ณ ห้องตำรายามพรบค่ำชิวเหวินซวงกำลังยกชามน้ำแกงรังนกเดินเข้าไป“ท่านอ๋อง ท่านกำลังยุ่งอยู่หรือ! สุขภาพของท่านจะนอนดึกเช่นนี้บ่อย ๆ มิได้แล้วนะเพคะ!”ชิวเหวินซวงเอ่ยอ่อนโยน “หม่อมฉันต้มน้ำแกงรังนกให้ท่านบำรุงร่างกาย ท่านเสวยแล้วรีบพักผ่อนเถิดเพคะ!”“ขอบใจมาก!”เซียวหลินเทียนวางม้วนกระดาษลงพลางรับมาชิวเหวินซวงจ้องเขม็งขณะที่เซียวหลินเทียนเปิดฝาชาม แล้วพลันส่งช้อนให้เขาว่องไวเมื่อลู่หนานพบว่าเซียวหลินเทียนส่งสายตาให้ตนก็รีบเอ่ยว่า“เหวินซวง เจ้าลองมาดูหน่อย เสื้อคลุมตัวนี้ของท่านอ๋องยังซ่อมได้หรือไม่? น่าเสียดายจริง ๆ ที่ไหมมันขาดหลังสวมไปได้แค่ครั้งเดียว!”ชิวเหวินซวงปรายมองเซียวหลินเทียนแล้วจึงเดินไป “ข้าขอลองดูหน่อย!”ครั้นลู่หนานกำลังจะส่งให้ชิวเหวินซวง นางก็เห็นไหมหลุดออกเป็นหนึ่งสายยาว พลันกล่าวทันที“ซ่อมได้ ข้าจักใช้ด้ายที่สีเดียวกันมาปักลายไม้ไผ่ก็อำพรางได้เจ้าค่ะ!”“เหวินซวง เจ้าช่างเก่งเสียจริง!”ขณะลู่หนานกำลังชื่นชมก็หาเสื้อคลุมยาวมาอีกตัว“เจ้าเอาตัวนี้ไปซ่อมด้วย มีเสี้ยนบนเก้าอี้ล้อของท่านอ๋องที่แต่ก่อนมิพบ อาภรณ์เสียหายไปหลายตัวแล้ว!”ชิวเหวินซวงมองพลาง ลอ
“ท่านอ๋อง พวกเขาคิดทำสิ่งใดกันแน่พ่ะย่ะค่ะ?”เมื่อลู่หนานได้ฟังก็รีบกล่าวทันควัน “จักมีประโยชน์กระไรหากแผนที่ตกอยู่ในมือพวกเขา?”เซียวหลินเทียนยิ้มเยาะหยัน “ตกสู่มือคนธรรมดาก็ไร้ประโยชน์… แต่หากพวกเขาคือจารชนของแคว้นศัตรูเล่า?”หัวใจจ้าวซวนจมดิ่งลง ก่อนหน้าพวกเขายังนึกว่าชิวเหวินซวงหมายปองแค่ตำแหน่งพระชายา!ฉะนั้นจึงมิใส่ใจความผิดปกติของชิวเหวินซวงนักแต่หาดสองพี่น้องชิวเหวินซวงคือจารชนของแคว้นศัตรู เช่นนั้นก็จะมิใช่แค่อุบายครองตำแหน่งพระชายาแล้ว!“ท่านอ๋อง เช่นนั้นมิต้องคอยถึงวันพรุ่งหรอกพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมนำแกงรังนกไปให้พระชายาตรวจสอบประเดี๋ยวนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวซวนพูดหนักแน่นว่า “หากมีปัญหาจริง กระหม่อมจับนางคืนนี้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนส่ายหน้า “มิต้องรีบขนาดนั้น! คอยดูการแสดงของชิวเหวินซวง เพราะอาจมิใช่การวางยาพิษร้ายแรง!”“หากหลิงอวี๋ตรวจพบปัญหาล่ะก็ วันพรุ่งเจ้าก็หาวิธีนำแกงรังนกชามนี้ให้ชิวเหวินซวงดื่มเสีย!”“เหอะ แค่ให้นางลองชิมแกงรังนกที่ตัวเองปรุงเท่านั้น!”จ้าวซวนหัวร่อทันใด “ถูกต้อง หนามยอกเอาหนามบ่ง! ท่านอ๋องทรงปราดเปรื่องยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”จ้าวซวนพูดคำไหน
คำพูดของหลิงอวี๋ทำให้จ้าวซวนตกตะลึงไปทันที เขาเองก็นึกถึงอาการป่วยของหลู่ชิ่งเช่นกันตอนนั้นหลู่ชิ่งออกไปกับชิวเฮ่า แต่หากชิวเหวินซวงรู้จักการใช้แมลงกู่ เช่นนั้นชิวเฮ่าก็อาจจะทำได้เช่นกันหรือว่าที่หลิงอวี๋ตรวจไม่พบเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลู่ชิ่งมิใช่อาการป่วย แต่เป็นการถูกเล่นแมลงกู่ใส่?“พระชายา ข้ามิรู้เรื่องศิลปะการใช้แมลงกู่ แต่ไป่สือรู้ขอรับ เพียงแต่หมอว่านเรียกให้เขาไปช่วยกลั่นยาอายุวัฒนะแล้ว!”“จริงสิ ในบ้านเขามีตำราการแพทย์โบราณอยู่เล่มหนึ่ง ในนั้นมีบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับแมลงกู่อยู่ด้วย!”“ประเดี๋ยวข้าจักไปหาในบ้านของเขาดู หาพบแล้วจักส่งมาให้พระชายาขอรับ!”หลิงอวี๋พยักหน้าอย่างรวดเร็ว “ดี แต่เจ้าต้องส่งมาอย่างเงียบ ๆ!”“อย่าให้ชิวเหวินซวงรู้ว่าเจ้าเคยไปที่ห้องของไป่สือ มิฉะนั้นนางอาจสงสัยเอาได้!”จ้าวซวนพยักหน้ากับจากไปเขากังวลใจมาก พอนึกถึงว่าตนเชื่อชิวเฮ่าที่ทำร้ายหลู่ชิ่ง เขาก็เสียใจมาก!แต่พระชายากับท่านอ๋องพูดถูก ก่อนที่พบเจตนาที่แท้จริงของพี่น้องชิว พวกเขายังต้องแกล้งโง่คล้อยตามไปก่อน!พอเซียวหลินเทียนได้ฟังผลการตรวจสอบที่จ้าวซวนกลับมารายงานก็ยิ้มเย็นชา“
สีหน้าของเซียวหลินเทียนดูมิค่อยดีเท่าไหร่ เขาพอจะเดาอะไรบางอย่างได้จากบทสนทนาของจ้าวซวนกับหลิงอวี๋เมื่อสักครู่นี้เพียงแต่เขามิอยากจะเชื่อเลยว่าจ้าวซวนจะมิได้บอกอะไรกับตนเลย!จ้าวซวนอึกอักว่า ตนแกล้งทำเป็นว่าส่งหลู่ชิ่งกลับบ้านเกิด แล้วหลิงอวี๋ก็ส่งคนไปรับหลู่ชิ่งกลางทาง ในที่สุดก็เอ่ยขึ้นมา“หลู่ชิ่งอยู่นอกเมืองหลวงพ่ะย่ะค่ะ อยู่ในทุ่งนาเล็ก ๆ ที่พระชายาซื้อไว้! เมื่อพระชายามีเวลาก็ไปรักษาเขาพ่ะย่ะค่ะ!”“ท่านอ๋อง ขอเพียงหลู่ชิ่งเอ่ยปากได้ ก็จะสามารถเป็นพยานในการทำผิดของชิวเฮ่าได้พ่ะย่ะค่ะ!”เซียวหลินเทียนจ้องมองจ้าวซวน แต่มิสามารถตำหนิอะไรเขาได้หลิงอวี๋เห็นว่าความลับเล็ก ๆ ของตนกับจ้าวซวนถูกตนเปิดเผยออกไปโดยมิได้ตั้งใจ จึงรีบช่วย“เซียวหลินเทียน หม่อมฉันมิให้จ้าวซวนบอกท่านเอง! ท่านจักตำหนิเขามิได้! หากท่านจักหนิก็ให้โทษตัวท่านเองไปเสีย ผู้ใดให้ท่านเชื่อใจชิวเฮ่ากับน้องสาวของเขาเล่า!”“หม่อมฉันกลัวว่าท่านกล่าวว่าหม่อมฉันใจแคบที่มุ่งเป้าไปที่พวกเขา จึงบอกจ้าวซวนว่าอย่าบอกเรื่องนี้กับท่าน!”เซียวหลินเทียนพูดมิออกพวกเขาทั้งหมดแสดงออกว่าเชื่อใจพี่น้องชิวเป็นอย่างมาก การที่หลิงอ
เซียวหลินเทียนฟังอย่างตั้งใจ พลางครุ่นคิดไปด้วย“ข้อสงสัยที่สามคือ หลิงผิงเพิ่งรับปากกับหม่อมฉันว่า วันรุ่งขึ้นจักพาหม่อมฉันไปเอาหลักฐานการทำผิดของหวางซือ แต่นางก็มาถูกฆ่าในวันรุ่งขึ้นเสียอย่างนั้น!”หลิงอวี๋เอ่ย “ครานั้นพวกท่านก็เห็นหม่อมฉันชันสูตรศพแล้ว บนร่างกายของหลิงผิงมีร่องรอยการถูกทรมานอยู่!”“หากชิวเหวินซวงแค่ต้องการฆ่าปิดปาก ก็ทำในบ้านของเกิ่งเสี่ยวหาวก็ได้นกระมัง!”“แต่นางกลับพาหลิงผิงไปที่อื่นโดยมิจำเป็นแล้วทรมานซักถามหลิงผิง! นี่เป็นเพราะเหตุใดเล่า?”จ้าวซวนเองก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิดเช่นกัน เขาครุ่นคิดพลางเอ่ยอย่างอึดอัด“พระชายา ครานั้นพวกเราพบว่ามีแม่นมขาเป๋มาตามหาชิวเหวินซวง แต่ผลก็คือพอติดตามชิวเหวินซวงไปร่องรอยของนางก็หายไป!”“ต่อมาได้ยินหลิงหลานบอกว่าหลิงผิงมาหาพวกเขาเพื่อขอยืมเงิน พวกเราก็คิดว่าแม่นมขาเป๋เองก็มาขอยืมเงินชิวเหวินซวงเช่นกัน!”หลิงอวี๋พยักหน้า พลางเอ่ยต่อ“จากข้อสงสัยเหล่านี้ หม่อมฉันคาดเดาได้เลยว่า หลิงผิงรู้ความลับของชิวเหวินซวง แล้วมาที่นี่เพื่อขู่เอาเงินชิวเหวินซวง!”“เพียงแต่ชิวเหวินซวงมิคาดคิดว่า หม่อมฉันจับตัวหลิงผิงได้ นางจึงตามเรามาแ
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนรวบรวมข้อมูลที่ต่างฝ่ายต่างมิเคยรู้กันมาก่อนหน้านี้เข้าด้วยกัน แล้วก็ยิ่งพิสูจน์ได้ว่าพี่น้องชิวมีเจตนาร้ายหลิงอวี๋ถอนหายใจ “ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการคาดเดาของเรา หากหมายกล่าวโทษพวกเขาก็ต้องมีหลักฐานที่หนักกว่านี้!”เซียวหลินเทียนยิ้มเล็กน้อยพลางกระซิบ “ไม่มีหลักฐาน เช่นนั้นพวกเราก็ขุดกับดักแล้วให้พวกมันกระโดดเข้าไปเองสิ!”“หากทำเรื่องนี้ได้ดีก็สามารถทำให้สายสืบของพวกเขาทั้งหมดในฉินตะวันตกมาติดร่างแหกันทั้งหมดได้!”ดวงตาของหลิงอวี๋เป็นประกาย “ท่านมีวิธีหรือ?”เซียวหลินเทียนยิ้มอย่างมีเลศนัย “อืม… แต่ข้าต้องรอคนผู้หนึ่งมาก่อน ขอเพียงเขามาก็สามารถดำเนินการตามแผนได้เลย!”“ผู้ใดกันพ่ะย่ะค่ะ?” ลู่หนานเอ่ยถามอย่างไม่อดทน“เก็บเป็นความลับไว้ก่อน!” เซียวหลินเทียนส่งเสียงจุ๊ ๆ “พวกเจ้ามีสิ่งใดให้ทำก็ไปทำเสียเถอะ! อย่ามารวมตัวกันเช่นนี้ ในช่วงเวลาสำคัญ ต้องให้พวกเขาสองคงอยู่นิ่ง ๆ เข้าไว้!”ราวกับว่าเป็นการยืนยันคำพูดของเซียวหลินเทียน เขาเพิ่งจะพูดจบ เสียงขององครักษ์ก็ดังมาจากข้างนอกแล้ว“องครักษ์ชิวมาพบท่านอ๋องอีกครั้งแล้ว ท่านอ๋องอยู่ข้างในขอรับ!”หลิงอวี๋ลุกขึ้
บุรุษผู้นั้นเอาหมวกไม้ไผ่ออก ใบหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของเขาจึงปรากฏต่อสายตาของทุกคนบุรุษผู้นี้อายุสี่สิบกว่าปี แม้ว่าจะแตกแดดจนผิวสีแทนเล็กหน่อย แต่ดวงตาของเขาใต้คิ้วหนาของเขากลับดำขลับเป็นประกาย เต็มไปด้วยพลัง“ท่านจินต้า!”ลู่หนานรู้สึกประหลาดใจ มิคาดคิดเลยว่าคนที่เซียวหลินเทียนพาพวกเขาออกมาพบจะเป็นท่านจินต้า!“ขึ้นไปคุยกันบนรถม้า!”ท่านจินต้าเข้าไปในรถม้าของเซียวหลินเทียน จ้าวซวนก็ตามเข้าไปด้วยลู่หนานสั่งให้องครักษ์บังคับรถม้าไปตามถนนแล้วตนก็ตามรถม้าไป“ท่านจินต้า คราวที่แล้วท่านบอกว่ามิสามารถกลับเมืองหลวงได้สักระยะหนึ่งมิใช่หรือ? งานเสร็จแล้วหรือ?”จ้าวซวนเอ่ยถามอย่างค่อนข้างแปลกใจท่านจินต้ายิ้มเล็กน้อย “นั่นท่านอ๋องโกหกเจ้า… ข้าได้รับจดหมายของเจ้าก็รีบมาเลย!”“แต่ระหว่างทางข้าได้รับคำสั่งจากท่านอ๋องให้ข้าไปทำธุระ ข้าก็เลยไปช่วยท่านอ๋องทำงานก่อน!”“เป็นเยี่ยงไรบ้าง?” เซียวหลินเทียนเอ่ยถามท่านจินต้าหุบยิ้ม พลางเอ่ยเสียงขรึม “ภารกิจลุล่วงพ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมทำงานที่ท่านอ๋องมอบหมายสำเร็จแล้ว!”“กระหม่อมพบบ้านเกิดของชิวเฮ่าแล้ว และได้ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วด้วย ครอบคร
เซียวหลินเทียนพยักหน้า “ฉางซุ่นอี้หลบอยู่ลึกถึงเพียงนี้ ย่อมมีวิธีการของเขา สืบหาคนผู้นี้ต่อไป!”“เรื่องเร่งด่วนที่สุดก็คือ พวกเราต้องกำจัดสายสืบในตำหนักอ๋องอี้ก่อน จากนั้นค่อยดึงตัวสหายของพวกเขาในฉินตะวันตกออกมาให้ได้มากที่สุด!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างใจเย็น “ข้าได้คิดแผนการที่สามารถบังคับพวกเขาส่วนใหญ่ออกมาได้แล้ว! ท่านจิน จ้าวซวน ลู่หนาน เรื่องนี้ต้องการความร่วมมือจากพวกเจ้า!”“ท่านอ๋องบอกมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ!”ทั้งสามเอ่ยเป็นเสียงเดียวกัน “กระหม่อมยินดีช่วยเหลือเต็มที่!”เซียวหลินเทียนกระซิบบอกแผนการของตน ท่านจินฟังแล้วก็ยิ้มออกมา พลางมองไปทางเซียวหลินเทียนในช่วงที่เขาไม่อยู่ เซียวหลินเทียนเติบโตขึ้นมากอาจเป็นเพราะเดินไม่ได้ ทำให้เซียวหลินเทียนมีเวลาในการศึกษาและครุ่นคิดมากขึ้น ดังนั้นจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็วเช่นนี้!“ท่านอ๋อง แผนการนี้ยอดเยี่ยมยิ่งพ่ะย่ะค่ะ!”ท่านจินต้าได้ทำการปรับและเพิ่มเติมรายละเอียดในแผนการของเซียวหลินเทียนทั้งสองต่างก็พอใจกับผลหลังจากที่แก้ไขแล้วมาก จึงตัดสินใจว่าจะดำเนินการตามแผนกระทั่งพูดคุยกันเสร็จ เซียวหลินเทียนก็ให้รถม้าหยุดลง แล้วท่านจินต้าก็
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี