Share

บทที่ 349

Penulis: หว่านชิงอิ๋น
ท่านมหาราชครูสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วใช้เวลาสงบสติอารมณ์อยู่สักพัก เมื่อเห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายของลั่วชิงยวน เขาก็เดาออกเลยว่าตอนอยู่ในตำหนักอ๋อง นางคงไม่มีชีวิตที่ดีนัก!

การที่นางหายไปนานถึงเพียงนั้น เกรงว่าคงต้องทนทุกข์ไม่น้อยเลย

หากเกิดเรื่องขึ้นกับจวนอัครเสนาบดี ลั่วชิงยวนย่อมต้องถูกท่านอ๋องทอดทิ้งเป็นแน่ เมื่อลั่วชิงยวนถูกลากเข้ามาพัวพัน สิ่งเดียวที่รอคอยนางอยู่ก็คือ ความตาย!

ลั่วไห่ผิงมิได้รักใคร่ไยดีนางเลยสักนิด หากเขาไม่คอยดูแลนางล่ะก็ นางคงตายไปตั้งแต่เมื่อครั้งเยาว์วัยแล้ว...

ท่านมหาราชครูรู้สึกปวดใจนัก แต่สุดท้ายก็กัดฟันตอบตกลง

"ก็ได้ ข้าจะมอบจี้กิเลนให้เจ้า! เจ้าต้องจดจำไว้ว่า สิ่งนี้เป็นรางวัลจากจักรพรรดิองค์ก่อน มันมีความหมายกับข้ามากและมีคุณค่าในตัวเหลือคณานับ!"

"วันนี้ข้าจักมอบสิ่งนี้เพื่อให้เจ้าเอาไปช่วยจวนอัครเสนาบดีของเจ้า! ข้าหวังว่าเจ้าจักจดจำบุญคุณครั้งนี้เอาไว้!"

"ทำดีกับชิงยวนให้มาก ๆ หน่อย แล้วก็เลิกใช้นางมาแสวงหาผลประโยชน์ได้แล้ว!"

ขณะที่ท่านมหาราชครูลั่วพูด เขาก็หยิบจี้กิเลนออกมาจากอกเสื้อแล้วยื่นให้ลั่วไห่ผิง

ลั่วชิงยวนผงะอึ้งไปชั่วขณะ จู่ ๆ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 350

    ในยามนี้เอง บรรดาผู้มาเยือนที่อยู่ในงานต่างครึกครื้นสนุกสนาน มีเพียงแค่ไม่กี่คนที่เดินผ่านลานไป ลั่วชิงยวนแอบตามลั่วเยวี่ยอิงอยู่ไม่ไกลจากนอกเรือนปีกตะวันออก ลั่วชิงยวนหลบอยู่หลังกำแพง นางได้ยินเสียงลั่วเยวี่ยอิงกำชับนางรับใช้ว่า "พวกเจ้าจัดการเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่?" นางรับใช้ผงกศีรษะ "จัดการเรียบร้อยแล้ว คุณหนูมิต้องห่วงเจ้าค่ะ!" เมื่อลั่วชิงยวนมองดูให้ชัด ๆ ก็รู้ว่าเป็นนางรับใช้จากจวนอัครเสนาบดี นางถือได้ว่าเป็นนางรับใช้คนสนิทของลั่วเยวี่ยอิงผู้หนึ่งเลยก็ว่าได้ การที่นางมาจัดแจงบางสิ่งบางอย่างถึงจวนมหาราชครู ย่อมมิใช่เรื่องดีงามอันใดเป็นแน่ "งั้นทำตามแผนได้ พอลั่วชิงยวนเข้ามาในห้อง เจ้าก็รีบพาคนเข้ามาเถอะ!" นางรับใช้ผงกศีรษะอีกครั้ง จากนั้นลั่วเยวี่ยอิงก็จากไป ลั่วชิงยวนสายตาเย็นชาเล็กน้อย แผนการคราวนี้พุ่งเป้ามาที่นางกระนั้นหรอกหรือ? ดูเหมือนว่าลั่วเยวี่ยอิงจะไม่ยอมแพ้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายของตนจริง ๆ ลั่วเยวี่ยอิงคงคิดจะปลีกตัวออกจากสถานการณ์ เรื่องจะได้พัวพันมาไม่ถึงตนเอง ดังนั้นนางจึงอยู่ให้ห่างออกไป เมื่อลั่วชิงยวนเห็นว่าดูเหมือนนางรับใช้คิดจะตามหาตน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 351

    ทว่าในยามนี้เอง ก็มีมือผลักหลังของนางอย่างแรงจนถลาเข้าไปในห้อง ลั่วชิงยวนรีบก้าวถอยหลังออกมา จากนั้นก็โก่งคอร้องตะโกนสุดเสียงว่า "พระชายา โปรดพักผ่อนให้สบาย บ่าวขอตัวก่อนเจ้าค่ะ" ทันทีที่ลั่วเยวี่ยอิงได้ยินเสียง นางก็หน้าเปลี่ยนสีทันที นางหลงกลเข้าแล้ว! แต่เมื่อนางตระหนักได้เช่นนี้ นางก็หันหลังเตรียมวิ่งหนีไป ทว่าขณะที่นางคิดจะหนีไป บุรุษขี้เมาหลายคนก็พลันล้อมนางเอาไว้ "นี่มันเสี่ยวหลานจากหอซิ่งชุนมิใช่หรือ? ไฉนเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า?" "ไม่เจอกันเสียนาน เสี่ยวหลาน บังเอิญว่าวันนี้เป็นวันดี เช่นนั้นก็มาดื่มกับนายท่านผู้นี้สักหน่อยเถิด!" บุรุษหลายคนเดินเข้ามาคว้าไหล่ของนาง ลั่วเยวี่ยอิงผลักพวกเขาออกไปด้วยความรังเกียจ "ปล่อยข้า พวกเจ้าจำคนผิดแล้ว! ข้าเป็นคนที่จ้างวานพวกเจ้าต่างหากเล่า!" แต่คำอธิบายของลั่วเยวี่ยอิงช่างเปล่าประโยชน์สิ้นดี คนพวกนี้รู้แต่เพียงว่าต้องจัดการกับพระชายา มิหนำซ้ำนางรับใช้ก็เพิ่งจะเรียกนางว่าพระชายาด้วย พวกเขาหาได้สนใจไม่ว่าผู้ใดจะเป็นพระชายา พวกเขามาที่นี่ก็เพราะเงินเท่านั้น! ยามนี้จึงจำเป็นต้องแสร้งทำทีเป็นเมามาย มิฉะนั้นภายหลังอาจจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 352

    ฟู่เฉินหวนพาลั่วเยวี่ยอิงเดินจากไป เขาปกป้องอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมแขนด้วยความใส่ใจ คนทั้งสองช่างสมกันจริง ๆ ลั่วชิงยวนหันหลังกลับมาพิงต้นไม้ จากนั้นนางก็กำปกคอเสื้อเอาไว้แน่น ไฉนนางถึงได้รู้สึกอึดอัดใจถึงเพียงนั้น? หลังจากผ่านมาเนิ่นนานขนาดนั้นแล้ว ร่างของลั่วชิงยวนก็ยังคงมีความรู้สึกให้ฟู่เฉินหวนอีกกระนั้นหรือ? ทว่าความรู้สึกเช่นนี้ก็เหมือนจริงมากเสียจนนางก็บอกไม่ถูกไปชั่วขณะว่า เป็นจิตใจหรือร่างกายของนางกันแน่ที่รู้สึกอึดอัด ฟู่เฉินหวนพาลั่วเยวี่ยอิงไปผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ บุรุษขี้เมาถูกส่งตัวออกไปจากจวนมหาราชครูอย่างเงียบ ๆ ในทันที ท่านอาลั่วหรงก็ทราบเรื่องนี้ แต่วันนี้เป็นวันมงคลของลั่วหลางหลางและไม่สมควรจะเกิดเรื่องฉาวโฉ่เช่นนั้น ดังนั้นนางจึงออกคำสั่งกับทุกคนมิให้แพร่ข่าวออกไปเป็นอันขาด แต่เรื่องที่เกิดขึ้นก็ทำให้ลั่วเยวี่ยอิงอับอายขายหน้ายิ่งนัก! ตรงหน้าลาน ฟ่านซานเหอกำลังดื่มกับบรรดาผู้มาเยือน ขณะที่ลั่วชิงยวนลอบเข้าไปในเรือนหลังใหม่ นางเห็นลั่วหลางหลางสวมผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวสีแดงสดอยู่ในห้อง "ผู้ใดกัน?" เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด ลั่วหลางหลางก็ตะโกนขึ้นเพื่อป้องก

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 353

    หลายปีก่อน สิ่งที่มารดาของลั่วชิงยวนจัดแจงเอาไว้ ทำให้ความรุ่งเรืองของลั่วไห่ผิงเสื่อมถอยลง สรรพสิ่งเกิดจากน้ำมือมนุษย์ สิ่งที่ได้มาจากแรงผลักดันภายนอกจะเป็นของเขาไปตลอดกาลได้อย่างไรกัน? เมื่อกลับมาถึงตำหนักอ๋อง ลั่วชิงยวนก็คิดว่า ครั้นเมื่อฟู่เฉินหวนกลับมา นางก็จะเชิญตัวเองไปอยู่เรือนแยกเพื่อจะได้ไม่ขวางหูขวางตาเขา นางเองก็อยากจะกลับไปเปิดกิจการต่อแล้ว พอตกเย็นก็มีคนรับใช้เข้ามาบอกว่า "พระชายา ท่านอ๋องเชิญท่านไปที่ห้องตำราขอรับ" ยอดเยี่ยมไปเลย! "จือเฉา เก็บข้าวของแล้วออกไปก่อนจะมืดค่ำ" ลั่วชิงยวนมาที่ห้องตำรา แต่กลับหามีผู้ใดอยู่ในห้องตำราและลานเรือนสักคนเดียว ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องบางอย่างทำให้ฟู่เฉินหวนต้องล่าช้า นางจึงคิดจะหันหลังจากไป แต่จู่ ๆ นางก็หยุดฝีเท้าลง ถุงหอมถูกฟู่เฉินหวนเอาไป เขาจะเอาไว้ในห้องตำราหรือไม่? เมื่อเห็นว่าหามีผู้ใดอยู่แถวนี้ นางก็เริ่มรื้อค้นตามกล่องบนชั้นวางของและตู้มีลิ้นชัก เวลาจวนจะหมดลงแล้ว จากนั้นนางก็ลงมือด้วยความว่องไวพลางเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวนอกประตูไปด้วย ในที่สุดนางก็เจอกล่องผ้าปักดอกในตู้ใบเตี้ยที่อยู่ข้างตัว เมื่อน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 354

    ตอนนี้นางมีอีกตัวตนหนึ่ง หลังจากสังหารลั่วเยวี่ยอิงแล้ว นางก็จะละทิ้งตัวตนของลั่วชิงยวนไปเสีย อย่างไรเสียการที่นางแต่งงานกับฟู่เฉินหวนโดยที่เขาไม่ยอมมอบหนังสือหย่าให้แก่นาง เช่นนั้นนางก็คงต้องถูกกักขังไปชั่วชีวิต มิสู้ให้ลั่วชิงยวนตายไปเสียน่าจะดีกว่า จากนั้นก็อาศัยฐานะของฉู่ลั่วล้างแค้นที่ยังมิได้ชำระ! ลั่วเยวี่ยอิงที่ดวงตากลัดเลือดขีดข่วนมือของนางอย่างสุดกำลัง เพราะใกล้จะสิ้นใจอยู่รอมร่อ ทว่าในยามนี้เอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นจากข้างนอก ชั่วครู่ต่อมาประตูก็ถูกผลักให้เปิดออก "หยุดนะ!" เมื่อเสียงตวาดอันเฉียบขาดดังขึ้น นางก็ถูกเตะเข้าที่แผ่นหลังอย่างแรงจนลอยไปกระแทกพื้น ตอนที่นางพยายามจะลุกขึ้น กลิ่นคาวเลือดก็พลุ่งขึ้นมาในลำคอแล้วกระอักโลหิตออกมาคำหนึ่ง บังเกิดอาการปวดแปลบปลาบในอกขึ้นมา "เยวี่ยอิง!" ฟู่เฉินหวนรีบเข้าไปประคองลั่วเยวี่ยอิง ลั่วเยวี่ยอิงหล่นสู่อ้อมแขนของฟู่เฉินหวนด้วยความอ่อนแรง จากนั้นก็รีบสูดหายใจแล้วกุมลำคอเอาไว้ ทันทีที่นางเงยหน้าไปเห็นฟู่เฉินหวน น้ำตาก็ไหลอาบหน้า "ท่านอ๋อง..." ลั่วเยวี่ยอิงร่ำไห้แล้วมองลั่วชิงยวนพลางกล่าวว่า "ข้าจับได้ว่าท่า

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 355

    โลงศพมารดาของนางว่างเปล่า! หามีอันใดไม่! แต่วาจาอันจริงจังของลั่วไห่ผิงกลับสร้างความตื่นตกใจให้แก่ฟู่เฉินหวน ถึงแม้จะลังเลใจ แต่เขาก็ยังมอบถุงหอมให้แก่ลั่วเยวี่ยอิงกับลั่วไห่ผิงด้วยท่าทีกังขา เขาจึงฉวยโอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวแล้วถามว่า "ท่านอัครเสนาบดี ท่านช่วยตอบคำถามก่อนหน้านี้ของตัวข้าทีได้หรือไม่?" ลั่วไห่ผิงรู้สึกตื่นตกใจอยู่บ้าง ดูเหมือนว่านี่จะเป็นการเล่นแง่เสียแล้ว ลั่วไห่ผิงมีสีหน้ากระอักกระอ่วน ทว่าเขาก็ยังเอ่ยขึ้นมาว่า "พ่ะย่ะค่ะ พระมารดาของท่านอ๋องสนิทสนมกับมารดาของเยวี่ยอิง ราวกับพี่น้องกันก็มิปาน!" ทันทีที่กล่าววาจาเหล่านี้ออกมา ทุกคนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้ต่างก็รู้สึกตื่นตะลึง ลั่วชิงยวนพลันขมวดขึ้นมาทันที พระมารดาของฟู่เฉินหวนกับมารดาของลั่วเยวี่ยอิงกระนั้นหรือ? ฟู่เฉินหวนรู้สึกตื่นตะลึงเป็นที่สุด เขาเหลือบมองถุงหอมในมือของลั่วเยวี่ยอิงแล้วอดมิได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น หรือว่านี่จะเป็นสิ่งที่ท่านแม่หลงเหลือเอาไว้ให้? เขามิเคยคิดว่าเหตุใดลั่วชิงยวนจึงต้องการถุงหอมใบนี้ เพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งของของมารดาตนจริง ๆ ทว่ายามนี้คำตอบของลั่วไห่ผิงกลับทำให้เข

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 356

    "มันคืออันใดกันพ่ะย่ะค่ะ?" ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่นบนโต๊ะอีกครั้ง "น่าจะเป็นถุงหอมนั้นแล" "ทีแรกข้าก็คิดว่ามันเป็นแค่ถุงหอมธรรมดา ทว่ายามนี้ลองนึกดูแล้ว ลั่วเยวี่ยอิงกับลั่วชิงยวนกลับมีปากเสียงกันอยู่หลายครั้งหลายคราเพราะถุงหอมใบนี้" "คราที่ลั่วชิงยวนเข้ามาในห้องตำราก็พยายามที่จะขโมยถุงหอม จนถึงขั้นคิดจักสังหารลั่วเยวี่ยอิงปิดปาก นี่แสดงให้เห็นว่าถุงหอมมีความสำคัญต่อนางมากเพียงใด!" "ชะรอยจักมีผู้บงการให้นางเอาถุงหอมใบนั้นมาให้ได้ตั้งแต่แรกแล้ว!" เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้ก็ให้รู้สึกตื่นตะลึง "ท่านอ๋องสงสัยว่า เป็นตระกูลเหยียนที่คอยยุยงปลุกปั่นกระนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ? ตระกูลเหยียนจับตามองพระชายาหลีมานานแล้ว!" "เช่นนั้นท่านอ๋องก็มิควรคืนถุงหอมให้แก่ลั่วเยวี่ยอิง! หากตระกูลเหยียนลงมืออีกครั้งล่ะก็..." ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้ว "ข้ามิอาจฝืนแย่งชิงเอาถุงหอมมาได้" เมื่อซูโหยวได้ยินเช่นนี้เข้าก็รู้สึกตื่นตะลึง "นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ท่านอ๋องยอมให้ท่านอัครเสนาบดีพาตัวพระชายาไปใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?" หลังจากเข้าใจเรื่องนี้แล้ว สีหน้าของซูโหยวก็ออกจะขรึมเคร่งขึ้นมาบ้าง จากนั้นเขาก็อดมิได้ที

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 357

    ทว่าลั่วไห่ผิงเพียงแค่นเสียงแล้วหันกลับไป "เจ้าคิดเอาเองเถอะ!" หลังจากเขาพูดจบก็ขึ้นรถม้าไปทันที ลั่วชิงยวนกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด ถึงแม้ว่าแม่นมกู้จะคอยรับใช้มารดาของนาง แต่นางเองก็เป็นแม่นมของลั่วไห่ผิงเช่นกัน! เขาเอ่ยวาจาไร้มนุษยธรรมเช่นนั้นออกมาได้อย่างไรกัน? ลั่วชิงยวนตระหนักได้ถึงความต่ำช้าไร้ยางอายของบิดาตนอีกครั้ง! รถม้าจอดนิ่งอยู่ตรงนั้นมิได้ขยับเขยื้อน ราวกับคาดว่านางจะต้องกลับมาจึงรอคอยนางอยู่ตรงนั้น ลั่วชิงยวนสะกดกลั้นโทสะแล้วเดินกลับไป เมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของจือเฉา ลั่วชิงยวนก็เอ่ยปากพูดสองสามคำ ถึงจะไม่มีเสียงดังขึ้นมา แต่นางก็หวังว่าจือเฉาจะเข้าใจ หลังจากกลับมาที่รถม้าก็นั่งลง ลั่วเยวี่ยอิงจึงยิ้มเยาะขึ้นมา "นับว่าเจ้ายังพอมีมโนธรรมอยู่บ้าง จึงมิได้ลากผู้บริสุทธิ์เข้ามาพัวพัน!" ลั่วชิงยวนเหลือบมองลั่วเยวี่ยอิงกับลั่วไห่ผิงด้วยสายตาเย็นชา "ข้ามีมโนธรรมอยู่แล้ว แต่พวกเจ้าสองพ่อลูกกลับหาได้เป็นเช่นนั้นไม่" "เจ้ายังปากดีอยู่อีกรึ? ข้าหวังว่าเจ้าจักปากดีต่อไปได้อีกก็แล้วกัน!" ลั่วเยวี่ยอิงโมโหเสียจนกัดฟันกรอด ๆ หากตอนนี้นางมิได้อยู่บนรถม้า

Bab terbaru

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1415

    โหยวเซียงกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบลั่วชิงยวนมองไปที่อวี๋โหรว หลายวันมานี้อวี๋โหรวผอมซูบไปมาก“เจ้าจับตัวอวี๋โหรวมาเพื่อล่อข้ามาที่นี่รึ?”ลั่วชิงยวนหรี่ตามองโหยวเซียง“แต่เจ้ามิน่าจะมีความสามารถพอที่จะพาอวี๋โหรวออกจากวังหลวงไปได้”“เวินซินถงเป็นคนทำใช่หรือไม่?”“เจ้าทำข้อตกลงอะไรกับนางไว้?”โหยวเซียงหัวเราะเยาะ “อยากรู้รึ?”“คุกเข่าอ้อนวอนข้าสิ”“เจ้าอ้อนวอนข้า ข้าถึงจะบอกเจ้าว่าผู้ใดจับตัวอวี๋โหรวมา และผู้ใดร่วมมือกับข้าวางแผนให้เจ้ามาที่เมืองแห่งภูตผี”ลั่วชิงยวนมองท่าทีหยิ่งยโสของโหยวเซียงแล้วก็อดมิได้ที่จะหัวเราะเบา ๆ นางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ แล้วถามว่า “ต่งอวิ๋นซิ่วมิมาด้วยรึ?”“เมื่อครู่นี้คนที่ต่อสู้กับข้าก็คือนางใช่หรือไม่?”เมื่อได้ยินน้ำเสียงเยาะเย้ยของลั่วชิงยวน โหยวเซียงก็โกรธจัด ในใจนางตกใจ ลั่วชิงยวนรู้แล้วหรือว่ามารดาของนางเป็นใคร“สารเลว!”นางบีบคออวี๋โหรวอย่างแรงเพื่อข่มขู่ลั่วชิงยวน “จะคุกเข่าหรือไม่?!”“ลั่วชิงยวน เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว!”“หากเจ้ามิยอมคุกเข่ายอมจำนนแต่โดยดี ข้าจะหักคอนางเดี๋ยวนี้!”กล่าวจบ โหยวเซียงก็ออกแรงบีบบีบจนอวี๋โหรวหาย

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1414

    ทันทีที่คนใบ้หันมาเห็นจึงรีบเข้ามาย่อตัวลงข้างนางแล้วช่วยประคองนางไว้ลั่วชิงยวนเช็ดเลือดที่มุมปาก ใบหน้าซีดเผือดกว่าเดิม“ข้ามิเป็นอะไร”นางเงยหน้าขึ้นมองอวี๋ตันเฟิ่งที่อยู่กลางอากาศ ในที่สุดจิตวิญญาณของนางก็สมบูรณ์แล้วบนใบหน้าซีดขาวนั้นปรากฏรอยยิ้ม รอยยิ้มนั้นทั้งพึงพอใจและเย่อหยิ่ง“ในที่สุดข้าก็ได้… เป็นอิสระแล้ว! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า...”อวี๋ตันเฟิ่งหัวเราะลั่น ทำเอาป่าทั้งผืนเกิดพายุโหมกระหน่ำคนใบ้รีบยกมือขึ้นช่วยลั่วชิงยวนปัดป้องฝุ่นและใบไม้ที่ปลิวว่อน......จู่ ๆ ต่งอวิ๋นซิ่วก็กระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้นหมดสติล้มลงบนพื้น“ท่านแม่!”โหยวเซียงตกใจ รีบเข้าไปประคองนาง “ท่านแม่! ท่านแม่! ท่านเป็นอะไรไป!”หลังจากตะโกนเรียกอยู่นาน มารดาของนางก็มิฟื้นโหยวเซียงโกรธจนกัดฟันพูด “ลั่วชิงยวน สารเลว!”“เจ้าคอยดูเถอะ!”......ผ่านไปครู่ใหญ่ อวี๋ตันเฟิ่งถึงจะสงบสติอารมณ์ลงได้ลมพายุในป่าก็สงบลงเช่นกันถูหมิงที่อยู่ข้าง ๆ จึงค่อย ๆ ขยับเข้ามาใกล้ฉีเสวี่ยเวยที่ยังคงตกตะลึงมองภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ด้วยความมิอยากเชื่อ “เมื่อกี้เกิดอะไรขึ้น?”“ต่อไปพวกเราต้องทำอะไร?”ลั่วชิงยวน

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status