"คุณกวินจะเข้าไปหาท่านเลยไหมครับ"
"ยังหรอกครับผมขอคิวหน่อย" "ขอคิวทำอะไรครับ" "จดทะเบียนสมรส" "?" คนที่ประจำการอยู่ตรงนั้นก็แปลกใจใครจะจดทะเบียน ผู้หญิงสองคนและลูกชายท่านปลัด "คุณมองอะไรครับ" "ผมมองหาเจ้าบ่าวครับ" เพราะเจ้าหน้าที่ต้องขอบัตรประชาชนทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชายมาแนบกับเอกสารที่จะยื่น "ก็ผมนี่ไง" "อะไรนะครับ?" ที่เจ้าหน้าที่ตกใจเพราะถ้าลูกชายท่านปลัดจะแต่งงานทั้งที มันคงไม่เงียบขนาดนี้หรอกมั้ง "ทำตามที่ผมพูดเถอะครับ" เขาไม่อยากอธิบายให้มันมากความ "ครับ" เจ้าหน้าที่ก็เลยขอบัตรประชาชนของทั้งสองแนบกับใบคำร้องเพื่อยื่นเข้าไปก่อน และคนทั้งสองก็ต้องไปนั่งรอคิว การจดทะเบียนสมรสในแต่ละวันไม่ค่อยมีคนมาจดมากนัก แต่ส่วนมากคนมาอำเภอก็จะมาทำธุระอย่างอื่นมากกว่า เพียงไม่นานก็ถึงคิวของเขา "เล่นอะไรอยู่" คนที่ทำหน้าที่เป็นนายทะเบียนวันนี้เห็นชื่อคำร้องขอจดทะเบียนสมรสเข้ามาก่อนหน้าที่เจ้าตัวจะมาแล้ว "เปล่าเล่นครับผมมาจดทะเบียนสมรส และผู้หญิงคนนี้ก็คือ.." สายตาคมนั้นปรายมองไปดูผู้หญิงที่นั่งลงข้างๆ เพื่อให้ท่านรู้ว่าเขาหมายถึงผู้หญิงคนไหน "พ่อขอคุยด้วยก่อน" "พ่อ?" ผู้หญิงทั้งสองพูดขึ้นแทบจะพร้อมกัน "ผมพูดจริงครับพ่อ และเธอก็คือลูกสะใภ้ของพ่อครับ" ปลัดพิชิตหยิบใบสำคัญในการจดทะเบียนสมรสออกมา แล้วก็วางลงตรงหน้าของทั้งสอง แต่สายตาท่านมองดูฝ่ายหญิงไม่กระพริบตาเลย "ผมต้องขอให้พ่อเซ็นเป็นพยานด้วยอีกคนนะครับ" พิชิตคิดว่าลูกชายคงคิดมาดีแล้วที่จะจดทะเบียนสมรสกับผู้หญิงคนนี้ หน้าตาของเธอก็ถือว่าเป็นคนสวยคนหนึ่ง แต่ที่ท่านสงสัยเพราะลูกชายไม่เคยพูดเรื่องนี้ให้ฟังเลย "แล้วเรื่องจัดงานแต่งล่ะ" ท่านเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายชายจะไม่ให้ถามเรื่องนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ "ไม่มีการจัดงานแต่งใดๆ ทั้งสิ้นค่ะ" ม่านฟ้าพอจะรู้แล้วว่ามันคืออะไร เขาเป็นผู้จัดการโรงงาน ก็ถือว่าตำแหน่งสูงและถ้าเขาจะมีพ่อเป็นท่านปลัดมันก็ไม่แปลก "เอาตามที่เธอว่าเลยครับ" "จะให้พ่อไปคุยกับผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงตอนไหน" กวินหันมองมาดูหน้าเธออีกครั้ง เพราะมันแล้วแต่การตัดสินใจของเธอเลย "ถ้าถึงเวลานั้นแล้วเราจะติดต่อมาค่ะ" เธอยังไม่รู้เลยว่าต่อไปมันจะเป็นยังไง หลังจดทะเบียนสมรสเสร็จ.. "ให้ผมตามไปโรงแรมได้ไหม" "คุณจะไปทำไม" "ม่าน" วันวิสาสะกิดเพื่อนไว้เพราะคำพูดไม่น่ารักเลย "คุณไม่ต้องไปหรอก แค่เอาเบอร์โทรให้ฉันถ้ามีธุระจะโทรไปหาเอง" กวินเอานามบัตรออกมาส่งให้และเขาก็ขอเบอร์โทรของเธอด้วย แต่ม่านฟ้าไม่ให้..เธอบอกว่ามีอะไรเดี๋ยวจะเป็นฝ่ายติดต่อไปหาเอง ชายหนุ่มยืนมองตามรถคันที่เพิ่งวิ่งออกจากอำเภอไป เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องราวชีวิตต่อไปของเขากับผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไง เพราะทั้งสองถือว่าเป็นสามีภรรยากันโดยถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ออกจากอำเภอม่านฟ้าก็กลับไปส่งวันวิสาที่ทำงาน ถ้าเธอรู้ว่าพ่อเขาเป็นปลัดอำเภอที่นั่นคงไม่ต้องลำบากเพื่อน "ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็โทรมาได้เสมอเลยนะ" "เธอนั่นแหละเมื่อไรจะไปทำงานกับฉัน" "ฉันยังพอทำงานที่นี่ได้" วันวิสาคิดว่าทำงานที่ไหนมันก็มีความกดดันแบบนี้ทุกที่อยู่แล้ว ส่งเพื่อนเสร็จ ม่านฟ้าก็กลับมาที่โรงแรม.. "คุณม่านคะลูกค้าโทรมาจองห้องอาหาร" "คืนนี้ห้องอาหารเราเต็มแล้วไม่ใช่เหรอ" "ใช่ค่ะ" "เดี๋ยวฉันจะโทรกลับหาลูกค้าเอง ต่อสายให้หน่อย" คุยกับลูกค้าอยู่พักหนึ่งม่านฟ้าก็วางสายไป "เปลี่ยนจากห้องอาหารเป็นริมสระว่ายน้ำนะ" ที่คุยกับลูกค้าเมื่อสักครู่เธอขอเปลี่ยนสถานที่และลูกค้าก็ยอม "ค่ะ" "โต๊ะสำรองคงพอใช่ไหม" "ไม่แน่ใจค่ะ วันนี้มีงานเลี้ยงทุกห้องเลย" "ถ้างั้นตามมาทางนี้" ม่านฟ้าเดินนำหน้าพนักงานไปดูห้องเก็บของ ว่าตอนนี้งานเลี้ยงเอาของออกไปใช้เยอะเท่าไรแล้ว พอเข้าไปในห้องเก็บของที่อยู่ชั้นล่างก็อดคิดถึงเรื่องในคืนนั้นไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงทำไมจะไม่มีความรู้สึกอะไร "พ่อได้ยินว่าท่านรัฐมนตรีกับคณะจะมาจัดเลี้ยงกันที่นี่เหรอ" เสียงนี้เอ่ยขึ้นด้านหลังทำให้เธอตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่ได้ "ท่านรัฐมนตรีเหรอคะ?" ขนาดเธอเป็นคนรับสายยังไม่รู้เลยว่าลูกค้าที่โทรมาจองคือคนของท่านรัฐมนตรี "เอ่อ..ใช่ท่านรัฐมนตรี..เมื่อกี้ท่านโทรมาหาพ่อ" พิทักษ์เริ่มพูดตะกุกตะกัก "ม่านไม่ยักรู้ว่าพ่อสนิทกับท่านรัฐมนตรีด้วย" "ลูกอย่าลืมสิว่าพ่อทำงานบริการมาทั้งชีวิต พ่อก็ต้องรู้จักคนใหญ่คนโตบ้าง" "หรือคะ" "แล้วของใช้พอไหม" "ม่านกำลังมาดูค่ะ แต่เท่าที่เห็นคิดว่าคงไม่พอ" "ไม่เป็นไรเดี๋ยวพ่อสั่งจากข้างนอกเข้ามาเสริมให้ หนูแค่แต่งตัวสวยๆ แล้วก็รอช่วยงานท่าน" "แต่มันไม่ใช่หน้าที่ของม่านนี่คะ" "เราเป็นเจ้าของโรงแรมอย่าลืมสิ" ม่านฟ้าไม่ได้พูดอะไรต่อ เพราะเธอพอจะเดาออกแล้ว ถึงแม้พ่อคิดจะทำอะไรมันก็คงไม่ทันแล้วล่ะ จนเวลาผ่านไปใกล้เริ่มงาน..ม่านฟ้าก็ออกมาดูสถานที่ พ่อคงจริงจังกับงานนี้มาก เพราะถ้าของใช้ในโรงแรมไม่พอท่านก็จะปฏิเสธงาน หรือไม่ก็แนะนำให้ไปใช้โรงแรมอื่น แต่ครั้งนี้งานออกมาเรียบร้อยและสวยงามมาก ไม่ได้การแล้ว ถ้าเธอไม่ทำอะไรสักอย่างต้องติดกับดักพ่อแน่ ..พอคิดได้แบบนั้นม่านฟ้าก็ล้วงเอานามบัตรที่ได้มาเมื่อตอนกลางวันออกมาจากกระเป๋า "สวัสดีค่ะมาร่วมงานเลี้ยงไหนคะ" อย่างที่รู้กันอยู่ว่าวันนี้งานเลี้ยงมีหลายงาน หญิงสาวที่กำลังจะโทรออกรีบเก็บโทรศัพท์ของตัวเองไว้ก่อน "สวัสดีครับ ตัวจริงคุณสวยกว่าในรูปอีกนะครับ" "คะ?" ทั้งสองยังไม่ได้พูดอะไรกันมากไปกว่านี้แขกคนอื่นก็เริ่มทยอยมา ม่านฟ้าหันไปรับแขกคนอื่นแต่พอหันกลับมาผู้ชายคนนั้นก็ไม่อยู่แล้ว ตกลงเขาเป็นใครกันแน่ "คุณม่านฟ้าคะ คุณพิทักษ์บอกให้ไปพบที่งานเลี้ยงริมสระว่ายน้ำหน่อยค่ะ" ม่านฟ้าที่กำลังคาสายอยู่พยักหน้าตอบพนักงานก่อนที่จะวางสายไป ถ้าจะถ่วงเวลาหน่อยก็กลัวว่ามันจะดูไม่ดี แต่ถ้าไปตอนนี้เขาจะมาทันไหม "ท่านบอกให้ไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ" พนักงานที่มาตามยืนรอเพราะมันคือคำสั่ง "ฉันรู้แล้ว"ยั่วรักสามีนิตินัย กวิน♡ม่านฟ้า ตอนพิเศษ"จริงเหรอคะ""ใช่.. เดือนกว่าแล้ว""ได้รับข่าวดีทำไมคุณถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ" ข่าวดีที่กวินได้รับคือภรรยาของเจ้าพิภพกำลังตั้งครรภ์อีกคน"เมื่อไรคุณจะใจอ่อนสักที""คุณก็รู้ว่าฉันอยากโฟกัสที่โรงแรมก่อน""ผมก็ช่วยงานคุณอยู่นี่ไง""เรากำลังมีโครงการจะขยายโรงแรม ฉันขอเวลาก่อนได้ไหมคะ""เห็นทีว่าเจ้าขาคงจะแซงผมไปอีกคน""อะไรกันคะ คุณอย่าบอกนะว่างอแงอยากมีลูก"ก๊อก ก๊อก"ใครคะ""ทับทิมเองค่ะ""ผู้จัดการมีอะไรคะ""ถ้างั้นผมออกไปก่อนนะ คุณคุยงานต่อเถอะ""ตอนเที่ยงทานข้าวด้วยกันนะคะ""ครับ" กวินปล่อยให้ม่านฟ้าคุยกับผู้จัดการไป แล้วเขาก็ลงมาดูงานที่ตัวเองรับผิดชอบ"ว่าไงครับเจ้าของโรงแรม""คุณเพธา..""ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับคุณกวิน""นัดลูกค้าคุยงานเหรอครับ""ไม่ได้นัดลูกค้าหรอกครับอยากมาคุยกับคุณม่านฟ้า""มีอะไรจะคุยกับเมียผมครับ""ทำไมเสียงเปลี่ยนไปล่ะครับ" พอได้ยินว่าจะคุยกับม่านฟ้าเท่านั้นแหละ น้ำเสียงกวินก็ดูแข็งกระด้างขึ้นมาทันที"คุยกับผมก็ได้นะ""ผมจะมาคุยเรื่องจัดงานเลี้ยงต้อนรับลูกค้าจากต่างประเทศ รวมถึงอยากจะจองห้องไว้ด้วย""ผมจัดการให้คุณได้"
"หนูจะออกไปไหนเหรอลูก" ลงมาข้างล่างก็เจอแม่..ส่วนคนอื่นคงแยกย้ายกันกลับห้องไปแล้ว"ออกไปข้างนอกค่ะ""ดึกป่านนี้จะออกไปไหนมันอันตราย" คนเป็นแม่ยังเสียขวัญเรื่องที่ลูกเกิดอุบัติเหตุไม่หายเลย"เจ้าขาเอ่อ..เจ้าขา..""จะไปไหน..""เจ้าขาหิวค่ะ""ถ้าหิวก็นั่งรอ เดี๋ยวแม่จะให้ป้าอุ่นอาหารให้"เจ้าขาหันกลับไปมองสามีที่ยืนอยู่ด้านหลัง เพราะสงสัยวันนี้คงไม่ได้ออกไปแล้วชายหนุ่มยิ้มให้ก่อนที่จะเอื้อมมือไปลูบผมเธอเบาๆ เพื่อปลอบ "พรุ่งนี้เดี๋ยวผมซื้อเตรียมไว้" เขากระซิบพูดก่อนที่เจ้าขาจะพยักหน้าตอบแล้วเดินไปนั่งรอทานข้าวเช้าวันต่อมาที่มหาวิทยาลัย.."เจ้าขาอาจารย์มา" เพื่อนสะกิดบอกเจ้าขาที่ซื้อของจากร้านสะดวกซื้อเมื่อเช้านี้มาแอบทานในห้องเรียน พอได้ยินว่าอาจารย์มาเธอก็รีบเก็บอาจารย์ไตรสูรแอบมองไปเล็กน้อย เพราะได้ยินเสียงก๊อบแก๊บตอนที่เธอเก็บขนม"อาจารย์ครับมีคนแอบทานของในห้องเรียน""หยุดเลยนะไอ้กะลา!""กะลาไหนนั่นหนุ่ม" นกยูงหันมาบอกว่าเพื่อนเรียกผิดแล้ว"อาจารย์ต้องลงโทษอย่างหนักนะครับ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง""ใช่ค่ะ//ใช่ครับต้องลงโทษ" นักศึกษาหลายคนต่างก็ใช้สิทธิ์ใช้เสียงช่วยกัน"ได้เดี๋ยวลง
"เรื่องนี้เจ้าขาเป็นคนเริ่มก่อนค่ะ""เจ้าขา!" พริ้มพราวตำหนิลูกสาวไม่ให้พูดแบบนั้นต่อหน้าคนอื่น"ก็มันจริงนี่คะ เขาไม่ได้บังคับ..เจ้าขาเต็มใจเอง""หึหึ" จากที่กำลังตึงเครียดอยู่พอเจ้าสมุทรขำน้องสาวเท่านั้นแหละทุกคนก็หันมาที่เขา "ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ทั้งสองก็รักกัน เรื่องที่คุณตาเป็นกังวลเราค่อยหารือกันอีกทีดีกว่าไหมครับ""ยังไงคืนนี้เราต้องกลับกับตาก่อน""ไม่ค่ะ""ตาไม่แยกเราสองคนหรอกน่า""จริงนะคะ""จริง""ผมต้องขอโทษเรื่องทุกอย่างที่เด็กทำไปโดยไม่ไตร่ตรองด้วยนะครับ" พ่อของไตรสูรเป็นห่วงความรู้สึกท่านเจ้าสัวมาก กลัวว่าท่านจะเห็นแก่หลานสาวถึงไม่เอาเรื่องลูกชายเจ้าสัวพิศาลรับคำขอโทษก่อนที่จะพาลูกหลานออกมา รวมถึงหลานเขยก็ตามออกมาด้วย[บ้านอัครพิศาล]นายทะเบียนแยกตัวกลับตั้งแต่ตอนอยู่บ้านท่านอธิการบดีแล้ว และก่อนกลับมาที่บ้านเจ้าสัวพิศาลได้พาหลานแวะหาคุณหมอก่อน เพราะอยากให้หมอแนะนำเด็กๆ เรื่องคุมกำเนิด ถึงแม้ท่านอยากจะอุ้มเหลนมากแต่ยังไงอนาคตของหลานสาวก็ต้องมาก่อน"เจ้าขาขอบคุณคุณตามากนะคะ" ลงจากรถเจ้าขาก็เข้าไปกอดคุณตาไว้แน่น"ไม่ว่าให้ตาอีกแล้วเหรอ""ใครจะกล้าว่าให้คุณตาล่ะคะ""ก็เรานี่ไง"
"คุณตา?" เห็นแค่รถที่วิ่งเข้ามาเจ้าขาก็รู้แล้วว่าเป็นรถของคุณตา..ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ช่วงหลังเลิกเรียน ตอนที่เจ้าขาตัดสินใจว่าจะไปกับเขา ไตรสูรก็พาเธอมาบ้านหลังหนึ่ง และก็เป็นเวลาเดียวกับที่เจ้าสัวพิศาลนั่งรอหลานสาวกลับบ้านเพื่อจะไปเซ็นใบหย่า"บ้านใครคะ?" เจ้าขาเห็นเขาขับรถเลี้ยวเข้ามา ที่เธอถามเพราะมันไม่ใช่บ้านหลังเล็กๆ เลย ถ้ามีบ้านหลังขนาดนี้อยู่ในเมืองหลวง นั่นหมายถึงฐานะไม่ธรรมดาแล้ว"ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะพากลับมาอยู่บ้านด้วยกัน""บ้านของคุณเหรอคะ?""ตามมาสิครับ" ชายหนุ่มเดินอ้อมไปเปิดประตูให้เธอลงจากรถ แล้วก็พาเข้ามาในบ้าน"........." เจ้าขามองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอีกที ทำไมหน้าท่านถึงดูคุ้นๆ "...ใช่ท่านอธิการบดีไหมคะ?" ถึงแม้เธอจะไม่เคยเจอท่าน แต่ก็เห็นรูปของท่านที่แปะอยู่บอร์ดของมหาวิทยาลัย"ใช่ พ่อผมเอง""พะ..พ่อของอาจารย์เหรอคะ?""พ่อให้คนเตรียมห้องไว้ให้แล้วนะ""สะ.. สวัสดีค่ะ" หญิงสาวพนมมือไหว้ท่าน เธอยังไม่ค่อยเชื่อสายตาเลย ..แล้วทำไมเขาถึงพูดเหมือนตัวเองต้อยต่ำนัก เขาเป็นถึงลูกชายของอธิการบดีมหาวิทยาลัยที่เธอเรียนอยู่เลยนะ"พาน้องเอาของไปเก็บบนห้องก่อนไป แล้วค่อยลงมาทานข้า
"ขอบใจเรามากนะไตรสูรที่ช่วยเรื่องนี้""...ครับ" ชายหนุ่มตอบรับคำของท่านแบบใจไม่ดี"เรื่องทุกอย่างมันก็จบแล้ว ต่อไปนี้คงไม่เกิดเรื่องแบบนั้นกับเจ้าขาอีก""คุณตาหมายความว่ายังไงคะ""ตาอยากให้เราโฟกัสที่การเรียนมากกว่า อย่างน้อยก็ควรจะได้ใบปริญญา" อนาคตข้างหน้าพิศาลไม่รู้ว่าหลานสาวจะไปพบเจออะไรบ้าง แต่ตอนที่ท่านยังมีลมหายใจอยู่ อยากทำให้หลานมีรากฐานที่ดี ยิ่งกับครอบครัวที่ทำธุรกิจแล้วการเรียนเป็นสิ่งสำคัญมาก"เจ้าขาจะตั้งใจเรียนค่ะ""ดีแล้วล่ะ ส่วนเรื่องของเราทั้งสอง.."ในเวลาต่อมาที่มหาวิทยาลัย.."เจ้าขา.." เพื่อนในห้องเห็นว่าเจ้าขามาเรียนได้แล้วต่างก็ดีใจเจ้าขาส่งยิ้มให้เพื่อนแบบเศร้าๆ จนมินนี่รู้สึกได้"มีเรื่องอะไรหรือเปล่า"เธอส่ายหน้าตอบเพื่อน เรื่องนี้คงพูดกับใครไม่ได้"หน้าเธอสวยกว่าเดิมนะ" คนที่นั่งอยู่ด้านหน้าหันมาคุยด้วยเจ้าขายกมือขึ้นมาแตะดูใบหน้าตัวเองเล็กน้อย เพราะส่วนหนึ่งที่อยู่บนใบหน้าของเธอ มันได้มาจากร่างกายของเขา"เจ้าขาเธอร้องไห้เหรอ?" มินนี่เห็นน้ำตาเจ้าขาหยดลงมา ตอนที่นกยูงชมว่าสวยขึ้น จนเพื่อนหันไปมองหน้านกยูง"ฉันยังไม่ได้ว่าอะไรเลย เมื่อกี้พวกเธอก็เห็นว่าฉันชม
เย็นวันนั้น.."ทานข้าวหน่อยนะครับ""แม่ไปไหน""มีผัวแล้วนะเรา ยังจะเรียกหาแม่อยู่อีก""ฉันทานเองได้ค่ะ""อ้าปาก""นี่คุณไตรสูร""ได้..จะเอาแบบนี้ใช่ไหม" ชายหนุ่มตักข้าวใส่ปากตามด้วยอาหารแล้วเคี้ยว"คุณจะทำอะไร?""อืม..อืม.." เขากำลังเคี้ยวอยู่ก็เลยพูดไม่ได้"คุณ!!" หญิงสาวรีบหันหน้าหลบเพราะอีกฝ่ายขยับริมฝีปากเข้ามาใกล้ และตอนนี้รู้แล้วว่าเขาทำอะไร "อืมมม! ฉันทานเองได้" จะขยับแรงก็ไม่ได้เพราะร่างกายยังไม่แข็งแรงได้ยินเธอบอกว่าจะทานเองไอ้ที่เขาเคี้ยวอยู่เมื่อสักครู่ก็ถูกกลืนลงไปในคอ"พูดง่ายๆ แบบนี้หน่อย จะได้ไม่ต้องเหนื่อยแรง" ช่วงนี้เธอทานอาหารได้หลายอย่างแล้ว แต่ยังทานรสชาติจัดๆ ไม่ได้หลังทานข้าวเสร็จไตรสูรก็เอายามาให้เธอทานตาม"ลืมไปเลย" เห็นยาที่เขาส่งมาให้เธอถึงนึกได้"ลืมอะไร""ฉันเพิ่งทานยาคุมไปได้แค่ไม่กี่เม็ดเอง""เรื่องนั้นช่างมันเถอะ" พอเธอได้รับอุบัติเหตุยาที่เหลือก็เลยไม่ได้ทานต่อ"จะช่างมันได้ยังไง""เดี๋ยววันหลังไปตามนัดคุณหมอค่อยคุยกับคุณหมอเรื่องนี้" เขาก็ลืมเหมือนกัน มัวเป็นห่วงเธอก็เลยไม่ได้นึกถึงเรื่องพวกนั้นด้านนอกในเวลาต่อมา.."เดี๋ยวแม่ให้คนเข้าไปยกออกมา วันหล