Share

บทที่ 1337

Author: หูเทียนเสี่ยว
มันคือการแตกหักกับสภาผู้อาวุโส การเป็นศัตรูกับสภาผู้อาวุโส

นี่เป็นเส้นทางสูงชันอันตราย เป็นเหมือนสะพานไม้ซุงท่อนเดียว

ก็ใครรับประกันไม่ได้ ว่าจะได้ชัยชนะ

พวกเขาเป็นเพียงกลุ่มคนที่ไม่ต้องการถูกกดขี่พันธนาการ...เป็นแค่กลุ่มคนกล้าหาญโดดเดี่ยวเท่านั้น

ถ้าเป็นตามที่จั๋วซือหรานบอกล่ะก็ นั่นคือคนที่ลุกขึ้นไม่ยอมเป็นทาส...

ก่อนหน้าที่ปันอวิ๋นจะออกไปก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เรียกศิษย์คนโตของตนเองเข้ามา

นำตราบัญชาเจ้าสำนักให้กับศิษย์คนโต

"อาจารย์..." ศิษย์คนโตงงงันไป "ท่าน...ท่านไม่ใช่ว่า...จะเดินทางไกลแค่เที่ยวเดียวหรือ?"

หุบเขาหมื่นพิษภายใต้การบัญชาของปันอวิ๋น ก็ค่อนข้างหย่อนยานมาตลอด

เงื่อนไขต่อตัวศิษย์สำนักของเขาก็ไม่ได้สูงนัก เวลาออกไปด้านนอกอย่าทำสำนักเสียชื่อก็พอ

กระทั่งศิษย์สำนักเหล่านี้ แต่เขาจะไม่ได้สั่งสอนละเอียดนัก แต่ก็แทบจะไม่ได้เข้มงวดเท่าไรเลย

ทุกคนจึงยอมรับได้โดยดีมาตลอดกับเรื่องที่เจ้าหุบเขาออกเดินทางไกลชั่วครั้งคราว

ศิษย์คนโตก็ไม่คิดไม่ฝัน ว่าครั้งนี้ได้เห็นตราบัญชาสำนัก

"ลี่ฟู่" ปันอวิ๋นพูดน้ำเสียงหนักแน่นอย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็น "หลังจากข้าไปแล้ว กิจต่างๆ ในหุบเขาก็จ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1341

    ยิ่งไปกว่านั้น พวกมันยังจำเหยื่อที่ถูกผ่าท้องเลือดท่วมกลับมาอีกด้วยจึงยิ่งดูนองเลือดเข้าไปอีกแต่ว่า พวกมันก็เข้าแถววางเหยื่อลงตรงหน้าจั๋วซือหราน จากนั้นก็ก้มหัวลงมาตรงหน้านางอย่างว่าง่ายอยู่ในสภาพเชื่องๆ ว่าง่าย รอให้นางมาลูบหัวทั้งที่ดูดุดันขนาดนั้นแท้ๆ! เหล่าสัตว์ประหลาดที่ไปที่ไหนก็ต่อสู้ได้!กลับมารอให้นาง...ลูบหัวเนี่ยนะ?!และจั๋วซือหรานก็ลูบหัวให้ทีละตัว พร้อมกับเอ่ยชมพวกมันด้วย"อื๋อ? หมาน้อยเอากวางกลับมาหรือ ดีมาก ข้าชอบกินเนื้อกวาง เดี๋ยวจะย่างขากวางให้เจ้าสักข้างหนึ่งแล้วกัน"จากนั้นก็ลูบหัวทุกคนต่างก็เห็นว่าหมาป่าน้ำแข็งที่ดูดุร้ายตัวนั้น ก้มหัวลงมาให้นางลูบก็เรื่องหนึ่งพอลูบเสร็จก็ยังทำเหมือนกับสุนัข ส่งเสียงร้องงื๊ดงื๊ด หู่ลู่ไปด้านหลัง ออดอ้อนน่าดูจากนั้นก็ครางหงุงหงิง ไปมอบลงด้านหลังจั๋วซือหรานอย่างว่าง่ายท่าทางนั้นเหมือนจะไปเป็นหมออิงหรือเบาะนั่งให้นาง จะยังไงมันก็ไม่ขยับไปไหนแล้วแน่นอน มันอาจจะรอขากวางย่างที่จั๋วซือหรานพูดเมื่อครู่อยู่ก็ได้หมาป่าน้ำแข็งไม่ใช่สัตว์ประหลาดระดับสูงอะไรมาก ตามหลัการแล้วสติปัญญาไม่ถึงระดับที่เข้าใจภาษามนุษย์แต่กลับ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1340

    เฟิงเหยียนถึงจะชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็หัวเราะบางๆ ขึ้นมาแทบจะในทันที "อิจฉาล่ะสิ"ปันอวิ๋นจุ๊ปาก ในใจก็คิดว่าคำที่เขาพูดเจ้าตัวดีมาได้ยินเสียนี่"ซวยจริง..." ปันอวิ๋นเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานอยู่ข้างๆ กลับอารมณ์ค่อนข้างดี แขนของนางยันอยู่กับขอบหน้าต่าง ใช้คางเกยมือ พูดกับปันอวิ๋นว่า "อย่าท้อใจไป เจ้าเองก็เจอกับข้านี่? บางทีข้าอาจจะมาเพื่อช่วยพวกเจ้าก็ได้นะ?"ปันอวิ๋นพอได้ยินก็คิดๆ พยักหน้า "ก็จใช่ พูดมาก็ถูกอยู่"เฟิงเหยียนควบม้าขึ้นมา เบียดปันอวิ๋นออกไปข้างๆ เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "อย่าไปป้อยอเขามากนัก""ซักวันข้าก็ต้องสู้กับเจ้า" ปันอวิ๋นถลึงตาใส่เขา บ่นกระปอดกระแปดควบม้าไปที่หน้าขบวนจั๋วซือหรานแหงนตามองเฟิงเหยียน เอ่ยถามว่า "จะเข้มาในรถม้าหน่อยไหม?"ฃนางยังคงเป็นห่วยสภาพของเฟิงเหยียนแม้ชุดของเขาจะรัดกุมดีแล้ว ป้องกันได้หมดจดแต่จั๋วซือหรานก็ยังไม่ค่อยวางใจเฟิงเหยียนส่ายหัว "ไม่รีบ"เขามองสีท้องฟ้าผาดหนึ่ง "ยังไม่ถึงช่วยกลางวัน ตอนนั้นค่อยว่ากัน"ผ่านไปอีกครู่หนึ่ง เหลียนเจินก็หาที่เหมาะๆ หยุดพักได้แล้ว ขบวนม้าจึงค่อยๆ หยุดลงปันอวิ๋นยังคิดอยู่ ว่าจะออกไปล่าสัตว์อะไรรอบๆ นี้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1339

    เดิมทีเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋น ก็ครุ่นคิดและหนักใจกับคำพูดนั้นของนางอยู่แต่ความครุ่นคิดกับความหนักใจ ก็ถูกประโยคท้ายที่ดูขี้เล่นของนาง ทำเอาความรู้สึกพวกนั้นจางหายไปหมดปันอวิ๋นโบกไม้โบกมือ "ไม่ต้องหรอก เจ้าเก็บไว้เถอะ ระยะทางไปหลวนหนานครั้งนี้ไม่ใช่ใกล้ๆ ยังไม่แน่ว่าจะหาเมืองหยุดพักได้หรือเปล่า"ความหมายในคำพูด ก็คือให้จั๋วซือหรานเก็บไว้กินเองจั๋วซือหรานพอได้ยินคำนี้ สายตาก็เหลือบมองปันอวิ๋นอย่างแปลกประหลาด จากนั้นก็ยื่นมือส่งห่อขนมสองห่อให้เขากับเฟิงเหยียน"เจ้าเพิ่งรู้จักข้าวันแรกหรือไง..." จั๋วซือหรานเบ้ปากเอ่ยขึ้น "มากับข้าเคยขาดของกินที่ไหน?"เฟิงเหยียนก็ไม่คิดจะเกรงใจอะไร รับไปแล้วยัดเข้าปากก้อนหนึ่งปันอวิ๋นจึงทำได้แค่รับตามมาและต่อจากนั้น ระหว่างทาง จั๋วซือหรานก็ให้ปันอวิ๋นได้เห็นว่าอะไรคือมากับนางแล้วไม่มีขาดของกินระหว่างทาง ปันอวิ๋นเห็นหญิงสาวคนนี้ปล่อยสัตว์อสูรออกมาแล้วนางก็ไม่ได้ควบคุมสัตว์อย่างตั้งใจเท่าไรด้วย เพียงแค่ลูบหัวสัตว์อสูรเหล่านั้นของนางเท่านั้นจากนั้นก็พยักหน้า พูดคำนึงว่า "ไปเถอะ แยกย้าย"แล้วสัตว์อสูรเหล่านี้ก็กระจายไปรอบทิศอย่างรวดเร็วปันอว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1338

    สีหน้านางดูแล้ว ไม่ได้ดูหดหู่เท่าพวกเขาทั้งสองคนจั๋วซือหรานยกมุมปากยิ้มบางๆ "ข้าคิดว่า..."สายตาของพวกเขาสองคน ทยอยมองไปทางจั๋วซือหรานและสบเข้ากับดวงตาที่ดำขลับยิ่งกว่าท้องผ้าราตรีคู่นั้นของนาง เหมือนว่าซ่อนสิ่งของเอาไว้มากมายและลึกมากทำเอาคาดเดาได้ยากจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้าคิดว่า...คนในอดีตเหล่านั้น ก็เพราะกลัวว่าตัวเองจะเสียใจภายหลัง จึงได้ทำให้ตนเอง ปล่อยให้คนมากมาย ยังติดอยู่ในวังวนนี้มานานขนาดนี้"พวกเขาได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน ก็ไม่พูดอะไรออกมานิ่งงันกันไปแต่ก็ล้วนเข้าใจความหมายของจั๋วซือหรานคนในอดีตเหล่านั้น...ปันอวิ๋นคิดถึงพ่อของตนเองเฟิงเหยียนเองก็คิดถึงเฟิงอวี้จริง เป็นเช่นนี้จริงๆปันอวิ๋นคิดถึงพ่อของตนเอง เพราะต้องเคยแบกรับภาระสำนัก แบกรับหุบเขาหมื่นพิษทั้งหมดดังนั้นจึงปล่อยให้สภาผู้อาวุโสกดดันเงียบๆ มาตลอด ถูกกดขี่ข่มเหงที่เรียกกันว่าให้ความสำคัญจนกระทั่งตายไป ก็ยังไม่มีความคิดจะหนีออกมาจากวังวนนี้แทนที่จะบอกว่าสภาผู้อาวุโสพันธนาการเขาไว้ สู้พูดว่า ท่านพ่อเอาตัวเองขังไว้ที่นี่จะดีกว่าและตอนท้ายสุด เขาก็จำใจต้องรับพันธนาการนี้มาต่อ ถูกท่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1337

    มันคือการแตกหักกับสภาผู้อาวุโส การเป็นศัตรูกับสภาผู้อาวุโสนี่เป็นเส้นทางสูงชันอันตราย เป็นเหมือนสะพานไม้ซุงท่อนเดียวก็ใครรับประกันไม่ได้ ว่าจะได้ชัยชนะพวกเขาเป็นเพียงกลุ่มคนที่ไม่ต้องการถูกกดขี่พันธนาการ...เป็นแค่กลุ่มคนกล้าหาญโดดเดี่ยวเท่านั้นถ้าเป็นตามที่จั๋วซือหรานบอกล่ะก็ นั่นคือคนที่ลุกขึ้นไม่ยอมเป็นทาส...ก่อนหน้าที่ปันอวิ๋นจะออกไปก็ครุ่นคิดครู่หนึ่ง เรียกศิษย์คนโตของตนเองเข้ามานำตราบัญชาเจ้าสำนักให้กับศิษย์คนโต"อาจารย์..." ศิษย์คนโตงงงันไป "ท่าน...ท่านไม่ใช่ว่า...จะเดินทางไกลแค่เที่ยวเดียวหรือ?"หุบเขาหมื่นพิษภายใต้การบัญชาของปันอวิ๋น ก็ค่อนข้างหย่อนยานมาตลอดเงื่อนไขต่อตัวศิษย์สำนักของเขาก็ไม่ได้สูงนัก เวลาออกไปด้านนอกอย่าทำสำนักเสียชื่อก็พอกระทั่งศิษย์สำนักเหล่านี้ แต่เขาจะไม่ได้สั่งสอนละเอียดนัก แต่ก็แทบจะไม่ได้เข้มงวดเท่าไรเลยทุกคนจึงยอมรับได้โดยดีมาตลอดกับเรื่องที่เจ้าหุบเขาออกเดินทางไกลชั่วครั้งคราวศิษย์คนโตก็ไม่คิดไม่ฝัน ว่าครั้งนี้ได้เห็นตราบัญชาสำนัก"ลี่ฟู่" ปันอวิ๋นพูดน้ำเสียงหนักแน่นอย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็น "หลังจากข้าไปแล้ว กิจต่างๆ ในหุบเขาก็จ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1336

    ปันอวิ๋นโมโหจนหัวเราะ แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไรพวกเขาพี่น้อง นอกจากถังฉือที่มาจากคนชั้นล่างแล้วชาติตระกูลของคนอื่นๆ ล้วนไม่เลวทั้งสิ้น ยิ่งไปกว่านั้นถ้ายังไม่พูดเรื่องแบกรับโชคชะตาแบบไหนอยู่ก็ล้วนเติบโตมาในตระกูลร่ำรวยทั้งนั้นซงซีเป็นคุณชายจากตระกูลชั้นสูงแคว้นเย่ เยี่ยนเหวยเป็นผู้สืบทอดมหาปุโรหิตของเผ่าหนึ่งในดินแดนทางใต้ เฟิงเหยียนเป็นซื่อจื่อตระกูลเฟิงของต้าชาง ปันอวิ๋นเป็นผู้สือบทอดหุบเขาหมื่นพิษแต่ถ้าเทียบความยุ่งยากแล้วก็ปันอวิ๋นนี่ล่ะยุ่งยากที่สุดปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ข้ากับเจ้ามันศัตรูกันตามธรรมชาติเลย คงคุยกันไม่ได้จริงๆ"เฟิงเหยียนมองเขาผาดหนึ่ง "แล้วเจ้าคุยกับใครได้กันล่ะ?"ท่าทางเลิกคิ้วของปันอวิ๋นดูแล้วแฝงไว้ด้วยความชั่วร้ายประหลาด มุมปากยกขึ้นเป็นเส้นโค้ง "ก็ต้องคุยกับซือหรานได้ถูกคอกว่าน่ะสิ ก่อนหน้านี้ข้าจุดเทียนคุยกับนางทั้งคืน สนุกสุดเหวี่ยงไปเลยเถอะ!"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แต่สีหน้าก็แข็งไปแล้วจริงๆในสมองเหมือนจู่ๆ ก็มีภาพตนเองตอนที่ใช้ชื่อปลอมว่าเยี่ยนหรานแวบเข้ามา ในโรงเตี๊ยม เฝ้ารออยู่ข้างนอกทั้งคืน....ส่วนจั๋วซือหรานก็อยู่ในห้องกับปันอวิ๋นทั้งคืน...จุด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status