Share

บทที่ 359

Author: หูเทียนเสี่ยว
เมื่อจั๋วซือหรานมาถึงหอหลวง จั๋วหวายกำลังยืนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่นอกห้องเรียน เขากำลังยกมือขึ้นสูงเพื่อไตร่ตรอง

ใบหน้าของเขายังคงมีรอยฟกช้ำอยู่บ้าง แต่สีหน้าของเขาไม่มีความน้อใจใด ๆ

ในทางกลับกัน ในห้องเรียนด้านข้าง ใบหน้าของลูกหลานของราชวงศ์และขุนนางหลายคนช้ำและบวม น่าสังเวชมากกว่าของจั๋วหวายหลายเท่า

ชิ่งหมิงยืนอยู่ข้าง ๆ จั๋วหวาย คิ้วอันบอบบางของเขาขมวดแน่น เขาถามด้วยเสียงต่ำ " เสี่ยวหวาย ทำไมเจ้าไม่ให้ข้า... ลงมือจัดการพวกเขา"

จั๋วหวายยิ้มแม้จะมีรอยช้ำเล็กน้อยบนใบหน้าก็ตาม

" ชิ่งหมิง เจ้าต่อสู้เก่ง หากเจ้าลงมือจัดการพวกเขา พวกเขาต้องรับบาดเจ็บสาหัส แล้วเราจะไม่เป็นฝ่ายที่ถูกต้อง นอกจากนี้ ตัวตนภายนอกของเจ้าในปัจจุบันยังเป็นเด็กรับใช้เมื่อคุณชายเรียนหนังสือ หากเด็กรับใช้อลงมือและทำร้ายพวกเขา จะถือเป็นล่วงเกินตัว สถานการณ์ของเราคงจะลำบากกว่าตอนนี้อีกขอรับ”

“แต่ตข้าสู้กับพวกเขา จะเป็นคนละเรื่อง อย่างมากก็เป็นแค่ความขัดแย้งระหว่างเพื่อนร่วมชั้น ประการแรก คำพูดของพวกเขาไม่เป็นที่พอใจ อีกอย่าง พวดเราแค่ใช้หมัดกัน จะชนะหรือแพ้ มันไม่สำคัญ และข้ามองออก พวกเขาสู้ข้าไม่ได้หรอก”

“เชอะ พวกเขา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 360

    ชิ่งหมิงรีบรับกล่องอาหารไว้จั๋วซือหรานพูดว่า "ข้าเอาอาหารกลางวันมาให้"ดวงตาของจั๋วหวายสว่างขึ้น“ข้าก็ไม่ได้หวังใเจ้าตั้งใจเรียนหรอก แต่เจ้าสร้างปัญหาในวันแรก…” จั๋วซือหรานมองไปที่จั๋วหวายด้วยรอยยิ้มจาง ๆจั๋วหวายทำหน้าบูดบึ้งและพูดอย่างเสียใจว่า "พวกเขาพูดจารุนแรงมาก และเอาแต่พูดเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับท่านพี่ ข้าโกรธมาก เลยจัดการพวกเขา พวกเขาด่าข้า ข้าไม่เป็นไร แต่ทำไมพวกเขาต้องว่าท่านพี่ด้วยล่ะ ท่านพี่มีอะไรที่ด้อยกว่าพวกเขาหรือ ท่านพี่มีอะไรที่ด้อยกว่าทุกคนหรือ”เมื่อเห็นท่าจริงจังของน้องชาย จั๋วซือหรานก็โค้งริมฝีปากแล้วยิ้ม "แต่ในเมื่อเจ้าชนะแล้ว ข้าก็จะไม่ลงโทษเจ้า แต่ทำไมเจ้าถึงต้องยืนอยู่ที่นี่"จั๋วหวายกล่าวว่า "ครูสั่งลงโทษข้า ให้ข้ายืนอยู่ที่นี่"“เจ้าถูกลงโทษคนเดียวหรือ” จั๋วซือหรานเลิกคิ้ว “คนพวกนั้นไม่ได้ลงมือหรือ”“พวกเขาลงมือด้วยขอรับ แต่ข้ายอมรับการลงโทษของครู เพราะพวกเขาถูกข้าตีอย่างรุนแรง” จั๋วหวายกล่าวเมื่อได้ยินคำพูดของน้องชาย จั๋วซือหรานก็เดินไปที่ห้องเรียนใบหน้าของเหล่าลูกหลานของตระกูลขุนนางเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เมื่อพวกเขาเห็นนางเดินเข้ามาอย่างอารมณ์ดี พ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 361

    จั๋วซือหรานกล่าว "เพราะน้องชายของข้าตีอพวกเจ้าย่างหนัก ข้าไม่อยากเห็นเขาถูกครูสั่งยืนอยู่ข้างนอกต่อ ข้าเลยมารักษาอาการบาดเจ็บของพวกเจ้า"ทุกคนได้ยินเพียงเสียงที่ชัดเจนของนาง ซึ่งไพเราะมาก จากนั้นพวกคนที่ถูกจั๋วหวายโจมตีอย่างหนักถูกจั๋วซือหรานจับข้อมือไว้ภายในไม่กี่ลมหายใจ รอยฟกช้ำบนใบหน้าของพวกเขาก็บรรเทาลงอย่างรวดเร็วทุกคนตกตะลึง พวกเขาจึงเชื่อข่าวลือนั้นเป็นเรื่องจริง และทักษะทางการแพทย์ของนางเยี่ยมมากจริง ๆ ทักษะทางการแพทย์ของนางเยี่ยมกว่าตระกูลเหยียน เสียอีกหลังจากจั๋วซือหรานรักษารอยฟกช้ำของพวกเขาแล้ว รอยยิ้มบนใบหน้าของนางยังคงลอยอยู่ที่มุมตาและคิ้วของนาง และนางพูดอย่างไม่จริงจัง "ข้ารักษาอาการบาดเจ็บของพวกเจ้าให้หายแล้ว นี่ถือว่าเป็นการสาธิตนะ"“สา สาธิตหรือ สาธิตอะไร” มีคนสับสน คนคนนั้นยกมือขึ้นและสัมผัสบริเวณที่เคยมีรอยช้ำบนใบหน้านั้น ตอนนี้รอยฟอกช้ำนั้นหายดีแล้วคนคนนั้นรู้สึกมหัศจรรย์มาก เขาเงยหน้าขึ้นและมองจั๋วซือหรานจากนั้นเขาเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของจั๋วซือหรานหายไปเหลือเพียงสีหน้าที่ไร้ความอบอุ่น "สาธิต...หากพวกเจ้ายังพูดจาไม่ดีอรก หากพวกเจ้าถูกโจมตีจนมือเท้าหัก

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 362

    จั๋วหวายตอบว่า "ตอนที่ข้ามา ข้าเห็นแค่พวกนี้ น่าจะยังมีคนอื่น ก่อนหน้านี้ ข้าได้ยินพวกเขาพูดคุยกัน พวกเขาพูดว่าเมื่อก่อนองค์ชายและองค์หญิงมาเรียนด้วย แต่ วันนี้เป็นวันที่หนึ่งตามปฏิทินจันทร์รักคติ องค์ชายและองค์หญิงต้องไปขอพรที่ห้องโถงบรรพบุรุษ ท่านจึงไม่ได้มาเรียนขอรับ"จั๋วซือหรานพยักหน้าอย่างชัดเจนหลังจากได้ยินคำพูดของน้องชาย "เป็นอย่างนี้นี่เอง เอาล่ะ ข้าจะกลับแล้ว เจ้าอย่าตื้อละกัน ตั้งใจเรียน พี่ให้เจ้ามาเรียนที่นี่ หากเจ้ามีแต่ถูกสั่งยืนอยู่ข้างนอก ไม่ได้เรียนอะไรเลย เจ้ากลับไปปลูกมันที่บ้านละกัน "จั๋วหวายไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงถามอย่างฝืนใจ "ท่านพี่ขอรับ แต่... หากพวกเขายังรังแกข้าล่ะ"จั๋วหวายยอมฟังทุกคำพูดของท่านพี่ หากท่านพี่ให้เขาอดทน เขาก็จะอดทนให้ได้เขารอคำตอบของท่านพี่ แล้วเขาก็เห็นใบหน้าอันสวยงามของท่านพี่ขมวดคิ้วอย่างหนัก ท่านพี่พูดอย่างโกรธ ๆ "ต่อยกลับเลย หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ไม่ต้องเรียนหนังสือที่นี่แล้ว เรียนทำไม สอนคนนินทาผู้อื่นเบื้องหลังอย่างเดียว แม้ว่าเจ้าอยากเรียนที่นี่ ข้ายังกลัวสอนเจ้าไม่ดีเลย"ทันทีที่จั๋วซือห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 363

    เมื่อสังเกตเฟิงเหยียนกำลังหลบสายตาของตัวเอง จั๋วซือหรานกระพริบตาและหัวเราะเฟิงเหยียนวางหมัดบนริมฝีปากและไอเบา ๆ “จวนของเจ้าไม่มียามเฝ้าประตูหน้าบ้านเลย ข้าแอบเข้าบ้านของเจ้าในยามมือที่ไหนล่ะ แม้ว่าข้าจะแอบเข้าบ้านของเจ้าในยามกลางคืน แต่ก็เป็นเพียงว่าเจ้าทำก่อน ข้าทำตามเจ้าแค่นั้นเอง”จั๋วซือหรานเลิกคิ้วเมื่อได้ยินคำพูดนี้ นางยิ้มและพูด "ใช่ ๆ เป็นเพราะข้าเริ่มทำไม่ดีก่อนเจ้าค่ะ"นางรู้สึกท่านอ๋องหนุ่มคนนี้ค่อนข้างสนุก ดังนั้นนางจึงปพูดตามคำพูดของเขา“เพียงท่านอ๋องบอกว่าจวนของข้าไม่มีคนเฝ้าประตู ข้าไม่เห็นด้วยนะ” จั๋วซือหรานพูดและตะโกนไปทางประตู "คนมานี่"ฉวนคูนรปากฏตัวอย่างรวดเร็ว "คุณหนูขอรับ" จากนั้นเขาก็มองชายหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ข้าง ๆ "ท่านเขยขอรับ ท่าน... มีคำสั่งอะไรขอรับ"เฟิงเหยียนไม่มีคำสั่งใด ๆ และเดิมทีเขาไม่มีความรู้สึกอะไรเลย แต่เมื่อเขาได้ยินฉวนคูนเรียกเขาเช่นนั้น ม่านตาอันลึกของเขาก็สั่นไหวราวกับประกายไฟจั๋วซือหรานขี้เกียจแก้ไขคำเรียกของเขา นางแค่พูดว่า "ไม่มีอะไร ท่านอ๋องบอกว่าที่บ้านไม่มีคนเฝ้าประตู ข้าเลยให้เจ้ามาแสดงตัวหน่อย"จั๋วซือหรานชี้ฉวนคูน นางพูดกับเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 364

    เมื่อก่อนพลังวิเศษของนางอบอุ่นและนุ่มนวลตามความรู้สึก แต่ความเป็นจริง ความอบอุ่นนั้นมีความรู้สึกเย็น ระบบเส้นลมปราณกล้ามเนื้อและแขนขาของเขาถูกพลังวิเศษของตัวเองเผา พลังวิเศษอันอบอุ่นและนุ่มนวลนั้นสามารถทำให้เขารู้สึกสบายตัวเหมือนหลังจากเขาถูกพลังวิเศษเผา มีคนทายาน้ำค้างหยกให้ ซึ่งทำให้เขารู้สึกเย็นและชื่นใจแต่ความรู้สึกที่เกิดจากพลังวิเศษของนางครอบคลุมมาก ราวกับว่า ระบบเส้นลมปราณ กล้ามเนื้อ แขนขา และกระดูกทั้งหมดของเขาถูกเคลือบด้วยยาน้ำค้างหยกเป็นเพราะความรู้สึกนี้เองที่ทำให้เฟิงเหยียนรู้สึกสบายใจ เหมือนตราบที่เขาอยู่กับนาง เขาก็รู้สึกสงบจิตอย่างมากแต่ตอนนี้ เฟิงเหยียนสามารถตรวจจับได้ชัดเจนว่าไม่เพียงแต่พลังวิเศษของนางไม่เพียงแต่มีความอบอุ่นและความนุ่มนวล แต่ยังรวมถึงความรู้สึกอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็น... พลังชีวิตอันทรงพลังเฟิงเหยียน ลดสายตาลงและมองนิ้วสีขาวและบาง ๆ ของนางที่อยู่บนข้อมือของเขาแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ข้ายังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเจ้าได้ปลุกพลังวิเศษ แห่งกำเนิดของตระกูลจั๋วแล้วจริง ๆ "“ใช่ วิญญาณไม้ ” จั๋วซือหรานหันมามองเขา “ข้าไม่เห็นมีอะไรพิเศษใด ๆ เลย ข

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 365

    จั๋วซือหรานไม่รู้ว่าเป็นภาพลวงตาหรือไม่ แต่นางมั่นใจว่านางไม่พบคำตำหนิหรืออารมณ์เชิงลบใด ๆ ในน้ำเสียงของเฟิงเหยียนน้ำเสียงของเขาสงบเช่นเคย แต่ดูเหมือนเขา...วางใจอย่างมากจั๋วซือหรานไม่แน่ใจ นางจึงถาม " ท่านอ๋อง... คงไม่ได้กำลังห่วงข้าถูกตระกูลเหยียนเอาเปรียบหรอกนะ"เรียกข้าว่า ท่านอ๋อง เฟิงเหยียนคิดในใจ แสดงว่านางอารมณ์ดีเฟิงเหยียนเหลือบมองนาง "ข้าห่วงเจ้าถูกเอาเปรียบ ไม่ปกติหรือ"นั่นเป็นเรื่องปกติหรือ จั๋วซือหรานคิดสองสามวินาที นางคิดในใจ หากพูดว่ามันปกติ มันก็เป็นเรื่องปกติ เพราะนางสามารถรักษาเขาได้เมื่อคิดถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็จับข้อมือของเขาไว้และค่อย ๆ ส่งพลังวิเศษเข้าสู่ระบบเส้นลมปราณของเขาเพราะต้องทำท่านี้ตลอด ห้ามหยุดกลางทางดังนั้นกิริยาของคนสองคนนี้ดูเหมือนกำลังจูงมือและเดินเล่นหลังจากพวกเขาเดินมาได้ระยะหนึ่งเฟิงเหยียนกล่าวอย่างใจเย็น “ วิญญาณไม้แตกต่างจากวิญญาณไฟ วิญญาณไม้โจมตีไม่เก่ง แต่มีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง และเก่งในการรักษาและรักษาตัวเอง”จั๋วซือหรานคิด "ทำนาดีกว่า"อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการรักษาและความสามารถในการรักษาตนเองของนางไม่ได้แย่นัก นี่ไม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 366

    เดิมทีจั๋วซือหรานยังคิดอยู่ว่านางพูดตรงเกินไปหรือเปล่า แม้ว่าคำพูดของนางยังไม่ทำให้ชายคนนั้นโกรธ แต่อย่างน้อยคำพูดของนางก็ส่งผลต่ออารมณ์ของเขาดังนั้นคนที่เงียบขรึมอยู่แล้วจึงเงียบมากขึ้นในขณะที่จั๋วซือหรานรู้สึกว่าท่านอ๋องอาจจะโกรธมาก และเขาจะไม่คุยกับนางอีกแล้ว นางก็คิดอยู่ว่านางควรจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อเกลี้ยกล่อมเขาหรือไม่มันเป็นไปไม่ได้หรอกที่จะให้นางเกลี้ยกล่อมศัตรู นางยอมตายมากกว่าแต่การเกลี้ยกล่อมเฟิงเหยียน...พูดตามตรง จั๋วซือหรานรู้สึกว่านางต้องไม่ใช่ข้อยกเว้น นางรู้สึกว่าตราบใดที่นางเห็นใบหน้าของเฟิงเหยียน และได้ยินเสียงของเขา ตราบใดที่เขาไม่ได้โกรธเกินไป นางก็จะทำตัวไม่สนใจได้ดังนั้นเมื่อมองใบหน้าของเขา จั๋วซือหรานสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้โดยไม่รู้สึกคับข้องใจใด ๆ เลยบางครั้งความหล่อเหลาของใบหน้าก็ไร้ยางอายมากเมื่อจั๋วซือหรานกำลังจะพูดอะไรเพื่อเกลี้ยกล่อมเขา"เจ้า..."ก่อนที่นางจะพูดได้ เฟิงเหยียนก็พูดด้วยว่า "เจ้าไม่เหมือนข้า คุณลักษณะของพลังวิเศษของตระกูลจั๋วแตกต่างจากพลังวิเศษของตระกูลเฟิง และคุณลักษณะของพลังวิเศษโดยกำเนิดของตระกูลนั้นก็แตกต่างจากพลังศักดิ์

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 367

    ปกติเฟิงเหยียนมักจะเป็นคนเงียบขรึม ดังนั้นเมื่อบุคคลเช่นนี้เริ่มพูดอย่างจริงจังซึ่งจะทำให้ผู้อื่นตั้งใจรับฟังเพราะหาได้ยากจริง ๆ ที่เขาพูดด้วยความจริงจังจั๋วซือหรานเริ่มจริงจังโดยไม่รู้ตัวนางฟังเสียงที่น่าดึงดูดใจของชายผู้นี้ เสียงนี้ช่างหอมหวนและมีเสน่ห์ ราวกับสุหร่าชั้นเลิศ เมื่อจับคู่กับดวงตาของเขาที่ลึกซึ้งและน่าดึงดูดยิ่งขึ้นในตอนกลางคืน“...จริง ๆ แล้วสิ่งที่เจ้าพูดในก่อนหน้านี้ว่า ปลูกพืช พืชเติบโตได้เร็วขึ้นนั้นจริง ๆ ความจริงนี่ขึ้นอยู่กับพลังชีวิตอันแข็งแกร่งของวิญญาณไม้เช่นกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นในพืช แต่เนื่องจากความใกล้ชิดของสิ่งมีชีวิตนั้นได้สะท้อนให้เห็นในสัตว์จริง ๆ เช่นกัน”หลังจากได้ยินคำพูดนี้ จั๋วซือหรานเริ่มเกิดความสนใจ นางถาม " ท่านอ๋องหมายถึง การควบคุมสัตว์ประหลาดเช่นนั้นหรือ แต่นั่นเป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวของตระกูลซางไม่ใช่หรือ""ใครกำหนดว่ามีเพียงตระกูลซางเท่านั้นที่สามารถควบคุมสัตว์ประหลาดได้... " หลังจากเฟิงเหยียนพูดจบ เขาก็ผิวปากเบา ๆ ซึ่งได้ยินอย่างชัดเจนในคืนที่เงียบสงบเดิมทีจั๋วซือหรานไม่ได้สังเกตถึงอะไรเลย แต่นางทราบดี เฟิงเหยียนจะไม่ทำอะไรที

Latest chapter

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1279

    พอได้ยินคำนี้ของจั๋วหวาย สีหน้าจั๋วซือหรานก็ชะงักไปพอนึกถึงจั๋วเฮ่ออิงที่สีหน้าเปลี่ยนแล้วรีบร้อนออกไปวันนั้นนางรู้สึกว่าการคาดเดาของเสี่ยวหวาย...ดูสมเหตุสมผลดียังไม่ต้องพูดถึงว่าจั๋วเฮ่ออิงไปหาเซี่ยอวิ๋นซี แล้วจะมีผลลัพธ์อย่างไรจั๋วซือหรานแม้จะไม่ใช่เจ้าของร่างเดิม แต่ก็มีความรู้สึกรักอย่างจริงใจต่อเซี่ยอวิ๋นซีด้วยความเข้าใจต่อตัวเซี่ยอวิ๋นซีของนาง จั๋วซือหรานรู้สึกว่า เซี่ยอวิ๋นซีเป็นคนที่อ่อนนอกแข็งในการที่นางสามารถเลี้ยงลูกสองคนจนโตได้เพียงลำพังก็มองออกได้ไม่ยากคนแบบนี้ ในสถานการณ์ปกติขีดจำกัดจะชัดเจนมากนางจะอ่อนโยนกับคนของตนเอง แต่มีนิสัยที่แข็งกร้าวในสายตาไม่อาจทนเห็นสิ่งไม่ดีได้ ยอมหักแต่ไม่ยอมงอตอนที่นางรักจั๋วเฮ่ออิงก็คือรักจริงๆ ถ้าหากไม่มีลูกน้อยสองคนคอยรั้งนางไว้ นางคงฆ่าตัวตายตามจั๋วเฮ่ออิงไปตั้งแต่ตอนรู้ว่าเขาตายแล้วแต่พอมีตัวตนอย่างสุ่ยจิ้งหลาน เซี่ยอวิ๋นซีก็ไม่แน่ว่าจะอดทนต่อจั๋วเฮ่ออิงได้อีกตอนที่ไม่รัก ก็อาจจะไม่รักได้จริงๆแต่แล้วทำไมล่ะ แค่จั๋วเฮ่ออิงไปบอกเรื่องของนาง ด้วยนิสัยของเซี่ยอวิ๋นซี ต่อให้ฟ้าถล่มก็คงจะรีบมาหาอยู่ดีจั๋วซือหรานถอนห

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1278

    ตอนนี้ จั๋วซือหรานเห็นหน้าตนเองในน้ำได้เห็นสภาพของตนเองชัดๆ ดีขึ้นมากแล้วจริงๆแต่นางยังรู้สึกได้อย่างชัดเจน ว่าสภาพของตนเองก็กำลังแย่ลงอย่างรวดเร็วดังนั้น ตนเองตอนนี้...อยู่ห่างจากชายคนนั้นไม่ได้จริงๆถ้าแค่ห่างจากชายคนนั้น ตนเองก็อาจจะทนต่อไปไม่ไหว แล้วกลับไปอยู่ในสภาพก่อนหน้านี้อีก นั่นมันอันตรายเอามากๆส่วนตนเองถ้าหากยังตามชายคนนี้อยู่ตลอดล่ะก็...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว ในใจก็อดคิดไม่ได้ ตอนนี้ตนเองอย่างน้อยยังพอทนไหว ไม่ต้องตัวติดกับเขาตลอดเวลาก็ได้แต่...นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นนะจั๋วซือหรานเป็นคนที่เตรียมพร้อมล่วงหน้าอยู่เสมอ นางยกมือขึ้นลูบท้องน้อยเบาๆในใจยังคิดขึ้นอย่างกังวล ถ้าหากอายุครรภ์มากขึ้น สถานการณ์แบบนี้ก็น่าจะยิ่งรุนแรงขึ้นด้วยถึงตอนนั้นหากตนเองต้องอยู่กับเขาตลอดเวลาถึงจะรักษาสภาพให้คงที่ได้ล่ะ?ถ้าตนเองเป็นอย่างที่เขาบอกล่ะ ที่ว่าต้องการแสงแดดแล้วในเวลากลางวันแบบนั้น...คนนึงต้องการแสงแดด แต่อีกคนกลับถูกแสงแดดทำร้ายสถานการณ์แบบนี้ มันเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริงๆนางผ่อนคลายลงหน่อย แต่เขากลับทรมานขึ้นมาถ้าพอนางทรมาน เขาถึงจะผ่อนคลายลงมาได

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1277

    ขณะที่ตระหนักถึงจุดนี้ จั๋วซือหรานก็ตระหนักได้ถึงอีกจุดหนึ่งถ้าบอกว่า ตนเองหลังจากนี้อยู่ห่างเขาไม่ได้ แต่หลังจากนี้ยังต้องการแสงแดดล่ะก็เช่นนั้นก็เท่ากับว่า...นางมองชายหนุ่มที่โผล่หัวออกมาจากผ้าห่ม เห็นอักขระคำสาปประหลาดบนหน้าตาคนสมองทื่อนี้ ปรากฏขึ้นมาต่อเนื่อง หายไป แล้วก็โผล่ออกมารักษาแผลไฟไหม้...จั๋วซือหรานจึงเดินเข้าไปสองก้าวอย่างอดไม่อยู่ พอมาถึงตรงหน้าเขา ก็ยกมือขึ้นมาเบาๆเขาไม่ขยับ จ้องมองนางนิ่งจั๋วซือหรานแตะลงไปบนหน้าเขาเบาๆ ราวกับว่าแค่สัมผัสเพียงเล็กน้อยเท่านั้นนางขมวดคิ้วแน่นเขามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานนิ่งงันไปครู่หนึ่ง จึงเอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "พลังวิญญาณของข้า ช่วยอะไรท่านไม่ได้แล้วหรือ"น่าจะเพราะตนเองตั้งท้องจนงงๆ ไปแล้วจริงๆ หรืออาจเป็นเพราะไม่พอใจเจ้าคนสมองมีปัญหาตรงหน้านี้ ดังนั้นจึงไม่ได้สนใจอะไรมากกระทั่งถึงตอนนี้ จั๋วซือหรานจึงเพิ่งรู้สึกตัวพลังของตนเองก่อนหน้านี้ ทั้งๆ ที่สามารถบรรเทาอาการทำร้ายตนเองของเฟิงเหยียนได้แท้ๆ แล้วยังทำให้เขาต้านทานแสงแดดได้ระดับหนึ่งอีกด้วยแต่ตอนนี้ทำไมเหมือน...มันไม่มีประโยชน์แล้วล่ะ?ทว่าเฟิงเหยียน ดูเหมือนจะ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1276

    ขณะที่จั๋วซือหรานขมวดคิ้วคิดว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ทำไมถึงมุดเข้ามาด้วยกัน...กับเขาในผ้าห่มที่มืดสนิทนี้ ก็ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มๆ ดังขึ้นเสียงหัวเราะทุ้มต่ำ ในผ้าห่มมืดๆ ภายใต้ระยะใกล้ชิดที่แทบจะเบียดกันของคนทั้งสองนี้ จึงยิ่งชัดเจนเป็นพิเศษ...กระทั่งความหยาบกร้านแหบพร่าเล็กๆ ในน้ำเสียง ก็ยังชัดเจน ชัดเจนเอามากๆ!ยิ่งไปกว่านั้น เพราะความใกล้ชิดมากๆ ยังมีกระแสลมแผ่วๆ ที่เหมือนจะพัดผ่านข้างหูนางไปเหมือนกับแม้กระทั่งตอนที่เขาหัวเราะเสียงทุ้ม การสั่นสะเทือนของทรวงอก ตนเองก็ยังสัมผัสได้อย่างชัดเจนด้วย!จั๋วซือหรานกัดริมฝีปากเบาๆจึงได้ยินเสียงของตาคนสมองทื่อ ยังคงเป็นเส้นเสียงหยาบๆ ที่ชวนหลงใหลนั่นอยู่บอกกับนางว่า "นี่เจ้ากำลัง...เชื้อเชิญข้าหรือ?"จั๋วซือหรานเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝันที่อยู่กับคนรัก ถือว่าถูกกวนให้ตื่นก็ได้ มีอารมณ์ขุ่นเคืองอยู่บ้างก็เรื่องปกติดังนั้นนางจึงไม่มีเวลามาปรับอารมณ์กับตาคนสมองทื่อนี่จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "ข้าควรจะมองท่านถูกเผาตายทั้งเป็นไปซะ"ตาสมองทื่อนี่ก็ไม่รู้ทำไมผ่านไปคืนนึงนิสัยก็เปลี่ยนไป จู่ๆ อารมณ์ก็ดีขึ้นมาเสียอย่างนั้นบางทีคงเพร

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1275

    จั๋วซือหรานได้ยินอารมณ์เจ็บปวดจากในน้ำเสียงเขา และได้ยินถึงอารมณ์เสียใจด้วยอันที่จริงสำหรับสำหรับอาการข้าหึงตัวข้าเองที่แปลกใหม่นี้ จั๋วซือหรานก็รู้สึกจนใจอยู่หน่อยๆ แล้วยังดูน่าขำอีกด้วยผลลัพธ์คือพอแหงนตามอง สีหน้ารอยยิ้มบนหน้าจั๋วซือหรานเหล่านั้น ก็แข็งทื่อไปทันทีอารมณ์ที่เรียกว่าความกังวล ก่อตัวขึ้นมาในดวงตามิน่าในน้ำเสียงเขาถึงมีความเจ็บปวดอยู่ตอนนี้ อักขระคำสาปปรากฏขึ้นบนตัวเขาแล้ว แสดงรูปลักษณ์ที่ประหลาดออกมา"นี่คือ..." จั๋วซือหรานยกมือมากำข้อมือเขาแต่นี่ไม่ใช่ความจริง เป็นแค่เขตแดนจิตใต้สำนึกบางอย่าง เป็นแค่ในความฝันเท่านั้น แน่นอนว่าจับชีพจรเขาไม่ได้"ไม่เป็นไร" บนสีหน้าชายหนุ่มแม้จะเต็มไปด้วยอักขระคำสาปประหลาด สายตาที่ก้มลงมามองนางกลับดูอบอุ่น "ไม่เป็นไร"เหมือนกลัวว่านางจะกังวล เขาจึงบอกว่าไม่เป็นไรขึ้นมาอีกครั้งจั๋วซือหรานตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง ขมวดคิ้วขึ้นมานิ้วโป้งของชายหนุ่มกดลงเบาๆ ที่หว่างคิ้วนาง นวดๆ เหมือนติดจะนวดคลายสีหน้าอารมณ์ที่ยุ่งเหยิงเหล่านั้นออก"พักผ่อนให้ดี กินข้าวให้ดีด้วย" เขาเอ่ยขึ้นจั๋วซือหรานเบ้ปากเบาๆ เหลือบมองเขา "ถ้าหากเจ้าส

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1274

    จั๋วซือหรานไม่ส่งเสียง ครู่เดียว จึงถอนใจเบาๆ เอ่ยขึ้นว่า "อันที่จริง ข้าเองก็ไม่ได้ยืนหยัดขนาดนั้น แค่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาจนตรอกจริงๆ ข้าก็ยังไม่อยากละทิ้งทั้งที่ยังไม่ได้ลอง"เฟิงเหยียนกอดนาง ในสีหน้ามีความเจ็บปวดเสียงยิ่งแหบพร่า เอ่ยขึ้นว่า "ข้าไม่อยากให้เจ้าต้องมาเหยียบซ้ำรอยมารดาของข้า และข้าก็ไม่อยากให้ลูกของเราเติบโตมาเป็นเหมือนข้าด้วย หากเรื่องนี้ ไม่มีวิธีอื่นแก้ไขได้นอกจากปล่อยให้มีฝันร้ายแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ...ข้าก็หวังให้ฝันร้ายนี้หยุดลงที่ตัวข้าพอ"เสียงของชายหนุ่มแหบพร่ามาก ในน้ำเสียง...ก็มีความสิ้นหวังที่ปิดไว้ไม่มิดอยู่ ทิ่มแทงเข้ามาที่ใจของจั๋วซือหรานต้องเป็นแบบไหนกันนะ...ถึงบีบคั้นให้คนดีๆ ที่หยิ่งทะนงและยอดเยี่ยมคนหนึ่งตกอยู่ในสภาพนี้...ราวกับสัตว์ที่ถูกกักขังไว้จั๋วซือหรานมองเขา ครู่ต่อมา ก็ถอนหายใจเบาๆเอ่ยขึ้นว่า "จริงๆ แล้ว...เดิมทีข้าเองก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ การวางแผนและความคิดของข้าจึงไม่ได้เล่าใด้คนอื่นฟัง"เฟิงเหยียนไม่พูดอะไร แค่แหงนตามองนางเงียบๆจั๋วซือหรานยิ้มๆ "ข้ารู้สึกจริงๆ ว่าไม่แน่ข้าอาจมีวิธี แม้ตอนนี้ข้ายังพูดถึงเหตุผลออกมาให้ชัดเจนไม่ได้ แต

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1273

    แม้จะบอกว่าเป็นความฝัน แต่อันที่จริงจั๋วซือหรานก็ค่อยๆ เข้าใจแล้ว ว่าเพราะอะไรหลังจากฝันถึงเขาครั้งที่แล้วจนมาถึงครั้งนี้ นานมากแล้วที่ไม่ได้ฝันถึงเขาอีกพอมาคิดอย่างละเอียด เหมือนว่าตอนฝันถึงเขาครั้งที่แล้ว จะเป็นหลังจากที่นางมีสัมพันธ์ทางกายกับเขาดังนั้นจั๋วซือหรานจึงค่อยๆ เข้าใจ บางทีน่าจะเป็นเพราะสาเหตุนี้การดูดหยางบำรุงหยินของนางก็ดูดซับมาจนพอเข้าใจแล้ว เหมือนว่าพอดูดซับมาถึงระดับหนึ่ง ก็จะเกิด...ถ้าจะพูดว่าเป็นความฝัน สู้บอกว่าเป็นการสื่อสารทางจิตใต้สำนึกกับความทรงจำของเฟิงเหยียนส่วนที่ถูกผนึกไปจะดีกว่า?และไม่ว่าจะ 'ความฝัน' ครั้งที่แล้ว หรือว่าครั้งนี้ก็มองออกได้ไม่ยากเฟิงเหยียนน่าจะเข้าใจต่อสถานการณ์อยู่ ดังนั้นบางทีจิตใต้สำนึกเขายังคงอยู่มาตลอด เพียงแต่ถูกสมองทื่อๆ นี่กดเอาไว้ หรือบางทีคงถูกสภาผู้อาวุโสลงมือสะกดเอาไว้ไม่แน่ว่า อาจจะต้องมีชนวนเหตุบางอย่าง ถึงจะสามารถปลุกขึ้นมาได้จั๋วซือหรานอยากจะรู้ชนวนเหตุนั้นว่าคืออะไรกันแน่"ต้องทำยังไงเจ้าถึงจะดีขึ้นมา?" จั๋วซือหรานถามแต่เฟิงเหยียนกลับเหมือนจะจำจุดสำคัญนั้นไม่ได้แล้ว ขมวดคิ้ว สีหน้าดูเหมือนขมขื่น เหมือนว

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1272

    ในห้วงฝันนางมองมือตัวเอง สับสนไปหมดทั้งตัว เหมือนยังตั้งตัวกลับมาไม่ได้เพราะนางถ้าไม่หลับลึก ก็จะเอาจิตใต้สำนึกส่งเข้าไปในมิติ จึงฝันน้อยครั้งมากดังนั้นตอนที่ดำดิ่งสู่ห้วงฝัน นางยังรู้สึกไม่คุ้นอยู่หน่อยๆ มองมือตนเอง รู้สึกไม่คอ่ยเป็นจริงสักเท่าไรวินาทีต่อมา มือข้างหนึ่งก็ทาบมาบนมือของนางมือข้างนั้น ข้อต่อกระดูกชัดเจน นิ้วเรียวยาว เล็บตัดมาดูสะอาดสะอ้าน ผิวหนังขาวซีดเย็นเหมือนไม่โดนแดดมานานสายตาของจั๋วซือหรานจ้องนิ่งอยู่บนมือข้างนี้ จากนั้นจึงค่อยๆ ยกขึ้นมามองไปยังเจ้าของมือนี้ ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีที่ตินั่นทั้งที่เป็นใบหน้าที่เพิ่งเห็นไปก่อนหลับตาลงเมื่อครู่แท้ๆ แต่ตอนนี้พอมอง กลับยังคงทำให้นางรู้สึกเหมือนไม่เจอกันเสียนานสายตาของชายหนุ่มอบอุ่น ด้านในมีความรู้สึกอารมณ์เหมือนความเจ็บปวดแฝงอยู่"จั๋วเสียวจิ่ว..." เขาก้มหน้าลงเรียกนางจั๋วซือหรานมองเขา จากนั้นจึงออกแรงบีบมือเขา และน่าจะเพราะออกแรงมากเกินไปปลายเล็บจึงเหมือนจิกลงไปในเนื้อเขาฝันถึงเขาอีกแล้วจั๋วซือหรานมีปฏิกิริยาขึ้นมา ครั้งนี้เหมือนกับครั้งนั้นเลย ฝันถึงเฟิงเหยียนยิ่งไปกว่านั้นยังดูเหมือนจริงเป็นพิ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1271

    กลางดึก จั๋วซือหรานกัดริมฝีปาก กอดหมอน เดินเท้าเปล่าจากห้องด้านนอกเข้าไปยังห้องด้านใน!คิ้วงามของนางขมวดแน่น สีหน้าที่มีสีเลือดฟื้นมาบ้างแล้ว ตอนนี้กลับขาวซีดขึ้นมาในใจนางเองก็พูดไม่ออก เดิมทีตอนที่หลับก็ยังดีอยู่ พอกลางดึกจู่ๆ ก็ไม่ไหวขึ้นมาเสียแล้วหน้าอกปั่นป่วนอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกทรมานแบบที่นางผ่านมาก่อนหน้าไม่ผิดเพี้ยนถ้าบอกว่าคนคนนี้ไม่เข้ามาก็ว่าไปอย่าง แต่นี่ก็เข้ามาแล้วว่ากันว่าพอเคยสบายแล้ว จะยากที่จะกลับไปลำบากตอนนี้จะให้นางปล่อยชายหนุ่มที่เหมือนกับ 'ยาบำรุงครรภ์' นี้ไว้ข้างในเฉยๆ โดยไม่ใช้ แล้วต้องมานั่งทนกระอักเลือดต่อล่ะก็...ขอโทษด้วย สกุลจั๋วอย่างนางไม่ใช่คนประเภทนั้นนางเข้าใจแล้ว ก่อนที่จะหลับไปเมื่อคืนนี้ ตอนที่เฟิงเหยียนบอกว่าจะนอนด้านนอก ริมฝีปากที่เม้มแน่นนั้นกำลังอดกลั้นเรื่องอะไรน่าจะคิดไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้สารเลว!จั๋วซือหรานครั่นเนื้อครั่นตัวตื่นมากลางดึก ต่อให้เป็นคนที่มีสติเยือกเย็นแค่ไหน ก็ยังมีอาการหงุดหงิดงัวเงียหลังตื่นนอนนางเดินเท้าเปล่าเข้าไปห้องด้านใน อากาศในหุบเขาตอนกลางคืนเย็นมากนางสวมแค่เสื้อบางๆ ชุดหนึ่ง ทั้งตัวเย

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status