"มาหาพ่อทางนี้สิลูก"
ม่านฟ้าลอบถอนหายใจเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไปหาพ่อ "สวัสดีท่านรัฐมนตรีสิลูก" "สวัสดีค่ะ" หวังว่าคงไม่ใช่ท่านนะ ลูกสาวเริ่มระแวงพ่อ แต่ท่านรัฐมนตรีก็มีครอบครัวแล้ว พ่อไม่สนับสนุนให้คบคนที่มีครอบครัวนี่ หรือว่าท่านจะเปลี่ยนอุดมคติใหม่? "นี่หรือลูกสาวของคุณพิทักษ์ หน้าตาสะสวยเหมือนแม่ไม่มีผิด" "ขอบคุณท่านมากครับ ถ้าคุณปทุมวันได้ยินนี่คงยิ้มหน้าบานแน่เลย" ส่วนมากภรรยาของพิทักษ์จะเป็นแม่บ้าน นางไม่ค่อยอยากออกงานถ้าไม่จำเป็นจริงๆ "น่านฟ้ามาหาพ่อทางนี้หน่อยลูก" "?" ม่านฟ้าตกใจมากเมื่อได้ยินชื่อนี้ "ครับพ่อ" ขณะที่ลูกชายท่านรัฐมนตรีเดินเข้ามาสายตาเธอยังคงจับจ้องใบหน้านั้น ถึงแม้ว่าก่อนเริ่มงานจะเห็นเขามาแล้วครั้งหนึ่ง "น่านฟ้า ม่านฟ้า ชื่อคล้ายกันมากเลยครับ" เข้าทางพิทักษ์เลย "สวัสดีคุณพิทักษ์สิลูก" "สวัสดีครับ" "ส่วนคนนี้ก็น้องม่านฟ้าไง" "สวัสดีครับคุณม่าน" "เราเคยรู้จักกันไหมคะ" "ก็ตอนเข้างานไงครับ" ไม่ใช่ตอนนั้น..ทำไมเธอไม่คุ้นหน้าเขาแต่กลับคุ้นชื่อ "ทักทายพี่เขากลับสิลูก" "สวัสดีค่ะ" สายตาม่านฟ้ามองจ้องเข้าไปในดวงตาคมคู่นั้น เพื่อค้นหาอะไรบางอย่างในตัวผู้ชายคนนี้ "ผมมีขี้ตาเหรอครับ" "ฮ่าาา ดูเด็กเขาพูดหยอกล้อกันสิ" ผู้ใหญ่ทั้งสองเริ่มมีรอยยิ้มเมื่อเห็นว่าเด็กๆ ดูจะเข้ากันได้ดี "ผมว่าปล่อยให้เด็กๆ คุยกันดีกว่า" คิดว่าตัวเองมาถูกทางแล้ว พิทักษ์ก็เลยเริ่มเปิดทางให้ "ฉันไม่ได้หมายถึงตอนเข้างานค่ะ ฉันหมายถึงก่อนหน้านี้เราเคยรู้จักกันไหม" "ไม้นี้คุณไม่ต้องใช้กับผมหรอกครับ เพราะคุณผ่านแล้ว" น่านฟ้าหมายถึงว่าแผนที่แกล้งทำเป็นว่ารู้จักกันมาก่อนเพื่อที่จะชวนคุยต่อ เขาให้เธอผ่าน..ถ้ามีการต่อแถวกันเธอคงได้อยู่หน้าสุดแล้วเวลานี้ ในเวลาเดียวกันนั้นที่หน้างาน.. ผู้ชายคนที่เธอโทรไปขอความช่วยเหลือ และตอนนั้นเขายังไม่เลิกงานด้วยซ้ำ เพราะต้องเคลียร์งานที่ตัวเองทำค้างไว้ในหลายวันให้เสร็จ แต่พอเธอโทรไปเขาก็ทิ้งงานทุกอย่างแล้วรีบขับรถมาหา "มาทำไม" พิทักษ์มองเห็นมาแต่ไกลก็รีบออกมาขวางไว้ "สวัสดีครับคุณพ่อ" "ใครเป็นพ่อของนาย" "ผมมาหาคุณม่านครับ" "เหอะ! ลองมองเข้าไปดูในงานสิ คิดว่าลูกสาวของฉันอยากคุยกับนายงั้นเหรอ" กวินมองเข้าไปตามคำพูดของท่าน และสิ่งที่เขาเห็นคือเธอยืนคุยอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งที่ท่าทางภูมิฐานมาก "หรือว่าฉันอาจจะจำผิดคน เราอาจจะไม่เคยรู้จักกันก็ได้ค่ะ" "แต่ผมอยากรู้จักคุณนะ" "เรารู้จักกันแล้วนี่ไงคะ ฉันชื่อม่านฟ้า" "ผมอยากรู้จักคุณให้มากกว่านี้" "นายรู้ไหมว่าผู้ชายคนนั้นเป็นลูกของใคร" กวินทำแค่ยืนมองเข้าไปโดยไม่ได้พูดตอบโต้อะไรพ่อของเธอเลย "ฉันบอกเอาบุญก็ได้ว่านั่นคือลูกชายของท่านรัฐมนตรี" "แล้วไงครับ" ทีแรกคิดว่าจะไม่แล้วเชียว แต่พอคิดได้ว่าเธอเป็นคนโทรหาเขาเอง เธอก็คงต้องการความช่วยเหลือสิ "แล้วไงงั้นเหรอ คิดว่าคนแบบฉันจะเลือกผู้จัดการต๊อกต่อยหรือเลือกลูกชายรัฐมนตรีล่ะ" "......." มองออกไปก็เห็นว่าพ่อกำลังยืนคุยกับเขาอยู่ หญิงสาวรีบขอตัว "มีอะไรหรือเปล่าครับ ให้ผมช่วยไหม" น่านฟ้าก็มองตามสายตาเธอเช่นกัน "ไม่ต้องหรอกค่ะเชิญคุณร่วมงานตามสบายเลยนะคะ" พูดจบหญิงสาวรีบเดินออกไป พิทักษ์มองไปเห็นว่าลูกสาวกำลังเดินมา ก็เลยกัดฟันพูดกับกวินเบาๆ และประโยคนั้นมันก็ทำให้กวินคิดว่าตัวเขาเองต่ำต้อยมากเลยเหรอ ถึงต้องดูถูกกันขนาดนี้ "มาแล้วเหรอคะ" "ครับ" "ตามฉันมาค่ะ" "ลูกจะไปไหน" "ม่านนัดคุณกวินมาทานข้าวเย็นด้วยกันค่ะพ่อ" "แต่ลูกกำลังติดงานเลี้ยงท่านรัฐมนตรีอยู่" ประโยคนี้พิทักษ์เน้นให้อีกคนได้ยิน "พ่อก็อยู่นี่ ไม่ใช่เหรอคะ" "พ่อไม่ให้เราไปนะ" "ไม่ได้หรอกค่ะพ่อ ม่านนัดทานข้าวกับคุณกวิน และตอนนี้เขาก็มาแล้วด้วย" "ก็ให้มันไปหากินเศษอาหารแถวหลังโรงครัวโน่นสิ" "พ่อ!" หญิงสาวรีบมองไปดูหน้าผู้ชายที่ถูกพ่อดูถูก "คุณอย่าใส่ใจคำพูดของพ่อเลยนะคะ" ม่านฟ้าพูดด้วยใบหน้าที่เปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม และมันก็ได้ผลเขาลืมเรื่องที่ถูกพ่อเธอดูถูกไปได้ชั่วขณะ "ตามม่านมาค่ะ" มือเรียวเอื้อมไปจูงแขนของเขาให้เดินตามมา และจังหวะนั้นน่านฟ้าที่ยืนมองอยู่ห่างๆ ก็เห็นแล้วว่าเธอคงจะมีใครสักคนแล้ว แต่สวยขนาดนี้ไม่มีน่ะสิแปลก "พวกเขาเป็นแค่เพื่อนกันครับ คงมายืมเงินลูกสาวผมอีก" พิทักษ์ห้ามลูกสาวไม่ได้ แต่สามารถเล่นงานอีกฝ่ายหนึ่งได้ "มายืมเงินเหรอครับ" "พ่อก็บอกแล้วว่าไม่ต้องคบเพื่อนแบบนี้ แต่ลูกสาวพ่อมีเพื่อนไม่ค่อยเยอะ" "ครับ" ถ้าเป็นแบบนั้นจริงผู้ชายคนนี้คงคบไม่ได้ "ทำไมคุณมาถึงเร็วจังคะ" "ผมมาทำธุระแถวนี้พอดี" ที่ไหนได้ เหยียบแทบมิด "แล้วคุณจะไปธุระต่อไหมคะ" "ทำไมหรือครับ" "ถ้าคุณยังติดธุระอยู่ก็ไปทำธุระเถอะค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่สละเวลามาให้" "ผมเสร็จธุระแล้ว" "เสร็จธุระแล้วหรือคะ" "เมื่อกี้คุณบอกพ่อว่าจะไปทานข้าวกับผมไม่ใช่เหรอ" "เอ่อ..ค่ะ" ม่านฟ้าก็เลยพาเขามาที่ห้องอาหารของโรงแรม "ขอโต๊ะหนึ่งนะฉันพาเพื่อนมาทานข้าว" "ได้ค่ะ อ้าวคุณลูกค้าคนนั้นนี่คะ" "สวัสดีครับ "รู้จักกันเหรอ" ม่านฟ้าถามพนักงานของโรงแรม "คุณลูกค้ามาใช้บริการที่ห้องอาหารเราบ่อยค่ะ" นี่แหละเหตุผลที่เขาเข้ามาทานอาหารในเมืองบ่อยๆ บางวันก็พอได้เห็นหน้าเธอบ้าง วันไหนที่ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร ได้มาทานข้าวโรงแรมของเธอก็ยังดี "คุณชอบทานอาหารแบบไหนคะ" "คุณอยากทานอะไรก็สั่งเถอะครับ" "ถ้างั้นเดี๋ยวม่านจะแนะนำเมนูเด็ดของห้องอาหารให้นะคะ" วันนี้คำพูดคำจาของเธอไม่แข็งกระด้างเหมือนทุกวัน มันก็ทำให้เขามีกำลังใจมากขึ้นมาหน่อย "รายการอาหารทั้งหมดลงบัญชีฉันด้วยนะ" หญิงสาวสั่งพนักงานเสิร์ฟไว้ กลัวว่าตอนเช็คบิลจะมาเช็คกับเขา "ไม่เป็นไรหรอกครับคืนนี้ผมขอจ่ายเอง" "ไม่ได้ค่ะ ฉันเป็นคนชวนคุณมา" กวินก็เลยไม่พูดอะไรเดี๋ยวจะเป็นการโต้ตอบกันไปมา "ทานนี่สิคะ เมนูนี้เรียกปลาพุงแตก" พูดจบม่านฟ้าก็ตักอาหารจานนั้นวางใส่จานให้กับกวิน "ขอบคุณครับ" "ม่านฟ้า" เสียงนี้ดังขึ้นจากทางด้านหลังของม่านฟ้า "พ่อ?" ม่านฟ้าหันกลับไปมอง ส่วนกวินที่กำลังจะตักอาหารใส่ปาก เขาก็ไม่ได้หยุดเพราะมันเป็นครั้งแรกที่เธอตักส่งมาให้ "คงอร่อยมากเลยสินะ กินเข้าไปเยอะๆ ล่ะ เดี๋ยวไม่ได้กินอีก" "พ่อพูดอะไร!" "คุณน่านฟ้าอยากคุยกับลูกต่อ พ่อก็เลยพามาที่นี่" "ถ้าน้องม่านไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับคุณพ่อ" "ว่างสิเดี๋ยวน้องก็ว่างแล้ว" กวินยังคงเคี้ยวอาหารนั้นแล้วก็กลืนลงคอ ถึงแม้ว่ามันจะฝืดมากเขายังพยายามกลืนมันให้ลงไป "ได้ยินว่าอาหารมื้อนี้ลูกก็เป็นคนเลี้ยงอีกแล้วเหรอ" "พ่อคะ!" ม่านฟ้ารีบหันกลับมามองหน้าเขา "คุณอย่าสนใจพ่อเลยนะคะ" "ถ้างั้นพ่อว่าน่านฟ้าก็นั่งทานด้วยกันนี่เลยนะ" มองดูแล้วลูกสาวคงไม่ยอมลุกออกจากโต๊ะนี้ พิทักษ์ก็เลยเลื่อนเก้าอี้ มาข้างๆ ลูกสาวแล้วให้น่านฟ้านั่งตรงนั้น "ปลาพุงแตกอร่อยมากเลยครับ ผมว่าคุณลองทานบ้างสิ" กวินก็เลยใช้ช้อนที่ตัวเองตักอาหารใส่ปากเมื่อสักครู่ เอื้อมมาตักปลาจานเดียวกันนั้นวางใส่จานให้กับเธอ.."ซี๊ดดด" ความใหญ่โตค่อยๆ แทรกเข้าไปในร่องเล็กช้าๆ"คุณตอบตกลงมาก่อนสิว่าจะไม่เอาเรื่องพ่อ" กำปั้นเล็กทุบลง ลำแขนของคนร่างหนาเบาๆ แบบไม่จริงจังนัก เพราะเธอก็คล้อยตามเขาไปมากแล้ว"ผมก็บอกแล้วไงว่าจะช่วยเท่าที่ช่วยได้" มือหนาจับขาเรียวแยกออกจากกันให้กว้างก่อนที่จะเพิ่มความเร็ว เพื่อกระตุ้นให้เธอมีอารมณ์ร่วมไปด้วยกัน "ม่าน อาาา เสียวไหม"หญิงสาวไม่ได้ตอบเป็นคำพูดแต่เธอตอบด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง ถึงแม้จะเสียวแต่ก็อยากได้ยินเขาตกลงว่าจะช่วยพ่อก่อน"ซี๊ดด ยิ่งทำแบบนี้รู้ไหมว่าผมยิ่งมีอารมณ์""โรคจิต อื้ออ คุณ!" ร่างเล็กถูกยกลอยขึ้นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยจนเธอตกใจ "คุณทำอะไร""ขออุ้มหน่อย""โอ๊ย เจ็บนะ" มือเรียวตวัดโอบรัดต้นคอแกร่งไว้แน่น เขายอมรับว่าชอบท่านี้มากเพราะมันถึงใจดี ยิ่งเธอร้องเจ็บมันก็ยิ่งทำให้เลือดในกายไหลเวียนไม่ปกติ"โอ๊ย คุณกวิน ฉันไม่ได้พูดเล่นนะฉันเจ็บจริง""ผมใกล้แล้ว""โอ๊ยโอ๊ยโอ๊ย" กระแทกเข้ามาแต่ละที เหมือนกับช่องคลอดมันจะทะลุ เพราะท่านี้เธอจะหลบเขาไม่ได้เลย"ซี๊ดดดดด ตะ ตะ แตกแล้วว" ความใหญ่โตถูกกดแช่ไว้กับคนร่างเล็กที่ยังถูกอุ้มอยู่"อึกอึกอึก" เสียงสะอื้นดังออกมาจากลำคอระหง
ถามแบบนี้จะให้ตอบยังไง เราเองก็ไม่รู้ด้วยว่าอาการที่ตัวเองกำลังเป็นอยู่มันคืออะไร "ฉันไม่รู้"กวินที่โน้มตัวทับร่างของม่านฟ้าอยู่ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้น ไอ้เราก็อุตส่าห์ดีใจคิดว่าผู้หญิงหึง"แต่.."ชายหนุ่มที่ขยับกลับมานอนที่ของตัวเองหันไปมองคนข้างๆ อีกครั้งว่าเธอจะพูดอะไร"แต่ฉันไม่อยากให้คุณใกล้ผู้หญิงคนอื่น""ผมจะไม่ใกล้" เขาคิดว่าที่เธอหวงคงเพราะเขาอยู่ในฐานะสามีของเธอ พูดแค่นั้นกวินก็หันหลังให้ พร้อมกับนอนกอดอกเพื่อให้ร่างกายอบอุ่นในห้องเงียบไปครู่หนึ่งก่อนที่ม่านฟ้าจะขยับผ้าห่มไปคลุมร่างให้เขาด้วย"คุณห่มเถอะ""เดี๋ยวก็ได้หนาวตายหรอก" เมืองเหนือใครก็รู้ว่าช่วงเย็นอากาศเป็นยังไงถึงแม้ไม่เปิดแอร์ก็หนาวมากอยู่ดีผ้าห่มยาวไม่พอถ้าจะนอนห่างกัน ม่านฟ้าขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิมจนร่างของทั้งสองชิดกันทันใดนั้นกวินก็หันกลับมาแล้วดันตัวขึ้นคร่อมร่างของเธอทีแรกคิดว่าเขาจะไม่สนใจแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร จนใบหน้าคมนั้นโน้มลงมาฝังจูบที่ซอกคอโดยไม่พูดไม่จา ชายหนุ่มแค่ลองเชิงดูว่าเธอจะอนุญาตให้เขาทำมากไปกว่านี้ไหม พอเห็นว่าอีกฝ่ายนอนนิ่งเขาก็เริ่มขยับต่ำลงมา"อื้อ คุณกวิน" ขาเรียวหนีบเข้าหากันเมื
"ขอเปลี่ยนที่นั่งนิดนะ" ยังไม่ทันได้ขึ้นนั่งประจำที่คนขับกวินก็เดินวนกลับมาใหม่อีกรอบลินินที่เพิ่งจะขึ้นนั่งข้างคนขับรีบเปิดประตูลงจากรถ ที่จริงลินินก็รู้สึกแปลกๆ อยู่เหมือนกัน ถ้าไม่รู้ว่าทั้งสองคนเป็นอะไรกันก็ว่าไปอย่าง แต่นี่รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นสามีภรรยากันมือหนาเอื้อมไปเปิดประตูให้คนที่นั่งอยู่ด้านหลังลงมา"ฉันจะนั่งตรงนี้" ทีแรกคิดว่าจะไม่สนใจกันแล้ว แต่คนมันงอนไปแล้วนี่จะให้หายง่ายๆ ได้ยังไง "อุ๊ยคุณจะทำอะไร" ม่านฟ้าตกใจแทนที่เขาจะบอกให้เธอลงอีกครั้ง แต่เขาดันอุ้ม พออุ้มม่านฟ้าวางไว้เบาะข้างคนขับได้ มือหนาก็เอื้อมไปดึงเซฟตี้เบลท์ล็อกให้กับเธอกวินค่อยๆ เลื่อนรถออกจากสถานีตำรวจ ม่านฟ้ามองเข้าไปด้านในอดเป็นห่วงพ่อไม่ได้ ท่านก็อายุเยอะแล้ว จะปล่อยให้อยู่ในห้องขังแบบนั้นได้ยังไงขับรถอยู่ร่วมชั่วโมงได้ก็มาถึงบ้านพักในโรงงาน.."ขอบคุณนะคะ" ลินินกล่าวขอบคุณก่อนที่จะลงจากรถแต่พอเพธาเห็นว่ากวินมาก็รีบออกมาหา "เข้ามาข้างในก่อนสิ"กวินหันมองไปดูม่านฟ้าที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่มองอยากรู้ว่าเธอจะลงไปด้วยไหม"คุณไปเถอะฉันจะรออยู่นี่""เข้ามาข้างในก่อนสิครับ" เพธาเห็นว่าม่านฟ้าไม่ยอมลงจากรถก็ก
"คุณตำรวจมาขอพบพ่อฉันทำไมคะ" ทีแรกยังคิดเข้าข้างตัวเองว่าอาจจะเป็นพี่ชาย แต่พอลงมาเห็นตำรวจแล้วไม่มีสารวัตรมหานครพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเธอมาด้วยเลย"ทางเราอยากรู้ว่าตอนนี้คุณพิทักษ์อยู่ที่ไหน คุณเป็นลูกสาวพอรู้ไหม""พ่ออาจจะอยู่บ้านกับแม่ค่ะ""ไม่ได้อยู่ครับ""คุณตำรวจไปบ้านฉันมาแล้วเหรอคะ""อีกชุดหนึ่งไปที่นั่นแล้วครับ""ฉันเป็นลูกสาวอยากทราบว่าพวกคุณมาขอพบพ่อทำไม""เรื่องหุ้นครับ""คะ?"ยังไม่ทันได้อธิบายมากกว่านี้ก็มีสายโทรเข้ามาหาตำรวจท่านที่มาขอพบ"เจอแล้ว" ตำรวจคนนั้นพูดกับเพื่อนที่มาด้วยกันแล้วก็รีบเดินออกไปเลย"เดี๋ยวก่อนสิคะคุณตำรวจ" ม่านฟ้าเดินตามไปในขณะที่เดินเธอก็กดโทรหามหานครอยากรู้ว่าพี่ชายรู้เรื่องนี้ด้วยไหมแต่ทางนั้นก็ไม่ได้รับสาย หรือว่าจะเป็นฝีมือของเขา เธอนึกขึ้นได้เมื่อวานนี้ที่เขาบอกว่าวิธีของเขาเธออาจจะไม่ชอบก็ได้ ม่านฟ้ารีบโทรไปเบอร์ที่ได้มาจากคุณปู่ถ้าไม่เพราะเรื่องด่วนเธอคงไม่โทรมา ขณะที่รอปลายสายรับหัวใจเธอเต้นแรงมากกลัวว่าจะเป็นเสียงผู้หญิงคนเดิมที่รับสาย>>{"เดี๋ยวผมโทรกลับ"} พอรู้ว่าเป็นฝ่ายของเธอ กวินก็รีบรับ แต่ตอนนี้เขายังติดธุระด่วนอยู่ {"เดี๋ยวก่
"แค่ตอบมาว่าคุณได้เซ็นอะไรให้พ่อของคุณไหม""เซ็นค่ะ ทำไมคะ" ม่านฟ้าเริ่มใจไม่ดีต้องเกี่ยวกับลายเซ็นที่เธอเซ็นให้พ่อเมื่อเช้านี้แน่เลย>>{"ลายเซ็นนั้นเป็นของเธอจริง..เดี๋ยวผมติดต่อกลับไป"} พูดแค่นี้กวินก็วางสาย"พ่อทำอะไรหรือคะ" สายตาที่สำนึกผิดจ้องมองดวงตาคมคู่นั้น เธอสร้างปัญหาให้เขาใช่ไหม "ไม่เป็นไรไม่ต้องคิดมาก เดี๋ยวผมจัดการเอง""คุณกวินคุณจะไม่ให้ฉันคิดมากได้ยังไง คุณเล่นถามแบบนั้นแล้วก็ไม่อธิบายอะไร" ม่านฟ้ารีบเดินตามเข้ามาในห้อง"หุ้นทั้งหมดมันเป็นชื่อของคุณ""อะไรนะคะ?""เมื่อวานนี้ มันถูกโอนลอยเป็นชื่อของคุณไว้แล้ว""แล้วไงต่อคะ""ตอนนี้มันกลับไปเป็นชื่อของพ่อคุณ แล้วท่านก็กำลังเอาหุ้นไปเทรด""คะ?""ม่าน" กวินเข้าไปรับร่างของเธอที่ทรุดลงเกือบไม่ทัน "คุณเป็นอะไรไหม""ทำไมพ่อถึงทำแต่เรื่อง""ก็บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมาก""พ่อเอาไปเทรดแค่ครึ่งหนึ่งที่เหลืออยู่ใช่ไหมคะ""เปล่า""อะไรคือเปล่า""ท่านเอาหุ้นทั้งหมดไปเทรด""แต่หุ้นส่วนของพ่อเหลือแค่ครึ่งเดียวไม่ใช่เหรอคะ""เปล่าหรอกหุ้นทั้งหมดยังคงอยู่เหมือนเดิม""มันต้องเป็นของคุณครึ่งหนึ่งสิเพราะคุณเป็นผู้ร่วมหุ้น""ผมใส่เป็นชื่อคุ
ลิ้นหนาเลียผ่านร่องกลางของคนที่พยายามจะดันศีรษะเขาออก แต่ก็พอได้ชิมดู เห็นว่าเธอไม่ยอมเขาก็เลยหยุดอยู่แค่นั้น"ไม่ร้อนแล้วเหรอ" อาการเมื่อสักครู่ของเธอเหมือนจะหายไปแล้ว"คุณลุกขึ้นมาเลยนะ" ทำงานมาทั้งวันใครจะกล้าให้เขาทำแบบนั้นให้ล่ะ สงสัยว่าเขาจะจับโป๊ะเธอได้ไม่รู้จะอายอันไหนก่อนดีกวินทำตามอย่างว่าง่ายค่อยๆ ดันกายลุกขึ้น พอยืนขึ้นได้คนร่างสูงก็โน้มริมฝีปากลงมาจูบซอกคอนิ้วแกร่งเขี่ยยอดเม็ดที่ดันพ้นเสื้อชั้นในออกมาเบาๆ เพื่อกระตุ้นอารมณ์อีกฝ่าย แต่เพียงไม่นานเขาก็ขยับต่ำลงไปลูบคำเนินน้องสาวที่ตอนนี้มีแค่กางเกงชั้นในตัวบางปิดอยู่แต่ก็ไม่มิด เพราะเขาขยับมันออกมาเกือบครึ่งทางแล้ว"อือ" เขาไม่ได้หยุดอยู่แค่การลูบคลำนิ้วร้ายกาจนั้นยังแทรกเข้ามาในร่อง ขาเรียวค่อยๆ แยกออกจากกันให้เขาทำสิ่งนั้นได้สะดวกชายหนุ่มเริ่มจะทนไม่ไหว อีกมือเอื้อมมารูดซิปแล้วก็ล้วงเอาสิ่งที่มันแข็งดันกางเกงอยู่นั้นออกมา"มะ ไม่นะคะ" คนตัวเล็กขยับสะโพกออกก่อนที่เขาจะสอดใส่"ทำไม" ฟังจากน้ำเสียงของคนที่ถามแล้วเขาคงต้องการเธอมาก และนี่แหละมันคือสิ่งที่เธอต้องการ"ฉันอยากคุยกับคุณเรื่องร่วมหุ้น" ที่จริงวันนี้เธอพยายามหาห
"ถึงแม้โรงแรมนี้จะไม่ได้เป็นชื่อของม่านฟ้า แต่อีกหน่อยก็คงเป็นของเธอทำไมต้องรีบโอนด้วยล่ะ""ถ้างั้นผมก็ไม่สะดวกใจที่จะร่วมลงทุนกับคุณ""เดี๋ยวก่อนสิกวิน.. คุณกวิน" เผลอเรียกแบบจิกหัวพอเขาหันกลับมาก็รีบใช้คำพูดใหม่"เอาไงดีล่ะครับ""ให้ผ่านวิกฤตตอนนี้ไปก่อน เราค่อยคุยกันเรื่องนั้น""ได้ครับถ้างั้นคุณผ่านวิกฤตไปแล้วค่อยมาคุยกับผม""ถ้าคุณไม่เซ็นแล้วผมจะผ่านได้ยังไง""ก็ถึงว่านี่ไงครับ เราก็ต้องวนกลับมาพูดเรื่องเดิม""ผมยังมีเรื่องต้องทำอีกยังโอนให้ลูกสาวไม่ได้" เพราะถ้าโอนให้ม่านฟ้าทุกอย่างที่คิดไว้คือจบ ม่านฟ้าคงไม่ยอมให้พ่อนำไปต่อยอดอีกแน่"ถ้างั้นก็รอให้คุณพร้อมโอน แล้วค่อยมาคุยกับผม""ไอ้นี่!" พิทักษ์กัดฟันพูดเบาๆ แต่กวินก็พออ่านปากออก"คุณยังมีเวลาคิดอีกจนถึงเย็นวันนี้ แล้วค่อยให้คนขึ้นไปตามผมบนห้องแล้วกัน""ถึงเย็นมันก็ไม่ทันน่ะสิครับ""ไหนบอกสามวัน" "ผมต้องรีบแจ้งทางธนาคารไปให้เขารับรู้ในวันนี้""มันก็คงแล้วแต่คุณแล้วล่ะ ว่าคุณจะยอมทำตามที่ผมต้องการไหม""ก็ได้ เรื่องนั้นผมจะคุยกับลูกเอง""ครับ ผมจะรอให้คุณคุยกับเธอเสร็จก่อน""นี่จะเอายังไง" "เมื่อกี้คุณขึ้นเสียงใส่ผมหรือครับ""
"โอ๊ย" นิ้วที่กำลังกดรหัสมัวแต่มองเขาก็เลยกดพลาดจนทำให้เล็บฉีก "......" จังหวะนั้นม่านฟ้าอดมองไปดูคนที่เพิ่งเดินเข้าลิฟต์ไม่ได้ ว่าเขามีความเป็นห่วงเธอไหมเพราะเสียงร้องโอ๊ยไม่ได้เบาเลย แต่พอเข้าไปในลิฟต์เขาก็กดลงชั้นล่างโดยไม่ได้หันมองมาเขาไม่เป็นห่วงเราแล้วจริงๆ เหรอ ทำกับเขาขนาดนี้มันก็ไม่แปลกหรอก คิดถึงวันนั้นวันที่พ่อใช้ไม้ฟาดท้ายทอยของเขาจนแตก แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะช่วยอะไรได้เลย แถมพ่อยังไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา มันคงถึงเวลาที่ต้องชดใช้ให้เขาแล้วจริงๆหน้าห้องอาหาร.."สวัสดีค่ะคุณกวิน คุณกวินจะมาทานอาหารเหรอคะ" พนักงานในโรงแรมนี้ถูกเรียกมาอบรมกันเกือบทุกแผนกแล้ว ว่าถ้าเห็นกวินผู้ร่วมหุ้นคนใหม่ไปแผนกไหนต้องต้อนรับให้เป็นอย่างดี "ใช่""เชิญคุณกวินทางนี้เลยค่ะ"ชายหนุ่มเดินตามพนักงานบริการในห้องอาหารมาจนถึงโต๊ะที่พวกเขาจัดเตรียมไว้ให้"เรื่องอาหารเดี๋ยวทางเราจะจัดออกมาให้นะคะ""ไม่ถามก่อนเหรอว่าผมอยากทานอะไร""เอ่อ..คุณกวินต้องการทานอะไรเป็นพิเศษไหมคะ""เอาเท่าที่จัดเตรียมมานั่นแหละ""ค่ะ"เขาทานอยู่แค่ไม่กี่คำก็เรียกพนักงานมาเช็คบิล"อาหารไม่อร่อยเหรอคะ" บางอย่างเขาไม่ได้แตะเลย
แกร็ก.. ไหนบอกว่ารหัสนี้มันเดาง่ายไงทำไมเขาถึงตั้งมันล่ะ ..คงไม่ใช่แบบที่คิดหรอกมั้ง เธอคิดว่าที่เขาตั้งแบบนี้เพื่อให้เธอเปิดเข้ามาหาได้ง่ายหน่อยไหนๆ ก็เปิดประตูได้แล้ว ม่านฟ้าก็เลยเข้าไปในห้องนั้น".......กรี๊ดดด" หญิงสาวที่เปิดประตูเข้ามารีบเอามือปิดตาแล้วก็หันหน้าไปทางอื่น "ทำไมคุณไม่ใส่ผ้า"ชายหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จกำลังยืนเช็ดผมให้แห้ง มองไปทางคนตัวเล็กแต่เขาก็ไม่ได้มีท่าทีตกใจเหมือนเธอ"ใส่ผ้าหรือยัง" ม่านฟ้าค่อยๆ หันหลังกลับไปมองแต่พอเห็นว่าเขายังคงเช็ดผมแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวเธอก็รีบหันกลับมาทางเดิม "รีบใส่ผ้าหน่อยสิ ฉันมีธุระจะคุยด้วย""คุณเข้าห้องแขกแบบนี้ประจำเลยเหรอ""หมายความว่ายังไง""คุณก็รู้ว่าห้องนี้ผมเปิดใช้แล้ว""ฉันอยากคุยธุระกับคุณ" หญิงสาวยังคงยืนหันหลังคุยเพราะไม่กล้าหันกลับไปมอง"คุยธุระในห้องพักแขกเนี่ยนะ""คุณว่างออกไปคุยกับฉันข้างนอกไหมล่ะ""ไม่ว่าง""นี่คุณกวิน" ม่านฟ้าหันกลับไปมอง และหายใจโล่งขึ้นเมื่อเห็นว่าเขาเอาผ้าเช็ดตัวผืนนั้นพันรอบท่อนล่างไว้แล้ว "ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ เรื่องร่วมหุ้นเป็นแบบที่พ่อพูดไหม""คุณไม่เชื่อว่าผมจะมีเงินมาร่วม