แชร์

บทที่ 741

ผู้เขียน: หูเทียนเสี่ยว
ซางถิงเดิมทีคิดว่าเป็นเลือดของซางเชวี่ยที่หยดลงมาบนมือจั๋วซือหราน เพราะสีหน้าของจั๋วซือหรานนั้นนิ่งมาก สงบนิ่งสุดๆ

มองอย่างไรก็ไม่เหมือนคนที่บาดเจ็บจนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ

แต่พอเพ่งมองดีดีก็จะพบว่า ไม่ใช่เลือดของซางเชวี่ย แต่เป็นมือของจั๋วซือหรานที่บาดเจ็บจากการปะทะกับซางเชวี่ยจริงๆ

จากนั้นเลือดสดก็ไหลลงมาตามแขน นิ้ว และค่อยๆ หยดลงพื้น

ซางถิงม่านตาหดลง "จั๋วจิ่วเจ้า...ไม่เป็นไรใช่ไหม?"

"อื๋อ?" จั๋วซือหรานก้มลงมองแผลบนแขนของตนเองผาดหนึ่ง "ไม่เป็นไร"

พริบตาที่นางตระหนักถึงแผลบนมือตนเอง ที่บาดแผลเลือดก็หยุดไหลไปแล้ว

ระดับความแข็งแกร่งของร่างกายนางกับระดับการฟื้นฟู น่าตกตะลึงจริงๆ

แต่เพราะนางบาดเจ็บ แต่ซางเชวี่ยกลับไม่มีแผลที่ชัดเจน จึงทำให้ซางเชวี่ยมั่นใจขึ้นมาก

"จั๋วซือหราน ข้าจะดูว่าเจ้าจะทนได้อีกแค่ไหน ข้าสู้กับเจ้าแบบนี้ได้ทั้งวันเลย" ซางเชวี่ยเอ่ยขึ้น

นางมีสัตว์ที่ควบคุมซึ่งสามารถยืมพลังมาใช้ได้ และรักษาสภาพได้ยาวนาน คำพูดนี้ตามหลักแล้วคือพูดไม่ผิด

แต่ว่าจั๋วซือหรานกลับยิ้มจนปากโค้ง เอ่ยขึ้นเสียงเรียบว่า "ไม่ เจ้าสู้ได้ไม่ถึงทั้งวันหรอก แค่หนึ่งเค่อเจ้าก็ไม่ไหวแล้ว"

"พูดจา
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1407

    จั๋วซือหรานเห็นท่าทางนางเป็นแบบนี้ กลับหัวเราะขึ้นมาไม่มีความคิดจะทำอะไรนางทั้งนั้นพอหันหน้าไปก็บอกกับเฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นว่า "ดังนั้นที่เขาอยู่ในซื่อหนาน คงไม่ใช่เพราะพวกเขามีสถานการณ์เดียวกับพวกเจ้าหรอกนะ?"เพราะถูกสภาผู้อาวุโสตามล่าหรือ?จั๋วซือหรานคาดเดาแบบนี้แต่ปันอวิ๋นกับเฟิงเหยียนกลับเผย...สีหน้าหนึ่งออกมาจั๋วซือหรานเองก็บอกไม่ถูกว่าสีหน้าแบบนี้ควรพรรณาว่าอะไรดี ถ้าพูดขึ้นมาก็น่าจะเป็นค่อนข้างดูถูกคนคนนั้นกระมังไม่สิ บางทีถ้าเทียบกับบอกว่าดูถูกคนนั้น สู้บอกว่าดูถูกตัวตนเต่าหลังวารี...ที่คนคนนั้นแบกรับอยู่ดีกว่า?จั๋วซือหรานฟังออกถึงความหมายแฝงที่อยู่ด้านใน เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ "เจ้าสองคนคิดว่าหงส์แดงกับกู่วิญญาณเป็นของดีนักหรือไรกัน!"ถ้าเป็นของที่ดีจริง พวกเขาสองคนคงไม่ถูกจำกัดแบบตอนนี้หรอกในสภาพที่ไม่ค่อยต่างกัน ยังจะดูถูกว่ากุญแจของคนอื่นระดับสูงไม่พออีกรึ?จั๋วซือหรานเกือบจะหัวเราะออกมาเพราะโมโหสองคนนี้แล้วปันอวิ๋นหันสายตาไปทางอื่นเฟิงเหยียนกระแอมออกมาเบาๆ พูดเลี่ยงไปเรื่องอื่นว่า "เขารู้ว่าเราอยู่ที่นี่ ถ้าไม่หนี ก็คงจะมาหาพวกเราเอง บางทีอาจจะแอบสังเกตอยู

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1406

    จั๋วซือหรานยื่นมือไปทางเฟิงเหยียนเฟิงเหยียนก็วางกระบี่ประจำตระกูลเข้ามาในมือนางอย่างรู้กันกระบี่รูปร่างโบราณถูกนางกุมไว้ในมือ นางหันด้ามกระบี่ไปยังคนผู้นี้คนผู้นี้ขมวดคิ้ว ไม่ขยับตัวไปพักหนึ่งครู่หนึ่งจึงยื่นมือออกมา วางลงไปบนด้ามกระบี่เล่มนี้ชักไม่ออกเลย เขาออกแรงจริงเล็กน้อย!ซี๊ด...ฝ่ามือมีความเจ็บปวดจากการแผดเผาอย่างรุนแรงเขาค่อยๆ ลดมือลงเงียบๆ พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า "ดึงไม่ออก ข้ายอมแพ้ ขอตัวก่อน"เขาหมุนตัวจะเดินไปพวกจั๋วซือหรานเองก็ไม่คิดจะไล่ตามจวงชิ่งหมิงเอ่ยขึ้นคำหนึ่ง "กระบี่เล่มนั้นของเขา น่าสนใจอยู่นะ"จั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "กระบี่ประจำตระกูลเล่มหนึ่งน่ะ ต้องน่าสนใจอยู่แล้ว" มุมปากนางยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอันที่จริงก่อนหน้านี้นางมองไกลๆ ก็รู้สึกว่ากระบี่เล่มนั้นไม่ธรรมดาเลยแต่เฟิงเหยียนปันอวิ๋นกับชิ่งหมิงเหมือนไม่สังเกตเห็นอะไรเลย นางจึงรู้สึกแค่ว่าตนเองเข้าใจผิดไปจึงอยากจะเข้ามาดูเสียหน่อยจากนั้นตอนที่ชักกระบี่ นางดึงมันออกมา กลิ่นอายที่ทะลักออกมาจากในฝักกระบี่นั่น พวกเขาต้องสังเกตเห็นแล้วแน่ๆกระบี่เล่มนั้นกับกระบี่ประจำตระกูลของเฟิงเหยียนน่าจะเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1405

    คนหาข่าวพอได้ยินก็ถลึงตากลมโต เหมือถูกคำพูดนี้ทำให้ตกตะลึงไป พูดอะไรไม่ออกไปพักหนึ่งจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้าคิดๆ ดู ในเมื่อเจ้าเดินไปมาอิสระที่นี่ได้ คิดว่าคงจะไม่ใช่พวกขุนนางทาสแน่ แต่ก่อนหน้าพอข้าใช้เรื่องจะขายเจ้าก็ขู่เจ้าจนตกใจ เห็นได้ชัดว่าบนตัวเจ้าน่าจะมีที่มาที่ไปอยู่"จั๋วซือหรานชะงักไป ยื่นมือชี้ไปทิศที่นางชี้มาก่อนหน้านี้ "ดังนั้นข้ารู้สึกว่า บางทีเจ้าน่าจะใกล้เคียงกับคนพวกนั้น อาจจะมีเหตุผลของตัวเอง จึงต้องมาอยู่ในเมืองซื่อหนาน""แล้วเหตุผลที่มาที่ไปของเจ้าคืออะไร?" จั๋วซือหรานถามสีหน้าคนหาข่าวเดิมทีที่แดงระเรื่ออยู่ ตอนนี้กลับซีดเผือดไปอีกครั้ง"ข้า..." มุมปากนางขยับ ดูเหมือนว่าจะค่อนข้างลำบากใจจั๋วซือหรานเองก็ไม่ได้เร่งรัด เอ่ยแค่ว่า "ไปดูทางนั้นก่อนแล้วกัน เจ้าเองก็ค่อยๆ คิด ถ้าไม่เล่าก็ไม่บังคับนะ ข้าแค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆ ก็เท่านั้น"พูดจบ พวกของจั๋วซือหรานก็เดินตรงไปทางนั้นทางนั้นกับการค้าทาสทางนี้ก็มีบรรยากาศแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจริงๆชิ่งหมิงอยู่ที่นี่ไม่รุ้สึกรังเกียจอะไรนัก เห็นได้ชัดว่าบรรยากาศทางนี้ไม่ได้ดำมืดเหมือนทางนั้นจั๋วซือหรานดึงนิ้

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1404

    พอได้ยินคำนี้ คิ้วของชิ่งหมิงก็ย่นขึ้นมา เขาเอ่ยเสียงต่ำกับจั๋วซือหราน "ข้าไม่ชอบที่นี่เลย"ก็จริง สถานที่แบบนี้ รู้สึกมันดำมืดไปหมด ไม่มีแสงสว่างเอาเสียเลยแล้วชิ่งหมิงเดิมทีก็ใสซื่อบริสุทธิ์เหมือนกระดาษขาว สำหรับเรื่องดำมืดแบบนี้ จะไม่ใชอบก็เป็นเรื่องปกติจั๋วซือหรานกดบ่าเขาเบาๆ ยัดลูกกวาดหนึบหนับใส่มือเขาหลายเม็ดชิ่งหมิงมองลูกกวาดหนึบหนับใสมือ "..."เขารู้สึกจนใจหน่อยๆ ซือหรานมักปลอบเขาเหมือนกับเด็กแบบนี้เสมอ แต่เขาโตแล้วนะแต่ว่าก็อดพูดไม่ได้เลย ความรู้สึกแบบนี้บางครั้งก็ไม่เลวนักจั๋วซือหรานมองไปทางคนหาข่าวคนนั้น เอ่ยขึ้นว่า "พูดต่อสิ""คนหาข่าวคนนี้พอได้ยินก็ตาเป็นประกาย สีหน้าขาวซีดแต่เดิมที่ถูกจั๋วซือหรานเปิดโปงจนปั้นยาก เวลานี้ก็เหมือนจะตื่นเต้นแดงรื้นขึ้นมาจากคำพูดของจั๋วซือหรานแล้วนางเอ่ยต่อว่า "ใต้เท้า คนเหล่านี้ถึงแม้จะไม่มีแรงมากมายนัก แต่ก็มีอยู่หลายคนที่อ่านออกเขียนได้ ถ้าท่านต้องการหาคนที่รู้หนังสือ ที่นี่ก็จะถูกกว่ากันเยอะมาก แต่ว่า..."จั๋วซือหรานมองนาง "มีอะไรก็พูดตรงๆ เถอะ"คนหาข่าวคนนี้จึงกดเสียงลงต่ำ บอกกับจั๋วซือหรานว่า "แต่ว่า เนื่องจากพวกเขาทั้งหม

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1403

    จั๋วซือหรานพูดคำนี้จบ คนหาข่าวคนนั้นก็อดมองไปทางจั๋วซือหรานไม่ได้ในสายตามีอาการตกใจอย่างปิดไม่มิด น่าจะเพราะคิดไม่ถึงว่า นางที่เป็นคนต่างบ้านต่างเมือง แล้วยังเป็นหญิงสาวด้วยกลับมองสถานการณ์ของซื่อหนานได้อย่างทะลุปรุโปร่งและตอนที่สายตาของเขามองไป ดาบยาวในมือจั๋วซือหรานก็พามาที่ข้างคอเขาเขาตะลึงงัน ดวงตาถลึงโต ไม่กล้าขยับตัวไปทันทีกระทั่งหนังหัวยังเกรงแน่นเขาได้ยินเสียงของหญิงสาวคนนี้ที่ยังคงเรียบเฉย เย็นชา และเปิดโปงความคิดนั่นของเขาจั๋วซือหรานเอ่ยว่า "ข้าจ่ายเงินจ้างเจ้า ไม่ใช่ให้มาแค่ไกล่เกลี่ยเรื่องให้จบ ถ้าเจ้ากลัวว่าจะผิดใจกับเนี่ยคุน แล้วมาหลอกข้าแบบส่งเดชล่ะก็..."จั๋วซือหรานเหลือบมองไปยังผู้ดูแลแผงตลาดค้าทาสพวกนั้นผาดหนึ่ง จากนั้นก็มองมาทางคนหาข่าว เอ่ยต่อว่า "ข้าจะจ่ายให้เจ้าพวกนั้นมากหน่อย ให้พวกเขาจับเจ้ามัดแล้วขายส่งออกไปซะ ก็ดูจะไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร"พอได้ยินคำนี้ของจั๋วซือหราน สีหน้าของคนผู้นี้ก็ซีดไปทันที!ทั้งเนื้อตัวเริ่มสั่นระริกขึ้นเบาๆ "ใต้...ใต้เท้า ข้า...ข้ารู้ผิดแล้ว ข้ารู้ผิดแล้ว ไม่กล้าอีกแล้ว ข้าจะพูดทุกอย่างที่รู้เลย"จั๋วซือหรานเหลือบมองเ

  • ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง   บทที่ 1402

    แต่ว่า สำหรับความกังวลเหล่านี้ของพวกเขา จั๋วซือหรานไม่ได้แยแสเลยนางเป็นที่รู้จักกันดีว่าสมองไวกระทั่งว่าพอนางไม่เร่งรีบ พวกขเาก็จะผ่อนคลายตามไปด้วย เหมือนว่า...ตราบใดที่นางยังไม่เร่งร้อน ปัญหาก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้น "ยังไม่ต้องรีบกังวลไป ข้ารู้สึกว่าเนี่ยคุนอาจจะไม่สามารถดึงตัวคนที่มาประโยชน์มาได้ ถ้าเขามีฝีมือในการดึงคนที่มีประโยชน์ทั้งหมดได้จริง คงไม่ถูกข้าทำให้โมโหขนาดนั้น"จั๋วซือหรานพูดพลางหัวเราะ "นี่ยังไม่ถึงไหนเลยนะ เขากลับเลือดลมพร่องเสียขนาดนี้ ถ้าคนไม่รู้คงนึกว่าเพิ่งคลอดลูกมา"ปันอวิ๋นพอได้ยินคำนี้ของนางก็เกือบจะหัวเราะออกมาจั๋วซือหรานเอ่ยต่อว่า "ข้ารู้สึกว่าคนพวกนี้ ไม่ได้ภักดีกับเนี่ยคุนหรอก พวกเขาแค่ต้องการสถานที่อย่างซื่อหนานนี่เท่านั้น ส่วนว่าจะเป็นซื่อหนานของเนี่ยคุน หรือว่าซือหนานของจั๋วซือหราน พวกเขาคงไม่ใส่ใจเท่าไร""ความหมายก็คือ ตราบใดที่เจ้าอยู่ร่วมกับพวกเขาอย่างสงบสุขในภายภาคหน้า พวเขาก็จะไม่มาหาเรื่องเจ้าอย่างนั้นสินะ?" ปันอวิ๋นถามจั๋วซือหรานพยักหน้า "บนความรู้สึกคืออย่างนั้น แต่ข้าก็คงไม่ปล่อยพวกเขาไว้ตลอด ทว่าตอนแรกนี้จะยังไม

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status