แชร์

บทที่ 1465

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อผู้อาวุโสทั้งสองของตระกูลอวี๋เพิ่งถูกส่งกลับห้อง อวี๋หงจึงถามลั่วชิงยวนว่า “แม่นางลั่ว ท่านมีสิ่งใดในใจที่ยากจะเอ่ยเกี่ยวกับการตายของน้องสาวข้าหรือไม่?”

“หากมีสิ่งใดที่มิสะดวกให้บิดามารดาข้ารู้ ท่านพอจะบอกข้าเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?”

อวี๋หงยังคงปรารถนาที่จะทราบสาเหตุการตายที่แท้จริงของอวี๋ตันเฟิ่ง

ลั่วชิงยวนมีสีหน้าเคร่งเครียด มิใช่ว่านางมิอยากกล่าว เพียงแต่เมื่อนึกถึงโหยวหัวหนิง นางก็พูดมิออก

นางจึงเปลี่ยนเรื่องด้วยการถามว่า “ท่านเจ้าเมือง ข้าขอถามท่านได้หรือไม่ว่าภรรยาของท่านมีพี่น้องหรือไม่?”

เมื่อได้ยินคำถามนี้ อวี๋หงก็ประหลาดใจยิ่งนัก มิเข้าใจว่าเหตุใดลั่วชิงยวนจึงถามเช่นนี้

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องอันใดกับน้องสาวข้าหรือ?”

ลั่วชิงยวนมองอวี๋หงด้วยสีหน้าจริงจัง “เรื่องนี้สำคัญสำหรับข้ามาก”

อวี๋หงพยักหน้า จากนั้นก็ตอบว่า “นางมีพี่ชายคนหนึ่ง นามว่า…”

ลั่วชิงยวนฟังด้วยใจจดจ่อ

แต่ทันใดนั้นเอง ภายนอกก็มีเสียงรีบร้อนดังขึ้น “ท่านเจ้าเมือง! เกิดเรื่องแล้วขอรับ! เฉินชีกำลังอาละวาดใหญ่โต ต้องการพบท่านเจ้าเมือง! ทำร้ายพี่น้องของเราไปหลายคนแล้วขอรับ!”

เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋หงก็ตก
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1472

    มิได้พูดพร่ำทำเพลงก็เข้ามาจับตัวลั่วชิงยวนดึงขึ้นมาเชือกหนังวัวถูกนำมามัดไว้รอบตัวลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนดิ้นรน สายตามองไปยังอวี๋หงในลานบ้าน “ท่านเจ้าเมือง นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร?”อวี๋หงยืนไพล่หลังด้วยสีหน้าเย็นชา จ้องมองนางด้วยสายตาเย็นเยียบ“เจ้ายังกล้าถามข้าอีกหรือ?”“ในเมื่อกล้าลักพาตัวภรรยาข้าไป เจ้าก็มิควรกลับมาอีก เจ้าคิดว่าไม่มีใครรู้ถึงสิ่งที่เจ้าทำรึ!”คำพูดนี้ทำให้ลั่วชิงยวนงุนงง“ท่านเจ้าเมือง โปรดกล่าวให้ชัดเจน ข้าทำสิ่งใด? เหตุใดจึงเป็นข้าที่ลักพาตัวฮูหยิน?”“หรือว่าฮูหยินบอกเช่นนั้น?”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วอวี๋หงมิได้ตอบจากนั้นก็เห็นคนใบ้และโฉวสือชีถูกจับมัดแล้วลากตัวออกมาด้วย“จับพวกมันทั้งสามไปขังไว้ในห้องเก็บฟืน! เฝ้าดูอย่างเข้มงวด!”จากนั้นพวกลั่วชิงยวนก็ถูกลากเข้าไปในห้องเก็บฟืนทั้งสามถูกจับมัดวางไว้คนละมุมมิอาจเข้าใกล้กันได้จากนั้นอวี๋หงก็ค่อย ๆ เดินเข้ามามองลั่วชิงยวนด้วยสายตาเย็นชา“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย จงตอบมาโดยดีว่าเจ้าสังหารน้องสาวข้าอย่างไร”“มิเช่นนั้นข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ เสียเดี๋ยวนี้”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1471

    “ต้องหาตัวนางมาให้ข้าให้ได้!”กองทหารรีบรุดออกไปค้นหาในทันทีพวกลั่วชิงยวนก็เข้าร่วมด้วย พาอวี๋หงไปยังสถานที่ที่พวกนางเคยเดินผ่านในวันนี้ และเพิ่มกำลังค้นหาในบริเวณนั้นตรอกซอยเล็ก ๆ ใกล้เคียงถูกตรวจสอบซ้ำหลายครั้ง ร้านค้าและบ้านเรือนโดยรอบก็ถูกค้นทีละแห่งการจับตัวคนในเวลากลางวันแสก ๆ ย่อมมิอาจหลบหนีไปไกลได้ ดังนั้นจึงต้องอยู่ในบริเวณใกล้เคียงนี้พวกลั่วชิงยวนก็ช่วยกันค้นหาในบริเวณใกล้เคียงด้วยค้นหาอยู่เป็นเวลานานในที่สุดลั่วชิงยวนก็พบกระสอบใบหนึ่งลั่วชิงยวนตกใจโฉวสือชีรีบค้นหาโดยรอบ แต่กลับมิพบเบาะแสอื่นใด“นี่คือที่ที่ฮูหยินถูกจับตัวไปหรือ? แต่เหตุใดจึงเหลือเพียงกระสอบ แล้วนางหายไปที่ใด?”ลั่วชิงยวนรีบเรียกผู้คุ้มกันมาตรวจค้นเรือนแห่งนี้อย่างละเอียดทุกคนต่างตามหาโหยวหัวหนิงด้วยความกระวนกระวายใจลั่วชิงยวนครุ่นคิด “มีคนจับโหยวหัวหนิงไปเรียกค่าไถ่ในยามนี้ถือว่าบังเอิญเกินไปแล้ว”“ต้องมุ่งเป้ามาที่ข้าแน่นอน”“เพียงแต่มิรู้ว่าเป็นฝีมือของเกาเหมียวเหมี่ยวหรือเวินซินถงกันแน่”ศัตรูที่ติดตามมายังตลาดมืดแห่งนี้มีเพียงพวกนางสองคนเฉินชีคงโกรธและไปจากตลาดมืดแล้วแต่เกาเ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1470

    เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวหัวหนิงก็ขมวดคิ้วแน่น มองนางอย่างระแวดระวัง “ข้ามิเข้าใจว่าท่านหมายความว่าเช่นไร”กล่าวจบนางก็หันหลังเดินจากไปเวินซินถงกล่าวเสียงเย็น “ลั่วชิงยวน!”“นางเข้าใกล้พวกท่านย่อมเป็นเพราะมีจุดประสงค์บางอย่าง!”“ข้ามิหลอกลวงท่าน ข้าคือนักบวชระดับสูง”เวินซินถงกล่าวอย่างหนักแน่นฝีเท้าของโหยวหัวหนิงหยุดชะงัก เมื่อได้ยินคำว่านักบวชระดับสูงก็ตกตะลึงจากนั้นจึงสงบลงแล้วกล่าวว่า “นางจะมีจุดประสงค์อะไร ท่านเจ้าเมืองย่อมวินิจฉัยได้”“พวกเรามิเคยมีเรื่องบาดหมางกับท่านนักบวชระดับสูง ขอท่านนักบวชระดับสูงโปรดเมตตาด้วย”กล่าวจบ โหยวหัวหนิงก็เตรียมจะเดินจากไป“ช่างดื้อรั้นยิ่งนัก!” เวินซินถงกล่าวด้วยน้ำเสียงมิพอใจจากนั้นก็ก้าวเข้าไปใช้ฝ่ามือสับโหยวหัวหนิงจนสลบไปทันทีนางหยิบกระสอบออกมา และย่อตัวลงยัดโหยวหัวหนิงเข้าไป“หากเจ้าหายตัวไป ข้าจะดูว่าลั่วชิงยวนจะอธิบายเช่นไร!”หลังจากยัดลงกระสอบแล้ว เวินซินถงก็แบกโหยวหัวหนิงขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วรีบหายไปในตรอกซอยอย่างรวดเร็วนางพาโหยวหัวหนิงไปซ่อนไว้ในเรือนเล็กอันเงียบสงัดแห่งหนึ่งจากนั้นก็เขียนจดหมายฉบับหนึ่งให้คนส่งไปยั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1469

    หลังจากได้สนทนากันในครั้งนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็แน่นแฟ้นขึ้นโหยวหัวหนิงปฏิบัติต่อนางด้วยความเอื้อเฟื้อยิ่งนักหลังจากจบมื้อกลางวัน โหยวหัวหนิงก็พานางออกไปเดินชมตลาดโฉวสือชีและคนใบ้ก็ติดตามไปด้วยเพื่อความปลอดภัย โหยวหัวหนิงกล่าวแนะนำนางว่า “ท่านดูเถิด ที่นี่เมื่อยามราตรีมาเยือนก็คือตลาดมืด ครั้นยามกลางวันก็เป็นเพียงเมืองธรรมดา”“สิ่งที่ขายอยู่ในยามนี้ล้วนเป็นสิ่งของจำเป็นในชีวิตประจำวัน”“เมื่อถึงยามมืดมิด ร้านค้าของพวกเขาก็จะเปลี่ยนแปลงไป”ร้านรวงบนถนนหนทางในขณะนี้ดูเป็นปกติยิ่งนักมิแตกต่างจากเมืองทั่วไปแม้แต่น้อยโฉวสือชีพลันเตือนว่า “ที่นั่นมีร้านโอสถ พวกเราไปดูกันเถิด”ลั่วชิงยวนชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็กล่าวกับโหยวหัวหนิงว่า “พวกเราไปร้านโอสถกัน ท่านจะไปด้วยกันหรือไม่?”โหยวหัวหนิงส่ายหน้า “ค่ำนี้ข้าอยากจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้ท่านพี่อวี๋ ข้าต้องไปตลาดสด หากไปช้าแล้วของจะหมด”“พวกท่านไปร้านโอสถเสร็จแล้วค่อยมาหาข้าที่ตลาดสดก็ได้”“ได้เลย”ทั้งสองจึงแยกทางกันตรงนี้ลั่วชิงยวนและอีกสองคนเข้าไปในร้านโอสถ โฉวสือชีรีบสอบถามว่า “ท่านเจ้าของร้าน ท่านมีบัวถวายหรือไม่?”

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1468

    “มิได้อยู่บนใต้หล้านี้แล้วหรือ?”โหยวหัวหนิงพยักหน้า “บิดามารดาข้าจากไปตั้งแต่ข้ายังเยาว์วัย ข้าเติบโตมาด้วยการเลี้ยงดูของพี่ชายข้า”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ใจหายวาบพี่ชายหรือ?“แล้วพี่ชายท่านเล่า?” ลั่วชิงยวนถามอีกโหยวหัวหนิงกล่าวช้า ๆ “พวกเราหนีออกมาจากสถานที่อันตรายแห่งหนึ่ง ไร้ซึ่งทรัพย์สินเงินทอง ในปีเหล่านั้นพวกเรายากจนยิ่งนัก หมั่นโถวเพียงก้อนเดียวต้องแบ่งกินสามมื้อ”“พี่ชายมักต้องต่อสู้กับคนอื่นและขโมยของบ่อย ๆ”“ใช้เวลาหลายปี สถานการณ์ของพวกเราจึงดีขึ้น มีชีวิตที่มั่นคงขึ้นทีละน้อย”“พี่ชายจะไปขุดค้นสมบัติจากสุสาน แล้วนำมาขายที่ตลาดมืด”“ด้วยเหตุนี้ ข้าจึงได้มายังตลาดมืด”“แต่ต่อมา เขาก็จากไป”“จากไปอย่างกะทันหัน หลังจากนั้นก็มิเคยมีข่าวคราวอีก ข้าเองก็มิรู้ว่าเขาไปที่ใด”“เพียงแต่หลายปีมานี้มิปรากฏตัว ข้าจึงคิดว่าเขาตายไปแล้ว”เมื่อฟังจบ ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อยแต่เมื่อคิดใคร่ครวญก็สามารถเชื่อมโยงกับโหยวจิ้งเฉิงได้พวกเขาอาจจะหนีออกมาจากหุบเขาทาส แล้วมายังตลาดมืด เพราะยากจน โหยวจิ้งเฉิงจึงหมายปองอวี๋ตันเฟิ่งจากนั้นอวี๋ตันเฟิ่งก็จากบ้านไปสร้างเม

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1467

    อวี๋หงมีท่าทีฮึกเหิมยิ่งนักเกาเหมียวเหมี่ยวกำแส้แน่น สายตาที่จ้องลั่วชิงยวนเขม็งเต็มไปด้วยกลิ่นกายสังหาร“ลั่วชิงยวน หากเจ้าเก่งจริงก็จงหลบซ่อนอยู่ที่นี่ตลอดกาลเถอะ!”หลังจากพูดอย่างนั้น นางก็สะบัดหน้าเดินออกไปด้วยความขุ่นเคืองเมื่อเกาเหมียวเหมี่ยวจากไปแล้ว ลั่วชิงยวนก็หันไปมองอวี๋หง “ขอบคุณท่านเจ้าเมือง”“เพียงแต่ ทำเช่นนี้จะนำความวุ่นวายมาสู่ท่านหรือไม่?”อวี๋หงกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ตลาดมืดมีกฎเกณฑ์ ในเมื่อสามารถดำรงอยู่มาได้ยาวนานในใต้หล้านี้ กฎเกณฑ์เหล่านี้ย่อมมีประโยชน์”“แม่นางลั่วโปรดวางใจเถิด”“ข้าเห็นว่าองค์หญิงองค์นั้นมีจิตอาฆาตแค้นท่านยิ่งนัก หากท่านลงจากเขาในตอนนี้ เกรงว่าพระนางจะซุ่มรออยู่เชิงเขา”“พักอยู่ที่นี่สักระยะ รอจนโทสะของพระนางคลายลงเสียก่อน แล้วค่อยลงจากเขาไปดีหรือไม่?”ลั่วชิงยวนพยักหน้า “ก็ดี เช่นนั้นคงต้องรบกวนท่านเจ้าเมืองอีกหลายวัน”“พอดีข้าเห็นว่าอาการป่วยของผู้อาวุโสทั้งสองท่านค่อนข้างหนัก ข้าจะลองรักษาดู เผื่ออาการจะดีขึ้นบ้าง”อวี๋หงกล่าวด้วยความยินดีว่า “เช่นนั้นก็ดียิ่ง!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็กลับไปกับอวี๋หงในตรอกซอยมืดมิด เวินซินถง

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status