Share

บทที่ 5

Author: กานเฟย
หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองนอนอยู่บนหลุมธรรมดา มีตะเกียงน้ำมันแสงสลัวแขวนอยู่บนกำแพงดินเก่า ๆ

ส่วนเสี่ยวเมาที่นอนข้างกายเธอนั้น อาการบาดเจ็บก็สาหัสมากยิ่งขึ้น!

หลิงอวี๋รู้สึกได้ว่าเจ็บปวดตรงหน้าอก นี่เป็นความรู้สึกของเสี่ยวเมาที่เธอรับรู้ได้!

หลิงอวี๋คุ้นชินกับความรับรู้ที่เหนือธรรมชาติของตนเองได้แล้ว จึงได้คลานไปอย่างต้องการจะช่วยเสี่ยวเมาตรวจอาการอีกสักครั้ง

ในเวลานี้ เธอได้ยินเสียงของคนพูดคุยกันอยู่ด้านนอก

น้ำเสียงดูเขินอาย “พี่หลิงหลาน พี่ช่วยไปขอร้องพี่หลิงผิง ให้นางช่วยตามหมอมาให้กับคุณชายน้อยและแม่นมลี่ทีเถิด! แม่นมลี่อายุมากแล้ว นางไม่มีทางทนได้!”

หลิงหลานเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “แม่นมลี่และข้าถูกเจ้าหมูโง่นั่นทำให้ลำบากแล้ว ต่างก็ถูกเฆี่ยนกันคนละสามสิบครั้ง ทั่วทั้งร่างกายของข้าล้วนแต่เต็มไปด้วยบาดแผล! จะมีหมอที่ไหนมาดูพวกเรากัน! ท่านหมอที่มีชื่อในเมืองหลวงล้วนแต่ถูกท่านอ๋องเรียกไปทางด้านของเฮยจื่อหมดแล้ว!”

“ข้าเพิ่งจะได้ยินมาว่า หมอเหล่านั้นเองก็มิอาจทำอะไรกับอาการบาดเจ็บของเฮยจื่อได้เลย คุณชายเฮยจื่อหากว่าไม่อาจมีชีวิตอยู่ต่อได้ พวกเราทั้งหมดคงจะต้องถูกฝังลงไปพร้อมกับคุณชายแน่!”

“แม่นมลี่ตายไปก็ดี ตายเร็วก็ไปเกิดใหม่เร็ว!”

อย่างไรแล้ว หลิงซินยังคงเด็ก อายุเพิ่งจะครบสิบสองปีเท่านั้น นางจะเคยผ่านประสบการณ์เช่นนี้มาได้อย่างไรกัน

หลิงซินหวาดกลัวจนร้องไห้ออกมา “เช่นนั้นจะทำอย่างไรดี?”

หลิงซินส่งเสียงร้องดังออกมา “คงต้องยอมรับความโชคร้ายแล้ว คนอื่นติดตามเจ้านายมีปลามีเนื้อให้ได้เพลิดเพลิน พวกเราติดตามเจ้าหมูโง่นี้ แม้แต่ความโชคดียังไม่เคยได้รับ แต่เรื่องร้ายกลับไหลมาไม่หยุดหย่อน!”

"หากว่ารู้แต่เนิ่นก็คงจะเรียนรู้ที่จะประจบประแจงชิวเหวินซวงอย่างหลิงผิงแล้ว คงจะดีกว่าติดตามเจ้าหมูโง่นี้...”

หลิงอวี๋เมื่อเห็นว่าประตูปิดลง เธอก็คอยระมัดระวังความเคลื่อนไหวของทั้งสองคนด้านนอก พลางตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเสี่ยวเมา

หลังจากที่หลิงอวี๋ค้นหายาบางส่วนที่จำเป็นในห้องวิจัยแล้ว ก็ออกมารักษาให้กับเสี่ยวเมา

หลิงอวี๋ฉีดยาลดไข้ให้กับเสี่ยวเมาก่อน ก่อนที่จะจัดการกระดูกให้กับเขา

หลิงอวี๋มองเห็นรอยบาดแผลจากแส้ที่พาดผ่านตรงหน้าอกของเสี่ยวเมา จนไปถึงกรามล่าง

บนหน้าอกนั้น ยังมีรอยช้ำที่ดูดำเขียวคล้ำ นั่นคือรอยที่องครักษ์เตะเข้า

เมื่อครู่นี้หลิงอวี๋ตรวจสอบอย่างเร่งรีบ ไม่ได้มองเห็นอย่างชัดเจน

ในเวลานี้เมื่อมองเห็นแล้ว ในใจของหลิงอวี๋ก็รู้สึกบีบรัดแน่น จะต้องใช้แรงมากขนาดไหนกัน!

องครักษ์นั่นต้องการจะฆ่าเจ้าเสี่ยวหลัวโปอย่างนั้นหรือ?

ลงมือกับเด็กน้อยคนหนึ่งอย่างโหดร้ายเช่นนี้ เป็นเพราะว่ามีความแค้นความคับข้องใจอะไรกันอย่างนั้นหรือ?

ขณะที่หลิงอวี๋กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ก็พบว่าจู่ ๆ ร่างกายของเจ้าเสี่ยวหลัวโปสั่นสะท้านขึ้นมา อ้าปากกว้างแล้วกระอักเลือดออกมา...

ความเกลียดชังที่หลิงอวี๋มีก็เพิ่มขึ้นอย่างรุนแรงในทันที

กล้าทำเสี่ยวเมาบาดเจ็บจนกลายเป็นเช่นนี้ หากว่าความแค้นนี้มิได้แก้แค้น สาบานเลยว่า เธอจะไม่ใช่คนอีกต่อไป!

ก่อนหน้านั้นหลิงอวี๋ไม่สนใจเสี่ยวเมา ไม่ถามไม่ไถ่เขา

แต่ในเมื่อเธอเข้ามาอาศัยในร่างนี้แล้ว ก็จะไม่เป็นดังเช่นก่อนหน้านั้นอีก!

เธอจะถือว่าเด็กที่คอยปกป้องเธอคนนี้ เป็นคนที่ใกล้ชิดของเธอ!

หลังจากที่จัดกระดูกให้กับเสี่ยวเมาแล้ว หลิงอวี๋ถึงได้นั่งลงบนเตียงพร้อมเหงื่อซ่กร่าง

ตอนนี้ร่างกายนี้เสียหายมากจนเกินไปแล้ว หลังจากที่เคลื่อนไหวในครั้งนี้แล้ว เธอถึงได้รู้สึกไร้ซึ่งเรี่ยวแรงไปทั้งตัว อีกทั้งยังหิวมาก

นางรับใช้ทั้งสองคนด้านนอกนั้นไม่ส่งเสียงใดออกมาแล้ว และไม่รู้ว่าหนีหายไปที่ใดกัน

หลิงอวี๋พักผ่อนชั่วครู่หนึ่ง ก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีแม่นมลี่ที่ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย จึงได้หยิบยาขี้ผึ้งและยาชนิดพิเศษสำหรับอาการบาดเจ็บภายในแล้วเดินออกมา

หลิงอวี๋เพิ่งจะเปิดประตูออกมา ก็พบกับหลิงซินที่ประคองแม่นมลี่เดินเข้ามาช้า ๆ

“พระชายา บ่าวเพิ่งจะไปสืบข่าวมา ได้ยินมาว่าเฮยจื่อได้รับบาดเจ็บภายในสาหัส กระดูกซี่โครงหักทะลุเข้าไปในปอด กระอักเลือดออกมาตลอดเวลา...”

แม่นมลี่หอบหายใจอย่างหนัก พักอยู่ครู่หนึ่งถึงได้เอ่ยออกมาต่อ

“ท่านอ๋องเชิญท่านหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาก พวกเขาต่างก็บอกว่า… ต่างก็บอกว่าเฮยจื่อคงจะทนอยู่ไม่ถึงฟ้าสว่างนี้แล้ว!”

“ท่านอ๋องโมโหมาก ยังโบยท่านหมอตายไปถึงสองคน… พระชายา ท่านรีบคิดหาวิธีการ หากว่าเฮยจื่อตายไป พวกเราก็ต้องถูกฝังไปด้วยกัน!” หลิงซินเสริมอย่างขลาดกลัว

“ตอนนี้กี่ยามแล้ว?”

หลิงอวี๋ไม่รู้ว่าจะนับเวลาในโบราณอย่างไร

“ตอนนี้เป็นยามหรงแล้วเจ้าค่ะ หากว่ายังกระอักเลือดออกมาเช่นนี้ เกรงว่ากลางดึกก็อาจจะไม่อยู่แล้ว!”

แม่นมลี่เอ่ยออกมาอย่างร้อนรน “พระชายา ท่านรีบนำคุณชายน้อยหลบหนีไปเถิดเจ้าค่ะ!”

ยามหรงก็คือเวลาสิบนาฬิกาช่วงค่ำในยุคสมัยปัจจุบัน หลิงอวี๋คำนวณเวลาอยู่ครู่หนึ่ง กว่าจะฟ้าสว่างยังมีเวลาอีกหลายชั่วโมง!

แม่นมลี่เมื่อเห็นว่า นางยังคงไม่เอ่ยอะไรออกมา ก็คิดว่านางถูกทำให้ตื่นตกใจเข้า ก็เอ่ยออกมาอย่างร้อนรน

“พระชายา ท่านฟังคำเกลี้ยกล่อมของบ่าว รีบหนีไปทางด้านหลังเถิดเจ้าค่ะ!”

“กำแพงทางด้านหลังของเรือนบุหงาไม่สูงมากนัก บ่าวและหลิงซินจะผลักท่านขึ้นไป จะต้องกระโดดหนีไปได้แน่!”

“ข้าและเสี่ยวเมามีบาดแผลทั่วทั้งร่างกาย จะกระโดดไปได้ไกลรึ?”

หลิงอวี๋ส่ายศีรษะออกมา เอ่ยอย่างอดทน “แล้วยังมีพวกเจ้า ข้าหนีไป เซียวหลินเทียนจะต้องตีพวกเจ้าจนตายไป! ข้าทิ้งพวกเจ้าไปมิได้หรอก!”

สำหรับหลิงอวี๋คนก่อนหน้านั้นแล้ว แม่นมลี่ก็เป็นเพียงแค่คนรับใช้เท่านั้น!

แต่สำหรับหลิงอวี๋ที่ได้รับการสั่งสอนของปัจจุบันมาแล้ว กลับไม่มีการแบ่งแยกระหว่างนายบ่าว!

แม่นมลี่ปกป้องตนเองเช่นนี้ นางจึงไม่อาจทอดทิ้งพวกนางไปได้!

แม่นมลี่ได้ยินคำพูดนั้น ก็แข็งทื่อไป

หลิงอวี๋นำยาทาและยารักษาอาการบาดเจ็บภายในสองเม็ดส่งให้กับหลิงซิน

นางเพิ่งจะใช้ความสามารถทางการรับรู้ของนางตรวจสอบดูแม่นมลี่ ก็พบว่านางมีรอยแผลบางส่วนจากแส้และยังได้รับบาดเจ็บภายใน ยาทั้งสองชนิดนี้มีผลพิเศษต่อทั้งสองอาการ

“ใช้ยาทาลงไปบนรอยบาดแผลจากแส้ให้กับแม่นม อีกสองเม็ดให้กินลงไป!”

แม่นมลี่และหลิงซินมองสบตากัน เอ่ยออกมาด้วยความสงสัย “พระชายา ยานี่...”

หลิงอวี๋มองเห็นสายตาที่แปลกประหลาดของทั้งสองคน ก็เดาได้ว่าพวกนางกำลังสงสัยตนเองอยู่

ดูเหมือนว่า คงจะต้องหาคำอธิบายที่เหมาะสม ถึงจะสามารถเปิดเผยทักษะการแพทย์ของตนได้อย่างผ่าเผย

นางคิดคำอธิบายออกมาอย่างมีไหวพริบ “เมื่อครู่นี้ ข้าเพิ่งพบเข้าจากการค้นหาในกล่อง!”

“ในปีนั้น ท่านปู่ของข้าช่วยชีวิตคนประหลาดคนหนึ่งเอาไว้ และนี่เป็นสิ่งที่เขามอบให้เพื่อแสดงความขอบคุณ”

"ชายแปลกหน้ายังให้ตำราแพทย์แก่เขาเอาไว้ ด้านในนั้นมีวิธีการรักษาโรคและช่วยชีวิตมากมาย ข้าพบวิธีช่วยเฮยจื่อจากในนั้นแล้ว!"

แม่นมลี่และหลิงซินได้ยินก็เชื่อทันที

ท่านเสนาบดีต่อสู้อยู่ภายนอกทั้งทางใต้และเหนือเป็นเวลาหลายปี จะรู้จักคนที่มีความสามารถบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา!

“แม่นม ก่อนหน้านี้ข้าโง่เขลางี่เง่า เชื่อคำของหลิงผิงจนทำเรื่องเลวร้ายไปมิน้อย… ครั้งนี้ข้าถือว่าเข้าใจใบหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว! ต่อไปข้าจะมิฟังคำของนางอีก...”

หลิงอวี๋ไม่ได้มองเห็นหลิงหลาน คิดว่าเมื่อนางรับใช้เห็นตนเองตกต่ำ จะต้องหนีหายไปทางซิวเหวินซวงกันแล้ว!

“พวกท่านในเมื่อติดตามข้า จะต้องเชื่อใจข้า!”

“ขอเพียงข้าช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ พวกเราก็ไม่ต้องถูกฝังไปด้วยกันแล้ว! ต่อไปข้าหลิงอวี๋กินอะไร ก็จะต้องมีพวกเจ้าอยู่ด้วย!”

หลิงอวี๋มองไปยังในสถานการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้ แม่นมลี่และหลิงซินก็ยังมิทอดทิ้งนาง ในใจก็เต็มไปด้วยความอบอุ่น

นางแอบสาบาน ต่อไปจะต้องให้พวกนางมีชีวิตที่ดีขึ้น ให้หลิงผิงและหลิงหลานเสียใจไปจนตาย

แม่นมลี่และหลิงซินจ้องมองนางอย่างอึ้งตะลึง รู้สึกเหมือนว่าหลิงอวี๋จะเปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งอย่างไรอย่างนั้น!

พระชายาก่อนหน้านั้น จะเอ่ยถ้อยคำที่อบอุ่นหัวใจคนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน!

พระชายาที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ ถึงแม้ว่าจะยังคงเป็นใบหน้านั้น ทว่า ดวงตากลับดูสดใสกว่าก่อนหน้า ตนเองก็ดูเหมือนว่าจะมีพลังมากขึ้น!

หรือว่าการถูกโบยด้วยแส้ในคราวนี้ จะโบยเสียจนพระชายาที่สับสนได้สติขึ้นมาแล้วจริง ๆ ?

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ถูกโบยด้วยแส้ จนมีสติกลับมาแล้ว
goodnovel comment avatar
Aoi Rata
สนุกมาก แปลดีมากค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2564

    เช่นนั้นก็มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว!หลงหมิงคนนี้เป็นตัวปลอม!หลิงอวี๋และเย่หรงก็มิได้อยู่ในรถม้าเช่นกัน!เซียวหลินเทียนพลันคิดได้ว่า ในเมื่อตนเองยังได้รับข่าวว่าตระกูลจงเจิ้งและเหล่าจอมมารต่างมุ่งหน้ามาเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดี แล้วหลงหมิงจะมิรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร!เขาไม่มีเวลาให้เสียเปล่า จึงได้สร้างตัวแทนและกับดักขึ้นมาเพื่อลวงตาคนทั้งหลายเซียวหลินเทียนมิอาจจินตนาการได้ว่าหลงหมิงลอบขึ้นไปบนยอดเขาหินคู่ภายใต้การจับตามองของเขาได้อย่างไร แต่ในความรีบร้อนนั้น เขาก็คิดถึงความเป็นไปได้อย่างหนึ่งบางทีวิญญาณหยินดวงจิตหยางอาจมิได้อยู่บนยอดเขาหินคู่เลยตั้งแต่แรก สถานที่ที่เรียกว่ามีตำแหน่งที่ตั้งสูงชันและถูกแม่นางเฟิ่งยึดครองแห่งนี้ เป็นเพียงฉากบังตาที่สร้างขึ้นเพื่อให้พวกเขาทุกคนเชื่ออย่างสนิทใจเท่านั้นเซียวหลินเทียนหันขวับไปมองหาท่านผู้เฒ่าเย่อย่างบ้าคลั่ง แต่กลับเห็นเพียงท่านผู้เฒ่าเย่ยืนอยู่มิไกลด้วยสีหน้างุนงง ราวกับว่าตัวเขาเองก็มิเข้าใจว่าเกิดกระไรขึ้นเช่นกันเซียวหลินเทียนพุ่งเข้าไปหาในทันที ความเคารพที่เคยมีต่อท่านผู้เฒ่าเย่เลือนหายไปจนหมดสิ้น เขาคว้าคอเสื้อของท่านผู้เฒ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2563

    ร่างของหลงเพ่ยเพ่ยลอยอยู่กลางอากาศ นางไม่มีเวลาแม้แต่จะเปลี่ยนท่าร่าง และมองเห็นรอยยิ้มอันเหี้ยมโหดของหยางหงหนิงได้อย่างชัดเจน“นางแพศยา ไปตายซะ!”ในขณะที่ผงแป้งเหล่านั้นกำลังจะโปรยใส่ใบหน้าของหลงเพ่ยเพ่ย ทันใดนั้นนางก็สะบัดแขนเสื้ออย่างแรง พลังอันแข็งแกร่งที่มาพร้อมกับลมกรรโชกได้พัดพาผงแป้งเหล่านั้นกลับไปในทันทีรอยยิ้มอันบ้าคลั่งของหยางหงหนิงยังมิทันจะปรากฏเต็มที่ ก็เห็นผงยาที่ตนโปรยออกไปพุ่งกลับมาหาตนเอง นางตกใจจนต้องทิ้งตัวลงกลิ้งกับพื้นเพื่อหลบผงยาเหล่านั้นหลงเพ่ยเพ่ยร่อนลงมาจากฟ้า กระบี่ในมือแทงตรงไปยังแผ่นหลังของหยางหงหนิงแต่ในขณะที่ปลายกระบี่กำลังจะทิ่มแทงเข้าสู่ร่างของหยางหงหนิง แส้เก้าท่อนเส้นหนึ่งก็ตวัดมาจากด้านข้างพันเข้ากับกระบี่ของหลงเพ่ยเพ่ยแรงดึงอันมหาศาลกระชากหลงเพ่ยเพ่ยจนร่างของนางเซไปด้านข้างนางรีบหันกลับไปมองด้วยความตื่นตระหนกก็เห็นใบหน้าที่เย็นชาของหลงซินปรากฏขึ้นในม่านตาหลงเพ่ยเพ่ยยังมิทันได้ชักกระบี่กลับฝ่ามือของหลงซินก็ฟาดเข้ามาฉัวะ…หลงเพ่ยเพ่ยรู้สึกเพียงว่าหน้าอกของตนถูกกระแทกอย่างรุนแรง ร่างกายก็ปลิวกระเด็นถอยหลังไปความหวานคาวคละคลุ้งขึ้นมาใ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2562

    เมื่อหลงซินเห็นผู้คนมากมายกระโจนออกมาจากรอบทิศ เขากลับมิตื่นตระหนกแม้แต่น้อย พลางแค่นเสียงเย็นชา “พวกเจ้าทั้งหมดมารนหาที่ตายกันรึ?”“ถ้าเช่นนั้น ก็ให้พวกสวะอย่างพวกเจ้าได้เห็นฝีมือขององค์รัชทายาทผู้นี้เสียหน่อย!”กล่าวจบ หลงซินก็โบกสะบัดแส้เก้าท่อนในมือ ใช้เท้ากระตุ้นม้าทะยานไปข้างหน้าแส้เก้าท่อนอันแข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้นพลิกแพลงไปมาอย่างคล่องแคล่ว สะบัดขึ้นลงกลางอากาศพร้อมด้วยไอสังหารอันน่าสะพรึงกลัวดุจงูพิษเย็นเยียบที่กำลังเริงระบำมือสังหารจากตำหนักปีกเงินผู้หนึ่งพุ่งเข้าปะทะกับหลงซินเป็นคนแรก เขาถูกแส้เก้าท่อนฟาดเข้าใส่ร่างเต็ม ๆ พริบตานั้นแขนข้างหนึ่งก็ขาดกระเด็นไปเลือดสดและแขนที่ขาดลอยคว้างขึ้นไปกลางอากาศ มือสังหารผู้นั้นเจ็บปวดจนต้องทิ้งตัวลงไปนอนกลิ้งกับพื้น แต่ยังมิทันที่จะลุกขึ้นยืน แส้เก้าท่อนของหลงซินก็จู่โจมมาถึงอีกครั้งมือสังหารรู้สึกราวกับมีอสรพิษเย็นเยียบรัดพันรอบลำคอ เขาแทบไม่มีโอกาสได้ตอบโต้กลับ ก็ได้ยินเสียงดัง “แกร็ก” มาจากต้นคอหลงเพ่ยเพ่ยซึ่งอยู่ข้าง ๆ เห็นกับตาว่าแส้เก้าท่อนนั้นเกี่ยวศีรษะของมือสังหารจนลอยขึ้นไปกลางอากาศวิธีการอันโหดเหี้ยมและนองเลือด

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2561

    ใกล้เข้ามาแล้ว เซียวหลินเทียนซึ่งยืนอยู่บนที่สูงมองปราดเดียวก็เห็นหลงหมิงที่ควบม้านำมาเป็นคนแรก ส่วนด้านหลังนั้นตามมาด้วยกองทัพหลวงในชุดเกราะเต็มยศกำลังคุมรถม้าที่ขังหลิงอวี๋และเย่หรงเอาไว้ข้างกายของหลงหมิงคือเสิ่นฮ่าว เขาก็ขี่ม้าตัวสูงใหญ่และสวมชุดเกราะสีดำเช่นกัน แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนชุดเกราะสะท้อนประกายแวววาว ทำให้เขาดูองอาจผึ่งผายและหยิ่งผยองผู้ที่ขนาบข้างตามมาอีกคนคือหยางหงหนิงในชุดสีแดงสด นางมาที่นี่เพื่อเป็นสักขีพยานการตายของหลิงอวี๋หลงหมิงได้ให้สัญญากับนางไว้ว่า ขอเพียงให้เย่หรงช่วยตามหาผลึกมังกรจนพบ ในท้ายที่สุดก็จะมอบตัวเย่หรงให้กับนางหยางหงหนิงเริ่มขบคิดในใจแล้วว่าจะลากเย่หรงที่ถูกล่ามโซ่ดั่งสุนัขไปเดินประจานทั่วท้องถนนในเมืองหลวงได้อย่างไรนางต้องการให้หลงอิง หยางซูและทุกคนที่เคยเห็นเย่หรงปฏิเสธนางในวันวานได้เห็นกับตาตัวเองว่าเย่หรงต้องคลานสี่ขาเหมือนสุนัขนางจะประกาศให้คนเหล่านั้นรู้ว่า มิใช่เย่หรงที่มิต้องการแต่งงานกับนาง แต่เป็นนางเองที่มองมิเห็นเขาอยู่ในสายตาอีกแล้วบุรุษร่างผอมที่อยู่เคียงข้างอีกฝั่งหนึ่งคือหลงซิน เขาสวมชุดเกราะเช่นกัน แต่เพราะร่างกายที่

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2560

    ท่านผู้เฒ่าเย่ก็เข้าใจคำพูดของเซียวหลินเทียนเช่นกัน เขามิรู้สึกตื่นเต้นแม้แต่น้อย กลับกัน ในใจนั้นพลุ่งพล่านไปด้วยความรู้สึกสิ้นหวังอย่างสุดซึ้ง“เมื่อครั้งอดีต ตระกูลใหญ่ของเราต่างร่วมแรงร่วมใจกันต่อสู้กับฝูไห่อย่างมิคิดชีวิต แต่หลายร้อยปีให้หลัง พวกเรากลับต้องมาเข่นฆ่ากันเองเพื่อมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เพียงชิ้นเดียว!”“นี่คือความก้าวหน้า หรือว่าความถดถอยกันแน่?”“ฝูไห่ยังมิถูกปล่อยออกมา พวกเราก็กลับมาสู้รบกันเองเช่นนี้แล้ว หากเขาออกมาเห็นภาพนี้เข้า จะมิหัวเราะเยาะพวกเราเหล่าตระกูลใหญ่หรอกหรือว่า ที่ทำไปทั้งหมดนั้นสูญเปล่า?”“พี่ใหญ่ของข้าเคยบอกว่า มหันตภัยแห่งแดนเทพนั้นน่ากลัวยิ่งนัก แต่ข้ากลับรู้สึกว่า การสู้รบกันเองภายในพวกเราต่างหากคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุด!”กำเนิดจากรากเหง้าเดียวกัน เหตุใดต้องเผาผลาญกันอย่างเร่งร้อนถึงเพียงนี้!มิว่าตระกูลเหล่านี้จะสกุลเย่ สกุลจงเจิ้ง หรือสกุลเฉียว ล้วนเป็นราษฎรของแดนเทพ เป็นชีวิตคนที่มีเลือดเนื้อทั้งสิ้น!ท่านผู้เฒ่าเย่ร่ำไห้น้ำตานองหน้า ทุบหน้าอกทึ้งผมด้วยความเจ็บปวดใจ “หากบรรพบุรุษของตระกูลใหญ่ทั้งหลายยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเห็นภาพเช่นนี้ จะมิ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2559

    เมื่อหลงเพ่ยเพ่ย ท่านผู้เฒ่าเย่และคนอื่น ๆ ได้ยินคำพูดของเซียวหลินเทียน ทุกคนต่างตกตะลึงไปตามกันหากฝูไห่ถูกช่วยออกมาได้ นั่นก็คือมหันตภัยครั้งใหญ่หลวง!มหันตภัยครั้งนี้น่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าการที่หลงหมิงได้เป็นจักรพรรดิเสียอีก หรือว่าแดนเทพจะต้องตกไปอยู่ในเงื้อมมือของตงกู่อวี้และฝูไห่อย่างสมบูรณ์แล้วกระนั้นหรือ?“หลงหมิง เจ้าคนสารเลวนั่น เขามิรู้หรือไรว่าหากปล่อยตัวฝูไห่ออกมาแล้วผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร?”เย่ซื่อเจียงโกรธจนสบถออกมาในอดีต บรรพบุรุษของหลงอี้และหวงฝู่หลินต่างร่วมกันทุ่มเทความพยายามอย่างสุดความสามารถกว่าจะสามารถผนึกจอมมารตนนั้นไว้ใต้ภูเขาหิมะได้ ชัยชนะในสงครามครั้งนั้นได้มาอย่างยากลำบากยิ่ง มีผู้คนล้มตายนับมิถ้วนบรรพบุรุษของตระกูลเย่เองก็เสียชีวิตในสนามรบครั้งนั้นเช่นกันบัลลังก์ของตระกูลหลงนั้นตั้งมั่นอยู่ได้ก็เพราะกองกระดูกจำนวนมหาศาลเหล่านี้!ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลหลง หลงหมิงมิคิดที่จะนำพาทุกคนร่วมสร้างความรุ่งเรือง แต่กลับมุ่งมั่นศึกษาเพียงวิธีที่จะสังหารธิดาของตนเพื่อชิงหยกหล้าสุขาวดีมาครอบครอง และเพื่อให้ตนมีชีวิตเป็นอมตะคนเห็นแก่ตัวเช่นนี้จะมีคุณสม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status