Share

บทที่ 4

ดวงตาของนางแดงก่ำ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความเย็นชา

นางปิดประตู ยกมือขึ้นกดหน้าอกที่ยังปวดอยู่ พลางเดินกลับไปนั่งทำสมาธิบนเตียง

การมาเข้ามาอยู่ในร่างนี้ นางแทบจะไม่มีพละกำลัง

นางคือนักบวชที่ทุกคนต่างเคารพในแคว้นหลี่ นอกเหนือจากทักษะพิเศษด้านฮวงจุ้ย การอ่านโหงวเฮ้ง และการทำนายดวงชะตาแล้ว นางยังมีวรยุทธที่น่าเกรงขาม แบบหนึ่งต่อร้อย

เมื่อนึกถึงตรงนี้ นางก็คิดถึงร่างกายของตนเองเป็นอย่างมาก นางฝึกฝนวรยุทธตั้งแต่ยังเด็ก เส้นลมปราณของนางค่อนข้างแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป ข้ารับใช้เหล่านี้ไม่สามารถจะกลั่นแกล้งนางได้

น่าเสียดาย บัดนี้ร่างกายของนางน่าจะถูกเผาเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว…

พอกลับมาที่ห้องตำรา ฟู่เฉินหวนขมวดคิ้วมุ่น เขารู้สึกหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูก

ซูโหยวเดินมาเคาะประตู “ท่านอ๋อง คืนนี้ยังจะส่งชายพวกนั้นไปแกล้งขู่คุณหนูลั่วอีกหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

พอได้ยิน ฟู่เฉินหวนก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นไปอีก “ช่างเถอะ”

เมื่อคืนนี้เขาได้สั่งสอนนางไปแล้ว หากขู่นางอีก นางคงแกล้งปลิดชีพตนไม่จบไม่สิ้นเสียที

และถ้าหากนางตายขึ้นมาจริง ๆ คงจะรายงานกับจวนอัครเสนาบดีได้ยาก

ซูโหยวพยักหน้ารับ “พ่ะย่ะค่ะ”

……

ฟึ่บบ

บานประตูถูกเปิดออก แสงสลัวส่องเข้ามาในห้อง

พระอาทิตย์ตกดินแล้วหรือนี่

นางรับใช้แสนสวยเดินเข้ามาในห้องด้วยท่าทางยโส เย้ยหยัน “พระชายา นี่ท่านอยากจะเป็นนางฟ้าอย่างนั้นหรือเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนที่นั่งไขว่ห้างอยู่ลืมตาขึ้น ดวงตาของนางเย็นชาและเฉียบคม

เพียงสบตา เมิ่งจิ่นอวี่ก็รู้สึกร้อนตัวเล็กน้อย

นางยกมือขึ้นมาทักทาย พลางถือสำรับเดินเข้ามาอย่างเชื่องช้า “พระชายาไม่ได้กินอะไรเลยทั้งวัน คงจะหิวน่าดู นี่คือความเมตตาจากท่านอ๋องที่มีต่อท่านเจ้าค่ะ”

เหล่านางรับใช้ถือถาดเข้ามาทีละคน และในถาดก็เต็มไปด้วยหมั่นโถว

“กินเถิดเพคะ กินเสร็จแล้วยังมีงานที่ต้องทำเจ้าค่ะ” เมิ่งจิ่นอวี่มองนางอย่างมีความหมาย ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

หลังจากพูดจบ นางก็ก้าวออกจากห้องไป เมื่อเดินไปถึงประตู ไม่วายหันกลับมาจ้องลั่วชิงยวนด้วยสายตาดุร้าย

นางเฝ้ารอมานานหลายปีแล้ว ต้องการที่จะเป็นนางรับใช้ของท่านอ๋อง หากลั่วเยวี่ยอิงได้เป็นพระชายา นางก็จะกลายเป็นสาวรับใช้ท่านอ๋องในคืนนี้!

อีกนิดเดียวความฝันของนางก็จะได้กลายเป็นจริง แต่กับโดนผู้หญิงคนนี้ทำลาย!

น่าเกลียดขนาดนี้ ยังเหมาะจะเป็นพระชายาหรือ? ถุย!

ลั่วชิงยวนได้กลิ่นหอมของหมั่นโถวนึ่งร้อน ๆ ท้องของนางก็ร้องขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ นางหิวมากจริง ๆ

หมั่นโถวก็หมั่นโถวสิ การกินหมั่นโถวสักสองสามคำคงไม่ทำให้นางติดคอตายหรอก

นางลุกขึ้นเดินไปนั่งที่มุมโต๊ะหยิบหมั่นโถวขึ้นมาหนึ่งลูก ก่อนจะกัดและเคี้ยวสองครั้ง ใบหน้าของนางเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน และคายมันออกมาทันที

นางหยิบหมั่นโถวที่อยู่บนจานใกล้ ๆ ขึ้นมาดมทีละอัน พวกมันถูกใส่ยาทั้งหมด!

​​ผงมหาสุข มันสามารถสร้างภาพหลอนที่รุนแรง และสามารถอยู่ได้นานถึงสี่ชั่วโมง จะทำให้คนที่กินมันเข้าไปเห็นแต่คนที่นึกถึงในใจ โดยไม่แยกแยะรูปร่างหน้าตาว่าเป็นคนหรือสัตว์

เมื่อคืนนี้ใช้กำยาน คืนนี้เปลี่ยนมาใช้ผงมหาสุข

เป็นเพราะว่าวันนี้นางทำร้ายลั่วเยวี่ยอิง ฟู่เฉินหวนถึงได้เกลียดนางเข้าไปอีก ดังนั้นจึงใช้วิธีแก้แค้นที่เลวร้ายแบบนี้อย่างนั้นรึ!

ท่านอ๋องแห่งแคว้นเทียนเชวียนั้นดุร้ายอย่างที่เล่าลือกันจริง ๆ

หมั่นโถวโดนใส่ยาทั้งหมด นางไม่สามารถกินมันเข้าไปได้ จึงทำได้เพียงอดทนกับความหิวเท่านั้น

มีแสงเย็นวาบเกิดขึ้นมาในดวงตาของนาง ฟู่เฉินหวนต้องการทรมานนาง แต่นางไม่ใช่ลั่วชิงยวนที่ยอมเชื่อฟังทุกอย่าง!

นางซ่อนหมั่นโถวสามลูกไว้ใต้เตียง ทำทีว่ากินหมั่นโถวเข้าไปแล้ว

ในความเงียบ มีเสียงทุบตีและดุด่าจากลานด้านนอก และมีเสียงแผ่ว ๆ ของแม่นมเติ้ง นางสงสัยจึงเดินตามเสียงออกไป

​และเห็นแม่นมเติ้งถูกนางรับใช้หลายคนลุมเตะอย่างทารุณ นางร้องอ้อนวอนด้วยความเจ็บปวด “แม่นางจิ่น แม่ของข้าป่วยหนัก เกรงว่าจะไม่ไหวแล้ว ข้าต้องรีบกลับไปจริง ๆ หากท่านตบตีระบายความโกรธข้าเสร็จแล้ว ได้โปรดอนุญาตให้ข้าออกไปนอกตำหนักด้วยเถิดนะเจ้าคะ?”

เมิ่งจิ่นอวี่กอดอก และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ยังไม่ทันตายเสียหน่อย! ตายแล้วค่อยว่ากัน!”

แม่นมเติ้งกระวนกระวายมาก นางรีบคว้าแขนเสื้อของเมิ่งจิ่นอวี่ พลางขอร้อง “แม่นางจิ่น ข้าขอร้องล่ะนะ! ข้าขอร้อง…”

“ถอยไป!” ในระหว่างที่ฉุดกระชากกันอยู่นั้น แขนเสื้อของเมิ่งจิ่นอวี่ก็ขาด และนางก็เตะหน้าอกแม่นมเติ้งอย่างรุนแรง พร้อมทั้งด่ากราด “นังหญิงชรา! เจ้ารู้หรือไม่ว่าเสื้อตัวนี้แพงแค่ไหน! เอาเจ้าไปขายยังชดใช้มิได้เลย! ถุย! หญิงชราเช่นนี้ขายให้ใครก็ไม่มีใครเอา!”

ลั่วชิงยวนมองดูด้วยความโกรธ นางรับใช้คนนี้เป็นคนที่ให้หมั่นโถวกับนาง ทำไมถึงได้ทำเยี่ยงนี้?

แถมยังกล้าเตะแม่นมเติ้งอีกด้วย

แม่ของแม่นมเติ้งป่วยหนัก และนางต้องการกลับบ้าน ขัดขวางมิให้กลับก็แล้วไป แต่อายุปูนนี้แล้วยังโดนทำให้อับอายขายขี้หน้าเช่นนี้อีก!

นางมิได้มีจิตใจแม่พระ แต่ก็ไม่สามารถมองคนโดนทุบตีจนตายได้

“หยุดเดี๋ยวนี้!” ลั่วชิงยวนเอ่ยเสียงกร้าว พลางก้าวออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางผลักนางรับใช้สองสามคนที่กำลังเตะแม่นมเติ้งออกไป

เมื่อเห็นนาง เมิ่งจิ่นอวี่ก็เงยหน้าขึ้นทันที แสดงท่าทางเย่อหยิ่งก่อนจะพูดออกมาเสียงเย็น “พระชายานี่ยุ่งไม่เข้าเรื่องเสียจริง ท่านทำร้ายเจ้าสาวตัวจริง แล้วยังมายุ่งเรื่องการสั่งสอนบ่าวไพร่ของข้าอีก ถ้าพระชายาใจดีเยี่ยงนี้ เหตุใดมิทำความสะอาดห้องน้ำทั้งหมดในตำหนัก เพื่อให้คนรับใช้ได้พักผ่อนล่ะเจ้าคะ?”

ลั่วชิงยวนไม่แสดงสีหน้าใด ๆ นางยกฝ่ามือขึ้นมาตวัดลงไป พลางกล่าวเสียงเย็น “ไพร่อย่างเจ้ากล้าดีอย่างไรมาใช้ข้า? ไปเอาความกล้านี้มาจากที่ใดกัน!”

ข้อดีของขนาดร่างกายนาง ตบของลั่วชิงยวนนั้นค่อนข้างทรงพลัง ทำเอาร่างของเมิ่งจิ่นอวี่นั้นลอยออกไปไกล ก่อนจะหมุนอยู่สองสามรอบ กว่าร่างนั้นจะทรงตัวได้ นางรับใช้ต่างอุทานอย่างตกใจ พลางคว้าแขนของนางเอาไว้

นางรับใช้ตกตะลึงกับการกระทำนี้ แม่นมเติ้งเองก็ตกใจเช่นกัน

เมิ่งจิ่นอวี่รู้สึกไม่อยากเชื่อ เมื่อนางทรงตัวได้ก็เงยหน้าขึ้น ใบหน้านางมีรอยนิ้วมือห้านิ้ว และเลือดไหลซึมออกมาจากมุมปาก "ท่านตบข้างั้นรึ?!!"

“ท่านมันผู้หญิงสารเลว! ท่านอ๋องยังมิทรงกล้าตีข้าด้วยซ้ำ ท่านบังอาจตบข้า?” เมิ่งจิ่นอวี่จ้องมอง และก่นด่าด้วยความโกรธ

ลั่วชิงยวนเลิกคิ้ว "โอ้? เจ้าเป็นคนร่ำรวยอะไรขนาดนั้นเชียวรึ แม้แต่ท่านอ๋องยังมิทรงกล้าตบเจ้า?"

เมื่อถูกลั่วชิงยวนจี้ด้วยคำพูด หน้าของนางก็ถอดสี “ข้า…”

เมื่อสติกลับมา เมิ่งจิ่นอวี่ก็จ้องหน้านางด้วยความโกรธ “เจ้ามันผู้หญิงสารเลว แค่ได้ชื่อว่าพระชายา เจ้าก็นึกว่าตัวเองเป็นพระชายาจริง ๆ แล้วรึ? อยู่ในตำหนักนี้ เจ้ามันต่ำกว่าสัตว์เสียอีก! กล้าที่จะรุกรานข้า จงเตรียมตัวไว้เถอะ!”

เมิ่งจิ่นอวี่ยกมือขึ้นปิดแก้ม จ้องมองนางด้วยความโกรธก่อนจะเดินจากไป

กล้าตบนางหรือ? คืนนี้จะต้องทำให้นังผู้หญิงสารเลวคนนี้ได้เห็นดีแน่

ทั้งเมิ่งจิ่นอวี่และนางรับใช้เดินออกไปแล้ว แม่นมเติ้งพยายามลุกขึ้น โดยที่ร่างกายเต็มไปด้วยความเจ็บปวด

ลั่วชิงยวนอยากจะกลับหลังเดินหนีไป แต่เมื่อเห็นแขนที่แกว่งไปมาของแม่นมเติ้ง นางก็แน่ใจว่าแขนของแม่นมเคลื่อน

นางก้าวไปข้างหน้าทันที และกดไหล่ขวาของแม่นมเติ้ง

การกระทำของนางทำให้แม่นมเติ้งตกใจกลัว และพยายามดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง “นี่ท่านจะทำอะไร! ปล่อยข้านะ!”

“อย่าขยับ แขนของเจ้าเคลื่อนแล้ว” ลั่วชิงยวนเอ่ยเสียงดุ

แม่นมเติ้งมองนางด้วยความประหลาดใจ นางมิอยากจะเชื่อเลยว่า ลั่วชิงยวนมิได้มาที่นี่เพื่อสร้างปัญหา

นางใช้โอกาสตอนที่แม่นมเติ้งยังไม่ได้สติดี ลั่วชิงยวนพบตำแหน่งที่ถูกต้อง และดึงแขนกลับอย่างเรียบร้อย

เสียงกระดูกลั่นดังขึ้น ใบหน้าของแม่นมเติ้งซีดเผือดด้วยความเจ็บปวด นางกัดฟันแน่น

“เรียบร้อยแล้ว”

เมื่อได้ยินแบบนั้น แม่นมเติ้งรู้สึกประหลาดใจยิ่งนัก นางจึงลองขยับแขนดู กลายเป็นว่ามันหายแล้วจริง ๆ !

แม่นมเติ้งมองลั่วชิงยวนอย่างไม่เชื่อสายตา “ท่าน…ทำไมท่านถึงช่วยข้า?”

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status