กู๋กุ่ย (คุณลุงผี)
ภายในห้องนั่งเล่นเล็ก ๆ มีชั้นหนังสือสูง ๆ อยู่มุมหนึ่ง กลางห้องเป็นโต๊ะพับลายตัวอักษรและตัวเลข พร้อมสมุดวาดรูป ดินสอสี และของเล่นอีกหลายอย่างที่ถูกเด็กทั้งสองคนรื้อออกมาเล่น และไม่ทันได้เก็บ
นานแล้วที่แม่บอกให้รออยู่ที่นี่ ซึ่งผิงกั่วได้แต่ยืนแข็งเป็นหุ่นยนต์ขวางอยู่หน้าประตู เพราะน้องชายกำลังจะก่อเรื่อง เซียงเจียวหน้าหงิกหน้างอเมื่อเห็นพี่ชายเฝ้าประตูอยู่อย่างนั้น
“น้องเป็นผีดูดเลือด จะกัดแล้วนะ แฮร่ ๆ ถอยไปเฮียผิง”
ผิงกั่วยืนนิ่ง คำสั่งแม่บอกไว้ชัดเจนว่าไม่ให้ใครออกจากห้องนี้ หากแม่ไม่มาเรียก เขาเชื่ออย่างนั้น และจะทำตามโดยไม่บิดพลิ้ว ด้วยก่อนหน้านี้ยังจำได้ว่าเวลาแม่โมโหทำให้เขากลัว อีกอย่างตอนที่แม่โมโหมาก ๆ แล้วสลบไปนั้น ใจเขาแทบจะแหลกสลาย เขาเสียใจ เป็นทุกข์ ไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก!
“เฮียผิง ถอย!” เซียงเจียวว่าเสียงสูง ๆ ซึ่งอีกไม่นานหากยังถูกขัดใจอยู่แบบนี้เขาจะร้องให้ลั่นบ้านเลย
“นั่ง” ผิงกั่วออกคำสั่ง
“ไม่... น้องจะออกไปข้างนอก เฮียผิงเห็นเค้กนั่นไหม มัมมี้ทำสวย มันน่ากิน หอมด้วย เราไปกินกันเถอะ รับรองไม่มีใครรู้ อิ ๆ ๆ”
น้องชายบอกพร้อมกับทำตาเล็กตาน้อย คำเชิญชวนนั้นทำให้ผิงกั่วแอบกลืนน้ำลาย เขาหิวจนไม่อยากทำอะไรแล้ว เมื่อเช้ากินขนมปังไปนิดหน่อย เพราะเซียงเจียวกินยังไงก็ไม่อิ่มเขาเลยต้องแบ่งให้มากหน่อย ส่วนเขาอยากกินนมในตู้เย็น แต่เยว่จือบอกว่าแม่ไม่อนุญาต อีกทั้งก่อนหน้านี้เขาต้องอยู่เฝ้าแม่หลายชั่วโมง เพราะกลัวแม่จะหลับยาวไม่ลุกขึ้นมาอีก กระทั่งแม่ลืมตาตื่นขึ้นมาและกอดเขาไว้แน่น ๆ ผิงกั่วก็รู้ว่าแม่รักเขา และฟังคำอธิษฐานของเขาที่อยากให้แม่ตื่นขึ้นอีกครั้ง และกลับมาอยู่ด้วยกัน เป็นครอบครัวแสนอบอุ่นอย่างที่ป้าลี่เคยสอนไว้
“มัม ๆ ให้เจียวเกอรออยู่ที่นี่”
“แต่น้องหิวนี่นา อยากกินไข่เหลืองนุ่ม มันบด แล้วก็เค้กกล้วย เฮียผิงไม่หิวก็อยู่ที่นี่คนเดียวสิ น้องจะไปฟาดให้เกลี้ยงเลย” เอ่ยจบเขาก็ไม่คิดจะออกไปทางประตู ด้วยเขาเคยใช้เก้าอี้ปีนขึ้นไปเปิดหน้าต่างในห้องนั่งเล่นได้ เรื่องกล้วย ๆ แค่นี้ เขาถนัดที่สุด
“ทำไร”
“น้องเป็นนินจา!”
เซียงเจียวเอ่ย เขาว่องไว เลื่อนเก้าอี้ได้ก็ปีนขึ้นไปเกาะขอบวงกบหน้าต่าง จากนั้นจึงคลายกลอนออกด้วยมือเล็ก ๆ เขาออกแรงอยู่หลายหน กระทั่งบานหน้าต่างแง้มเปิด เขาก็เตรียมจะกระโดดลงไปยังพื้นข้างนอกบ้าน แต่เด็กน้อยกลับต้องหวีดร้องลั่นด้วยความตกใจ
“แว้ก ผะ ผะ ผี!”
เงาของบางสิ่งโผล่มาขวางเขา มันเป็นเงาร่างสูงใหญ่ ผิงกั่วที่อยู่ข้างหลังน้องชายเองก็ตกใจอยู่เหมือนกัน แต่เขาเป็นคนกล้าหาญอย่างที่สุด จึงคว้าดาบไม้ของเล่น ตั้งใจช่วยน้องชายจากผีร้าย
ทว่าไม่ทันได้ทำสิ่งใด เซียงเจียวกลับหัวเราะร่วน
“ผะ ผี... กู๋กุ่ยมาแล้ว!”
เซียงเจียวหัวเราะเอิ้กอ้าก เขาคิดถึงลุงผีมาหลายวัน ในที่สุดอีกฝ่ายก็โผล่มา และเล่นผีหลอกด้วย
“ให้น้องจุ๊บไหมลุงผี”
เด็กชายว่าแล้วก็อ้อนเขาอย่างหนัก
“ลุงตัวเหม็น...”
“ฮิ ๆ ๆ น้องยังไม่อาบน้ำ แต่หอมมาก” เซียงเจียวว่าแล้วเกาะคออีกฝ่ายแน่นราวกับเป็นลูกแมวน้อย ในขณะนั้นชายหนุ่มที่ถูกเรียกว่าลุงผีก็ปีนหน้าต่างพาเด็กชายกลับเข้ามาในห้อง ก่อนพบว่ามีอีกร่างที่เจ้าเนื้อกว่าเซียงเจียว เขากำดาบจีนของเล่นไว้มั่น พอลุงผียืนบนพื้นได้เท่านั้น ดาบในมือก็พุ่งเข้าไปฟันขาชายหนุ่มสามสี่ทีแบบรวดเร็ว
“ย่าห์ ๆ ๆ ตายซะเถอะ ผะ ผีร้าย”
คนตัวโตหัวเราะชอบใจ เด็กคนนี้โหดพอตัว และรู้จักระวังตัว ทั้งไม่ชอบหน้าเขาสักเท่าไร
ผิงกั่วไม่ยอมให้ลุงผีเข้าใกล้ ไม่เพียงแค่นั้น แต่เขายังพยายามจะเข้ามาทำร้ายชายหนุ่มด้วยดาบของเล่นในมืออีกรอบ
คนตัวโตนี้ เขาไม่ชอบใจเลย เพราะแค่เซียงเจียวหน้าเหมือนเขาก็น่ารำคาญที่สุดแล้ว ด้วยมีคนทักผิดบ่อย ๆ แต่ผู้ชายคนนี้กลับมีดวงตา ปาก กับคิ้วหนา ๆ คล้ายเขาและน้องชาย หากอยู่ใกล้กัน แม่กับเยว่จือต้องเรียกผิดคนแน่ๆ
“กู๋กุ่ย ปะ ไป!”
ผิงกั่วยกดาบขู่และทำท่าไล่คนตัวโตอย่างจริงจัง
“เฮียผิง วางดาบลง นี่เห็นไหม ลุงผีมีขนมมาฝากน้องด้วย”
ผิงกั่วส่ายหน้า จากนั้นจึงแยกเขี้ยวขู่ลุงผี ไม่เพียงแค่แยกเขี้ยว แต่เขายังส่งเสียงขู่คำรามด้วย มองดูแล้วคล้ายลูกเสือที่ดุเอาเรื่อง
ชายหนุ่มเห็นท่าทางของเด็กชาย เขาก็คิดหาทางผูกมิตรจึงล้วงเข้าไปในเสื้อ ก่อนจะได้โกโก้แบบแท่งมาหนึ่งอัน มันคือขนมแบบใหม่ล่าสุดที่กำลังโด่งดังและได้รับความนิยม ราคาเกือบสองดอลลาร์ต่อแท่งทีเดียว ซึ่งแน่นอนวาสสองแฝดไม่เคยกินมาก่อน
ผิงกั่วทำหน้าฉงน ทว่าพอเห็นมือใหญ่ ๆ แกะเปลือกขนมออก จมูกเขาก็เริ่มขยุกขยิก มันหอม มีกลิ่นหวาน ๆ ด้วย เขาไม่แน่ใจว่ามันคือสิ่งใด แต่คุ้นว่าคล้าย ๆ ผงโกโก้ที่แม่เคยชงอุ่น ๆ ให้ดื่มตอนเช้า ที่มันทั้งหวานหอมและทำให้อิ่มท้อง แต่รสชาติดังกล่าวหายไปนานแล้ว ยามนี้ที่บ้านมีก็แค่ไข่ต้ม น้ำเต้าหู้ที่เยว่จือไปขอมาจากโรงทาน แล้วก็พวกขนมไข่แข็ง ๆ ที่กินแล้วถ่ายแทบไม่ออก!
“อะไร!” เด็กชายถามเสียงห้วนอยู่สักหน่อย ตอนนี้น้ำลายมันเอ่อท่วมปาก
“โกโก้แบบแท่ง ผิงเกอ... อยากลองชิมไหม”
“มัมมี้ มะ ไม่ให้ กะ กิน” เขาตอบอย่างนั้น เพราะแม่บอกว่าห้ามรับของคนแปลกหน้า พร้อมกำชับให้ระวังให้มาก เพราะอาจถูกหลอกแล้วอุ้มขึ้นรถตู้ ซึ่งเขาจะไม่ได้กลับมาที่บ้านอีก
“แต่ตอนนี้แม่ไม่อยู่ มีแค่ลุงกับเจียวเกอเท่านั้น”
ผิงกั่วเกือบจะเข้าไปแย่งของในมือคนตัวโตที่หน้าเหมือนเขาแล้ว แต่ยั้งใจเอาไว้ทัน แม้จะหิวมาก ทว่าอีกฝ่ายคือคนแปลกหน้า เป็นกู๋กุ่ยที่แม่พยายามไล่อยู่หลายหน แต่สุดท้ายก็ปีนเข้ามานอนในบ้าน ทำตัวเหมือนแมวตัวผู้ที่รักสนุกให้แม่ต้องบ่น ต้องหาที่นอนให้เขา เพื่อซ่อนสายตาคนอื่นอยู่หลายวัน
“ไม่ต้องกลัว เอ้านี่... เจียวเกอคนเก่งจะกินให้ดู” ลุงผียื่นโกโก้แท่งหนึบอีกอันส่งให้เซียงเจียว และเด็กชายแกะอย่างรีบร้อน ก่อนกัดคำโต ๆ โดยแทบไม่ได้เคี้ยว เพราะอยากจะรีบกลืนลงคอ
“ช้า ๆ เจียวเกอ เดี๋ยวติดคอครับ” ลุงผีเตือน ทว่าไม่ทันเสียแล้ว ไม่กี่วินาทีของในมือเซียงเจียวก็หายแวบไปราวกับเล่นมายากล
ยามนั้นผิงกั่วถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ท่าทางเขาคิดไม่ตกและกำลังพ่ายแพ้ต่อความหิว
“ผะ ผมกิน ดะ ได้... ไหม”
ความสุภาพและดวงตากลมโตยามแสดงความขอร้องของเขาทำให้ลุงผีใจอ่อนยวบ อันที่จริงหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ว่างจะมาที่นี่ ทว่าสุดท้ายเมื่อแวะมาก็ทราบว่าครอบครัวเล็ก ๆ กำลังประสบปัญหาหนัก แก๊งมังกรซิ่งขู่เรียกเก็บดอกเบี้ย และถึงขั้นทำร้ายเยว่จือ เด็กสาวที่ทั้งซื่อและบริสุทธิ์
และถึงจะรู้เห็นเช่นนั้น แต่อันที่จริงเขาไม่ควรยื่นมือเข้ามาช่วย เพราะผู้หญิงอย่างม่านอวี้อันอวดดี แถมยังรวมหัวกับลุงและป้าของเธอ ร่วมกันหลอกลวงเขา จนทำให้เขาต้องนอนเป็นผักเกือบครึ่งปีในเหตุการณ์ก่อการณ์ร้ายครั้งใหญ่
พอเขาฟื้นตัวก็พบว่าตนมีแผลเป็นที่ข้างแก้มขวา แม้จะรักษาอย่างดี แต่มันก็ยังปรากฏชัดคล้ายหลุมลึกของลักยิ้ม ซึ่งชายหนุ่มไม่ชอบมันเอาเสียเลย เพราะมันทำให้เขาดูเหมือนผู้ชายที่มีความสุขอยู่ตลอด ด้วยการมีลักยิ้มแปะบนใบหน้า! ทั้งที่ความจริงมันคือสิ่งย้ำเตือนให้เขารู้ว่าตนถูกคนในครอบครัวหักหลังผ่านการจัดฉากแต่งงานแสนกระจอกที่ส่งตัวเจ้าสาวที่เขาไม่ต้องการมาให้ ทว่าสุดท้ายเขาที่ถูกมอมทั้งเหล้าและยาก็ขึ้นเตียงกับหญิงสาวแสนนุ่มนิ่มโดยที่เธอไม่ได้ขัดขืน แต่กลับยอมฝืนแสดงบทรักครั้งนั้นแบบโอนอ่อนผ่อนตาม และสุดท้ายทั้งเขาและเธอก็โหยหากันและกันราวกับตกหลุมรักแบบไม่ทันตั้งตัว
เขาสลัดสิ่งที่อยู่ในหัวทิ้ง มองเด็กชายผิงกั่วที่ยื่นมือมารับขนม มือเล็ก ๆ สั่นอยู่สักหน่อย เขาจึงอาสาช่วยแกะเปลือกขนมให้
“อร่อย!”
ผิงกั่วกัดคำเล็ก ๆ พอเขายิงฟันก็เห็นว่าโกโก้แท่งหนึบหนับติดฟันเป็นสีน้ำตาลเข้มจนดูเหมือนว่าเขาฟันหลอ
เซียงเจียวมองมาที่พี่ชาย เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายยังกินไม่หมดก็จ้องเขม็ง อยากขอแบ่งบ้าง
“น้องหิว... เฮียผิง...”
เสียงอ้อนนั้นมาพร้อมการทำตาเป็นประกายวิบวับ ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยสิ่งใด เขารอให้ผิงกั่วเป็นฝ่ายตัดสินใจ ซึ่งแน่นอนคนเป็นพี่ชาย ผิงกั่วหักโกโก้แท่งออกเป็นสองส่วนแล้วยื่นให้เซียงเจียว
“กินด้วยกัน”
ภาพตรงหน้าทำให้คนที่มองอยู่ อดคิดไม่ได้ว่า จะดีเพียงใดหากเด็กชายทั้งสองคนเป็นลูกของเขาจริง ๆ และเขาจะทำให้ฝาแฝด กินอิ่ม นอนหลับสบาย พร้อมวางแผนอนาคตที่ดีให้
เมื่อหญิงสาวสะดุ้งตื่นขึ้น รู้สึกตัวอีกทีกลับเห็นใบหน้าคนที่เธอมักคุ้น และยามนี้ มันไม่ใช่โลกในยุค 80s! “พี่ลิซ่า หนูบอกแล้วยังไงคะ เหนื่อยก็ให้คุณอีธาน พากลับไปคอนโดฯ ก่อนดีไหม ทางนี้หนูกับเด็ก ๆ จะจัดการให้เอง” คนที่เพิ่งลืมตา ยกมือทาบหน้าอก เธอกลับมายังโลกปัจจุบัน และอยู่ในร่างลิซ่า จาง! “อย่าบอกนะคะว่าฝันร้าย เดี๋ยวหนูให้คุณอีธานมาปลอบพี่ดีกว่า” มิเชล ลูกพี่ลูกน้องเธอบอกแล้วยิ้มให้ ก่อนหันไปด้านหลังเพื่อบอกพนักงานให้เรียกหาอีธาน ผู้ชายที่เป็นคนรักของลิซ่า หญิงสาวพยายามตั้งสติ ก่อนรับรู้ได้ว่า เธอย้อนเวลากลับคืนสู่โลกปัจจุบัน เป็นเหตุการณ์ก่อนที่อีธานจะขับรถพาเธอเข้าไปในอุโมงค์ที่มีน้ำขังแห่งนั้น! อีธานเดินเข้ามาหาหญิงสาว และหอมแก้มไปหนึ่งฟอดใหญ่ “เวลาไม่กี่ชั่วโมง ที่รักขายของได้ยอดเยี่ยมมาก ร้อยล้านเหรียญเชียวนะ และออเดอร์ยังเข้ามาต่อเนื่องอย่างถล่มทลาย ในอนาคตธุรกิจอาหารของประเทศนี้ต้องอยู่ในมือคุณแน่” ลิซ่ามองอีธาน เธอควรดีใจกับการประสบความสำเร็จครั้งนี้ แต่หัวใจกับโหวงเหวง ยิ่งมองใบหน้าชายหนุ่มที่แสนสมบูรณ์แบบ เธอกลับไม่ไ
ม่านอวี้อันลุกขึ้นอาบน้ำในตอนเช้ามืด ตลอดคืนเธอครั่นเนื้อครั่นตัวและหนาวสะท้านแปลก ๆ ฝ่ายแจ็คสัน เขานอนกับสองฝาแฝด อีกไม่นานคงตื่นขึ้นมาช่วยงานเธอ ก่อนที่จะออกไปวิ่งเพื่อวอร์มร่างกาย ยามนี้เธอรู้แล้วว่าเขามีค่ายมวยปล้ำ เป็นธุรกิจที่สานต่อจากพี่ชายผู้ล่วงลับ โดยมีเพื่อนสนิทที่คบหากันมาหลายปีช่วยดูแลให้ก่อนหน้านี้ “อาหมวยหน้าซีดมากเลยรู้ไหม” เขาบอก ก่อนจะก้าวมาวางหลังมือที่หน้าผากหญิงสาว “ตัวอุ่น ๆ ด้วย วันนี้ให้ฉันขายของแทนดีไหม หรือไม่ก็ปิดร้านเลย ส่วนคนงานก็จ่ายค่าจ้างรายวันตามปกติ” “ฉันไม่เป็นอะไร แค่คิดมากเรื่องคุณโรส คุณรู้ไหม เธอขายน้ำมันกัญชาด้วย ของพวกนี้มีคุณมากก็มีโทษเช่นกัน” “อาหมวย สามีโรสเป็นเถ้าแก่ร้านขายยา เขาย่อมรู้ว่าสิ่งใดดีหรือไม่ดี เธออย่าห่วงคนอื่นให้มากเลย ดูตัวเองก่อนเถิด คิดแทนเขาจนไม่สบาย” ม่านอวี้อันยิ้มให้แจ็คสัน เขากำลังดุเธอ นี่หากเป็นโลกปัจจุบัน ใครหน้าไหนก็ห้ามพูดเช่นนี้ ความคิดเธออย่างไรย่อมถูกต้องที่สุด “อีกอย่างน้ำหมักของโรส ฉันคิดว่ามันต้องมีบางสิ่งที่ปนเปื้อน หรือไม่ก็อาจส่งผลอันตรายในระยะยาว”
ความอดทนมีขีดจำกัด แจ็คสันรู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องนอนม่านอวี้อันสูงกว่าปกติ ร่างกายเขาร้อนรุ่ม ทั้งที่เมื่อครู่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ทว่าพอก้าวเข้ามาในห้องนอนหญิงสาว คนตัวโตก็รู้สึกเหมือนว่าธาตุไฟกำลังจะแตก! ซึ่งในยามนี้ ดวงตาของม่านอวี้อันที่มองมายังเรือนกายเขาไม่อาจปิดบังความในใจของเธอไว้ได้ ให้ตายเถอะ หญิงสาวเย้ายวนได้ถึงเพียงนี้ มีเสน่ห์ในแบบที่เขาไม่อาจหักห้ามใจตัวเองได้อีกต่อไป ชายหนุ่มอมยิ้ม หัวใจเขาเต้นระรัวแรง ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าทำให้เขาอยากสยบอยู่แทบเท้าเธอ ความรู้สึกเช่นนี้มันไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน “ดึกแล้วนะคะ” เธอว่า และไม่รู้ว่าจะเอามือวางไว้ที่ใด ตอนนี้ว้าวุ่นไปหมด ส่วนคนตัวโตอยู่ในชุดเสื้อผ้าสบาย ๆ เป็นกางเกงนอนผ้าแพรเนื้อบาง ข้างบนสวมเสื้อกล้าม เมื่อได้เห็นเรือนกายกำยำ เปี่ยมด้วยกล้ามแน่น ๆ ม่านอวี้อันก็กระหายน้ำ ลำคอเธอแห้งผาก พื้นที่แห่งความหวานล้ำของผู้หญิงเกิดความรู้สึกเร้นลับที่ไม่อาจเปิดเผยต่อเขา “อืม บอกตรง ๆ ให้เข้าใจ ฉันไม่ได้มาส่งอาหมวยเข้านอนหรอกนะ” เสียงทุ้ม ๆ ของเขาทำให้ดวงหน้าหญิงสาวร้อนผ่าว ดวงตาคมคู่นั
เวลาผ่านไปจนสามทุ่มครึ่ง เยว่จือซึ่งตอนแรกเกือบหิ้วท้องรอสองแฝดอย่างเช่นม่านอวี้อัน แต่ถูกคำสั่งด้วยเสียงเฉียบขาดในแบบที่เด็กสาวต้องรีบกินอย่างไม่กลัวติดคอ “ทำความสะอาดเรียบร้อยก็รีบไปพักผ่อนเสีย และถ้าฉันไม่เรียก ไม่ต้องออกมารู้ไหม” “มาดาม แล้วจะไม่กินอะไรสักคำก่อนหรือคะ” เยว่จือยังทำใจดีสู้เสือ ทว่าพอม่านอวี้อันหันหน้ามา ดวงตาเธอก็จ้องเขม็ง เด็กสาวเลยทำคอหด ก่อนยอบตัวแล้วหายไปทำหน้าที่ของตน กระทั่งสี่ทุ่มตรง เสียงหัวเราะของผิงกั่วฉุดให้ม่านอวี้อันลุกจากเก้าอี้ไปยืนรอลูกชายกับแจ็คสันตรงหน้าประตู ในตอนนั้นเธอควรจะร่าเริงไปด้วย เพราะผิงกั่วดูสนุก ฝ่ายแจ็คสันก็ร้องเพลงไปกับเขา ส่วนเซียงเจียวไม่ต้องพูดถึง เขาส่ายสะโพกด้วยท่าทางแปลก ๆ มันทะลึ่งอยู่สักหน่อย ทว่าเขาอยู่ในวัยแค่นี้ เธอจึงไม่ดุหรือปรามให้หยุดเต้น “ลุงผี! รู้ไหมคะ ตอนนี้กี่โมงกี่ยามแล้ว” ม่านอวี้อันถามเสียงเข้มอยู่สักหน่อย แม้ไม่ได้เจือความโมโห แต่ใบหน้าเธอยามนั้นชวนให้สองแฝดและแจ็คสันต้องปิดปากเงียบกันเลยทีเดียว “กี่ทุ่มแล้วคะ คุณลุงผี!” เธอถามย้ำเสียงเย็น
แบบนี้มันต้องถูกทำโทษ ม่านอวี้อันสั่งให้เยว่จือจัดโต๊ะอาหาร แต่เธอกลับไม่ยอมกินมื้อค่ำสักที ด้วยแจ็คสันและสองฝาแฝดยังไม่กลับถึงบ้าน ลี่ฮุ่ยเห็นว่าหญิงสาวเครียดอยู่สักหน่อย อันที่จริงทุกคนได้เรียนทำอาหารอย่างสนุกสนาน ระหว่างเรียนก็ชิมกันไปไม่น้อย ดังนั้นเมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ หล่อนเลยต้องเปลี่ยนแผนใหม่ “เอ่อ ๆ ตอนทุ่มครึ่งมีรายการแข่งมวยของไทสันใช่ไหม” ไทสันเป็นนักมวยเหรียญทองคนดังที่ขึ้นชกเพื่อการกุศลหาเงินช่วยผู้ด้อยโอกาสและเด็กพิเศษ โรสที่กำลังมองข้าวเหนียวมะม่วงและข้าวเหนียวขนุนอยู่ไม่ทันตอบ เธอกลืนน้ำลายไปหลายอึก ด้วยอยากชิมอีกสักหน่อย แต่เยว่จือกำลังเร่งจัดอาหารคาวและหวานลงกล่องให้ทุกคน “น้องโรส เถ้าแก่โจวคงอยากกินไก่ผัดเม็ดมะม่วงและต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนร้อน ๆ แล้วมั้ง ยังไงแบ่งใส่ถุงเรียบร้อย เราก็แยกย้ายดีไหม จะได้ไปเชียร์ไทสันต่อยมวยที่บ้านใครบ้านมัน” ลี่ฮุ่ยกล่าวพร้อมสะกิดโรสแรง ๆ จนเธอหันมาทำตาขวาง ๆ ใส่ พอเห็นว่าลี่ฮุ่ยขยิบตาส่งสัญญาณบางอย่าง โรสจึงนึกบางสิ่งออก “เยว่จือ อย่าลืมตักน้ำต้มแซ่บให้ฉันเพิ่มอีกสักหน่อย และ
“แล้วพวกอากับลุงไม่ใช่ยอดมนุษย์เหรอ” คนที่สูงที่สุด มีผมสีทองว่าแล้วอวดกล้ามโต ทำให้เซียงเจียวตาโต เด็กชายกลัวกล้ามเขาจะแตกโพละเหมือนลูกแตงโม “มะ ไม่ใช่ มีคนเก่ง กะ กว่า” ผิงกั่วยืดอกตั้ง แน่นอนสำหรับเขา แต่ก่อนอาจไม่ชอบหน้าลุงผี เพราะแม่บอกว่าอีกฝ่ายเป็นแมวตัวโต ทั้งขี้เกียจ และยังชอบแอบย่องเข้าบ้าน ทว่าพักหลังเขากลับติดลุงผีแจ ที่สำคัญลุงผีสอนเขาหลายอย่าง แถมมีของกินดี ๆ ให้กินตลอด “เฮียผิง พวกเขาเนี่ยเก่งสุดแล้ว ไม่มีใครเก่งกว่านี้หรอก” ผิงกั่วส่ายหน้าเร็วแรง ก่อนเอ่ยว่า “แต่ปะป๊าเป็นยอดมนุษย์!” ไม่รู้คำดังกล่าวหลุดออกมาจากปากผิงกั่วได้อย่างไร แต่เขาคิดอย่างนั้นจริง ๆ “โอ้ จริงด้วย คุณพ่อของพวกหนูต้องแข็งแรงและเก่งที่สุดแน่นอน” คนสวมหน้ากากตุลาการว่าแล้วก็ยิ้มให้ผิงกั่วกับเจียงเซียว หลังจากนั้นแจ็คสันจึงก้าวเข้ามารับเด็ก ๆ หลังจากทำธุระเสร็จเรียบร้อย “เอ๊ะ... คนนี้เหรอ ปะป๊าของพวกหนู” คนในกลุ่มเอ่ยถาม เซียงเจียวส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ผิงกั่วกลับยิ้มกว้าง และบอกว่า “ใช่... คนนี้เป็นยอดมนุษย์!” แจ็คสัน