แชร์

บทที่ 3

ผู้เขียน: หว่านชิงอิ๋น
แม่นมเติ้งร้องขึ้นอย่างตกใจ “อุ๊ย คุณหนูรอง มือของคุณหนู!”

นางรีบเข้าไปประคองลั่วเยวี่ยอิง พลางก่นด่า “ท่านช่างเป็นหญิงที่ร้ายกาจนัก แย่งงานแต่งคุณหนูรองไปแล้ว คุณหนูยังใจดีป้อนยาให้ ท่านยังกล้าผลักคุณหนูอีก!”

ทันใดนั้น ร่างหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้อง ปรี่ไปที่ลั่วเยวี่ยอิงด้วยหน้าตาที่ตื่นตระหนก “เยวี่ยอิง!”

ลั่วเยวี่ยอิงขมวดคิ้ว และยกฝ่ามือที่เปื้อนเลือดของนางขึ้น ทำให้ผู้ที่มองเห็นรู้สึกสงสารยิ่งนัก

ฟู่เฉินหวนมองไปที่มือของลั่วเยวี่ยอิงที่เต็มไปด้วยเลือด ก่อนจะมองไปที่ลั่วชิงยวนด้วยสายตาอาฆาต

ลั่วชิงยวนรีบพูดขึ้นทันที “หม่อมฉัน…”

แต่ยังไม่ทันที่จะได้อธิบาย ก็มีเงาปกคลุมมาที่นางก่อนที่ร่างของนางจะถูกกระชากลงมาจากเตียง จนล้มตัวลงกับพื้น ยังไม่ทันที่จะได้ทรงตัว มือใหญ่ก็ตวัดลงมาอย่างแรง

ทันใดนั้น ในหัวของนางก็เกิดเสียงอื้ออึงขึ้น ก่อนจะรู้สึกแสบร้อนและระบมที่แก้ม

ยังไม่ทันที่นางจะได้สติ ลั่วเยวี่ยอิงรีบคว้าแขนเสื้อฟู่เฉินหวน และขอร้องอ้อนวอน “ท่านอ๋องข้ามิระวังเอง อย่าโทษท่านพี่เลยเพคะ!”

แม่นมเติ้งรีบฟ้องท่านอ๋องทันที “ท่านอ๋อง หม่อมฉันเห็นกับตาว่า คุณหนูรองป้อนยาให้ แต่พระชายามิรับน้ำใจมิพอ นางยังผลักคุณหนูอีก ถึงแม้ว่าคุณหนูรองจะจิตใจดีมิเอาเรื่อง แต่ก็ใช่ว่าจะมารังแกคุณหนูแบบนี้ได้นะเพคะ!”

“พาคุณหนูรองออกไปทำแผล” ฟู่เฉินหวนสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เพคะ” แม่นมเติ้งพยุงลั่วเยวี่ยอิงแล้วพาจากไป

ในห้องเหลือเพียงลั่วชิงยวนและฟู่เฉินหวน เขาก้มลงมองนางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาต นิ้วเย็นเฉียบบีบคางของนางอย่างรุนแรง หากนิ้วนี้อยู่บนคอของลั่วชิงยวนในตอนนี้ นางคงถูกบีบคออย่างแน่นอน

“คิดว่าตัวเองเป็นพระชายาจริง ๆ อย่างนั้นรึ? ถ้าหากมิใช่ลั่วเยวี่ยอิงขอเอาไว้ ข้าคงฆ่าเจ้าไปนานแล้ว! ถ้ายังมีครั้งต่อไป มือไหนที่เจ้าทำร้ายนาง ข้าจะตัดมือนั้นของเจ้าทิ้งซะ!”

น้ำเสียงของฟู่เฉินหวนเต็มไปด้วยความโกรธ และคำพูดของเขาก็รุนแรงจนหัวใจของคนฟังสั่นสะท้าน

ลั่วชิงยวนปิดแก้มที่ร้อนผ่าว นางเย้ยหยันด้วยสายตาพลางพูดขึ้นว่า “ตาคู่ไหนของท่านที่มองเห็นว่าข้าทำร้ายนาง!”

“แม่นมเติ้งเป็นพยาน เจ้ายังจะกล้าเถียง?!” ฟู่เฉินหวนทั้งตกใจ ทั้งโกรธที่ผู้หญิงคนนี้เรียนรู้ที่จะเถียง! แต่ก็ไม่แปลก ผู้หญิงคนนี้มีจิตใจที่ชั่วร้าย แต่ตอนนี้นางได้ถูกเปิดโปงจนหมดแล้ว

ลั่วชิงยวนโกรธมากจนทนไม่ไหว นางไปหาเรื่องใครกัน ตั้งแต่มานี่ก็ถูกทุบตีเลยทันที

นางสังเกตใบหน้าของฟู่เฉินหวน ลักษณะใบหน้าที่คมชัดและลึกล้ำ ดวงตาเรียวยาวสวยงาม ดั้งจมูกสูงและตรง คิ้วดูเหมือนมังกรที่เงยหัวขึ้นเล็กน้อย มันเป็นความสง่างาม

แต่น่าเสียดายที่เขาจะอยู่ได้เพียงไม่นาน

“คนที่ตัดสินคนจากรูปร่างหน้าตา ไม่น่าแปลกใจเลยที่หัวใจของเขาจะมืดบอด ดวงตาของท่านอ๋องแดงก่ำ จุดยิ้นถาง(1)มีประกายแดง เป็นคนที่โกรธโมโหง่าย หน้ามืดตามัว และจะมีการนองเลือดในอนาคตอันใกล้นี้! ท่านถูกผู้หญิงบังตา ดังนั้นระวังจะตายด้วยน้ำมือของสตรี!”

นางเป็นนักบวชผู้เป็นที่เคารพนับถือแห่งแคว้นหลี่ ผู้เชี่ยวชาญด้านการอ่านโหงวเฮ้ง และนางไม่เคยพลาดเลยแม้แต่ครั้งเดียว!

เมื่อดูจากการปกป้องลั่วเยวี่ยอิงของฟู่เฉินหวนด้วยแล้ว นางกล้ายืนยันได้เลยว่า ฟู่เฉินหวนจะถูกลั่วเยวี่ยอิงปลิดชีพอย่างแน่นอน

เนื่องลั่วเยวี่ยอิงไม่ได้อยากจะอภิเษกสมรสกับเขา! มิเช่นนั้นนางจะขอให้ลั่วชิงยวนแต่งงานแทนทำไมกัน?

หากไม่ได้ความร่วมมือจากลั่วเยวี่ยอิง ลั่วชิงยวนก็ไม่สามารถที่จะเข้ามาในตำหนักอ๋องที่มีการป้องกันแน่นหนานี้ได้อย่างราบรื่น ยิ่งไปกว่านั้น ยิ่งไม่สามารถทำร้ายเจ้าสาวที่อยู่ในห้องหอได้อย่างแน่นอน

ใครจะรู้ว่า เมื่อฟู่เฉินหวนได้ยินนางพูดเป็นนัยว่า ลั่วเยวี่ยอิงมีส่วนเกี่ยวข้อง สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา ก่อนจะเอื้อมมือไปบีบคอนาง และพูดเสียงเหี้ยม “เจ้าคงอยากให้ข้าตัดลิ้นเจ้ารึ?!”

น้ำเสียงที่เหี้ยมเกรียมนั้น ทำให้นางรู้สึกเย็นวาบไปถึงกระดูกสันหลัง

ในขณะนั้นเอง ลั่วชิงยวนรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก และมีสิ่งคาวหวานพุ่งออกมาจากลำคอ เลือดกระฉูดออกมาเต็มปาก

เลือดสีแสดงสาดใส่เสื้อผ้าของฟู่เฉินหวน

เขาจ้องมองลั่วชิงยวนที่สำลักเลือด พลางขมวดคิ้วมุ่น เค้ายังไม่ได้ทำอะไรนางเลยด้วยซ้ำ

เขาถามขึ้นเสียงเย็น “เจ้าจะเล่นเล่ห์อะไรอีก!”

นางเคยแกล้งปลิดชีพตัวเองไปแล้วครั้งหนึ่ง อยากทำตัวน่าสงสารให้เขาเห็นใจ ไม่รู้ว่าครานี้จะเล่นเล่ห์อะไรอีก เขารังเกียจผู้หญิงที่ไม่ซื่อสัตย์เหล่านี้ที่สุด!

เมื่อได้ยินคำถามของเขา ลั่วชิงยวนก็หัวเราะขึ้นอย่างเย้ยหยัน นางเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยสายตาเย็นชา “เล่นเล่ห์งั้นรึ? คำถามนี้ของท่านอ๋องควรเก็บไว้ตรัสถามลั่วเยวี่ยอิงดีกว่าหรือไม่เพคะ? ท่านตรัสถามนางสิว่า เอาอะไรให้หม่อมฉันกิน แล้วท่านก็จะเข้าใจเอง!”

คำพูดของลั่วชิงยวนนั้นเฉียบคม รุนแรง และเต็มไปด้วยความโกรธ

แต่ฟู่เฉินหวนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกไม่พอใจในน้ำเสียงของนาง เขาหรี่ตาลงและมองไปที่ชามยาที่แตกอยู่บนพื้น

เมื่อเห็นสีหน้าของเขา ลั่วชิงยวนคิดว่าเขากำลังวิเคราะห์ว่า ลั่วเยวี่ยอิงอาจะทำร้ายนางจริง

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาของเขาก็กวาดมองกลับไปที่นางอย่างไม่แยแส “ไม่ว่านางจะให้เจ้ากินอะไรก็ตาม นั่นก็เป็นสิ่งที่เจ้าเรียกร้องเอง!”

คำพูดคำเดียวของเขา ทำให้ลั่วชิงยวนรู้สึกเหมือนถูกโยนลงไปในเหวลึกทันที

นางมองเขาอย่างเหลือเชื่อ

“เจ้าเป็นคนทำร้ายก่อน ไม่ว่านางอยากระบายความโกรธอย่างไร เจ้าก็จงน้อมรับมันซะ!” ฟู่เฉินหวนค่อย ๆ เอามือไพล่หลัง

ชายผู้นั้นมีรูปร่างสูงใหญ่ ยามยืนนิ่ง ๆ ดูราวกับเทพเจ้า แต่ในขณะนี้ ในสายตาของลั่วชิงยวน เขาเหมือนกับยักษ์ร้ายที่ต้องการกินเลือดกินเนื้อนาง

“ถ้านางต้องการชีวิตของหมอ่มฉันล่ะ?” ลั่วชิงยวนถามขึ้นอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม คำตอบของชายคนนั้นไม่ได้ทำให้นางผิดหวัง “เช่นนั้นข้าจะเป็นคนยื่นมีดให้นางเอง”

ทันใดนั้น ลั่วชิงยวนกลับรู้สึกเจ็บปวดใจ เนื่องความแค้นของเจ้าของร่างเดิมยังไม่หายไป อารมณ์ที่รับมิได้ทำให้นางเจ็บปวดเป็นอย่างมาก และร่างกายของนางก็ดูเหมือนจะตอบสนองตามธรรมชาติ จึงอดมิได้ที่จะร้องไห้ออกมา นางพยายามกัดฟันกลั้นน้ำตา

มันไม่คุ้มที่จะร้องไห้ให้กับผู้ชายที่ได้ไม่รักนาง!

ฟู่เฉินหวนเมื่อเห็นความอดทนของนาง ดวงตาของนางยังคงเป็นสีแดงก่ำ เมื่อพยายามกลั้นน้ำตาด้วยลักษณะที่ดื้อรั้นและไม่ยอมใคร เขาขมวดคิ้วและมองไปทางอื่น

เขาหันหลังกลับอย่างไม่แยแส ทิ้งไว้เพียงประโยคเย็นชา “ลั่วชิงยวน เจ้าจงจำเอาไว้ ในเมื่อเจ้ากล้าแต่งงานแทน ชีวิตก็ไม่ใช่ของเจ้าอีกต่อไป!”

เมื่อสติกลับมา ลั่วชิงยวนเงยหน้าขึ้น ชายคนนั้นก็หายไปแล้ว

นางกำนิ้วมือแน่นและกัดฟันอย่างโกรธจัด

พูดจาช่างไร้สาระ!

ลั่วชิงยวนตัวจริงได้ตายไปแล้ว แม้ว่านางจะยกโทษให้มิได้ แต่นางก็จะชดใช้มันด้วยชีวิตของนาง!

ชีวิตเป็นของนางเท่านั้น!

จุดยิ้นถางคือ จุดที่ระหว่างหัวคิ้วทั้งสองข้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1545

    ทั้งสองฝ่ายต่างชักกระบี่ออกมา จ้องมองหน้ากันด้วยความเป็นศัตรูลั่วชิงยวนเห็นว่าพวกเขากำลังจะต่อสู้แย่งชิงตำแหน่งแม่ทัพคนต่อไปแต่นางไม่มีเวลาให้เสียไปอีกแล้ว“แม่ทัพจี้ ข้ามีธุระอื่น เรื่องที่นี่ข้าขอฝากท่านไว้ ไม่มีปัญหาใช่หรือไม่?”ลั่วชิงยวนถามจี้เฉียนตอบตกลงโดยมิลังเล “ไม่มีปัญหา!”จากนั้นลั่วชิงยวนก็พาโฉวสือชีและหุ่นเชิดสองตัวรีบออกจากจวนตระกูลฉีไปวังเหิงมองแผ่นหลังของลั่วชิงยวนที่ออกไปอย่างโกรธเคือง “จับตัวพวกนั้นมา! อย่าให้ออกไปได้!”ในขณะที่วังเหิงเงื้อกระบี่ฟาดฟัน จี้เฉียนก็รีบพุ่งเข้าไปขวางวังเหิงไว้ทั้งสองฝ่ายเข้าสู่การต่อสู้อย่างดุเดือดในทันทีส่วนพวกลั่วชิงยวนนั้นฉวยโอกาสช่วงชุลมุนหนีออกไปมิไกลนัก จูลั่วและสือโท่วกำลังพาคนมาสมทบสือโท่วถามด้วยความร้อนใจ “คุณหนูเล่า? คุณหนูใหญ่อยู่ที่ใด?”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว “ฉีอวี้มิได้อยู่ที่นั่น”“ขบวนเจ้าสาวที่เราเห็นบนถนนก่อนหน้านี้น่าจะเป็นฉีอวี้!”การที่ใช้ฉีอวี้ข่มขู่ลั่วชิงยวนให้มาติดกับดักเป็นเพียงกลลวงเท่านั้นประการแรกคือ เพื่อถ่วงเวลา ประการที่สองคือ เพื่อสังหารลั่วชิงยวน“สือโท่ว เจ้าไปหาที่ปลอดภัย จัดการสองคนนี้ไว้ก่อน จำไ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1544

    ลั่วชิงยวนจ้องมองนายท่านฉีด้วยสายตาคมกริบพลางกำกระบี่ในมือแน่น ในดวงตาฉายแววมุ่งสังหาร“จะรอดชีวิตไปได้หรือไม่มิใช่ท่านเป็นคนตัดสิน!”กล่าวจบ ลั่วชิงยวนก็มองโฉวสือชี “ไปมัดสองคนนี้ไว้”“อย่าให้พวกเขาลุกขึ้นยืนได้”โฉวสือชีพยักหน้า เขารีบไปหาเชือกแล้วจับหุ่นเชิดสองตัวที่ยังดิ้นรนอยู่บนพื้นมัดไว้แน่นลั่วชิงยวนเงื้อกระบี่พุ่งเข้าใส่นายท่านฉีอย่างดุร้ายน่าเกรงขามนายท่านฉีรีบลงมือโต้กลับ เข้าต่อสู้กับลั่วชิงยวนขณะนั้นเอง เสียงฝีเท้าดุดันก็ดังมาจากภายนอกในวินาทีต่อมา จวนตระกูลฉีก็ถูกล้อมไว้ทั้งหมดประตูใหญ่ก็ถูกถีบเปิดออกโฉวสือชีเพิ่งมัดหุ่นเชิดทั้งสองเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นพร้อมกำกระบี่แน่นด้วยท่าทางตื่นตัวเห็นบุรุษสวมเกราะนำผู้คนเดินเข้ามาด้วยท่าทางดุดันนายท่านฉีปัดฝ่ามือของลั่วชิงยวนออก แล้วกล่าวอย่างสงบ “แม่ทัพจี้ ในที่สุดเจ้าก็มาถึงแล้ว”“ใครก็ได้ จับสตรีผู้นี้ให้ข้า!”นายท่านฉีออกคำสั่งทว่าแม่ทัพจี้กลับไพล่มือไว้ด้านหลังพลางยกยิ้มโดยมิได้สั่งการ ไม่มีผู้ใดสนใจนายท่านฉีเลย“จี้เฉียน! ลงมือสิ!” นายท่านฉีตวาดด้วยความโกรธทว่าจี้เฉียนกลับโบกมือ ทหารที่อยู่ด้านหลังก็วิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1543

    “เช่นนั้นฉีอวี้ก็ยังมีชีวิตอยู่!”ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในใจพลันเกิดข้อสันนิษฐานหนึ่งขึ้นมาจากนั้นทั้งสองก็ลุกขึ้น รีบไปดูคนที่อยู่ในโลงศพในขณะที่เปิดโลงศพ ลั่วชิงยวนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกเป็นบิดาของฉีอวี้ เจ้าเมืองฉีเพิ่งจะถอนหายใจอย่างโล่งอก จู่ ๆ คนในโลงศพก็ลืมตาขึ้นมา แล้วยื่นมือทั้งสองข้างออกมาบีบคอของลั่วชิงยวนทันใดนั้นก็พุ่งกระโดดออกมาจากโลงศพลั่วชิงยวนถูกบีบคอจนถอยกรูดออกไป ก่อนจะถูกอีกฝ่ายใช้แรงมหาศาลกระแทกเข้ากับกำแพงเต็มแรงเมื่อมองเจ้าเมืองฉีที่อยู่ตรงหน้า ปรากฏว่าดวงตาของเขาแดงก่ำขุ่นมัว เต็มไปด้วยโทสะ ไร้ซึ่งสติสัมปชัญญะโดยเฉพาะที่คอของเขา มีรอยเย็บปะติดปะต่อกัน แสดงว่าหัวนี้ถูกเย็บติดกลับไปเขามิใช่มนุษย์แล้วมือที่บีบคอของนางนั้นออกแรงมาก ลั่วชิงยวนใกล้จะหายใจมิออกแล้วส่วนโฉวสือชีก็ประสบสถานการณ์เดียวกัน บัดนี้ทั้งสองถูกบีบคอติดกำแพงจึงดิ้นมิหลุดในเวลานั้นเอง นายท่านฉีก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งเขาเดินเข้ามาอย่างสง่าผ่าเผยพร้อมกับหัวเราะเยาะ “ลั่วชิงยวน พวกเจ้ามิได้มาช่วยฉีอวี้หรอกรึ หากพวกเจ้ากล้าสังหารบิดามารดาของฉีอวี้ ข้าจะดูว่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1542

    ด้วยการปิดล้อมของผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ วันนี้ลั่วชิงยวนย่อมต้องตายเป็นแน่!ทว่าสิ่งที่นายท่านฉีและฮูหยินฉีคาดมิถึงคือ กระบี่เพลิงรักในมือของลั่วชิงยวนนั้นทรงพลังยิ่งนักเมื่อลูกธนูนับหมื่นพุ่งเข้ามา ลั่วชิงยวนก็กวาดกระบี่เพลิงรักในมือออกไปฟันลูกธนูนับมิถ้วนขาดสะบั้นทันใดปราณกระบี่สั่นสะเทือนทำให้ลูกธนูที่พุ่งมาสะท้อนกลับไปมีผู้คนล้มลงด้วยคมธนูในทุกทิศทางโฉวสือชีปกป้องฉีอวี้ไว้ทั้งกายเมื่อฮูหยินฉีเห็นภาพนั้นก็ตกใจมาก แล้วตวาดว่า “พวกไร้ค่า!”“นำธนูมา!”ฮูหยินฉีหยิบธนูขึ้นมา แล้วเล็งไปที่ลั่วชิงยวนทันใดนั้น ลูกธนูก็พุ่งเข้ามาโฉวสือชีอุทาน “ระวัง!”สายตาของลั่วชิงยวนเปลี่ยนเป็นเย็นชา นางหันกายวูบหนึ่ง คมธนูในดวงตาพลันขยายใหญ่ขึ้นนัยน์ตาของลั่วชิงยวนเย็นชา ร่างกายเปี่ยมจิตสังหาร ชักกระบี่ฟันออกไปอย่างแรงนางคว้าปลายคมธนูไว้ แล้วหันกายโยนกลับไป พลังโจมตีอันดุดันพุ่งตรงเข้าใส่ฮูหยินฉีฮูหยินฉีกำลังจะยิงลูกธนูดอกที่สอง แต่ถูกคมธนูที่หักแล้วปักเข้าที่ไหล่อย่างแรงร่างกายทรงตัวมิอยู่ พลันถอยหลังไปหลายก้าว“ฮูหยิน!” นายท่านฉีตกใจ รีบเข้าไปประคองฮูหยินฉี“ฆ่านาง! จัดการ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1541

    “หากมีคนฉลาดก็จะรู้เองว่าควรทำเช่นไร”ท้ายที่สุดแล้ว ฉีเฮ่าก็สิ้นชีพด้วยน้ำมือเฉินชี เหล่าแม่ทัพนายกองในค่ายทหารอวิ๋นโจวย่อมจ้องมองตำแหน่งแม่ทัพในเวลานี้ การเลือกข้างในยามนี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตในภายหน้าของพวกเขาจูลั่วพลันเข้าใจ “ได้ ข้าจะไปบัดเดี๋ยวนี้”จากนั้นลั่วชิงยวนก็มองโฉวสือชี “เจ้าไปบุกเข้าตระกูลฉีกับข้า”“ให้สือโท่วคุมคนไปรอรับอยู่ด้านนอกตระกูลฉี”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นลั่วชิงยวนก็มาถึงหน้าประตูใหญ่ของตระกูลฉีหน้าประตูใหญ่ที่ไร้ผู้คนกลับแฝงไว้ด้วยบรรยากาศที่เคร่งขรึมอย่างน่าประหลาดลั่วชิงยวนผลักประตูใหญ่เข้าไปทันทีในลานอันกว้างใหญ่มีโลงศพสองใบตั้งอยู่ บนโครงไม้มีสตรีผมเผ้ายุ่งเหยิงเปื้อนเลือดถูกมัดไว้ นางหมดสติไปแล้วบริเวณโดยรอบมีกองฟืนอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่งทันทีที่ก้าวเข้าสู่ประตูใหญ่ ลมที่พัดเข้ามาก็แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายโหดเหี้ยมทั้งสองเดินเข้าไปทางประตูใหญ่ ในพริบตาเดียวประตูก็ปิดลงองครักษ์นับสิบชีวิตปรากฏตัวขึ้นจากทุกสารทิศ ล้อมพวกเขาไว้ในทันทีเบื้องหน้ามีชายหญิงวัยกลางคนแต่งกายหรูหราเดินเข้ามา ทั้งสองคือบิดามารดาของฉีเฮ่าดวงตาของพวกเขาที่มองลั่วชิงยวนน

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1540

    “เจ้าอยู่ในตระกูลฉีนานเท่าใดแล้ว คุ้นเคยกับตำแหน่งที่ตั้งของตระกูลฉีหรือไม่?” ลั่วชิงยวนถามจูลั่วตอบว่า “คุ้นเคย”จากนั้นจูลั่วก็วาดแผนที่เมืองอวิ๋นโจวแบบง่าย ๆ และแผนที่ของจวนตระกูลฉีแบบละเอียด แล้วมอบให้ลั่วชิงยวนหลังจากลั่วชิงยวนจดจำแผนที่ได้แล้วก็มอบแผนที่ให้โฉวสือชี“วันพรุ่งเมื่อเข้าไปในเมืองอวิ๋นโจวแล้ว จงติดต่อคนของเราให้พร้อมก่อน สือโท่วเป็นคนในเมืองอวิ๋นโจว เขาย่อมคุ้นเคยกับที่นี่ ถึงเวลานั้นก็ให้เขาพลิกแพลงตามสถานการณ์”“ต้องช่วยฉีอวี้ออกมาให้ได้”โฉวสือชีพยักหน้าจากนั้นทั้งสามก็รอจนฟ้าสาง แล้วจึงตามขบวนคาราวานของเถ้าแก่จี้เข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวคืนนั้นอวิ๋นเฟิงก็มิกลับมา การที่ฉีอวี้ถูกจับตัวไปย่อมเป็นฝีมือเขาแน่นอนคณะเดินทางเข้าสู่เมืองอวิ๋นโจวได้อย่างราบรื่นบนถนนคึกคักเป็นพิเศษ มีเสียงฆ้องกลองดังขึ้นและมีขบวนเจ้าสาวกำลังเดินสวนมาท่าทางโอ่อ่าสง่างาม ผู้คนตามท้องถนนต่างหลีกทางไปสองข้างกลีบดอกไม้ปลิวว่อนไปทั่วฟ้า ขบวนทั้งหมดมีคนนับร้อยเกี้ยวเจ้าสาวหรูหราอลังการ ผ้าคลุมหน้าประดับลูกปัดระยิบระยับแกว่งไกวส่งเสียงกังวานเพียงแต่มองเห็นเงาร่างในเกี้ยวได้มิชัดเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status