“อาอวี๋ เจ้าหลุดพ้นมาได้ในครั้งนี้ ฉินซาน องค์ชายเย่และทุกคนต่างก็ออกแรงกันอย่างมากทีเดียว!”เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างซาบซึ้งใจ “ข้าเกือบจะตำหนิน้องห้าแล้ว!”“เหตุใดหรือเพคะ?” หลิงอวี๋หมดสติอยู่จึงมิรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างเซียวหลินเทียนเล่าเรื่องการพิจารณาคดีในวันนี้อย่างคร่าว ๆ ให้ฟัง เมื่อนางได้ยินว่าตนหมดสติไป พระชายาเว่ยก็กล้าใช้กองทัพหลวงข่มขู่เซียวหลินเทียน ทั้งยังสวมชุดผ้ากระสอบไว้ทุกข์ให้ตนด้วยหลิงอวี๋ก็โกรธจนหน้าเคร่งขรึมไปทันทีเซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างรู้สึกผิด “ตอนนั้นข้าอยากจะพาเจ้าออกไปโดยมิสนใจสิ่งใดทั้งนั้น!”“แต่หากข้าทำเช่นนั้น ชีวิตของหลิงเยวี่ยและทุกคนที่ตำหนักอ๋องอี้จะต้องเสียไปเลย... และจะเดือดร้อนไปถึงท่านอดีตเสนาบดีด้วย!”“ขอโทษที่ทำให้เจ้าต้องได้รับความคับข้องใจ! เจ้ามิต้องกังวล ในภายหน้าข้าจะช่วยให้เจ้าได้ชำระแค้นนี้อย่างแน่นอน!”หลิงอวี๋นึกถึงอันตรายในเวลานั้น แล้วลูบมือเซียวหลินเทียนด้วยความเข้าใจ “ท่านทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วเพคะ!”“ท่านจะทำให้ทุกคนต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่สิ้นหวังเพียงเพราะหม่อมฉันคนเดียวมิได้! หม่อมฉันไม่มีทางตำหนิท่านหรอก!”เซียวหลินเท
กระทั่งกลับไปถึงตำหนักอ๋องอี้แม่นมลี่ก็พาหลิงเยวี่ยวิ่งออกมาต้อนรับหลิงอวี๋จนถึงตอนนี้หลิงเยวี่ยก็มิรู้ว่าหลิงอวี๋กลับมาจากประตูนรก เขายังเชื่อสิ่งที่แม่นมลี่บอก และคิดว่าหลิงอวี๋ออกไปตรวจรักษาให้ผู้คน“ท่านแม่… ผู้ป่วยครั้งนี้รักษายากมากใช่หรือไม่! ท่านแม่ไปตั้งหลายวันเลย! ช่วยรักษาเขาได้หรือไม่ขอรับ?”หลิงเยวี่ยเอ่ยถามอย่างกังวล“รักษาได้แล้ว!”หลิงอวี๋ยิ้มพลางกอดหลิงเยวี่ย นางมองแม่นมลี่อย่างซาบซึ้งสองวันที่ผ่านมานี้ทำให้แม่นมลี่กังวลมิน้อยเลย! แต่นางก็ยังดูแลหลิงเยวี่ยได้เป็นอย่างดีถึงเพียงนี้!แม่นมลี่ปาดน้ำตาจากหางตาออกอย่างเงียบ ๆ แล้วยิ้มพลางเอ่ย “กลับมาก็ดีแล้วเจ้าค่ะ บ่าวให้สุ่ยหลิงไปตุ๋นไก่ไว้แล้ว คุณหนูไปพักผ่อนเสียหน่อยเถิด ประเดี๋ยวค่อยกินอาหาร!”“ขอบคุณแม่นม!”ความรู้สึกซาบซึ้งใจที่หลิงอวี๋มีต่อแม่นมลี่นั้นมิสามารถอธิบายออกมาได้เลย นางอุ้มหลิงเยวี่ยเข้าไปข้างในอย่างมีความสุขระหว่างทางก็เห็นว่ามีนางรับใช้ยื่นหน้าแอบมอง แต่หลิงอวี๋มิได้พูดอะไรแม้ว่าหานเหมยจะพูดมิเก่งนัก แต่ก็กระซิบ “คุณหนู ตอนคุณหนูมิอยู่ เสวี่ยฉินกับเสวี่ยเจินดิ้นรนทำทุกสิ่งเลยเจ้าค่ะ! พว
กระทั่งทั้งสองคนเข้าไปในวัง ขันทีฉางก็นำทางพวกเขาไปที่ตำหนักเหยียนฝูของไทเฮาทันทีที่เข้าไป หลิงอวี๋ก็เห็นไทเฮา องค์จักรพรรดิและฮองเฮาเว่ยนั่งอยู่ที่ประทับด้านบน ส่วนพระชายาหรงยืนอยู่ด้านล่าง“หลิงอวี๋เข้าเฝ้าไทเฮา องค์จักรพรรดิ ฮองเฮาเพคะ…”หลิงอวี๋คุกเข่าลงทำความเคารพทั้งสามคน เซียวหลินเทียนก็คุกเข่าลงเช่นกันไม่มีใครบอกให้ลุกขึ้นได้ หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนก็มิกล้าลุกขึ้นเช่นกันจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนอย่างเย็นชา แล้วจึงเอ่ยเสียงทุ้ม “เซียวหลินเทียน หลิงอวี๋ รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงเรียกพวกเจ้าเข้ามาในวัง?”หลิงอวี๋กับเซียวหลินเทียนเอ่ยพร้อมกัน “เสด็จพ่อ ลูกมิรู้!”จักรพรรดิอู่อันยิ้มเยาะ มองหลิงอวี๋แล้วยกมือขึ้น จากนั้นขันทีฉางก็ยกจานมาหนึ่งใบหลังจากที่หลิงอวี๋ฟื้นขึ้นมาก็พบว่าการได้ยินและการมองเห็นของตนเฉียบคมขึ้น ความสามารถต่าง ๆ ก็แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมหลายสิบเท่าด้วยมีห่อยาอยู่ในจานของขันทีฉาง มิต้องเปิดดูหลิงอวี๋ก็ได้กลิ่นยาชนิดหนึ่งแล้วจู่ ๆ นางก็ใจสั่น รู้ทันทีว่าเหตุใดตนถึงถูกเรียกเข้าวัง!“หลิงอวี๋ เจ้าดูสิ นี่คือสิ่งใด?” จักรพรรดิอู่อันเ
เมื่อเห็นหลิงเยวี่ยถูกทรมานเช่นนี้ เซียวหลินเทียนก็รู้สึกปวดใจและโกรธมาก น้ำเสียงของเขาจึงเฉียบคมขึ้นมา“เจ้าทาสสุนัข ปล่อยเขาลงมา! พวกเจ้าจะทำสิ่งใดกัน?”“บังอาจ! ข้าอยู่ตรงนี้ เจ้ามีสิทธิ์ตะโกนเช่นนี้แล้วรึ?”จักรพรรดิอู่อันตะคอกด้วยความโกรธ “ใครก็ได้ ไปเรียกหมอหลวง บอกว่าจะมีการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์!”“เซียวหลินเทียน เจ้าเต็มใจที่จะเลี้ยงดูลูกผู้อื่น มิได้หมายความว่าข้าจะยอมให้เจ้าทำให้ชื่อเสียงของราชวงศ์เสื่อมเสีย!”“วันนี้เราจะหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์กันอีกครั้ง หากเลือดมิเข้ากัน ข้าจะตัดหัวของหลิงอวี๋กับลูกนอกสมรสนี้ทิ้ง!”หมอจางนำแอ่งน้ำมาเอง เขาเหลือบมองหลิงอวี๋อย่างดูถูก กำลังจะก้าวไปกรีดมือของหลิงเยวี่ยแล้วไทเฮาก็เอ่ยขึ้นมาเรียบ ๆ “ฝ่าบาท ให้คนของแม่ไปตักน้ำเถิด! ไป่ซุ่ย ไปเอาอ่างน้ำมาให้หมอจาง!”หลังจากหยุดไปครู่หนึ่งก็เอ่ยถามอีกครั้ง “ฝ่าบาท คงจะมิสงสัยว่าแม่จะมีกลอุบายใดหรอกใช่หรือไม่?”จักรพรรดิอู่อันตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มพลางเอ่ย “ไทเฮามีความยุติธรรมและเข้มงวด ข้าจะสงสัยท่านได้เยี่ยงไร!”ไป่ซุ่ยออกไปตักน้ำมาใหม่อีกครั้งหมอจางรู้สึกตื่นตร
สีหน้าของจักรพรรดิอู่อันดูมิดีไปทันที พลางจ้องมองพระชายาหรงอย่างดุร้าย แล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “ถามพระชายาหรงดูเถิด!”พระชายาหรงเอ่ยตะกุกตะกัก “เทียนเอ๋อร์ ป้าก็กลัวว่าเจ้าจะถูกหลอกจึงขอให้องค์จักรพรรดิตรวจสอบอีกครั้ง… มีคนมาบอกว่าผงราชาไข่มุกหากเอาไปทาที่มือจะสามารถทำให้เลือดของคนที่มิเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดมาหลอมรวมกันได้!”“หลิงอวี๋ นาง...นาง...”“พระชายาหรง ข่าวที่ไม่มีมูลความจริงก็เชื่อได้เยี่ยงนั้นหรือ?”เซียวหลินเทียนตะคอกด้วยความโกรธ “ท่านคิดที่จะใส่ร้ายหลิงอวี๋เพียงเพราะข่าวที่ลือกันมา ทั้งยังไปรบกวนองค์จักรพรรดิกับไทเฮาให้วุ่นวายไปกับท่านอีก… นี่มันเรื่องไร้สาระอะไรกัน?”“เสด็จพ่อทรงยุ่งกับเรื่องการบ้านการเมืองมากอยู่แล้ว หากทุกคนเป็นเหมือนท่านที่พอได้ยินข่าวลือก็มารบกวนเสด็จพ่อแล้วพระองค์จะดูแลจัดการฉินตะวันตกได้เยี่ยงไร?”ครั้งนี้เซียวหลินเทียนโกรธมาก จึงดุพระชายาหรงอย่างเปิดเผย จริง ๆ แล้วเขาดุจักรพรรดิอู่อันไปด้วยซ้ำจักรพรรดิผู้สง่างามของแคว้น กลับเพิกเฉยต่อเรื่องการบ้านการเมืองแล้วมารับฟังเรื่องข่าวลือไม่มีมูลของสตรี นี่มิใช่เรื่องไร้สาระหรอกหรือ?จักรพรรดิอู่อันมี
หนังสือหย่า?เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็ตกตะลึงหลิงอวี๋จำได้ว่าตอนที่ตนข้ามเวลามา นางถูกเซียวหลินเทียนทุบตีจนเนื้อแตก เมื่อนางสามารถต้านทานได้ก็ใช้กลอุบายแขวนเซียวหลินเทียนไว้บนต้นไม้ บังคับให้เซียวหลินเทียนตกลงที่จะหย่าร้างกับตน!หลังจากที่เซียวหลินเทียนส่งหนังสือหย่ามาหลิงอวี๋ก็เก็บซ่อนมันไว้ตลอด เพียงรอโอกาสให้องค์จักรพรรดิเห็นชอบกับการหย่าร้างและออกจากตำหนักอ๋องอี้!หนังสือหย่านั้นนางมิเคยตรวจสอบดูเลย ไหนเลยจะคิดว่ามันจะตกไปอยู่ในมือของพระชายาหรง...หลังจากที่จักรพรรดิอู่อันอ่านหนังสือหย่าแล้ว เขาก็โกรธมาก “เซียวหลินเทียน ที่แท้เจ้ามิพอใจการแต่งงานที่ข้าประทานให้เจ้ามานานแล้ว! ดังนั้นจึงเขียนหนังสือหย่าไว้!”“เช่นนั้นก็ได้ วันนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง! นับจากนี้ไป ข้าจะมิยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าอีกต่อไปแล้ว!”“เสด็จพ่อ!”เซียวหลินเทียนกังวลแล้วตะโกน “หนังสือหย่านี้ลูกเขียนไว้ก่อนหน้านี้นานแล้ว! ตอนนั้นหลิงอวี๋ทำเรื่องวุ่นวายไร้สาระมากมาย ดังนั้นลูกจึงตอบรับคำขอของนางด้วยความโกรธ!”“แต่ตอนนี้ ลูกรู้ว่าเยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกของลูก ลูกเองก็ชอบหลิงอวี๋ด้วย ลูกมิต้องการหย่าร้างกั
จักรพรรดิอู่อันเข้าใจคำใบ้ของไทเฮา หากวันนี้ตนยืนกรานที่จะให้เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋หย่าร้างกัน และหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ชื่อเสียงของเซียวหลินเทียนในเรื่องไร้ความสามารถเรื่องนั้นก็จะส่งผลต่อชื่อเสียงของราชวงศ์ด้วย!และไทเฮายังได้เตือนจักรพรรดิอู่อันถึงยาที่เป็นความกตัญญูของหลิงอวี๋ด้วยหลิงอวี๋มีทักษะการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม หากปล่อยหลิงอวี๋ออกไป แล้วหากตนเจ็บป่วยในภายหน้า เช่นนั้นก็จะมิมีหมอที่ยอมมารักษาตนเองแล้วจักรพรรดิอู่อันมองหลิงอวี๋แล้วชั่งน้ำหนักข้อดีกับข้อเสีย จากนั้นจึงเอ่ยน้ำเสียงนุ่มนวล “ในเมื่อทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผล เช่นนั้นครั้งนี้ข้าจะมิทำให้พวกเจ้าต้องลำบากใจ!”“ได้ยินสิ่งที่ไทเฮาบอกแล้วหรือไม่? กลับไปก็มีชีวิตที่ดี แล้วมีหลานชายอีกคนให้ข้าโดยเร็ววัน!”“หากเจ้ากล้าทำเรื่องวุ่นวายไร้สาระอีก ข้าจะมิยกโทษให้เจ้าเป็นอันขาด!”“ขอบพระทัยเสด็จพ่อ!”เซียวหลินเทียนกับหลิงอวี๋ต่างก็คำนับพระชายาหรงกับฮองเฮาเว่ยโกรธมาก เหตุใดหลิงอวี๋จึงโชคดีเช่นนี้ พลิกเรื่องร้ายให้กลายเป็นเรื่องดีได้ครั้งแล้วครั้งเล่าฮองเฮาเว่ยมองไทเฮา นางเกลียดไทเฮาอย่างมากเหตุใดยายแก่ผู้นี้จ
หลิงอวี๋รู้สึกผิดเล็กน้อย ในฐานะคนในยุคใหม่ นางมิเชื่อเรื่องการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์เลยวันนี้เรื่องการหลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์ในวันนี้นางทำอะไรบางอย่างไปจริง ๆ!เพียงแต่ว่างานป้องกันนี้มิได้เพิ่งทำในวันนี้ ก่อนหน้านี้ได้ยินมาว่าชิวเหวินซวงไปยุยงเซียวหลินเทียนว่าตนได้ใช้อุบายในตอนที่หลั่งเลือดพิสูจน์สายสัมพันธ์ตอนนั้นหลิงอวี๋มีลางสังหรณ์ว่า เรื่องทำนองเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นอีกครั้ง นางจึงบอกแม่นมลี่กับฉีเต๋อว่าหากมีคนในวังมารับตัวหลิงเยวี่ยไป ให้ป้อนยาที่ตนทำขึ้นเป็นพิเศษให้หลิงเยวี่ยหลิงอวี๋กังวลว่าเลือดจะมิสามารถหลอมรวมกันได้ ทำให้จักรพรรดิอู่อันมีข้ออ้างที่จะประหารตนกับหลิงเยวี่ยหลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้ หลิงอวี๋รู้สึกว่ามาตรการป้องกันของตนนั้นมีความจำเป็นอย่างมาก!หากเลือดของเซียวหลินเทียนกับหลิงเยวี่ยมิหลอมรวมกันในวันนี้ เช่นนั้นตนกับหลิงเยวี่ยก็จบสิ้นแล้ว แม้แต่เซียวหลินเทียนกับไทเฮาก็มิสามารถปกป้องตนได้หลิงอวี๋มิเสียใจที่ใช้อุบายในเรื่องนี้เลย!แม้ว่านางจะรู้สึกผิดเล็กน้อย แต่ก็มิรู้สึกเสียใจกับเซียวหลินเทียนหลิงเยวี่ยเป็นลูกของเซียวหลินเทียนจริง ๆ
“หึหึ!”ชายาเจ้าแห่งทะเลหัวเราะออกมา “หลิงอวี๋ เจ้าคิดว่าข้าโง่รึ? หยกหล้าสุขาวดีหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าแล้ว ค้นตัวเจ้าจะหาเจอได้อย่างไร?”“หลิงอวี๋ หยกหล้าสุขาวดีมิใช่ของของเจ้าตั้งแต่แรก มารดาเจ้าเป็นนางโจร ขโมยมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์ของจวนเจ้าแห่งทะเลไป การให้เจ้าคืนมาก็แค่เป็นการคืนของสู่เจ้าของเดิม!”“ข้าสืบรู้มาหมดแล้ว เจ้าและเซียวหลินเทียนสามีของเจ้าต่างก็อยู่ในเมืองหลวงแดนเทพ เจ้ายังมีบุตรชายอีกคนที่ฉินตะวันตก!”“หลิงอวี๋ ที่เจ้าปฏิเสธมิยอมรับฐานะของตนเองมาตลอด คงเป็นเพราะล่วงรู้ถึงวิธีที่จะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาแล้วสินะ”“เจ้าคิดว่าอย่างไรก็ต้องตายอยู่ดี ดังนั้นเจ้าจึงคิดว่า ขอเพียงมิยอมรับก็เป็นไปมิได้ที่พวกเราจะมัดตัวเจ้าไปสลายเลือดละลายกระดูกที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์เพื่อนำหยกหล้าสุขาวดีออกมา!”ชายาเจ้าแห่งทะเลพูดถึงตรงนี้ก็แค่นเสียงหัวเราะ “เจ้าเชื่อหรือไม่ ข้ามิจำเป็นต้องพิสูจน์ยืนยัน ก็สามารถมัดตัวเจ้าไปภูเขาศักดิ์สิทธิ์ได้แล้ว!”“ที่ข้าให้คนนำตัวเจ้ามาที่จวนเจ้าแห่งทะเล ก็เพื่อจะให้โอกาสเจ้า!”หลิงอวี๋หรือจะยอมรับฐานะของตนเพียงเพราะชายาเจ้าแห่งทะเลพูดเช่นนี้ได้อย่าง
“เข้าไป อย่าให้พ่อบ้านผู้นี้ต้องพูดเป็นครั้งที่สอง!”รอยยิ้มบนใบหน้าของพ่อบ้านเว่ยหายไปสิ้น กล่าวอย่างมิอดทน “เมื่อให้โอกาสดี ๆ มิชอบ ก็ต้องเจอดีเสียบ้าง!”เถาจื่อกำแขนหลิงอวี๋ไว้แน่น และถามผ่านสายตา“ตอนนี้ควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ?”หลิงอวี๋ก็คาดมิถึงว่าจวนเจ้าแห่งทะเลจะเปลี่ยนท่าทีเร็วถึงเพียงนี้ ก่อนหน้านี้นางยังคิดว่า เมื่อเข้ามาในจวนเจ้าแห่งทะเลแล้วจะสามารถยื้อเวลาสักพักได้ชายาเจ้าแห่งทะเลมิปรากฏตัว แต่กลับให้พ่อบ้านเว่ยพาตนมาที่นี่เช่นนี้เลย?นี่หมายความว่าอย่างไรกัน?คิดจะขังนางไว้ หรือว่ามีแผนอื่นกระไร?หลิงอวี๋มองไปยังท่าทีมีเจตนาร้ายของพวกพลธนูและชายร่างใหญ่หลายคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เหล่านั้น นางและเถาจื่อไม่มีทางหนีรอดจากเงื้อมมือของพวกเขาไปได้เลย“เข้าไปก่อนเถอะ!”หลิงอวี๋นำหน้าเดินเข้าไป เถาจื่อตามติดอยู่ข้างหลังหลิงอวี๋เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าประตูเรือน เมื่อเห็นสภาพข้างในก็รู้สึกว่ามิดีแน่ เพิ่งจะคิดถอยหลังเถาจื่อกลับถูกคนผลักจากด้านหลังอย่างแรง ชนเข้ากับร่างหลิงอวี๋จนดันหลิงอวี๋เข้าไปข้างในทั้งสองคนล้มลงไปกองรวมกัน ยังมิทันได้ลุกขึ้นยืนก็ได้ยินเสียงดังโครมสนั่นกล
หลงเพ่ยเพ่ยห้อยอยู่บนชะง่อนผานั้น นางเองก็ทนต่อไปมิไหวแล้ว ภายใต้การเกลี้ยกล่อมของทุกคน นางจึงปีนป่ายเชือกขึ้นไปนางนึกถึงจุดประสงค์ที่ตนมาที่นี่ หากเย่หรงตายไปแล้วจริง ๆ เขาย่อมหวังให้นางช่วยหลิงอวี๋ออกมาได้อย่างแน่นอนนางมิอาจทำให้เย่หรงตายตามิหลับได้!เมื่อหลงเพ่ยเพ่ยปีนขึ้นมาได้ก็มิสนใจตรวจสอบบาดแผลของตน นางคุกเข่าลงต่อหน้าฮองเฮาทันทีนางกล่าวเสียงเครือ “เสด็จย่า เรื่องที่ทรงรับปากหม่อมฉันเมื่อครู่ สามารถประทานพระราชโองการให้หม่อมฉันตอนนี้ได้หรือไม่เพคะ?”“เมื่อครู่เย่หรงช่วยชีวิตหม่อมฉันและหยวนซานไว้ เพียงเห็นแก่บุญคุณทั้งสองครั้งนี้ เสด็จย่าทรงควรจะช่วยให้เขาสมหวังนะเพคะ!”ฮองเฮานึกถึงเรื่องที่เย่หรงและหลงเพ่ยเพ่ยอ้อนวอนตนเมื่อครู่ เย่หรงเป็นถึงเพียงนี้แล้ว นางจะยังทำให้คนที่เขาชอบพอลำบากใจได้อีกหรือ?ฮองเฮาถอดปิ่นปักผมอันหนึ่งของตนออกมาโดยมิทันคิด แล้วยื่นให้กับหลงเพ่ยเพ่ย“ถือปิ่นปักผมนี้ไปพาตัวสิงอวี๋ออกมาเถอะ!”หลงเพ่ยเพ่ยรับปิ่นปักผมหงส์คู่ปักทองคำของฮองเฮามาทั้งน้ำตา นี่คือปิ่นปักผมที่ฮองเฮาเท่านั้นจึงจะสวมใส่ได้ เห็นปิ่นดังเห็นองค์ เทียบเท่ากับพระราชโองการของฮองเฮ
“ท่านหญิง...”“เพ่ยเพ่ย...”ฮองเฮาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยตกลงไปก็ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้นไปชั่วขณะ ผานกกระเรียนแห่งนี้เป็นปรปักษ์กับราชวงศ์หรืออย่างไร?เหตุใดถึงได้ตกลงไปทีละคนเช่นนี้?“เร็วเข้า ช่วยคน!”ฮองเฮาตะโกนลั่น นางกำนัลที่มีไหวพริบรีบไปตามองครักษ์มาช่วยทางด้านเย่หรงทรงตัวได้มั่นคงบนชะง่อนผาแล้ว เขาเพิ่งจะถอนหายใจโล่งอกก็ได้ยินเสียงกรีดร้องจากด้านบนเมื่อเงยหน้าขึ้น เขาก็เห็นหลงเพ่ยเพ่ยกำลังร่วงหล่นลงมาหัวใจของเย่หรงหดเกร็งวูบ มิทันได้คิด คว้าเถาวัลย์ข้าง ๆ แล้วโหนตัวไปหาหลงเพ่ยเพ่ยหลงเพ่ยเพ่ยตกใจจนหลับตาลงแล้ว เตรียมพร้อมยอมรับความตายแต่ทันใดนั้นก็รู้สึกเหมือนตนชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง จากนั้นร่างก็ถูกกอดไว้“ไปทางนั้น เร็วเข้า คว้าชะง่อนผานั่นไว้!”เย่หรงพลิกตัวกลางอากาศ เหวี่ยงหลงเพ่ยเพ่ยไปทางนั้น หลงเพ่ยเพ่ยพุ่งเข้าใส่ผนังผา แต่ใช้แรงมากเกินไปจนใบหน้าชนกับผนังผาจนถลอก นางเจ็บเสียจนหน้ามืดตาลายแต่นางมิสนใจความเจ็บปวดแทบขาดใจ เช่นเดียวกันกับเย่หรง เขาพยายามสุดชีวิตที่จะคว้าเถาวัลย์เหล่านั้นไว้โชคดีที่เถาวัลย์ฝั่งนี้ยังพันเกี่ยวกับกิ่งไม้มากมาย เถาวัลย์ที่พันกิ่งไม้ไว้นั้
“ซานเอ๋อร์!”หลงอวิ๋นก็เห็นภาพนี้เช่นกัน ทันใดนั้นในสมองก็ว่างเปล่า…ในฐานะมารดา นางจะมิรู้ได้อย่างไรว่าตนลำเอียงต่อบุตรชายทั้งสองคนหยวนซือและหยวนซานป่วยไข้พร้อมกัน นางกลับเฝ้าหยวนซือทั้งวันทั้งคืนส่วนหยวนซานกลับเป็นหยวนซิ่งสามีของนางที่คอยดูแลด้วยตนเองของประทานที่ได้รับจากมหาเทพและเจ้าแห่งทะเลผู้เป็นบิดาในช่วงเทศกาลปีใหม่และวันสำคัญต่าง ๆ นางก็จะให้หยวนซือเลือกก่อน ที่เหลือถึงจะให้หยวนซานเรื่องเช่นนี้นับมิถ้วน แต่หยวนซานกลับถูกหยวนซิ่งบิดาของเขาสั่งสอนมาอย่างดี มิเคยบ่นว่าเรื่องความลำเอียงของนางเลย!บัดนี้มองดูหยวนซานกำลังจะตกหน้าผา หลงอวิ๋นในฐานะมารดาจะสามารถมองดูเฉย ๆ ให้บุตรชายตายตกไปเช่นนี้ได้หรือ?ฝ่ามือหลังมือก็เนื้อเดียวกัน นางทำให้หยวนซานมาสู่ใต้หล้าผืนนี้ หยวนซานมีความผิดอะไร นางมีสิทธิ์อะไรจะทำกับหยวนซานเช่นนี้“ซานเอ๋อร์!”เรื่องนี้เกี่ยวพันถึงชีวิต เมื่อคิดว่าจะต้องสูญเสียบุตรชายคนนี้ไปตลอดกาล หลงอวิ๋นก็พลันเสียใจแต่ก็สายเกินไปนางมิสนใจอีกต่อไปว่าจะทำให้หยวนซือบาดเจ็บหรือไม่ นางใช้แรงดึงหยวนซือออกอย่างแรงแล้วพุ่งเข้าไปที่หน้าผา“ซานเอ๋อร์ แม่มาช่วยเจ้าแล้ว
หลงเพ่ยเพ่ยเห็นท่านหญิงชิงเฉิงและท่านหญิงอวิ๋น ในสมองพลันเกิดความคิดแวบขึ้นมา ถึงได้คิดข้ออ้างนี้ออกเมื่อเห็นเย่หรงตามแนวคิดของตนทัน หลงเพ่ยเพ่ยก็แอบชื่นชมในไหวพริบของเย่หรงในใจ แล้วกล่าวต่อไป“เสด็จย่า ท่านคงมิประสงค์ให้ท่านอาเจ้าแห่งทะเลต้องเสียหน้าใช่หรือไม่เพคะ!”“หากเย่หรงไปหาท่านปู่ของเขาให้ออกหน้า การกระทำอันเผด็จการเช่นนี้ของท่านอาเจ้าแห่งทะเลจะถูกผู้คนรังเกียจ ถึงเวลานั้นก็จะส่งผลกระทบต่อเกียรติของราชวงศ์พวกเรา!”“ในใต้หล้านี้มีสตรีมากมาย ท่านอาเจ้าแห่งทะเลก็มิได้ขาดสตรีที่มาเสนอตัวให้ เหตุใดต้องทำเรื่องทำลายวาสนาคู่ครองของผู้อื่นเช่นนี้ด้วย!”ครั้นฮองเฮานึกถึงความเหลวไหลของเจ้าแห่งทะเลก็รู้สึกเสียหน้ายิ่งนัก กล่าวเสียงเข้ม “เอาเถอะ ย่ารู้แล้ว จะออกพระราชโองการให้พวกเจ้าไปรับคนที่จวนเจ้าแห่งทะเล...”หลงเพ่ยเพ่ยและเย่หรงถอนหายใจโล่งอก เพียงแต่ทั้งสองยังมิทันลุกขึ้นยืน ก็มีเสียงกรีดร้องดังแว่วมาจากที่ไกล ๆได้ยินเสียงคนกำลังตะโกนแว่วมา “ช่วยด้วย เร็วเข้า ใครก็ได้ คุณชายน้อยตกลงไปใต้หน้าผาแล้ว...”ฮองเฮาพลันลุกขึ้นยืน ร้องเรียกอย่างร้อนรน “เร็ว ไปดูซิ ใครตกลงไป?”วันนี้
หลงอวิ๋นได้สติกลับคืนมา ตามปกติแล้วคนทั่วไปหากมิได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็จะถามว่า “เมื่อครู่เจ้าว่ากระไรนะ?”แต่หลงอวิ๋นกลับมิทำตามปกติ ลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวว่า “เสด็จย่า เด็ก ๆ เดินไปไกลแล้ว หม่อมฉันไปตามพวกเขากลับมาดีกว่า ควรลงจากเขาได้แล้วเพคะ!”พูดจบ หลงอวิ๋นก็เดินออกจากศาลาพักร้อนไป ร้องเรียกสาวใช้ของตนว่า “พวกคุณชายใหญ่ไปทางไหนกันหรือ?”เนี่ยนจูนางรับใช้ของหลงอวิ๋นกล่าวพลางยิ้มประจบ “แม่นมจี้และเนี่ยนชิงพาพวกเขาไปทางนั้นเจ้าค่ะ มิน่าจะเดินไปไกล!”“ไป ไปดูกัน!”หลงอวิ๋นเดินตามทิศทางที่เนี่ยนจูชี้ไปโดยมิหันกลับมามองท่านหญิงชิงเฉิงมองแผ่นหลังของนางที่เดินจากไปเช่นนั้นก็โกรธจนแทบจะด่าทอเสียงดังลั่นออกมา“พี่หญิงชิงเฉิง พี่หญิงอวิ๋นไปตามหาเด็ก ๆ แล้ว ท่านมิไปตามหาแก้วตาดวงใจทั้งสองของท่านบ้างหรือ?”หลงเพ่ยเพ่ยเห็นดังนั้นก็จงใจกล่าว “ผานกกระเรียนแห่งนี้แม้จะไม่มีสัตว์ร้าย แต่เด็ก ๆ ยังเล็กนัก เล่นอยู่ริมผา หากพลาดตกลงไป เช่นนั้นก็…”“เจ้าแช่งลูกข้ารึ?”ท่านหญิงชิงเฉิงมองหลงเพ่ยเพ่ยอย่างโกรธเคือง ด่าว่า “หลงเพ่ยเพ่ย เจ้าอายุยังน้อย เหตุใดจึงทำตัวเหลวไหลเช่นนี้ คบหากับเย่ห
“เรื่องคู่ครองของข้ารึ?”หลงเพ่ยเพ่ยชะงักไปครู่หนึ่ง นางยังมิได้พูดคุยเรื่องแต่งงานเลย เหตุใดจึงเกี่ยวข้องกับเรื่องคู่ครองของตนได้เล่า“นี่เป็นเพียงข้ออ้าง หลอกพวกนางไปก่อน แล้วค่อยพูดเรื่องสำคัญกับเสด็จย่าของท่าน!”เย่หรงยิ้มกล่าว “อย่างไรเสีย เรื่องนี้ค่อยอธิบายให้เสด็จย่าของท่านเข้าใจทีหลังก็ได้!”ขณะพูดคุยกัน ทั้งสองก็มาถึงศาลาพักร้อนแล้วท่านหญิงชิงเฉิงที่อยู่ในศาลาเห็นหลงเพ่ยเพ่ยกับเย่หรงตามมาถึงที่นี่ ก็พลันนึกถึงคำกำชับของชายาเจ้าแห่งทะเลนางรีบชิงพูดก่อน “ท่านหญิงฉางเล่อก็มาด้วยรึ อ้าว นี่พาคุณชายมาด้วย!”“คุณชายผู้นี้หน้ามิคุ้นเลย เมื่อก่อนมิเคยเห็น เป็นคุณชายจากตระกูลใดกัน?”เย่หรงเห็นใบหน้างดงามของท่านหญิงชิงเฉิงแสดงท่าทีดูแคลนก็รู้ว่าอันที่จริงนางรู้ว่าตนเป็นใครเพียงแต่เหมือนกับพวกคนหัวสูงในเมืองหลวงแดนเทพ นางก็ดูถูกตนที่เป็นบุตรชายที่มิได้เรื่องของตระกูลเย่เช่นกันเสด็จย่าของหลงเพ่ยเพ่ยยังคงดูสดใสร่าเริง อายุหกสิบกว่าปีแล้วแต่ใบหน้ายังคงเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล แทบจะไม่มีริ้วรอยเลยฮองเฮาได้ยินคำพูดของท่านหญิงชิงเฉิงก็มองมาอย่างสงสัย พินิจพิจารณาเย่หรง แล้วกล่าวพล
สิ่งที่เย่หรงคิด หลงเพ่ยเพ่ยก็คิดถึงเช่นกัน นางกล่าวกับเย่หรงอย่างขัดแย้งในใจ“เจ้าคิดจะบอกเรื่องที่เฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ให้พี่หญิงอวิ๋นฟังรึ?”“แต่เช่นนี้ก็มิยุติธรรมกับพี่เขยหยวน เขาและพี่หญิงอวิ๋นก็มีลูกชายด้วยกันอีกคนแล้ว หากบอกพี่หญิงอวิ๋นว่าเฉาฮุยยังมีชีวิตอยู่ จะเป็นการทำลายครอบครัวของพวกเขาเสียเปล่า!”“ข้ามิชอบที่ชายาเจ้าแห่งทะเลทำกับเฉาฮุยเช่นนี้ แต่พี่เขยหยวนและหลานชายตัวน้อยของข้าเป็นผู้บริสุทธิ์!”“อีกอย่าง พี่เขยหยวนก็ดีต่อพี่หญิงอวิ๋นมาก ก่อนหน้านี้ข้ายังอิจฉาพี่หญิงอวิ๋นที่ได้ลงเอยกับคนที่ดี!”เย่หรงยิ้มเย็นชา “เช่นนั้นยุติธรรมกับเฉาฮุยแล้วหรือ? เขายังมีบิดามารดาที่ต้องกตัญญูเลี้ยงดู ท่านหญิงอวิ๋นมิช่วยเขาออกมา แล้วจะมีใครช่วยเขาได้อีก?”“ชั่วชีวิตของเขาจะต้องอยู่ในคุกน้ำไปตลอดหรือ? นี่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าเขาทิ้งเสียอีก!”หลงเพ่ยเพ่ยพูดมิออกเดิมทีเฉาฮุยมีอนาคตที่สดใส เพียงเพราะรักใคร่กับท่านหญิงอวิ๋น ถึงต้องตกอยู่ในชะตากรรมอันน่าเศร้าเช่นนี้มิอาจกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาได้ บุตรชายก็มากลายเป็นของผู้อื่น การที่เขาสามารถทนอยู่ต่อไปในคุกน้ำได้ คาดว่าคงเพราะยังมี