โชคดีที่องค์ชายเย่ถูกเผยอวี้ประคองไปอยู่ตรงมุมจึงเลี่ยงจากการถูกพลังทั้งสองกระแสนี้พัดพาไปแต่ถึงเป็นเช่นนั้น เสาที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็หักลงมาล้มทับเขาเช่นกันเขาเห็นว่าเรือนที่เผยอวี้พุ่งเข้าไปพังทลายลงมา และเผยอวี้ถูกฝังอยู่ข้างในด้วย!แล้วเขาก็เห็นว่าหลิงอวี๋ถูกโจมตีกระเด็นออกไปเช่นกัน!อีกทั้งเขายังเห็นลำแสงสองกระแสที่พัดอยู่กลางอากาศอีกด้วยจิตใจขององค์ชายเย่ว่างเปล่า เขารู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างนี้ล้วนมิใช่ความจริง!นี่ยังเป็นวรยุทธ์อยู่หรือ?นี่มันเป็นเวทมนตร์ชัด ๆ!ใต้หล้านี้จะมีผู้ฝึกยุทธ์ที่แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ได้อย่างไรกัน!เขารู้สึกว่ามันเหลือเชื่อมาก!เขารู้สึกว่าตนกำลังฝันอยู่ ดังนั้นจึงได้เห็นภาพที่แปลกประหลาดและมีมนต์ขลังนี้องค์ชายเย่ตกอยู่ในภวังค์ ลืมไปแล้วว่าตนติดอยู่ใต้เสา จนกระทั่งได้ยินเสียงร้องที่ใจสลายของจูหลานดังมาจากข้างนอก“องค์ชาย… เซียวหลินมู่ ท่านตอบหม่อมฉันสิเพคะว่าท่านยังมีชีวิตอยู่...”ในที่สุดองค์ชายเย่ก็ได้สติแล้วตะโกนออกไป “หลานหลาน ข้ายังมีชีวิตอยู่ รีบเข้ามาช่วยข้าที… ไม่สิ ช่วยเผยอวี้ก่อน เขาติดอยู่ใต้เรือนนั้น!”องค์ชายเย่พูดไปก็ดิ้นรนไ
อวี๋เฮ่าวางกำลังพลไว้ค้นหาเผยอวี้ต่อไป แล้วพวกเขาก็พาเถาจื่อกับหานเหมยที่ยังคงหมดสติรีบกลับไปที่เมืองหลวงซี่โครงขององค์ชายเย่ถูกหลิงซวนพันผ้าพันยึดไว้ให้หลิงซวนยังป้อนน้ำหญ้าวานรให้เขาอีกหนึ่งขวดด้วยองค์ชายเย่มิกล้าพักผ่อน เขาพยุงร่างที่บอบช้ำแล้วให้อวี๋เฮ่าหาคนไปส่งจดหมายให้รองแม่ทัพของตน ให้เขานำทหารมารอคุ้มกันที่หน้าประตูเมืองในเวลาเดียวกันอวี๋เฮ่าก็ส่งจดหมายถึงท่านอ๋องเฉิง ให้คนของเขาจับตาดูองค์ชายคังไว้ด้วยหากพระชายาคังกล้าไปพาตัวองค์ชายคังออกจากราชสำนักฝ่ายใน ก็ให้สังหารองค์ชายคังเสียก่อนเช่นนี้แล้วหากพระชายาคังจะเริ่มต้นการรบก็จะไม่มีชื่อเสียงมากพอ และมิสามารถยึดตำแหน่งมังกรได้ง่ายดายถึงเพียงนั้นอวี๋เฮ่ายังส่งคนไปส่งจดหมายถึงหลี่ว์เซียงให้เตรียมพร้อมรับมือทางด้านจูหลานก็มิได้ว่างเช่นกัน นางดูแลองค์ชายเย่พลางวางแผนกลยุทธ์ให้อวี๋เฮ่าไปด้วย“ครั้นเข้าเมืองไป จะต้องสร้างความตื่นตระหนกอย่างแน่นอน ส่งคนไปปะปนอยู่ในฝูงชนแล้วบอกทุกคนว่าฮองเฮาทรงได้รับบาดเจ็บ นี่คือสิ่งที่มิอาจปกปิดได้!”“แต่ต้องบอกทุกคนว่า อาการบาดเจ็บของฮองเฮามิรุนแรง พักรักษาตัวสักสองวันก็จะออกมาได้แ
แม่ทัพผู้มากประสบการณ์คนหนึ่งเอ่ยอย่างตรงไปตรงมากับผู้ส่งสารของไท่เฟยเส้า“หากตอนนี้ได้รับการยืนยันว่าฮองเฮาสิ้นพระชนม์แล้ว พวกเราก็จะไปช่วยองค์ชายคังได้อย่างถูกต้อง!”“แต่ก่อนหน้านั้น โปรดยกโทษให้พวกข้าที่มิสามารถทำอะไรได้ด้วยเถิด!”สิ่งที่แม่ทัพเหล่านี้พูดเป็นเรื่องจริง มิว่าหลิงอวี๋จะถูกผู้ใดสังหาร พวกเขาสามารถใช้ข้ออ้างว่า แคว้นมิอาจขาดจักรพรรดิไปได้แม้วันเดียวมาทำการเสนอให้องค์ชายคังได้ดูแลเรื่องบ้านเมืองได้!เมื่อเป็นเช่นนี้แม้ว่าเซียวหลินเทียนจะบุกกลับมา พวกเขาก็ทำไปเพื่อประโยชน์ของฉินตะวันตกทว่าหากฉวยโอกาสตอนหลิงอวี๋มิอยู่ช่วยไท่เฟยเส้าวางแผนยึดวังหลวงก็จะมีข้อหาวางแผนแย่งชิงบัลลังก์เป็นชนักติดหลัง!องชายคังจะมีความสามารถในการต่อสู้กับเซียวหลินเทียนหรือไม่ก็มิรู้ แล้วเหตุใดพวกเขาจึงต้องเอาชีวิตของครอบครัวตนไปผูกไว้กับเรือของเขาด้วยเล่า?นี่คือราคาที่ต้องจ่ายด้วยเลือดของครอบครัวใหญ่ แม่ทัพเหล่านี้มิอาจเดิมพันได้!เมื่อเห็นว่ามิสามารถโน้มน้าวเหล่าแม่ทัพได้ ไท่เฟยเส้าจึงทำได้เพียงพาเหยียนเฟิงหลานชายของตนบุกวังด้วยตนเองนางคิดว่าตนจะยึดวังหลวงไว้ก่อน รอให้ข่าวการตายของหลิ
ไท่เฟยเส้าเอ่ยอย่างจริงจังและจริงใจจนท่านอ๋องเฉิงมิรู้ว่าจะตอบอย่างไรจูหลานกังวลว่าท่านอ๋องเฉิงจะมิสามารถทนต่อการโจมตีของไท่เฟยเส้าได้ แล้วจะประนีประนอมตอบตกลงไป จึงดึงองค์ชายเย่อยู่ก่อนยามนี้เมื่อเห็นว่าท่านอ๋องเฉิงกำลังลำบาก จูหลานจึงผลักองค์ชายเย่แล้วขยิบตาให้เขาจูหลานรู้ดีถึงบุญคุณความแค้นของไท่เฟยเส้ากับหลิงอวี๋ยามนี้หลิงอวี๋ควบคุมวังหลังอยู่ หากไท่เฟยเส้าฉวยโอกาสที่หลิงอวี๋บาดเจ็บมายึดอำนาจการจัดการของวังหลังไป สถานการณ์ของหลิงอวี๋จะยิ่งแย่ลงไปอีกพวกเถาจื่อไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของไท่เฟยเส้าได้ ไท่เฟยเส้าจะต้องกำจัดพวกนางแน่!องค์ชายเย่นึกถึงคำสั่งที่หลิงอวี๋บอกกับตนก่อนหน้านี้ จึงเปิดม่านรถม้าแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา“ไท่เฟยเส้า กระหม่อมขอบคุณในความห่วงใยต่อราษฎรและแคว้นแทนฮองเฮาด้วย!”“แต่การที่ให้ท่านไปอยู่ที่ศาลบูรพกษัตริย์เป็นพระราชโองการขององค์จักรพรรดิ ฮองเฮาเองก็มิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ท่านรีบกลับไปที่ศาลบูรพกษัตริย์จะดีกว่า!”“อย่าได้กังวล อาการบาดเจ็บที่ฮองเฮาได้รับนั้นน้อยนิด พักฟื้นสองวันก็มิเป็นอะไรแล้ว! มีพระชายาของกระหม่อมอยู่ดูแลพระนางแล้ว มิรบกวนท่านแล้วพ่
หลิงซวนมองไปไกล ๆ ด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ พวกไท่เฟยเส้าเดินไปไกลแล้วจากนั้นนางก็พูดอย่างขมขื่นด้วยเสียงต่ำ “ฮองเฮายังมิทรงฟื้นเจ้าค่ะ สิ่งที่พูดเมื่อครู่นั้นหลี่ว์เซียงสอนมาเจ้าค่ะ… รับมือกับสถานการณ์ตรงหน้าก่อน!”“หากวันพรุ่งฮองเฮายังมิทรงฟื้น มิว่าเราจะแต่งเรื่องโกหกอะไรก็มิสามารถหยุดไท่เฟยเส้ามิให้นำคนเข้าวังได้แล้วเจ้าค่ะ!”เมื่อจูหลานได้ยินดังนั้น ก็รู้สึกราวกับว่าหัวใจตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง!“เข้าไปก่อนเถิดเจ้าค่ะ! พระชายาเย่ ประเดี๋ยวหมิ่นกูจะมาพบท่าน ท่านช่วยนางจัดการวังหลังไปก่อนนะเจ้าคะ!”หลิงซวนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ก่อนที่ฮองเฮาจะทรงฟื้นขึ้นมา วังหลังมิสามารถวุ่นวายได้! ขอร้องท่านนะเจ้าคะ!”“ข้า…”จูหลานตกใจ แต่เมื่อนึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ หากตนมิช่วยหลิงอวี๋แล้วจะมีผู้ใดสามารถช่วยหลิงอวี๋ได้อีกเล่า!“ข้าจะช่วยฮองเฮาดูแลวังหลังอย่างดี!”จูหลานเอ่ยอย่างหนักแน่น “พวกเจ้ารีบหาวิธีช่วยฮองเฮา ต้องช่วยชีวิตฮองเฮาให้ได้!”หลิงซวนมิกังวลข้างหลังแล้ว จึงรีบกลับพระตำหนักคุนหนิงทันทีเถาจื่อกับหานเหมยตื่นขึ้นมาภายใต้การรักษาของถังถีเตี่ยน ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บภายในสาหัสแต่ถังถีเตี่ยน
คืนนี้เซียวเยวี่ยพักอยู่ที่พระตำหนักคุนหนิง เขาอ่านตำราอยู่ที่โถงด้านข้างอย่างรู้ความ เมื่อพวกหลิงซวนต้องการเขาจะได้ปรากฏตัวได้ทันท่วงทีหลิงซวนเฝ้าอยู่ข้างเตียงของหลิงอวี๋มิห่าง คอยให้ความสนใจกับการเปลี่ยนแปลงของอาการบาดเจ็บหลิงอวี๋อยู่ตลอดหลิงซวนนำหญ้าวานรที่เก็บมาได้ป้อนให้หลิงอวี๋ทุก ๆ ครึ่งชั่วยามแต่หลิงอวี๋ได้รับบาดเจ็บสาหัสมากจริง ๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทั้งนั้นท่านอ๋องเฉิงเองก็อยู่ในวังกับองค์ชายเย่ด้วยพวกเขาเป็นบุรุษ มิสะดวกจะเข้าไปเยี่ยมหลิงอวี๋ที่วังหลัง จึงล้วนคอยฟังข่าวจากจูหลานจูหลานใช้ความสามารถในการดูแลงานบ้านของตน ให้หมิ่นกูคอยจับตาดูความเคลื่อนไหวของนางกำนัลและขันทีในวังอย่างเคร่งครัด มิอนุญาตให้ผู้ใดส่งข่าวออกไปภายนอกเด็ดขาดเรื่องนี้เกี่ยวข้องถึงช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของพวกเขา หากข่าวรั่วไหลออกไปอาจนำมาซึ่งผลที่ตามมาที่มิอาจทนรับได้เผยอวี้โชคดีมาก คนของอวี๋เฮ่าค้นหาจนเจอเขาพร้อมกับยังมีลมหายใจแล้วพาออกมา เขาได้รับบาดเจ็บไปทั้งตัวแต่มิได้ร้ายแรงถึงชีวิต จึงรีบทำการพันแผลแล้วประคองตนไปที่วังองค์ชายเย่ยังคิดมิตกว่า การต่อสู้ที่น่าสะพรึงกลัวในวัน
บรรยากาศในพระตำหนักคุนหนิงดูหม่นหมองไป เรื่องความเป็นความตายของหลิงอวี๋ราวกับก้อนหินขนาดใหญ่ที่กดอยู่ในใจของทุกคนจูหลานรู้สึกแย่จนมิกล้ามองอีกต่อไป จึงปิดปากแล้วเดินร้องไห้ออกไปหากหลิงอวี๋โชคร้ายตายจากไป พวกเขาสามีภรรยาก็จะเป็นผู้ทำผิด แล้วพวกเขาควรจะอธิบายให้เซียวหลินเทียนฟังอย่างไร?แม้ว่าจะต้องเสี่ยงชีวิต แต่นางกับองค์ชายเย่ก็จะต้องปกป้องเซียวเยวี่ย จะไม่มีทางให้องค์ชายคังสังหารเซียวเยวี่ยเด็ดขาด!จูหลานได้วางแผนไว้แล้ว หากหลิงอวี๋สิ้นใจ ก็จะพาเซียวเยวี่ยออกจากเมืองหลวงโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งนั้น แล้วไปส่งเขาให้กับเซียวหลินเทียนอย่างปลอดภัยเวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละน้อย ที่มุมปากของหลิงอวี๋มีเลือดไหลออกมามิหยุด นางมิได้นอนเงียบ ๆ อีกต่อไป ความเจ็บปวดในอวัยวะภายในของนางทำให้ตัวสั่นไปทั้งตัวเมื่อการเคลื่อนไหวมากขึ้น เลือดที่ไหลออกมาก็ยิ่งมากขึ้น“ฮองเฮา...”หลิงซวนปรี่เข้าไปกดนางไว้ ดวงตาก็อดมิได้ที่จะมองที่ร่างกายของหลิงอวี๋นางมิอาจพูดคำว่าฮองเฮามิไหวแล้วได้ แต่ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างก็รู้ดีอยู่แก่ใจวาระสุดท้ายของหลิงอวี๋ใกล้เข้ามาแล้ว!“ข้าจะไปสังหารองค์ชายคัง!”เถาจื่
แต่สุดท้ายแล้วแม่นมลี่ก็เข้ามาพร้อมกับสหายของนางหานอวี้ที่ตามหลังขันทีน้อยเซี่ยไปสำรวจความจริงของแม่นมผู้นั้นก็ถูกแม่นมแปลกผู้นั้นหิ้วมาราวกับไก่ตัวน้อย ๆทันทีที่แม่นมเข้ามาก็โยนหานอวี้ลงบนพื้นหานอวี้ลุกขึ้นพลางเอ่ยอย่างละอาย “แม่นมผู้นี้เป็นผู้ฝึกยุทธ์ มีวรยุทธ์สูงมาก ข้า… ข้ายังมิทันได้ออกกระบวนท่าใดก็ถูกนางจับได้แล้ว!”วรยุทธ์ของหานอวี้ก็มิอ่อนแอเช่นกัน หากถูกแม่นมผู้นี้จับได้ภายในกระบวนท่าเดียว เช่นนั้นนางก็คือยอดฝีมือ!ทุกคนล้วนยืนอยู่หน้าเตียงของหลิงอวี๋อย่างเข้าใจกัน แล้วมองแม่นมผู้นั้นอย่างระมัดระวังแม่นมผู้นั้นสวมเสื้อผ้าของแม่นมลี่แต่ผมหงอกของนางดูเหมือนว่าจะมิได้สระมาหลายปีแล้วจึงเป็นปมพันกันยุ่งเหยิงไปหมดใบหน้าของนางเต็มไปด้วยริ้วรอย ดูแก่กว่าแม่นมลี่ แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือบนใบหน้าของนางเต็มไปด้วยบาดแผลจากรอยมีดมากมายหลิงซวนเห็นแล้วตกใจมาก มิอาจจินตนาการได้เลยว่าผู้ใดจะทำร้ายแม่นมชราผู้นี้จนเป็นเช่นนี้ได้ แล้วแม่นมชราผู้นี้มีชีวิตรอดได้อย่างไร!แต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยริ้วรอยและรอยแผลเป็นนี้มีดวงตาคู่หนึ่งที่เต็มไปด้วยพลัง ซึ่งต่างกับความชราของนางโดยสิ้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร