คราวนี้มิจำเป็นที่ท่านอ๋องเฉิงต้องพูดอะไรแล้ว ใครก็ตามที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีนั้นก็ล้วนเห็นปฏิกิริยาที่หวาดกลัวของเฮ่ออันทั้งนั้นตอนหลิงอวี๋ช่วยเฮ่ออันขึ้นมา เฮ่ออันเผชิญหน้ากับนางก็มิได้แสดงออกถึงความกลัวเลย!หากหลิงอวี๋ฆ่าจ่างหนิงและทำให้เฮ่ออันบาดเจ็บ เฮ่ออันจะยังสงบเช่นนั้นได้เยี่ยงไร?แต่พอเฮ่ออันเห็นตงจู๋ เขาก็ดูหวาดกลัวขึ้นมาทันที แค่มองปราดเดียวก็รู้แล้วว่าใครเป็นมือสังหาร!สีหน้าของเฮ่อจู้ดูแย่ลงไปทันที มิรู้ว่าในใจเขาควรจะมีความสุขหรือกังวลดี!เหยียนฮุ่ยเหลือบมองเฮ่อจู้อย่างเฉยเมยไม่มีใครรู้จักสามีได้ดีเท่าภรรยาอีกแล้ว!เมื่อครู่ตอนที่เฮ่อจู้ลังเลเหยียนฮุ่ยเห็นหน้าสามีของตนชัดเจน!ตนดีใจที่ได้ยินว่าหลิงอวี๋สามารถช่วยเฮ่ออันได้!ขอเพียงยังมีความหวังสักเล็กน้อย นางก็จะมิยอมแพ้ในการช่วยเหลือลูกชายของตน!แต่ในขณะนั้นดวงตาของเฮ่อจู้ที่ฉายแววออกมา กลับกำลังสงสัยว่าควรจะให้หลิงอวี๋ช่วยดีหรือไม่!อีกทั้งหลังจากนั้นก็ยังคิดที่จะขัดขวางหลิงอวี๋มิให้ช่วยเหลือเฮ่ออันด้วย...ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าเฮ่อจู้ต้องการย้ำความผิดของหลิงอวี๋ ให้องค์ชายเว่ยกับภรรยาของเขากำจัดหลิงอวี๋
“ปัง!”ท่านอ๋องเฉิงทนมิไหวอีกต่อไปแล้วจึงเคาะค้อนลงบนโต๊ะแล้วตะคอก“พระชายาเว่ย เจ้ายังจะไร้เหตุผลและทำเรื่องวุ่นวายอีก...ในตอนแรกเจ้าก็ผลักความผิดไปให้พระชายาอ๋องอี้ว่าเป็นมือสังหาร ตอนนี้เจ้าโยงไปถึงพระชายาฮุ่ย เจ้าคิดที่จะทำลายความสงบสุขภายในราชวงศ์หรือ?”“ข้าคำนึงถึงความเจ็บปวดจากการสูญเสียลูกสาวของเจ้า ดังนั้นจะมิถือสาหาความกับเจ้า แต่นั่นมิได้หมายความว่าข้าจะยอมทนกับเจ้าไปตลอด!”“พระชายาเว่ย หากเจ้ากล้าทำเรื่องไร้สาระอีกครั้ง เจ้าจะถูกลงโทษตามกฎของศาล! เจ้าจะถูกเฆี่ยนตีสิบครั้งต่อหน้าธารกำนัล!”พระชายาเว่ยอ้าปาก แต่สุดท้ายนางก็มิกล้าพูดอะไรอีก แม้ว่าในใจจะแค้นมากก็ตามแต่ท่าทีของท่านอ๋องเฉิง ขอเพียงนางพูดอีก ก็คงหนีมิพ้นถูกเฆี่ยนตีสิบครั้งเป็นแน่!“หลิงอวี๋ ก้าวออกมาฟังคำตัดสิน!”หลิงอวี๋เดินไปข้างหน้าอย่างเชื่อฟังท่านอ๋องเฉิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึม “ในคดีจ่างหนิง หลักฐานของมือสังหารตงจู๋เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้ว หลิงอวี๋กับหลิงซวนมิเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ข้าขอตัดสินว่าพ้นผิดและให้ปล่อยตัวได้!”“ตงจู๋กับตงเหมยถูกตัดสินประหารชีวิต! ให้ไปดำเนินการทันที!”......“หลิงอวี๋ขอบพระ
หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนมาถึงคุกเพื่อรับตัวหลิงซวนหลิงอวี๋ฉีดยาให้หลิงซวนและป้อนยาบางอย่างให้นาง จากนั้นหลิงซวนก็ตื่นขึ้นมาหานอวี้ตามเข้ามาแล้วพาหลิงซวนออกจากคุก“แม่นางเหยียนผู้นั้นเล่า?”หลิงอวี๋เห็นว่าป้าหลี่เป็นคนเปิดประตูห้องขังให้ตนจึงเอ่ยถามหลิงอวี๋ยังจำได้ว่า แม่นางเหยียนพาพวกแม่นมเจี่ยเข้ามาวางยาพิษตนก่อนที่ตนจะสลบไปป้าหลี่ยิ้มพลางเอ่ย “พระชายาอ๋องอี้ เมื่อครู่แม่นางเหยียนยังอยู่ที่นี่อยู่เลย แต่มิรู้ว่าไปไหนเสียแล้วเจ้าค่ะ!”“ท่านมีเรื่องอะไรกับนางหรือไม่เจ้าคะ? บ่าวจะช่วยออกไปตามหานางให้!”หลิงอวี๋มองเซียวหลินเทียนแล้วเอ่ยยิ้ม ๆ “แม่นางเหยียนผู้นี้ดีกับหม่อมฉันมาก เมื่อคืนก่อนนางพาคนเข้ามาป้อนยาพิเศษหม่อมฉัน ท่านให้คนช่วยไปตามหานางให้หม่อมฉันทีเถิด หม่อมฉันต้องขอบคุณนางเพคะ!”เซียวหลินเทียนได้ยินก็เข้าใจเลย สีหน้าของเขามืดมนลงทันทีมิน่าหลิงอวี๋จึงหมดสติไปมิฟื้น ที่แท้ก็เป็นฝีมือของเดรัจฉานผู้นี้นี่เอง!“จ้าวซวน เจ้าพาคนไปตามหานาง!”จ้าวซวนก็เข้าใจสิ่งที่หลิงอวี๋บอกเช่นกัน จึงรีบออกมาขอให้ท่านอ๋องเฉิงส่งนักการไปช่วยตามหาคนคนนั้น!ทุกคนค้นหารอบ ๆ ในที่สุดก็พ
“อาอวี๋ เจ้าหลุดพ้นมาได้ในครั้งนี้ ฉินซาน องค์ชายเย่และทุกคนต่างก็ออกแรงกันอย่างมากทีเดียว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ “ข้าเกือบจะตำหนิน้องห้าแล้ว!”“เหตุใดหรือเพคะ?” หลิงอวี๋หมดสติอยู่จึงมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเซียวหลินเทียนเล่าเรื่องการพิจารณาคดีในวันนี้อย่างคร่าว ๆ ให้ฟัง เมื่อนางได้ยินว่าตนหมดสติไป พระชายาเว่ยก็กล้าใช้กองทัพหลวงข่มขู่เซียวหลินเทียน ทั้งยังสวมชุดผ้ากระสอบไว้ทุกข์ให้ตนด้วยหลิงอวี๋ก็โกรธจนหน้าเคร่งขรึมไปทันทีเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ตอนนั้นข้าอยากจะพาเจ้าออกไปโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งนั้น!”“แต่หากข้าทำเช่นนั้น ชีวิตของหลิงเยวี่ยและทุกคนที่ตำหนักอ๋องอี้จะต้องเสียไปเลย... และจะเดือดร้อนไปถึงท่านอดีตเสนาบดีด้วย!”“ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องได้รับความคับข้องใจ! เจ้ามิต้องกังวล ในภายหน้าข้าจะช่วยให้เจ้าได้ชำระแค้นนี้อย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นึกถึงอันตรายในเวลานั้น แล้วลูบมือเซียวหลินเทียนด้วยความเข้าใจ “ท่านทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพคะ!”“ท่านจะทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเพียงเพราะหม่อมฉันคนเดียวมิได้! หม่อมฉันไม่มีทางตำหนิท่านหรอก!”เซียวหลินเท
กระทั่งกลับไปถึงตำหนักอ๋องอี้แม่นมลี่ก็พาหลิงเยวี่ยวิ่งออกมาต้อนรับหลิงอวี๋จนถึงตอนนี้หลิงเยวี่ยก็มิรู้ว่าหลิงอวี๋กลับมาจากประตูนรก เขายังเชื่อสิ่งที่แม่นมลี่บอก และคิดว่าหลิงอวี๋ออกไปตรวจรักษาให้ผู้คน“ท่านแม่… ผู้ป่วยครั้งนี้รักษายากมากใช่หรือไม่! ท่านแม่ไปตั้งหลายวันเลย! ช่วยรักษาเขาได้หรือไม่ขอรับ?”หลิงเยวี่ยเอ่ยถามอย่างกังวล“รักษาได้แล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางกอดหลิงเยวี่ย นางมองแม่นมลี่อย่างซาบซึ้งสองวันที่ผ่านมานี้ทำให้แม่นมลี่กังวลมิน้อยเลย! แต่นางก็ยังดูแลหลิงเยวี่ยได้เป็นอย่างดีถึงเพียงนี้!แม่นมลี่ปาดน้ำตาจากหางตาออกอย่างเงียบ ๆ แล้วยิ้มพลางเอ่ย “กลับมาก็ดีแล้วเจ้าค่ะ บ่าวให้สุ่ยหลิงไปตุ๋นไก่ไว้แล้ว คุณหนูไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด ประเดี๋ยวค่อยกินอาหาร!”“ขอบคุณแม่นม!”ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่หลิงอวี๋มีต่อแม่นมลี่นั้นมิสามารถอธิบายออกมาได้เลย นางอุ้มหลิงเยวี่ยเข้าไปข้างในอย่างมีความสุขระหว่างทางก็เห็นว่ามีนางรับใช้ยื่นหน้าแอบมอง แต่หลิงอวี๋มิได้พูดอะไรแม้ว่าหานเหมยจะพูดมิเก่งนัก แต่ก็กระซิบ “คุณหนู ตอนคุณหนูมิอยู่ เสวี่ยฉินกับเสวี่ยเจินดิ้นรนทำทุกสิ่งเลยเจ้าค่ะ! พว
กระทั่งทั้งสองคนเข้าไปในวัง ขันทีฉางก็นำทางพวกเขาไปที่ตำหนักเหยียนฝูของไทเฮาทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นไทเฮา องค์จักรพรรดิและฮองเฮาเว่ยนั่งอยู่ที่ประทับด้านบน ส่วนพระชายาหรงยืนอยู่ด้านล่าง“หลิงอวี๋เข้าเฝ้าไทเฮา องค์จักรพรรดิ ฮองเฮาเพคะ…”หลิงอวี๋คุกเข่าลงทำความเคารพทั้งสามคน เซียวหลินเทียนก็คุกเข่าลงเช่นกันไม่มีใครบอกให้ลุกขึ้นได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็มิกล้าลุกขึ้นเช่นกันจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา แล้วจึงเอ่ยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน หลิงอวี๋ รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงเรียกพวกเจ้าเข้ามาในวัง?”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเอ่ยพร้อมกัน “เสด็จพ่อ ลูกมิรู้!”จักรพรรดิอู่อันยิ้มเยาะ มองหลิงอวี๋แล้วยกมือขึ้น จากนั้นขันทีฉางก็ยกจานมาหนึ่งใบหลังจากที่หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาก็พบว่าการได้ยินและการมองเห็นของตนเฉียบคมขึ้น ความสามารถต่าง ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าด้วยมีห่อยาอยู่ในจานของขันทีฉาง มิต้องเปิดดูหลิงอวี๋ก็ได้กลิ่นยาชนิดหนึ่งแล้วจู่ ๆ นางก็ใจสั่น รู้ทันทีว่าเหตุใดตนถึงถูกเรียกเข้าวัง!“หลิงอวี๋ เจ้าดูสิ นี่คือสิ่งใด?” จักรพรรดิอู่อันเ
เมื่อเห็นหลิงเยวี่ยถูกทรมานเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกปวดใจและโกรธมาก น้ำเสียงของเขาจึงเฉียบคมขึ้นมา“เจ้าทาสสุนัข ปล่อยเขาลงมา! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดกัน?”“บังอาจ! ข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ามีสิทธิ์ตะโกนเช่นนี้แล้วรึ?”จักรพรรดิอู่อันตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้ ไปเรียกหมอหลวง บอกว่าจะมีการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์!”“เซียวหลินเทียน เจ้าเต็มใจที่จะเลี้ยงดูลูกผู้อื่น มิได้หมายความว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์เสื่อมเสีย!”“วันนี้เราจะหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์กันอีกครั้ง หากเลือดมิเข้ากัน ข้าจะตัดหัวของหลิงอวี๋กับลูกนอกสมรสนี้ทิ้ง!”หมอจางนำแอ่งน้ำมาเอง เขาเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูก กำลังจะก้าวไปกรีดมือของหลิงเยวี่ยแล้วไทเฮาก็เอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ “ฝ่าบาท ให้คนของแม่ไปตักน้ำเถิด! ไป่ซุ่ย ไปเอาอ่างน้ำมาให้หมอจาง!”หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็เอ่ยถามอีกครั้ง “ฝ่าบาท คงจะมิสงสัยว่าแม่จะมีกลอุบายใดหรอกใช่หรือไม่?”จักรพรรดิอู่อันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ย “ไทเฮามีความยุติธรรมและเข้มงวด ข้าจะสงสัยท่านได้เยี่ยงไร!”ไป่ซุ่ยออกไปตักน้ำมาใหม่อีกครั้งหมอจางรู้สึกตื่นตร
สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันดูมิดีไปทันที พลางจ้องมองพระชายาหรงอย่างดุร้าย แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ถามพระชายาหรงดูเถิด!”พระชายาหรงเอ่ยตะกุกตะกัก “เทียนเอ๋อร์ ป้าก็กลัวว่าเจ้าจะถูกหลอกจึงขอให้องค์จักรพรรดิตรวจสอบอีกครั้ง… มีคนมาบอกว่าผงราชาไข่มุกหากเอาไปทาที่มือจะสามารถทำให้เลือดของคนที่มิเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมาหลอมรวมกันได้!”“หลิงอวี๋ นาง...นาง...”“พระชายาหรง ข่าวที่ไม่มีมูลความจริงก็เชื่อได้เยี่ยงนั้นหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านคิดที่จะใส่ร้ายหลิงอวี๋เพียงเพราะข่าวที่ลือกันมา ทั้งยังไปรบกวนองค์จักรพรรดิกับไทเฮาให้วุ่นวายไปกับท่านอีก… นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”“เสด็จพ่อทรงยุ่งกับเรื่องการบ้านการเมืองมากอยู่แล้ว หากทุกคนเป็นเหมือนท่านที่พอได้ยินข่าวลือก็มารบกวนเสด็จพ่อแล้วพระองค์จะดูแลจัดการฉินตะวันตกได้เยี่ยงไร?”ครั้งนี้เซียวหลินเทียนโกรธมาก จึงดุพระชายาหรงอย่างเปิดเผย จริง ๆ แล้วเขาดุจักรพรรดิอู่อันไปด้วยซ้ำจักรพรรดิผู้สง่างามของแคว้น กลับเพิกเฉยต่อเรื่องการบ้านการเมืองแล้วมารับฟังเรื่องข่าวลือไม่มีมูลของสตรี นี่มิใช่เรื่องไร้สาระหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันมี
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี
ชีวิตนี้หาสหายรู้ใจได้ยากนัก!หลงเพ่ยเพ่ยยิ้ม นางก็รู้สึกว่าตนกับเย่หรงพูดคุยสื่อสารกันง่ายเช่นกันเย่หรงฉลาด ที่สำคัญที่สุดคือมิใช่บุรุษประเภทหัวโบราณคร่ำครึ มิเหมือนพวกพี่สามที่เอะอะก็วางตนเป็นผู้ใหญ่สั่งสอนนางเฮ้อ หากสามีในอนาคตของนางสามารถพูดคุยกันได้เหมือนเย่หรง เช่นนั้นสามีภรรยาจะมิรักใคร่กลมเกลียวกันมากหรอกหรือ?หลงเพ่ยเพ่ยคิดแล้วพลันหน้าแดงเรื่อ นี่นางกำลังคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่!“พวกเรามาคิดกันก่อนดีกว่าว่าอีกประเดี๋ยวหากพบเสด็จย่าแล้วจะทำอย่างไรดี!”หลงเพ่ยเพ่ยมิกล้าคิดฟุ้งซ่านต่อไป รีบเปลี่ยนเรื่องคุย“ท่านกังวลว่าท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นจะก่อกวนหรือ?”เย่หรงก็ดึงความคิดกลับมา พวกเขาใกล้จะถึงภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ต้องคิดหาข้ออ้างให้ดี“อืม ท่านหญิงชิงเฉิงมิใช่คนประเภทที่จะเจรจาด้วยง่าย ๆ ท่านหญิงอวิ๋นยังพอคุยง่ายอยู่บ้าง แต่ในเมื่อพวกนางรับคำสั่งจากชายาเจ้าแห่งทะเลมาเพื่อถ่วงเวลาเสด็จย่า ย่อมมิยอมให้ข้าบรรลุเป้าหมายแน่!”หลงเพ่ยเพ่ยเผยสีหน้าอมทุกข์เย่หรงพลันนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับท่านหญิงอวิ๋นขึ้นมา แม้ท่านหญิงอวิ๋นจะเป็นธิดาแท้ ๆ ของชายาเจ้าแห่งทะเล แต่ช่วงห
“โอ้ ใต้หล้านั้นแตกต่างจากใต้หล้าของพวกเราหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยถูกเย่หรงกระตุ้นความอยากรู้ จึงจ้องมองพลางถาม“อืม บ้านเรือนที่นั่นสูงเท่าภูเขา สูงที่สุดอาจถึงร้อยชั้นได้ ทั้งยังมีรถมากมายที่มิต้องใช้ม้าลาก วิ่งได้เร็วมาก!”เย่หรงเล่าให้หลงเพ่ยเพ่ยฟังไปเรื่อย ๆเมื่อพูดถึงเครื่องบินก็ทำให้หลงเพ่ยเพ่ยเบิกตากว้าง นางมองเย่หรงอย่างงง ๆ “เจ้าโกหกกระมัง จะมีเครื่องมือที่สามารถบรรทุกคนขึ้นไปบนฟ้าได้อย่างไร!”“มีจริง ๆ ข้ามิได้โกหกท่าน พี่หญิงหลิงหลิงจำได้มากกว่าข้าเสียอีก รอมีโอกาสให้นางเล่าให้ท่านฟัง ท่านก็จะเชื่อว่าข้ามิได้โกหกท่าน!”เย่หรงเริ่มตื่นเต้น “ท่านหญิง ท่านปู่มิได้บอกหรือว่าคันฉ่องคุนหลุนของตงกู่อวี้สามารถพลิกฟ้าคว่ำปฐพีได้?”“หากพวกเราได้คันฉ่องคุนหลุนมา มิต้องรอเวียนว่ายตายเกิด ข้าจะพาท่านไปดูใต้หล้านั้น! ท่านจะต้องชอบใต้หล้านั้นอย่างแน่นอน!”เย่หรงพูดจนหลงเพ่ยเพ่ยใจเต้นระรัว นางกล่าวออกไปโดยมิต้องคิด “ได้ เช่นนั้นรอพวกเราช่วยแดนเทพผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้ไปได้ พวกเราหาคันฉ่องคุนหลุนเจอแล้วก็ไปด้วยกัน ไปดูใต้หล้าที่เจ้าพูดถึงกัน!”“ตกลงตามนี้!”เย่หรงยกมือขึ้น หลงเพ่ยเพ่
คนหนึ่งคือคนที่ตนรัก อีกคนคือสหายที่ดีที่สุดของตน!แต่พวกเขากลับร่วมมือกันหลอกลวงตน!หยางหงหนิงหันหลังเดินออกไปด้วยใบหน้าบึ้งตึง นางจะมิปล่อยชายชั่วหญิงโฉดคู่นี้ไปแน่!สิ่งที่นางมิได้มาครอบครอง ยอมทำลายทิ้งเสียดีกว่ายอมให้คนอื่นได้ไป!หยางหงหนิงกลับไปที่รถม้าของตน เค้นเสียงลอดไรฟันออกมาคำหนึ่ง “ไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์!”ด้านหน้า เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยต่างก็ร้อนใจดั่งไฟเผา ฮองเฮาเสด็จไปสองชั่วยามแล้ว พวกเขาจะตามทันพระนางหรือ?อีกทั้งต่อให้ตามทัน มีท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นอยู่ พวกนางต้องช่วยชายาเจ้าแห่งทะเลขัดขวางมิให้ฮองเฮาเรียกตัวหลิงอวี๋เข้าเฝ้าแน่“ท่านหญิง พวกเราจะไปทันหรือไม่? ชายาเจ้าแห่งทะเลจะลงมือกับพี่หญิงหลิงหลิงแล้วหรือไม่?”เย่หรงถามอย่างร้อนรนหลงเพ่ยเพ่ยก็ร้อนใจเช่นกัน หลิงอวี๋ยังรอให้นางช่วยชีวิตอยู่ แต่นางก็มิรู้ว่าจะสามารถทูลขอพระราชโองการจากฮองเฮาได้สำเร็จหรือไม่“พวกเราพยายามเต็มที่เถอะ! ขอเพียงตามเสด็จย่าทัน ต่อให้ข้าต้องคุกเข่าอ้อนวอนก็ต้องให้นางพาพี่หญิงหลิงหลิงออกมาให้ได้!”หลงเพ่ยเพ่ยกล่าวปลอบใจเย่หรงเห็นหลงเพ่ยเพ่ยวิ่งวุ่นไปทั่วกับตนก็นับว่าพยายามเ
รองแม่ทัพจางยังคงกล่าวพลางยิ้มแย้ม “ท่านหญิงฉางเล่อมามิถูกจังหวะ วันนี้ฮองเฮาพร้อมด้วยท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นพาคุณชายน้อยทั้งหลายเสด็จไปชมดอกไม้ที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์พ่ะย่ะค่ะ!”ว่ากระไรนะ?หลงเพ่ยเพ่ยนิ่งอึ้งไป ท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋นล้วนเป็นธิดาของเจ้าแห่งทะเล และเป็นลูกพี่ลูกน้องของหลงเพ่ยเพ่ยด้วยเหตุใดพวกนางถึงมิไปชมดอกไม้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้เล่า แต่กลับเลือกไปชมดอกไม้ในตอนที่ตนต้องการความช่วยเหลือจากเสด็จย่าพอดีนี่น่ะหรือ?“ไปนานเท่าใดแล้ว?”หลงเพ่ยเพ่ยสงสัยว่านี่เป็นการจัดฉากโดยเจตนาของชายาเจ้าแห่งทะเล“สองชั่วยามแล้วพ่ะย่ะค่ะ ตอนนี้น่าจะอยู่ในภูเขาศักดิ์สิทธิ์แล้วขอรับ!”รองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้มหลงเพ่ยเพ่ยอยากจะชกหน้ายิ้ม ๆ ของรองแม่ทัพจางเสียสักหมัด เหตุใดนางมองรอยยิ้มของรองแม่ทัพจางแล้วเหมือนกำลังสมน้ำหน้าตนอยู่เลยเล่า“เจ้ามิได้หลอกข้าใช่หรือไม่?”หลงเพ่ยเพ่ยถามเสียงเย็นรองแม่ทัพจางกล่าวพลางยิ้ม “ท่านหญิงฉางเล่อพูดเล่นแล้ว ไหนเลยข้าน้อยจะกล้าหลอกท่านหญิง! หากมิเชื่อท่านลองถามใครดูก็ได้ว่าที่ข้าน้อยพูดเป็นเรื่องจริงหรือไม่!”“หากท่านหญิงมีธุระด่วนจร