공유

บทที่ 82

작가: หว่านชิงอิ๋น
เมื่อซูโหยวเห็นว่าบรรยากาศตึงเครียด เขาจะก้าวออกไปพูดจาโน้มน้าวผู้เป็นนายทันที "ท่านอ๋อง ที่ตำหนักยังมีคนที่ยังคลุ้มคลั่งและไม่ได้สติอีกไม่น้อย หากเรามิอาจจัดการเรื่องนี้ได้ คืนนี้อาจเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นก็เป็นพ่ะย่ะค่ะ

เมื่อได้เห็นความสามารถของลั่วชิงยวนในตอนนี้ ก็เห็นได้ชัดว่า ลั่วชิงยวนสามารถจัดการกับสิ่งที่ผู้อื่นมิอาจควบคุมได้ เขาเกรงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้จะมิใช่เหตุการณ์ปกติธรรมดา และคงไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะรับมือได้!

ฟู่เฉินหวนลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่ในที่สุดก็ไม่ถือสาเอาความลั่วชิงยวนอีก

เขาลดน้ำเสียงลง "ข้าจะไม่ถือสาเอาความเจ้าสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในตำหนัก"

“แต่ข้ามีข้อแม้...”

ก่อนที่ฟู่เฉินหวนจะทันได้พูดจนจบประโยค ลั่วชิงยวนก็หันหลังกลับและเดินออกไป นางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เวลาต้องการความช่วยเหลือ ท่านก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้รวดเร็วเสียจริง"

คำพูดเหน็บแนมเหล่านั้นทำให้ฟู่เฉินหวนกำหมัดแน่น

สิ่งที่ได้ยินทำให้หัวใจของซูโหยวเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นสายตาอาฆาตแค้นฉายอยู่ในดวงตาของผู้เป็นนาย เขาก็รีบเอื้อมมือไปคว้าแขนของฟู่เฉินหวนเอาไว้ "ท่านอ๋อง..."

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요
잠긴 챕터

관련 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 83

    หลังจากควันจางลง ชายคนนั้นก็ตื่นขึ้นและมองสถานการณ์ตรงหน้าด้วยความฉงนสงสัย "นี่มันเกิดอะไรขึ้น?""กลับไปที่ห้องของเจ้าซะ จงอยู่แต่ในนั้น คืนนี้อย่าได้ออกมาข้างนอกอีก" หลังจากที่ลั่วชิงยวนพูดจบนางก็ลุกขึ้นแล้วจากมา วิญญาณร้ายที่ถูกปล่อยออกมาจากอาคมชุมนุมปีศาจนี้มีพลังมหาศาล จนทำให้จิตใจผู้คนสับสนและทำให้พวกเขาเสียสติคลุ้มคลั่งราวกับถูกผีสิงแต่เมื่อนางมองลงไปในบ่อน้ำ นางก็ไม่คิดว่า เรื่องราวจะวุ่นวายได้ถึงขนาดนี้แม้ว่าพลังงานอันชั่วร้ายนั้นจะแข็งแกร่งไม่น้อยก็ตาม เป็นไปได้ไหมว่า… สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้มีสาเหตุมาจากสิ่งอื่น?ที่ลานกว้างเกิดเสียงดังอึกทึกขึ้นหลังจากที่ลั่วชิงยวนจากไป ทั่วทั้งลานเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ไม่เพียงแต่คนรับใช้เท่านั้นที่เสียสติ แต่องครักษ์ที่เข้ามาจับกุมคนพวกนั้นก็คลุ้มคลั่งตามไปด้วย พ่อครัวคนหนึ่งใช้มีดทำครัวเป็นอาวุธทำร้ายคนไปทั่วจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายต่อหลายคน กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วบริเวณประตูทางเข้าตำหนักถูกคนกลุ่มหนึ่งปิดตายเอาไว้ พวกเขาไม่กล้าเปิดมันออกไป และเซียวชูก็ง่วนอยู่กับการควบคุมผู้คนที่คุลุ้มคลั่งอยู่ที่เรือนชั้นในของ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 84

    สาวใช้กระซิบกระซาบกันแล้วกลับห้องของตนไปเมื่อแม่บ้านเติ้งได้ยินคำพูดเหล่านี้ นางก็อดมิได้ที่จะรู้สึกปลื้มปีติ ในที่สุดคนเหล่านี้ก็มีมุมมองที่ต่างออกไปต่อพระชายาเสียที แม่บ้านเติ้งและจือเฉาต่างกลับไปยังห้องพักของตัวเองด้วยเช่นกัน เซียวชูรีบวิ่งออกมาหลังจากรู้ว่า ลั่วชิงยวนปราบพวกที่คลุ้มคลั่งเหล่านั้นได้แล้ว เขาได้แต่ตกใจจนพูดไม่ออกลั่วชิงยวนเป็นฝ่ายที่ทำลายความเงียบขึ้นก่อน "เจ้าจับคนพวกนั้นได้กี่คน?"“นี่พ่ะย่ะค่ะ” เซียวชูให้คนพาคนที่กำลังคลุ้มคลั่งสองสามคนเข้ามาทันทีลั่วชิงยวนอดทนต่อความเจ็บปวดและวาดอักขระเวทย์ด้วยเลือดของตน ก่อนขับไล่วิญญาณชั่วร้ายออกไปอย่างสมบูรณ์ เซียวชูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง สิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่านั้นคือ คนที่ไม่ได้สติพวกนั้นตื่นขึ้นมาเป็นปกติได้ในทันทีตอนที่พวกเขาฟื้นคืนสติกลับมาได้ ลั่วชิงยวนก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง "ข้าเกรงว่า ยังมีคนที่คลุ้มคลั่งอยู่อีกมากในตำหนักอีก เราจำเป็นต้องหาพวกเขาให้พบ แล้วยิ่งปล่อยให้พวกเขาออกไปจากตำหนักนี้ไม่ได้อย่างเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น หากเรื่องวุ่นวายนี้บานปลายออกไปนอกตำหนักแล้วล่ะก็ มันจะสร้างปัญหาใหญ่หลวงให้เรา!"“ให้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 85

    “องค์ชายห้า ท่านรู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือไม่เพคะ?” ลั่วชิงยวนคิดว่า เขาคงได้รับผลกระทบจากวิญญาณร้ายเช่นกัน แต่เมื่อนางเข้าใกล้เขามากขึ้น นางก็ยังไม่เห็นวิญญาณชั่วร้ายอยู่รอบตัวเขาเลยแม้แต่น้อย“แค่ก แค่ก…” ฟู่อวิ๋นโจวไอเสียงแหบแห้งแล้วพูดว่า “มิใช่ข้าหรอก แต่เป็นหมอกู้ต่างหาก”“หมอกู้อย่างนั้นหรือ?” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วฟู่อวิ๋นโจวยืนขึ้นและพานางไปอีกห้องหนึ่งในเรือนทิศใต้ เมื่ออีกฝ่ายเปิดประตูเข้าไปกลิ่นสมุนไพรเข้มข้นก็ตีกระทบจมูกของนางอย่างหนักหน่วง จนทำให้นางอึดอัดและรู้สึกไม่ดีนัก ประตูและหน้าต่างภายในห้องนั้นถูกปิดเอาไว้ อากาศภายในไม่ถ่ายเทเลยแม้แต่น้อยหมอกู้นอนอยู่บนเตียงอย่างโรยแรง เมื่อเห็นคนเดินเข้ามา เขาก็หยัดกายขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนเอ่ยปาก "องค์ชายห้า… พระชายา..."ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนได้เต็มเท้า ร่างกายของเขาก็สั่นไหวและทำท่าจะล้มลงเด็กรับใช้รีบเข้าไปพยุงเขาอย่างรวดเร็ว“ท่านหมอกู้ เชิญนั่งลงก่อน ไม่ต้องมากพิธี ข้าเป็นคนขอให้พระชายามาดูอาการท่านเอง ดูเหมือนท่านจะถูกวิญญาณร้ายครอบงำอย่างไรอย่างนั้น” ฟู่อวิ๋นโจวกล่าวอย่างเคร่งขรึมถูกวิญญาณร้ายครอบงำอย่างนั้นหรือ?ลั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 86

    หลังออกจากเรือนทิศใต้มาแล้วลั่วชิงยวนก็ออกปากให้ฟู่อวิ๋นโจวส่งนางเท่านี้ ไม่ต้องถึงขั้นว่าอยู่ในห้องหับด้วยกันตามลำพังหรอก เพียงแค่เดินด้วยกันสองต่อสองยามค่ำคืนเช่นนี้หากว่ามีคนมาเห็นเข้าไม่แคล้วต้องโดนนำไปติฉินนินทาแน่ขณะที่เดินกลับเรือนตามลำพัง นางก็ครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างเกี่ยวกับท่านหมอที่ผิดปกติไป ท่านหมอกู้นั้นมีสถานะสูงส่งในตำหนักนี้ นอกจากห้องตำราของฟู่เฉินหวนแล้ว เขาสามารถไปไหนมาไหนได้ทุกที่ การไปที่เรือนของนางก็ไม่มีใครสนใจเช่นกันยิ่งไปกว่านั้นเขานั้นมีทักษะทางการแพทย์สูงส่งซึ่งสามารถปรุงยาที่ทำให้คนคลุ้มคลั่งได้อย่างง่ายดายน่าสงสัยยิ่งนัก!นางไม่รู้ว่าเขามีเจตนาที่จะทดสอบนาง หรือเขาขอให้นางช่วยกำจัดวิญญาณร้ายในร่างเพื่อบรรเทาอาการจริง ๆนางใช้วิธีการวาดอักขระเวทย์ให้เขา ไม่ว่าจุดประสงค์ของท่านหมอคืออะไร ก็ไม่ควรเป็นปัญหาดูเหมือนว่าจากนี้ไปนางจะต้องคอยจับสังเกตท่านหมอกู้ให้มากขึ้นบางทีเขาอาจจะเป็นปราชญ์ฮวงจุ้ยที่เร้นกายอยู่ในตำหนักก็เป็นได้ขณะที่นางกำลังเดินไปตามทางเดิน จู่ ๆ ก็มีเงาร่างสีดำโผล่มาตรงหน้า ใจนางเต้นระรัวและกำหมัด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 87

    นางพยายามกลั้นสะอื้นและกล่าวว่า “แล้วอย่างไร? ท่านอ๋องวางแผนจะจัดการกับหม่อมฉันเช่นไร?”ฟู่เฉินหวนสีหน้ามืดครึ้ม “ลั่วชิงยวน อย่ารนหาเรื่อง”“ข้าบอกตอนไหนว่าจะทำข้อตกลงกับเจ้า?”ลั่วชิงยวนสงบจิตใจลง แววตานางกลับเป็นเย็นชา นางมองเขาและถามเรียบ ๆ “ทำไมท่านอ๋องต้องแสร้งทำเป็นโง่ด้วย? ท่านรู้ดีอยู่แล้วมิใช่หรือว่าหม่อมฉันต้องการอะไร?”“นอกจากของของท่านแม่ หม่อมฉันก็ไม่ต้องการอย่างอื่น”ฟู่เฉินหวนนิ่วหน้า เขาเงียบไปชั่วครู่ก่อนที่จะเห็นด้วย “ตกลง”“แต่ข้าเองก็มีเงื่อนไข”ลั่วชิงยวนเลิกคิ้วอย่างเฉยชา ฟู่เฉินหวนพูดเสียงต่ำ ๆ ว่า “ประการแรก กำจัดค่ายกลชุมนุมปีศาจซะ”“สอง ห้ามจ้องเล่นงานเยวี่ยอิงอีก”“ตราบใดที่เจ้าทำตัวดี ข้าก็จะให้ถุงหอมเจ้า”เมื่อได้ยินเช่นนี้ลั่วชิงยวนก็กำมือแน่น นี่มันไม่ต่างกับมาทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจกันโดยที่นางไม่มีโอกาสได้ตอบโต้เลยใช่หรือไม่?“เงื่อนไขนี้ต้องดำเนินไปนานแค่ไหน?” นางถามพร้อมกัดฟันแน่น“ไม่มีเวลาแน่ชัด และข้าก็ไม่แน่ใจว่าจะให้ถุงหอมเจ้าตอนไหน” ขณะที่ฟู่เฉินหวนพูดเช่นนี้ สีหน้าเขาก็จริงจัง“ท่าน!” ลั่วชิงยวนผุดลุกขึ้นทันทีนี่มันจะมากเกิน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 88

    ลั่วชิงยวนกำมือแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าไปในเนื้อเพราะความขุ่นเคือง“องค์ชายห้ากับหม่อมฉันบริสุทธิ์ใจ! ระหว่างเราไม่เคยทำอะไรเกินเลยที่ไม่เหมาะสม”นางถามเสียงเย็น “ท่านอ๋องสิ พลอดรักกับลั่วเยวี่ยอิงทั้งต่อหน้าและลับหลังผู้คน เหตุใดท่านถึงไม่กลัวว่าจะโดนติฉินนินทาเรื่องนั้นบ้าง?”เส้นเลือดบนหน้าผากของฟู่เฉินหวนยิ่งเต้นกระตุกแรงขึ้น ดวงตาเขาเต็มไปด้วยโทสะและมือที่วางบนโต๊ะก็กำเป็นหมัดแน่น เขาเงยหน้าขึ้นมองด้วยแววตาเปี่ยมโทสะ “ตอนนี้เจ้ากล้ามาวิจารณ์ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับเยวี่ยอิงเช่นนั้นรึ? หากว่าไม่มีเจ้าตอนนี้เราก็ต้องได้ครองคู่กันแล้ว”“ลั่วชิงยวน ข้าหวังว่าเจ้าจะเจียมตัวกว่านี้นะ”ทันใดนั้นใจของนางก็บีบรัดจนแทบหายใจไม่ออก นางกำมือแน่นพยายามเก็บกลั้นความรู้สึกในใจใช่แล้ว การสวมรอยแต่งงานของนางนี้ทำลายการแต่งงานดี ๆ ของพวกเขาไปแต่นางไม่ควรต้องโดนกล่าวหาเช่นนี้หลังจากที่กล้ำกลืนความขมฝาดในใจลงไป นางก็มองเขานิ่ง ๆ ด้วยสายตาเย็นชาและเอ่ยว่า “หากเช่นนั้นได้โปรดคืนถุงหอมหม่อมฉันมาโดยเร็ว เพื่อที่หม่อมฉันจะได้มอบการแต่งงานที่ดีนี้คืนให้แก่พวกท่าน”หลังจากพูดจบนางก็หันหลังเดินออกไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 89

    ลั่วเยวี่ยอิงยกมือขึ้นแตะปากที่ยังคงบวมอยู่แม้ว่าจะทายาไปแล้ว นางเจ็บแค้นจนดวงตาวาวโรจน์ไปด้วยโทสะ ลั่วเยวี่ยอิงกัดฟันกรอดด้วยความเดียดฉันท์ “แล้วท่านอ๋องมิได้ลงโทษนางรึ?”เฉียงเวยพยักหน้า “นางได้ขับไล่ปีศาจ ดังนั้นแทนที่จะลงโทษนาง ดูเหมือนท่านอ๋องจะให้รางวัลนาง ทรงเรียกให้นางเข้าไปพบที่ห้องตำราแล้วอยู่ในนั้นกันนานเลยเจ้าค่ะ”ดวงตาของลั่วเยวี่ยอิงแดงฉาน เล็บมือจิกแน่นเข้าไปในเนื้อจนเลือดออกเพราะทั้งโทสะและความเกลียดชังเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกันท่านอ๋องปล่อยนางสารเลวลั่วชิงยวนไป ทั้ง ๆ ที่นางต้องเจ็บตัวขนาดนี้! ท่านอ๋องไม่เจ็บแค้นเอาคืนแทนนางเลยเหรอ?เฉียงเวยเห็นว่าสีหน้าของลั่วเยวี่ยอิงไม่ดี จึงรีบเอ่ยปลอบ “คุณหนูรองไม่ต้องเป็นกังวลหรอกเจ้าค่ะ ในใจท่านอ๋องมีแค่คุณหนูเท่านั้น แต่ตอนนี้นางฉกฉวยโอกาสสร้างความดีความชอบท่านอ๋องก็เลยลงโทษนางมิได้ ตอนนี้เราเองก็คงทำอะไรมิได้เจ้าค่ะ”“แต่ถึงอย่างไรท่านอ๋องก็ต้องยังคงจดจำถึงความลำบากที่คุณหนูรองต้องเผชิญได้ เรามาหาทางทำให้ท่านอ๋องรับรู้ดีกว่า บ่าวว่าท่านอ๋องต้องทำโทษนางแน่เจ้าค่ะ” ดวงตาเฉียงเวยฉายแววชั่วร้ายเมื่อได้ยินเช่นนี้ ลั่วเยวี่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 90

    ลั่วชิงยวนนอนหลับไปจนถึงบ่าย ตะวันโด่งฟ้าส่องแสงเจิดจ้า นางฝืนร่างกายที่เหนื่อยล้าให้ลุกขึ้นและตั้งใจจะออกไปนั่งอาบแดดแม่นมเติ้งนำอาหารและยาเข้ามาให้ “พระชายาเจ้าคะ ตื่นได้แล้ว กินอะไรสักหน่อยแล้วกินยา ยานี้เป็นโอสถบำรุงโลหิตที่ทางเรือนโอสถจ่ายมาให้เจ้าค่ะ”“โอสถบำรุงโลหิตงั้นรึ?” คนอย่างเขาก็มีจิตสำนึกเหมือนกันนะลั่วชิงยวนลุกนั่งและหยิบชามยาขึ้นมาดื่ม แต่หลังจากจิบไปอึกใหญ่ก็รู้สึกได้ว่า ยานั้นมีบางอย่างผิดปกติและรีบพ่นออกมานางนิ่วหน้าและวางชามยาลง อาการบวมและความเจ็บปวดของแผลบนแขนนางเกิดขึ้นมาทันที และเลือดก็ดูเหมือนจะเดือดพล่านซึมออกมาจากแผล“พระชายา เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ?” แม่นมเติ้งตกใจดวงตาลั่วชิงยวนเย็นเยียบ นางปรายตามองไปที่ยาในชาม นี่ไม่ใช่ยาบำรุงเลยแม้แต่น้อย ตัวยาที่อยู่ในนี้มีแต่จะทำให้บาดแผลอาการเลวร้ายลงและเลือดไหลออกมาได้อีกโดยเฉพาะเมื่อมีการเพิ่มแมลงเก้ากลิ่นซึ่งถือว่ารุนแรงมากเข้าไปด้วยหากว่านางกินน้ำแกงยาชามนี้เข้าไป ไม่เพียงแต่พลังชี่และเลือดของนางจะปั่นป่วน แต่บาดแผลของนางก็จะเปิดออกและเลือดจะไหลทะลักไม่หยุด ด้วยสภาพของร่างกายนางในตอนนี้หากไม่ตายก็คงจวนเจ

최신 챕터

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1424

    “ท่านอยู่ต่อ ส่วนคนอื่น ๆ ออกไปก่อนเถิด” ลั่วชิงยวนกล่าวกับชายชราจากนั้นคนอื่น ๆ ก็ทยอยออกไปชายชราลุกขึ้นเดินมายืนตรงหน้าลั่วชิงยวน “ท่านเจ้าเมืองมีสิ่งใดจะสั่งหรือขอรับ?”ลั่วชิงยวนถามว่า “บนเขาแห่งนี้มีคนมาแย่งชิงยาสมุนไพรไปจริงหรือ? ที่ส่งคนไปตามหา มีเบาะแสอะไรบ้างหรือไม่?”“มีคนมาจริง ๆ ขอรับ พรรคพวกของพวกมันมีประมาณสิบคนได้ แต่พวกมันหนีไปเร็วมาก ตอนนั้นทุกคนมัวแต่สนใจด้านหน้า ไม่มีใครสังเกตว่ามีคนบุกเข้าไปในคลังโอสถ”“พวกเขาถึงได้หนีรอดไปได้ขอรับ”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ยิ่งสงสัยว่าเป็นคนของสำนักเทียนฉยง และจงใจมาเป็นปฏิปักษ์กับนาง จึงได้ชิงบัวถวายไปก่อนมองดูชายชราตรงหน้าแล้ว ลั่วชิงยวนก็ยังมิเข้าใจเขาดีนักนางจึงถามว่า “บนหลังของท่านมีรอยประทับทาสหรือไม่?”เมื่อได้ยินดังนั้น ชายชราก็ตกใจเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้า “มีขอรับ”ลั่วชิงยวนรู้ว่าคำพูดของนางย่อมทำให้เขาเคลือบแคลงใจว่านางมิใช่อวี๋ตันเฟิ่งแต่นางก็มิได้คิดจะแสร้งเป็นอวี๋ตันเฟิ่งเพื่อเข้าควบคุมเมืองแห่งภูตผีแห่งนี้“ท่านควรรู้ว่าข้ามิใช่อวี๋ตันเฟิ่ง”ชายชราผู้นั้นอึ้งไป มิรู้ว่าจะพูดอย่างไรดี ในเมื่อ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1423

    หวังเพียงว่าจะกักขังโหยวจิ้งเฉิงไว้บนเขาได้ เพราะหากเขาไปสิงอยู่ในร่างผู้อื่นแล้วหนีลงเขาไปได้ก็จะเป็นเรื่องยุ่งยากเพียงแต่ในตอนนี้ นางไม่มีแรงพอที่จะไล่ตามแล้ว จึงไปหายาในคลังกับคนใบ้เมื่อไปถึง โฉวสือชีและอวี๋โหรวก็อยู่ที่นั่นอวี๋โหรวปรุงโอสถเสร็จแล้วโฉวสือชีกำลังค้นหาสมุนไพรอยู่ข้าง ๆ“เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” โฉวสือชีถามด้วยความเป็นห่วงลั่วชิงยวนส่ายหน้า “ข้ามิเป็นอะไร”โฉวสือชียื่นกล่องในมือออกมา แล้วพูดว่า “เจอโสมมังกรเพียงกิ่งเดียวเอง”ลั่วชิงยวนรับกล่องมา แล้วส่งให้คนใบ้ “รอจัดการเรื่องนี้เสร็จก่อน ข้าจะจัดยาให้เจ้าชุดหนึ่ง แม้จะมิสามารถรักษาอาการของเจ้าให้หายขาดได้ แต่ก็พอจะยืดชีวิตได้”คนใบ้พยักหน้า รับโสมมังกรมาด้วยสีหน้าซับซ้อนภายใต้หน้ากากโฉวสือชีกล่าวเสียงหนักแน่น “คลังโอสถนี่ใหญ่โตเกินไป ข้าหาบัวถวายมิเจอจริง ๆ”“และเมื่อดูแล้วในนี้ก็มีร่องรอยการถูกรื้อค้น ต่งอวิ๋นซิ่วคงมิได้หลอกพวกเรา บัวถวายคงถูกใครบางคนชิงไปแล้ว”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ขมวดคิ้วแน่น “บังเอิญเกินไปแล้ว บัวถวายถูกชิงไปตอนที่เรามาถึงพอดี”“แถมยังถูกกวาดไปจนเกลี้ยง”“สมุนไพรอื่นก็มิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1422

    ร่างที่ไร้ศีรษะร่างหนึ่งถือกระบี่เดินเข้ามาหาลั่วชิงยวน โซ่เหล็กด้านหลังลากคนสามคนไว้แม้จะออกแรงสุดกำลังแล้วก็ยังฉุดรั้งโหยวจิ้งเฉิงไว้มิได้แต่ร่างของโหยวจิ้งเฉิงในตอนนี้ไม่มีศีรษะแล้ว ยากที่จะควบคุมร่างกายได้ลั่วชิงยวนถือกระบี่เงื้อฟันไปยังร่างของฝูเหมิ่ง เช่นเดียวกับตอนที่โหยวจิ้งเฉิงตัดแขนขาของอวี๋ตันเฟิ่งนางกำลังแก้แค้นและระบายความแค้นอย่างบ้าคลั่งตัดแขนของเขาขาดทีละข้างกระบี่ห้วงสวรรค์ร่วงลงสู่พื้นไปพร้อมกับแขนจากนั้นขาทั้งสองข้างของเขาก็ขาดกระเด็นอวี๋ตันเฟิ่งอาละวาดแก้แค้นอย่างบ้าคลั่งเมื่อมองไปยังซากศพที่กองอยู่บนพื้น ดวงตาของลั่วชิงยวนก็ราวกับถูกย้อมไปด้วยสีแดงฉานใต้หล้าเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดทั้งสามที่อยู่มิไกลต่างตกตะลึงมิเคยเห็นฉากที่นองเลือดเช่นนี้มาก่อนแต่ถึงแม้ร่างกายจะแหลกละเอียด โหยวจิ้งเฉิงก็ยังมิตายทันใดนั้นมีร่างหนึ่งพุ่งออกมาจากซากศพ แล้วลอยละลิ่วไปอวี๋ตันเฟิ่งกรีดร้องแหลม “โหยวจิ้งเฉิง เจ้าอย่าหวังว่าจะหนีไปไหนได้อีก! ข้าจะทำให้เจ้ามิได้ผุดได้เกิด!”พลังในร่างของนางพลันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเป็นลมพายุโหมกระหน่ำ ลั่วชิงยวนรู้สึกราว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1421

    ใบหน้านั้นบ่งบอกชัดเจนว่าเป็นโหยวจิ้งเฉิง“ต่อไปก็ถึงตาพวกเจ้าแล้ว” เขาเอ่ยด้วยเสียงแหบแห้งเย็นเยือกโฉวสือชีกำกระบี่ในมือแน่น ปกป้องคนใบ้และอวี๋โหรวไว้ส่วนลั่วชิงยวนค่อย ๆ ก้าวเท้าไปข้างหน้าในดวงตาค่อย ๆ ก่อเกิดจิตสังหารนางหลับตาลง แล้วกล่าวว่า “อวี๋ตันเฟิ่ง ไปแก้แค้นของเจ้าเถิด”ลั่วชิงยวนมอบร่างของตนให้อวี๋ตันเฟิ่งโดยสมบูรณ์เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของนางยังคงเป็นใบหน้าเดิม เพียงแต่แววตานั้นกลับดุดันยิ่งนัก ดวงตาสีแดงก่ำเต็มไปด้วยความแค้นเสียงของอวี๋ตันเฟิ่งดังขึ้น “โหยวจิ้งเฉิง ความแค้นระหว่างข้ากับเจ้า วันนี้ถึงคราวสะสางแล้ว”“สิบกว่าปีที่ผ่านมา ข้าคิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ อย่างไรถึงจะสาสมกับความแค้นในใจข้า”“แต่คาดมิถึงว่าเจ้าจะตายไปแล้ว”“แต่ก็มิเป็นไร วันนี้ข้าจะฉีกร่างเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ ให้ได้!”เมื่อกล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็กระโจนเข้าไปเสียงอาวุธปะทะกันอย่างรุนแรงดังขึ้นแต่ในเวลานี้เอง โหยวจิ้งเฉิงก็พุ่งไปยังกำแพง คว้ากระบี่ห้วงสวรรค์มาได้ จากนั้นกระโจนออกนอกห้องไปอวี๋ตันเฟิ่งรีบไล่ตามไปสีหน้าคนใบ้เปลี่ยนไป กระบี่ห้วงสวรรค์! หากฝูเหมิ่ง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1420

    ต่งอวิ๋นซิ่วตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบยกมือขึ้นมาป้องกัน แล้วต่อสู้กับฝูเหมิ่งแต่พลังในตอนนี้ของต่งอวิ๋นซิ่วเทียบกับฝูเหมิ่งแล้วยังอ่อนแอกว่ามากนักสุดท้ายก็ถูกฝูเหมิ่งบีบคอไว้แน่นลั่วชิงยวนเห็นชัดเจนว่าในร่างของฝูเหมิ่งตอนนี้คือโหยวจิ้งเฉิง!เขาเป็นบ้าไปแล้วหรือ? เขาจะฆ่าต่งอวิ๋นซิ่วภรรยาของตนหรือ?เมื่อเห็นดังนั้น โหยวเซียงก็ชักกระบี่พุ่งเข้าไปหมายจะช่วยต่งอวิ๋นซิ่ว แต่ฝูเหมิ่งกลับมิหลบเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้กระบี่ในมือนางแทงทะลุร่างจากนั้นฝูเหมิ่งก็ฟาดมือไปทีหนึ่ง โหยวเซียงจึงกระเด็นปลิวไปโหยวเซียงกระอักเลือดออกมาต่งอวิ๋นซิ่วร้อนใจยิ่งนัก “เซียงเอ๋อร์ มิต้องสนใจแม่ รีบหนีไป!”โหยวเซียงจะทนมองดูมารดาของตนถูกฆ่าได้อย่างไร นางพยายามลุกขึ้นมาสู้ต่อแต่ฝูเหมิ่งกลับมองโหยวเซียงอย่างดุดัน แล้วกล่าวขู่ “คนที่ข้าต้องการฆ่ามีเพียงต่งอวิ๋นซิ่วเท่านั้น เจ้าจงหลีกไป”“มิเช่นนั้นอย่าหาว่าข้ามิเห็นแก่ความเป็นพ่อลูก”เมื่อได้ยินดังนั้น โหยวเซียงก็ตกใจจนยืนอึ้งไปกับที่ แล้วกล่าวเสียงสั่นเครือ “พ่อ… พ่อลูกหรือ?”ตอนนี้เสียงของฝูเหมิ่งก็มิใช่เสียงของฝูเหมิ่งอีกต่อไปแล้วเมื่อต่งอวิ๋นซิ่ว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1419

    ขณะนี้เอง โหยวเซียงก็ฉวยโอกาสหลบหนีจากมือของลั่วชิงยวนไปได้ต่งอวิ๋นซิ่วมองพวกเขาอย่างเย็นชา “ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้วก็เตรียมตัวตายได้เลย!”ทันใดนั้นบนคานเรือนก็ปรากฏชายชุดดำจำนวนมากพร้อมถือหน้าไม้เล็งมาที่พวกเขาลูกดอกอันคมกริบประกายแสงเย็นลั่วชิงยวนยกยิ้มมุมปาก หัวเราะอย่างเย็นชา “ดูเหมือนว่าเจ้าจะเตรียมการมาอย่างดี ตอนนี้พวกข้าคงหนีออกจากห้องนี้ไปมิได้แล้วใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนสังเกตประตูห้อง รวมถึงผนังห้องทุกด้าน แล้วพบว่ามีกลไกบนประตูเหนือศีรษะ ต่งอวิ๋นซิ่วหัวเราะเบา ๆ “แน่นอน นี่คือห้องกลไกที่สร้างขึ้นมาเพื่อรับมือพวกเจ้าที่บุกรุกเข้ามาบนเขา”“วันนี้พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะได้ออกไปแม้แต่คนเดียว!”ลั่วชิงยวนจับกระบี่ห้วงสวรรค์แน่นแล้วพุ่งไปที่กลไกจุดหนึ่งบนผนังห้อง ฟาดฟันกระบี่ลงไปอย่างแรงต่งอวิ๋นซิ่วรีบดึงโหยวเซียงหลบหลีกไปแต่ใครเล่าจะรู้ว่าลั่วชิงยวนมิได้โจมตีพวกนาง แต่กลับฟันกลไกบนผนังห้องทำให้ประตูห้องลงกลอนอย่างสมบูรณ์เมื่อเห็นเช่นนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็หัวเราะเยาะ “เจ้าช่างรนหาที่ตายยิ่งนัก”ลั่วชิงยวนยกยิ้มอย่างมีความหมาย “เช่นนั้นรึ? ยังมิรู้เลยว่าใครกันแน่ที่จะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1418

    ร่างที่เดินออกมาจากฝูงชนนั้นมีท่าทางคุกคามยิ่งนักลั่วชิงยวนหรี่ตาลงเล็กน้อย นั่นคือสตรีที่นางเห็นในความทรงจำของอวี๋ตันเฟิ่งต่งอวิ๋นซิ่ว!โหยวเซียงดิ้นรนพลางเงยหน้ามองต่งอวิ๋นซิ่วด้วยดวงตาแดงก่ำ “ท่านแม่… เป็นความผิดของลูกเองที่ปล่อยให้พวกมันขึ้นเขามาได้”หากมิใช่เพราะลั่วชิงยวนรู้ทางลับของวัดร้างแห่งนั้น พวกนางคงไม่มีทางขึ้นเขามาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้!ต่งอวิ๋นซิ่วมองด้วยความเจ็บปวดแล้วตวาดใส่ลั่วชิงยวน “ปล่อยลูกสาวข้าเดี๋ยวนี้! มิเช่นนั้นข้าจะทำให้พวกเจ้าตายเยี่ยงไร้ที่ฝัง!”ลั่วชิงยวนหัวเราะเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม “เมื่อคืนยังพยายามทำลายวิญญาณที่เหลือของอวี๋ตันเฟิ่งอยู่เลย วันนี้เจ้าลืมไปแล้วหรือว่าศัตรูของเจ้าคือใคร?”“ใครกันแน่ที่จะตายแบบไร้ที่ฝัง ยังบอกมิได้หรอก”เมื่อได้ยินดังนั้น ต่งอวิ๋นซิ่วก็สะดุ้งเฮือก สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากท่าทางของนางดูตึงเครียดขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังพยายามซ่อนไว้ได้ดีนางมองลั่วชิงยวนอย่างใจเย็น แล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงเมืองแห่งภูตผี ก็คงต้องการของล้ำค่าของเมืองแห่งภูตผีสินะ”“พวกเจ้าอยากได้อะไร ข้าสามารถให้เจ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1417

    นางปฏิเสธอย่างหนักแน่นลั่วชิงยวนกลับยกยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วค่อย ๆ ลุกขึ้น “พานางไปด้วย ไปวัดร้าง!”พวกเนางมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ โหยวเซียงดิ้นรนตลอดทาง แต่โฉวสือชีและคนใบ้จ้องมองทุกการกระทำของนางอย่างใกล้ชิด มิเปิดโอกาสให้นางหลบหนีไปได้แม้แต่น้อยเมื่อเดินไปได้ไกลมากพอสมควร เสียงไก่ขันยามรุ่งอรุณก็ดังขึ้นแล้วในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวัดร้างแห่งนั้นในวัดร้างมีพระพุทธรูปที่เป็นซากปรักหักพังล้มลงบนพื้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีใครมานานแล้วเมื่อมองหาอย่างละเอียดก็พบรอยเท้าบนพื้นลั่วชิงยวนมั่นใจยิ่งขึ้น นี่คือสถานที่ที่ถูกต้อง!โหยวเซียงจ้องมองทุกการกระทำของลั่วชิงยวนอย่างกระวนกระวาย เกรงว่าลั่วชิงยวนจะพบกลไกเข้าแต่ลั่วชิงยวนกลับสังเกตปฏิกิริยาของโหยวเซียง ค่อย ๆ เดินไปในแต่ละที่โดยอาศัยการสังเกตปฏิกิริยาโหยวเซียงสุดท้ายลั่วชิงยวนจึงเพ่งเล็งไปที่ผนังด้านหนึ่งแล้วเริ่มค้นหากลไกเสียงเปิดกลไกดังแกร๊กดังขึ้นประตูบานหนึ่งบนพื้นพลันเปิดออกหลังจากที่ลั่วชิงยวนเปิดประตูแล้วก็พบว่าด้านล่างยังมีประตูอีกบานหนึ่ง และบนนั้นก็มีกลไกเช่นกันแต่สำหรับลั่วชิงยวนแล้วเรื่องนี้ง่ายมากเมื่อประต

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1416

    “เจ้ารีบอะไรนักหนา รอมาตั้งนานแล้ว รออีกสักหน่อยจะเป็นกระไร”เมื่อได้ยินดังนั้น อวี๋ตันเฟิ่งก็หยุดมือลั่วชิงยวนเดินเข้าไปคว้าตัวโหยวเซียงไว้ให้โฉวสือชีมัดนางไว้แน่นหนา จากนั้นจึงปลุกโหยวเซียงให้ฟื้นขึ้นมาเมื่อฟื้นคืนสติ โหยวเซียงก็จ้องหน้าลั่วชิงยวนเขม็งอย่างโกรธแค้น “เจ้ากล้าจับข้า เจ้าคอยดูเถอะว่าจะตายอย่างไร!”ลั่วชิงยวนย่อตัวลงนั่งตรงหน้านาง แล้วหัวเราะเบา ๆ “ใช่แล้ว ใครจะกล้าแตะต้องคุณหนูใหญ่เมืองแห่งภูตผีเล่า”“น่าเสียดาย เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้ บิดามารดาของเจ้าไปปล้นเขามา มิใช่ของพวกเขามาแต่เดิม ย่อมมิใช่ของเจ้าเช่นกัน”“ถึงเวลาคืนเจ้าของตัวจริงแล้ว”โหยวเซียงจ้องเขม็งนางอย่างโกรธแค้น “เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไร! เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้เป็นของบิดามารดาข้ามาแต่เดิม!”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจ “หรือว่าต่งอวิ๋นซิ่วมิได้บอกความจริงแก่เจ้า”“ก็ถูกแล้ว เรื่องน่าอับอายเช่นนี้ นางจะบอกลูกสาวได้อย่างไร”“เมืองแห่งภูตผีแห่งนี้มิใช่เพียงถูกบิดามารดาเจ้ายึดมาเท่านั้น แต่ยังใช้วิธีการที่น่ารังเกียจในการยึดครองด้วย!”“เดาว่าจนถึงตอนนี้เจ้าก็คงยังมิรู้เลยว่าศัตรูของเจ้าคือผ

좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status