LOGIN“มะ มัมมี้!” เสียงเล็ก ๆ ที่แสนสดใสดังขึ้น ตามด้วยอีกเสียงที่ฟังเหมือนกับว่าเพิ่งผ่านพ้นการร้องไห้อย่างหนักมา
“น้อง หิว... หิว!”
หญิงสาวลืมตาช้า ๆ การหายใจของเธอยังไม่เป็นปกติ และรู้สึกว่าตัวชื้นเหนียวเหนอะไปด้วยเหงื่อ แล้วก็เป็นตอนนั้นเองที่มือเล็ก ๆ ที่พอจะอุ่นอยู่สักหน่อยลูบแก้มเธอเบา ๆ พร้อมรอยยิ้มที่ทำให้หัวใจหญิงสาวอ่อนยวบ
“มะ มามี้ มะ ไม่ ตะ ตาย!”
เธอฉงนแต่ก็พยายามตั้งสติ การที่ต้องอยู่ในรถคันนั้นและไม่มีอากาศหายใจทำให้เธอกลัวจัด และเธอเชื่อว่าตนเองตายไปแล้ว ทว่าระหว่างที่เธอกำลังอยู่ในช่วงของความเป็นและความตาย เธอกลับได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ จวบจนลืมตาได้อีกครั้ง จึงเห็นพวกเขาทั้งสองคน
“หนู...” เสียงของเธอแหบจัดและอ่อนแรง
“มามี้... น้องไม่ร้อง แต่เฮียผิง งอแงจะกินขนมตลอด”
คนที่เอ่ยกับเธอเป็นเด็กผู้ชายที่คุยเก่ง อายุคงราว ๆ สี่ถึงห้าขวบ
ส่วนอีกคนจ้ำม่ำกว่า แก้มย้อยน่ารัก กำลังทำหน้าบึ้ง เขาสื่อสารติด ๆ ขัด ๆ อยู่สักหน่อย เพราะทำท่าเหมือนกับพยายามจะพูด แต่อ้าปากแล้วหุบอยู่สองสามครั้ง ก่อนจะมีเสียงดังให้ได้ยิน
“ผะ ผิงเกอ”
ผิงเกอเรียกชื่อตัวเองก่อนจะทุบที่อกของเขาเสียงดังปั้ก ๆ ดวงตาคู่นั้นแดงระเรื่อ ดูแล้วน่าสงสารยิ่งนัก
คนที่ฟื้นจากความตายเลยรีบเข้าไปสวมกอด และปลอบขวัญ
“ผิงเกอ หนูหิวใช่ไหม”
“ผิง หะ หิว และ กะ กลัวมัม มะ มี้ ทะ ทิ้งผิง... ไป!” เขาบอกพร้อมกอดหญิงสาวไว้แน่น ราวกับกลัวว่าเธอจะจากเขาไป
“มามี้ไม่ตาย” ผิงกั่วเอ่ยได้เท่านั้นแล้วก็ร้องไห้โฮ พลอยให้คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กันที่ตอนแรกยังยิ้มแย้มอยู่ สะอื้นไปด้วย
“มัมมี้ เจียวเกอ ก็หิว!” คราวนี้ฝาแฝดคนน้องร้องเอาอย่างผิงกั่ว
คนที่เพิ่งฟื้นจากความตายต้องรีบปรับตัวโดยด่วน สิ่งที่เธอรู้ตอนนี้คือ ตัวเองกลายเป็นคุณแม่ลูกฝาแฝด พอเด็ก ๆ มีความอยากอาหาร เธอก็พลอยแสบท้องไปด้วย ก่อนที่มันจะดังโครกครากน่าขายหน้าจนผิงกั่วที่กอดเธออยู่ทำหน้าประหลาดใจ เธอเลยต้องหาเรื่องกลบเกลื่อน
“คนนี้ผิงเกอ...” เธอลูบศีรษะเด็กชายที่กอดเธอเอาไว้แน่นมาก และยังคงสะอื้นไม่หยุด
“คนนี้เจียวเกอ” ฝาแฝดคนน้องตอบเธอ ก่อนจะยิ้มกว้าง รอยยิ้มนี้ช่างสดใส ทำเอาหญิงสาวน้ำตาคลอหน่วยอย่างไม่รู้ตัว
ความซื่อ และบริสุทธิ์ปลอบโยนหัวใจของวิญญาณที่มาสิงร่างผู้อื่น
“มัมมี้ ร้องไห้” เซียงเจียวไม่อยากเห็นภาพแบบนี้ เขายื่นมือเล็กป้อมพยายามเช็ดน้ำตาให้คนเป็นแม่
“ฮึบ ๆ ๆ ไม่ร้อง มัมมี้ น้องจะดูแลมัมมี้และเฮียผิง เจียวเกอเก่ง” เซียงเจียวเอ่ยแล้วก็ลุกขึ้น เป็นยามนั้นที่หญิงสาวเห็นว่า เขาไม่ได้สวมเสื้อ แต่กลับห่อตัวเองด้วยผ้ากันเปื้อนของผู้ใหญ่ มืออีกข้างถือตะหลิวไม้เอาไว้ ท่าทางเช่นนี้ดูแล้วพาให้เธอปลื้มใจ เมื่อเห็นว่าเขาทั้งเป็นเด็กดี ทั้งแจ่มใส เขาเป็นลูกชายของเจ้าของร่างที่เธอมาอาศัย ช่วงเวลานี้คงจะเป็นในอดีต เนื่องจากเมื่อกวาดตาดูรอบห้องนอนแล้วทำให้รู้ว่า คงแตกต่างจากปัจจุบันหลายสิบปี นอกจากนั้นบ้านหลังนี้คงไม่ใช่คนร่ำรวยสักเท่าไร
“เจียวเกอจะทำข้าวผัดไข่ให้ทุกคนกิน!” เด็กน้อยเสนอและกำลังจะเดินไปยังห้องครัว แต่จู่ ๆ กลับหยุดเสียอย่างนั้น ก่อนหันมาบอกแม่ว่า
“แหะ ๆ น้องลืม เราไม่มีข้าวสวย!”
ได้ยินอย่างนั้นเธอก็อยากจะหัวเราะ เพราะทั้งชีวิตของหญิงสาวไม่เคยขาดแคลนสิ่งใด เธอหาเงินร้อยล้านเหรียญได้ในระยะเวลาไม่ถึงหนึ่งวันด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการที่จะไม่มีข้าวสารกรอกหม้อ!
หญิงสาวตัดสินใจลุกจากฟูก ตั้งสติอยู่เพียงเล็กน้อย เธอก็เตรียมเดินเข้าครัว โดยมีร่างเล็ก ๆ แสนน่ารักของเซียงเจียวนำทาง เป็นตอนนั้นที่ประตูด้านหลังบ้านมีเสียงกุกกัก ก่อนที่ร่างของเด็กสาวจะก้าวเข้ามา
“คุณผู้หญิง...” เยว่จือเอ่ย ก่อนที่จะทำถุงยาและถุงมันฝรั่งในมือหล่นลงไปบนพื้น เด็กสาวนึกว่าตนเห็นผีกลางวันแสก ๆ ก่อนหน้านี้คุณผู้หญิงของเธอได้สลบไป ซ้ำร้ายยังนอนตัวสั่น ร้องครางด้วยพิษไข้ เธอจึงตัดสินใจออกไปขอร้องเถ้าแก่โจว อยากให้เขาตามรถพยาบาลให้ แต่สุดท้ายอีกฝ่ายก็ทำได้แค่มอบยามาจำนวนหนึ่ง กระนั้นเยว่จือก็ต้องเสียเวลากลางทางเนื่องจากถูกแก๊งมังกรซิ่งข่มขู่และขวางทางไว้
“คุณผู้หญิงหรือ...” หญิงสาวทวนคำอีกฝ่าย เธอไม่ชอบคำนี้ ปกติคนอื่นจะเรียกเธอว่า ‘ตั่วเจ้’ หรือ ‘มาดาม’ ไม่ก็เชฟเจ้าหญิงผู้กอบกู้วงการอาหารริมทาง การเป็นคุณผู้หญิงช่างห่างไกลจากตัวตนเธอเหลือเกิน
“ใช่แล้ว เอ... หรือว่าพิษไข้ทำให้คุณผู้หญิงสติเลอะเลือน”
เยว่จือเอ่ยเช่นนั้น เพราะสองสามคืนที่ผ่านมาคุณผู้หญิงของเธอฝันร้าย และในบางคืนก็ถึงกับกรีดร้องว่าเธอกำลังจะจมน้ำตาย!
****************
เมื่อถูกเยว่จือเรียกเช่นนั้น เธอก็เหมือนจะระลึกหลายสิ่งได้ แน่นอนยามนี้เธอไม่ใช่ ลิซ่า จาง หากอยู่ในร่าง ม่านอวี้อัน คุณแม่ลูกแฝด ซึ่งถ้าโชคดีหน่อย สามีเธออาจแค่หายสาบสูญไปในเหตุการณ์ระทึกขวัญระดับชาติเมื่อหลายปีก่อน แต่ถ้านึกถึงขั้นร้ายแรงที่สุดแล้วละก็ เขาคงจะตายไปแล้ว และเป็นซากศพไหม้เกรียมที่ระบุตัวตนไม่ได้ อย่างไรก็ตามมันช่างน่าสมเพชเหลือเกินที่ในความจริงเธอกับ แจ็คสัน หยวน นับว่าเป็นคนแปลกหน้ากัน อีกฝ่ายคือสามีคืนเดียวของเธอ และน้ำเชื้อของเขาคงดีมาก เพราะหลังจากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งในคืนเข้าหอ เธอก็ตั้งครรภ์ในเวลาต่อมา
ในอดีต ม่านอวี้อันถูกป้ากับลุงใจร้ายบีบบังคับให้แต่งงานแทนแม็กกี้ หรือ ม่านลี่ถี ลูกพี่ลูกน้องที่ป่วยอย่างกะทันหัน ซึ่งอาการป่วยที่ว่าคือการที่ฝ่ายนั้นรักสนุกไปใช้ยาเสพติดจนมีอาการประสาทหลอน จึงถูกส่งเข้าบำบัดในโรงพยาบาลก่อนที่เธอจะหลบหนีไป และทั้งหมดเป็นเพราะเธอเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพวกมีอิทธิพลทั้งที่ตัวเองกำลังคบหาอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งอย่างลึกซึ้ง แต่เขาเป็นพวกขี้ขลาด ไม่กล้าเปิดเผยฐานะอันแท้จริงของตนให้ม่านลี่ถีรู้ ดังนั้นม่านลี่ถีจึงแอบคบหาผู้ชายคนอื่นเพื่อให้ตนมีความสุขโดยไม่ต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ อย่างที่ผู้ชายคนนั้นปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นนางบำเรอ
เวลาต่อมาม่านหงกับถานเซียะจึงส่งม่านอวี้อันเข้าหอกับผู้ชายตระกูลหยวนแทนม่านลี่ถี และการเข้าหอกับชายหนุ่มอย่างไม่จำยอมในครั้งนั้นก็ส่งผลให้ม่านอวี้อันช้ำใจหนักจนเธอเกือบคิดสั้นฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายลุงกับป้าทั้งปลอบและขู่ พร้อมสัญญาว่าเมื่อเธอได้เป็นภรรยาแจ็คสันแล้ว เขาย่อมดูแลเธอตามสมควร
ทว่าสิ่งที่ทั้งสองคนบอกเธอมันเป็นเรื่องโกหก อีกทั้งแจ็คสันยังไม่ได้สนใจเลยว่าเธอจะรู้สึกอย่างไร สำหรับเขาการแต่งงานครั้งนั้นก็เหมือนกับว่าเธอเป็นแค่สมบัติชิ้นเล็ก ๆ ที่มีเลือดเนื้อซึ่งถูกส่งมาขัดดอก เพื่อที่ลุงกับป้าของหญิงสาวจะได้ไม่ต้องถูกยึดทรัพย์สินทั้งหมด ฝ่ายเขาก็แค่ทำตามหน้าที่เจ้าบ่าวไปเท่านั้น ทว่าเรื่องราวดังกล่าวกลับสร้างบาดแผลในใจแก่ม่านอวี้อันจนเธอไม่อาจลืม
และก่อนที่ชายหนุ่นจะสลบ ทั้งพยาบาล คุณหมอ และม่านอวี้อันได้ยินเขาบอกว่า “อาหมวย พี่สัญญา เมื่ออาหมวยแข็งแรงแล้ว พี่จะรีบไปทำหมัน!” คำพูดเขาทำให้ม่านอวี้อัน รับรู้ได้ว่าสามีสุดหล่อของเธอ มอบความรักให้มากแค่ไหน และเวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง ม่านอวี้อันก็คลอดเด็กหญิงแสนน่ารัก กระทั่งคุณหมอแจ้งข่าวด้านนอกให้ทุกคนที่รอฟังอยู่ พวกเขาก็ดีใจ โดยเฉพาะสองฝาแฝด กระนั้นเด็กๆ ก็ยังไม่เข้าใจว่า น้องผู้หญิงนั้นแตกต่างจากน้องผู้ชายอย่างไร “น้องผู้หญิง มีช้างน้อยเหมือนเถียนเถียนไหมคะ” เซียงเจียวถาม เยว่จือ ลูกของโรสคลอดออกมาเป็นเด็กชาย และเขาได้เห็นเถียนเถียนตัวอ้วน เวลาฉี่นั้นทำให้เขาต้องหัวเราะ ด้วยช้างน้อยของน้อง ปล่อยน้ำออกมาราวกับน้ำพุ มันพุ่งสูงเลยทีเดียว เยว่จือไม่ได้ตอบ เธอเอาแต่ขำหนัก ลี่ฮุ่ยจึงบอกว่า “ไม่เหมือนกันจ๊ะ น้องที่คลอดเป็นเด็กผู้หญิง ต่อไปเจียวเกอ กับผิงเกอต้องดูแลน้องให้ดีช่วยแม่กับพ่อรู้ไหม” “น้องจะมีผมยาวๆ ใช่ไหม และถักเปียหรือเปล่า” ผิงกั่วถาม “ใช่แล้ว น้องผมยาว ใส่ชุดสวย” ลี่ฮุ่ยตอบ “แสดงว่า ต้องใ
บทส่งท้าย ม่านอวี้อันได้ทำในสิ่งที่เธอปรารถนาสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว คือเมนูอาหารกลางวันให้เด็กๆ ไม่ใช่แค่โรงเรียนเครือสมาคมห้าสหาย แต่หมายถึงเด็กๆ ทั้งประเทศ นอกจากนั้นเมนูต่างๆ ที่เธอเคยทำขายยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยที่เธอไม่ได้หวงสูตรสักนิด แจกจ่ายออกไปให้ผู้คน ใครมีความสามารถอย่างไรก็ปรับเปลี่ยนตามนั้น และที่สำคัญ เค้กไข่ของม่านอวี้อัน หลังจากได้ติดดาวหนึ่งดวงก็กลายเป็นเค้กที่มีขายอยู่ทุกมุมถนน นอกจากนั้นยังมีการส่งออกไปต่างประเทศ เป็นของขึ้นชื่อของประเทศไคหมิง ยามนี้สิ่งที่เธอเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเรื่องเศร้า หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลให้อนาคตของลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนต้องตัดพี่ตัดน้องกันก็คือ เธอต้องอยู่ที่โลกนี้ต่อไป ทำหน้าที่ม่านอวี้อันอย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วน ลิซ่า จาง ก็ให้เป็นเพียงเรื่องในภาพความทรงจำที่เคยเกิดขึ้น และเธอจะระลึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยได้กระทำมา รวมถึงหลายชีวิตที่มุ่งร้ายหาผลประโยชน์ต่อเธอ ดังนั้นเมื่อไม่มี ลิซ่า จาง... เธอคงไม่ต้องรับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น และไม่ต้องคิดหาวิธีแก้แค้นผู้อื่น และในวันนี้ เธออยู่ที่นี่ อยู่กับครอบครัว
“อาถัง...คุมตัวแม็กกี้เอาไว้ และมีตำรวจอยู่ด้วย” “เอ๋ มันยังไงกันคะ” “แม็กกี้ ทำงานช่วยเหวินเฉียงหลายอย่างตั้งแต่ต้นปี รวมถึงมีชื่อของเธอเกี่ยวข้องธุรกิจฟอกเงิน ส่วน ม่านหงกับถานเซียะ คงต้องไปเที่ยวห้องขังตอนแก่หลายปี” ม่านอวี้อันรู้ว่าครอบครัวฝ่ายนั้นร้ายกาจกับเจ้าของร่างนี้ อันที่จริงเธออยากให้พวกเขาไปใช้กรรมในคุก ทว่าเมื่อได้มาอยู่ในโลกคู่ขนาน และเรียนรู้จักหลายสิ่งอย่างแท้จริง เธอกลับอยากให้อภัยทุกคน เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการมีลมหายใจโดยปราศจากคนรัก และครอบครัว “ฉันสงสารพวกเขานะคะ ต่อจากนี้คงยากจะได้อยู่กันพร้อมหน้า อีกอย่างดูเหมือนทุกคนไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริง” “ป้ากับลุงของอาหมวย รวมถึงแม็กกี้ ต่างอยากร่ำรวย และอยู่เหนือคนอื่น สุดท้ายเลยอาศัยทางลัด และมีชีวิตที่เหลือน่าเศร้าแบบนี้” แจ็คสันตอบม่านอวี้อัน ก่อนมองไปยังเคนนี่ และคุณนายหัว “แล้วเหล่ากงล่ะคะ ครอบครัวสำคัญมากแค่ไหน” ชายหนุ่มมีสีหน้าขรึมเข้ม เขาโกรธคนเหล่านั้นหรือไม่ ทั้งการที่คุณนายหัว ให้เขาแต่งงานในครั้งนั้น
มากกว่ารางวัล เมนูจากทั้งสามทีมขึ้นโต๊ะกรรมการเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่ผู้ชมอย่างที่ใครหลายคนคาดไว้ แต่สำหรับผู้เป็นกรรมการต่างคิดอีกแบบ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบจานอาหารแสนพิสดาร ดังนั้นแต่ละทีมจึงมีเมนูเรียบง่ายคือ สีแดงเป็นไข่ดองซีอิ๋ว ทีมสีเหลืองคือออมเล็ต ส่วนม่านอวี้อันทำเป็นของหวานเพียงทีมเดียวนั่นคือ เค้กไข่นุ่มฟู ผลจากรอบแรกคะแนนค่อยข้างจะก่ำกึ่งกัน อาหารของม่านอวี้อันอยู่ในลำดับที่สอง ฝ่ายเหยียนเหยานั้นเด็กๆ ชอบมาก เนื่องจากมีทั้งไก่ต้มที่นุ่ม กับไก่ทอดกรอบยิ่งกินยิ่งเพลิน อีกอย่างเมื่อพวกเขาเลือกทำข้าวมันไก่ ข้าวที่หุงเมล็ดสวย มีน้ำมันไก่ซึมอยู่ข้างใน ยิ่งกินยิ่งหยุดไม่ได้ เรื่องนี้ม่านอวี้อันรู้ผลลัพธ์แต่แรก กระนั้นคะแนนจากแฮมเบอร์เกอร์ กับส้มตำทอดของเธอก็ไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเฉือนกันไปเพียงสามแต้มเท่านั้น คือจากคะแนนเต็มสองร้อยคะแนน ทีมสีเหลืองได้ไป 39 คะแนน ทีมเหยียนเหยา 82 คะแนน ส่วนเธอได้ 79 คะแนน มาร์คเดินมาทักทายทุกทีมอย่างเป็นกันเอง พร้อมให้คำชมไม่ขาดปาก ฝ่ายหมิงซือชอบอาหารของเหยียนเหยา เอ่ยว่าไก่ต้ม ก
“แม็กกี้ ผมให้โอกาสคุณทำความดี ถ้าสารภาพเรื่องทั้งหมด ผมจะคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วกันคุณเป็นพยาน อย่าลืมว่า...หลายสิ่งที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นความผิดที่สามารถตามสืบค้นได้” “อย่ามากล่าวหาฉันมั่วๆ ฮึ คุณจะทำอะไรฉันได้ห๊า!” แม็กกี้โวยใส่แจ็คสัน และเขาใจยังเย็น ทว่าคนที่ก้าวมาสมทบคือไห่ถัง ฝ่ายนั้นไม่ใช่ผู้ชายที่จะอดทนกับความร้ายกาจของแม็กกี้ได้ “อย่าให้อั๊วต้องตบคนหน้าสวยๆ จนปากฉีก รีบคลายความลับออกมาแม็กกี้!” เมื่อได้ยินคำขู่ และความเลือดร้อนของไห่ถัง แม็กกี้จึงครั่นคร้ามใจ เธอพยายามสู้อีกฝ่ายด้วยสายตา และยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่รู้ ไม่เห็นสิ่งใด ทว่าไห่ถังแสยะยิ้มอวดฟันสีทอง พร้อมสั่งให้ลูกน้องเขาส่งกล่องไม้ใบหนึ่งให้เธอ “เห็นว่าคุณอยากได้ ของขวัญใช่ไหม!” “อะไร !?” แม็กกี้ว่าถามเสียงห้วน สีหน้าสีตาเธอ หวาดระแวงไห่ถัง กระทั่งเขากล่องไม้ยื่นให้แม็กกี้รับไว้ ซึ่งเธอไม่กล้าเปิดออกดูด้วยซ้ำ “มีคนฝากมาให้คุณ” “ใคร?” “พวกลูกหมาที่คุณสั่งให้มันทำชั่วกับหลานรักของอั๊วไง” เอ่ยจบ ไห
ปะ ป๊า เก่งที่สุด ผลคะแนนอาหารสำหรับคุณหนูยังไม่ได้ประกาศ นั่นเป็นเพราะกรรมการหลักมีข้อสงสัยเรื่องการปรุงและส่วนประกอบในอาหาร จึงขอพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง ดังนั้นรายการถัดไปจึงแจ้งว่า จะแข่งจานสุดท้ายอีกแค่จานเดียว! เสียงฮือฮาดังขึ้น เพราะมีการปรับเปลี่ยนเช่นนี้ ฝ่ายเหยียนเหยาซึ่งมั่นใจว่าตนมีคะแนนนำทั้งสองทีมอยู่ ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร หากทีมชาวต่างชาติกลับโวยลั่นสนานแข่ง บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นตามข้อตกลง เมื่อมีการประท้วง จึงมีการพักเวลาแข่งขันชั่วคราว เป็นตอนนั้นที่ม่านอวี้อัน รีบก้าวมาหาโรสกับเถ้าแก่โจว “เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังได้ไหมคุณโรส” “มาดาม ทุกคนทำเต็มที่แล้ว ไม่มีใครโทษมาดามเลย ส่วนเรื่องที่เหลือ ให้เป็นหน้าที่ของคุณแจ็ค และเฮียถังเถอะนะ...” “หมายความว่ายังไง มีเรื่องอื่นนอกจากแม่ถูกยิงใช่ไหม” ม่านอวี้อันไม่อยากคาดคั้นโรส อีกฝ่ายกำลังท้องไส้ ไม่ควรรับแรงกดดันหรือเรื่องเครียด ซึ่งตัวเธอก็เหมือนกัน โรสมองเถ้าแก่โจว เธอลำบากใจที่จะเอ่ยสิ่งต่อจากนั้น ทว่าชายวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขากล่าว







