"ลองชิมดูสิครับ ผมว่าอร่อยดีนะ"
"แก!" พิทักษ์กัดปากกัดฟันพูดพร้อมกับจ้องหน้าของกวิน เพราะที่เขาทำแบบนี้เหมือนหักหน้าตัวเอง "ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวกล่าวขอบคุณก่อนที่จะใช้ช้อนอีกอันที่วางอยู่ชามของตัวเองตักปลาชิ้นนั้นขึ้นมา.. เพล้ง! พิทักษ์เห็นว่าลูกสาวกำลังจะตักอาหารนั้นใส่ปาก ก็รีบปัดช้อนออกไปจนช้อนหล่นลงพื้นเสียงดัง "คุณพ่อทำอะไร" "ลูกไม่เห็นหรือไงว่ามันใช้ช้อนของตัวเองตักมา" ม่านฟ้าโมโหให้พ่อมาก ดันเก้าอี้ที่นั่งอยู่ลุกขึ้นแล้วก็เดินออกไป เพราะเธอไม่อยากทำกิริยาไม่ดีกับพ่อต่อหน้าคนอื่น "น่านฟ้าตามน้องไปสิลูก เดี๋ยวทางนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพ่อเอง" "ผมหรือครับ" น่านฟ้าปรายตามองมาดูผู้ชายอีกคนเล็กน้อย แต่เขาก็ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม "ไปเถอะลูก" "ครับ" จังหวะนั้นกวินกำลังจะลุกขึ้น แต่ถูกพิทักษ์จับไหล่กดลงนั่งที่เดิม "อยากกินมากไม่ใช่เหรอ กินเข้าไป!" ว่าแล้วพิทักษ์ก็หยิบอาหารจานนั้นขึ้นมาแล้วก็.. "ว้ายยยย" ลูกค้าที่นั่งอยู่ในห้องอาหารต่างก็ตกใจ หลายคนก็รู้อยู่ว่าพิทักษ์คือเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ "อย่ามาเหยียบที่นี่อีก แบบมึงกูไม่ต้อนรับ.." ประโยคนี้พิทักษ์พูดให้กวินได้ยินแค่คนเดียว แล้วก็หันไปสั่งพนักงานให้หาน้ำมาล้างเสนียดจัญไรออกจากห้องอาหารของตัวเอง กวินที่ตอนนี้ปลาพุงแตกเลอะตั้งแต่ศีรษะจนถึงปลายเท้า ค่อยๆ ดันตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ที่นั่งอยู่ "อาหารบนโต๊ะนี้ราคาเท่าไรครับ" ลุกขึ้นได้เขาก็หันไปถามราคาของอาหาร "คุณม่านฟ้าให้ลงบัญชีเธอไว้แล้วค่ะ" "ผมถามว่าอาหารมื้อนี้ราคาเท่าไร" เขายังคงถามแบบใจเย็น "9,500 บาทค่ะ" ราคานี้รวมกับอาหารอีกหลายๆ อย่างแล้ว ชายหนุ่มล้วงเอาเงินสดออกมาจากกระเป๋าหนึ่งหมื่นบาทส่งให้กับพนักงาน "รอสักครู่นะคะ" ได้เงินแล้วพนักงานก็รีบไปเช็คบิลให้ เขายังคงยืนรอเอาเงินทอนที่เหลืออยู่ พอได้ใบเสร็จพร้อมเงินทอนแล้วกวินก็ออกจากห้องอาหารนั้นไป เช้าวันต่อมา.. "หึหึ ฮ่าาา" พิทักษ์ที่นั่งมองกล้องวงจรปิดถึงกับขำก๊าก เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายมีสภาพยังไง ที่เปิดกล้องวงจรปิดเพราะอยากดูผลงานของตัวเอง ว่ามันยังจะกล้ากลับมาที่นี่อีกไหม ส่วนม่านฟ้าตอนนี้ก็ยังทำงานปกติ เพราะเมื่อวานลูกค้าในโรงแรมเยอะมาก เธอต้องเคลียร์อะไรหลายๆ อย่าง และต้องเตรียมรับมือเผื่อว่าครั้งหน้าลูกค้าจะมาพร้อมกันแบบนี้อีก เที่ยงกว่าวันเดียวกันนั้นที่โรงงานอิทธิพลค้าไม้.. "ผมมองผิดไปหรือเปล่า..นี่มันก็เที่ยงกว่าแล้วคุณกวินยังไม่ออกไปทานข้าวที่โรงแรมอีกหรือครับ" เพธาแค่พูดหยอกล้อกวิน เพราะวันๆ หอบท้องไปทานข้าวที่โรงแรมบ่อยเหลือเกิน แต่กวินไม่ได้ตอบ เขายังคงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ "มีอะไรหรือเปล่า" เพธาดูผิดสังเกตเพราะกวินเป็นคนชอบพูดชอบเจรจา "ผมขอทำงานครับ" "ขอโทษครับที่มากวน" เพธาถึงกับต้องถอยออกมาก่อน "เป็นอะไรของเขาวะ วัยทองหรือเปล่าเนี่ย" ในเวลาเดียวกันที่โรงแรม.. "ฉันจะสร้างโกดัง เอาไว้เก็บของสำรองเผื่อของในโรงแรมไม่พอจะได้หยิบจับจากที่นี่ไปเสริม" ม่านฟ้าพาช่างมาดูสถานที่หลังโรงแรมเพื่อจะสร้างเป็นโกดังเล็กๆ ขึ้นมาไว้เผื่อเก็บของอีก เพราะถ้าซื้อของมาใหม่จะได้มีที่เก็บ "แบบนี้แหละพ่อถึงอยากได้ใครสักคนมาช่วยน้องบริหารโรงแรม ถ้าสักวันหนึ่งไม่มีพ่อ น้องเป็นผู้หญิงตัวคนเดียวด้วย" "แต่ดูเหมือนว่าคุณม่านฟ้าจะมีคนพร้อมดูแลเธอแล้วนะครับ" เพราะน่านฟ้าเห็นสายตาที่ผู้ชายคนนั้นมองเธอ มันมีแต่ความห่วงใยและรักใคร่ในตัวผู้หญิงคนนี้ "ถ้าหมายถึงไอ้หมอนั่นอย่าไปพูดถึงมันเลย ขนาดตัวมันยังจะเอาไม่รอด แล้วจะเอาปัญญาไหนมาดูแลน้องได้ ถ้าเราพร้อมเมื่อไรให้ผู้ใหญ่ยกขันหมากมาขอได้เลยพ่อยินดียกลูกสาวให้" พิทักษ์นัดน่านฟ้ามาหาตอนเช้า เพราะรู้ว่าลูกสาวจะคุยกับช่างเรื่องก่อสร้าง อยากให้น่านฟ้ามาเห็นว่าลูกสาวตัวเองเอางานเอาการ เหมาะสำหรับเป็นคู่ชีวิต หลายวันผ่านไป.. ตั้งแต่วันนั้นกวินก็ไม่เข้าโรงแรมอีกเลย และเธอก็ไม่ได้โทรติดต่อมาขอความช่วยเหลือ "เป็นอะไรของเขา อกหักหรือเปล่า" เพธามองตามหลังกวินที่เดินออกจากบ้านในเช้าวันนี้ "มีอะไรคะ" วันพุธเห็นสามีพูดพึมพำคนเดียว "ก็คุณกวินน่ะสิ หลายวันแล้วนะที่ไม่ได้ไปทานข้าวโรงแรม" "ตกลงคุณอยากให้คุณกวินไปทานข้าวไกลๆ หรือไม่ไปทานกันแน่คะ" วันพุธเคยได้ยินสามีพูดให้ฟังบ้าง "ก็มันดูแปลกนี่" ออกจากบ้านกวินก็ตรงมาโรงงาน เพราะบ้านพักอยู่ในโรงงาน.. ก๊อก ก๊อก "กาแฟค่ะ" "วางไว้" "สวัสดีค่ะ ฉันเพิ่งมาทำงานวันนี้วันแรก" เห็นว่าผู้จัดการไม่เงยหน้าขึ้นมองก็เลยต้องแนะนำตัว "ออกไปรับงานกับเลขาด้านนอก" "เอ่อ..ค่ะ" ทีแรกคิดว่าความสวยของตัวเองจะทำให้ผู้จัดการตะลึงได้ แต่พอเขากรอกตามองขึ้นมาดูคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า เขาก็ไล่ให้ออกไปรับงานกับเลขาหน้าห้อง "ผู้จัดการว่ายังไงบ้างเหรอ" ดารินที่เป็นเลขาหน้าห้องถามนักศึกษาฝึกงานที่ทำหน้าที่ผู้ช่วยเลขาคนใหม่ "ผู้จัดการบอกว่าให้ออกมารับงานกับพี่ได้เลยค่ะ" "ลินินต้องพยายามเอาใจผู้จัดการให้มากนะ" "รู้แล้วน่า แต่ว่าขอถามอะไรหน่อยได้ไหม "ถามอะไร" "ผู้จัดการชอบผู้หญิงหรือเปล่า" "พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน ยังไม่เคยเห็นผู้จัดการมีแฟน" "พี่ไม่สงสัยเหรอผู้จัดการก็ไม่ใช่อายุน้อยๆ แล้วนะ ถ้าไม่มีผู้หญิงข้างกายเลยเขาคงไม่ชอบผู้หญิงล่ะมั้ง" "นั่นแหละมันยิ่งเป็นผลดีต่อเรา ระหว่างที่ฝึกงานอยู่ ทำยังไงก็ได้ให้ผู้จัดการมองเราบ้างเข้าใจไหม" ดารินและลินินเป็นพี่น้องต่างมารดา พอน้องสาวถึงช่วงฝึกงานดารินก็รีบยัดน้องสาวเข้ามาเป็นผู้ช่วยของตัวเอง "คุณดารินเข้ามาหาผมหน่อย" เสียงดังมาจากเครื่องรับโทรศัพท์ที่ตั้งอยู่โต๊ะเลขาหน้าห้อง ก๊อก ก๊อก "ผู้จัดการมีอะไรคะ" กวินเงยหน้าขึ้นมองทันทีเพราะมันไม่ใช่เสียงคนที่เขาเรียก "ผมจำได้ว่าผมบอกชื่อไปด้วยนะ" "ขอโทษค่ะ" ลินินรีบออกจากห้องมาอย่างไว พอเห็นน้องออกมาดารินก็รีบเข้าไปในห้อง "คุณไม่อยากทำงานเลขาให้ผมแล้วเหรอ" "อยากทำค่ะ ขอโทษด้วยนะคะเกิดเหตุสุดวิสัยนิดหน่อยค่ะ" "อย่าให้เกิดบ่อยแล้วกัน ลูกค้าจากต่างประเทศจะมาถึงเมื่อไร" "อีกสองวันค่ะ ทางเราโทรไปจองห้องที่โรงแรมไว้ให้แล้วค่ะ" กวินมีความรู้สึกแปลกๆ เมื่อได้ยินคำว่าโรงแรม เพราะลูกค้าเคยมาใช้บริการโรงแรมของนายพิทักษ์ "อย่าให้ขาดตกบกพร่องแล้วกัน แล้วด็อกเตอร์จะมาด้วยไหม" เพราะลูกค้าชุดนี้ดอกเตอร์พันไมล์เป็นคนหามา "ไม่ทราบเหมือนกันค่ะเดี๋ยวดารินจะถามคุณเพธาให้ค่ะ" "ไม่เป็นไรเดี๋ยวผมโทรไปถามเอง" เลขาออกจากห้องกวินก็โทรไลน์ไปถามด็อกเตอร์พันไมล์ เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ยังอยู่ในประเทศหรือกลับต่างประเทศไปแล้ว ที่กวินติดต่อพันไมล์เพราะถ้าต้องเทคแคร์ลูกค้าที่โรงแรมเขาอยากให้พันไมล์รับหน้าที่นี้ แต่มันไม่ได้เป็นไปตามที่คิดเลยเพราะทางนั้นไม่ว่าง ถ้าจะไปพูดกับเพธา..คนนั้นเดี๋ยวก็สงสัยอีกว่าทำไมถึงไม่อยากไปโรงแรม "เดี๋ยวเรื่องต้อนรับลูกค้าที่โรงแรมผมจะจัดการเอง รู้หรือยังว่าลูกค้าจะเดินทางมากันกี่คน" "เป็นลูกค้าชุดเดิมค่ะ"ยั่วรักสามีนิตินัย กวิน♡ม่านฟ้า ตอนพิเศษ"จริงเหรอคะ""ใช่.. เดือนกว่าแล้ว""ได้รับข่าวดีทำไมคุณถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ" ข่าวดีที่กวินได้รับคือภรรยาของเจ้าพิภพกำลังตั้งครรภ์อีกคน"เมื่อไรคุณจะใจอ่อนสักที""คุณก็รู้ว่าฉันอยากโฟกัสที่โรงแรมก่อน""ผมก็ช่วยงานคุณอยู่นี่ไง""เรากำลังมีโครงการจะขยายโรงแรม ฉันขอเวลาก่อนได้ไหมคะ""เห็นทีว่าเจ้าขาคงจะแซงผมไปอีกคน""อะไรกันคะ คุณอย่าบอกนะว่างอแงอยากมีลูก"ก๊อก ก๊อก"ใครคะ""ทับทิมเองค่ะ""ผู้จัดการมีอะไรคะ""ถ้างั้นผมออกไปก่อนนะ คุณคุยงานต่อเถอะ""ตอนเที่ยงทานข้าวด้วยกันนะคะ""ครับ" กวินปล่อยให้ม่านฟ้าคุยกับผู้จัดการไป แล้วเขาก็ลงมาดูงานที่ตัวเองรับผิดชอบ"ว่าไงครับเจ้าของโรงแรม""คุณเพธา..""ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับคุณกวิน""นัดลูกค้าคุยงานเหรอครับ""ไม่ได้นัดลูกค้าหรอกครับอยากมาคุยกับคุณม่านฟ้า""มีอะไรจะคุยกับเมียผมครับ""ทำไมเสียงเปลี่ยนไปล่ะครับ" พอได้ยินว่าจะคุยกับม่านฟ้าเท่านั้นแหละ น้ำเสียงกวินก็ดูแข็งกระด้างขึ้นมาทันที"คุยกับผมก็ได้นะ""ผมจะมาคุยเรื่องจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศ รวมถึงอยากจะจองห้องไว้ด้วย""ผมจัดการให้คุณได้"
"หนูจะออกไปไหนเหรอลูก" ลงมาข้างล่างก็เจอแม่..ส่วนคนอื่นคงแยกย้ายกันกลับห้องไปแล้ว"ออกไปข้างนอกค่ะ""ดึกป่านนี้จะออกไปไหนมันอันตราย" คนเป็นแม่ยังเสียขวัญเรื่องที่ลูกเกิดอุบัติเหตุไม่หายเลย"เจ้าขาเอ่อ..เจ้าขา..""จะไปไหน..""เจ้าขาหิวค่ะ""ถ้าหิวก็นั่งรอ เดี๋ยวแม่จะให้ป้าอุ่นอาหารให้"เจ้าขาหันกลับไปมองสามีที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพราะสงสัยวันนี้คงไม่ได้ออกไปแล้วชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบผมเธอเบาๆ เพื่อปลอบ "พรุ่งนี้เดี๋ยวผมซื้อเตรียมไว้" เขากระซิบพูดก่อนที่เจ้าขาจะพยักหน้าตอบแล้วเดินไปนั่งรอทานข้าวเช้าวันต่อมาที่มหาวิทยาลัย.."เจ้าขาอาจารย์มา" เพื่อนสะกิดบอกเจ้าขาที่ซื้อของจากร้านสะดวกซื้อเมื่อเช้านี้มาแอบทานในห้องเรียน พอได้ยินว่าอาจารย์มาเธอก็รีบเก็บอาจารย์ไตรสูรแอบมองไปเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงก๊อบแก๊บตอนที่เธอเก็บขนม"อาจารย์ครับมีคนแอบทานของในห้องเรียน""หยุดเลยนะไอ้กะลา!""กะลาไหนนั่นหนุ่ม" นกยูงหันมาบอกว่าเพื่อนเรียกผิดแล้ว"อาจารย์ต้องลงโทษอย่างหนักนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง""ใช่ค่ะ//ใช่ครับต้องลงโทษ" นักศึกษาหลายคนต่างก็ใช้สิทธิ์ใช้เสียงช่วยกัน"ได้เดี๋ยวลง
"เรื่องนี้เจ้าขาเป็นคนเริ่มก่อนค่ะ""เจ้าขา!" พริ้มพราวตำหนิลูกสาวไม่ให้พูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น"ก็มันจริงนี่คะ เขาไม่ได้บังคับ..เจ้าขาเต็มใจเอง""หึหึ" จากที่กำลังตึงเครียดอยู่พอเจ้าสมุทรขำน้องสาวเท่านั้นแหละทุกคนก็หันมาที่เขา "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทั้งสองก็รักกัน เรื่องที่คุณตาเป็นกังวลเราค่อยหารือกันอีกทีดีกว่าไหมครับ""ยังไงคืนนี้เราต้องกลับกับตาก่อน""ไม่ค่ะ""ตาไม่แยกเราสองคนหรอกน่า""จริงนะคะ""จริง""ผมต้องขอโทษเรื่องทุกอย่างที่เด็กทำไปโดยไม่ไตร่ตรองด้วยนะครับ" พ่อของไตรสูรเป็นห่วงความรู้สึกท่านเจ้าสัวมาก กลัวว่าท่านจะเห็นแก่หลานสาวถึงไม่เอาเรื่องลูกชายเจ้าสัวพิศาลรับคำขอโทษก่อนที่จะพาลูกหลานออกมา รวมถึงหลานเขยก็ตามออกมาด้วย[บ้านอัครพิศาล]นายทะเบียนแยกตัวกลับตั้งแต่ตอนอยู่บ้านท่านอธิการบดีแล้ว และก่อนกลับมาที่บ้านเจ้าสัวพิศาลได้พาหลานแวะหาคุณหมอก่อน เพราะอยากให้หมอแนะนำเด็กๆ เรื่องคุมกำเนิด ถึงแม้ท่านอยากจะอุ้มเหลนมากแต่ยังไงอนาคตของหลานสาวก็ต้องมาก่อน"เจ้าขาขอบคุณคุณตามากนะคะ" ลงจากรถเจ้าขาก็เข้าไปกอดคุณตาไว้แน่น"ไม่ว่าให้ตาอีกแล้วเหรอ""ใครจะกล้าว่าให้คุณตาล่ะคะ""ก็เรานี่ไง"
"คุณตา?" เห็นแค่รถที่วิ่งเข้ามาเจ้าขาก็รู้แล้วว่าเป็นรถของคุณตา..ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ช่วงหลังเลิกเรียน ตอนที่เจ้าขาตัดสินใจว่าจะไปกับเขา ไตรสูรก็พาเธอมาบ้านหลังหนึ่ง และก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าสัวพิศาลนั่งรอหลานสาวกลับบ้านเพื่อจะไปเซ็นใบหย่า"บ้านใครคะ?" เจ้าขาเห็นเขาขับรถเลี้ยวเข้ามา ที่เธอถามเพราะมันไม่ใช่บ้านหลังเล็กๆ เลย ถ้ามีบ้านหลังขนาดนี้อยู่ในเมืองหลวง นั่นหมายถึงฐานะไม่ธรรมดาแล้ว"ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะพากลับมาอยู่บ้านด้วยกัน""บ้านของคุณเหรอคะ?""ตามมาสิครับ" ชายหนุ่มเดินอ้อมไปเปิดประตูให้เธอลงจากรถ แล้วก็พาเข้ามาในบ้าน"........." เจ้าขามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกที ทำไมหน้าท่านถึงดูคุ้นๆ "...ใช่ท่านอธิการบดีไหมคะ?" ถึงแม้เธอจะไม่เคยเจอท่าน แต่ก็เห็นรูปของท่านที่แปะอยู่บอร์ดของมหาวิทยาลัย"ใช่ พ่อผมเอง""พะ..พ่อของอาจารย์เหรอคะ?""พ่อให้คนเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะ""สะ.. สวัสดีค่ะ" หญิงสาวพนมมือไหว้ท่าน เธอยังไม่ค่อยเชื่อสายตาเลย ..แล้วทำไมเขาถึงพูดเหมือนตัวเองต้อยต่ำนัก เขาเป็นถึงลูกชายของอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่เลยนะ"พาน้องเอาของไปเก็บบนห้องก่อนไป แล้วค่อยลงมาทานข้า
"ขอบใจเรามากนะไตรสูรที่ช่วยเรื่องนี้""...ครับ" ชายหนุ่มตอบรับคำของท่านแบบใจไม่ดี"เรื่องทุกอย่างมันก็จบแล้ว ต่อไปนี้คงไม่เกิดเรื่องแบบนั้นกับเจ้าขาอีก""คุณตาหมายความว่ายังไงคะ""ตาอยากให้เราโฟกัสที่การเรียนมากกว่า อย่างน้อยก็ควรจะได้ใบปริญญา" อนาคตข้างหน้าพิศาลไม่รู้ว่าหลานสาวจะไปพบเจออะไรบ้าง แต่ตอนที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ อยากทำให้หลานมีรากฐานที่ดี ยิ่งกับครอบครัวที่ทำธุรกิจแล้วการเรียนเป็นสิ่งสำคัญมาก"เจ้าขาจะตั้งใจเรียนค่ะ""ดีแล้วล่ะ ส่วนเรื่องของเราทั้งสอง.."ในเวลาต่อมาที่มหาวิทยาลัย.."เจ้าขา.." เพื่อนในห้องเห็นว่าเจ้าขามาเรียนได้แล้วต่างก็ดีใจเจ้าขาส่งยิ้มให้เพื่อนแบบเศร้าๆ จนมินนี่รู้สึกได้"มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"เธอส่ายหน้าตอบเพื่อน เรื่องนี้คงพูดกับใครไม่ได้"หน้าเธอสวยกว่าเดิมนะ" คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมาคุยด้วยเจ้าขายกมือขึ้นมาแตะดูใบหน้าตัวเองเล็กน้อย เพราะส่วนหนึ่งที่อยู่บนใบหน้าของเธอ มันได้มาจากร่างกายของเขา"เจ้าขาเธอร้องไห้เหรอ?" มินนี่เห็นน้ำตาเจ้าขาหยดลงมา ตอนที่นกยูงชมว่าสวยขึ้น จนเพื่อนหันไปมองหน้านกยูง"ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เมื่อกี้พวกเธอก็เห็นว่าฉันชม
เย็นวันนั้น.."ทานข้าวหน่อยนะครับ""แม่ไปไหน""มีผัวแล้วนะเรา ยังจะเรียกหาแม่อยู่อีก""ฉันทานเองได้ค่ะ""อ้าปาก""นี่คุณไตรสูร""ได้..จะเอาแบบนี้ใช่ไหม" ชายหนุ่มตักข้าวใส่ปากตามด้วยอาหารแล้วเคี้ยว"คุณจะทำอะไร?""อืม..อืม.." เขากำลังเคี้ยวอยู่ก็เลยพูดไม่ได้"คุณ!!" หญิงสาวรีบหันหน้าหลบเพราะอีกฝ่ายขยับริมฝีปากเข้ามาใกล้ และตอนนี้รู้แล้วว่าเขาทำอะไร "อืมมม! ฉันทานเองได้" จะขยับแรงก็ไม่ได้เพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงได้ยินเธอบอกว่าจะทานเองไอ้ที่เขาเคี้ยวอยู่เมื่อสักครู่ก็ถูกกลืนลงไปในคอ"พูดง่ายๆ แบบนี้หน่อย จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแรง" ช่วงนี้เธอทานอาหารได้หลายอย่างแล้ว แต่ยังทานรสชาติจัดๆ ไม่ได้หลังทานข้าวเสร็จไตรสูรก็เอายามาให้เธอทานตาม"ลืมไปเลย" เห็นยาที่เขาส่งมาให้เธอถึงนึกได้"ลืมอะไร""ฉันเพิ่งทานยาคุมไปได้แค่ไม่กี่เม็ดเอง""เรื่องนั้นช่างมันเถอะ" พอเธอได้รับอุบัติเหตุยาที่เหลือก็เลยไม่ได้ทานต่อ"จะช่างมันได้ยังไง""เดี๋ยววันหลังไปตามนัดคุณหมอค่อยคุยกับคุณหมอเรื่องนี้" เขาก็ลืมเหมือนกัน มัวเป็นห่วงเธอก็เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนั้นด้านนอกในเวลาต่อมา.."เดี๋ยวแม่ให้คนเข้าไปยกออกมา วันหล