Share

บทที่ 6

Author: กานเฟย
“ข้าไม่เชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ จะไม่มีสักคนที่จะสามารถช่วยเหลือเฮยจื่อได้!”

“ออกไปตามหามาให้ข้า! ของเพียงแค่ช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ ข้าจะให้รางวัลอย่างงาม!”

เมื่อเวลาผ่านไปหนึ่งชั่วยาม เมื่อมองเห็นลมหายใจของเฮยจื่อขาดช่วง ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษ

มีท่านหมอหลายคนที่พากันถอดใจไปแล้ว ต่างก็หาคำอ้างเพื่อทูลลา

เมื่อเห็นว่าท่านหมอพากันจากไป เซียวหลินเทียนเองก็ไม่อาจควบคุมอารมณ์เอาไว้ได้อีก ตบลงบนที่พักแขนของรถเข็นคำรามด้วยความกรุ่นโกรธขึ้นมา

“กลุ่มคนเศษสวะ!”

ลู่หนาน ทหารองค์รักษ์ที่มีใบหน้าเหลี่ยมคิ้วหนาดวงตาโตที่ยืนอยู่ด้านข้างนั้น

เขาติดตามเซียวหลินเทียนมาหลายปี ลักษณะนิสัยดูสงบนิ่ง จงรักภักดีต่อเซียวหลินเทียนอย่างมาก และได้รับความไว้วางใจจากเซียวหลินเทียนเป็นที่สุด

เมื่อเขาเห็นว่าทุกคนไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมา จึงทำได้เพียงฝืนตนกล้าเดินก้าวออกมา เอ่ยอย่างลำบากใจ

“ท่านอ๋อง หมอที่มีชื่อในเมืองหลวงพวกเราต่างก็หากันมาแล้ว เฮยจื่อคราวนี้ เกรงว่าคงไม่อาจจะมีชีวิตอยู่ต่อได้แล้ว...”

“ท่านอ๋อง...ข้าจะไปจับตัวหญิงสาวคนนั้นมา ให้นางได้ชดใช้ชีวิตให้กับเฮยจื่อ!”

ชิวเฮ่าทหารองค์รักษ์ที่เตะเสี่ยวเมาจนได้รับบาดเจ็บ ใบหน้าอวบอ้วน ท่าทีบ้าบิ่น

เขาขัดคำของลู่หนาน ดึงดาบออกมาอย่างต้องการจะพุ่งออกไป

ในเวลานี้ จู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงจากด้านนอกเรือนลอยดังเข้ามา

“เซียวหลินเทียน ให้ข้าเข้าไป หากว่าบนโลกนี้จะยังมีคนที่สามารถช่วยชีวิตเฮยจื่อเอาไว้ได้ เช่นนั้นก็คือข้าแล้ว!”

น้ำเสียงแหบแห้งที่ไม่น่าฟังเพียงแค่ได้ยินก็รู้ว่าจะต้องเป็นหลิงอวี๋ เซียวหลินเทียนได้ยินคำของนาง ใบหน้าหล่อเหลาก็ดูมืดมนลงในทันที

“ผู้หญิงคนนั้นยังไม่ตาย? นางยังกล้ามารบกวนเฮยจื่ออีก?”

“ก็ดี ให้นางเข้ามา รอเมื่อเฮยจื่อขาดลมหายใจไปแล้ว ก็จะเป็นเวลาที่ชีวิตของนางจะต้องกลับปรโลกไป!”

เซียวหลินเทียนเอ่ยอกมาอย่างเคร่งขรึม ชิวเฮ่าแทบทนรอไม่ได้ที่จะพุ่งออกไป

“อย่าแตะต้องข้า! หากว่าเจ้ายังต้องการให้เฮยจื่อมีชีวิตอยู่อีก!”

หลิงอวี๋มองเห็นทหารองค์รักษ์ที่เตะจนหัวแครอทได้รับบาดเจ็บ หยิบดาบพุ่งตรงมายังตนเอง ก็ร้องตะโกนออกมาก่อน

“ข้าสามารถช่วยเฮยจื่อได้ ข้ามียาลับเฉพาะ หากว่าเจ้ากล้าทำร้ายข้า เช่นนั้นก็รอเฮยจื่อตายไปเสียเถิด!”

“ผู้หญิงชั้นต่ำ! เจ้าไม่มีทักษะการแพทย์อยู่เลย ยังกล้าวิ่งมาหลอกลวงคนอยู่ที่นี่อีก มาลองโดนดาบของข้าเสียก่อนแล้วค่อยว่ากันเถิด...”

ชิวเฮ่าไม่ฟังคำของนางแม้แต่น้อย เหวี่ยงดาบฟันลงไปทางหลิงอวี๋

ทั่วทั้งร่างกายของหลิงอวี๋เต็มไปด้วยรอยบาดเจ็บจากแส้ ทำให้การตอบสนองกลับของนางดูช้าลง และถึงแม้ว่านางจะหลบไปได้ทันท่วงที แต่แขนก็ยังถูกปลายดาบของชิวเฮ่าแทงเข้า

เลือดไหลพุ่งออกมา เปียกชื้นไปทั่วทั้งแขนเสื้อ ค่อย ๆ หยดลงบนพื้น!

ชิวเฮ่าเตะเข้ามาอย่างรุนแรงอีกครั้ง คราวนี้หลิงอวี๋ไม่อาจหลบเลี่ยงได้ทัน ถูกเตะจนกระเด็นลอยออกไป

หลิงอวี๋ตกลงบนพื้นดินอย่างแรง ครั้งนี้หลิงอวี๋หลบไปไม่ทัน ทรวงอกของนางเจ็บปวดขึ้นก่อนที่จะกระอักเลือดออกมา

เมื่อเห็นว่าชิวเฮ่าเดินเข้ามาอย่างดุร้าย นางจึงได้ร้องตะโกนออกมาดวงตาแดงก่ำ

“มา มา เตะข้าให้ตายไป......เฮยจื่อก็อย่าคิดที่จะช่วยเหลืออีกต่อไปแล้ว ต่อให้ข้าจะตายไปยาลับก็ไม่มีทางที่จะมอบให้กับพวกเจ้า!”

“คนชั้นต่ำ เจ้ากล้าข่มขู่ท่านอ๋อง!”

ชิวเฮ่าเหยียบลงบนใบหน้าของหลิงอวี๋อย่างแรง

หลิงอวี๋จ้องมองเขาด้วยความโกรธ คลานอยู่บนพื้น จ้องมองไปยังชิวเฮ่าราวกับหมาป่าร้าย เกลียดเสียจนอยากจะใช้สายตาฆ่าเขา...

นางรีบร้องตะโกนออกมาอย่างเร่งรีบ “เซียวหลินเทียน จวนของท่านมีบ่าวชั่วแบบนี้เป็นเจ้านายอย่างนั้นหรือ?”

“สองขาของท่านพิการแล้ว สมองก็ยังพิการไปด้วยหรือ?”

“หรือว่าจริง ๆ แล้วท่านไม่คิดที่จะช่วยเฮยจื่อ ถึงได้แม้แต่ความหวังสุดท้ายก็ไม่ต้องการแล้ว?”

ชิวเฮ่าเมื่อได้ยินประโยคนี้เข้า ก็ไม่กล้าที่จะเตะลงไปอีก

หากว่าเตะจนหญิงสาวคนนี้ตายไป ชื่อของบ่าวชั่วก็อยู่กับเขาไปตลอดชีวิต

เขาหันกลับไปมองโดยที่ไม่รู้ตัว ก็พบกับเซียวหลินเทียนที่ถูกลู่หนานเข็นออกมา

สีหน้าของเซียวหลินเทียนดูมืดมนและลึกล้ำ มองไม่เห็นร่องรอยของอารมณ์ใด

เขาจ้องมองหลิงอวี๋ที่คลานอยู่บนพื้นอย่างเย็นชา เหมือนราวกับมองคนตายไปแล้ว...

“เซียวหลินเทียน ดูที่บาดแผลของข้า...”

หลิงอวี๋เมื่อเห็นว่าเขามองมา ก็รู้ว่านี่เป็นเพียงโอกาสเดียวที่จะได้พิสูจน์ตนเอง

หลิงอวี๋พยุงกายลุกขึ้น ดันแขนเสื้อของตนเอง รอยบาดแผลจากดาบที่ยังคงมีเลือดไหลอยู่ปรากฏออกมาต่อหน้าของทุกคน

บาดแผลเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือด เลือดสดนั้นเปื้อนจนครึ่งแขนแดงฉาน...

ไม่รู้จักอับอาย!

ถึงกับกล้าที่จะเปิดแขนออกมาต่อหน้าของทุกคน!

ทหารองค์รักษ์ส่วนมากต่างก็เลือดที่จะละเลยกับรอยบาดแผลของหลิงอวี๋ เพียงแต่มองไปยังแขนขาวงามของนางอย่างดูหมิ่น ก่อนจะหันหน้าหนีไป

เซียวหลินเทียนเองก็เกิดความคิดเช่นเดียวกับทุกคน เพียงแต่ไม่อาจจะสายตาไปได้

ก่อนจะมองเห็นหลิงอวี๋หยิบขวดยาออกมาขวดหนึ่ง เทลงไปบนรอยบาดแผลนั้น

ทันใดนั้น เลือดก็หยุดไหลลง...

เซียวหลินเทียนกลั้นลมหายใจ จ้องมองขวดใสในมือของหลิงอวี๋ที่ไม่เคยพบมาก่อนด้วยความประหลาดใด ด้านในนั้นเป็นทั้งหมดเป็นผงสีขาว...

เซียวหลินเทียนอยู่ในกองทัพมานานหลายปี มองเห็นรอยบาดแผลมานับไม่ถ้วน และก็เคยมองเห็นยาที่หมอเหล่านั้นใช้ห้ามเลือด กลับไม่เคยพบว่าจะมียาที่ห้ามเลือดได้รวดเร็วเช่นนี้มาก่อน...

นี่มันยาอะไรกัน ถึงได้วิเศษขนาดนี้?

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Piyapatta Samungkun
ไม่ชอบที่เขียนให้องคลักษ์ไม่มีเหตุผลพระชายาบอกจะมารักษาเฮยจื่อใชักดาบมาฟันเตะถีบอีกแถมเหยียบหน้าพระชายาไม่เคารพก็ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ไหถึงท่านอ๋องจะเกลียดพระชายาแต่ยังไม่หย่าเหยียบหน้าพระชายาก็เหมือนเหยียบหน้าท่านอ๋องก่อนหน้านี้ก็โดนเฆี่ยน50ไม้โดนสาวใช้ตบและเหยียบหน้าแค้นแทนพระชายาเกลียดองคลักษ์
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2672

    สายฝนยังคงโปรยปรายลงมา ทว่าชาวบ้านแห่งหมู่บ้านตงหยางต่างกำลังเร่งมือขุดคลองกันอย่างขะมักเขม้นท่ามกลางสายฝนหูเฉิงถึงกับเรียกภรรยาของตนออกมาช่วย ส่วนป้าหูก็ช่วยรวบรวมเหล่าสตรีในหมู่บ้านมาทำหน้าที่ส่งข้าวส่งน้ำด้วยความพยายามของทุกคน ในที่สุดเมื่อถึงยามค่ำก็สามารถขุดคลองเชื่อมจากหมู่บ้านตงหยางไปยังแม่น้ำสายใหญ่ได้สำเร็จเมื่อเห็นมวลน้ำท่วมไหลระบายออกจากหมู่บ้านตงหยางลงสู่แม่น้ำใหญ่ ใบหน้าของทุกคนก็ปรากฏรอยยิ้มแห่งความยินดีหลิงอวี๋ได้สังเกตทิศทางการไหลของน้ำท่วมแล้ว จึงดึงตัวหูเฉิงมาชี้แนะสถานการณ์ตรงหน้าอีกครั้ง“ท่านลุงหู วันพรุ่งพวกท่านช่วยขุดเพิ่มในจุดเหล่านี้อีกสักหน่อย เพียงเท่านี้ก็จะสามารถระบายน้ำท่วมขังในหมู่บ้านออกไปได้ทั้งหมดแล้ว”“ในภายภาคหน้าก็ช่วยซ่อมแซมคลองที่ขุดขึ้นมาเหล่านี้ อย่าได้ปล่อยทิ้งร้างไป เช่นนี้แล้วต่อให้ในภายหน้าต้องเผชิญกับพายุฝนหรือน้ำท่วมใหญ่อีก ก็จะมิถูกน้ำท่วมแล้ว!”หูเฉิงเห็นแล้วว่าน้ำท่วมในหมู่บ้านได้ระบายออกไปกว่าครึ่งผ่านคลองสายใหม่นี้แล้ว เขาจึงรู้สึกนับถือหลิงอวี๋จากใจจริงเขามองออกเช่นกันว่า จุดที่หลิงอวี๋ชี้แนะนั้นถูกต้อง การขุดคลองหลายสาย

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2671

    หลิงอวี๋นั่งลงและเริ่มตรวจรักษาผู้ป่วยทันทีโชคดีที่ฮูหยินจี้ยังคงเกรงใจในฐานะของหลิงอวี๋ จึงได้สั่งให้องครักษ์จัดระเบียบให้ชาวบ้านเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยหลิงอวี๋ตรวจรักษาผู้ป่วยอย่างอดทน ส่วนหลิงหว่านคอยช่วยเขียนใบเทียบยาอยู่ข้าง ๆเมื่อเซียวหลินเทียนเข้ามาเห็นภาพนั้น ก็อดรู้สึกเจ็บปวดใจแทนนางมิได้ออกไปวิ่งเต้นมาทั้งวัน ครั้นกลับมาก็ยังมิได้พักผ่อน หลิงอวี๋ลำบากยิ่งนักในเมื่อหลิงอวี๋มิได้พักผ่อน เซียวหลินเทียนก็ย่อมมิพักเช่นกัน เขาไปหาลู่ปินเพื่อมอบหมายภารกิจในการขุดลอกแม่น้ำหลิงอวี๋ยุ่งอยู่จนกระทั่งเที่ยงคืนจึงตรวจผู้ป่วยจนหมดสิ้นนางเหนื่อยล้าจนแทบจะยกแขนมิขึ้น หลังจากชำระล้างร่างกายอย่างเร่งรีบแล้วก็ล้มตัวลงนอนทันทีรุ่งเช้าของอีกวัน เมื่อหลิงอวี๋ตื่นขึ้นมา เซียวหลินเทียนและคนอื่น ๆ ก็เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางแล้วหลิงหว่านนำเสบียงแห้งมาให้หลิงอวี๋ เมื่อขึ้นรถม้าแล้วก็หยิบออกมาให้นางกิน“พี่หญิงหลิงหลิง เราจะขุดลอกแม่น้ำได้จริง ๆ หรือเจ้าคะ?”เมื่อคืนหลิงหว่านก็ได้ยินเรื่องราวมาบ้างแว่ว ๆ แต่นางมิอยากจะเชื่อว่าหลิงอวี๋ออกไปเพียงวันเดียวก็สามารถหาหนทางได้แล้

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2670

    เสียงของหูเหิงเอ่ยขึ้นมา “ท่านแม่ ท่านพ่อพูดถูก เสบียงเหล่านี้พวกเรากินมิหมดหรอก แต่พวกป้าเลี่ยวอดอาหารมาหลายวันแล้วขอรับ!”“พวกเด็กกำพร้าและหญิงหม้ายมิสามารถออกไปหาอาหารได้ พวกเราช่วยได้สักนิดก็ช่วยเถิดขอรับ!”“ท่านวางใจได้ หากพวกเราไม่มีเสบียงแล้ว ข้ากับท่านพ่อเข้าไปล่าสัตว์ในภูเขาให้ได้ มิปล่อยให้ท่านแม่กับน้องสาวต้องอดอย่างแน่นอน!”สตรีผู้นั้นเงียบไปสักพักหนึ่งแล้วจึงเอ่ยว่า “นำไปมอบให้เถิด! วันพรุ่งแม่จะไปขุดผักป่าที่ในภูเขาสักหน่อย เอามาผสมกับข้าวแล้วต้มโจ๊กให้พวกเจ้ากิน จะได้ประทังชีวิตไปจนบาดแผลเจ้าหายดี!”หลิงอวี๋ฟังถึงตรงนี้แล้วก็จากไปก่อนหน้านี้นางยังกังวลอยู่ว่าหูเฉิงจะอาศัยการสนับสนุนของตนไปแอบอ้างบารมีเพื่อรังแกผู้อื่น และข่มเหงชาวบ้านบัดนี้เมื่อเห็นว่าแม้มีเพียงแต่เสบียงหนึ่งถุง หูเฉิงก็มิได้เก็บไว้เองแต่แบ่งปันให้คนที่ต้องการความช่วยเหลืออีกทั้งลูกทั้งสองคนและภรรยาของหูเฉิงก็มิใช่คนเห็นแก่ตัวเช่นกัน การที่หลิงอวี๋มอบเสบียงบรรเทาทุกข์ให้กับพวกเขาก็สามารถวางใจได้แล้วหลิงอวี๋รีบกลับไปที่เมืองจงโจว เซียวหลินเทียนยังมิกลับมา ดังนั้นหลิงอวี๋จึงไปหาแม่ทัพจี้ก่อนแ

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2669

    หูเฉิงมองแผนที่ที่หลิงอวี๋วาดขึ้นมาแล้วลูบคางอย่างนิ่งเงียบจากนั้นหูกังก็เอ่ยแทรกขึ้น “ฮองเฮาหลิง ทางน้ำนี้ต้องขุดนานเท่าใดหรือ? เมื่อขุดแล้วจะทำให้น้ำที่ท่วมอยู่ระบายออกไปได้จริงหรือพ่ะย่ะค่ะ?”หลิงอวี๋จึงเอ่ยออกไปอย่างมั่นใจ “หูกัง ข้าช่วยสำรวจมาให้พวกเจ้าแล้ว… พวกเจ้ามิเคยเห็นแม่น้ำสายนั้น อย่าว่าแต่น้ำที่ท่วมในหมู่บ้านพวกเจ้าเลย น้ำที่ท่วมพวกหมู่บ้านในละแวกนี้ก็ระบายไปได้ไม่มีปัญหา!”“พวกเจ้าไปหาคนมาขุดเถิด ข้าจะรับผิดชอบเรื่องอาหารการกินของพวกเจ้าเอง ไม่มีทางปล่อยให้พวกเจ้าหิวโซไปทำงานเป็นแน่!”จากนั้นหลิงอวี๋ก็หันไปหาหูเฉิงอีกครั้ง “ท่านลุงหู ท่านเป็นคนที่ได้เห็นใต้หล้ามาก่อน ท่านน่าจะรู้ดีว่าพึ่งพาผู้อื่นนั้นมิสู้พึ่งพาตนเอง!”“หวังพึ่งราชสำนักมิได้แล้ว ก็ทำได้เพียงพึ่งพาตนเองเท่านั้น! หากพวกท่านมิยินยอมที่จะช่วยเหลือตนเองก็ทำได้เพียงแต่รอความตายเท่านั้น!”“ฝนตกหนักเช่นนี้มิรู้ว่าเมื่อใดจะหยุดตก หากพวกท่านอยู่บนภูเขาเช่นนี้ไปตลอด ไม่มีใครไปขุดลอกระบายน้ำ เช่นนั้นสถานการณ์ก็จะเลวร้ายลงเรื่อย ๆ!”“แม้ว่าพวกเราจะอยากช่วยเหลือพวกท่าน แต่ก็ไม่มีกำลังคนและทรัพยากรมากถึงเพียงนั

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2668

    “ฮองเฮาหลิงประสงค์ถามสิ่งใด หากหูเฉิงรู้จะตอบทุกสิ่งมิปิดบัง และจะพูดความจริงอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ!”หูเฉิงแสดงท่าทีเคารพอย่างมาก แม้แต่จะนั่งตรงหน้าหลิงอวี๋ก็ยังมิกล้า“ท่านลุงหูนั่งลงคุยกันเถิด!”หลิงอวี๋ยิ้มเล็กน้อย นางข่มขวัญหูเฉิงได้เรียบร้อยแล้วจึงมิจำเป็นต้องรักษาระยะห่างระหว่างกันอีกหูเฉิงเองก็มิใช่คนขี้ขลาด เขาคิดว่าครอบครัวของตนตกต่ำถึงเพียงนี้แล้ว มิได้มีอะไรจะเสียอีก เขาจึงนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าหลิงอวี๋อย่างใจเย็น“ท่านลุงหู เมื่อครู่ข้าบอกไปแล้วว่าราชสำนักของพวกท่านยังเอาตัวมิรอด ยามนี้คงมิอาจช่วยเหลือพวกท่านได้!”“ข้า สามีของข้าและเจ้าแห่งทิศใต้แท้จริงแล้วเป็นสหายกัน พวกเรามาจากฉินตะวันตกก็เพื่อที่จะช่วยเหลือเจ้าแห่งทิศใต้ สิ่งเหล่านี้อาจจะไกลเกินไปสำหรับพวกท่าน เช่นนั้นเรามาพูดถึงสิ่งที่ใกล้ดีกว่า!”“ท่านบอกข้าทีว่าพวกท่านติดอยู่บนภูเขานี้กี่คน?”หูเฉิงครุ่นคิดแล้วเอ่ยออกไป “ฮองเฮาหลิง พวกเราเป็นราษฎรของหมู่บ้านตงหยาง ที่หมู่บ้านตงหยางมีราษฎรอยู่กว่าร้อยครัวเรือนพ่ะย่ะค่ะ จำนวนคนก็น่าจะห้าร้อยกว่าคน”“ครั้นเมื่อน้ำท่วม พวกเราล้วนวิ่งขึ้นภูเขากัน มีคนจำนวนมากที่ตา

  • ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา   บทที่ 2667

    หลิงอวี๋เห็นว่าเด็กหนุ่มที่พูดอยู่ใส่เพียงเสื้อตัวหนึ่งเท่านั้น อีกทั้งที่แขนเสื้อก็ยังมีเลือดซึมออกมาด้วยนางจึงรู้สึกสะกิดใจขึ้นมา เด็กหนุ่มผู้นี้พยายามล่าสัตว์มาอย่างสุดชีวิตจึงกังวลว่าตนจะแย่งชิงไปกระมัง?นางครุ่นคิด จากนั้นก็หยิบเสบียงหนึ่งถุงและโอสถรักษาแผลหนึ่งกล่องออกมาจากในมิติ จากนั้นก็เอ่ยออกไปอย่างอดทน “ท่านลุงหู ข้าขอมอบเสบียงถุงนี้กับพวกท่านก่อน เพื่อเป็นการพิสูจน์ความจริงใจของข้า!”“อีกอย่างเด็กหนุ่มผู้นี้ได้รับบาดเจ็บมา ข้าจึงมอบโอสถรักษาแผลให้เขาด้วยหนึ่งกล่อง พวกท่านถอยหลังไปสักหน่อย ข้าจะโยนขึ้นไปให้!”บุรุษผู้นั้นยกหน้าไม้ขึ้นมาอย่างระวังตัว หลิงอวี๋กังวลว่าลูกดอกของเขาจะยิงทะลุถุงข้าวเข้า นางจึงรีบเปิดให้เขาดูอย่างรวดเร็วบุรุษผู้นั้นตาไวมาก เมื่อเขาเห็นว่าเป็นถุงเสบียงจริง ๆ ก็ตาเป็นประกายขึ้นมาทันทีครั้นเมื่อเกิดน้ำท่วม ครอบครัวของพวกเขาเอาแต่ห่วงจะหนีเอาตัวรอด ต่างก็มิได้นำเสบียงออกมาหลายวันมานี้ พวกเขาอาศัยล่าสัตว์และขุดผักป่าเพื่อประทังชีวิต มิได้กินข้าวกันมาหลายวันแล้วหลิงอวี๋ยกมือขึ้นสะบัดแล้วโยนขึ้นไป ถุงที่บรรจุข้าวอยู่ห้าหกกิโลก็ตกอยู่ตรงหน้าขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status