Share

บทที่ 1335

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหราน ชั่วขณะหนึ่งยังไม่รู้ว่าจะกล่อมเฟิงเหยียนยังไง

ยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นของนางเท่านั้นด้วย

ดังนั้นจึงยังไม่รีบในตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงไม่พูดอะไรอีก

แค่บอกว่า "เอาล่ะ เราค่อยๆ คิดเรื่องนี้ใหม่แล้วกัน"

พอได้ยินคำนี้ของนาง เฟิงเหยียนก็กลัวว่านางจะเปลี่ยนใจ รีบเก็บเพลิงตะวันหงส์แดงสีส้มแดงจากในเตาหลอมกลับมา

พอเปลวเพลิงนั่นถูกดึงออกไป จวงชิ่งหมิงก็มีความรู้สึกเหมือนถอนหายใจโล่ง

เขาแอบเช็ดเหงื่อที่หน้าผากกับปลายจมูก

พอคิดถึงคำพูดที่พวกเขาพูดก่อนหน้านี้ มิน่าสภาผู้อาวุโสถึงเอาตนเองจัดไว้ที่กรมสืบสวนพิเศษของต้าชาง ด้านบนมีเฟิงเหยียนเป็นซือเจิ้งคอยกดอยู่

น่าจะมีความหมายทำนองต้องการควบคุมสะกดเขาเอาไว้อยู่นั่นล่ะ

ถึงอย่างไร เพลิงตะวันหงส์แดงก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียว

แม้จั๋วซือหรานจะอ่อนข้อให้ แต่สีหน้าเฟิงเหยียนดูแล้วก็ยังเคร่งขรึมอยู่

จั๋วซือหรานพอกำลังคิดจะถาม ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาดังมา "เจ้า...โกรธหรือเปล่า?"

จั๋วซือหรานพอได้ยินก็งงงัน หัวเราะขึ้นทันที "ไม่ขนาดนั้นหรอก ท่านเองก็ไม่ใช่เพิ่งจะรู้จักข้านี่ ข้าเป็นคนโกรธใครง่ายเสียที่ไหนกัน"

เฟิงเหยีย
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1337

    มันคือการแตกหักกับสภาผู้อาวุโส การเป็นศัตรูกับสภาผู้อาวุโสนี่เป็นเส้นทางสูงชันอันตราย เป็นเหมือนสะพานไม้ซุงท่อนเดียวก็ใครรับประกันไม่ได้ ว่าจะได้ชัยชนะพวกเขาเป็นเพียงกลุ่มคนที่ไม่ต้องการถูกกดขี่พันธนาการ...เป็นแค่กลุ่มคนกล้าหาญโดดเดี่ยวเท่านั้นถ้าเป็นตามที่จั๋วซือหรานบอกล่ะก็ นั่นคือคนที่ลุกขึ้นไม่ยอมเป็นทาส...ก่อนหน้าที่ปันอวิ๋นจะออกไปก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เรียกศิษย์คนโตของตนเองเข้ามานำตราบัญชาเจ้าสำนักให้กับศิษย์คนโต"อาจารย์..." ศิษย์คนโตงงงันไป "ท่าน...ท่านไม่ใช่ว่า...จะเดินทางไกลแค่เที่ยวเดียวหรือ?"หุบเขาหมื่นพิษภายใต้การบัญชาของปันอวิ๋น ก็ค่อนข้างหย่อนยานมาตลอดเงื่อนไขต่อตัวศิษย์สำนักของเขาก็ไม่ได้สูงนัก เวลาออกไปด้านนอกอย่าทำสำนักเสียชื่อก็พอกระทั่งศิษย์สำนักเหล่านี้ แต่เขาจะไม่ได้สั่งสอนละเอียดนัก แต่ก็แทบจะไม่ได้เข้มงวดเท่าไรเลยทุกคนจึงยอมรับได้โดยดีมาตลอดกับเรื่องที่เจ้าหุบเขาออกเดินทางไกลชั่วครั้งคราวศิษย์คนโตก็ไม่คิดไม่ฝัน ว่าครั้งนี้ได้เห็นตราบัญชาสำนัก"ลี่ฟู่" ปันอวิ๋นพูดน้ำเสียงหนักแน่นอย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็น "หลังจากข้าไปแล้ว กิจต่างๆ ในหุบเขาก็จ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1336

    ปันอวิ๋นโมโหจนหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรพวกเขาพี่น้อง นอกจากถังฉือที่มาจากคนชั้นล่างแล้วชาติตระกูลของคนอื่นๆ ล้วนไม่เลวทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้ายังไม่พูดเรื่องแบกรับโชคชะตาแบบไหนอยู่ก็ล้วนเติบโตมาในตระกูลร่ำรวยทั้งนั้นซงซีเป็นคุณชายจากตระกูลชั้นสูงแคว้นเย่ เยี่ยนเหวยเป็นผู้สืบทอดมหาปุโรหิตของเผ่าหนึ่งในดินแดนทางใต้ เฟิงเหยียนเป็นซื่อจื่อตระกูลเฟิงของต้าชาง ปันอวิ๋นเป็นผู้สือบทอดหุบเขาหมื่นพิษแต่ถ้าเทียบความยุ่งยากแล้วก็ปันอวิ๋นนี่ล่ะยุ่งยากที่สุดปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ข้ากับเจ้ามันศัตรูกันตามธรรมชาติเลย คงคุยกันไม่ได้จริงๆ"เฟิงเหยียนมองเขาผาดหนึ่ง "แล้วเจ้าคุยกับใครได้กันล่ะ?"ท่าทางเลิกคิ้วของปันอวิ๋นดูแล้วแฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายประหลาด มุมปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง "ก็ต้องคุยกับซือหรานได้ถูกคอกว่าน่ะสิ ก่อนหน้านี้ข้าจุดเทียนคุยกับนางทั้งคืน สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยเถอะ!"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แต่สีหน้าก็แข็งไปแล้วจริงๆในสมองเหมือนจู่ๆ ก็มีภาพตนเองตอนที่ใช้ชื่อปลอมว่าเยี่ยนหรานแวบเข้ามา ในโรงเตี๊ยม เฝ้ารออยู่ข้างนอกทั้งคืน....ส่วนจั๋วซือหรานก็อยู่ในห้องกับปันอวิ๋นทั้งคืน...จุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1335

    จั๋วซือหราน ชั่วขณะหนึ่งยังไม่รู้ว่าจะกล่อมเฟิงเหยียนยังไงยิ่งไปกว่านั้น นี่ก็เป็นเพียงแนวคิดเบื้องต้นของนางเท่านั้นด้วยดังนั้นจึงยังไม่รีบในตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงไม่พูดอะไรอีกแค่บอกว่า "เอาล่ะ เราค่อยๆ คิดเรื่องนี้ใหม่แล้วกัน"พอได้ยินคำนี้ของนาง เฟิงเหยียนก็กลัวว่านางจะเปลี่ยนใจ รีบเก็บเพลิงตะวันหงส์แดงสีส้มแดงจากในเตาหลอมกลับมาพอเปลวเพลิงนั่นถูกดึงออกไป จวงชิ่งหมิงก็มีความรู้สึกเหมือนถอนหายใจโล่งเขาแอบเช็ดเหงื่อที่หน้าผากกับปลายจมูกพอคิดถึงคำพูดที่พวกเขาพูดก่อนหน้านี้ มิน่าสภาผู้อาวุโสถึงเอาตนเองจัดไว้ที่กรมสืบสวนพิเศษของต้าชาง ด้านบนมีเฟิงเหยียนเป็นซือเจิ้งคอยกดอยู่น่าจะมีความหมายทำนองต้องการควบคุมสะกดเขาเอาไว้อยู่นั่นล่ะถึงอย่างไร เพลิงตะวันหงส์แดงก็ไม่ใช่เล่นๆ เลยทีเดียวแม้จั๋วซือหรานจะอ่อนข้อให้ แต่สีหน้าเฟิงเหยียนดูแล้วก็ยังเคร่งขรึมอยู่จั๋วซือหรานพอกำลังคิดจะถาม ก็ได้ยินเสียงทุ้มต่ำของเขาดังมา "เจ้า...โกรธหรือเปล่า?"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็งงงัน หัวเราะขึ้นทันที "ไม่ขนาดนั้นหรอก ท่านเองก็ไม่ใช่เพิ่งจะรู้จักข้านี่ ข้าเป็นคนโกรธใครง่ายเสียที่ไหนกัน"เฟิงเหยีย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1334

    ที่มากกว่าคือการครุ่นคิดหลังจากครุ่นคิดไปพักหนึ่ง ดวงตาของนางไม่เพียงแต่ไม่หม่นลงด้วยเหตุนี้ แต่กลับเป็นประกายขึ้นมา!นางดวงตาสวยงาม ปกติก็งามจนผิดปกติอยู่แล้วสภาพที่เปล่งประกายตอนนี้ ดึงดูดเสียเหลือเกินชิ่งหมิงกับเฟิงเหยียนล้วนสังเกตเห็นแล้ว ทยอยกันมองไปทางนางชิ่งหมิงถามขึ้นเสียงต่ำ "ซือหราน ทำไมหรือ?"จั๋วซือหรานยิ้มตอบว่า "อย่าท้อแท้นะ"เฟิงเหยียนรู้ว่านางมองโลกในแง่ดี และรู้ว่านางอาจจะอยากให้เขารู้สึกสิ้นหวังดังนั้นจึงบีบนิ้วมือนางเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "ไม่เป็นไร มีหมวกผ้าคลุมกับอักขระคำสาปอยู่ ปัญหาไม่ใหญ่ ไม่ต้องกังวลข้า"จั๋วซือหรานเองก็บีบปลายนิ้วมือเขาเบาๆ แต่กลับบอกมาว่า "ท่านคิดดูสิ ถ้าเจ้าสิ่งนี้ถูกเพลิงตะวันหงส์แดงของท่านหลอมเอาง่ายๆ มันก็พิสูจน์ได้ว่าพอทำมันเป็นร่มก็คงจะไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไรนัก ไม่ใช่หรือ?"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน เฟิงเหยียนกับชิ่งหมิงก็นิ่งงันไปเพราะคำนี้...มันก็มีเหตุผลจริงๆแต่แม้เหตุผลเช่นนั้น ทว่าสถานการณ์ตรงหน้าก็ยังเป็นทางตันอยู่ดีตาของจั๋วซือหรานยังคงเปล่งประกาย พอเห็นสายตาเช่นนี้ของนาง ก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่า นางนั้นทำได้ทุ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1333

    จั๋วซือหรานเดิมทีรู้สึกว่าเกราะกระดูกทั้งตัวของอสูรกลืนแมลงนั่นค่อนข้างพิเศษเพียงแต่ว่า ถึงยังไงนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของร่างกายมันนางก็ไม่อาจเรียกร้องอะไรได้มากใครจะคิดว่าเจ้านี่จะอาสาบอกนางเองว่าเกราะกระดูกบนตัวมันมีวงจรผลัดของมันอยู่ความหมายประมาณว่าคล้ายๆ กับการลอกคราวของพวกสัตว์แมลงประมาณนั้นพูดให้ง่ายกว่าก็คือ ถ้าไม่ใช้ก็เสียเปล่าแล้วจั๋วซือหรานจะเกรงใจมันหรือ?นางรวบแขนเสื้อขึ้น ใช้มีดเข้าไปขูดออกมาสองชิ้น คิดจะนำมาลองดูก่อนยิ่งไปกว่านั้น หลังจากได้วัตถุดิบนี้มา ความคิดแรกสุดที่โผล่ขึ้นมาในสมองจั๋วซือหรานก็คือ รู้สึกว่าคุณสมบัติวัตถุนี้ ถ้านำมาทำเป็นร่มล่ะก็...น่าจะใช้การได้ดีอยู่ น่าจะเหมาะกับเฟิงเหยียนมากดังนั้น นางจึงถือโอกาสไปเรียกชิ่งหมิงมาเป็นผู้ช่วย ถึงยังไงในด้านการหลอมวัตถุ ชิงหมิงก็เป็นอัจฉริยะที่หาได้ยากจริงๆตอนที่เห็นวัตถุดิบนี้ ชิ่งหมิงก็รู้สึกว่าไม่ค่อยง่ายนักแต่ก็คิดไม่ถึงว่า สองคนรวมพลังกันหลอมสกัดตั้งนานสองนาน กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดเลยทำเอาจั๋วซือหรานรู้สึกท้อแท้ขึ้นมาและหลังจากนั้น เฟิงเหยียนก็เข้ามาแล้วและตอนนี้เฟิงเหยียนก็จ้องวั

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1332

    และตอนนี้ ไฟในเตา สีสันกลับเป็นหลากสีเป็นสีที่สวยมาก แต่กลับแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายอันตราย...เฟิงเหยียนขมวดคิ้วขึ้นมาจั๋วซือหรานบอกว่า "โอ้ นี่คือไฟห้าสีของข้า"คิ้วที่ขมวดของเฟิงเหยียนยังไม่คลายออก มองดูนาง "เจ้า..."เขาไม่รู้จริงๆ ว่าควรจะพูดอะไรถึงจะดี จะตำหนิ...ก็ทำใจไม่ลงจะไม่ตำหนิ ก็รู้สึกว่าสถานการณ์แบบนี้มันอันตราย"การผสมไฟวิเศษเป็นเรื่องที่อันตรายมาก ไฟวิเศษสองสีก็อันตรายมากแล้ว แต่นี่ห้าสี?!"จั๋วซือหรานฟังออกถึงความตึงเครียดในน้ำเสียงชายหนุ่มนางยิ้มตาโค้ง "ในใจข้ารู้ขีดจำกัดตัวเองอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็ไม่ใช่ของข้าโดยตรง ดังนั้นอันตรายจึงลดลงไปพอควร"เฟิงเหยียนฟังความหมายในคำพูดนางออก นางเองก็รู้ว่าตอนนั้นไฟวิเศษล้วนมาจากบนตัวของแมลงกู่ก้อนเนื้อพวกนั้นแต่ก็ยังรู้สึกว่า..."เหลวไหล"พูดถึงตรงนี้ แต่ในคำพูดกลับไม่มีท่าทีเชิงตำหนิอะไรหลังจากความประหลาดใจต่อไฟห้าสีของนางผ่านไป เฟิงเหยียนจึงสังเกตเห็นของในเตาหลอม ว่าไม่ใช่ยาเม็ดอะไรแต่เป็นของที่ดูแล้ว.... ชั่วขณะหนึ่ง เหมือนยังไม่รู้ว่าเป็นวัตถุดิบอะไรเฟิงเหยียนมองอยู่พักหนึ่ง ก็อดขมวดคิ้วถามขึ้นไม่ได้ "นี่ม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status