หลิงอวี๋เอ่ยออกไปอย่างเยาะเย้ย “นี่ยังมิทันได้เริ่มการประลอง แต่ละคนก็โจมตีข้าราวกับกลัวว่าข้าจะชนะเสียแล้ว โจมตีข้าก็มิเป็นไรหรอก แต่ยังจะโจมตีอาจารย์ของข้าอีก!”“ไยเล่า จากความคิดสกปรกของพวกเจ้า ขอเพียงแค่รับศิษย์ที่เป็นสตรีก็คือมีเจตนามิดีแล้วรึ เช่นนั้นปรมาจารย์ไป่หลี่ ศิษย์ที่ท่านรับมีมากกว่าอาจารย์ของข้าสองเท่ากระมังเจ้าคะ!”“ศิษย์ที่เป็นสตรีก็มีมากกว่าอาจารย์ของข้า หรือว่าความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับศิษย์ของพวกท่านมิปกติกันหนอ? บางทีศิษย์ของท่านอาจจะเห็นท่านทำเรื่องเช่นนั้น ดังนั้นจึงได้ใช้ความคิดสกปรกเช่นนี้ไปตัดสินผู้อื่น!”ไป่หลี่ไห่โกรธจนตัวสั่น แล้วเอ่ยขึ้นมาอย่างโมโห “เจ้าพูดไร้สาระอะไร! หากกล้าใส่ร้ายข้าอีก ข้าจะมิปล่อยเจ้าไปแน่!”หลิงอวี๋หัวเราะออกมา “ปรมาจารย์ไป่หลี่ร้อนใจเสียแล้วหรือเจ้าคะ ท่านเป็นแบบอย่างของอาจารย์ ศิษย์ของท่านใส่ร้ายอาจารย์ของข้า ท่านมิเห็นจะห้ามปราม!”“แล้วเหตุใดเล่า ข้าเพียงเปรียบเทียบท่านก็ร้อนใจแล้วหรือ? หรือว่าข้าพูดถูกจริง ๆ ดังนั้นท่านจึงอับอายจนโกรธ?”“ท่านก็อายุปูนนี้แล้ว มิรู้หลักการที่ว่า ตนมิชอบสิ่งใดก็จงอย่าทำกับผู้อื่นหรือ?”หลง
ไป่หลี่ไห่ตะลึง สายตาของเขามองไปทางตาเฒ่าประหลาดเทียนซูและสามีภรรยาตระกูลเจียวโดยมิรู้ตัวคนที่เข้าใจเรื่องเครื่องยาสมุนไพรต่างก็รู้ว่า เครื่องยาสมุนไพรแต่ละชนิดล้วนมีสรรพคุณแตกต่างกัน แม้ว่าจะเป็นพิษ แต่พิษกับพิษเจอกันก็ออกฤทธิ์ต้านกันได้แม้ว่าพวกเขาจะสามารถผสมพิษหลายชนิดเข้าด้วยกันได้ แต่สูงที่สุดก็คือสิบชนิด เป็นไปมิได้ที่ยาพิษหนึ่งตำรับจะมีพิษหลายสิบชนิดอยู่ด้วยกัน!สิงอวี๋ สตรีที่เพิ่งมาใหม่ผู้นี้ นางสามารถทำได้อย่างนั้นหรือ?“นางกำลังพูดโอ้อวดอยู่กระมัง! จะมีพิษที่ร้ายแรงเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”มีคนอดมิได้ที่จะตะโกนขึ้นมา“ต้องเป็นการขู่ให้กลัวแน่ ๆ! อยากจะชนะครั้งหนึ่งเพราะโชคช่วยจึงได้บอกว่าจะยอมประลองเพียงแค่รอบเดียว!”“ประลองสามรอบสิ สิงอวี๋ หากเจ้าสามารถชนะได้ทั้งสามรอบ พวกเราจึงจะยอมรับ!”ท่านผู้เฒ่าเย่มองพวกที่สนับสนุนไป่หลี่ไห่ในการประลองสามรอบ แล้วเอ่ยกับเจ้าสำนักศึกษาจินอย่างเย็นชา“เหล่าจิน ข้าคิดว่าที่สิงอวี๋พูดมาก็มีเหตุผล เรื่องที่สามารถทำได้ในรอบเดียวเหตุใดต้องทำถึงสามรอบด้วยเล่า! แค่รอบเดียวก็ตัดสินแพ้ชนะได้แล้วมิใช่หรือ!”เจ้าสำนักศึกษาจินพยักหน้า “คำพู
กฎการประลองที่ต่งเฉิงประกาศมานั้นที่จริงแล้วยังมีช่องโหว่อยู่ แต่โดยทั่วไปก็มีความยุติธรรม ท่านผู้เฒ่าเย่และเย่ซื่อฝานจึงมิได้เสนอแนะใด ๆห้องปรุงโอสถทั้งสองห้องเป็นห้องที่จัดเตรียมขึ้นมาชั่วคราวอยู่ทางฝั่งตะวันตกของหอปรุงโอสถ หลังจากที่ระฆังการประลองดังขึ้น หลิงอวี๋และไป่หลี่ไห่ต่างก็เดินเข้าไปในห้องปรุงโอสถคนละห้องในห้องเป็นเช่นเดียวกับห้องปรุงโอสถอื่น ๆ ตรงผนังก็เต็มไปด้วยตู้ยา และหน้าต่างก็ถูกปิดไว้เพื่อป้องกันมิให้มีคนแอบดูหลิงอวี๋ดูเครื่องยาสมุนไพรทั้งหมดก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นก็ออกแบบยาพิษของตนในใจก่อนที่จะเริ่มปรุงเนื่องจากเวลาในการปรุงคือสองชั่วยาม บรรดาคนที่มาดูบางส่วนจึงรอมิไหวแล้วเดินไปเดินมารอบ ๆ บางส่วนก็มาหาเจ้าสำนักศึกษาจินเพราะอยากได้คำชี้แนะแต่เจ้าสำนักศึกษาจินกลับลากท่านซ่งสหายของเขาไปหาห้องจิบชาเดิมทีท่านผู้เฒ่าเย่อยากจะพูดกับเจ้าสำนักศึกษาจินสักสองสามประโยค แต่เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้เขาจึงมิเข้าไปรบกวนเย่ซื่อฝานและเย่ซื่อเจียงออกไปเดินกับท่านผู้เฒ่าเย่ เมื่อเดินออกจากกลุ่มคนมาเย่ซื่อเจียงก็เอ่ยถามไปตามตรง “ท่านพ่อ ท่านซ่งผู้นั้นคือใครหรือขอรับ?”นี่ก็คือสิ
ท่านผู้เฒ่าเย่เข้าใจทันทีแล้วมองไปทางห้องปรุงโอสถอย่างครุ่นคิดนี่คือหลักการเข้าใจลึกซึ้งถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่เย่ซื่อฝานบอกไว้กระมัง!ไป่หลี่ไห่เชื่อมั่นว่าตนเป็นปรมาจารย์และรู้มากกว่าสิงอวี๋ แต่จากตัวอย่างของหยางหงหนิงแล้ว เขาก็ยังป้องกันมิให้หลิงอวี๋เปลี่ยนยาแก้พิษของเขาให้กลายเป็นยาพิษได้ด้วยการที่มีสิ่งที่ต้องป้องกันมากเกินไป นั่นก็คือข้อจำกัด...ขอเพียงหลิงอวี๋เข้าใจลักษณะนิสัยของไป่หลี่ไห่ นางก็จะสามารถใช้จุดแข็งของตนวางกับดักไป่หลี่ไห่ซ้ำ ๆ ได้แล้ว...เหอะ ๆ!ท่านผู้เฒ่าเย่ยิ้มออกมา และมีความคิดอยากจะผูกมิตรกับพ่อแม่และปู่ของหลิงอวี๋เสียหน่อยครอบครัวแบบใดกัน จึงสามารถเลี้ยงเด็กสาวมาได้ฉลาดหลักแหลมถึงเพียงนี้?“ซื่อเจียง หากครานี้เสี่ยวชีสามารถเอาชนะได้ ข้าจะตัดสินใจพูดกับนางให้นางมาเป็นภรรยาของเย่หรง!”ท่านผู้เฒ่าเย่มองไปทางเย่ซื่อเจียงเขาเป็นพ่อของเย่หรง และเรื่องการแต่งงานก็จำเป็นต้องได้รับความเห็นชอบจากเย่ซื่อเจียงด้วยเย่ซื่อเจียงตะลึงไปครู่หนึ่ง เขามิให้ความสำคัญกับลูกนอกสมรสที่มิเอาไหนผู้นี้มาโดยตลอด และมิสนิทกับเย่หรงด้วย เขาจึงเอ่ยออกไปโดยสัญชาตญาณ“หากเ
ในเวลานี้ เย่หรงผู้มิเอาไหนที่เย่ซื่อเจียงเกลียดชังก็กำลังเตรียมตัวอยู่กับเผยอวี้และฉินซานเพื่อเตรียมที่จะเข้าไปในบ้านตระกูลเหมียวแล้วหลอกเอาเงินที่พวกเขาจะให้ไป่หลี่ไห่ไปถึงแม้ว่าเผยอวี้และฉินซานจะมีประสบการณ์ในการรบมามากมาย แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเขาทำเรื่องเช่นนี้ จึงค่อนข้างกังวลเย่หรงแต่งตัวเป็นพ่อบ้านของไป่หลี่ไห่ และดูคล้ายกับตัวจริงมากเขาจึงเอ่ยปลอบใจทั้งสองคน “อย่าได้กังวลไปเลย รอหลังจากหลอกเอาเงินออกมาและเปลี่ยนรถม้าไปแล้ว จากนั้นพวกเราจะรีบไปที่สำนักศึกษาชิงหลง เช่นนี้ก็จะไม่มีผู้ใดสงสัยในตัวพวกเราแล้ว!”“พวกเจ้าทั้งสองมิต้องพูดอะไร แค่ฟังข้าก็พอ!”เมื่อทุกอย่างเตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว เย่หรงก็นำทุกคนมุ่งไปที่บ้านตระกูลเหมียวเผยอวี้ให้ลู่หนานไปสืบข้อมูลมาแล้วว่า สามีภรรยาตระกูลเหมียวพาเหมียวหยางไปที่สำนักศึกษาชิงหลงแล้ว จึงรู้สึกสบายใจมากขึ้นพวกเขาจึงเดินทางมาที่บ้านตระกูลเหมียวอย่างสบาย ๆ เย่หรงก็อาศัยใบหน้าของพ่อบ้านไป่หลี่ไห่พาทุกคนเข้าไปได้อย่างราบรื่นเมื่อพ่อบ้านเหมียวได้ยินข่าวก็ออกมาต้อนรับ แล้วเอ่ยถามด้วยใบหน้าสงสัย “ท่านพ่อบ้านใหญ่ ตกลงกันไว้ว่าต
อีกทั้งเมื่อมองฮูหยินเหมียวที่ยังคงเช็ดน้ำตาเป็นระยะ ๆ พร้อมแสร้งทำเป็นน่าสงสาร เซียวหลินเทียนก็รู้สึกขึ้นมาในทันทีว่าการตัดสินใจปล้นตระกูลเหมียวของตนนั้นช่างฉลาดยิ่งนัก!เมื่อสูญเสียเงินเหล่านี้ไปแล้ว ไป่หลี่ไห่จะยังคงสนับสนุนตระกูลเหมียวต่อดังเช่นที่สัญญาไว้หรือ?เมื่อถึงเวลานั้นสุนัขก็จะกัดกันเอง จากนั้นก็จะมีเรื่องสนุกให้ได้ชมกันเมื่อเห็นว่าใกล้จะถึงเวลาสองชั่วยามแล้ว บรรดาคนที่ออกไปเดินเล่นก็ทยอยกันกลับมา และมองห้องปรุงโอสถทั้งสองห้องอย่างคาดหวังเจ้าสำนักศึกษาจินและท่านซ่งก็กลับมาแล้วเช่นกัน เย่ซื่อฝานและท่านผู้เฒ่าเย่ต่างก็มองหน้ากัน หวังว่าการคาดเดาของตนจะถูกต้อง“แกร๊ง… แกร๊ง...”หลังจากที่เสียงระฆังดังขึ้น หลิงอวี๋และไป่หลี่ไห่ต่างก็เดินออกมาจากห้องปรุงโอสถพร้อมด้วยท่าทีมั่นใจเต็มเปี่ยม“ไป่หลี่ไห่ สิงอวี๋ มาแลกเปลี่ยนยาพิษกัน!”ต่งเฉิงและตาเฒ่าประหลาดเทียนซูพร้อมทั้งคนอื่น ๆ ล้วนอยากรู้ว่าสิงอวี๋จะสามารถปรุงยาพิษที่มีพิษหลายสิบชนิดอยู่ในนั้นได้หรือไม่ ดังนั้นจึงได้เสนอเรื่องนี้กับต่งเฉิงเป็นการส่วนตัวก่อนที่จะกินยาพิษเข้าไป ให้ตรวจสอบดูสักหน่อย เพื่อความปลอดภัยของ
แต่ตอนนี้สิงอวี๋เช็ดแล้ว ตนก็เช็ดแล้วเช่นกัน แต่ใบหน้าของสิงอวี๋ก็ไม่มีร่องรอยของการแปลงโฉม น้ำยาสาดเข้าใบหน้านางจนเปียกเช่นนั้น แต่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยจ้าวหรุ่ยหรุ่ยสบสายตากับฮูหยินเฉียวอย่างผิดหวังฮูหยินเฉียวพยักหน้าอย่างยากจะสังเกตเห็น แล้วใช้มือเป็นสัญญาณให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยระงับอารมณ์ไว้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็พยักหน้าตอบรับ พวกนางยังเตรียมแผนสำรองไว้ด้วย วันนี้จะใช้โอกาสนี้เปิดเผยตัวหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนให้ได้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเชื่อว่า หากหลิงอวี๋อยู่ที่นี่ เซียวหลินเทียนก็จะอยู่ที่นี่เช่นกันหากหลิงอวี๋มีปัญหา เซียวหลินเทียนจะต้องรีบกระโดดออกมาโดยมิลังเลอย่างแน่นอนเซียวหลินเทียนมองจ้าวหรุ่ยหรุ่ยด้วยสายตาเย็นชาเมื่อครู่ตอนที่คนรับใช้สาดน้ำใส่หลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกกังวลขึ้นมาแล้ว ขอเพียงหลิงอวี๋ถูกเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงออกมา เขาจะไม่มีทางยอมให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและฮูหยินเฉียวมีโอกาสจับตัวหลิงอวี๋ไปแน่การประลองในวันนี้ เขาได้คาดการณ์ไว้แล้วว่า จ้าวหรุ่ยหรุ่ยและฮูหยินเฉียวจะมิปล่อยหลิงอวี๋ไปแน่ ดังนั้นเซียวหลินเทียนจึงได้เตรียมการรับมือไว้หลายอย่างแล้วเผยอวี้
เดิมทีตงเปิ่นมิอยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกแล้ว แต่เขากังวลว่า หากตนถอนตัวออกไปจะทำให้พวกของตาเฒ่าประหลาดเทียนซูรังแกศิษย์น้อยของเย่ซื่อฝานผู้นี้ได้สะดวกขึ้น เขาจึงจ้องไป่หลี่ไห่ด้วยความโกรธ แล้วเอ่ยด้วยเสียงขรึม “แลกเปลี่ยนยาพิษ!”ไป่หลี่ไห่หยิบกล่องหนึ่งออกมาแล้วเอ่ยกับหลิงอวี๋ด้วยรอยยิ้ม“สิงอวี๋ ข้ายังยืนยันคำเดิม ขอเพียงเจ้ายอมแพ้เสียตอนนี้ การประลองนี้ก็จะมิดำเนินต่อ!”“มิเช่นนั้น หากมีผลข้างเคียงใดหลงเหลือไว้ เจ้าจะมาเสียใจภายหลังก็สายไปเสียแล้ว!”หลิงอวี๋ก็หยิบกล่องของตนออกมาเช่นกัน แล้วมองไปทางไป่หลี่ไห่อย่างเย็นชา “ปรมาจารย์ไป่หลี่ ข้าก็จะขอพูดคำเดียวกันกับท่าน ขอเพียงท่านยอมแพ้ การประลองก็จะมิต้องดำเนินต่อ! มิเช่นนั้นคนที่ต้องเสียหน้าก็คือท่าน!”ไป่หลี่ไห่จะยอมแพ้ได้อย่างไร เพราะนี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตนเรื่องที่เหมียวหยางถูกวางยาพิษนั้นทำให้ชื่อเสียงของเขาเสียหาย หากเขามิสามารถเอาชนะสิงอวี๋ได้ ต่อไปยาแก้พิษของหอโอสถไป๋เป่าก็จะขายมิออกเช่นกันสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ จะทำให้ตนสูญเสียความโปรดปรานต่อหน้าเจ้าแห่งทะเลและมหาเทพไปด้วยดังนั้น เขาจะแพ้มิไ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี