ร้านของกวนอิ่งว่างเปล่าในชั่วข้ามคืนข่าวเช่นนี้หลิงอวี๋จะมิเปิดเผยให้จ้าวเจินเจินรู้ได้เยี่ยงไรเล่า!เช่นเดียวกับที่หลิงอวี๋คิดไว้จ้าวเจินเจินได้ยินว่าเงินของตระกูลกวนหายไปหมดแล้ว จากนั้นก็ได้ยินว่าองค์ชายเว่ยปล้นไปจ้าวเจินเจินกลับไปที่ตำหนักองค์ชายคังโดยมิลังเลก่อนหน้านี้ จ้าวเจินเจินยังคงคิดว่าองค์ชายคังจะใช้ประโยชน์จากกวนอิ่งเพื่อทรัพย์สินของตระกูลกวน ดังนั้นตอนที่นางจัดการกับกวนอิ่งจึงยังมีความยับยั้งอยู่บ้างแต่บัดนี้เงินของตระกูลกวนถูกองค์ชายเว่ยปล้นไปแล้ว จ้าวเจินเจินก็ไม่ยับยั้งแล้วกวนอิ่งไม่มีเงินอยู่ในมือ ทั้งยังทำให้องค์ชายคังก็ติดโรคสกปรกเช่นนั้นอีก องค์ชายคังจะทนกวนอิ่งอยู่ได้เยี่ยงไร!จ้าวเจินเจินตรงกลับไปที่ตำหนักองค์ชายคังโดยไม่หยุด แล้วให้คนไปจับหมอที่รักษากวนอิ่งมาที่ในตำหนักองค์ชายคังองค์ชายคังเซียวหลินอี้เพิ่งกลับมาที่ตำหนักองค์ชายคัง จ้าวเจินเจินก็ไปพบเซียวหลินอี้“เจินเจิน เจ้ากลับมาแล้วรึ?”วันนี้เซียวหลินอี้เข้าวังก็ถูกพระชายาเส้าดุ บอกให้เขารีบไปรับจ้าวเจินเจินกลับมาโดยเร็วที่สุดพระชายาเส้าเอ่ยด้วยความโกรธ “เจ้าหลงนางสารเลวกวนอิ่งนั่นจนหน้ามื
“เอามันไป!”เมื่อจ้าวเจินเจินเห็นว่าหมอพูดในสิ่งที่ตนต้องการ ก็ตะโกนองครักษ์คนหนึ่งเข้ามา ปิดปากหมอแล้วลากเขาออกไป“องค์ชาย… กวนอิ่งยังเคยไปหาหมออีกสองคนด้วยเพคะ!”“หากองค์ชายมิเชื่อที่หม่อมฉันพูด หม่อมฉันจักเรียกพวกเขาเข้ามาให้องค์ชายสอบสวน!”จ้าวเจินเจินแสร้งทำเป็นมิรู้ว่าเซียวหลินอี้เองก็ติดโรคนี้เช่นกัน พลางเอ่ยอย่างกังวล“เจินเจินมิได้อยากทำให้กวนอิ่งลำบากใจเพคะ แต่กลัวว่าองค์ชายอาจมิได้ป้องกันตัวจากนางแล้วถูกนางหลอก!”“มิต้อง...”ใบหน้าของเซียวหลินอี้ดูมิสู้ดี ร่างกายของตนสามารถพิสูจน์ได้ เขาจะมิเชื่อสิ่งที่จ้าวเจินเจินพูดได้เยี่ยงไร!“ฆ่าหมอพวกนี้ให้หมด!”เซียวหลินอี้สั่งออกมาอย่างเย็นชาจ้าวเจินเจินยิ้มเยาะในใจ แต่แสร้งทำท่าทีเป็นกังวล“องค์ชาย วันนี้เจินเจินได้ยินมาอีกเรื่องเพคะ… เงินทั้งหมดในร้านค้าของตระกูลกวนถูกองค์ชายเว่ยปล้นไปแล้วเพคะ!”“ว่ากระไรนะ?”เซียวหลินอี้เด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที พลางเอ่ยอย่างร้อนใจ “ข่าวนี้เป็นเรื่องจริงรึ?”จ้าวเจินเจินพยักหน้า “ลูกพี่ลูกน้องของหม่อมส่งคนมาบอกเพคะ เขามีร้านอยู่ใกล้ ๆ ของตระกูลกวน ได้ยินมาว่าเมื่อคืนวานนี้ ห
ทันใดนั้นกวนอิ่งก็ถูกฟาดจนเนื้อแตก นางทนมิไหว ตะคอกออกมา “เซียวหลินอี้ ท่านยังอยากได้ทรัพย์สินของตระกูลกวนอยู่หรือไม่?”“หากตีข้าอีก ข้าจักยกให้องค์ชายเว่ยแล้ว...!”กวนอิ่งมิพูดยังดีเสียกว่า เมื่อนางพูดออกมาเช่นนี้ เซียวหลินอี้ก็ยิ่งโกรธขึ้นไปอีก“นางสารเลว!”“ข้าว่าแล้วเชียว ร้านของตระกูลกวนจักถูกคนที่องค์ชายเว่ยส่งมาปล้นได้เยี่ยงไร! ที่แท้นางสารเลวเช่นเจ้าก็คิดหมายเอาประโยชน์ทั้งสองทาง!”แส้ในมือของเซียวหลินอี้ฟาดอย่างแรง“ข้าปล่อยให้คนสารเลวเช่นเจ้าโกหกข้า!”“ข้าปล่อยให้เจ้าไปสมคบคิดกับองค์ชายเว่ย…”“เซียวหลินอี้...” คำด่าของกวนอิ่งยังมิทันได้ออกจากปาก ก็ถูกเซียวหลินอี้เฆี่ยนบนปากแล้วปากของนางแตกทันใด โลหิตหลั่งไหลออกมาพวกนางรับใช้ของกวนอิ่งได้ยินเสียง วิ่งเข้ามาก็เห็นภาพนี้แต่ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปห้าม“องค์ชาย… อย่าเพคะ… ไม่ต้องตีแล้ว หากตีอีกคุณหนูจักตายแล้วเพคะ...”ท้ายที่สุดชุ่ยเอ๋อร์เห็นว่ากวนอิ่งถูกเฆี่ยนจนเจียนตายแล้ว จึงคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อขอร้องคราวนี้สติของเซียวหลินอี้จึงค่อย ๆ กลับมา แล้วก็เห็นว่ากวนอิ่งถูกเขาเฆี่ยนจนหมดสติไปแล้วเขาจึงตะโกน “ไปเอาน้ำมา
กวนอิ่งจ้องเซียวหลินอี้นิ่ง พลางเอ่ยเสียงเรียบ “องค์ชายอยากฆ่าก็ฆ่าหม่อมฉันเถิด! ถึงอย่างไรก็เป็นไปตามเงื่อนไขนี้… รอให้หม่อมฉันหายจากอาการบาดเจ็บ แล้วองค์ชายปล่อยหม่อมฉันไป หม่อมฉันก็จะมอบโฉนดที่ดินให้เพคะ!”“มิฉะนั้น… ไม่ช้าก็เร็วถึงอย่างไรหม่อมฉันก็ต้องตายด้วยน้ำมือขององค์ชายอยู่ดี เหตุใดหม่อมฉันต้องเอาเปรียบองค์ชายด้วยเล่าเพคะ? ”เซียวหลินอี้จ้องกวนอิ่ง มองออกเลยว่านี่คือขอบเขตต่ำสุดของกวนอิ่งแล้ว“หึ!”เซียวหลินอี้ทิ้งกวนอิ่ง พลางยืดตัวตรงนังสารเลว ข้าจักให้เจ้ามีชีวิตอยู่อีกสองวันแล้วกัน!รอให้ข้าได้โฉนดที่ดินที่เหลืออยู่ก่อนเถิด ข้าจะบีบคอเจ้าให้ตายด้วยมือของข้าเอง!......กวนอิ่งนอนอยู่คืนหนึ่ง ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามิสามารถอยู่ในตำหนักองค์ชายคังได้แล้ว บัดนี้เซียวหลินอี้โหดเหี้ยมกับนางมาก!รอเขาได้โฉนดที่ดินแล้ว เขาจะยังให้ตนอยู่ดีมีสุขหรือ?“ชุ่ยเอ๋อร์ ข้าอยากหนี ติดต่อกับผู้คุ้มกันของข้าได้หรือไม่?”เมื่อได้ยินเช่นนี้ชุ่ยเอ๋อร์ก็กระซิบ “คุณหนู องค์ชายให้ผู้คุ้มกันทั้งหมดไปอยู่ในกองกำลังของเขาแล้ว พวกเรามิเหลือผู้ใดที่ใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ!”กวนอิ่งหมดหวังทั
“คุณหนู ท่านห้ามขยับเป็นอันขาดนะเจ้าคะ!”“คราวนี้จะหนีราบรื่นหรือไม่ขึ้นอยู่ที่คุณหนูแล้วเจ้าค่ะ!”ชุ่ยเอ๋อร์คลุมใบผักเน่าบนศีรษะกวนอิ่งเล็กน้อยกวนอิ่งทั้งโกรธและร้อนใจ คิดแค่ว่าตัวเองไม่เคยจนตรอกขนาดนี้มาก่อนทว่าเพื่อความอยู่รอด นางทำได้แต่อดทน!ชุ่ยเอ๋อร์ปิดฝาถัง แล้วรีบกลับไปต่อแต่นี้ไปไม่เกี่ยวอะไรกับนางแล้ว นางแค่ต้องรอปะปนออกตำหนักองค์ชายคังกับคนรับใช้ที่ไปซื้อกับข้าวในวันพรุ่งเท่านั้น!จากนั้นก็โบยบินไปไกล ๆ!ชุ่ยเอ๋อร์ซ่อนเงินพันตำลึงไว้ในอก อีกทั้งคลำหาอาภรณ์มีราคาในห้องกวนอิ่งมาซุกในเสื้อผ้าหลายชิ้นพระชายาอ๋องอี้บอกว่าเงินที่กวนอิ่งดูแลล้วนเป็นของตน นางจะเอาทรัพย์สมบัติของกวนอิ่งไปเท่าใดย่อมได้!ชุ่ยเอ๋อร์ไม่ละอายที่ทรยศกวนอิ่งเลยสักกระผีก แต่กลับตื่นเต้นไม่หยุดที่ได้คิดบัญชีกวนอิ่งคุณหนูใหญ่กวนผู้นี้ นางช่างสุดจะทนมาตั้งนานแล้ว!ตนติดตามนางหลายปีปานนี้ อย่าว่าแต่มิได้ส่วนดีสักเท่าไรเลย กลับกันต้องรับความทรมานอันมากล้นด้วยซ้ำ!ตอนกวนอิ่งยังเป็นคุณหนูใหญ่ผู้เลื่องลือก็มักตีและด่านางตลอดบัดนี้หลังนางกลายเป็นอนุแห่งตำหนักองค์ชายคังก็มิได้สำรวมอารมณ์เหมือนเดิม
กวนอิ่งยอมรับความจริงมิได้พลางเรียกขึ้นอย่างบ้าบิ่น“หลิงอวี๋ นี่เป็นฝีมือเจ้ารึ?”“เป็นเจ้ายุให้องค์ชายคังตีข้า! และเป็นเจ้าทำให้ชุ่ยเอ๋อร์ทรยศข้า!”หลิงอวี๋กระตุกริมฝีปากยิ้มเยาะ “มิใช่แค่เป็น… แต่เป็นโดยแท้แน่นอน!”“เหตุใดระยะนี้เจ้าจึงเชิญหมอมา? ตัวข้าจักบอกเจ้าตามตรงว่าเป็นข้าทำเองเช่นกัน!”“เหตุใดองค์ชายคังถึงลงมือตีเจ้าอย่างเหี้ยมโหด? เพราะพระองค์ป่วยเป็นโรคเดียวกับเจ้า…!”“เจ้าเอาเชื้อโสโครกจากหอนางโลมมาติดพระองค์ องค์ชายคังมิตีเจ้าให้ตาย ข้าก็ถือว่าพระองค์มีพระทัยเมตตาแล้ว!”หลิงอวี๋ชี้ยังป้ายจารึกที่เถาจื่ออุ้มในมือ“กวนอิ่ง เจ้ายั่วโทสะข้าสุดขีด! ตอนฝังศพหลิงซิน ตัวข้าสาบานต่อหน้าป้ายจารึกของนางว่า ข้าจักถวายหัวเจ้าทำพิธีเซ่นไหว้แก่นางภายในสิบวัน!”“วันนี้เป็นวันที่สิบพอดี!”หลิงอวี๋พูดอย่างไร้ปรานี “ข้าขอบอกเจ้าให้กระจ่างแล้วกัน! สมบัติตระกูลกวนของเจ้าก็เป็นข้าให้คนไปยึด!”“เจ้าคงมิรู้กระมัง? โฉนดที่ดินเหล่านั้นในมือเจ้าล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้น!”“นายท่านตระกูลเจ้าเอาโฉนดที่ดินของจริงให้ท่านกวนเอ้อร์… และท่านกวนเอ้อร์ถวายองค์จักรพรรดิไปแล้ว!”“ตัวข้าพึ่งแค่สิ่งน
นางมิใช่แม่พระ นางมิขัดขวางท่านกวนเอ้อร์ใช้วิธีของเขาล้างแค้นหรอก!ครานั้นท่านกวนเอ้อร์เห็นภรรยาตนถูกคนข่มขืนเจียนตายกับตา ความแค้นของเขา ความเจ็บของเขามีเพียงเขาที่เข้าใจดีที่สุด!หากเขาคิดว่าการแก้แค้นแบบนี้ดีที่สุด เช่นนั้นก็ทำเยี่ยงนี้เถอะ!หลิงอวี๋พาหลิงซวนและเถาจื่อเดินตรงไปกระทั่งถึงที่ที่ไม่ได้ยินเสียงน่าสังเวชของกวนอิ่งจึงหยุดลงหากใช้หัวกวนอิ่งทำพิธีเซ่นไว้หลิงซิน ความแค้นที่ขึงตึงมาตลอดของนางอาจคงปลดปล่อยได้หลิงซิน เจ้าไปสู่สุคติได้แล้วนะ!หลิงซวนเห็นอารมณ์เศร้าซึมของหลิงอวี๋ พลันพูดปลอบทันที“อาจารย์ อย่าเศร้าไปเลยเจ้าค่ะ! หากน้องหลิงซินรู้ว่าท่านล้างแค้นเพื่อนาง นางต้องไปเกิดใหม่อย่างสบายใจแน่เจ้าค่ะ!”“อือ! หวังว่านางจะไปเกิดใหญ่ในครอบครัวที่ดี!”หลิงอวี๋เรียนหมอและไม่เชื่อว่าพระเจ้ามีจริง แต่ตอนนี้นางภาวนาจากใจจริงขอให้หลิงซินเกิดใหม่ในครอบครัวที่ดีในภพหน้า!ไม่แสวงหาเงินทอง มีชีวิตสงบสุขเป็นพอ!เมื่อรอให้คนของกวนผิงมาเชิญพวกนางกลับไปก็เป็นเวลาหนึ่งชั่วยามแล้วที่นั่นถูกเก็บกวาดจนสะอาด และไม่พบสุนัขแล้วเช่นกัน มีพียงศีรษะของกวนอิ่งที่วางอยู่ในหีบหนึ่งอย่างเด
หลิงอวี๋และทั้งสองคนนำหัวกวนอิ่งมาถึงหน้าหลุมศพของหลิงซินเรียบร้อยเถาจื่อกำลังวางหัวคนลงหน้าหลุมศพหลิงซินพลางพูดประโลม“หลิงซินไปสู่สุคติเถิด! คุณหนูล้างแค้นให้เจ้าแล้ว!”หลิงอวี๋จ้องหลุมศพหลิงซินอย่างเงียบงัน แม้จะช่วยหลิงซินล้างแค้นแล้ว แต่หัวใจหลิงอวี๋ก็ยังคงหนักอึ้งนักหลิงซินยังเด็ก… และนางยังมิได้ใช้ชีวิตให้มีความสุขเลย!คนต่ำช้ายิ่งกว่าสัตว์เช่นกวนอิ่ง… สมควรตายจริง ๆ!หลิงอวี๋แอบสาบานว่า ต่อไปนางจะมิปล่อยให้เกิดเรื่องเช่นนี้กับคนข้างกายตนอีกเด็ดขาด นางจะปกป้องทุกคนอย่างเต็มกำลัง!ครั้นทำพิธีเซ่นไหว้หลิงซินเสร็จ เถาจื่อก็ถือหัวกวนอิ่งหมายหาที่ฝังสักที่การวางหน้าหลุมศพอย่างโจ่งแจ้งแบบนี้จะก่อเรื่องเอาได้!เมื่อหลิงอวี๋เห็นสถานการณ์จึงรีบปราม “อย่าฝัง หัวคนยังมีประโยชน์อยู่!”เถาจื่อมองทางหลิงอวี๋ค่อนข้างสับสนพลางกล่าวเฉยเมย “คุณหนู มันมีประโยชน์ันใดเจ้าคะ! ขนาดสุนัขยังมิกินหัวคนเลยเจ้าค่ะ!”หลิงอวี๋ยิ้มมีเลศนัย “เอากลับไปถวายเซียวหลินเทียนเถอะ!”ช่วงหลายวันมานี้ เซียวหลินเทียนก็ออกแรงวางกลเช่นกันการที่นางกับท่านกวนเอ้อร์ขนย้ายสมบัติของตระกูลกวนได้ราบรื่น เป็นเพราะ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี