เซียวหลินเทียนไม่แปลกใจกับคำพูดของหลิงอวี๋เลยแม้แต่น้อย แล้วเลิกคิ้วพลางเอ่ย “เจ้าเองก็สังเกตเห็นเช่นกันหรือ?”เผยอวี้ตะลึงอยู่ครู่หนึ่งกับการสนทนาระหว่างทั้งสองคน แต่เมื่อนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา เขาก็รู้สึกตัวพลางเอ่ยอย่างไม่อยากจะเชื่อ“หรือว่าภายในจะมีคนอื่นทำอะไรอีกหรือ?”เซียวหลินเทียนหัวเราะเยาะ “ข้าให้จ้าวซวนไปตรวจสอบแล้ว หมั่นโถวนั่นบูดจริง ๆ! และยังมีกรวดจำนวนมากผสมอยู่ในโจ๊กด้วย!”“ในเมื่อองค์ชายคังอยากจะสร้างชื่อเสียงเอาชนะใจผู้คน เขาไม่มีทางทำให้คนอื่นพูดเช่นนี้ได้แน่!”หลิงอวี๋พยักหน้าเห็นด้วย “จ้าวเจินเจินไม่ใช่คนโง่เง่า หมั่นโถวแป้งขาวไม่กี่ตะกร้าก็ไม่ได้แพงมากนัก นางไม่มีทางทำลายชื่อเสียงของนางด้วยเรื่องเช่นนี้แน่!”“อีกอย่าง จ้าวซวนก็ไปหาชายกำยำที่พูดว่าหมั่นโถวแป้งขาวนั้นบูดที่สร้างความโกลาหลก่อนที่ศาลาโจ๊กจะพังอยู่ตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่พบคนผู้นี้เลย!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างดูถูก “องค์ชายคังอยากสร้างชื่อเสียง แต่มีคนไม่อยากให้เขาทำสำเร็จ! องค์ชายคังสามารถจัดให้คนไปปะปนในหมู่ผู้ลี้ภัยเพื่อสรรเสริญเขาได้ และคนอื่น ๆ เองก็สามารถให้คนไปปะปนกับผู้ลี้ภัยเพื่อสร้างค
โรงเก็บของนี้เชื่อมต่อกับศาลาฟางหลายหลัง หากถูกไฟไหม้ขณะที่นอนหลับในตอนกลางคืน เช่นนั้นผู้ลี้ภัยที่อาศัยอยู่ในศาลาฟางข้าง ๆ ก็จะไม่สามารถหลบหนีไปได้ไม่ใช่หรือ?ทันทีที่หลิงอวี๋เห็นก็โกรธจนเส้นเลือดบนหน้าผากปูดขึ้นมา!พระชายาเว่ยอยากแก้แค้นจ้าวเจินเจิน นั่นมันเป็นความแค้นระหว่างพวกนางทั้งสองคน แต่เรื่องเลวร้ายเช่นการที่จะเผาผู้ลี้ภัยแล้วใช้ความตายของพวกเขามาใส่ร้ายเซียวหลินเทียนนั้นนางทนไม่ได้!เมื่อนึกถึงผู้ลี้ภัยเหล่านี้ที่ต้องตายไปอย่างอยุติธรรมในวันนี้ หลิงอวี๋ก็ยิ่งโกรธแค้นทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่!เพียงแต่ไม่มีหลักฐาน หากจะไปกล่าวหาพระชายาเว่ยเช่นนี้ หลิงอวี๋ไม่จำเป็นต้องคิดก็รู้แล้วว่ามันเปล่าประโยชน์!ได้ ในเมื่อข้าไม่สามารถฆ่าเจ้าได้ เช่นนั้นเจ้าก็ใช้เงินมาชดเชยความผิดพลาดที่เจ้าทำเสียเถิด!หลิงอวี๋นึกถึงที่ช่วงนี้ท่านหญิงจ่างหนิงของครอบครัวพระชายาเว่ยนอนหลับไม่สบายเพราะมีอาการปวดหัวอยู่ตลอด ก็ยิ้มอย่างเย็นชาแล้วก็มีแผนในใจอยู่แล้วคราวนี้หากพระชายาเว่ยไม่ควักเงินก้อนจำนวนมากออกมาช่วยเหลือผู้ลี้ภัย ก็อย่ามาเรียกนางว่าสกุลหลิงเลย!กระทั่งตรวจสอบอย่างละเอียดจนไม่พบว่ามีอั
หลิงอวี๋รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกสิ่งที่ทำกับองค์ชายคังไว้เมื่อครั้งที่แล้ว จึงไม่ได้บอกเซียวหลินเทียนในเวลานี้เมื่อเห็นใบหน้าสับสนของเซียวหลินเทียน จึงอดไม่ได้ที่จะเล่าเรื่องทั้งหมดให้เขาฟังเซียวหลินเทียนฟังแล้วก็หน้าแดงหูแดง แล้วก็รู้แล้วว่าเหตุใดหลิงอวี๋จึงมั่นใจถึงเพียงนั้นว่าจ้าวเจินเจินมิได้ตั้งครรภ์!“หม่อมฉันเลวร้ายมากใช่หรือไม่?”หลิงอวี๋พูดเรื่องนี้ออกไปแล้วก็ยังคงกังวลอยู่ในใจเล็กน้อยความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวหลินเทียนผ่อนคลายลงแล้ว นางไม่อยากให้ทั้งสองต้องเหินห่างกันอีกเพราะเรื่องนี้!เซียวหลินเทียนพยักหน้า พลางเอ่ยด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ “อืม ค่อนข้างเลวร้ายทีเดียว!”หัวใจของหลิงอวี๋จึงมืดมนลงเป็นดังที่คาด เซียวหลินเทียนก็ไม่ต่างจากบุรุษทั่วไปที่ล้วนชอบสตรีหน้าซื่อใจคดอย่างจ้าวเจินเจิน!“แต่ข้าเคยบอกแล้วมิใช่หรือ? ว่าข้าชอบสตรีเลวร้าย!”เซียวหลินเทียนเพิ่มประโยคหลังมาอย่างช้า ๆหลิงอวี๋จ้องเขาทันที บุรุษผู้นี้ไม่ได้แก่เสียหน่อย จะพูดจะจาต้องหยุดพักหายใจด้วยหรือ?พูดให้มันจบรวดเดียวจะตายหรือไร?เซียวหลินเทียนมองสีหน้าของหลิงอวี๋เปลี่ยนไปอย่างขำขัน และท
“ช่างเถิด!”หลิงอวี๋ส่ายหัว ตอนนี้นางรู้สึกรังเกียจการหลอกกันไปมาของราชวงศ์มาก“พระชายาเว่ยกล้าทำเรื่องเช่นนี้โดยไม่ถูกท่านอ๋องจับได้ เหตุใดจึงต้องเสียเวลาของท่านอ๋องเฉิงเล่าเพคะ!”“เรามาใช้วิธีของเราเองทวงความยุติธรรมให้กับผู้ลี้ภัยกันเถิด! พระชายาเว่ยกับพระชายาคังร่ำรวยมากมิใช่หรือ? เช่นนั้นก็มาคุยกันเรื่องเงินดีกว่า! หม่อมฉันอยากรู้ว่าพวกนางมีเงินเท่าใดถึงได้ผ่านความยากลำบากมาได้!”เซียวหลินเทียนเงียบไปสักพักแล้วหัวเราะเยาะพลางเอ่ย “เจ้าพูดถูก เงินคือความมั่นใจของพวกเขา! หากไม่มีเงิน พวกเขาคงมิกล้าหยิ่งผยองเช่นนี้!”“รอข้าส่งคนไปตรวจสอบเส้นทางการเงินของพวกเขาเสียก่อน ข้าจะตัดเส้นทางเงินแล้วกำจัดความเย่อหยิ่งของพวกเขาให้หมดสิ้น!”“หม่อมฉันสนับสนุนท่านอ๋องเพคะ!”หลิงอวี่ยิ้มพลางเอ่ย “หากหม่อมฉันช่วยได้ก็บอกหม่อมฉันได้เสมอ!”“เอาเถอะ เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ท่านไปพักผ่อนเถิดเพคะ หม่อมฉันก็จะกลับไปพักผ่อนแล้ว!”หลิงอวี๋หาวแล้วเดินออกไปข้างนอก“หลิงอวี๋...”เซียวหลินเทียนเรียกทันที“มีอะไรอีกหรือเพคะ?” หลิงอวี๋หันกลับมาเซียวหลินเทียนอ้าปากแล้วโบกมือ “ไม่มีอะไร เจ้าไปพักผ่อนเถอ
ดังที่หลิงอวี๋บอก คนทำโจ๊กหนึ่งวันไม่ถือว่าเป็นคนดี แต่คนที่ยืนหยัดได้เป็นเวลาเกือบเดือนต่างหากถึงจะนับว่าเป็นคนดีอย่างแท้จริงแม้ว่าพระชายาผิงหนานและเพื่อน ๆ จะไม่ได้ออกไปแจกโจ๊กด้วยตนเอง แต่พวกเขาก็จัดให้คนรับใช้ออกไปแจกโจ๊กทุกวันและยืนหยัดทำเช่นเดิมเสมอด้วยความช่วยเหลือจากคนดี ๆ อย่างเช่นเซียวหลินเทียนกับพระชายาผิงหนานที่ห่วงใยผู้ลี้ภัยอย่างแท้จริง ผู้ลี้ภัยเหล่านั้นจึงได้ตั้งถิ่นฐานใหม่อย่างดีหลิงอวี๋ไปเปลี่ยนยาให้ผู้ลี้ภัยที่ได้รับบาดเจ็บทุกวัน การกระทำเช่นนี้ก็ได้รับคำชมจากผู้ลี้ภัยจำนวนมากเช่นกันแม้ว่าจ้าวเจินเจินจะอยู่ตำหนักเพื่อ “รักษาการตั้งครรภ์” แต่ก็รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับภายนอกนางเกลียดคำชมที่หลิงอวี๋ได้รับแต่ตนเองเพิ่งก่อหายนะครั้งใหญ่ไป จึงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามแม้ว่าองค์ชายคังจะรอดพ้นจากการถูกลงโทษ แต่ชื่อเสียงของเขาก็เสียหายไปแล้ว จึงยิ่งรังเกียจจ้าวเจินเจินมากขึ้นไปอีก ความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยาจึงอยู่ในจุดเย็นชาต่อกันความคิดในการแกล้งทำเป็นตั้งครรภ์ในครั้งนี้มาจากคำแนะนำของพระชายาเส้า แต่เพราะเหตุนี้พระชายาเส้าจึงส่งคนมาตำหนิเช่นกันแม่นมคนสนิทที่พระชาย
ข่าวลือร้อนฉ่าดังกล่าวแพร่กระจายไปทั่วสารทิศในทันทีบรรดาญาติของหมอเหล่านั้นต่างก็รีบรุดไปหาผู้ว่าราชการมณฑล ร้องไห้อ้อนวอนขอให้แม่ทัพเฉินช่วยคืนความยุติธรรมให้หลังจากเกิดความโกลาหลขึ้น ไม่เพียงแต่คนทั่วไปเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ แต่ขุนนางหลายคนก็รู้เรื่องนี้ด้วยทุกคนจึงมององค์ชายคังด้วยสายตาที่แปลกไปองค์ชายคังมิได้แตะต้องพระชายาคัง แต่พระชายากลับตั้งครรภ์ แสดงว่าเด็กคนนี้เป็นลูกนอกสมรสน่ะสิ?องค์ชายคังเป็นคนสุดท้ายที่ทราบข่าวลือเหล่านี้ หัวใจของเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ แค่เรื่องก่อนหน้าพระชายาเส้าก็ไม่พอใจมากอยู่แล้วเห็นได้ชัดว่าจ้าวเจินเจินมิได้ตั้งครรภ์ ทว่าท่านแม่สั่งให้นางแกล้งทำเป็นตั้งครรภ์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกลงโทษแต่ตอนนี้ดันมีข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกไปอีก แล้วจะกู้หน้ากลับมาได้อย่างไร!ฮองเฮาเว่ยแค้นใจมานานแล้วที่จ้าวเจินเจินวางแผนเรื่องอุบัติเหตุรถม้า ทำให้จ่างหนิงหลานสาวสุดที่รักของนางได้รับบาดเจ็บตอนแรกคิดว่า เหตุซาลาเปาในครั้งนี้จะทำให้จ้าวเจินเจินและองค์ชายคังได้รับบทลงโทษ แต่คาดมิถึงว่าจ้าวเจินเจินจะใช้ข้ออ้างที่ตนตั้งครรภ์จนรอดพ้นจากการถูกลงโทษไปได้!ช่วงนี้นาง
เมื่อหลิงอวี๋ได้ยินว่าเกิ่งเสี่ยวหาวกำลังมา นางก็ทิ้งเซียวหลินเทียนไปหาเกิ่งเสี่ยวหาวที่เรือนบุหงาเซียวหลินเทียนรู้สึกมิพอใจเล็กน้อยที่จนถึงทุกวันนี้เจ้าน้องชายหลิงอวี๋มักจะเมินเขาเขามาถึงตำหนักอ๋องอี้แต่กลับมิได้มาพบเจ้าของตำหนักเช่นเขา ทว่าขอพบเพียงหลิงอวี๋ทันทีที่หลิงอวี๋ได้ยินว่าอีกฝ่ายกำลังจะมา นางก็มิสนใจเขาและรีบวิ่งไปทั้งอย่างนั้นผลก็คือหลิงอวี๋กลับมาอย่างมีความสุขหลังจากหายไปนานกว่าครึ่งชั่วยาม“เซียวหลินเทียน นี่คือตั๋วเงินของท่าน! หม่อมฉันคืนให้เพคะ! หม่อมฉันให้ดอกเบี้ยพิเศษท่านเพิ่มอีกห้าหมื่นด้วยเพคะ!”หลิงอวี๋ยื่นตั๋วเงินหลายใบให้กับเซียวหลินเทียนเซียวหลินเทียนตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง นี่มันหมายความว่าอย่างไร?“ก็ครั้งก่อนตอนวันเกิดของหม่อมฉันท่านให้ตั๋วเงินมาสองแสน ตอนนี้หม่อมฉันก็นำมาคืนให้กับเจ้าของเดิมแล้ว! เซียวหลินเทียน ขอบพระทัยสำหรับความช่วยเหลือของท่านเพคะ!”หลิงอวี๋ยัดตั๋วเงินใส่มือของเซียวหลินเทียนแล้วพูดด้วยรอยยิ้มที่สดใส“วันนี้หม่อมฉันอารมณ์ดี ครั้งก่อนเสี่ยวห่าวชวนพวกท่านไปทานอาหารที่ภัตตาคารจี๋เสียง หม่อมฉันขอให้เขาเตรียมงานเลี้ยงไว้แล้ว!”“อีก
เซียวหลินเทียนตั้งใจฟัง แผนดังกล่าวเป็นแผนที่ใหญ่มากจริง ๆ ทุกขั้นตอนจะต้องคำนวณตามความคิดของอีกฝ่ายและปฏิกิริยาที่คาดว่าพวกเขาจะแสดงออกมาเมื่อคิดว่าหลิงอวี๋สามารถชนะที่หนึ่งในการแข่งขันหมากรุกได้ เซียวหลินเทียนก็รู้ว่าหลิงอวี๋มิได้คิดแผนนี้แบบสุ่มสี่สุ่มห้า“จากนั้น เศรษฐีเหล่านั้นก็ซื้อหยกราวกับว่าพวกเขาไม่รู้คุณค่าของสินค้า เพียงแค่ชอบอวด ตระกูลจ้าวเห็นว่าเศรษฐีเหล่านี้โง่เขลาและมีเงินมาก พวกเขาจึงต้องการจะโกงลูกค้า!”“ด้วยวิธีนี้ ตระกูลจ้าวจึงค่อย ๆ ตกสู่หลุมพราง ลูกค้าเศรษฐีพวกนั้นพักอยู่ระยะหนึ่ง หลังจากสั่งหยกชุดหนึ่งมูลค่าเกือบสองล้าน พวกเขาต้องรีบกลับเนื่องจากมีเหตุฉุกเฉินกะทันหันที่บ้าน”“จากนั้นพวกเขาก็อ้างว่าพวกเขามีเงินไม่เพียงพอ และระหว่างทางก็จะนำสินค้าจำนวนหนึ่งไป เนื่องจากไม่มีเงินทุน พวกเขาจึงนำหยกและบ้านทั้งหมดที่พวกเขาซื้อเป็นหลักประกันเพื่อยืมตั๋วเงินจำนวนแปดแสนนำเงินมาหมุนเวียน!”“ตระกูลจ้าวคิดว่าพวกเขาจะต้องกลับมารับหยกมูลค่าสองล้านที่สั่งไว้ อีกทั้งหยกที่พวกเขาซื้อก่อนหน้านี้มีมูลค่าหลายแสน พวกเขาไม่อยากให้การค้าขายครั้งใหญ่นี้หลุดมือไป สุดท้ายจึงให้ยืมเงิ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี