"เรื่องที่คุยกันค้างไว้เมื่อวาน.." ประธานในที่ประชุมกำลังเอ่ย ..แต่จังหวะนั้นคนที่นำเครื่องดื่มเข้ามาบริการ ก็ได้เปิดประตูเข้ามาพอดี
เขาถึงกับหยุดชะงัก เมื่อเห็นใบหน้าที่เหมือนจะคุ้นตา
"ผมพูดถึงไหนแล้วนะ" ชายหนุ่มรีบดึงความสนใจกลับมาคุยเรื่องงานต่อ
"ถึงงานที่คุยค้างไว้เมื่อวานครับ" ต้นสน ผู้ช่วยที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้พูดทวนขึ้นมา
"ผมอยากจะให้พวกคุณรีบจัดการกับออเดอร์เครื่องจักรทั้งหมดที่สั่งเข้ามา ทำไมพวกคุณถึงได้ช้านัก"
"น้ำค่ะ" ขณะที่เขากำลังพูดอยู่นั้น คนึงหาวางน้ำลงตรงหน้าของท่านประธานพอดี
"เธอ.." ดอกอ้อจะพูดแรงก็ไม่ได้ "..ออกมา"
คนึงหาไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด เพราะให้เธอมาบริการน้ำเธอก็ต้องบริการให้ครบทุกคนสิ
"ผมพูดถึงไหนแล้วนะ" ชายหนุ่มหันไปถามต้นสนอีกครั้ง
"คุยเรื่องออเดอร์เครื่องจักรยังไม่เสร็จเลยครับท่าน"
"เอาเป็นว่าใครที่มีหน้าที่เกี่ยวกับออเดอร์นี้ ให้เข้าไปพบผมในห้องหลังประชุมเสร็จแล้วกัน..ผู้จัดการต่อเลยครับ" ชายหนุ่มโยนหน้าที่ให้ผู้จัดการได้พูดต่อ เพราะถ้าเขาเป็นคนพูดคงจะหลงกับคำพูดของตัวเองอีกเป็นแน่
"เวลาบริการน้ำเธอไม่ต้องพูด แค่วางแล้วก็ถอยออกมา วางให้เบาที่สุดเข้าใจไหม" ดอกอ้อเรียกคนึงหามาตำหนิด้านหลังห้องประชุม
"ค่ะ"
"ออกไปได้แล้วที่เหลือฉันจัดการเอง"
"ค่ะ" ก่อนที่จะออกมาคนึงหาก็ได้ชายสายตามองไปที่ท่านประธานใหม่อีกครั้ง เธอแค่สงสัยว่า เขามีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับแม่ของเธอไหม
แต่สายตาของเธอดันไปสบเข้ากับสายตาคมคู่นั้นพอดี หญิงสาวไม่ได้หลบ เธอยังคงมองแบบใช้ความคิด แต่กับอีกคนน่ะสิ..
"ท่านประธานครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ" ต้นสนสะกิดถามเมื่อเห็นว่าท่านประธาน ดูให้ความสนใจกับอย่างอื่นมากกว่าเรื่องที่กำลังประชุมอยู่
"ผู้จัดการพูดจบแล้วเหรอ"
"ผู้จัดการยังไม่ได้พูดเลยครับ"
"แล้วรออะไรอยู่ จะประชุมกันต่อไหม!"
"ปะ..ประชุมครับ"
นอกห้องประชุม..
"เธอมาพอดีเลย มาเอาเอกสารไปช่วยฉันหน่อยสิเร็วๆ" เกตุแก้วที่กำลังคิดอยู่ว่าจะเอาเอกสารเข้าไปในห้องประชุมได้ยังไงหมด พอเห็นคนึงหาเดินกลับมาก็เลยเรียกใช้ต่อ
"ค่ะ" หญิงสาวรีบเดินเข้าไปหอบเอกสารที่เหลืออยู่บนโต๊ะเดินตามคุณเลขามาที่ห้องประชุมอีกครั้ง
"แล้วเรื่องส่งออกไปต่างประเทศ ติดขัดอะไรไหม"
"เรื่องนั้นผมคิดว่าจะเดินทางไปเคลียร์เองครับบอส" เอเธนส์ผู้จัดการใหญ่ของบริษัทนี้
"เอกสารนี้แจกจ่ายให้ท่านละฉบับนะ" เกตุแก้วส่งเอกสารให้กับคนึงหาเพื่อไปแจก
หญิงสาวก็ทำตามโดยการเอาวางไว้ ตรงหน้าของผู้บริหารทุกท่าน พอเดินเข้าไปใกล้ท่านประธาน เธอก็ยื่นไปให้โดยการมองใบหน้าเขาแบบพินิจพิจารณา จนชายหนุ่มที่ถูกมองสังเกตได้ เขาก็เลยเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ
"หน้าผมมีอะไรติดหรือเปล่าครับ"
"อุ๊ย..ขอโทษค่ะ" หญิงสาวตกใจจนมือไปโดนแก้วน้ำที่วางไว้ก่อนหน้านั้น .. และตอนนี้น้ำก็ได้หกเลอะเทอะถูกเอกสารหลายอย่างที่อยู่ตรงหน้าของท่านประธาน
"แย่แล้วว" เกตุแก้วมองไปที่ดอกอ้อ เพื่อสั่งให้ดอกอ้อไปจัดการ
"เดี๋ยวฉันเช็ดให้ค่ะ" คนึงหารีบจับเอกสารพวกนั้นออกมาแล้วสะบัดน้ำ
"หยุดเดี๋ยวนี้!" ดอกอ้อรีบเดินเข้าไปแย่งเอกสารไว้ก่อน เพราะน้ำที่เธอสะบัดกระเด็นไปโดนหน้าของท่านประธานเข้าแบบเต็มๆ
"ขำอะไรกัน ประชุมต่อสิ!" ท่านประธานที่เนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว วันนี้เจอดีเข้าให้ ทุกคนก็เลยอดที่จะขำไม่ได้
"พนักงานใหม่เหรอ" ต้นสนหันไปพูดกับเกตุแก้วเบาๆ
"เพิ่งมาทำงานวันนี้ค่ะ"
"ทำไมรีบให้เข้ามาที่ห้องประชุมจัง"
"ขอโทษค่ะคุณต้นสน"
"ให้ออกไปก่อน"
พอจัดการทุกอย่างเสร็จ คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับในที่ประชุมก็ออกมาข้างนอก
"ทำงานยังไม่เต็มวันเลย ก็จะถูกไล่ออกแล้ว" ดอกอ้อพูดในขณะที่กำลังเดินออกมาพร้อมกับเกตุแก้ว
"แล้วนี่ลินดาไปขุดมาจากไหนเนี่ย" เกตุแก้วมองไปที่คนึงหาแล้วส่ายหน้าเบาๆ
"ขออย่าให้เราเดือดร้อนไปด้วยเลยนะคะคุณแก้ว"
"คงไม่หรอกมั้ง"
"ฉันขอโทษคุณทั้งสองด้วยนะคะ" คนึงหาเห็นทั้งสองเดินออกมาเธอก็ยกมือขึ้นไหว้เพื่อขอโทษขอโพย
"ไม่ทันแล้วล่ะ"
"ก็บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าให้ระวัง"
"เดี๋ยวฉันจะขอโทษท่านประธานเองค่ะ"
"ยังจะขอโทษท่านอีกเหรอ" ประโยคนี้ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน
"ฉันทำผิดนี่คะก็ต้องขอโทษท่านสิ"
"พวกฉันว่าเธออยากเข้าใกล้บอสเลยดีกว่า"
"ทำไมคะ"
"เธออย่ารู้เลย วันนี้คงเป็นวันแรกและวันสุดท้ายในการทำงานของเธอแล้วแหละ" ทุกคนรู้ดีว่า ท่านประธานจริงจังกับการทำงานมากแค่ไหน
มันร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ..ยังไงเธอก็จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ต้องรู้ให้ได้ว่าผู้ชายคนนี้เกี่ยวข้องยังไงกับแม่ของเธอ
ทันใดนั้นสายตางามก็มองไปที่ห้องของท่านประธาน ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ นั่นแสดงว่าทางกำลังสะดวก
น้ำตาค่อยๆ คลอออกจากเบ้า เมื่อเห็นหน้าหลานชายคนแรก นางเป็นได้ทั้งย่าและยายของเด็กคนนี้ พ่อของเด็กก็คือลูกชายที่นางเลี้ยงมา และแม่ของเด็กก็คือลูกสาวแท้ๆ ของนางเอก"ยังเจ็บอยู่ไหมลูก""ไม่เจ็บแล้วค่ะ" คนึงหารู้ซึ้งก็วันนี้ ตอนที่อยู่ในห้องคลอด ถึงแม้ว่าจะกุมมือสามีไว้ แต่ขณะที่เจ็บมากๆ ก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงแม่ ถึงแม้แม่จะคลอดแล้วทิ้งเธอไป แต่แม่ก็คงทรมานไม่ต่างกัน ในระหว่างที่อุ้มท้องและเบ่งคลอด"คุณได้ชื่อหลานหรือยังล่ะ" วิวัฒน์ถามภรรยาเก่าที่เอาแต่เช็ดน้ำตา ทั้งสองยังพูดคุยกันตลอดมา แต่จะคุยแค่เรื่องลูกและหลาน เพราะความสัมพันธ์ฉันสามีภรรยาได้ขาดสะบั้นไปแล้ว"จะให้ฉันตั้งชื่อเหรอคะ""ใช่ครับคุณแม่" คนที่ตอบก็คือพร้อมรบ "คนึงบอกว่าจะรอให้แม่เป็นคนตั้งชื่อหลานให้" ในขณะที่พูดมือหนาของสามีก็กุมมือภรรยาไว้ตลอดเวลาคณิตมองดูลูกสาวที่นอนอยู่บนเตียงแล้วส่งยิ้มให้ทั้งน้ำตา"ยายบอกว่า ชื่อคนึงหา เป็นชื่อที่แม่ตั้งไว้ให้ค่ะ" คนึงหาเอ่ยพูดกับแม่เบาๆ ..ถึงแม้ชื่อนี้มันจะดูเศร้า แต่มันก็เป็นสิ่งเดียวที่เธอรู้สึกผูกพันกับแม่มาก หญิงสาวคิดว่าแม่อาจจะตั้งคล้องจองกับชื่อของท่านที่ชื่อคณิตแต่จริงๆ แล้ว
สองวันผ่านไป.. ก่อนที่จะกลับคนึงหาพาแม่มาไหว้ยายกับพ่อ ที่จริงคณิตก็มาไหว้ตั้งแต่วันถัดมาที่มาถึงแล้ว และนางก็มาทุกวัน ถึงแม้จะคิดได้ก็สายไปแล้ว ชีวิตที่เหลืออยู่ คณิตได้แต่สาบานกับตัวเองไว้ว่าจะไม่ทำตัวเหมือนแต่ก่อน โชคดีเท่าไรแล้วที่นางยังมีโอกาสได้กลับตัว ก่อนที่ทุกอย่างมันจะสายมากไปกว่านี้"คุณพ่อกับคุณยายต้องเข้าใจแน่ค่ะ คุณแม่อย่าคิดมากนะคะ"หึ..คณิตได้แต่ขำในใจ นางอายุขนาดนี้แล้ว ยังต้องให้ลูกเป็นคนคอยสอน เกิดมานางเคยมีดีอะไรบ้าง และนางก็ไม่คิดว่าลูกสาวที่นางทิ้งไป จะเป็นคนดีและกตัญญูได้ถึงเพียงนี้ ..ขอบคุณนะคะแม่ที่เลี้ยงคนึงหามาได้ดีขนาดนี้"ไปกันค่ะแม่" ก่อนที่จะเดินออกมาคนึงหาก็ได้หันไปคุยกับยายและพ่อว่าถ้ามีโอกาสจะพาแม่มาหาพวกท่านอีกพอทุกคนเสร็จธุระก็ออกมาที่รถตู้คันหรู ซึ่งมีต้นสนทำหน้าที่เป็นคนขับ[กรุงเทพฯ] ขับรถอยู่หลายชั่วโมงก็ได้มาถึงที่วิลล่าพอมาถึงก็เห็นลูกหว้าเตรียมของรอรับแม่กับพี่สาวและพี่ชายไว้แล้ว เพราะเธอติดต่อกับคนึงหาตลอดเวลา"คิดถึงคุณแม่จังเลยค่ะ" หญิงสาวเดินเข้าไปโอบกอดแม่ไว้ คนึงหาแอบมองที่น้องกับแม่กอดกัน เพราะลูกหว้าได้รับความอบอุ่นจากแม่แบบนี้เสมอ
ดวงตางามหลบสายตาคมที่มองแบบมีเลศนัย "คุณจะสอนยังไง" ลูกหว้าไม่ใช่คนที่ใฝ่หาเรื่องพวกนี้ ก็เลยไม่รู้ว่าถ้าจะช่วยผู้ชายต้องทำยังไง"ใช้ปาก"ยิ่งได้ยินคำพูดแบบนี้เธอก็ยิ่งอายไปกันใหญ่ ก็รู้แหละว่าการใช้ปากคือเอาไอ้นั่นเข้ามาในปากของตัวเอง เหมือนกับที่เขาใช้ลิ้นให้เธอ "เออ""ถ้าไม่ ก็ไม่เป็นไรนะครับ" โลกันตร์ไม่คิดจะบังคับเธออยู่แล้ว เพราะมันเป็นอะไรที่บางคนอาจจะรับไม่ได้หญิงสาวพยักหน้าเล็กน้อยเพื่อเป็นการตอบว่าจะช่วยเขา ..เห็นเท่านั้นแหละ โลกันตร์รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไปเพื่อทำความสะอาด เพราะทำงานมาทั้งวันชายหนุ่มใช้เวลาอาบน้ำอยู่เพียงไม่นานก็ออกมา ส่วนหญิงสาวที่นั่งอยู่ปลายเตียงถึงกับหน้าแดงก่ำ เมื่อเห็นเจ้ามังกรลำใหญ่มือแกร่งเอื้อมไปจับมือเรียวของเธอให้ขึ้นมาสัมผัสกับท่อนเอ็นอุ่น เขาใช้อุ้งมือของเธอเพื่อรูดมันขึ้นลง เพื่อให้เธอชินมือก่อน"ไม่ต้องอายผมนะ เราแต่งงานกันแล้ว" เห็นเธอหน้าแดงก็อดเอ็นดูไม่ได้ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาแบบนั้น เพราะเขาเริ่มเสียวซ่านเมื่อถูกมือเรียวกำแน่นขึ้นลูกหว้าเผยอปากขึ้นเมื่อเจ้าของท่อนเอ็นขยับมันเข้ามาใกล้แบบไม่ต้องให้บอก"อ๊าา เสียวจัง" เข้าไปได้แ
"แต่ลูกหว้า.." เธอเป็นลูกผู้หญิงที่คิดจะฆ่าท่าน แถมไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของท่านอีก แล้วเธอจะกล้ากลับไปได้ยังไง"ลูกจะทิ้งตาแก่ไว้ที่บ้านแบบนั้นคนเดียวได้ลงคอเหรอ""คะ?" ลูกหว้าไม่สามารถที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้ ทำไมท่านช่างดีกับเธอนัก ทั้งที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกแท้ๆ แต่ท่านก็ยังไม่เคยทำร้ายจิตใจของเธอเลยแม้แต่นิด"กลับบ้านเรานะลูก""ค่ะ คุณพ่อ" หญิงสาวโผล่เข้าไปกอดชายสูงวัยที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่คลอด ลูกหว้าไม่อยากรู้เลยด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อแท้ๆ ของเธอ ขอแค่มีท่านคนเดียวก็พอแล้วเย็นวันเดียวกัน.. ที่คฤหาสน์เสรีวิวัฒน์ชายหนุ่มได้แต่ยืนมองคฤหาสน์หลังใหญ่ ที่ครั้งหนึ่งแม่ของเขาเคยอยู่ที่นี่ แต่ต้องหอบลูกในท้องออกจากบ้านของสามีไป เพราะความไม่รู้จักพอ ของคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ"เข้าบ้านกันค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปกุมมือของสามีแล้วพูดกับเขาเบาๆ และมันก็ทำให้โลกันตร์ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่คนร่างหนาเดินตามหญิงสาวตัวเล็กๆ ที่จูงแขนของเขาให้เดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่"ยินดีต้อนรับกลับบ้านทั้งสองคนเลยนะลูก" คนหนึ่งลูกชายในไส้ อีกคนลูกสาวที่เลี้ยงมากับมือ ไม่รู้ว่าจะเป็นความโชคดีหรือโชคร้ายกับสิ่งที่พบ
คนึงหาโทรกลับไปหารัตนาเพื่อวานให้ทำความสะอาดบ้านไว้รอ เพราะเธอจะพาแม่กลับไปส่วนพร้อมรบไม่ทิ้งให้พวกเธอกลับไปเพียงลำพังแน่ เขาก็เลยให้โลกันตร์อยู่ดูงานช่วยพ่อไปก่อนส่วนลูกหว้าอยากจะไปกับแม่และพี่สาว แต่ถ้าเธอไป สามีก็จะตามไปด้วย ลูกหว้าก็เลยจำเป็นต้องได้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยตามไปอีกทีเมื่องานบริษัทเบาลงแล้วต้นสนทำหน้าที่ขับรถตู้คันที่เคยเป็นของคณิตมาก่อน เพราะถ้าเดินทางด้วยรถส่วนตัวก็จะสะดวกหน่อยขับรถอยู่หลายชั่วโมง ก็กลับมาถึงที่หมู่บ้านในช่วงเย็นหลายคนในหมู่บ้านที่ได้ยินข่าวว่าคณิตจะกลับมาต่างก็มารอรับ และทุกคนก็พูดแบบยินดีที่เห็นคณิตกลับมาบ้านเกิด"แม่นอนห้องนี้ได้ไหมคะ"คณิตมองดูบรรยากาศเก่าๆ บ้านหลังเก่า ห้องเก่าที่นางเคยนอนกับสามีพ่อของคนึงหา นางถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่"ไม่เป็นไรนะคะแม่ คนเราไม่จำเป็นต้องดีเสมอไป แต่ขอให้คิดได้ก็พอแล้ว" คนึงหาไม่รู้จะปลอบใจแม่ยังไง กลัวว่าอาการเดิมของแม่จะกลับมา"นอนได้สิจ๊ะ แต่ก่อนแม่ก็เคยนอนที่นี่แหละ"ในระหว่างที่ทั้งสองคุยกันอยู่ในห้อง ด้านนอกก็กำลังคุยเช่นกัน..."ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะพี่ต้น" จะไม่ให้ทักก็คงไม่ได้ แต่รัตนาก็รู้แล
"คุณแม่คะ" ลูกหว้าหันมองตามสายตาของโลกันตร์ไป ก็เห็นว่าเขากำลังมองแม่ของเธออยู่"ผมไปนะ" คำพูดนี้โลกันตร์พูดกับภรรยาก่อนที่จะหันหลังให้ ทำไมเขาถึงทำไม่ได้ เขาเองไม่ใช่เหรอที่เป็นคนพูดว่ามันคงเป็นเวรกรรมที่พวกท่านทำร่วมกันมา พอคิดได้แค่นั้น ชายหนุ่มร่างสูงก็ค่อยๆ หันกลับมาอีกครั้ง และสายตานั้นก็หันมองเห็นเธอกำลังเช็ดน้ำตาอยู่พอดี"คุณร้องไห้ทำไม"ลูกหว้าไม่ได้ขอร้องให้เขาหยุด เพราะคงไม่กล้าไปขอร้องเขาอภัยให้แม่ของเธอได้ ท่านทำกับครอบครัวของเขาไว้มากมายเหลือเกินชายหนุ่มรีบเดินกลับมาหาภรรยา มือหนาเอื้อมไปโอบเธอเข้ามาแนบอกตัวเองไว้"ไม่ร้องนะครับ"ที่ลูกหว้าร้องไห้เพราะไม่คิดว่าเขาจะหันกลับมา แต่พอเห็นเขาเดินกลับมาปลอบ มันยิ่งทำให้เธอเชื่อว่าผู้ชายคนนี้แคร์เธอมาก"แม่ขอคุยกับคุณโลกันตร์หน่อยได้ไหม""เอาไว้คุยวันหลังแล้วกันครับ" โลกันตร์พูดโดยที่ไม่หันไปมองนางเลยด้วยซ้ำ"แม่จะรอนะ""ไปพักดีกว่า" โลกันตร์มองต่ำลงมาพูดกับคนที่เขากำลังกอดอยู่ โดยที่ไม่สนใจประโยคนั้นของแม่เธอเลย"ไหนคุณบอกว่าจะกลับไปบริษัทไงคะ""ไม่กลับไปแล้ว" เรื่องงานเขาไม่ได้เป็นห่วงเลย สิ่งที่เป็นห่วงก็คือเธอกับลูกลูกหว้