เข้าสู่ระบบ“แม่คะ หงส์เตรียมติดต่อโรงพยาบาลให้น้าทิพย์เรียบร้อยแล้วนะคะ เดี๋ยวหงส์ไปรอรับคุณน้าที่โรงพยาบาลทีเดียวเลยนะคะ เจอกันค่ะ”
“ได้เลยลูก เดี๋ยวพ่อกับแม่รีบตามไปนะ” เวเนสซ่าคุยกับบุตรสาวเสร็จก็หันไปคุยกับบุตรชายต่อทันที “เสือ จริง ๆ แม่มีอีกเรื่องจะรบกวนลูกน่ะ”
“อะไรครับ”
“แม่อยากจะฝากหนูเพียวเข้าทำงานที่บริษัทเราหน่อย แต่พอคุยกันแล้วหนูเพียวเขาไม่ยอม เขาอยากใช้ความสามารถในการสมัครงานเอง”
“ดีแล้วนี่ครับ ผมก็ไม่ชอบพวกเด็กเส้นเหมือนกัน”
“แต่หนูเพียวเป็นคนมีความสามารถ แม่กลัวว่าเธอจะไปสมัครงานที่อื่นก่อน แม่อยากได้คนเก่งมาทำงานด้วยนะ”
“ถ้าแม่อยากได้ก็ลองให้เธอเข้ามาสมัครดู แต่ขั้นตอนทุกอย่างจะเป็นไปตามเกณฑ์ของบริษัท ถ้าเธอมีความสามารถพอเราต้องได้ร่วมงานกันแน่ครับ แม่ไม่ต้องห่วง”
“งั้นก็ได้ เดี๋ยวแม่บอกน้องให้เข้าไปสมัครพรุ่งนี้”
“วันนี้รับสมัครวันสุดท้ายนะครับ”
“เอ๊าะ ไอ้นี่! วันนี้หนูเพียวต้องดูแลเรื่องย้ายโรงพยาบาลก่อน หยวน ๆ ให้น้องวันหนึ่งไม่ได้รึไง!” วาคิมสบถใส่
รู้ดีว่าลูกชายคนโตเป็นคนตรงแค่ไหน ยิ่งเรื่องงานและผลประโยชน์แล้ว เขาไม่สนใจใครทั้งนั้น โดยเฉพาะพวกเส้นสายไม่ชอบเป็นที่หนึ่ง แต่ก็อดหมั่นไส้มันไม่ได้อยู่ดี
“ผมให้เวลาถึงวันนี้ห้าโมงเย็น บอกเธอไปให้ทันนะครับ” พยัคฆินทร์ยกแขนขึ้นมาถกแขนเสื้อดูเวลาที่ข้อมือ พร้อมเอ่ยบอกพ่อด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่ใส่ใจ และลุกขึ้นจากโต๊ะกินข้าวไปทำงานทันที
“นี่ถ้าเราไปบอกฝ่ายบุคคลจะง่ายกว่านี้ไหมคะคุณ พลาดมากที่มาบอกเจ้าเสือก่อน เฮ้อ!” เวเนสซ่าอ่อนใจกับความไม่สนใจใครของลูกชายคนโต
“นั่นสินะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวยังไงค่อยว่ากัน”
@โรงพยาบาลชื่อดังที่เป็นศูนย์การแพทย์ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
“ขอบคุณคุณลุงกับคุณป้ามากนะคะที่ช่วยเพียวกับแม่ไว้” พรนับพันยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองท่านที่คอยเป็นธุระทุกอย่างให้เธอ
“พ่อกับแม่เต็มใจมากเลยลูก เมื่อก่อนตอนแม่ลำบากทิพย์เองก็เคยช่วยแม่ไว้เยอะมากเหมือนกัน” เวเนสซ่ากอดพรนับพันอย่างอบอุ่นจนพรนับพันอดไม่ได้ที่จะยิ้มรับและกอดตอบ
“พี่ขอบคุณน้องหงส์ด้วยนะ ที่ช่วยเป็นธุระเรื่องโรงพยาบาลให้”
“ยินดีมากค่ะ และดีใจมากด้วยที่ได้เจอกัน คิดถึงจัง...” กรรวีตื่นเต้นที่ได้เจอพี่สาวคนสวยแสนใจดีที่เคยสนิทด้วยตั้งแต่ยังเล็ก
“ไม่เจอกันไม่กี่ปีพี่สวยขึ้นขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย เมื่อก่อนว่าสวยแล้ว แต่ตอนนี้คือสวยมาก” กรรวีปากหวาน นัยน์ตาคู่สวยมองอีกฝ่ายทั่วเรือนร่าง
ถึงพรนับพันจะไม่ได้มีผิวขาวจัด หากก็เรียบเนียนมีออร่าเปล่งประกาย ใบหน้าเรียวเล็กเท่าฝ่ามือ ไร้ริ้วรอย เนียนใส ดวงตาคมเฉี่ยวเล็กน้อย ดูมีเสน่ห์ จมูกโด่งเชิดรั้น กับปากกระจับอวบอิ่ม รูปร่างสูงหุ่นเพรียวและบุคลิกที่เต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเองแบบสาวยุคใหม่ แต่ยังแอบแฝงไปด้วยความอ่อนน้อม
กรรวีมั่นใจว่าหากบรรดาพี่ชายตัวดีของเธอได้เห็นหญิงสาวสุดสวยคนนี้ ต้องมีตาค้างกันบ้างแหละ
“พี่ก็คิดถึงเราเหมือนกัน ไม่ได้เจอกันเลยตั้งแต่พี่ไปเรียนต่อ นี่โตมาแล้วสวยขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยยัยตัวแสบ” พรนับพันยกมือขยี้หัวกรรวีเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู
“เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ” กรรวีตอบรับด้วยความมั่นใจ พร้อมทำหน้าทะเล้นใส่เพื่ออยากช่วยบรรเทาความเครียดให้พรนับพันยิ้มได้บ้างหลังจากเจอเรื่องร้าย ๆ มา สักนิดก็ยังดี
“พ่อกับแม่หิวกันรึยังคะ หงส์ว่าเราพาพี่เพียวไปหาอะไรกินกันเถอะค่ะนี่ก็เที่ยงแล้ว พี่เพียวคงหิวแย่” กรรวีเสนอ
“อืม ก็ดีนะ เสร็จแล้วพ่อกับแม่จะพาเพียวไปสมัครงานที่โรงแรมนะลูก” วาคิมพูด ตั้งใจไว้ว่าอยากได้คนเก่ง ๆ มาช่วยงาน ดีกว่าปล่อยไปทำงานที่อื่น เสียดายแย่
“ไปกันค่ะ” กรรวีเกี่ยวแขนพรนับพันอย่างสนิทสนมเดินนำพ่อแม่ไป
เมื่อจบมื้ออาหารพรนับพันจึงได้จังหวะพูดในสิ่งที่ตนเองกำลังหนักใจ “คุณลุงคุณป้าคะ เพียวมีเรื่องพูดด้วยค่ะ”
“ว่ามาสิลูก มีเรื่องอะไรให้แม่ช่วยบอกมาได้เลยนะไม่ต้องเกรงใจ อ้อ... ที่สำคัญคือพ่อกับแม่ก็ดี แม่ชอบแบบนี้มากกว่าที่จะให้หนูเรียกลุงกับป้าน่ะ” มาดามเวเนสซ่าเอ่ยด้วยรอยยิ้มเพราะเอ็นดูพรนับพันมาตั้งแต่ยังเด็กแล้ว
“ขอบคุณมากนะคะที่เอ็นดูเพียว และขอบคุณที่ช่วยเหลือเพียวกับคุณแม่ด้วย แต่เรื่องงานเพียวขอช่วยเหลือตัวเองก่อนนะคะ ไม่อยากรบกวนทั้งสองท่านไปมากกว่านี้แล้วค่ะ เพียวเกรงใจ” ตั้งแต่จบมัธยมต้นก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเลยทันที และเธอก็ใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาตลอด
เธอไม่ชินกับการเป็นภาระคนอื่นสักเท่าไหร่ และเธอมั่นใจในศักยภาพของตัวเองในเรื่องการทำงานที่ผ่านมาว่าไม่เคยเป็นรองใคร
@เช้าวันต่อมา…“เรียกมาทำไมแต่เช้าเลยวะ” ไอ้สิงห์มันถามอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ที่วันนี้ผมเรียกทุกคนมารวมตัวทานข้าวพร้อมหน้ากันแต่เช้าที่บ้านใหญ่ ซึ่งช่วงนี้ไอ้น้องบ้านี่มันก็เหมือนจะมีเรื่องให้คิดให้หงุดหงิดใจอยู่ผมเลยไม่ได้ถือสาอะไรมันมากมายโดยตอนนี้มีทั้งครอบครัวผมและป๊ากับแม่ของเพียวอยู่ด้วย เพราะผมตั้งใจจะบอกข่าวดีเรื่องที่กำลังมีลูกอีกคนหรือสองคนไม่แน่ใจ อยู่ในท้องเมียผม กะว่าตั้งใจจะบอกให้รู้พร้อม ๆ กันเลยทีเดียว “ในเมื่อทุกคนมากันพร้อมแล้ว ผมก็จะขอแจ้งเลยแล้วกันนะครับ” ลุกขึ้นยืนแล้วทำน้ำเสียงจริงจังจนเพียวถึงกับหลุดขำพรืด“อะไรกันลูก ทำไม? มีเรื่องอะไรสำคัญเหรอ” แม่ผมหันมาถามในขณะที่มือก็ยังห้ามสองแฝดไม่ให้แย่งแตงกวาชิ้นเดียว ไม่รอช้าผมก็ยกที่ตรวจครรภ์ขึ้นมาวางไว้กลางโต๊ะอาหาร“กรี๊ส... เจ้จะมีน้องให้สองแฝดแล้วเหรอเนี่ย” แต่คนที่สายตาไวสุดดันเป็นยัยหงส์ตัวแสบนี่สิ ที่ยื่นมือมาปาดหน้าทุกคนแล้วหยิบที่ตรวจครรภ์ไปดูแล้วหวีดออกมาท่าทางดีใจ “เว่อร์ไปมั้ย ได้ข่าวว่าไม่ชอบเด็ก” ไอ้มังกรมันพูดว่าน้องสาวพลางยกมือกอดอกทำหน้าเอือมระอาใส่ ช่วงหลัง ๆ ไอ้สองคนนี้มันเป็นอะไร เหมือนคนที
ผมรู้ว่ามันคืออะไร แต่แค่อยากมั่นใจโดยการได้ยินออกมาจากปากเธอ“สองขีดค่ะ หนูเพิ่งตรวจมาเมื่อเช้านี้ ดีใจมั้ยคะ”“...” “ปะป๊า...”“...”“พี่เสือ!”“ห หา? ขา!” ผมผละสายตาออกจากขีดสีแดง ๆ สองขีดนั่นแล้วหันกลับไปมองหน้าเธอแบบอึ้ง ๆ“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ หรือว่าพี่ยังไม่อยากมี”“เปล่าค่ะ”“หนูขอโทษนะคะที่หยุดกินยาคุมโดยที่ไม่ได้ปรึกษาพี่ หนูแค่คิดว่าอยากมีอีกท้องตอนนี้ ให้ลูกได้โตไล่ ๆ กัน ไม่อยากให้เค้าอายุห่างกันเกินไป แต่หนูลืมคิดไปว่าพี่อาจจะไม่โอเค” หลังจากที่ผมนิ่งเงียบไปสักพักเพียวก็พูดขึ้นมา น้ำตาเริ่มรื้นจนต้องก้มหน้าก้มตาอย่างคนไม่มั่นใจแล้วขอโทษผม“ไม่ใช่ค่ะ อย่าพูดแบบนั้น” ผมดึงเธอมากอดเอาไว้ในอ้อมอกอย่างเต็มรักแล้วลูบหัวปลอบใจก่อนที่เธอจะคิดน้อยใจไปมากกว่านี้จะขอโทษผมทำไม ผมนี่อยากมีลูกกับเธอใจจะขาด ไม่งั้นคงไม่ถึงขั้นต้องวางแผนแอบสลับยาคุมให้เธอท้องด้วยตั้งแต่แรกหรอก“พี่ไม่ได้ไม่พร้อมสักหน่อย คิดไปถึงไหนแล้วเนี่ย หืม” “ก็เห็นพี่เงียบไม่พูดอะไรเลยนี่นา”“พี่แค่กำลังคิดอยู่ว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไรดี แล้วพี่จะขออะไรจากพวกอา ๆ มันให้รับขวัญลูกของเราต่างหากล่ะ” ผมไม่ได้ตั้งใจ
“หนูยังกินยาคุมอยู่ไหมคะ” ปากถามออกไป มือก็เริ่มลูบไล้หน้าขาอ่อนขาว ๆ แล้วเลื่อนมือสอดใต้สาบกระโปรงชุดนอนเข้าไปยังท้องแบนราบ กดน้ำหนักมือบีบขย้ำเอวบางเบา ๆ จนเธอเริ่มหายใจถี่ขึ้นเบา ๆ ผมจึงขยับตัวขึ้นคร่อมเธอเอาไว้ ผมรู้ดีว่าควรปรนเปรอเธอยังไงให้เธอมีอารมณ์ร่วมด้วยไวที่สุด“ถามทำไมเหรอคะ?” เพียวใช้สองมือประคองใบหน้าของผมไว้แล้วทำสายตายั่วยวนใส่อย่างที่ชอบทำเป็นประจำเวลาเราอยู่ด้วยกันสองต่อสองบนเตียงนอน บอกเลยว่าเมียผมแม่งโคตรร้อนแรงอะ ขนาดตอนไม่ทำสายตาแบบนี้ใส่ยังน่าขย้ำแล้วนี่ยิ่งทำผมจะเอาอะไรไปอดใจไหวกันละครับอยากรีดน้ำออกสุด ๆ แล้วตอนนี้ ไอ้เสือร้ายในกางเกงนี่แข็งปั๊กจนปวดหนึบแทบจะแตกอยู่แล้ว“มาทำน้องให้สองแฝดกันเถอะนะครับ คนดี” “หึ ไม่ทันแล้วละค่ะ” เพียวส่ายหน้าให้หัวเราะหึในลำคอเบา ๆ แล้วยกยิ้มหวานส่งมาให้ผม“ไม่ทันอะไรเหรอคะ น่า... นะ พี่ไม่ไหวแล้วเนี่ย” พูดไปก็เสยสะโพกสอบให้แก่นกายที่กำลังพองขยาดใหญ่ให้เบียดเสียดกับเนินเนื้ออวบอูมกลางกายสาว ตอนนี้ผมไม่มีสติจะมาสงสัยอะไรกับคำพูดเธอหรอกนะ เพราะว่าในสมองพร่าเบลอไปหมดแล้วหน้าก็ยั่ว ตัวก็โคตรหอม นมก็ใหญ่ ช่วงล่างนี่ก็ฟิต
“เป็นอะไรคะ ไปค้อนใส่เพื่อนหนูทำไมกันเนี่ย?” เพียวยื่นหน้ามากระซิบกระซาบใกล้หูผมให้พอได้ยินกันสองคนด้วยความสงสัย เธอคงเห็นแหละว่าผมมองหน้าไอ้แดเนียลตาเข้มขนาดไหน “เพื่อนอะไร แฟนเก่าชัด ๆ” ทำมาพูดว่าเพื่อน เหอะ! “รู้ได้ไงคะ ว่านั่นแฟนเก่าหนู” เพียวหันขวับมาถาม ทำหน้าเลิ่กลั่ก ร้อนตัวทำไม ไม่ได้ว่าอะไรเสียหน่อย เมียใครวะน่ารักชะมัด แต่ไหน ๆ ก็ไหนแล้ว แกล้งเล่นใหญ่ทำเป็นไม่พอใจให้เมียง้อสักหน่อยดีกว่า ถือว่าขอล้างตาที่เมื่อคืนไม่ได้เอาเพราะเมาหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้“ก่อนจะถามว่าพี่รู้ได้ยังไง ตอบมาก่อนดีมั้ยว่าทำไมถึงไม่บอก ตั้งใจปิดพี่เหรอ หืม?”“ปะ เปล่านี่คะ ไม่ได้ตั้งใจจะปิดสักหน่อย แต่เรื่องมันผ่านไปแล้ว เลยไม่รู้จะพูดขึ้นมาทำไมให้พี่ไม่สบายใจนี่นา” เพียวพูดตอบมาพลางทำหน้าออดอ้อนให้ผมไม่ใจร้อนยิ่งไปกว่าเดิม ซึ่งพักหลัง ๆ เธอใช้ไม้นี้บ่อยมาก เพราะว่า มันได้ผล เห็นสายตาอ้อนปนยั่วยวนของเมียทีไร ไข่ขึ้นทุกทีเลยเว้ย ใครจะไปมีอารมณ์โกรธลงวะ มีแต่อารมณ์หื่นมากกว่า“ไม่โกรธหนูนะคะ”“ง้อพี่ก่อนสิคะ สัญญาว่าจะไม่โกรธถ้าหนูทำให้พี่พอใจได้” “ง้อยังไงเหรอคะ”“ไม่เอาน่า... อย่ามาทำซื่อบื้อ” “ห
เสือ พยัคฆินทร์ | talk : ผมตื่นขึ้นมาด้วยอาการปวดหัวหนักท้ายทอยสุด ๆ หันไปมองเวลาในนาฬิกาปลุกตรงหัวเตียงก็พบว่าเป็นเวลาบ่ายสองโมงกว่าแล้วก้มลงมองตัวเองก็พบว่ายังใส่เสื้อผ้าชุดเจ้าบ่าวแบบลำลอง เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสแลคสีเดียวกันชุดเดิมที่ใส่เมื่อคืนนี่คงเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมาที่เมาจนภาพตัด หลับไปตอนไหนก็ไม่รู้แล้วขึ้นมานอนบนห้องได้ยังไงวะ เท่าที่จำได้ตอนตีสามยังตั้งวงเมาอยู่กับเพื่อน ๆ น้อง ๆ อยู่เลยนี่ว่าเมื่อคืนโดนยื่นน้ำเมาให้หลายขนาน เจ้าบ่าวอย่างผมจะปฏิเสธได้ยังไง แขกผู้ใหญ่ไม่เท่าไหร่ แต่ไอ้บรรดาเพื่อน ๆ ผมที่มีตั้งแต่เพื่อนสมัยอนุบาลยันปริญญาโทที่พร้อมใจกันมารวมตัวร่วมแสดงความยินดีให้ เราเลยเอาให้สุดกันไปข้างหนึ่ง เรียกได้ว่ายิ่งกว่างานเลี้ยงรวมรุ่นเสียอีก และไหนจะพรรคพวกเพื่อน ๆ ของไอ้สิงห์กับไอ้มังกรที่ผมรู้จักอีกเพียบ ผมนี่กระดกเบียร์กระดกเหล้าแทนน้ำเปล่ากันเลยทีเดียวแต่จะว่าไปงานนี้มันเป็นความทรงจำที่ดีของผมครั้งหนึ่งในชีวิตเลย ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ผมรัก แล้วก็มีครอบครัวและเพื่อนทุกคนที่สำคัญในชีวิตผมมาร่วมแสดงความยินดี มีโมเมนต์ที่ดี ๆ ร่วมกัน ถึงกว่าจะจบงา
“กอดทักทายคงไม่เป็นไร แต่ถ้ากอดภรรยาผมนานเกินไปคงจะดูไม่ดีนะครับ” คุณเสือก็ตอบกลับไป ทั้งคู่สนทนากันพักใหญ่ คำพูดที่สนทนากันมันฟังออกแนวจิกกัดและเกทับกันมากกว่าที่จะเป็นมิตรด้วยคืออะไร? ทำไมเป็นงี้ แดเนียลอะฉันพอเข้าใจ เหมือนเขาจะตั้งใจยั่วโมโหพี่เสือนิดหน่อยนั่นแหละ ตามประสาแฟนเก่าและนิสัยเขาก็เคยเป็นคนหวงของใช้ได้เลยอาจจะโดนลมกับไอ้เฮียเพชรมันเป่าหูมาด้วยเลยเป็นอย่างนี้มั้ง แต่พี่เสือนี่สิตาเขียวปั๊ด ท่าทางคือพร้อมบวกมากแต่ต้องสะกดอารมณ์ไว้ เขาไม่เคยรู้เสียหน่อยว่าแดเนียลเป็นใคร ทำไมเหมือนหึงและไม่พอใจขนาดนั้น ..แต่ก็ช่างเถอะ ตอนนี้ต้องรีบห้ามศึกก่อน“มาค่ะ มาถ่ายรูปกัน”หลังจากนั้นไม่นานฉันต้องแยกตัวออกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอาฟเตอร์ปาร์ตี้ กว่าจะออกมาอีกทีก็เกือบเย็น ตอนนั้นเองที่ฉันได้เห็นแสง สี เสียงอลังการ แขกเหรื่อเยอะมากกว่าตอนกลางวัน พนักงานเสิร์ฟที่จ้างมาก็เดินกันให้วุ่นวายละลานตาเลยก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมที่บ้านพี่เสือถึงมีบอดี้การ์ดเยอะแยะไปหมด เพราะดูการใช้ชีวิตของทุกคนปกติดีมีการมีงานทำที่ถูกกฎหมาย ไม่ใช่มาเฟียหรือพวกทำงานสีเทาอะไรแต่วันนี้เริ่มเข้าใจแ







