หลังจากนั้น แจ็คสัน สามีคืนเดียวของเธอต้องไปเซ็นสัญญาทำธุรกิจ ซึ่งเธอทราบในภายหลังว่าเขาตกอยู่ในเหตุการณ์ก่อการร้ายครั้งใหญ่ และเกิดการจลาจลจนมีผู้เสียชีวิตนับสองร้อยคน ซ้ำร้ายยังมีร่างที่ถูกเผาไหม้อยู่ในอาคารจนไม่อาจระบุได้ว่าเป็นใครอีกหลายศพ
และชื่อ แจ็คสัน หยวน เองก็อยู่ในรายนามผู้เสียชีวิต ทำให้เธอต้องถูกผลักไสจากคนในตระกูลหยวน รวมถึงลุงกับป้าที่กล่าวหาว่าเธอเป็นตัวซวย สุดท้ายม่านอวี้อันจึงต้องมาอยู่ที่ร้านขายอาหารเล็ก ๆ แห่งนี้ ในถนนเนี่ยอินที่มีแก๊งมังกรซิ่งคอยรีดไถเงินผู้คน
“คุณผู้หญิง” เมื่อเยว่จือยังคงเรียกซ้ำ ๆ อยู่เช่นนั้น หญิงสาวเลยต้องยกมือห้าม
“ฉันคือใคร?”
“เอ๋ ทำไมถามแบบนั้นคะ” เยว่จือตกใจ แต่ไหนแต่ไรม่านอวี้อันเป็นผู้หญิงที่ใช้เสียงเบา ไม่ชอบโวยวายหรือปั้นสีหน้าตึง ๆ ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่อย่างนั้น!
“เอาใหม่ ตั้งสติ แล้วฟังคำถามให้ดี ๆ ฉัน-คือ-ใคร?”
ม่านอวี้อันคนใหม่นี้ลงเสียงหนัก ดวงตากลมโตที่จ้องเยว่จือพลอยให้เด็กสาวตัวสั่น
“คะ คุณผู้หญิง คือม่านอวี้อัน...”
เมื่อได้ยินแบบนั้น วิญญาณที่สวมร่างผู้อื่นพลันขนลุกซู่ขึ้น เธอคือ ม่านอวี้อัน สตรีแสนอาภัพ ตอนนี้ในหัวของเธอมีหลายสิ่งวนเวียนอยู่เต็มไปหมด
“เอาละ ต่อไปเรียกฉันว่า ‘มาดาม’ หรือไม่ก็พี่อัน ได้หรือไม่”
เยว่จือยกมือขึ้นปิดปากตนทันที เหตุใดเธอจะกล้าเรียกคนที่มีบุญคุณกับตนเช่นนั้น
“ฉันบอกไม่เข้าใจหรือ”
“เอ่อ ค่ะ... มาดาม”
“ดี แบบนี้ฉันถึงรู้สึกเป็นตัวเองขึ้นสักหน่อย”
จากนั้นหญิงสาวจึงหลับตาลง พึงระลึกว่าต่อจากนี้เธอคือ ม่านอวี้อัน และจะไม่มี ลิซ่า จาง อีกต่อไปในโลกยุค 80s นี้
เมื่อเข้าไปในครัวโดยมีสองฝาแฝดเดินป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ ๆ ม่านอวี้อันรู้สึกมีชีวิตชีวาไม่น้อย พวกเขาจะว่าไปก็ทำให้เธอกระตือรือร้นอยากที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป
ทว่าพอหยุดมองภาพในห้องครัว ม่านอวี้อันก็แทบทรุดลงไปนั่งกองบนพื้น ครอบครัวนี้ช่างยากจนข้นแค้น ให้ตายเถอะแม้แต่ข้าวสารยังไม่มีกรอกหม้อ กระนั้นจากที่กวาดตามองอย่างคร่าว ๆ ม่านอวี้อันจึงได้ใจชื้นขึ้นมาสักหน่อย เมื่อเธอเห็นน้ำตาลทราย เกลือ และแป้งหลายชนิด ถัดไปที่อยู่หลังสุดคือตู้เย็นที่นับว่ายังใช้การได้ดี และพอเปิดประตูออก เธอก็ต้องยกมือขึ้นทาบอก ก่อนจะหัวเราะพรืดใหญ่ เพราะในตู้เย็นมีเนยจืดก้อนใหญ่วางอยู่ แถมยังมีเครื่องปรุงรสอย่างละนิดละหน่อย นอกจากนั้นเป็นนมจืดไม่กี่กล่อง แยมส้ม ลูกเกดอบแห้ง เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และของจุกจิกที่เธอมั่นใจว่าจะทำให้ตนเองกับสองฝาแฝดอิ่มท้องได้ นี่คงเป็นตู้ต่างมิติมหัศจรรย์ของเธอสินะ สิ่งที่จะช่วยทำให้ทุกคนในบ้านอิ่มท้อง
“มัมมี้ นม...” เซียงเจียวว่าก่อนจะเอานิ้วส่งเข้าปากแล้วเริ่มดูด เขาคงหิวนั่นเอง
“แม่จะทำของอร่อย ๆ ให้หนูกินดีไหมจ๊ะ”
“น้องอยากกินของอร่อย ไม่เอาไข่ต้ม...” เด็กชายเลียนแบบคำพูดของเธอพร้อมกับบอกสิ่งที่เขาเบื่อมาก ๆ นั่นก็คือไข่ต้ม ที่ไข่แดงมักสุกเกินไปจึงทำให้ฝืดคอ
“แล้วผิงเกอของแม่ล่ะ”
เธอหันไปถามลูกชายคนโตที่เดินตามหลังมา เขาถือหมอนข้างเล็ก ๆ มาด้วย ดวงตากลมโตมองม่านอวี้อันแป๋ว ผิงกั่วสื่อสารไม่เก่ง แต่ยิ้มหวานจับใจ
“ผิง... หิว!”
“ดี แม่จะทำของอร่อยที่สุดให้พวกหนูกิน” ม่านอวี้อันว่าแล้วก็ฮึกเหิม เธอไม่ได้รู้สึกมีพลังเช่นนี้มานานแล้ว โลกที่จากมาเธอหวังแต่เงินทองและชื่อเสียงจนบางครั้งอาจลืมจิตวิญญาณของอาหารไป!
เยว่จือถึงกับตกใจกับอาการของม่านอวี้อัน เมื่อปกติคุณผู้หญิงห่วงข้าวของในครัวจนใครจับต้องไม่ได้ และตู้เย็นดังกล่าวยังเป็นเหมือนสมบัติล้ำค่า เพราะเหลือเพียงชิ้นเดียวที่มีราคาแพงที่สุดในบ้าน เธอจึงไม่ยอมให้เด็ก ๆ เข้าใกล้เป็นอันขาด
“ฉันหลับไปกี่วัน”
“มะ มาดามนอนซมไปเกือบห้าวันค่ะ และเราไม่เหลืออะไรเลย มีขนมปังก้อนสุดท้าย หนูเอาให้น้องกินตอนเช้า ตอนนี้เหลือกล้วยหอมหนึ่งหวี แป้งทำขนมสามถุง แล้วก็ไข่ที่เฮียข่ายแบ่งไว้ให้ครึ่งแผง”
เยว่จือว่าจบจึงขยี้ตาตนเองแรง ๆ ไม่ใช่ว่าอ่อนแอ แต่เธอพยายามทำให้ตนไม่ส่งเสียงร้องไห้ออกมาต่างหาก ด้วยของเพียงเท่านี้จะพอกินถึงสิ้นเดือนได้อย่างไร!
“เธอหิวไหม” ม่านอวี้อันถาม
เด็กสาวเงยหน้าขึ้น เป็นตอนนั้นที่ม่านอวี้อันเห็นชัดเต็มสองตาว่าแก้มข้างหนึ่งของเยว่จื่อมีรอยแดงช้ำ เธอฉงนในตอนแรก ก่อนถามเสียงเข้มว่า
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“น่ะ หนูหกล้ม”
ม่านอวี้อันไม่เชื่อ เธอเอื้อมมือไปจับคางของเด็กสาว หมุนซ้ายหมุนขวา จากนั้นก็ทั้งโกรธและหงุดหงิดใจเมื่อเห็นว่ามันเป็นรอยฝ่ามือขนาดใหญ่ที่ทำให้ใบหน้าเรียวเล็กนี้บอบช้ำ
“ใครทำร้ายเธอ!” ม่านอวี้อันเดือด ใจเธอเต้นแรงจนเกือบจะกระโจนออกมาอยู่นอกอก!............
เมื่อหญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้น รู้สึกตัวอีกทีกลับเห็นใบหน้าคนที่เธอมักคุ้น และยามนี้ มันไม่ใช่โลกในยุค 80s! “พี่ลิซ่า หนูบอกแล้วยังไงคะ เหนื่อยก็ให้คุณอีธาน พากลับไปคอนโดฯ ก่อนดีไหม ทางนี้หนูกับเด็ก ๆ จะจัดการให้เอง” คนที่เพิ่งลืมตา ยกมือทาบหน้าอก เธอกลับมายังโลกปัจจุบัน และอยู่ในร่างลิซ่า จาง! “อย่าบอกนะคะว่าฝันร้าย เดี๋ยวหนูให้คุณอีธานมาปลอบพี่ดีกว่า” มิเชล ลูกพี่ลูกน้องเธอบอกแล้วยิ้มให้ ก่อนหันไปด้านหลังเพื่อบอกพนักงานให้เรียกหาอีธาน ผู้ชายที่เป็นคนรักของลิซ่า หญิงสาวพยายามตั้งสติ ก่อนรับรู้ได้ว่า เธอย้อนเวลากลับคืนสู่โลกปัจจุบัน เป็นเหตุการณ์ก่อนที่อีธานจะขับรถพาเธอเข้าไปในอุโมงค์ที่มีน้ำขังแห่งนั้น! อีธานเดินเข้ามาหาหญิงสาว และหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ “เวลาไม่กี่ชั่วโมง ที่รักขายของได้ยอดเยี่ยมมาก ร้อยล้านเหรียญเชียวนะ และออเดอร์ยังเข้ามาต่อเนื่องอย่างถล่มทลาย ในอนาคตธุรกิจอาหารของประเทศนี้ต้องอยู่ในมือคุณแน่” ลิซ่ามองอีธาน เธอควรดีใจกับการประสบความสำเร็จครั้งนี้ แต่หัวใจกับโหวงเหวง ยิ่งมองใบหน้าชายหนุ่มที่แสนสมบูรณ์แบบ เธอกลับไม่ไ
ม่านอวี้อันลุกขึ้นอาบน้ำในตอนเช้ามืด ตลอดคืนเธอครั่นเนื้อครั่นตัวและหนาวสะท้านแปลก ๆ ฝ่ายแจ็คสัน เขานอนกับสองฝาแฝด อีกไม่นานคงตื่นขึ้นมาช่วยงานเธอ ก่อนที่จะออกไปวิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย ยามนี้เธอรู้แล้วว่าเขามีค่ายมวยปล้ำ เป็นธุรกิจที่สานต่อจากพี่ชายผู้ล่วงลับ โดยมีเพื่อนสนิทที่คบหากันมาหลายปีช่วยดูแลให้ก่อนหน้านี้ “อาหมวยหน้าซีดมากเลยรู้ไหม” เขาบอก ก่อนจะก้าวมาวางหลังมือที่หน้าผากหญิงสาว “ตัวอุ่น ๆ ด้วย วันนี้ให้ฉันขายของแทนดีไหม หรือไม่ก็ปิดร้านเลย ส่วนคนงานก็จ่ายค่าจ้างรายวันตามปกติ” “ฉันไม่เป็นอะไร แค่คิดมากเรื่องคุณโรส คุณรู้ไหม เธอขายน้ำมันกัญชาด้วย ของพวกนี้มีคุณมากก็มีโทษเช่นกัน” “อาหมวย สามีโรสเป็นเถ้าแก่ร้านขายยา เขาย่อมรู้ว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เธออย่าห่วงคนอื่นให้มากเลย ดูตัวเองก่อนเถิด คิดแทนเขาจนไม่สบาย” ม่านอวี้อันยิ้มให้แจ็คสัน เขากำลังดุเธอ นี่หากเป็นโลกปัจจุบัน ใครหน้าไหนก็ห้ามพูดเช่นนี้ ความคิดเธออย่างไรย่อมถูกต้องที่สุด “อีกอย่างน้ำหมักของโรส ฉันคิดว่ามันต้องมีบางสิ่งที่ปนเปื้อน หรือไม่ก็อาจส่งผลอันตรายในระยะยาว”
ความอดทนมีขีดจำกัด แจ็คสันรู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องนอนม่านอวี้อันสูงกว่าปกติ ร่างกายเขาร้อนรุ่ม ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทว่าพอก้าวเข้ามาในห้องนอนหญิงสาว คนตัวโตก็รู้สึกเหมือนว่าธาตุไฟกำลังจะแตก! ซึ่งในยามนี้ ดวงตาของม่านอวี้อันที่มองมายังเรือนกายเขาไม่อาจปิดบังความในใจของเธอไว้ได้ ให้ตายเถอะ หญิงสาวเย้ายวนได้ถึงเพียงนี้ มีเสน่ห์ในแบบที่เขาไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไป ชายหนุ่มอมยิ้ม หัวใจเขาเต้นระรัวแรง ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาอยากสยบอยู่แทบเท้าเธอ ความรู้สึกเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “ดึกแล้วนะคะ” เธอว่า และไม่รู้ว่าจะเอามือวางไว้ที่ใด ตอนนี้ว้าวุ่นไปหมด ส่วนคนตัวโตอยู่ในชุดเสื้อผ้าสบาย ๆ เป็นกางเกงนอนผ้าแพรเนื้อบาง ข้างบนสวมเสื้อกล้าม เมื่อได้เห็นเรือนกายกำยำ เปี่ยมด้วยกล้ามแน่น ๆ ม่านอวี้อันก็กระหายน้ำ ลำคอเธอแห้งผาก พื้นที่แห่งความหวานล้ำของผู้หญิงเกิดความรู้สึกเร้นลับที่ไม่อาจเปิดเผยต่อเขา “อืม บอกตรง ๆ ให้เข้าใจ ฉันไม่ได้มาส่งอาหมวยเข้านอนหรอกนะ” เสียงทุ้ม ๆ ของเขาทำให้ดวงหน้าหญิงสาวร้อนผ่าว ดวงตาคมคู่นั
เวลาผ่านไปจนสามทุ่มครึ่ง เยว่จือซึ่งตอนแรกเกือบหิ้วท้องรอสองแฝดอย่างเช่นม่านอวี้อัน แต่ถูกคำสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดในแบบที่เด็กสาวต้องรีบกินอย่างไม่กลัวติดคอ “ทำความสะอาดเรียบร้อยก็รีบไปพักผ่อนเสีย และถ้าฉันไม่เรียก ไม่ต้องออกมารู้ไหม” “มาดาม แล้วจะไม่กินอะไรสักคำก่อนหรือคะ” เยว่จือยังทำใจดีสู้เสือ ทว่าพอม่านอวี้อันหันหน้ามา ดวงตาเธอก็จ้องเขม็ง เด็กสาวเลยทำคอหด ก่อนยอบตัวแล้วหายไปทำหน้าที่ของตน กระทั่งสี่ทุ่มตรง เสียงหัวเราะของผิงกั่วฉุดให้ม่านอวี้อันลุกจากเก้าอี้ไปยืนรอลูกชายกับแจ็คสันตรงหน้าประตู ในตอนนั้นเธอควรจะร่าเริงไปด้วย เพราะผิงกั่วดูสนุก ฝ่ายแจ็คสันก็ร้องเพลงไปกับเขา ส่วนเซียงเจียวไม่ต้องพูดถึง เขาส่ายสะโพกด้วยท่าทางแปลก ๆ มันทะลึ่งอยู่สักหน่อย ทว่าเขาอยู่ในวัยแค่นี้ เธอจึงไม่ดุหรือปรามให้หยุดเต้น “ลุงผี! รู้ไหมคะ ตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว” ม่านอวี้อันถามเสียงเข้มอยู่สักหน่อย แม้ไม่ได้เจือความโมโห แต่ใบหน้าเธอยามนั้นชวนให้สองแฝดและแจ็คสันต้องปิดปากเงียบกันเลยทีเดียว “กี่ทุ่มแล้วคะ คุณลุงผี!” เธอถามย้ำเสียงเย็น
แบบนี้มันต้องถูกทำโทษ ม่านอวี้อันสั่งให้เยว่จือจัดโต๊ะอาหาร แต่เธอกลับไม่ยอมกินมื้อค่ำสักที ด้วยแจ็คสันและสองฝาแฝดยังไม่กลับถึงบ้าน ลี่ฮุ่ยเห็นว่าหญิงสาวเครียดอยู่สักหน่อย อันที่จริงทุกคนได้เรียนทำอาหารอย่างสนุกสนาน ระหว่างเรียนก็ชิมกันไปไม่น้อย ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หล่อนเลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ “เอ่อ ๆ ตอนทุ่มครึ่งมีรายการแข่งมวยของไทสันใช่ไหม” ไทสันเป็นนักมวยเหรียญทองคนดังที่ขึ้นชกเพื่อการกุศลหาเงินช่วยผู้ด้อยโอกาสและเด็กพิเศษ โรสที่กำลังมองข้าวเหนียวมะม่วงและข้าวเหนียวขนุนอยู่ไม่ทันตอบ เธอกลืนน้ำลายไปหลายอึก ด้วยอยากชิมอีกสักหน่อย แต่เยว่จือกำลังเร่งจัดอาหารคาวและหวานลงกล่องให้ทุกคน “น้องโรส เถ้าแก่โจวคงอยากกินไก่ผัดเม็ดมะม่วงและต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนร้อน ๆ แล้วมั้ง ยังไงแบ่งใส่ถุงเรียบร้อย เราก็แยกย้ายดีไหม จะได้ไปเชียร์ไทสันต่อยมวยที่บ้านใครบ้านมัน” ลี่ฮุ่ยกล่าวพร้อมสะกิดโรสแรง ๆ จนเธอหันมาทำตาขวาง ๆ ใส่ พอเห็นว่าลี่ฮุ่ยขยิบตาส่งสัญญาณบางอย่าง โรสจึงนึกบางสิ่งออก “เยว่จือ อย่าลืมตักน้ำต้มแซ่บให้ฉันเพิ่มอีกสักหน่อย และ
“แล้วพวกอากับลุงไม่ใช่ยอดมนุษย์เหรอ” คนที่สูงที่สุด มีผมสีทองว่าแล้วอวดกล้ามโต ทำให้เซียงเจียวตาโต เด็กชายกลัวกล้ามเขาจะแตกโพละเหมือนลูกแตงโม “มะ ไม่ใช่ มีคนเก่ง กะ กว่า” ผิงกั่วยืดอกตั้ง แน่นอนสำหรับเขา แต่ก่อนอาจไม่ชอบหน้าลุงผี เพราะแม่บอกว่าอีกฝ่ายเป็นแมวตัวโต ทั้งขี้เกียจ และยังชอบแอบย่องเข้าบ้าน ทว่าพักหลังเขากลับติดลุงผีแจ ที่สำคัญลุงผีสอนเขาหลายอย่าง แถมมีของกินดี ๆ ให้กินตลอด “เฮียผิง พวกเขาเนี่ยเก่งสุดแล้ว ไม่มีใครเก่งกว่านี้หรอก” ผิงกั่วส่ายหน้าเร็วแรง ก่อนเอ่ยว่า “แต่ปะป๊าเป็นยอดมนุษย์!” ไม่รู้คำดังกล่าวหลุดออกมาจากปากผิงกั่วได้อย่างไร แต่เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ “โอ้ จริงด้วย คุณพ่อของพวกหนูต้องแข็งแรงและเก่งที่สุดแน่นอน” คนสวมหน้ากากตุลาการว่าแล้วก็ยิ้มให้ผิงกั่วกับเจียงเซียว หลังจากนั้นแจ็คสันจึงก้าวเข้ามารับเด็ก ๆ หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อย “เอ๊ะ... คนนี้เหรอ ปะป๊าของพวกหนู” คนในกลุ่มเอ่ยถาม เซียงเจียวส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ผิงกั่วกลับยิ้มกว้าง และบอกว่า “ใช่... คนนี้เป็นยอดมนุษย์!” แจ็คสัน