LOGINตำรับลับเทพปรุงรส
“เหยื่อที่ว่า คือป้าลี่ใช่ไหมคะ” เยว่จือเริ่มเข้าใจหลายสิ่งแล้ว
ม่านอวี้อันอมยิ้ม “ใช่ คนแบบนี้แหละ สมควรเป็นเหยื่อของฉัน ป้าลี่คือโทรโข่งชั้นดี และจะส่งเสียงดังไปสามบ้านแปดบ้าน ไม่ช้าฉันก็จะมีชื่อเสียง”
ม่านอวี้อันตอบเยว่จือ แน่นอนว่าฝีมือเชฟเหรียญทองที่มีรายการอาหารเป็นของตัวเองถึงสองรายการ เหตุใดจะเนรมิตเค้กกล้วยหอมที่ตราตรึงใจผู้คนมิได้ ซึ่งนอกจากอาชีพเชฟ ม่านอวี้อันในโลกก่อนที่เธอจะจากมามีทรัพย์สินรวมแล้วเกินพันล้านเหรียญดอลลาร์ ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะกลุ่มลูกค้าที่สนับสนุนเธอเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จนมีทั้งคนรักมาก และคนที่จ้องโจมตีเธออยู่ตลอด โดยเฉพาะคู่แข่งทางการค้า แต่สุดท้ายคนที่น่ากลัวที่สุดกลับเป็นผู้ชายที่อยู่ข้างกายเธอมาหลายปี!
หญิงสาวสลัดเรื่องที่ผ่านมาทิ้ง อย่างไรเธอก็อยู่ในร่างคนอื่น ฉะนั้นต้องสู้ด้วยสิ่งที่มีตอนนี้ เธอคือ ม่านอวี้อัน คุณแม่ลูกแฝดแสนน่ารัก
แน่นอนเธอทำอาหารได้ และยังทำได้ดีเสียด้วย นั่นคือสิ่งที่เธอมาได้เรียนรู้จากยายกับแม่เลี้ยง ทว่าโลกที่หลุดเข้ามานี้ ถึงจะคล้ายโลกของเธอมากจนแยกไม่ออก แต่สิ่งสำคัญคือม่านอวี้จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงไม่ได้ มิเช่นนั้นทุกอย่างอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตโดยที่เธอไม่อาจแก้ไขสิ่งใด และปลายทางย่อมพาทุกคนสู่ความตาย!
ในตอนนั้นเธอหวนคิดถึงคำพูดของลี่ฮุ่ย
“ป้ารู้หรอกนะ คุณนายมือบางตีนบางอย่างเธอจะทำอะไรเป็น พอถูกจับได้ว่าคิดขายลูกให้แก๊งมังกรซิ่งก็ทำสำออย ล้มหมอนนอนเสื่อ”
ม่านอวี้อันปวดหัวขึ้นมาอย่างปุบปับ ก่อนจะถามเยว่จือว่า
“เยว่จือ ฉันเคยคิดจะขายเด็ก ๆ ให้แก๊งมังกรซิ่ง เพื่อหักล้างค่าหนี้ที่ยืมพวกมันมาจริง ๆ หรือ”
สิ่งที่ม่านอวี้เอ่ยเป็นเรื่องที่เด็กสาวกลัวจับใจ ทั้งไม่อยากคิดถึงมันอีก เยว่จือเม้มปากชิด เธอจำภาพดังกล่าวได้ติดตา จู่ ๆ คุณผู้หญิงก็เหมือนคนเสียสติ บอกว่าตัวเองกำลังจะจมน้ำตาย ปากก็ด่าทอผู้ชายคนหนึ่งว่าสารเลว เขาร่วมมือกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ หวังฮุบกิจการทั้งหมดไป ยิ่งกว่านั้นคนที่คอยชักนำพวกเขาก็คือบิดาของเธอเอง!
“ฆ่ามัน ลากหัวไอ้หน้าตัวเมียกับผู้หญิงสารเลวมาให้ฉัน แล้วนี่เธอเป็นเด็กใหม่หรือ ทำไมถึงโง่และเซ่อซ่าอย่างนี้ บ้าจริง เสียงเด็กร้องไห้อะไรนักหนา หาอะไรอุดปากไว้สักที ไม่ก็กรอกยาเบื่อหนูให้ตายไปเลย ฉันไม่มีสมาธิทำอะไรแล้ว”
เยว่จือตื่นตระหนก หลังจากม่านอวี้อันบอกว่าเหนื่อยและหายใจไม่ออก เธอจึงรีบไปหาเจิ้งข่าย แต่ฝ่ายนั้นไม่อยู่บ้าน พบแต่ลี่ฮุ่ยที่ปั้นหน้าหงิกใส่ เธอเลยวิ่งไปยังร้านขายยาเถ้าแก่โจว แต่ดันต้องเจอโรส ภรรยาเขาเสียก่อน กว่าจะได้พบชายเจ้าของร้านเธอก็ต้องเสียเวลาอยู่นาน และอีกฝ่ายทำได้เพียงให้ยามาสองสามแผง พร้อมบอกว่าว่างเมื่อไรจะมาช่วยดูอาการให้ เมื่อเธอกลับถึงบ้านก็เห็นว่าม่านอวี้อันจับสองแฝดขังไว้ในห้องน้ำ จากนั้นก็อาละวาดค้นข้าวของวุ่นวายไปหมด
“มือถือฉันอยู่ไหน แล้วนี่ถ่ายรายการอะไร ถึงมีบ้านเก่า ๆ โทรมแบบนี้ ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้ถ่ายที่สตูดิโอเท่านั้น อย่าให้ฉันออกนอกพื้นที่! พวกนักข่าว พวกแอนตี้ฉัน มันคอยตามรังควานอยู่”
เยว่จือไม่เข้าใจสิ่งที่ม่านอวี้อันพูด พอเธอจะเข้าไปหาเพื่อยื่นซองยาลดไข้ให้ คุณผู้หญิงก็หวีดร้องขึ้นอีก
“เธอรู้ไหม... ผู้ชายเฮงซวยกับนังน้องสาวแสนดี มันร่วมมือกันฆ่าฉัน ไป... แจ้งความ ลากคอพวกมันเข้าคุกให้หมด”
“คุณผู้หญิง... ตั้งสติก่อนนะคะ หนูกลัวไปหมดแล้ว”
“ใครคือคุณผู้หญิง แล้วกลัวฉันเรื่องอะไร เธอรู้ไหมฉันเป็นใคร นักบุญสาวสวยแห่งยุคย่ะ ฉันคือผู้หญิงที่มอบโอกาสให้คนยากจนลืมตาอ้าปากได้ ฉันชื่อ...” ในขณะที่หญิงสาวเกือบจะหลุดชื่อของตัวเองออกมา ร่างบอบบางก็หลับไปกลางอากาศเสียดื้อ ๆ
พอเช้าของอีกวัน ม่านอวี้อันก็สั่งเยว่จือให้ไปตามอาถัง บอกว่าจะขายผิงกั่วกับเซียงเจียวใช้หนี้ ตอนนั้นเยว่จือร้องไห้หนักจนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด ทั้งก้มกราบก็แล้ว แต่ม่านอวี้อันไม่สนใจ บอกคำเดียวว่าหากไม่ขายลูกกินเธอจะฆ่าตัวตาย พร้อมเด็ก ๆ พวกนี้เสีย
“หลายวันก่อน มาดามป่วยและเพ้อเหมือนคนบ้า! สุดท้ายก็นอนสลบ ไม่พูดไม่จา หนูกลัวจนนอนไม่หลับ และคิดจะพาผิงเกอกับเจียวเกอหนีออกจากบ้านหลังนี้ หนูไม่ยอมให้พวกเขาถูกแก๊งมังกรซิ่งเอาตัวไป ผิงเกอเป็นเด็กดี หัวอ่อน ส่วนเจียวเกอ... ถึงจะพูดมากไปหน่อย แต่เขาน่ารักที่สุด!”
เมื่อได้ยินเรื่องราวทั้งหมดม่านอวี้อันจึงยกมือขึ้นปิดปาก เธอกลั้นเสียงสะอื้นเอาไว้ อย่างไรก็จะไม่อ่อนแอ จากสิ่งที่เยว่จือกล่าว แสดงว่าเธอย่อมเคยมาโลกนี้มาก่อน แล้วยังแผลงฤทธิ์จนเกือบทำให้ทุกคนต้องจบชีวิต สาเหตุเป็นเพราะความแค้นต่อชายโฉดหญิงชั่ว หนำซ้ำเธอยังเกือบเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้ผู้อื่นรู้ ซึ่งสิ่งนั้นได้ส่งผลร้ายแรงตามมา
“โอ้ ฉันเกือบทำเรื่องผิดมหันต์ นับเป็นบาปครั้งใหญ่ เอาละ ตั้งแต่นี้ไปจะมีแต่ม่านอวี้อัน... หญิงหม้ายที่ถูกผู้ชายชั่วฟันแล้วทิ้ง เธอมีลูกฝาแฝดแสนน่ารัก และน้องสาว... ที่แสนดี... เยว่จือ”
ถึงม่านอวี้อันจะกล่าวเหมือนคนเพ้อ แต่เยว่จือตื้นตันใจยิ่งนักที่เธอได้เป็นน้องสาวของคุณผู้หญิง!
นั่นคือสิ่งที่เด็กสาวเคยฝันถึงตลอดมา นับแต่บิดาและมารดาอีกฝ่ายรับอุปการะเธอไว้
ต่อจากนั้น ม่านอวี้อันถูกเสียงของลี่ฮุ่ยที่ร้องโวยวายดึงกลับสู่โลกในยุค 80s
“ฮึ ตายแล้ว กล้านัก หน้าด้านที่สุด เธอขโมยสูตรอาหารของป้าใช่ไหม อาข่ายนะอาข่าย ทำไมทำตัวเหลวไหลแบบนี้ อยากให้แม่อกแตกตายหรือไง เฮ้อ เอาสมุดบันทึกของแม่มาให้คุณนายคนสวยอ่านอย่างนี้ไง มันถึงทำเค้กกล้วยหอมสูตรลับที่ฉันคิดขึ้นมาได้อย่างยากลำบาก!”
“เอ๋ ป้าลี่เขาพูดถึงเรื่องอะไรคะมาดาม”
เยว่จือถาม สีหน้าของเด็กสาวเต็มไปด้วยความฉงนและยุ่งยากใจ
และก่อนที่ชายหนุ่นจะสลบ ทั้งพยาบาล คุณหมอ และม่านอวี้อันได้ยินเขาบอกว่า “อาหมวย พี่สัญญา เมื่ออาหมวยแข็งแรงแล้ว พี่จะรีบไปทำหมัน!” คำพูดเขาทำให้ม่านอวี้อัน รับรู้ได้ว่าสามีสุดหล่อของเธอ มอบความรักให้มากแค่ไหน และเวลาผ่านไปเพียงครึ่งชั่วโมง ม่านอวี้อันก็คลอดเด็กหญิงแสนน่ารัก กระทั่งคุณหมอแจ้งข่าวด้านนอกให้ทุกคนที่รอฟังอยู่ พวกเขาก็ดีใจ โดยเฉพาะสองฝาแฝด กระนั้นเด็กๆ ก็ยังไม่เข้าใจว่า น้องผู้หญิงนั้นแตกต่างจากน้องผู้ชายอย่างไร “น้องผู้หญิง มีช้างน้อยเหมือนเถียนเถียนไหมคะ” เซียงเจียวถาม เยว่จือ ลูกของโรสคลอดออกมาเป็นเด็กชาย และเขาได้เห็นเถียนเถียนตัวอ้วน เวลาฉี่นั้นทำให้เขาต้องหัวเราะ ด้วยช้างน้อยของน้อง ปล่อยน้ำออกมาราวกับน้ำพุ มันพุ่งสูงเลยทีเดียว เยว่จือไม่ได้ตอบ เธอเอาแต่ขำหนัก ลี่ฮุ่ยจึงบอกว่า “ไม่เหมือนกันจ๊ะ น้องที่คลอดเป็นเด็กผู้หญิง ต่อไปเจียวเกอ กับผิงเกอต้องดูแลน้องให้ดีช่วยแม่กับพ่อรู้ไหม” “น้องจะมีผมยาวๆ ใช่ไหม และถักเปียหรือเปล่า” ผิงกั่วถาม “ใช่แล้ว น้องผมยาว ใส่ชุดสวย” ลี่ฮุ่ยตอบ “แสดงว่า ต้องใ
บทส่งท้าย ม่านอวี้อันได้ทำในสิ่งที่เธอปรารถนาสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว คือเมนูอาหารกลางวันให้เด็กๆ ไม่ใช่แค่โรงเรียนเครือสมาคมห้าสหาย แต่หมายถึงเด็กๆ ทั้งประเทศ นอกจากนั้นเมนูต่างๆ ที่เธอเคยทำขายยังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยที่เธอไม่ได้หวงสูตรสักนิด แจกจ่ายออกไปให้ผู้คน ใครมีความสามารถอย่างไรก็ปรับเปลี่ยนตามนั้น และที่สำคัญ เค้กไข่ของม่านอวี้อัน หลังจากได้ติดดาวหนึ่งดวงก็กลายเป็นเค้กที่มีขายอยู่ทุกมุมถนน นอกจากนั้นยังมีการส่งออกไปต่างประเทศ เป็นของขึ้นชื่อของประเทศไคหมิง ยามนี้สิ่งที่เธอเชื่อมั่นว่าจะไม่เกิดเรื่องเศร้า หรือเหตุการณ์ที่ส่งผลให้อนาคตของลูกชายฝาแฝดทั้งสองคนต้องตัดพี่ตัดน้องกันก็คือ เธอต้องอยู่ที่โลกนี้ต่อไป ทำหน้าที่ม่านอวี้อันอย่างสมบูรณ์ที่สุด ส่วน ลิซ่า จาง ก็ให้เป็นเพียงเรื่องในภาพความทรงจำที่เคยเกิดขึ้น และเธอจะระลึกถึงสิ่งต่างๆ ที่เคยได้กระทำมา รวมถึงหลายชีวิตที่มุ่งร้ายหาผลประโยชน์ต่อเธอ ดังนั้นเมื่อไม่มี ลิซ่า จาง... เธอคงไม่ต้องรับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น และไม่ต้องคิดหาวิธีแก้แค้นผู้อื่น และในวันนี้ เธออยู่ที่นี่ อยู่กับครอบครัว
“อาถัง...คุมตัวแม็กกี้เอาไว้ และมีตำรวจอยู่ด้วย” “เอ๋ มันยังไงกันคะ” “แม็กกี้ ทำงานช่วยเหวินเฉียงหลายอย่างตั้งแต่ต้นปี รวมถึงมีชื่อของเธอเกี่ยวข้องธุรกิจฟอกเงิน ส่วน ม่านหงกับถานเซียะ คงต้องไปเที่ยวห้องขังตอนแก่หลายปี” ม่านอวี้อันรู้ว่าครอบครัวฝ่ายนั้นร้ายกาจกับเจ้าของร่างนี้ อันที่จริงเธออยากให้พวกเขาไปใช้กรรมในคุก ทว่าเมื่อได้มาอยู่ในโลกคู่ขนาน และเรียนรู้จักหลายสิ่งอย่างแท้จริง เธอกลับอยากให้อภัยทุกคน เพราะสุดท้ายแล้ว สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการมีลมหายใจโดยปราศจากคนรัก และครอบครัว “ฉันสงสารพวกเขานะคะ ต่อจากนี้คงยากจะได้อยู่กันพร้อมหน้า อีกอย่างดูเหมือนทุกคนไม่เคยมีความสุขอย่างแท้จริง” “ป้ากับลุงของอาหมวย รวมถึงแม็กกี้ ต่างอยากร่ำรวย และอยู่เหนือคนอื่น สุดท้ายเลยอาศัยทางลัด และมีชีวิตที่เหลือน่าเศร้าแบบนี้” แจ็คสันตอบม่านอวี้อัน ก่อนมองไปยังเคนนี่ และคุณนายหัว “แล้วเหล่ากงล่ะคะ ครอบครัวสำคัญมากแค่ไหน” ชายหนุ่มมีสีหน้าขรึมเข้ม เขาโกรธคนเหล่านั้นหรือไม่ ทั้งการที่คุณนายหัว ให้เขาแต่งงานในครั้งนั้น
มากกว่ารางวัล เมนูจากทั้งสามทีมขึ้นโต๊ะกรรมการเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้สร้างความประหลาดใจแก่ผู้ชมอย่างที่ใครหลายคนคาดไว้ แต่สำหรับผู้เป็นกรรมการต่างคิดอีกแบบ พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าจะได้พบจานอาหารแสนพิสดาร ดังนั้นแต่ละทีมจึงมีเมนูเรียบง่ายคือ สีแดงเป็นไข่ดองซีอิ๋ว ทีมสีเหลืองคือออมเล็ต ส่วนม่านอวี้อันทำเป็นของหวานเพียงทีมเดียวนั่นคือ เค้กไข่นุ่มฟู ผลจากรอบแรกคะแนนค่อยข้างจะก่ำกึ่งกัน อาหารของม่านอวี้อันอยู่ในลำดับที่สอง ฝ่ายเหยียนเหยานั้นเด็กๆ ชอบมาก เนื่องจากมีทั้งไก่ต้มที่นุ่ม กับไก่ทอดกรอบยิ่งกินยิ่งเพลิน อีกอย่างเมื่อพวกเขาเลือกทำข้าวมันไก่ ข้าวที่หุงเมล็ดสวย มีน้ำมันไก่ซึมอยู่ข้างใน ยิ่งกินยิ่งหยุดไม่ได้ เรื่องนี้ม่านอวี้อันรู้ผลลัพธ์แต่แรก กระนั้นคะแนนจากแฮมเบอร์เกอร์ กับส้มตำทอดของเธอก็ไม่ได้ด้อยกว่าอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเฉือนกันไปเพียงสามแต้มเท่านั้น คือจากคะแนนเต็มสองร้อยคะแนน ทีมสีเหลืองได้ไป 39 คะแนน ทีมเหยียนเหยา 82 คะแนน ส่วนเธอได้ 79 คะแนน มาร์คเดินมาทักทายทุกทีมอย่างเป็นกันเอง พร้อมให้คำชมไม่ขาดปาก ฝ่ายหมิงซือชอบอาหารของเหยียนเหยา เอ่ยว่าไก่ต้ม ก
“แม็กกี้ ผมให้โอกาสคุณทำความดี ถ้าสารภาพเรื่องทั้งหมด ผมจะคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วกันคุณเป็นพยาน อย่าลืมว่า...หลายสิ่งที่คุณทำไว้ก่อนหน้านี้ เป็นความผิดที่สามารถตามสืบค้นได้” “อย่ามากล่าวหาฉันมั่วๆ ฮึ คุณจะทำอะไรฉันได้ห๊า!” แม็กกี้โวยใส่แจ็คสัน และเขาใจยังเย็น ทว่าคนที่ก้าวมาสมทบคือไห่ถัง ฝ่ายนั้นไม่ใช่ผู้ชายที่จะอดทนกับความร้ายกาจของแม็กกี้ได้ “อย่าให้อั๊วต้องตบคนหน้าสวยๆ จนปากฉีก รีบคลายความลับออกมาแม็กกี้!” เมื่อได้ยินคำขู่ และความเลือดร้อนของไห่ถัง แม็กกี้จึงครั่นคร้ามใจ เธอพยายามสู้อีกฝ่ายด้วยสายตา และยืนกระต่ายขาเดียวว่าไม่รู้ ไม่เห็นสิ่งใด ทว่าไห่ถังแสยะยิ้มอวดฟันสีทอง พร้อมสั่งให้ลูกน้องเขาส่งกล่องไม้ใบหนึ่งให้เธอ “เห็นว่าคุณอยากได้ ของขวัญใช่ไหม!” “อะไร !?” แม็กกี้ว่าถามเสียงห้วน สีหน้าสีตาเธอ หวาดระแวงไห่ถัง กระทั่งเขากล่องไม้ยื่นให้แม็กกี้รับไว้ ซึ่งเธอไม่กล้าเปิดออกดูด้วยซ้ำ “มีคนฝากมาให้คุณ” “ใคร?” “พวกลูกหมาที่คุณสั่งให้มันทำชั่วกับหลานรักของอั๊วไง” เอ่ยจบ ไห
ปะ ป๊า เก่งที่สุด ผลคะแนนอาหารสำหรับคุณหนูยังไม่ได้ประกาศ นั่นเป็นเพราะกรรมการหลักมีข้อสงสัยเรื่องการปรุงและส่วนประกอบในอาหาร จึงขอพิจารณาอย่างละเอียดอีกครั้ง ดังนั้นรายการถัดไปจึงแจ้งว่า จะแข่งจานสุดท้ายอีกแค่จานเดียว! เสียงฮือฮาดังขึ้น เพราะมีการปรับเปลี่ยนเช่นนี้ ฝ่ายเหยียนเหยาซึ่งมั่นใจว่าตนมีคะแนนนำทั้งสองทีมอยู่ ไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไร หากทีมชาวต่างชาติกลับโวยลั่นสนานแข่ง บอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นไม่เป็นตามข้อตกลง เมื่อมีการประท้วง จึงมีการพักเวลาแข่งขันชั่วคราว เป็นตอนนั้นที่ม่านอวี้อัน รีบก้าวมาหาโรสกับเถ้าแก่โจว “เล่าทุกอย่างให้ฉันฟังได้ไหมคุณโรส” “มาดาม ทุกคนทำเต็มที่แล้ว ไม่มีใครโทษมาดามเลย ส่วนเรื่องที่เหลือ ให้เป็นหน้าที่ของคุณแจ็ค และเฮียถังเถอะนะ...” “หมายความว่ายังไง มีเรื่องอื่นนอกจากแม่ถูกยิงใช่ไหม” ม่านอวี้อันไม่อยากคาดคั้นโรส อีกฝ่ายกำลังท้องไส้ ไม่ควรรับแรงกดดันหรือเรื่องเครียด ซึ่งตัวเธอก็เหมือนกัน โรสมองเถ้าแก่โจว เธอลำบากใจที่จะเอ่ยสิ่งต่อจากนั้น ทว่าชายวัยกลางคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ เขากล่าว







