Share

บทที่ 5

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ

ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น!

หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้!

หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง

ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก

น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!”

หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!”

“ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถูกฝังลงไปพร้อมกับคุณชายแน่!”

“แม่นมลี่ตายไปก็ดี ตายเร็วก็ไปเกิดใหม่เร็ว!”

อย่างไรแล้ว หลิงซินยังคงเด็ก อายุเพิ่งจะครบสิบสองปีเท่านั้น นางจะเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาได้อย่างไรกัน

หลิงซินหวาดกลัวจนร้องไห้ออกมา “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”

หลิงซินส่งเสียงร้องดังออกมา “คงต้องยอมรับความโชคร้ายแล้ว คนอื่นติดตามเจ้านายมีปลามีเนื้อให้ได้เพลิดเพลิน พวกเราติดตามเจ้าหมูโง่นี้ แม้แต่ความโชคดียังไม่เคยได้รับ แต่เรื่องร้ายกลับไหลมาไม่หยุดหย่อน!”

"หากว่ารู้แต่เนิ่นก็คงจะเรียนรู้ที่จะประจบประแจงชิวเหวินซวงอย่างหลิงผิงแล้ว คงจะดีกว่าติดตามเจ้าหมูโง่นี้...”

หลิงอวี๋เมื่อเห็นว่าประตูปิดลง เธอก็คอยระมัดระวังความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนด้านนอก พลางตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเมา

หลังจากที่หลิงอวี๋ค้นหายาบางส่วนที่จำเป็นในห้องวิจัยแล้ว ก็ออกมารักษาให้กับเสี่ยวเมา

หลิงอวี๋ฉีดยาลดไข้ให้กับเสี่ยวเมาก่อน ก่อนที่จะจัดการกระดูกให้กับเขา

หลิงอวี๋มองเห็นรอยบาดแผลจากแส้ที่พาดผ่านตรงหน้าอกของเสี่ยวเมา จนไปถึงกรามล่าง

บนหน้าอกนั้น ยังมีรอยช้ำที่ดูดำเขียวคล้ำ นั่นคือรอยที่องครักษ์เตะเข้า

เมื่อครู่นี้หลิงอวี๋ตรวจสอบอย่างเร่งรีบ ไม่ได้มองเห็นอย่างชัดเจน

ในเวลานี้เมื่อมองเห็นแล้ว ในใจของหลิงอวี๋ก็รู้สึกบีบรัดแน่น จะต้องใช้แรงมากขนาดไหนกัน!

องครักษ์นั่นต้องการจะฆ่าเจ้าเสี่ยวหลัวโปอย่างนั้นหรือ?

ลงมือกับเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างโหดร้ายเช่นนี้ เป็นเพราะว่ามีความแค้นความคับข้องใจอะไรกันอย่างนั้นหรือ?

ขณะที่หลิงอวี๋กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็พบว่าจู่ ๆ ร่างกายของเจ้าเสี่ยวหลัวโปสั่นสะท้านขึ้นมา อ้าปากกว้างแล้วกระอักเลือดออกมา...

ความเกลียดชังที่หลิงอวี๋มีก็เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในทันที

กล้าทำเสี่ยวเมาบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ หากว่าความแค้นนี้มิได้แก้แค้น สาบานเลยว่า เธอจะไม่ใช่คนอีกต่อไป!

ก่อนหน้านั้นหลิงอวี๋ไม่สนใจเสี่ยวเมา ไม่ถามไม่ไถ่เขา

แต่ในเมื่อเธอเข้ามาอาศัยในร่างนี้แล้ว ก็จะไม่เป็นดังเช่นก่อนหน้านั้นอีก!

เธอจะถือว่าเด็กที่คอยปกป้องเธอคนนี้ เป็นคนที่ใกล้ชิดของเธอ!

หลังจากที่จัดกระดูกให้กับเสี่ยวเมาแล้ว หลิงอวี๋ถึงได้นั่งลงบนเตียงพร้อมเหงื่อซ่กร่าง

ตอนนี้ร่างกายนี้เสียหายมากจนเกินไปแล้ว หลังจากที่เคลื่อนไหวในครั้งนี้แล้ว เธอถึงได้รู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปทั้งตัว อีกทั้งยังหิวมาก

นางรับใช้ทั้งสองคนด้านนอกนั้นไม่ส่งเสียงใดออกมาแล้ว และไม่รู้ว่าหนีหายไปที่ใดกัน

หลิงอวี๋พักผ่อนชั่วครู่หนึ่ง ก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีแม่นมลี่ที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย จึงได้หยิบยาขี้ผึ้งและยาชนิดพิเศษสำหรับอาการบาดเจ็บภายในแล้วเดินออกมา

หลิงอวี๋เพิ่งจะเปิดประตูออกมา ก็พบกับหลิงซินที่ประคองแม่นมลี่เดินเข้ามาช้า ๆ

“พระชายา บ่าวเพิ่งจะไปสืบข่าวมา ได้ยินมาว่าเฮยจื่อได้รับบาดเจ็บภายในสาหัส กระดูกซี่โครงหักทะลุเข้าไปในปอด กระอักเลือดออกมาตลอดเวลา...”

แม่นมลี่หอบหายใจอย่างหนัก พักอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยออกมาต่อ

“ท่านอ๋องเชิญท่านหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาก พวกเขาต่างก็บอกว่า… ต่างก็บอกว่าเฮยจื่อคงจะทนอยู่ไม่ถึงฟ้าสว่างนี้แล้ว!”

“ท่านอ๋องโมโหมาก ยังโบยท่านหมอตายไปถึงสองคน… พระชายา ท่านรีบคิดหาวิธีการ หากว่าเฮยจื่อตายไป พวกเราก็ต้องถูกฝังไปด้วยกัน!” หลิงซินเสริมอย่างขลาดกลัว

“ตอนนี้กี่ยามแล้ว?”

หลิงอวี๋ไม่รู้ว่าจะนับเวลาในโบราณอย่างไร

“ตอนนี้เป็นยามหรงแล้วเจ้าค่ะ หากว่ายังกระอักเลือดออกมาเช่นนี้ เกรงว่ากลางดึกก็อาจจะไม่อยู่แล้ว!”

แม่นมลี่เอ่ยออกมาอย่างร้อนรน “พระชายา ท่านรีบนำคุณชายน้อยหลบหนีไปเถิดเจ้าค่ะ!”

ยามหรงก็คือเวลาสิบนาฬิกาช่วงค่ำในยุคสมัยปัจจุบัน หลิงอวี๋คำนวณเวลาอยู่ครู่หนึ่ง กว่าจะฟ้าสว่างยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมง!

แม่นมลี่เมื่อเห็นว่า นางยังคงไม่เอ่ยอะไรออกมา ก็คิดว่านางถูกทำให้ตื่นตกใจเข้า ก็เอ่ยออกมาอย่างร้อนรน

“พระชายา ท่านฟังคำเกลี้ยกล่อมของบ่าว รีบหนีไปทางด้านหลังเถิดเจ้าค่ะ!”

“กำแพงทางด้านหลังของเรือนบุหงาไม่สูงมากนัก บ่าวและหลิงซินจะผลักท่านขึ้นไป จะต้องกระโดดหนีไปได้แน่!”

“ข้าและเสี่ยวเมามีบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย จะกระโดดไปได้ไกลรึ?”

หลิงอวี๋ส่ายศีรษะออกมา เอ่ยอย่างอดทน “แล้วยังมีพวกเจ้า ข้าหนีไป เซียวหลินเทียนจะต้องตีพวกเจ้าจนตายไป! ข้าทิ้งพวกเจ้าไปมิได้หรอก!”

สำหรับหลิงอวี๋คนก่อนหน้านั้นแล้ว แม่นมลี่ก็เป็นเพียงแค่คนรับใช้เท่านั้น!

แต่สำหรับหลิงอวี๋ที่ได้รับการสั่งสอนของปัจจุบันมาแล้ว กลับไม่มีการแบ่งแยกระหว่างนายบ่าว!

แม่นมลี่ปกป้องตนเองเช่นนี้ นางจึงไม่อาจทอดทิ้งพวกนางไปได้!

แม่นมลี่ได้ยินคำพูดนั้น ก็แข็งทื่อไป

หลิงอวี๋นำยาทาและยารักษาอาการบาดเจ็บภายในสองเม็ดส่งให้กับหลิงซิน

นางเพิ่งจะใช้ความสามารถทางการรับรู้ของนางตรวจสอบดูแม่นมลี่ ก็พบว่านางมีรอยแผลบางส่วนจากแส้และยังได้รับบาดเจ็บภายใน ยาทั้งสองชนิดนี้มีผลพิเศษต่อทั้งสองอาการ

“ใช้ยาทาลงไปบนรอยบาดแผลจากแส้ให้กับแม่นม อีกสองเม็ดให้กินลงไป!”

แม่นมลี่และหลิงซินมองสบตากัน เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย “พระชายา ยานี่...”

หลิงอวี๋มองเห็นสายตาที่แปลกประหลาดของทั้งสองคน ก็เดาได้ว่าพวกนางกำลังสงสัยตนเองอยู่

ดูเหมือนว่า คงจะต้องหาคำอธิบายที่เหมาะสม ถึงจะสามารถเปิดเผยทักษะการแพทย์ของตนได้อย่างผ่าเผย

นางคิดคำอธิบายออกมาอย่างมีไหวพริบ “เมื่อครู่นี้ ข้าเพิ่งพบเข้าจากการค้นหาในกล่อง!”

“ในปีนั้น ท่านปู่ของข้าช่วยชีวิตคนประหลาดคนหนึ่งเอาไว้ และนี่เป็นสิ่งที่เขามอบให้เพื่อแสดงความขอบคุณ”

"ชายแปลกหน้ายังให้ตำราแพทย์แก่เขาเอาไว้ ด้านในนั้นมีวิธีการรักษาโรคและช่วยชีวิตมากมาย ข้าพบวิธีช่วยเฮยจื่อจากในนั้นแล้ว!"

แม่นมลี่และหลิงซินได้ยินก็เชื่อทันที

ท่านเสนาบดีต่อสู้อยู่ภายนอกทั้งทางใต้และเหนือเป็นเวลาหลายปี จะรู้จักคนที่มีความสามารถบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา!

“แม่นม ก่อนหน้านี้ข้าโง่เขลางี่เง่า เชื่อคำของหลิงผิงจนทำเรื่องเลวร้ายไปมิน้อย… ครั้งนี้ข้าถือว่าเข้าใจใบหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว! ต่อไปข้าจะมิฟังคำของนางอีก...”

หลิงอวี๋ไม่ได้มองเห็นหลิงหลาน คิดว่าเมื่อนางรับใช้เห็นตนเองตกต่ำ จะต้องหนีหายไปทางซิวเหวินซวงกันแล้ว!

“พวกท่านในเมื่อติดตามข้า จะต้องเชื่อใจข้า!”

“ขอเพียงข้าช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ พวกเราก็ไม่ต้องถูกฝังไปด้วยกันแล้ว! ต่อไปข้าหลิงอวี๋กินอะไร ก็จะต้องมีพวกเจ้าอยู่ด้วย!”

หลิงอวี๋มองไปยังในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ แม่นมลี่และหลิงซินก็ยังมิทอดทิ้งนาง ในใจก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น

นางแอบสาบาน ต่อไปจะต้องให้พวกนางมีชีวิตที่ดีขึ้น ให้หลิงผิงและหลิงหลานเสียใจไปจนตาย

แม่นมลี่และหลิงซินจ้องมองนางอย่างอึ้งตะลึง รู้สึกเหมือนว่าหลิงอวี๋จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น!

พระชายาก่อนหน้านั้น จะเอ่ยถ้อยคำที่อบอุ่นหัวใจคนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!

พระชายาที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะยังคงเป็นใบหน้านั้น ทว่า ดวงตากลับดูสดใสกว่าก่อนหน้า ตนเองก็ดูเหมือนว่าจะมีพลังมากขึ้น!

หรือว่าการถูกโบยด้วยแส้ในคราวนี้ จะโบยเสียจนพระชายาที่สับสนได้สติขึ้นมาแล้วจริง ๆ ?

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Aoi Rata
สนุกมาก แปลดีมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2394

    หยางหงหนิงน้ำตาไหลพราก พลางเอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อย“เสด็จลุง ท่านป้า หากหม่อมฉันผิด สิงอวี๋ก็ผิดยิ่งกว่าหม่อมฉันเพคะ! พวกท่านมิสามารถโยนความผิดทั้งหมดมาไว้ที่หม่อมฉันได้นะเพคะ!”“หม่อมฉันขอร้องพวกท่าน ละเว้นให้หม่อมฉันสักหน่อยเถิดเพคะ หม่อมฉันยินดีที่จะใช้ชีวิตที่เหลือตั้งป้ายขอพรอุทิศแก่เพ่ยเพ่ย เพื่อชดใช้ความผิดของหม่อมฉันเพคะ!”ขณะที่หยางหงหนิงกำลังพูดอยู่นั้น นางก็คำนับเจ้าแห่งทิศใต้และชายาไปด้วยคำนับไปมิถึงสองครั้ง หน้าผากของนางก็มีเลือดไหลลงมาตามหน้าผากที่เรียบเนียนของนางแล้วเมื่อเป็นเช่นนี้ นางก็ได้รับความเห็นใจจากคนมากมายอีกครั้งฮูหยินหยางก็มองไปทางองค์หญิงหานเยวี่ยและเสิ่นฮ่าวอย่างอ้อนวอนเสิ่นฮ่าวขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เสด็จพี่ หยางหงหนิงพูดถูก นางพลั้งมือดึงเพ่ยเพ่ยตกน้ำไป มิได้เป็นความตั้งใจของนาง หากจะนับเป็นความผิดใด ๆ ก็เป็นความผิดของสิงอวี๋ผู้นั้น!”“หงหนิงเองก็น่าสงสารเช่นกัน พวกท่านเห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีตของนางกับเพ่ยเพ่ย แล้วปล่อยนางไปเถิดพ่ะย่ะค่ะ!”ยังมิทันที่ชายาเจ้าแห่งทิศใต้จะพูดอะไร เย่หรงก็อดมิได้ที่จะเอ่ยเยาะเย้ยออกมา“จิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2393

    ฮูหยินหยางคิดว่าถึงอย่างไรสิงอวี๋ก็ตายไปแล้ว คนตายมิอาจให้การใด ๆ ได้ ขอเพียงตนยืนกรานในจุดนี้ เจ้าแห่งทิศใต้ก็ทำอะไรหยางหงหนิงมิได้!ฮูหยินหยางหันไปทางผู้คน แล้วเอ่ยออกไปอย่างวิงวอน “พวกท่านตัดสินกันดู… หงหนิงของข้าเป็นเพียงเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เมื่อมีสัตว์ประหลาดโจมตีอยู่ตรงหน้า และด้านหลังก็มีคนคิดจะสังหารนางอีก!”“การที่นางแย่งเชือกมาเพราะตกใจจนเสียการควบคุม นี่เป็นความผิดของนางหรือ?”“ท่านหญิงฉางเล่อจากไปแล้ว หงหนิงของข้าก็เสียใจแทบขาดใจเช่นกัน แต่การตำหนินางเช่นนี้โหดร้ายเกินไปหรือไม่?”คนที่มุงดูเหล่านั้นนึกถึงเหตุการณ์ในยามนั้น แล้วก็มีบางคนพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“ในยามคับขัน ทุกคนก็ล้วนคิดเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณกันทั้งนั้น! การกระทำเช่นนี้ของหยางหงหนิงก็มิถือว่าเป็นการเจตนาฆ่าหรอก!”“ใช่ ท่านดูเถิด นางเสียใจจนเป็นลมไปแล้ว เห็นได้ชัดเลยว่านางเองก็เสียใจกับการตายของท่านหญิงฉางเล่อมากเช่นกัน!”“เจ้าแห่งทิศใต้ พวกท่านเป็นผู้ใหญ่ใจกว้าง ช่วยเมตตาต่อเด็กผู้นี้สักหน่อยเถิด!”ชายาเจ้าแห่งทิศใต้โกรธกับคำพูดของคนเหล่านี้จนหัวเราะออกมา จากนั้นนางก็หันไปทางคนเหล่านั้น แล้วยิ้มเยาะพร้อม

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2392

    ฮูหยินหยางและหยางหงหนิงที่หลบอยู่ในเรือนชั้นในของจวนองค์หญิงได้ยินว่าชายาเจ้าแห่งทิศใต้พาคนมาแรกเริ่มพวกนางยังคงดูสงบกันมาก คิดว่าเจ้ากรมหยางจัดเตรียมทุกอย่างเอาไว้แล้ว องค์หญิงหานเยวี่ยเองก็พูดไว้แน่ชัดแล้วเช่นกัน ดังนั้นเรื่องนี้จึงน่าจะแก้ไขไปได้โดยง่ายแต่ฮูหยินหยางก็ยังส่งนางรับใช้ที่มีความคล่องแคล่วสองคนไปคอยดูอยู่ด้านหน้า และพวกนางก็กลับมารายงานข้อมูลอยู่เป็นครั้งคราวจนกระทั่งตอนที่ฮูหยินหยางได้ยินว่าองค์หญิงหานเยวี่ยและเสิ่นฮ่าวมิสามารถหยุดยั้งเจ้าแห่งทิศใต้ได้ และกำลังส่งคนมาพาตัวหยางหงหนิงไป นางก็ตกตะลึงไปทันทีหยางหงหนิงก็ยิ่งตกใจจนวิญญาณแทบหลุดออกจากร่าง นางดึงฮูหยินหยางไว้แล้วตะโกนออกมาอย่างร้อนใจ“ท่านแม่ ทำอย่างไรดีเจ้าคะ? ข้ามิอยากตาย!”“ท่านจะให้เจ้าแห่งทิศใต้พาตัวข้าไปมิได้เด็ดขาดนะเจ้าคะ!”ฮูหยินหยางเห็นน้ำตาของหยางหงหนิงก็ตกใจ รีบปลอบใจนางทันที “เจ้าอย่าเพิ่งกังวลไปเลย ยังมิถึงตอนสุดท้ายเสียหน่อย!”“เจ้าวางใจเถิด ต่อให้แม่ต้องตาย แม่ก็ไม่มีทางยอมให้เจ้าแห่งทิศใต้พาตัวเจ้าไปแน่!”“เจ้าใจเย็นก่อน จำสิ่งที่แม่บอกกับเจ้าไว้เมื่อวานได้หรือไม่? เจ้าทำตามที่แม่บ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2391

    “ท่านปู่ ท่านรีบเข้าไปช่วยพระชายาเจ้าแห่งทิศใต้เถิดขอรับ!”เย่หรงวิ่งเข้ามาดึงตัวโม่เจี๋ยไว้ และเมื่อเห็นว่าชายาเจ้าแห่งทิศใต้หมดสติไปจึงรีบตะโกนขึ้นมาเย่ซงเฉิงส่ายหัวอย่างจนใจ แล้วเดินเข้าไปยัดโอสถให้ชายาเจ้าแห่งทิศใต้ ก่อนจะรักษาอาการบาดเจ็บที่มือของนางองค์หญิงหานเยวี่ยและเสิ่นฮ่าวต่างมองหน้ากันไปมา เรื่องนี้รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว จะจัดการอย่างไรดีเล่า?หรือว่าจะต้องส่งตัวหยางหงหนิงไปจริง ๆ?ทันใดนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมา“สายสัมพันธ์ของครอบครัวนั้นบางเสียยิ่งกว่ากระดาษอีก ข้ารู้สึกมาตลอดว่า เรื่องเช่นนี้ไม่มีทางเกิดขึ้นระหว่างพี่น้องของข้า ที่แท้แล้ว... ก็มีเพียงข้าที่คิดไปเองฝ่ายเดียว!”“เจ้าแห่งทิศใต้เสด็จมาแล้ว!”ผู้คนที่มุงดูอยู่ต่างก็หลีกทางให้โดยมิรู้ตัว องค์หญิงหานเยวี่ยและเสิ่นฮ่าวจึงได้เห็นเจ้าแห่งทิศใต้ยืนอยู่ด้านหลังของฝูงชนที่ด้านหลังของเขามีขุนนางหลายคนยืนอยู่ด้วย และในบรรดาขุนนางนั้นก็ยังมีบรรดาผู้ตรวจการที่เป็นที่เคารพนับถือหลายคนทีเดียวเจ้าแห่งทิศใต้แต่งกายด้วยชุดองค์ชายสีเข้มทั้งตัว เห็นได้ชัดว่าหลังจากว่าราชกิจเสร็จแล้วก็รีบตรง

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2390

    เมื่อเสิ่นฮ่าวได้ยินเช่นนี้ เขาก็จ้องมองไปด้วยสายตาโหดเหี้ยม จากนั้นก็ด่าทอออกไป “ใครมันพูดจาเหลวไหลใส่ร้ายข้า?"เหล่าคุณชายตระกูลเส้ายืนขึ้นมาตรงหน้าทันที แล้วปิดกั้นสายตาของเสิ่นฮ่าวมิให้เห็นคนที่พูด“กล้าทำแล้วยังจะกลัวถูกดุอีกรึ?”คนผู้นั้นคือคนที่โม่เจี๋ยส่งมา นามว่าฉาชิ่งฉาชิ่งอายุยี่สิบกว่าปี คิ้วหนาและตาโต แต่ครึ่งหนึ่งบนใบหน้านั้นเต็มไปด้วยรอยแผลเป็นที่น่าเกลียด เห็นได้ชัดว่าเป็นแผลที่เกิดจากการถูกไฟไหม้ขาของเขาเหลืออยู่ครึ่งเดียว จึงต้องพึ่งไม้เท้ามาที่นี่เขายืนอยู่ด้านหลังของคนตระกูลเส้า แล้วก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ “ทุกคนดูแม่ทัพเสิ่นของพวกเราสิว่าสง่างามเพียงใด!”“หากมีคนจะบุกรุกเข้าไปในจวนองค์หญิง เขาก็จะสังหารโดยมิละเว้น! มีความสามารถเช่นนี้ เหตุใดจึงมิไปฆ่าฟันศัตรูที่สนามรบเล่า?”“เมื่อครู่เขาบอกว่าข้าใส่ร้ายเขา ข้าใส่ร้ายหรือไม่ ทุกคนดูจากความโอ่อ่าของจวนองค์หญิงก็รู้แล้ว!”“เหล่าพี่ใหญ่ทุกท่าน โปรดหลีกทางให้ที! ข้ามิกลัวตาย… หากเขาจะสังหารก็ให้เขาสังหารเสียเถิด!”ฉาชิ่งผลักคุณชายตระกูลเส้าที่ปกป้องตนออกไป แล้วใช้ไม้เท้าเดินขึ้นไปข้างหน้าเสิ่นฮ่าวมองฉาชิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2389

    ด้วยความที่บิดาของหลิวซานหมายจะเข้าหาองค์หญิงหานเยวี่ยและเจ้ากรมหยาง เขาจึงบังคับให้หลิวซานพูดโกหกออกมาเขาเอ่ยออกมาอย่างมั่นใจ “สิงอวี๋และหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ตายไปแล้ว และเย่หรงก็เป็นลูกที่มิเอาไหนของตระกูลเย่ ขอเพียงเจ้ายืนยันอย่างหนักแน่นว่าเย่หรงและสิงอวี๋ทำร้ายหยางหงหนิง ใครจะสงสัยพวกเจ้ากันเล่า!”“เจ้ากรมหยางรับรองไว้แล้วว่าคนอื่น ๆ ก็จะพูดเช่นเดียวกับเจ้าทั้งหมด เจ้าก็วางใจเสียเถิด!”หลิวซานถูกพ่อบังคับแกมเกลี้ยกล่อมด้วย สุดท้ายนางจึงหอบความหวังเล็ก ๆ ไว้แล้วพูดสิ่งที่พูดออกไปเมื่อครู่นี้หลังจากที่เย่หรงดุด่านางจบแล้ว เขาก็ตะโกนใส่องค์หญิงหานเยวี่ย“องค์หญิงหานเยวี่ย ท่านเรียกหยางหงหนิงออกมาเถิด พวกเราต้องการเผชิญหน้ากับนางพ่ะย่ะค่ะ!”หยางซูและหลงอิงก็เออออตามเช่นกัน “ใช่เพคะ พวกเราต้องการเผชิญหน้านางเสียให้รู้เรื่อง!”“นางก่อเรื่องใหญ่เช่นนี้ แล้วก็ซ่อนตัวมิพบปะผู้ใด ทั้งยังใช้การกระทำเล็กน้อยเช่นนี้มาใส่ร้ายพวกเราอีก พวกเราต้องการให้นางยอมรับผิดจากปากของนางเองเพคะ!”องค์หญิงหานเยวี่ยขมวดคิ้วมุ่น นางมิชอบการถูกกระทำเช่นนี้เสียมาก ๆ นางจึงเอ่ยออกไปด้วยเสียงทุ้มลึก“ข้าช่ว

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status