พระชายาเว่ย!หลิงอวี๋เห็นรูปลักษณ์อันงดงามของสตรีผู้สูงศักดิ์ตรงหน้าเขาอย่างชัดเจน ก็จำได้ว่าเคยเห็นนางมาก่อนชายาเอกขององค์ชายใหญ่ มารดาของท่านหญิงจ่างหนิง!“แม่นางซือเชี่ยวชาญเรื่องการทำคลอดกับรักษาโรคสตรีที่สุด แต่น้องสะใภ้สี่ไม่เคยทำคลอดเลย ท่านเชื่อใจให้ชีวิตของจูหลานอยู่ในมือของนางเช่นนั้นหรือ?”ก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่เคยสังเกตพระชายาเว่ยมาก่อน หลังจากได้ยินคำพูดของนางจึงพิจารณานางอย่างระมัดระวังพระชายาเว่ยอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ รูปร่างหน้าตาของนางนับว่างดงาม แต่นางเทียบไม่ได้กับจ้าวเจินเจินความงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงแต่จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็นึกถึงสิ่งที่หลิงซวนเคยบอกตนเรื่องเกี่ยวกับพระชายาเว่ยได้พระชายาเว่ยมาจากตระกูลที่มีชื่อเสียง ท่านปู่ของนางเป็นผู้มีพระคุณของจักรพรรดิ พี่ชายสองคนในตระกูลต่างก็ผ่านเข้าจอหงวน และได้เข้าเรียนที่สำนักฮั่นหลินว่ากันว่าพระชายาเว่ยถูกเลี้ยงดูในการดูแลของท่านยายตั้งแต่เด็ก ได้รับการสอนอย่างลึกซึ้งจากท่านยาย มีการศึกษาดี และมีบุคลิกที่สงบเมื่อพระชายาเว่ยพูดเช่นนี้ องค์ชายเย่ก็ค่อนข้างลังเลเขาเคยได้ยินเกี่ยวกับทักษะทางการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่
หลิงอวี๋แค่คิดถึงประโยชน์ของการมีลูกชาย แต่ก็ไม่ได้อิจฉาอะไร!นางรู้สึกว่าเซียวหลินเทียนเองก็ไม่ใช่คนประเภทที่พึ่งพาลูกเพื่อรับตำแหน่งเช่นกัน!เพียงแต่ นางกับเซียวหลินเทียนสามารถมองได้อย่างใจเย็น แล้วคนอื่น ๆ เล่า?หลิงอวี๋หันไปมองพระชายาเว่ยโดยไม่รู้ตัว...รถม้าของพระชายาเย่ถูกรถม้าของตำหนักองค์ชายเว่ยชนระหว่างทางไปถวายเครื่องหอม นางถึงได้ตกจากรถม้า!นี่เป็นอุบัติเหตุจริง ๆ หรือ?หากพระชายาเว่ยไม่อยากให้พระชายาเย่ให้กำเนิดลูกชายคนโตของราชวงศ์ แล้วได้รับความโปรดปรานจากจักรพรรดิอู่อัน นางก็อาจจะทำเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้นี่!แต่พระชายาเว่ยก็ไม่ได้ดูคล้ายคนโง่แม้ว่าจะอยากจัดการกับพระชายาเย่ นางก็ไม่น่าจะใช้รถม้าของนางเองไปโจมตีรถม้าของตำหนักองค์ชายเย่สิ!ขณะที่หลิงอวี๋กำลังคิดอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังมาจากข้างในอีกครั้ง แต่เสียงนั้นอ่อนแรงลงกว่าก่อนหน้านี้มาก!ไม่ดีแล้ว!จู่ ๆ หลิงอวี๋ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา หากมีการสมรู้ร่วมคิดกันภายใน เช่นนั้นพระชายาเย่อาจจะสิ้นไปทั้งแม่ทั้งลูกได้!หลิงอวี๋อยู่เฉยไม่ได้แล้ว นางก้าวไปเอ่ยกับองค์ชายเย่ที่หน้าซีดด้วยความกังวล“องค์ชายห้
ฮูหยินจูตกใจมากจนเข่าทรุดลงไปกับพื้น ลูกคนแรกของจูหลานกับองค์ชายเย่ไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วหากในภายภาคหน้าไม่สามารถมีลูกได้อีก เช่นนั้นลูกสาวของนางคงมีชีวิตแบบตายทั้งเป็นแน่นอน!เมื่อจูเฮ่าเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งเข้าไปพยุงมารดาของตนลุกขึ้นทันที“คิดวิธีอื่นอีกมิได้หรือ?” จูเฮ่าเอ่ยถามอย่างร้อนใจเด็กคนนี้จากไป ในภายภาคหน้าก็มีลูกได้อีก ทว่าหากนางไม่สามารถมีลูกอีกต่อไป น้องสาวของตนจะต้องทุกข์ทรมานเป็นแน่!ดูเหมือนว่า แม่นมจะได้เห็นสถานการณ์เช่นนี้มามากแล้ว นางจึงเอ่ยอย่างไร้ความปรานี“แม่นางของข้าบอกว่าสามารถช่วยชีวิตพระชายาได้ก็เป็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแล้ว! หากพวกท่านขอมากเกินไป นางทำให้มิได้หรอก!”“ข้าขอเพียงให้หลานหลานมีชีวิตอยู่เท่านั้น! เจ้าไปบอกแม่นางซือให้รีบช่วยหลานหลานเสีย!” องค์ชายเย่กัดฟันตัดสินใจจู่ ๆ น้ำตาของฮูหยินจูก็ไหลลงมาอาบแก้ม ลูกสาวผู้น่าสงสารของนาง!“หากแม่นางของข้าต้องช่วยชีวิตพระชายาไว้ ก็ทำได้เพียงต้องใช้ยาที่ดีที่สุด ยานี้แม่นางของข้าต้องรวบรวมและปรับปรุงด้วยความพยายามอย่างมาก ต้องจ่ายเงินมาห้าหมื่นตำลึง…”“เงินมากเท่าใดข้าก็ให้ได้ รีบช่วยพระชายาเร็วเข้
สีหน้าของพระชายาเว่ยเปลี่ยนไปทันที พลางเอ่ยเถียงขึ้นมาอย่างร้อนตัว“น้องสะใภ้สี่เอ่ยวาจาไร้สาระอันใดกัน! ข้าเป็นคนเช่นนั้นหรือ? ข้าแค่เป็นห่วงว่าเจ้าจะไม่รู้เรื่องทำคลอดลูกแล้วทำผิดกับน้องสะใภ้ห้าต่างหาก!”“หากศพที่อยู่ในท้องจะทำให้นางหายใจไม่ออก ทุกคนรู้เรื่องนี้ดี! ข้าว่าเจ้าต่างหากเป็นคนที่จงใจฆ่าน้องสะใภ้ห้า!”หลิงอวี๋ไม่ได้ยินเสียงจูหลานที่อยู่ข้างในแล้ว จึงกังวลว่าพระชายาเว่ยกำลังถ่วงเวลาไม่ให้ตนช่วยเหลือจูหลานนั่นคือสองชีวิตเชียวนะ!หลิงอวี๋กังวลมากจนไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับพระชายาเว่ยแล้ว จึงตะโกนใส่องค์ชายเย่เสียงแข็ง“เซียวหลินมู่ หากหม่อมฉันมิชอบจูหลาน หม่อมฉันคงเดินจากไปเพราะท่าทีของท่านเมื่อครู่แล้ว!“หากหม่อมฉันมิรู้สึกเสียใจกับจูหลานที่จะไม่สามารถเป็นแม่ได้อีกตลอดชีวิต! หากมิเสียใจกับเด็กที่ยังไม่ลืมตาดูผืนแผ่นดินแต่จะถูกหมอต้มตุ๋นฆ่า! หม่อมฉันจะอยู่ที่นี่ให้ถูกสอบสวนเพื่อสิ่งใดกัน!”“บุตรกับภรรยามิใช่ของหม่อมฉัน จะช่วยเหลือพวกเขาหรือไม่มันขึ้นอยู่กับท่าน หม่อมฉันไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว!”“ท่านตรัสมาเถิดว่าอยากให้หม่อมฉันช่วยหรือไม่? หากมิให้หม่อมฉันช่วย ท่านจะต
นางผดุงครรภ์ทั้งสองรีบออกไปทันทีหลิงอวี๋หันกลับไปตะโกนใส่จูเฮ่ากับเซียวหลินเทียน“ห้ามผู้ใดในเรือนนี้ออกไปไหนจนกว่าข้าจะออกมา!”นางจ้องมองแม่นางซืออย่างดุร้าย หวังเพียงว่าเรื่องราวจะไม่เป็นอย่างที่ตนคิด!“องค์ชาย ท่านเข้ามากับพวกเรา!” หลิงอวี๋ตะโกนบอกองค์ชายเย่องค์ชายเย่ก้าวผ่านประตูไปโดยไม่รู้ตัวนางผดุงครรภ์คนหนึ่งรีบคว้าตัวเขาพลางตะโกนว่า “องค์ชาย ห้องคลอดสกปรกนัก อย่าเข้าไปนะเพคะ จะทำให้โชคร้าย!”เวลานี้องค์ชายเย่ไม่ฟังคำพูดโน้มน้าวใจใด ๆ แล้ว เมื่อเห็นท่าทางเงียบ ๆ ของจูหลาน เขาก็รีบเข้าไป พลางตะโกนอย่างประหม่า “หลานหลาน เจ้าเป็นเยี่ยงไรบ้าง?”หลิงอวี๋เองก็รีบพุ่งเข้าไปหาจูหลาน แล้วก็พบว่าจูหลานหมดสติไปแล้วหลิงอวี๋จับชีพจร หัวใจของจูหลานเต้นช้า หัวใจของเด็กก็อ่อนแอเกินกว่าจะรู้สึกได้หากมิใช่เพราะตนมีความสามารถรับรู้ที่ผิดปกติ ก็จะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการเต้นของหัวใจเด็กเพียงแค่จับชีพจรหรอก“เถาจื่อ ฉีดยาหัวใจ!”“หลิงซวน ออกไปหาคนมาตรวจเลือด เตรียมพร้อมสำหรับการให้เลือด!”หลิงอวี๋สั่งอย่างเป็นขั้นเป็นตอน“พี่สะใภ้สี่ ข้าต้องทำสิ่งใด?” องค์ชายเย่เอ่ยถามอย่างกังวล
หลิงอวี๋โกรธจนหน้าเขียว หยิบขวดยาแก้พิษกับเข็มออกมาฉีดเข้าไปที่เด็กก่อน ตอนนี้นางต้องจัดการกับรกและสายสะดือของจูหลาน ไม่มีเวลาตรวจสอบว่ามันเป็นพิษชนิดใด“พี่สะใภ้สี่ ท่านกำลังทำอะไรอยู่? นั่นอะไรหรือ?”องค์ชายเย่เห็นหลิงอวี๋แทงเข็มที่ทารก แล้วทารกก็ไม่ร้องเลยตั้งแต่เกิดมา เขาจึงเอ่ยออกมาอย่างกังวล“อย่าได้ห่วงเพคะ หม๋อมฉันกำลังช่วยเขา!”หลังจากที่หลิงอวี๋ฉีดยาเสร็จแล้วก็ส่งทารกให้เถาจื่อดูแล ส่วนตนก็มาจัดการจูหลานต่อเลือดของจูหลานยังไม่หยุดทั้งยังมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยหลิงอวี๋รีบเอาเข็มเงินออกมาฝังไว้ที่จุดฝังเข็มของจูหลาน จากนั้นตะโกนไปข้างนอก“หลิงซวน เลือดพร้อมหรือยัง?”“อาจารย์ มาแล้วเจ้าค่ะ!”หลิงซวนรีบเปิดประตูแล้วเอาเลือดสองถุงใหญ่มาหลิงอวี๋สอดหลอดเลือดเข้าไปที่จูหลานก่อน แล้วจึงบ่น “เหตุใดจึงช้าถึงเพียงนี้”หลิงซวนยิ้มอย่างขมขื่นพลางเอ่ย “ข้างนอกทะเลาะกันรุนแรงมากเจ้าค่ะ! พระชายาเว่ยจะเดินนำออกไป แม่นางซือกับนางผดุงครรภ์สองคนก็บอกว่าที่นี่ไม่ใช่เรื่องของพวกนางแล้ว เหตุใดถึงไม่ยอมให้พวกนางออกไป!”“ทั้งยังบอกว่าท่านอ๋องอี้ใช้อำนาจเกินไป จะไปร้องเรียนต่อองค์ชายเว่ยและ
องค์ชายเย่คลี่กระดาษนั้นออกมา เม็ดยายังคงอยู่ข้างในหลิงอวี๋รับยานั้นมาดมกลิ่น กลิ่นอาเจียนมาพร้อมกับกลิ่นหอม ซึ่งเป็นกลิ่นที่นางเคยได้กลิ่นจากแม่นางซือก่อนหน้านี้“รอสักครู่ หม่อมฉันดูว่ามันคือสิ่งใด!”หลิงอวี๋วิ่งไปด้านหลังฉากกั้นลม แล้วรีบเข้าไปในมิติเพื่อตรวจสอบยาเม็ดนั้นหลังจากนั้นไม่นานผลลัพธ์ก็ออกมา หลิงอวี๋อ่านจบในรวดเดียวแล้วเดินออกไปองค์ชายเย่ยืนนิ่งอยู่ต่อหน้าทารก จ้องมองใบหน้าเล็ก ๆ ที่น่าสงสารนั้น“องึ์ชายห้า ยาเม็ดนี้ไม่มีพิษ แต่ในนี้ประกอบด้วยส่วนผสมของยาสองอย่างคือใบยี่โถกับเซิงหมาดำ! เมื่อยาทั้งสองรวมกันจะทำให้พระชายาเป็นหมันในภายภาคหน้าเพคะ!”หลิงอวี๋เอ่ยอย่างเย็นชา “ยาทั้งสองนี้ไร้กลิ่น! แต่หม่อมฉันกลับได้กลิ่นหอม!”“อีกทั้งหม่อมฉันยังพบดอกคำฝอยอยู่ในอาเจียนของจูหลานด้วย ยานี้ยังเป็นยาช่วยการขับเลือด!”“ยาชนิดนี้สามารถใช้ขับเลือดในสตรีได้ แต่หากใช้กับสตรีมีครรภ์จะทำให้เลือดไหลไม่หยุด!”“แม่นางซือเพิ่งมาถึงไม่นาน แต่ตอนที่จูหลานมาก็มีเลือดออกมากแล้ว ดังนั้นแม่นางซือมิน่าใช่คนที่ให้จูหลานกินดอกคำฝอย!”องค์ชายเย่ยิ่งฟังก็ยิ่งหวาดกลัว เขาไม่คาดคิดเลยว่าแค่พร
สายตาของเซียวหลินเทียนมองไปที่องค์ชายเย่อย่างเคร่งขรึม แม้ว่าเขาจะเชื่อในทักษะการแพทย์ของหลิงอวี๋ แต่นี่ก็เป็นเรื่องการทำคลอด และก่อนหน้านี้หลิงอวี๋ไม่มีประสบการณ์ในการทำคลอดมาก่อนเลยนางช่วยพระชายาเย่ไม่ได้จริง ๆ หรือ?แต่ไม่ว่าอย่างไร เขาสาบานว่าจะไม่มีทางปล่อยให้องค์ชายเย่ทำให้หลิงอวี๋ต้องลำบากใจเด็ดขาด!“หลานเอ๋อร์ของข้า… หลิงอวี๋ ท่านคืนชีวิตของหลานหลานให้ข้าเถิด!”ฮูหยินจูสั่นไหวอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็สะบัดมือของจูเฮ่าแล้วเดินโซเซเข้าไป“ผู้ใดบอกว่าพระชายาเย่ตายแล้วเล่า?”หลิงอวี๋กลัวว่าฮูหยินจูจะล้ม จึงรีบก้าวไปพยุงนาง พลางเอ่ยเสียงอ่อนโยน“ฮูหยินจูมาดูนี่สิ นางแค่หมดเรี่ยวแรงหลังคลอดเลยสลบไปเท่านั้น ประเดี๋ยวพอให้เลือดเสร็จ นางก็จะฟื้นขึ้นมาแล้ว!”ความหวังริบหรี่เกิดขึ้นในใจของฮูหยินจู แล้วหลิงอวี๋ก็พยุงนางเข้าไปนางยื่นมือไปสัมผัสลมหายใจของจูหลาน และรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ของจูหลานที่พ่นใส่มือของตนหัวใจของนางจึงมีชีวิตชีวาขึ้นมา“พระชายาอ๋องอี้ เช่นนั้นนางยังสามารถให้กำเนิดลูกอีกได้หรือไม่?”ฮูหยินจูจับมือหลิงอวี๋พลางเอ่ยถามอย่างมีความหวัง“ได้แน่นอนสิ เมื่อคร
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี