายุราวสี่สิบปี"รถม้านั่นวิ่งมาจากบ้านของหญิงหม้ายแซ่เซวี่ยนี่นา........ หญิงเเพศยาไม่มีสามีแต่กลับพาบุรุษเข้ามาอยู่ในบ้าน"หม่าชิวหนิงบิดปากพูดออกไปด้วยความริศยา หวังให้หญิงวัยกลางคนเห็นด้วยกับตน ตั้งแต่ได้ยินชาวบ้านเล่าลือว่ามีหญิงหม้ายใบหน้างดงามมาอาศัยอยู่ท้ายหมู่บ้านกับบุตรสาว นางก็บังเกิดความรู้สึกเกลียดชังทั้งๆ ที่นางไม่เคยพบหน้าเซวี่ยฟังเฟยเลยสักครั้ง ยิ่งมีคนเล
ซินเยว่พูดไม่ออกนางได้แต่ยกมือขึ้นโบกไปมาพลางพยักหน้า"เยี่ยนหลง"นางเอ่ยเสียงแผ่วเบาเเต่ชัดเจนในโสตของเขา ซินเยว่เงยหน้าขึ้นสบสายตาที่กำลังมองมาที่นาง ใบหน้าของไป๋เยี่ยนหลงยังคงเรียบเฉยเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลงมีเพียงใบหูเท่านั้นที่เเดงก่ำอย่างเห็นได้ชัด แต่ซินเยว่สังเกตเห็นมันได้นี่เขาอายหรือ ซินเยว่รู้สึกประหลาดใจเพียงแค่นางเอ่ยชื่อเขาเนี่ยนะ ซินเยว่มองหน้าไป๋เยี่ยนหลงตาปริบๆ ตอนนี้นางทำตัวไม่ถูกแล้วเสี่ยวเป่าที่เล่นดินอยู่ที่พื้นนอนกลิ้งไปมาส่งเสียง จิ๊ จ๊ะ คล้ายไม่พอใจที่พวกเขาไม่สนใจมัน"นายท่าน"เยี่ยเฉิงเดินเข้ามาคุกเข่ายกกำปั้นขวาขึ้นแนบอกด้านซ้ายทำท่าคารวะ เขาโบกมือหนึ่งทีให้เยี่ยเฉิงลุกขึ้น ซินเยว่เห็นว่าเยี่ยเฉิงมีเรื่องสำคัญจะคุยกับไป๋เยี่ยนหลงนางจึงอุ้มเสี่ยวเป่าเดินมาหามารดาที่นั่งคุยกับซ่งเว่ยหลงที่ระเบียงหน้าบ้าน คล้อยหลังซินเยว่เยี่ยเฉิงกางม่านพลังป้องกันเสียง"นายท่านมีการปะทะกันของสองกลุ่มทำให้เทพโอสถหนีไปได้ข้าน้อยไร้ความสามารถขอนายท่านโปรดลงโทษ "ไป๋เยี่ยนหลงยังคงเงียบเหม่อมองออกไปที่ซินเยว่"ตามต่อไป"พูดเพียงเท่านั้นไป๋เยี่ยนหลงก็เดินตรงไปหาซินเยว่ที่ระเบียงหน้าบ
"แม่จะไปรู้จักพวกเขาได้อย่างไรเขาบอกว่าเป็นสหายของลูกที่กำลังออกท่องเที่ยวผ่านมาทางนี้เลยแวะมาเยี่ยมเจ้า"ซินเยว่กลอกตาท่าทางหงุดหงิด ท่านแม่ท่าทางพวกเขาดูเหมือนเป็นสหายของข้าหรือท่านถูกคนพวกนั้นหลอกแล้วซินเยว่เค้นสมองคิดหาทางไล่สามคนนั้นกลับไป นางไม่อยากให้มารดารู้เรื่องที่นางเป็นตีนแมวย่องเข้าเรือนผู้อื่น ตอนนี้นางมีชนักติดหลังอยู่จึงโวยวายมากไม่ได้ อีกอย่างนางสู้พวกนั้นไม่ได้อย่างเเน่นอนหากสู้กันเรือนของนางคงพังไม่เหลือชิ้นดี และท่านแม่กับฮุ่ยหลิงอาจเป็นอันตรายได้ ซินเยว่ได้แต่ตอบรับไปส่งๆ เอาไว้ค่อยหาวิธีขับไล่พวกเขาไปทีหลัง"ชะ......ใช่ๆ ข้าลืมไปได้อย่างไรพวกเขาเป็นสหายของข้าเอง "ซินเยว่กัดฟันพูดนางลอบปาดเหงื่อบนหน้าผาก ได้แต่คาดโทษพวกเขาเอาไว้ในใจ"เช่นนั้นเราเข้าไปด้านในกันเถอะ”ซินเยว่ดันหลังมารดาเข้าไปก่อน เจ้าพวกนี้ทำให้อายุขัยของนางลดลงไปหลายปีเลยทีเดียว"คารวะคุณชาย..........."ซินเยว่ทำท่าประสานมือค้อมตัวแล้วมองหน้าบุรุษผมสีเงินสลับกับบุรุษทั้งสองที่อยู่ด้านหลัง เยี่ยจื่อเข้าใจสายตาที่ส่งมาเป็นคำถามของนางทันที" ข้าคือองครักษ์นามว่าเยี่ยจื่อและเยี่ยเฉิงส่วนท่านนี้คือคุณ
"นี่ นี่!!!......"คู่มือการใช้มิติจิตซินเยว่ถึงกับคิ้วกระตุกอะไรจะสะดวกขนาดนั้นอย่างกับซื้อของออนไลน์แล้วแถมคู่มือการใช้งานแบบนั้นเลย ซินเยว่อ่านวิธีใช้มิติจิตของนางคร่าว ๆ คือถ้าพลังเพิ่มในนี้ก็อุดมสมบูรณ์ เข้าออกโดยการใช้จิตควบคุม น้ำในบ่อ คือน้ำทิพย์มรกตใช้ดื่มเพื่อเพิ่มพลังปราณ ใช้ปรุงโอสถจะทำให้เม็ดยาที่หลอมขึ้นมามีคุณภาพมากกว่าเดิมห้าเท่าขวดที่วางบนชั้นคือโอสถหายากที่แผ่นดินชิวหลิงนี้ที่เคยบันทึกเอาไว้ในตำราโบราณ แต่ไม่เคยมีใครสามารถหลอมมันขึ้นมาได้มาก่อนตำราบนชั้นคือตำราสมุนไพรปราณธรรมดาหาง่ายไปจนถึงสมุนไพรปราณในตำนาน ถ้ารู้ว่าที่นี่มีตำราสมุนไพรตั้งแต่แรกนางคงไม่ต้องไปเสี่ยงตายที่ร้านตาเฒ่าคนนั้น และตำราฝึกพลังจิตหืม!!!"พลังจิตหรือ"ซินเยว่ให้ความสนใจตำราเล่มนี้เป็นพิเศษนางใช้เวลาในกระท่อมไปนานเท่าใดไม่รู้จนกระทั่งรู้สึกถึงเจ้าก้อนขนที่ตอนนี้ ใช้อุ้งเท้าหน้าเขี่ยๆ ที่ขาของนาง"ว่าอย่างไรเจ้าตัวน้อย ......ไม่สิเจ้ามีชื่อหรือไม่"ซินเยว่ถามมัน เจ้าก้อนขนส่ายหน้าทำตาปริบๆ"เช่นนั้นให้ข้าตั้งชื่อให้เจ้าดีหรือไม่ ชื่ออะไรดีนะที่ฟังดูแล้วไพเราะและจำได้ง่าย”ซินเยว่นิ่งคิดเล็กน
ยามห้าย (21.00-22.59) ท้องนภากระจ่างใสไร้เมฆหมอกดวงดารานับล้านกระจายเกลื่อนทั่วท้องฟ้า เสียงหวีดหวิวเป็นท่วงทำนองคล้ายเพลงพิณแว่วมาตามสายลมมองขึ้นไปไร้ที่สิ้นสุด ดวงตาสีดำสนิททอประกายแวววาวไม่ต่างจากสีของท้องนภาในยามนี้กะพริบขึ้นลงทำให้ขนตางอนยาวของนางกระพือตาม มองดูคล้ายปีกผีเสื้อสีดำกำลังโบยบิน ดวงหน้างามเด่นขาวราวหยกเหมันต์ชั้นดีตัดกับความมืดยามราตรีเห็นเด่นชัดซินเยว่ในชุดสีดำรวบผมตึงด้วยผ้าผูกผมสีแดงยืนอยู่หน้าร้านขายตำราร้านเล็กท้ายตลาดในเมืองเยว่กว่าง นางยกผ้าสีดำขึ้นมาปิดใบหน้าครึ่งล่างเห็นเพียงดวงตาดำขลับ ซินเยว่กระตุกยิ้มร้ายเมื่อนึกถึงสีหน้าตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ในวันพรุ่งนี้ซินเยว่ทะยานตัวขึ้นไปบนหลังคาของร้านหนังสือ ไต่ไปตามแนวหลังคากระโดดลงไปในสวนที่น่าจะเป็นด้านหลังของร้านหนังสือ ไฟในห้องหลังร้านหนังสือดับลงไปนานแล้ว เพื่อความไม่ประมาทซินเยว่ได้จุดกำยานยาสลบโยนเข้าไปให้ห้องอีกที"หึหึ รับรองหลับยันเช้าแน่"ซินเยว่หัวเราะเบาๆ แล้วค้นหาตำรารายชื่อสมุนไพรปราณเล่มเก่าที่นางหมายตาทันที นางจำได้ว่าตาเฒ่าหยิบตำรามาจากตรงนี้นี่นา ซินเยว่มองไปที่ชั้นตำรารอบๆ ตัวนาง ตอนนี้ซินเยว่ไม่จำเ