แชร์

บทที่ 113

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
หลังจากได้ยินคำพูดของลูกสาว คุณท่านจั๋วลิ่วก็หัวเราะเยาะ "แต่หนูดูสิ นางได้ฟังคำพูดของท่านอ๋องเซี่ยน และทำร้ายพี่สางน้องสาวของครอบครัวบ้างไหม"

“ไม่ว่าจั๋วจิ่วจะบ้าแค่ไหน นางก็แค่อยากได้ของของตัวเองกลับ ตัวอย่างเช่น นางได้รับตำแหน่งเรียนหอหลวงจากไทเฮาตามความสามารถของนางเอง หนูเคยเห็นนางทำร้ายคนในครอบครัวหรือ "

คำถามของคุณท่านจั๋วลิ่วทำให้จั๋วหรูซินเงียบและพูดไม่ออกสักคำ

เมื่อเห็นลูกสาวเป็นเช่นนี้ คุณท่านจั๋วลิ่วไม่พูดอะไรต่อ

แม้ว่าลูกสาวของเขาจะไม่มีความสามารถที่เก่งกาจ แต่สุดท้ายนางยังเป็นลูกสาวของเขาอยู่ดี

คุณท่านจั๋วลิ่วหายใจเข้าลึก ๆ เล็กน้อย เขาสงบลงเล็กน้อย และถามด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า " ซินเอ๋อร์ ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาคิดที่จะตำหนิองค์หญิงเจาหมิ่น"

จั๋วหรูซินกระซิบ "แต่... เราควรทำอย่างไรดี"

คุณท่านจั๋วลิ่วถามว่า “นอกจากองค์หญิงเจาหมิ่นแล้ว มีใครรู้หนูทำร้ายจั๋วจิ่วอีกไหม”

จั๋วหรูซินกล่าว " ฉินตวนหยางรู้"

คุณท่านจั๋วลิ่วคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เขาไม่สำคัญ เขาได้รับตำแหน่งและเป็นเจ้าหน้าที่ในราชสำนัก ตระกูลขุนนางไม่สามารถแอบลงโทษเขา"

จั๋วหรูซินกัดริมฝีปากของนาง "เช่นนั้นมี
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1409

    พอได้ยินคำนี้ เฟิงเหยียนก็หันมามองนาง สายตายากจะอธิบายปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเองก็มองนาง เหมือนเดาได้ถึงคำตอบแล้ว"คงไม่ใช่คำตอบที่ข้าคิดหรอกกระมัง?" ปันอวิ๋นถามขึ้นมาคำหนึ่งจั๋วซือหรานยิ้มพลางเดินไปด้านหน้า "ทำอะไรน่ะพวกเจ้า พวกชายหนุ่มไม่ใช่ว่าชอบไปกันหรือ? พวกเจ้านี่แปลกจริง! แล้วก็นะ กับข้าวที่นั่นมันไม่อร่อยรึไงกัน?"เฟิ่งหลานเดิมทียังไม่รู้ว่าใต้เท้าจะพานางไปที่ไหนจนกระทั่ง มองเห็นทางเข้าถนนบุปผา ได้กลิ่นหอมประทินลอยเข้ามาในอากาศนางจึงเพิ่งเข้าใจว่าเพราะอะไรสีหน้าของสามคนนี้ก่อนหน้าถึงยากจะอธิบายนักถึงยังไง...มีหญิงสาวพาชายหนุ่มมาเที่ยวในถนนบุปผาโรงคณิกาเสียที่ไหนกัน...จั๋วซือหรานเดินพาพวกเขาเข้าไปอย่างคุ้นที่คุ้นทางแม่เล้าพอเห็นนางเข้ามา ก็เหมือนเห็นตัวกาลกีณีขึ้นมาให้ตายเถอะ! ทำไมถึงได้มาอีกแล้วล่ะ!พอออกไปก็ถูกตั๋วทองโบกเข้าใส่หน้าสีหน้าที่ดูทุกข์ระทมแต่เดิมบนหน้าแม่เล้า ก็เปลี่ยนเป็นความกระตือรือร้นยินดีขึ้นมาทันที"ใต้เท้ามาอีกแล้วหรือ! ยินดีต้อนรับจริงๆ!"จั๋วซือหรานโบกมือเอ่ยขึ้น "ห้องหรูที่เงียบๆ สุราอาหารเลิศรส ส่วนที่เหลือเป็นรางวัลของเจ้า"แม่เล้าพอ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1408

    เหล่าทาสอาชญากรที่ถูกล่ามด้วยโซ่เหล็กและขังอยู่ในกรงเหล็กเหล่านั้นเดิมทีก็รู้สึกสิ้นหวังมากแล้ว แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกด้านชากระทั่งยังคิดว่าคงต้องตายแน่แล้วตอนที่ได้ยินคำพูดของจั๋วซือหราน พวกเขาก็อดมองขึ้นมาด้วยดวงตาเป็นประกายไม่ได้ แต่ก็เป็นแค่ชั่วระยะสั้นนิดเดียวเท่านั้น และจางหายไปอย่างรวดเร็วจั๋วซือหรานกำชับเหล่านี้เสร็จ ก็จ่ายเงินแล้วออกไปคนหาข่าวคนนั้นตามอยู่ด้านหลังนาง แต่ก็เงียบมาตลอด ราวกับว่าตั้งแต่เมื่อครู่นี้ นางก็คอยสังเกตพฤติกรรมของจั๋วซือหรานอยู่ตลอดเดินห่างออกมาระยะหนึ่ง คนหาข่าวจึงถามจั๋วซือหรานขึ้นเสียงต่ำคำหนึ่ง "ทำไมท่านต้องเอาคนแก่อ่อนแอพวกนั้นไปด้วยหรือ?""อื๋อ?" จั๋วซือหรานมองนาง "เจ้าถามข้าหรือ? เจ้าคิดว่าข้าเทำไปเพราะอะไรล่ะ?"คนหาข่าวคนนี้อันที่จริงก็ไม่ค่อยแน่ใจ นางแค่รู้สึกว่า...ใต้เท้าคนนี้ แม้จะเก่งกาจ แต่ก็เหมือนว่าจะไม่ใช่คนเลวดังนั้นนางจึงตอบว่า "ข้ารู้สึกว่าใต้เท้าสงสารพวกเขา ดังนั้นจึงจะพาไปด้วยกัน"จั๋วซือหรานพอได้ยินก็หัวเราะ "คิดไม่ถึงเลย ว่าภาพลักษณ์ของข้าในใจเจ้าจะยิ่งใหญ่ขนาดนี้?"คนหาข่าวรู้สึกเขินหน่อยๆ ไม่พูดอะไรจั๋วซ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1407

    จั๋วซือหรานเห็นท่าทางนางเป็นแบบนี้ กลับหัวเราะขึ้นมาไม่มีความคิดจะทำอะไรนางทั้งนั้นพอหันหน้าไปก็บอกกับเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นว่า "ดังนั้นที่เขาอยู่ในซื่อหนาน คงไม่ใช่เพราะพวกเขามีสถานการณ์เดียวกับพวกเจ้าหรอกนะ?"เพราะถูกสภาผู้อาวุโสตามล่าหรือ?จั๋วซือหรานคาดเดาแบบนี้แต่ปันอวิ๋นกับเฟิงเหยียนกลับเผย...สีหน้าหนึ่งออกมาจั๋วซือหรานเองก็บอกไม่ถูกว่าสีหน้าแบบนี้ควรพรรณาว่าอะไรดี ถ้าพูดขึ้นมาก็น่าจะเป็นค่อนข้างดูถูกคนคนนั้นกระมังไม่สิ บางทีถ้าเทียบกับบอกว่าดูถูกคนนั้น สู้บอกว่าดูถูกตัวตนเต่าหลังวารี...ที่คนคนนั้นแบกรับอยู่ดีกว่า?จั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายแฝงที่อยู่ด้านใน เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "เจ้าสองคนคิดว่าหงส์แดงกับกู่วิญญาณเป็นของดีนักหรือไรกัน!"ถ้าเป็นของที่ดีจริง พวกเขาสองคนคงไม่ถูกจำกัดแบบตอนนี้หรอกในสภาพที่ไม่ค่อยต่างกัน ยังจะดูถูกว่ากุญแจของคนอื่นระดับสูงไม่พออีกรึ?จั๋วซือหรานเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะโมโหสองคนนี้แล้วปันอวิ๋นหันสายตาไปทางอื่นเฟิงเหยียนกระแอมออกมาเบาๆ พูดเลี่ยงไปเรื่องอื่นว่า "เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ถ้าไม่หนี ก็คงจะมาหาพวกเราเอง บางทีอาจจะแอบสังเกตอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1406

    จั๋วซือหรานยื่นมือไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนก็วางกระบี่ประจำตระกูลเข้ามาในมือนางอย่างรู้กันกระบี่รูปร่างโบราณถูกนางกุมไว้ในมือ นางหันด้ามกระบี่ไปยังคนผู้นี้คนผู้นี้ขมวดคิ้ว ไม่ขยับตัวไปพักหนึ่งครู่หนึ่งจึงยื่นมือออกมา วางลงไปบนด้ามกระบี่เล่มนี้ชักไม่ออกเลย เขาออกแรงจริงเล็กน้อย!ซี๊ด...ฝ่ามือมีความเจ็บปวดจากการแผดเผาอย่างรุนแรงเขาค่อยๆ ลดมือลงเงียบๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ดึงไม่ออก ข้ายอมแพ้ ขอตัวก่อน"เขาหมุนตัวจะเดินไปพวกจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดจะไล่ตามจวงชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นคำหนึ่ง "กระบี่เล่มนั้นของเขา น่าสนใจอยู่นะ"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "กระบี่ประจำตระกูลเล่มหนึ่งน่ะ ต้องน่าสนใจอยู่แล้ว" มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอันที่จริงก่อนหน้านี้นางมองไกลๆ ก็รู้สึกว่ากระบี่เล่มนั้นไม่ธรรมดาเลยแต่เฟิงเหยียนปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเหมือนไม่สังเกตเห็นอะไรเลย นางจึงรู้สึกแค่ว่าตนเองเข้าใจผิดไปจึงอยากจะเข้ามาดูเสียหน่อยจากนั้นตอนที่ชักกระบี่ นางดึงมันออกมา กลิ่นอายที่ทะลักออกมาจากในฝักกระบี่นั่น พวกเขาต้องสังเกตเห็นแล้วแน่ๆกระบี่เล่มนั้นกับกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียนน่าจะเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1405

    คนหาข่าวพอได้ยินก็ถลึงตากลมโต เหมือถูกคำพูดนี้ทำให้ตกตะลึงไป พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้าคิดๆ ดู ในเมื่อเจ้าเดินไปมาอิสระที่นี่ได้ คิดว่าคงจะไม่ใช่พวกขุนนางทาสแน่ แต่ก่อนหน้าพอข้าใช้เรื่องจะขายเจ้าก็ขู่เจ้าจนตกใจ เห็นได้ชัดว่าบนตัวเจ้าน่าจะมีที่มาที่ไปอยู่"จั๋วซือหรานชะงักไป ยื่นมือชี้ไปทิศที่นางชี้มาก่อนหน้านี้ "ดังนั้นข้ารู้สึกว่า บางทีเจ้าน่าจะใกล้เคียงกับคนพวกนั้น อาจจะมีเหตุผลของตัวเอง จึงต้องมาอยู่ในเมืองซื่อหนาน""แล้วเหตุผลที่มาที่ไปของเจ้าคืออะไร?" จั๋วซือหรานถามสีหน้าคนหาข่าวเดิมทีที่แดงระเรื่ออยู่ ตอนนี้กลับซีดเผือดไปอีกครั้ง"ข้า..." มุมปากนางขยับ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างลำบากใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้เร่งรัด เอ่ยแค่ว่า "ไปดูทางนั้นก่อนแล้วกัน เจ้าเองก็ค่อยๆ คิด ถ้าไม่เล่าก็ไม่บังคับนะ ข้าแค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆ ก็เท่านั้น"พูดจบ พวกของจั๋วซือหรานก็เดินตรงไปทางนั้นทางนั้นกับการค้าทาสทางนี้ก็มีบรรยากาศแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจริงๆชิ่งหมิงอยู่ที่นี่ไม่รุ้สึกรังเกียจอะไรนัก เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศทางนี้ไม่ได้ดำมืดเหมือนทางนั้นจั๋วซือหรานดึงนิ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1404

    พอได้ยินคำนี้ คิ้วของชิ่งหมิงก็ย่นขึ้นมา เขาเอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหราน "ข้าไม่ชอบที่นี่เลย"ก็จริง สถานที่แบบนี้ รู้สึกมันดำมืดไปหมด ไม่มีแสงสว่างเอาเสียเลยแล้วชิ่งหมิงเดิมทีก็ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนกระดาษขาว สำหรับเรื่องดำมืดแบบนี้ จะไม่ใชอบก็เป็นเรื่องปกติจั๋วซือหรานกดบ่าเขาเบาๆ ยัดลูกกวาดหนึบหนับใส่มือเขาหลายเม็ดชิ่งหมิงมองลูกกวาดหนึบหนับใสมือ "..."เขารู้สึกจนใจหน่อยๆ ซือหรานมักปลอบเขาเหมือนกับเด็กแบบนี้เสมอ แต่เขาโตแล้วนะแต่ว่าก็อดพูดไม่ได้เลย ความรู้สึกแบบนี้บางครั้งก็ไม่เลวนักจั๋วซือหรานมองไปทางคนหาข่าวคนนั้น เอ่ยขึ้นว่า "พูดต่อสิ""คนหาข่าวคนนี้พอได้ยินก็ตาเป็นประกาย สีหน้าขาวซีดแต่เดิมที่ถูกจั๋วซือหรานเปิดโปงจนปั้นยาก เวลานี้ก็เหมือนจะตื่นเต้นแดงรื้นขึ้นมาจากคำพูดของจั๋วซือหรานแล้วนางเอ่ยต่อว่า "ใต้เท้า คนเหล่านี้ถึงแม้จะไม่มีแรงมากมายนัก แต่ก็มีอยู่หลายคนที่อ่านออกเขียนได้ ถ้าท่านต้องการหาคนที่รู้หนังสือ ที่นี่ก็จะถูกกว่ากันเยอะมาก แต่ว่า..."จั๋วซือหรานมองนาง "มีอะไรก็พูดตรงๆ เถอะ"คนหาข่าวคนนี้จึงกดเสียงลงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status