Share

บทที่ 309

Author: หูเทียนเสี่ยว
จั๋วซือหรานรู้สึกอัญมณีบนผ้าคาดเอวของจั๋วหยุนเฟิงอาจเป็นของเช่นเดียวกันกับแหวนเสวียนเหยียนของนางเอง

นั่นก็คือแหวนเสวียนเหยียนสามารถช่วยระดมพลัง ในความเป็นจริง เป็นไปได้ที่ว่ามีความสามารถเช่นนี้ ตัวอย่างเช่น ลูกหลานของตระกูลเฟิงต่างใช้ดาบประจำตระกูลช่วยระดมพลัง

อัญมณีบนผ้าคาดเอวของจั๋วหยุนเฟิงคงมีความหมายคล้ายกัน

ในขณะที่อัญมณีถูกบดขยี้ พลังรอบตัวของจั๋วหยุนเฟิงเริ่มค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ทั้งสีผิวและอำนาจของเขา และแม้แต่อาการบาดเจ็บบนร่างกายของเขาก็รักษาได้อย่างรวดเร็ว

มันเหมือนความสามารถในการฟื้นตัวที่แข็งแกร่งอย่างมากของตระกูลจั๋วได้รับการเร่งตัวขึ้นหลังจากพลังในอัญมณีถูกปล่อยออกมา

ดวงตาของจั๋วหยุนเฟิงยังคงเป็นสีแดง เขาจ้องมองจั๋วซือหราน "วันนี้ ข้าจะช่วยตระกูลกำจัดเจ้า"

จั๋วซือหรานขมวดคิ้วและไม่กล้าที่จะละเลย เพราะหลังจากที่อัญมณีแตกออก พลังที่ถูกเพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันของ จั๋วหยุนเฟิงดูไม่ธรรมดาด้วยซ้ำ นางยิ่งเกิดความรู้สึกว่า พลังบนตัวของเขาไม่ใช่ของตัวเขาเอง

เหมือนเขายืมพลังอื่นเช่นนั้นหรือ ดังนั้นพลังรอบตัวของเขาจึงดูรุนแรงเป็นพิเศษ

จั๋วซือหรานต้องระมัดระวัง นางไม่ห่วงความปลอด
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Siriwan Wongtapang
อยากให้อัพวันละหลายๆตอนหน่อยคะใจจะขาดละอยากอ่านๆ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 310

    ร่างกายของจั๋วซือหรานถูกจั๋วหยุนเฟิงโจมตีอย่างหนักนางรู้สึกดวงตาของนางมืดลงชั่วขณะหนึ่ง"......หราน หราน""ท่านพี่......"จั๋วซือหรานเพียงรู้สึกในขณะนี้ พยางค์ที่อยู่ข้างหูของนางดูเหมือนถูกลากไปเป็นพยางค์ที่ยาวมาก นางแทบจะไม่ได้ยินเสียงเรียกนั้นความมืดที่อยู่ตรงหน้าของนางชัดเจนอย่างมาก ในขอบบริเวณเริ่มมีจุดดำ ๆไม่ ข้าล้มไม่ได้จั๋วซือหรานกัดปลายลิ้นของนางอย่างแรง อยากให้ตัวเองตั้งสติไว้นางคายเลือดออกมาเต็มปาก เลือดนั้นไหลบนแหวนเสวียนเหยียน นางวางฝ่ามือลงบนพื้น เพื่อทรงตัวไว้ และเลือดก็ย้อมสีแสีแหวนเสวียนเหยียนให้เป็นสีแดงเข้ม ซึ่งน่าขนลุกยิ่งขึ้นยิ่งไปกว่านั้น เลือดยังไหลตามแหวนเสวียนเหยียน และหยดลงในลวดลายเรียบง่ายของพื้นหินที่ถูกแกะสลักและมีเวลายาวนานเลือดซึมเข้าลอยทีละนิดทีละน้อยรัศมีสีแดงเข้มของแหวนเสวียนเหยียนเริ่มสว่างขึ้นเรื่อย ๆ แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นจะมองไม่เห็นในขณะนี้ จั๋วซือหรานไม่ได้สังเกตแสงนั้นนางไม่ได้สังเกตเห็นความผิดปกติของแหวนเสวียนเหยียน แถมนางยังบิดแหวนเสวียนเหยียนอีกหนึ่งในสาม จนกระทั่งแหวนเสวียนเหยียนเปิดออกจนสุดแล้วแต่สิ่งที่จั๋วซือหรานไม่ค

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 311

    “หราน… หรานหราน … หรานหรานลูกแม่”มือของอวิ๋นเหนียงสั่นอย่างแรง นางสังเกตแม้ลูกสาวของนางยังคงยืนอยู่ตรงหน้านาง แต่อาการของลูกสาวก็แตกต่างไปจากเมื่อครู่นี้อย่างเห็นได้ชัดนางยื่นมือออกและสัมผัสลูกสาวของตัวเอง นางก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วเห็น... ดวงตาของลูกสาวนางปิดลงแล้ว ทั้ง ๆ ลูกสาวหมดสิตแล้ว ยังคงยืนอยู่ตรงหน้านางกับเสี่ยวหวายชั่วขณะหนึ่ง อวิ๋นเหนียงรู้สึกเหมือนมีดแทงหัวใจของนาง และเสียงของนางก็เหมือนกับนกกาเหว่าที่ร้องไห้เป็นเลือด เศร้าและคร่ำครวญ " หรานหราน ลูกสาวของข้า"ดวงตาของจั๋วหวายแดงเหมือนเลือด เขาจ้องมองคนรอบข้าง จ้องพวกคนที่มีนามสกุลเดียวกับเขานี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเกลียดชัง และความรังเกียจนั้นหาที่เปรียบมิได้ ความรังเกียจและความเกลียดชังนี้รุนแรงมากจนเมื่อเขาจำได้เขามีสายเลือดเดียวกันกับพวกเขา ซึ่งทำให้เขาเกลียดเลือดส่วนนี้ของเขาเองเหมือนเขาคืนสติไม่ได้แล้วแต่จั๋วหวายคืนสติได้อย่างรวดเร็ว เพราะเขาทราบว่า พี่สาวของเขาพยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องพวกเขา และตอนนี้...ถึงเวลาที่เขาต้องดูแลท่านแม่ของเขาแล้วจั๋วหวายบีบข้อมือท่านพี่อย่างระมัดระวัง และในที่สุดก็ถอน

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 312

    ดาบยาวที่ปิดกั้นอาวุธของจั๋วหยุนเฟิงนั้นมีลักษณะที่เรียบง่ายและไม่ได้ออกจากฝักด้วยซ้ำแต่อาวุธของจั๋วหยุนเฟิงถูกบล็อกได้อย่างง่ายดาย“เจ้า” จั๋วหยุนเฟิงมองไปที่แขกที่ไม่ได้รับเชิญอีกฝ่ายสวมเสื้อคลุมยาวและหมวกผ้ากอซ ดูลึกลับและแปลกมากพูดตามตรง ไม่เพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ยังมีผู้คนจำนวนมากที่มาชมการต่อสู้ด้วย พวกเขาต่างไม่ทราบว่าแขกที่ไม่ได้รับเชิญผู้นี้ปรากฏตัวอย่างไรและเมื่อใด“ผู้แข็งแกร่งรังแกผู้ไร้เรี่ยวแรง หลายคนรังแกผู้คนที่มีจำนวนที่น้อยกว่า ตระกูลจั๋วใช้วิธีนี้คล่องดีจัง” เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นเต็มไปด้วยความเยือกเย็นและการเยาะเย้ยร่างกายของชายคนนี้ถูกเครื่องแต่งกายปกปิดไว้อย่างสนิท แม้ว่ามองจากเครื่องแต่งกาย จั๋วหยุนเฟิงจะมองไม่ออกว่าชายผู้นี้เป็นใคร แต่เมื่อเขามองดาบประจำตระกูลของเขาออก นั่นคือดาบประจำตระกูลของตระกูลเฟิงนอกจากนี้เขายังเห็นอักษรที่ถูกสลักไว้บนดาบของตระกูลอย่างชัดเจน - เหยียน“เจ้าคือ... เฟิงเหยียนหรือ”จั๋วหยุนเฟิงเป็นผู้ที่มีความภาคภูมิใจและหยิ่งผยองมาโดยตลอด ในอดีตเขาไม่ได้ให้ความสำคัญกับอัจฉริยะในเมืองหลวงอย่างจริงจัง แต่เขาก็เคยได้ยินชื่อของเฟิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 313

    เมื่อได้ยินคำพูดนี้ เฟิงเหยียนดันนิ้วหัวแม่มือของเขา และกระบี่เสวียนเหยียนก็ถูกปลดออกจากฝักทันใดนั้นแรงกดดันทางจิตวิญญาณมหาศาลแทบจะล้นหลามลงมาใส่ศีรษะของเขาสีหน้าของจั๋วหยุนเฟิงเปลี่ยนไปทันที เขามองดูชายลึกลับที่มีผ้าคลุมร่างกายอย่างสนิทอยู่ตรงหน้าเขาเฟิงเหยียนคนผู้นี้ จั๋วหยุนเฟิงตระหนักว่าเขาประเมินเขาต่ำไป หากเขาไม่ได้เปลืองพลังมากเกินไปในการต่อสู้กับจั๋วซือหราน ครั้งก่อน จนกระทั่งเขาต้องใช้พลังในหยกยุ่นหลิงของลัทธิเขาอาจจะยังสามารถต่อสู้กับซื่อจื่อของตระกูลเฟิงที่อยู่ตรงหน้าเขาได้ แต่ตอนนี้...จั๋วหยุนเฟิงไม่รู้ว่าตอนนี้เขาคิดมากเกินไป เพราะเขาไม่ทันสังเกตว่าในขณะนี้ เฟิงเหยียนแค่ผลักดาบประจำตระกูลออกจากฝักส่วนเดียว กระบี่เสวียนเหยียนของเขายังไม่ได้ถูกปลอกออกเลยด้วยซ้ำ มันก็มีพลังเช่นนี้อยู่แล้วเฟิงเหยียนถามอย่างใจเย็น “โอ้ หากข้ายืนกรานที่จะไม่ยให้พวกเขาอยู่ต่อล่ะ”สีหน้าของจั๋วหยุนเฟิงแย่มากทันที ก่อนหน้านี้เขาพูดอย่างเสียมารยาทมาก แต่ตอนนี้เขาไม่ตอบอะไรเลยแต่ในขณะนี้ เฟิงเหยียนก็สังเกตว่า มีบางอย่างกำลังผิดปกติภายใต้ม่าน ใบหน้าที่หล่อเหลาของชายคนนั้นขมวดคิ้วเล็

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 314

    ลางสังหรณ์ที่เป็นอันตรายนี้ทำให้เขาระมัดระวังอย่างมาก เขาต้องถือแต้มต่อไว้ในมืออวิ๋นเหนียง ซึ่งผู้ไร้ความสามารถ ถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยแต่เมื่อเขายื่นมือออก ไม่ต้องพูดถึงการสัมผัสอวิ๋นเหนียงเลย เขาแค่มีความคิดนี้อยู่ในใจและเพิ่งขยับข้อมือของเขาจากนั้นเขารู้สึกตาลายนั่นเป็นความรู้สึกที่ตัวเองถูกพลังอันมหาศาลหยิบขึ้นมาด้วยความเร็วที่รวดเร็วมากแล้วเหวี่ยงลงมาอีกครั้ง เหมือนมีคนถือถุงผ้าแล้วโยนมันลงพื้นแรง ๆและตอนนี้เขาก็คือถุงผ้านั่นอาการปวดหลังของเขารุนแรงมาก เพราะเขาถูกกระแทกกับพื้นอย่างแรง ราวกับว่าหลังของเขากำลังจะหักความรู้สึกหวานและคาวพุ่งพล่านในลำคอของเขา และเลือดก็พุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้จั๋วหยุนเฟิงลืมตาขึ้นด้วยความเจ็บปวดสาหัส และในที่สุดเขาก็มองเห็นผู้หญิงตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน มีรอยยิ้มอันอบอุ่นและเจตนาฆ่าบนใบหน้าเล็ก ๆ ที่สวยงามนั้นนางสร้างความตกใจให้กับผู้คนมากเกินไปตั้งแต่เมื่อก่อนมากเสียจนกระทั่งตอนนี้การเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันก็เกิดขึ้นต่อหน้าทุกคน แต่ทุกคนก็... ชินแล้วกระมังผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะมีความหวังตราบใดที่น

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 315

    หลังจากจั๋วซือหรานพูดจบ นางก็พาท่านแม่และน้องชายของเขาจากไปหลังจากเดินออกไปสองก้าว นางก็หยุดและหันไปมองชายที่ยืนอยู่ไม่ไกลนางถอนหายใจอย่างอธิบายไม่ถูกเสียงที่แต่เดิมรุนแรงมากเมื่อพูดกับจั๋วหยุนเฟิง ในขณะนี้เสียงของนางกลับเบาลงเล็กน้อย “ ท่านอ๋องไม่ไปกับข้าหรือ”เฟิงเหยียนหยุดเพียงสองวินาที จากนั้นเขาเดินมาหานางขณะที่จั๋วซือหรานก้าวเท้าเดินออกไปข้างนอก ฝูงชนเริ่มคุยกันเสียงดัง ๆพวกเขาไม่ได้ปิดบังความตกใจในน้ำเสียงของพวก“นั่นอะไรน่ะ”“ใต้าฝีเท้าของนาง... นั่นอะไรน่ะ”“โอ้พระเจ้า นั่นคือ... นั่นคือ...ไม่ใช่หรือ”“นางปลุกพลังสายเลือดแห่งตระกูลได้แล้วหรือ”เดิมทีผู้อาวุโสใหญ่ จั๋วหลานไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงมาสาย แต่ในขณะนี้ เขาเห็นอะไรที่อยู่ใต้เท้าของจั๋วซือหรานจั๋วหลานตกใจและเซกถอยหลังหนึ่งก้าว เขาแทบจะทรงตัวไม่ได้กี่ปี...กี่ปีแล้ว หลังจากพลังสายเลือดแห่งตระกูลหายไปแล้ว ตระกูลจั๋วเหมือนกับตระกูลอื่นๆ ที่สูญเสียพลังสายเลือดแห่งตระกูลจากนั้นเอกลักษณ์ของพลังวิเศษของสายเลือดตระกูลก็จะค่อย ๆ หายไป ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่ตระกูลจั๋วได้รปลุกพลังของวิญญาณไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 316

    ไม่ใช่ว่านางอ่อนแอขนาดนั้น เห็นได้ชัดว่ายังมีพลังเหลืออยู่ใน แหวนเสวียนเหยียนที่ตัวเองสามารถใช้ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะสูญเสียผลในขณะนั้นจนกระทั่งเฟิงเหยียนปรากฏตัว จนกระทั่งเฟิงเหยียนผลักด้ามดาบและฝักดาบ...จากนั้นดูเหมือนนางดูดซับพลังของเขา และจากนั้นดูเหมือนว่านางแปลงพลังของเขา ไม่ใช่ให้นางใช้เพียงผู้เดียวเท่านั้น... นี่คือสาเหตุที่จั๋วหยุนเฟิงรู้สึกเจ็บอันร้อนแรงจากการโจมตีของนางในก่อนหน้านี้นั่นไม่พลังของนาง แต่เป็นพลังที่ได้นางดูดจากเฟิงเหยียน แต่ยังไม่ทันแปลงเป็นพลังของตัวเองจากนั้น...พลังที่แปลกแต่เต็มไปด้วยพลังชีวิตค่อย ๆ หยั่งรากและงอกออกมาราวกับดอกตูมการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้จั๋วซือหรานรู้สึกมหัศจรรย์มาก และนางพยายามหาคำตอบว่า ทำไมนางเป็นเช่นนี้แม้ว่านางเข้าใจแล้วว่า การกระทำที่นางมีต่อเฟิงเหยียนเหมือนนางเก็บหยางจากเฟิงเหยียนและเติมหยินให้เฟิงเหยียน แต่เป็นไปได้อย่างไร... พลังวิเศษไฟกระตุ้นพลังทางจิตวิญญาณของไม้ ได้อย่างไรถึงจะกระตุ้นก็จริง แต่ก็ต้องไม้กระตุ้นให้เกิดไฟเกิดอะไรขึ้นกับนาง เปลวไฟเผาผลาญทุกสิ่งจนพังทลาย แต่กลับกลายเป็นปุ๋ย บางตัวที่มีชีวิตชีวาจะได้เกิดให

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 317

    "ฝืนตัว"เสียงทุ้มลึกของชายคนนั้นน่าดึงดูดมากและลอยเข้าหูของนางเสียงนั้นมีเสน่ห์และไพเราะมากโดยเฉพาะอาจเป็นเพราะสภาพร่างกายของเขารถม้าคันนี้ไม่มีหน้าต่าง และผ้าม่านก็หนาอย่างมาก และปังแสงได้อย่างดีขณะนี้รถมืดสนิทในความมืดมิดเช่นนี้ เสียงอันลึกล้ำของชายผู้นั้นดังก้องอยู่ข้างหูของนางจั๋วซือหรานรู้สึกริมฝีปากของนางแห้งเล็กน้อย"สรุปคือ...ข้าฝืนตัว" จั๋วซือหรานถอนหายใจเบา ๆ เนื่องจากเรื่องของก่อนหน้านี้ อาการของนางไม่ค่อยดีนัก แต่นางก็ยังพูดต่อ "หรือท่านอ๋อง... ฝืนตัว"เมื่อบุคคลหนึ่งพูดคุยกับบุคคลอื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อถามคำถามคนมักจะมองอีกฝ่ายหรือ หรือต้องเผชิญหน้าอีกฝ่ายโดยไม่รู้ตัวเสมอ แม้ว่าบุคคลนั้นต้องมองไม่เห็นในความมืด แต่คนคนนั้นก็ยังอยากหันไปทางเสียงของอีกฝ่ายด้วยนี่อาจเป็นสัญชาตญาณบางอย่างดังนั้นเมื่อจั๋วซือหรานถามคำถามนี้ นางก็หันหน้าไปทางด้านหลังในความมืด โดยไม่ได้ตั้งใจ นางรู้สึกริมฝีปากอันแห้งของนางสัมผัสถูกจุดที่นุ่มนวลและเย็นเล็กน้อยเมื่อมีสิ่งใดสัมผัสบนริมฝีปาก ผู้คนจะเลียริมฝีปากด้วยลิ้นโดยไม่รู้ตัวจั๋วซือหรานยื่นลิ้นออกและเลียริมฝีปากของเ

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1270

    แต่กลับรู้ตัวตนฐานะผู้ชายทรยศของเฟิงเหยียนได้ ไม่ต้องคิดเลยว่าคงเป็นจั๋วหวายพล่ามออกมาแน่"จั๋วหวายมาบอกเจ้าหรือ?" ปันอวิ๋นถามขึ้นคำหนึ่งจวงอี๋ไห่ พยักหน้าอย่างระมัดระวัง "คุณชายเสี่ยวหวายไม่หลอกข้าหรอก คุณชายเสี่ยวหวายบอกว่าเป็นผู้ชายทรยศ เช่นนั้นกว่าครึ่งก็ต้องเป็นผู้ชายทรยศแล้ว"ปันอวิ๋นถอนหายใจแผ่วเบาในห้อง จั๋วซือหรานนั่งลงข้างโต๊ะเฟิงเหยียนไม่พูดอะไร รินน้ำชาให้นางถ้วยหนึ่งจั๋วซือหรานกำถ้วยไว้ ใช้นิ้วมือลูบไล้ขอบถ้วยเบาๆ"อีกเดี๋ยวพออาหารส่งเข้ามา ก็กินสักหน่อยแล้วค่อยนอนพัก" เฟิงเหยียนเอ่ยขึ้นแต่ในน้ำเสียงแฝงไว้ด้วยความหนักแน่นที่ห้ามปฏิเสธจั๋วซือหรานแหงนตามองเขา กำลังจะบอกว่ายังไม่หิวก็เห็นริมฝีปากบางของชายคนนี้เม้มเบาๆ เอ่ยเสียงต่ำว่า "ข้าไม่มีสิทธิ์จะมาหารือกับเจ้าจริงๆ นั่นล่ะ..." สายตาเขาทอดลงไปที่ท้องน้อยนาง แววตาลึกซึ้งจากนั้นจึงเอ่ยต่อว่า "แต่การจะเตือนให้เจ้ากินอะไรดีดีก็ยังพอมีสิทธิ์อยู่" สายตาเขายกขึ้นมาจากท้องน้อยจั๋วซือหรานเลื่อนมาที่ดวงตานาง จ้องมองดวงตานาง เอ่ยต่อว่า "ถึงอย่างไรเมื่อครู่ก็เพิ่งช่วยเจ้ากลับมา ยิ่งไปกว่นั้นเรื่องถูกพลังศักดิ์สิท

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1269

    เขาไม่เพียงแต่ไม่ใช่สามีของนาง เขายังเป็นคู่หมั้นในนามของหญิงสาวคนอื่นอีกด้วยสีหน้าของเฟิงเหยียนแข็งทื่อไปแล้ว แต่ท้ายสุดก็ยังพูดอะไรไม่ออกเพราะในคำพูดจั๋วซือหราน ไม่มีส่วนที่ผิดเลยแม้แต่น้อยแม้จะบอกว่าเด็กคนนี้ ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเขาก็ตามแต่ครั้งก่อนหน้านั้น เป็นเพราะจั๋วซือหรานถูกวางแผนร้ายใส่ ถึงทำให้นางสับสนหลงใหลจนมีสัมพันธ์กับเขาถ้าจะบอกว่า เขาเอาเปรียบหญิงสาวไป ก็ไมไ่ด้พูดเกินเลยนักเอาเปรียบหญิงสาว จนทำนางตั้งท้อง ไม่เคยจะมารับผิดชอบอะไรตอนนี้กลับจะมาชี้มือชี้ไม้เรื่องของนางพอสรุปมาแบบนี้ มันก็ช่าง...แย่มากจริงๆเฟิงเหยียนเองก็รู้ว่าตนเองนั้นแย่มาก พูดอะไรออกมาไม่ได้ไปชั่วขณะปันอวิ๋นรู้สึกกระอักกระอ่วนแทนสหายเก่า เขากระแอมออกมาเบาๆ ทีหนึ่ง ไกล่เกลี่ยขึ้นว่า "เอาล่ะเอาล่ะ..."เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรพูดอะไร ถึงอย่างไร ทั้งสองคนตอนนี้จะไม่ได้เป็นคู่รัก แต่ความสัมพันธ์แบบนี้...มันก็ดูคลุมเครือ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ นี่มันช่าง...ดังนั้นปันอวิ๋นเลยเปิดประเด็นขึ้น อึกอักในปากอยู่พักหนึ่ง กว่าจะพูดออกมาได้ "...พวกเจ้าหิวหรือยัง? ให้เหล่าจวนทำอะไรให้กินหน่อยดีไหม?"

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status