Share

บทที่ 260

Auteur: หูเทียนเสี่ยว
โดยทั่งไปแล้วนี่อาจถือได้ว่าเป็นอุบัติเหตุเบียดเสียดยัดเยียดเล็ก ๆ สำหรับส่วนสูงที่ขาดสารอาหารของเด็กฉลาดอาจลำบากมากแล้ว

ในขณะนั้น ม่านตาของเด็กฉลาดหดเล็กลง เขาก็สัมผัสได้ถึงอันตรายแล้ว แต่ในขณะที่เขาตระหนักถึงอันตราย เขาก็ตระหนักถึงการกระทำของท่านนี้ด้วย

นางยื่นมือออกแล้วดึงเสื้อคอหลังของเขาขึ้นมา และดูเหมือนว่าร่างกายของเขาจะถูกดึงขึ้นเหมือนแครอท

แล้วดวางเขาไว้ข้างหลังนาง

และนางยื่นมือออกอีกครั้ง มือนั้นดูขาวและนุ่มนวล ราวกับว่านางไม่ได้ใช้กำลังใด ๆ เลย นางผลักคนเหล่านั้นเบา ๆ เหมือนนางกำลังขับไล่แมลงวันและยุงเท่านั้น

จากนั้นได้ยินเสียงกรีดร้องเล็กน้อย และคนไม่กี่คนที่มุ่งหน้าไปยังทิศทางนี้อย่างควบคุมไม่ได้เนื่องจากแรงผลักนั้น พวกเขาก็หันกลับไปทิศทางอื่น

หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็ล้มบนพื้นด้วยกัน สนามแข่งวุ่นวายกันหมด

เห็นได้ชัดว่ามีคนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่จั๋วซือหรานหรือเด็กฉลาด

จั๋วซือหรานไม่ได้มองที่นั่นอีก นางดึงเด็กฉลาดไปที่มุมที่เขาอยากพานางไปในก่อนหน้านี้

แต่คนเหล่านั้นเริ่มมีปฏิกิริยาโต้ตอบแล้ว พวกเขาเห็นจั๋วซือหรานตัวเล็กและเป็นผู้หญิงด้วย

นักพนันหล
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1379

    แต่เสียงของเขายังไม่ทันตะโกนจนจบ ก็ชะงักลงกะทันหันในลำคอกลายเป็นเสียงแตกพร่า ดังกลุกกลัก...ราวกับมีของเหลวทะลักพล่านยิ่งไปกว่านั้นยังมีเสียงลมรั่วด้วยเหล่าสหายข้างๆ เขา ถลึงตาโตอ้าปากค้างมองดูทหารคุ้มกันที่เป็นหัวหน้าคนนี้...หรือก็คือคนที่ถูกเจ้าเมืองบอกว่าเขาเป็นคนที่จะทำการใหญ่ได้สำเร็จคนนั้นตอนนี้ คอของเขา...คอของเขา...ก็ราวกับเป็นถังน้ำรั่วที่มีน้ำซึมออกมาจากตัวถังอย่างไรอย่างนั้นคอของเขาตอนนี้เป็นเช่นนั้น มีเลือดซึมออกมาด้านนอกเพียงแต่ความแรงของการไหล มากกว่าความแรงของน้ำที่ซึมจากถังหลายเท่า!หลั่งทะลักออกมา!และเสียงกลุกกลักเหล่านั้น ก็เป็นเพราะเลือดทะลักออกจากลำคอ เสียงที่มาจากในคอรวมไปถึงเสียงลมรั่วที่มาจากรูตรงคอ!คนที่ยืนอยู่ใกล้เขา ก็ถูกเลือดสาดเข้าบนหัวกับใบหน้าในลมหายใจล้วนเป็นกลิ่นคาวเลือด ต่อให้พวกเขาจะเป็นพวกคนเลวที่เคยฆ่าคนเคยเห็นเลือดมาแล้วพอเจอกับสถานการณ์นี้ รวมถึงการที่คนของตนเองถูกฆ่า พลังคุกคามที่แผ่เข้ามาจึงไม่ธรรมดาถ้าบอกว่าอะไรสามารถทำให้คนหวาดกลัวได้ สิ่งที่ติดอันดับต้นๆ ไม่เพียงแต่เป็นเสียงกรีดร้องของสหายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1378

    เขาขมวดคิ้ว รู้สึกร้อนขึ้นมาอย่างประหลาดยิ่งไปกว่านั้นความร้อนนี้ ไม่ใช่ความร้อนจัด...เพราะที่นี่คือชายแดนพรมแดนใต้ เดิมทีสภาพอากาศก็ค่อนข้างร้อนอยู่แล้วแต่ก็ไม่ใช่ความรู้สึกแบบนี้ ตอนนี้เขารู้สึกเหมือนว่าในกระดูกมีความร้อนกำลังลามออกไปช้าๆ ทรมานมาก แต่กลับบอกไม่ถูกว่ามันมาจากตรงไหน...เพลิงตะวันหงส์แดงต่อให้เป็นแค่ประกายไฟเล็กๆ ก็ยังถือเป็นความทรมานแสนสาหัสของคนทั่วไปอยู่เขาต้องเจอดีแน่จั๋วซือหรานถามขึ้นอีกคำ "แล้วพวกเจ้าเข้าไปได้เพราะเป็นคนเลวด้วยรึ?""แน่นอน" ทหารคุ้มกันหลายคนดูท่าจะภาคภูมิใจขึ้นมาจั๋วซือหรานมุมปากยกขึ้นบางๆ พวกเขาเห็นแค่มุมปากน่ามองของนาง แต่ไม่เห็นความเย็นชาในดวงตานาง"ถ้างั้นพวกเจ้าทำเรื่องเลวๆ อะไรมาถึงเข้าเมืองซื่อหนานได้?"พวกเขาได้ยินมาว่าหญิงสาวคนนี้หน้าตางามระดับล่มเมือง กระทั่งเสียงก็ยังชวนหลงใหลในใจกระทั่งคิดว่าจะจัดการพวกผู้ชายที่มากับนาง น่าจะเป็งองครักษ์ของนางกระมัง? จัดการสังหารทิ้งเสียจากนั้นค่อยไปเสวยสุขกับหญิงสาวคนนี้ทหารคุ้มกันคนหนึ่งเอ่ยตอบ "ข้ารึ? ตอนนั้นข้าข่มเหงลูกสาวสามคนของบ้านหลังหนึ่ง ครอบครัวของนางเข้ามาขวาง ข้าก็เลยฆ่

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1377

    ปันอวิ๋นขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่พูดอะไรมากแต่ก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา อยากจะดูว่านางคิดจะทำอย่างไรดังนั้น ทั้งสี่คนจึงตรงไปทางประตูเมืองช่วงค่ำของเมืองซื่อหนานก็สามารถเข้าเมืองได้ เพียงแต่จะยิ่งเข้มงวดขึ้นมาที่ประตูมีทหารคุ้มกันอยู่ไม่น้อย ทั้งในทั้งนอก รวมกันกว่ายี่สิบคนนี่ยังไม่นับร่วมที่เดินลาดตระเวนอยู่ด้านใน เอาแค่ที่จุดประตูเมืองก็มีอยู่ไม่น้อยแล้วปันอวิ๋นเอียงตามองจั๋วซือหรานผาดหนึ่ง "พอไปถึง ให้บุกเขาไปหรือทำยังไง?"จั๋วซือหรานยิ้มๆ ตอบว่า "ก็ต้องเข้าไปอย่างสง่าผ่าเผยสิ""เจ้านี่ดูไม่รีบร้อนเลยนะ" ปันอวิ๋นเอียงตามองไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนสังเกตเห็นสายตาเขา เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ไม่มีอะไรต้องเร่งรีบนี่""เจ้ารุ้ไหมว่านางคิดจะทำอะไร" ปันอวิ๋นถามเขาพยักหน้า "พอจะเดาได้อยู่"ปันอวิ๋นจุ๊ปาก "ใจตรงกันเสียเหลือเกิน..."เฟิงเหยียนหัวเราะทุ้มต่ำ "นางยังจะมีวิธีอะไรได้อีก เข้าไปตรงๆ เลย เราตามไปก็พอแล้ว"พูดแบบนี้ ปันอวิ๋นเองก็ตระหนักได่ขึ้นมาตอนนี้เอง ประตูเมืองก็อยู่ตรงหน้าแล้วป้ายบนประตูเมือง มีคำว่าซื่อหนานตัวใหญ่อยู่สองตัว...กระทั่งยังใช้อักษรของแคว้นเหย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1376

    "ไม่กินข้าวแค่มื้อเดียวก็หิวจนตายลายนะ" จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น ยิ้มๆ มองเย่เจิงเอ่ยอีกว่า "ท่านแม่ทัพก็ดูลังเลเสียจริง ดังนั้น คำตอบของท่านแม่ทัพคือ?"เย่เจิงไม่ได้พูดอะไรออกมาทันที หลังจากสูดลมหายใจลึก ก็เอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "ข้าเห็นด้วยแล้ว ถ้าหากท่านจัดการเจ้าเมืองซื่อหนานได้จริง ข้าจะนำทหารออกไป"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็พยักหน้า "เช่นนั้นก็ดี รอฟังข่าวจากข้าแล้วกัน"เย่เจิงถามขึ้นคำหนึ่ง "ใต้เท้าจะออกเดินทางตอนไหน?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ในเมื่อท่านแม่ทัพก็รับปากมาแล้ว คืนนี้จะออกเดินทางเลย""อะไรนะ!" เย่เจิงตาถลึงโต "คืนนี้หรือ? การเคลื่อนไหวใหญ่ขนาดนี้ ใต้เท้าไม่ควรวางแผนเตรียมตัวเสียหน่อยหรือ?""ตามหลักการแล้วก็ควรจะเตรียมตัวเสียหน่อย แต่ข้ามีเหตุผลที่ต้องเร่งรีบ..." จั๋วซือหรานคิดในใจว่าถ้าไม่รีบไปล่ะก็ ถึงตอนนั้นเทพปีศาจจอมกระบี่อันดับหนึ่งแห่งใต้หล้ามาถึง ก็คงจะจัดการลำบากแล้วหลังอาหาร จั๋วซือหรานก็นำคำพูดนี้ไปบอกกับปันอวิ๋นเฟิงเหยียนและชิ่งหมิงเฟิงเหยียนฟังนางหมดชิ่งหมิงเองก็ไม่เคยจะออกความเห็นแต่ว่าปันอวิ๋นมีดวงตาที่มองออกทะลุปรุโปร่ง เขากระแอมหัวเราะขึ้นเบาๆ บอกว่า "น้อ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1375

    ตอนนี้เอง จวงอี๋ไห่สามพ่อลูกก็เตรียมข้าวเย็นเสร็จแล้ว จัดวางไว้สองสามโต๊ะที่โถงใหญ่จั๋วซือหรานกับเฟิงเหยียน ปันอวิ๋น รวมถึงท่านแม่ จั๋วหวาย จวงชิ่งหมิง นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกล"เหมือนว่าจะมาแล้ว" จั๋วซือหรานดื่มน้ำแกงลงไปคำหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบเฟิงเหยียนนึกขึ้นได้ถึงคำพูดที่นางพูดไว้ที่ห้องก่อนหน้านี้นางบอกว่ารอให้แม่ทัพเย่คิดจนเข้าใจ พวกเขาก็สามารถออกเดินทางได้แล้วเขาถามว่าแล้วเมื่อไรแม่ทัพเย่คนนั้นจะคิดจนเข้าใจ?นางบอกว่า...วันนี้ตอนนี้ เฟิงเหยียนก้ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าแว่วเข้ามาแต่ไกลแล้ว พอคิดถึงความเป็นไปได้นั้น ก็พูดไม่ออกขึ้นมาไปชั่วขณะไม่นานนัก เสียงฝีเท้าม้าก็หยุดลงที่ประตูโรงเตี๊ยมผ่านไปครู่หนึ่ง ชายหนุ่มร่างสูงใส่ในชุดเกราะอ่อนคนหนึ่ง ก็ค่อยๆ เดินเข้ามาพลังบนตัวปล่อยจิตสังหารที่เด็ดขาดและเฉียบคมออกมาสายตาเองก็คมกริบทำให้คนอดรู้สึกไม่ได้ว่า คนผู้นี้...จะต้องเคยฆ่าคนมาแล้วแน่นอนหลังจากเย่เจิงเดินเข้ามา สายตาก็กวาดไปรอบๆ จากนั้นก็เล็งไปยังจั๋วซือหรานที่นั่งอยู่ที่โต๊ะส่วนคนอื่น...อย่างเช่นโต๊ะของเหลียนเจิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1374

    จั๋วซือหรานหัวเราะเสียงทุ้มเสียงของชายหนุ่มยิ่งน่าดึงดูดขึ้นท่ามกลางความมืด มีอาการแหบพร่าเล็กน้อย "หัวเราะอะไร?""ไม่มีอะไร" จั๋วซือหรานลูบใบหน้าเขาเบาๆเฟิงเหยียนเหมือนจะรู้สึกได้ว่า บางทีนางคงกำลังหัวเราะเขา...ที่ใจร้อนเสียขนาดนี้เขาไม่ส่งเสียงไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานก็มองเขาเอ่ยขึ้นว่า "รู้ไหม พ่อครัวของโรงเตี๊ยม ยังไปทำงานดูแลม้าด้วยนะ...""...นั่นก็ยังดีที่เจ้าพาพ่อครัวมาด้วย" เฟิงเหยียนโอบนางมานั่งลงที่เก้าอี้จากนั้นจึงถามขึ้นว่า "ก่อนหน้านี้ไปจวนแม่ทัพมา เป็นยังไงบ้าง?"จั๋วซือหรานคิดๆ "ก็พอไหวอยู่ แม่ทัพคนนี้กระดูกแข็งน่าดู"เฟิงเหยียนพอได้ยินคำนี้ หลังจากชะงักไปครู่หนึ่งก็พูดแค่ว่า "ถ้างั้นเขาก็ลำบากแล้วสิ""อื๋อ?" จั๋วซือหรานไม่เข้าใจคำนี้ หัวเราะขึ้นมา "ทำไมถึงพูดแบบนี้ล่ะ?"เฟิงเหยียนตอบ "พวกกระดูกแข็งที่ถูกเจ้าจัดการไปแล้วมีน้อยซะที่ไหนกัน"พวกกระดูกไม่แข็งนางยังไปท้าทายอยู่เลยด้วยซ้ำ"ใช่ซะที่ไหนกันเล่า..." จั๋วซือหรานพูดพลางใช้นิ้ววงๆ เบาๆ ที่หน้าอกเขา "ข้าก็แค่อยากบรรลุเป้าหมายของข้าอย่างเป็นเหตุเป็นผลเฉยๆ เอง"ความหมายของคำพูดง่ายมาก ถ้ามีคนที่ไม่ยอมให้

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status