Share

บทที่ 1009

Author: หูเทียนเสี่ยว
จวนตระกูลเฟิง

เพราะช่วงก่อนหน้านี้ เนื่องจาก 'นังบ้า' นั่นวันวันเอาแต่มาสังหารคนที่จวน

พลังคนคุ้มกันจวนตระกูลเฟิง จึงเพิ่มขึ้นมาไม่ใช่แค่เท่าตัว

แต่หญิงสาวคนนั้นยังคงมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว ต่อให้ถูกคนคุ้มกันพบตัวก็ไม่เกี่ยวอะไร ไม่ได้ทำให้การมาที่นี่ทุกวันของนางล่าช้าลง

และในช่วงนี้ก็ถือว่าหยุดลงไปบ้าง พลังคนคุ้มกันของจวนตระกูลเฟิงจึงค่อยๆ กลับไปเป็นระดับธรรมดาแบบก่อนหน้า

ใครเองก็ไม่รู้ ว่าคืนนี้ คนที่ทำให้พวกเขาวุ่นวายใจมาตลอด จะลอบเข้ามาในจวนตระกูลเฟิงอีกครั้ง

เรือนแห่งหนึ่งที่แม้จะดูไม่ใหญ่นัก แต่มองแล้วก็สงบสงบเงียบงดงาม

ร่างดำปราดเปรียวร่างหนึ่งอยู่บนสันหลังคา มองพระจันทร์สว่างบนฟ้าสูง

ริมฝีปากขยับเล็กน้อย เหมือนกำลังพูดกับตัวเอง หากอยู่ใกล้เข้าไปหน่อย น่าจะได้ยินเสียงหึ่งๆ ประโยคหนึ่งจากปากนาง...พระจันทร์ที่ทั้งโตทั้งกลมแบบนี้ ไม่ถือเป็นคืนมืดมิดลมแรงเลยแฮะ

นางอยู่บนหลังคา มองเรือนที่อยู่ด้านล่าง

ในเรือน ร่างสูงใหญ่ร่างหนึ่ง กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ เหมือนกำลังดื่มสุราชมจันทร์

แต่ดวงตากลับปิดอยู่ เหมือนว่าหลับไปนานแล้ว

ขวดสุราที่หว่างนิ้ว สุราหยดจากปากขวดไปบนพื้น สุราหย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1413

    คนหนุ่มเหล่านี้เองก็ตระหนักได้ ว่าคำตอบนี้สำคัญมากใต้เท้าคนนี้ แตกต่างกับพวกขุนนางพุงพลุ้ยไม่เห็นหัวใครแบบที่พวกเขาเคยเจอมาหลังจากพวกเขานิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ก็พยักหน้า"ได้ขอรับ""พวกเราทำได้ขอรับ"จั๋วซือหรานพอได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเบาๆ ในสีหน้ามีความสุขอยู่หน่อยๆสีหน้าแบบนี้แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ความผ่อนคลายในสีหน้าก็เห็นได้อย่างชัดเจนสิ่งนี้ทำให้พวกเขารุ้สึก่วา ตนเองน่าจะตอบถูกแล้วครู่ต่อมา ก็เห็นใต้เท้าคนนี้ ส่งยาลูกกลอนหลายเม็ดมาตรงหน้าพวกเขา"เอ้า กินซะ จากนั้นอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าก็จะบรรเทาลง" จั๋วซือหรานเชิดคางไปทางพวกคนใช้จวนเจ้าเมืองเอ่ยต่อว่า "จากนั้นพวกเจ้าก็ไปซัดคนพวกนั้นซะ วางใจได้ มีข้าอยู่ตรงนี้ พวกเขาไม่กล้าแตะต้องพวกคนแก่คนอ่อนแอของพวกเจ้าทางนี้หรอก"คนพวกนี้งงเป็นไก่ตาแตกจริงๆ ไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนทั้งหมดที่นี่ นอกจากพวกเฟิงเหยียนชิ่งหมิงที่เข้าใจนิสัยของจั๋วซือหรานแล้วคนอื่นทั้งหมดล้วนงงกันหมดยาลูกกลอน...ส่งให้พวกเขาแบบนี้เลยหรือ?ในมือพวกเขาล้วนสั่นระริกขึ้นมา หยิบยาลูกกลอนออกมาจากฝ่ามือของนางไม่ค่อยเข้าใจความหมายของนาง และยังจ้องมองนางเขม็ง

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1412

    "เกิดเรื่องแล้ว?" จั๋วซือหรานยังงัวเงียอยู่ พอได้ยินเสียงนี้ จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา "เกิดอะไรขึ้น?"จั๋วซือหรานลุกขึ้นมา กดบ่าเฟิงเหยียนไว้ "ท่านรออยู่ในห้อง ข้าไปดูก็พอ ไม่อะไรหรอก"แต่เฟิงเหยียนไม่วางใจ เขาเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็วตามออกไปพร้อมจั๋วซือหรานชิ่งหมิงบอกว่าคนของตลาดมืดทางนั้นมาแล้ว จากนั้นก็มีเรื่องกับคนของจวนเจ้าเมืองเข้าพูดแบบนี้ จั๋วซือหรานก็พอจะเดาได้แล้วว่าเรื่องอะไรมุมปากนางยกขึ้น "ไปดูกันเถอะ"พอมาถึงเรือนหน้าของจวนเจ้าเมือง ก็เห็นคนใช้ของจวนเจ้าเมืองเข้าแถวหน้ากระดาน ขวางไว้ด้านหน้าและด้านหน้าของพวกเขา ก็คือกลุ่มคนแก่เจ็บป่วยกลุ่มหนึ่ง...ก็ไม่เชิงขนาดนั้น ถึงยังไงก็เป็นเหล่าทาสอาชญากรที่จั๋วซือหรานซื้อไว้จากตลาดมืดเมื่อคืนนั่นล่ะพวกเขาถูกพวกค้าทาสในตลาดมืดส่งมาตั้งแต่เช้าตรู่พวกค้าทาสพวกนั้นเดิมทีคิดจะรอให้จั๋วซือหรานออกมาแล้วค่อยส่งให้นางเหมือนกันแต่พวกคนใช้จวนเจ้าเมืองแต่ละคนก็ดุกันอย่างกับผีร้ายพ่อค้าทาสเองก็ขี้เกียจจะเป็นคนชั่ว หลังจากปล่อยทาสอาชญากรพวกนี้แล้วก็ออกไปเลยตอนที่จั๋วซือหรานมาถึง ก็มองเห็นฉากเช่นนี้ครั้นจะบอกว่าสองฝ่ายคุมเชิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1411

    "ข้ารู้สึกว่า...น่าสนใจอยู่" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นเฟิ่งหลานอารมณ์ยังดูกระวนกระวาย เดิมทีนางคิดว่าจะได้ยินคำปฏิเสธบ้างจากปากใต้เท้าคนนี้แต่จะอย่างไรก็คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยินคำวิจารณ์อย่าง 'น่าสนใจ' จากปากของนางนี่ทำให้อารมณ์ของนางเดิมทีที่กระวนกระวายอยู่แล้ว ยิ่งกระวนกระวายหนักขึ้นไปอีกแล้ว...มันหมายความว่าอย่างไร? ไม่มีการชี้นำอะไรเลยน่าสนใจนี่มันดีหรือไม่ดีกันแน่? ปฏิเสธหรือว่าตกลงกัน?เฟิ่งหลานชั่วขณะหนึ่งรู้สึกว่าหัวในเต้นขึ้นมาถึงคอหอยแล้วจากนั้นก็เห็นจั๋วซือหรานพยักหน้า "ได้ เช่นนั้นก็ตามมาแล้วกัน"ดวงตาของเฟิ่งหลานถลึงเบิกกว้าง ประกายในดวงตาทั้งหมดล้วนเป็นความตกตะลึงยินดี"ขอบคุณ! ขอบคุณใต้เท้า! ขอบคุณใต้เท้า!" เฟิ่งหลานรีบร้อนเอ่ยขึ้น "ข้าจะซื่อสัตย์ต่อใต้เท้าอย่างแน่นอน!"จั๋วซือหรานมองนาง "พ่อของเจ้าไม่ใช่ป่วยหนักหรือ?"เฟิ่งหลานตกตะลึง จากนั้นก็หยักหน้างึมงำ "...เจ้าค่ะ"เฟิ่งหลานเดิมทีคิดว่าจั๋วซือหรานที่เอ่ยถึงเรื่องนี้ คิดจะแสดงท่าทีว่าสนใจแค่นางนะ ไม่ได้สนใจพ่อของนางแต่พอคิดดูอีกที ก็เหมือนว่า...จะไม่ใช่อะไรแบบนั้นเพราะใต้เท้าก็ไม่ได้ปล่อยทิ้งพวกคนแก่อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1410

    ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้น "ข้าไม่ใช่ว่ารู้จัก ข้าแค่เคยได้ยินชื่อสกุลนี้ แค่คุ้นหูเท่านั้น"ปันอวิ๋นพูดต่อ มองไปทางเฟิ่งหลาน "เจ้าคือคนจากดินแดนทางใต้สินะ"เฟิ่งหลานพยักหน้าจั๋วซือหรานถามปันอวิ๋น ""นี่เป็นสกุลที่มีแค่ในดินแดนทางใต้ใช่ไหม?"ประมาณนั้น" ปันอวิ๋นพูดถึงตรงนี้ก็ชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "ดินแดนทางใต้ไม่ใช่แค่จักรพรรดิที่มีอำนาจ มหาปุโรหิตเองก็มี ตระกูลของมหาปุโรหิตรับผิดชอบเรื่องพิธีกรรม ตำแหน่งฐานะสูงส่ง และตระกูลของมหาปุโรหิต ก็มีสกุลว่าเฟิ่ง"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็เลิกคิ้ว ว้าวคิดไม่ถึงเลย ว่าจะได้คนสำคัญแบบนี้มา"ดังนั้น เจ้าคือคนจากตระกูลของมหาปุโรหิตดินแดนทางใต้หรือ?" จั๋วซือหรานมองไปทางเฟิ่งหลานเฟิ่งหลานคิดไม่ถึงว่าชายหนุ่มที่หน้าตาเย้ายวนนี่จะรู้เรื่องนี้ แต่ถึงยังไงนางก็ตั้งใจจะบอกกับจั๋วซือหรานอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่มีอะไรเฟิ่งหลานพยักหน้าตอบ "ใช่ ข้าคือคนจากตระกูลมหาปุโรหิต"และตอนนี้เอง ปันอวิ๋นก็พูดต่อว่า "นางไม่ใช่แค่คนของตระกูลมหาปุโรหิต แต่นางคือคนจากราชวงศ์มหาปุโรหิต"พอได้ยินคำนี้ เฟิงหลานก็ม่านตาหดลง เบิกตาโพลงมองไปทางปันอวิ๋นปันอวิ๋นยื่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1409

    พอได้ยินคำนี้ เฟิงเหยียนก็หันมามองนาง สายตายากจะอธิบายปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเองก็มองนาง เหมือนเดาได้ถึงคำตอบแล้ว"คงไม่ใช่คำตอบที่ข้าคิดหรอกกระมัง?" ปันอวิ๋นถามขึ้นมาคำหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า "ทำอะไรน่ะพวกเจ้า พวกชายหนุ่มไม่ใช่ว่าชอบไปกันหรือ? พวกเจ้านี่แปลกจริง! แล้วก็นะ กับข้าวที่นั่นมันไม่อร่อยรึไงกัน?"เฟิ่งหลานเดิมทียังไม่รู้ว่าใต้เท้าจะพานางไปที่ไหนจนกระทั่ง มองเห็นทางเข้าถนนบุปผา ได้กลิ่นหอมประทินลอยเข้ามาในอากาศนางจึงเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรสีหน้าของสามคนนี้ก่อนหน้าถึงยากจะอธิบายนักถึงยังไง...มีหญิงสาวพาชายหนุ่มมาเที่ยวในถนนบุปผาโรงคณิกาเสียที่ไหนกัน...จั๋วซือหรานเดินพาพวกเขาเข้าไปอย่างคุ้นที่คุ้นทางแม่เล้าพอเห็นนางเข้ามา ก็เหมือนเห็นตัวกาลกีณีขึ้นมาให้ตายเถอะ! ทำไมถึงได้มาอีกแล้วล่ะ!พอออกไปก็ถูกตั๋วทองโบกเข้าใส่หน้าสีหน้าที่ดูทุกข์ระทมแต่เดิมบนหน้าแม่เล้า ก็เปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้นยินดีขึ้นมาทันที"ใต้เท้ามาอีกแล้วหรือ! ยินดีต้อนรับจริงๆ!"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ห้องหรูที่เงียบๆ สุราอาหารเลิศรส ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลของเจ้า"แม่เล้าพอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1408

    เหล่าทาสอาชญากรที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและขังอยู่ในกรงเหล็กเหล่านั้นเดิมทีก็รู้สึกสิ้นหวังมากแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกด้านชากระทั่งยังคิดว่าคงต้องตายแน่แล้วตอนที่ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน พวกเขาก็อดมองขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายไม่ได้ แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะสั้นนิดเดียวเท่านั้น และจางหายไปอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานกำชับเหล่านี้เสร็จ ก็จ่ายเงินแล้วออกไปคนหาข่าวคนนั้นตามอยู่ด้านหลังนาง แต่ก็เงียบมาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางก็คอยสังเกตพฤติกรรมของจั๋วซือหรานอยู่ตลอดเดินห่างออกมาระยะหนึ่ง คนหาข่าวจึงถามจั๋วซือหรานขึ้นเสียงต่ำคำหนึ่ง "ทำไมท่านต้องเอาคนแก่อ่อนแอพวกนั้นไปด้วยหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองนาง "เจ้าถามข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเทำไปเพราะอะไรล่ะ?"คนหาข่าวคนนี้อันที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ นางแค่รู้สึกว่า...ใต้เท้าคนนี้ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่คนเลวดังนั้นนางจึงตอบว่า "ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าสงสารพวกเขา ดังนั้นจึงจะพาไปด้วยกัน"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "คิดไม่ถึงเลย ว่าภาพลักษณ์ของข้าในใจเจ้าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้?"คนหาข่าวรู้สึกเขินหน่อยๆ ไม่พูดอะไรจั๋วซ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status